The Ugly Girl ฉันขี้เหร่หรือนายเท่เกิน...?
9.5
เขียนโดย Kreota
วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.01 น.
21 ตอน
9 วิจารณ์
26.11K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 14 เมษายน พ.ศ. 2561 02.49 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) เธอกับเขา...และรักของเรา
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ[17 :: เธอกับเขา...และรักของเรา]
วันรุ่งขึ้นฉันตื่นมาพร้อมกับขอบตาที่บวมเป่งเพราะถูกมิกกิซักฟอกจนไม่ได้หลับได้นอน #_# ฉันเลยต้องหาทางเอาตัวรอดด้วยการตอบไปตามความเป็นจริงโดยไม่ได้เล่าลงรายละเอียดว่ามิวทำร้ายฉันยังไงบ้าง แล้วก็ตัดตรงฉากที่มีเลิฟซีนนิดๆ ออก -///- แต่ถึงอย่างนั้นมิกกิก็ยังดิ้นพล่านๆ ด้วยความเขินจนเกือบตกเตียงไปหลายรอบ
หลังจากที่ฟังจบมิกกิคอนเฟิร์มกับฉันว่าพี่ปาร์เกต์กับฉันคบกันแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดีว่าที่จริงตอนนี้เราเริ่มคบกันรึยัง เพราะว่าพี่เขายังไม่ได้บอกรักฉันสักคำ แถมขอคบอย่างเป็นทางการก็ยังไม่เคยจะให้ฉันมโนไปฝ่ายเดียวก็คงจะไม่ถูก ถ้าเกิดไม่เป็นไปอย่างที่คิดล่ะก็...เงิบกินไปหลายชาติแน่ -_-
แทบจะไม่อยากเชื่อว่าเหตุการณ์ทั้งหมดมันจะเกิดขึ้นเพียงแค่คืนเดียว...ใช้ชีวิตคุ้มค่าเกินไปแล้วนะเนี่ย U.U แต่ถึงมันจะเป็นค่ำคืนที่แสนจะยาวนานคืนหนึ่ง อย่างน้อยๆ มันก็ไม่ได้มีแค่เรื่องร้ายๆ สักหน่อย เรื่องดีๆ ก็ยังมีอยู่นี่นา...แถมเรื่องดีๆ ที่ว่า เป็นเรื่องราวที่แสนวิเศษซะด้วย ^///^
“คิดมากจนนอนไม่หลับเลยหรอน้ำปิง” พี่ยศเดินเข้านั่งข้างๆ ฉันระหว่างที่นั่งรอมื้อเช้าที่ร้านอาหารของโรงแรม
“อ๋อ...ค่ะ” ฉันตอบด้วยรอยยิ้มแหยๆ ที่จริงฉันอยากบอกไปตรงๆ ว่าเพราะน้องพี่นั่นแหละ!!! แต่ก็ต้องเงียบไว้ ฉันยังไม่อยากเล่าให้ใครต่อใครฟังเยอะเกินไปเพราะฉันเองก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าเรื่องจะเป็นอย่างที่คิดรึเปล่า...
“แล้ว...เมื่อคืน เกี๊ยวเป็นยังไงบ้างคะ”
“ร้องไห้ตลอดเลย” พี่ยศบอกแล้วนิ่งไปสักพักก่อนจะพูด “ปิงกับปาร์ก...คบกันแล้วหรอ”
นั่นไง...เข้าประเด็นเร็วเกินไปนะคะพี่ยศ ตั้งตัวไม่ทัน -///-
“คือ...ปิงเองก็ยังไม่มั่นใจเหมือนกันค่ะ เพราะว่าพี่ปาร์กเองก็ไม่ได้บอกอะไรชัดเจน”
“แต่เท่าที่พี่ดูมันคงชอบปิงจริงๆ นั่นแหละ ส่วนเรื่องที่จะให้มันยอมบอกง่ายๆ ว่ามันคิดยังไงล่ะก็คงต้องรอสักพักเลยล่ะเพราะว่าปาร์กมันเป็นคนที่ใช้คำว่ารักประหยัดมาก”
“ใช้คำว่ารักประหยัด?”
“บอกรักคนอื่นยากไง มันไม่ค่อยยอมรับว่ารักง่ายๆ หรอก มันบอกว่าเอาไว้สำหรับตัวจริง”
“งั้น ปิงก็คงยังไม่ใช่อ่ะค่ะ เพราะพี่เขายังไม่พูดอะไรเลย =_=”
“ไม่ห่วงหรอกยังไงมันต้องบอกปิงสักวันแน่นอน”
“พี่คิดอย่างนั้นหรอกคะ”
“ใช่สิ...พี่...ดีใจด้วยนะ” พี่ยศยิ้มน้อยๆ มาให้ฉัน ถึงใบหน้าพี่ยศจะยิ้มแต่ฉันก็แอบสังเกตเห็นนัยน์ตาที่ดูเศร้าผิดปกติของพี่เขาฉายออกมา คราวนี้มันไม่ใช่เวลาแค่ครู่เหมือนครั้งที่ผ่านๆ มา แต่มันชัดเจนมากจนฉันรู้สึกแย่ตามไปด้วย
“พี่ยศ...พี่เป็นอะไรคะ ไม่สบายใจเรื่องอะไรรึเปล่า”
“ห๊ะ! อ๋อ เปล่านี่...ทำไมหรอ”
“ก็สายตาพี่ดู...แปลกๆ ไป”
“ไม่มีอะไรหรอก พี่แค่เป็นห่วงปิงน่ะ กลัวปิงจะคิดมากเรื่องหมี่เกี๊ยว”
“อ๋อ...ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ ปิงเริ่มทำใจได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ไปออกค่ายปิงก็รู้อยู่แล้วว่าต้องเกิดเรื่องอย่างเมื่อวานเข้าสักวัน แต่ก็ดีแล้วล่ะค่ะ ตัดขาดกันไปเลยดีกว่าต้องทนมองหน้ากันทั้งๆ ที่...เกลียด”
เปล่าเลย...ฉันไม่เคยโทษ หรือว่าเกลียดหมี่เกี๊ยวเลยที่ทำแบบนั้น ฉันกลับรู้สึกผิดและสงสารหมี่เกี๊ยวมากกว่าที่มีเพื่อนอย่างฉัน
“ปิงคิดได้แบบนั้นพี่ก็สบายใจ ^^” พี่ยศเอื้อมมือมาลูบผมฉันเบาๆ พร้อมกับยิ้มบางๆ มาให้
“อะแฮ่ม...ทำอะไร” อยู่ๆ ที่ปาร์เกต์ก็เข้ามานั่งข้างๆ ฉันตรงที่นั่งอีกที่หนึ่งที่เหลือแล้วหรี่ตามองพี่ยศกับฉันอย่างจับผิดด้วยท่าทางขี้เล่นๆ แบบที่พี่มาร์ชชอบทำบ่อยๆ ไปติดนิสัยพี่มาร์ชมาตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยพี่ปาร์เกต์ =_=
“อะไร?” พี่ยศขมวดคิ้วถาม
“ก็เมื่อกี๊แกทำแบบนี้ไม่ใช่หรอ” พี่ปาร์เกต์พูดพร้อมกับเอื้อมมือมาลูบผมฉันเหมือนอย่างที่พี่ยศทำเมื่อกี๊
“แล้วไง ทำไมฉันจะทำไม่ได้ ก็นี่มันน้องสาวฉัน” พี่ยศใช้มือคล้องแขนฉันเอาไว้แล้วดึงฉันเข้าไปใกล้ๆ ตัว ฉันเลยหลุดขำออกมานิดหน่อยกับความน่ารักแบบเด็กๆ ของพี่ยศ ทำอย่างกับกำลังแย่งของเล่นกันอยู่อย่างงั้นแหละ
“แต่นั่นมันแฟ...”
“น้ำปิง...”
ระหว่างที่พี่ปาร์เกต์กำลังจะดึงฉันกลับไปหาตัว มิวก็เดินเข้ามาที่โต๊ะอาหารทำให้ฉันกับพี่ปาร์เกต์เงียบลงอย่างอัตโนมัติ พี่ยศจึงเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน
“มีอะไรกับปิงหรอ”
“พี่ยศ พี่...พี่ปาร์เกต์ ผมขอคุยกับน้ำปิง!...”
“ไม่ได้!!” พี่ปาร์เกต์แทรกขึ้นมาทันทีก่อนที่มิวจะพูดได้จบประโยคด้วยซ้ำ และด้วยน้ำเสียงที่ดังมากของพี่ปาร์เกต์ทำให้คนอื่นๆ ในร้านหันมามองพวกเราเป็นตาเดียว
“ผมแค่อยากขอโทษ”
“กองไว้ตรงนั้นแหละ!” พี่ปาร์เกต์พูดแล้วพาฉันเดินออกมานอกร้านทันทีโดยมีพี่ยศเดินตามมาติดๆ
“เกิดอะไรขึ้นวะ”
“เรื่องคนชั่วๆ ฉันไม่อยากเล่าให้มันเสียปาก!”
ท่าทางฉุนเฉียวถึงขีดสุดของพี่ปาร์เกต์ทำให้ฉันลืมไปเลยว่ากลัวมิวมากขนาดไหน ที่ฉันกลัวที่สุดตอนนี้คือกลัวพี่เขาจะกลับไปกระทืบมิวซ้ำสองก่อนกลับ ถ้าเป็นอย่างนั้นเรื่องทั้งหมดต้องแดงออกมาแน่ๆ ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับฉัน
พี่ปาร์เกต์พาฉันเดินมาเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงบ้านพักของพี่เขาเอง สรุปคืออาหารเช้าของวันนี้เราสั่งเป็นรูมเซอร์วิสมากินกันโดยมีพี่มาร์ชที่อาการดีขึ้นมากมานั่งร่วมโต๊ะด้วย ฉันก็กำลังคิดว่ายัยมิกกิหายไปไหนตั้งแต่เช้า ที่แท้ก็ไปเฝ้าแฟนนี่เอง
“สรุปจะไม่บอกใช่ไหมว่าเป็นอะไรกัน” พี่ยศยังคงข้องใจเกี่ยวกับเรื่องที่มิวพูดในร้านอาหาร และพยายามคะยั้นคะยอให้พวกเราตอบให้ได้
ฉัน พี่ปาร์เกต์และมิกกิที่รู้เรื่องนี้ก็ได้แต่แอบมองตากันปริบๆ ว่าใครจะสามารถคิดเหตุผลที่ดีที่สุดมาตอบพี่ยศได้ แต่ก็ไม่มีใครตอบ ทำให้พี่มาร์ชที่เพิ่งจะออกมาจากหลังเขาก็มองพวกฉันอย่างงงๆ เช่นกัน
“เป็นอะไรกันไปเนี่ย ฉันไม่สบายแป๊บเดียวเป็นใบ้กันซะแล้ว?” พี่มาร์ชขมวดคิ้วมอง
“แกอยากป่วยใหม่ไหมมาร์ช -_+” พี่ปาร์เกต์มองพี่มาร์ชอย่างเอาเรื่อง
“โห...โหดว่ะ” พี่มาร์ชบ่นแล้วก้มลงกินข้าวต่อ “ตัดใจเหอะยศ ถ้าเกิดเขาคิดจะบอกเขาก็คงบอกไปแล้วแหละ พวกนี้ปากแข็งขนาดไหนแกไม่รู้หรอ”
“แต่...”
“พี่ยศคะ...ตอนนี้ปิงยังไม่พร้อมจะเล่าจริงๆ ค่ะ ถ้าเกิดวันไหนปิงพร้อม...ปิงจะเล่าให้ฟังด้วยตัวเองเลย” ฉันบอกออกมาในที่สุด ทำให้สีหน้าของพี่ยศดูดีขึ้น ฉันเชื่อว่าพี่ยศต้องยอมและจะไม่ถามอะไรอีก
“ถ้าเกิดปิงลำบากใจก็อย่าเพิ่งเล่าก็ได้...” พี่ยศยอมจำนนในที่สุด
“แหมๆ พี่ยศคะ ทีปิงบอกนี่เชื่องเชียวนะ เมื่อเช้ามิกกิปฏิเสธตั้งหลายรอบไม่เห็นจะฟังกันบ้างเลย” มิกกิเท้าคางมองพี่ชายตัวเองอย่างจับผิด
“อะไรเล่า ก็นึกว่าเป็นเรื่องแบบ...ไอ้มิวมาตามตื้อไม่เลิกอะไรทำนองนี้ต่างหากก็เลยถาม ถ้าพี่รู้ว่าเป็นเรื่องที่ปิงลำบากใจขนาดนี้พี่ก็จะไม่เซ้าซี้หรอก”
“หรอค๊าาา...งั้นก็ขอบคุณนะคะคุณพี่ที่เข้าใจความลำบากของผู้หญิง” มิกกิลากเสียงยาวๆ ล้อเลียนพี่ชาย
“คร้าบๆ คุณน้องสาว” พี่ยศพูดกระแนะกระแหนน้องสาวตัวเองแล้วกินข้าวต่อ แต่ฉันรู้สึกได้ว่าระหว่างที่กินข้าวกันอยู่พี่ยศมักจะแอบมองฉันตลอดเวลา สายตาของพี่เขายังคงต้องการคำตอบจากฉัน ถึงแม้จะบอกว่าไม่ต้องเล่าก็ได้แต่ฉันรู้ว่าพี่ยศก็ยังอยากรู้อยู่ดีว่าเกิดอะไรขึ้น
เรากลับมาถึงบ้านของมิกกิด้วยสภาพที่เหนื่อยเพลียกันทุกคน เพราะเราทั้งต่อรถ ลงเรือ ขึ้นเครื่องแล้วก็ยังมาต่อรถอีกทำให้สภาพแต่ละคนดูไม่จืดกันเลยทีเดียว
หนุ่มฮอตก็หนุ่มฮอตเถอะ เจอความฮอตของอากาศเมืองไทยและการจราจรที่แสนจะโล่ง โปร่ง สะดวก (?) เข้าไปก็หมดรูปเหมือนกันแหละน่า และยิ่งขี้เหร่ๆ อย่างฉันด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย Y.Y ยังดีที่พี่ปาร์เกต์โทรเรียกรถตู้จากห้างมารับเราที่สนามบิน ไม่งั้นล่ะก็คงต้องหารถกลับบ้านอีกต่อ พอดีแถวบ้านฉันมันไม่ได้มีรถแท็กซี่เยอะแยะย๊วเยี๊ยะเหมือนเมืองกรุงฯ น่ะ =_=;
“เอ๊ะ! นั่นใครน่ะ” พี่มาร์ชถามออกมาเป็นคนแรกเมื่อรถมาจอดที่หน้าบ้านมิกกิ
ฉันมองตามไป ก็เห็นผู้หญิงร่างบางท่าทางน่าทะนุถนอมยืนอยู่หน้าบ้านมิกกิ เธอยืนอยู่พร้อมกับกระเป๋าเดินทางสีเหลืองสะท้อนแสงใบใหญ่ เพราะลักษณะที่คุ้นตาทำให้ฉันต้องนิ่งมองเธออยู่นาน เมื่อทุกคนในรถเงียบกันไปพักหนึ่ง พี่มาร์ชก็เป็นคนเอ่ยชื่อผู้หญิงคนนั้นออกมาก่อนใคร
“พลอย!...”
พอพี่มาร์ชพูดจบ ฉันก็เพิ่งคิดได้ว่าผู้หญิงที่หน้าตาคุ้นๆ คนนั้นคือพลอย อดีตที่แสนจะเจ็บปวดของพี่ปาร์เกต์...และไม่รู้ว่าเพราะอะไรทำให้ฉันหันไปมองคนที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ พี่ปาร์เกต์กำลังมองไปที่พลอยไม่วางตา...ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าฉันกำลังมองพี่เขาอยู่และพี่เขาคงไม่รู้ตัวว่าแววตาของพี่เขากำลังเปลี่ยนไป
“ยัยนั่นมาที่นี่ทำไม!” มิกกิขบกราม กำหมัดแน่นระหว่างที่มองพลอย
อาจจะเป็นเพราะเราไม่มีใครยอมลงจากรถ ทำให้คนที่กำลังถูกจับตามองหันมาสนใจรถตู้ของเราบ้าง เธอกำลังพยายามเพ่งมองผ่านกระจกของรถตู้ที่ติดฟิล์มดำสนิททั้งคันเข้ามา
“ไปเถอะ” จู่ๆ พี่ปาร์เกต์ก็ตัดสินใจเปิดประตูออกไปพร้อมกับลากฉันออกไปด้วย
“พะ...พี่ปาร์ก” พลอยหันมามองพี่ปาร์เกต์อย่างโหยหาและอาลัยอาวอนแต่ก็หยุดสายตาที่ฉันซึ่งยืนอยู่ข้างๆ พี่ปาร์เกต์ พี่ปาร์เกต์ไม่ตอบอะไรเขาเพียงแค่กระชับมือให้จับมือฉันแน่นยิ่งขึ้นและเดินเข้าไปในบ้านที่มิกกิกดเปิดด้วยรีโมทไว้แล้ว
“ไม่คุยกับเขาหน่อยหรอคะ” ฉันถามขณะที่พี่ปาร์เกต์พาเดินจ้ำๆ เข้ามาในบ้านท่าเดียว
“ไม่มีอะไรต้องคุยนี่” พี่ปาร์เกต์พูดน้ำเสียงดูเด็ดขาดแต่มันก็แอบมีช่วงที่สั่นนิดๆ
“ผมวางของไว้ตรงนี้นะครับ” ลุงคนขับรถเดินตามเข้ามาในบ้านพร้อมกับกระเป๋าเดินทางของฉันกับพี่ปาร์เกต์
“ครับ ขอบคุณมากครับ” พี่ปาร์เกต์รับคำอย่างสุภาพก่อนที่ลุงคนนั้นจะขอตัวกลับไปที่ห้าง
เราสองคนกลับมาสู่ความเงียบอีกครั้ง...ทั้งที่มือยังจับกันอยู่ แต่ทำไมฉันรู้สึกเหมือนยืนอยู่คนเดียวแบบนี้นะ
“พี่ปาร์กคะ...”
“หือ?” พี่ปาร์เกต์สะดุ้งนิดๆ เหมือนกำลังคิดอะไรสักอย่างอยู่ “ว่าไง?”
“...” แต่ก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไร เสียงของผู้หญิงอีกคนก็ดังขึ้น
“พี่ปาร์ก!...เดินหนีพลอยแบบนี้เลยหรอคะ...อ๋อ! หรือว่าอยากจะทำเอาใจกิ๊กคนใหม่!” ประโยคสุดท้ายพลอยหันมาจิกตาใส่ฉัน
“ฉันไม่ได้หนีใครและน้ำปิงก็ไม่ใช่แค่กิ๊กของฉัน” พี่ปาร์เกต์บอกและกระชับมือที่จับฉันไว้ให้แน่นขึ้นอีก
“งั้นก็...คู่ควงคนใหม่ เฮ้อ...รสนิยมแย่ลงมากนะคะพี่ แล้วนี่...ได้กันเบื่อรึยังล่ะ”
*************************************************
หายไปแบบนี้ คิดถึงเราอ่ะเด้! คึๆๆๆ
มีเสียงลอยมาว่า "ใครคิดถึงแก๊!!!"
โว๊ะ!! เกลียดอีพลอยนี่จริงๆ (โอ๊ะโอ!...พูดจาไม่สุภาพ )
ไม่น่าสร้างมันมาเล๊ย ไรท์ไม่อยากแต่งตอนที่มันโผล่มาเลยอ่ะ!!
แต่ถ้าไม่มีอุปสรรคซะบ้าง ชีวิตมันจืดชืดเกินไป
แบบนั้นก็คงไม่ดีเน๊าะเอาใจช่วยน้ำปิงด้วยนะคะ
ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะผู้อ่านที่น่ารักของไรท์ ^O^
**************************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ