The Ugly Girl ฉันขี้เหร่หรือนายเท่เกิน...?
เขียนโดย Kreota
วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.01 น.
แก้ไขเมื่อ 14 เมษายน พ.ศ. 2561 02.49 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) การพบกันครั้งใหม่
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
[5 :: การพบกันครั้งใหม่]
เราเตรียมงานกันมา 1 เดือนเต็มๆ ในที่สุดก็ถึงเวลาออกเดินทางไปยังโรงเรียนเป้าหมายที่เราจะไปออกค่ายกันแล้ว ฉันไม่อยากจะเอ่ยว่าการเดินทางของเราเต็มไปด้วยดินลูกรังและหลุมอุกกาบาตน้องๆ ดวงจันทร์คอยต้อนรับเราตลอดทาง กว่าจะถึงฉันคงกลายร่างเป็นเป็นอีเพิ้งอีกครั้งแน่ ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมทุกครั้งที่ฉันจะเจอกับพวกพี่ยศต้องอยู่ในสภาพ ‘ยัยเพิ้งบ้านนอก’ ตลอดเลย =_=;
“เฮ้ย! น้ำปิง นี่ใช่แกรึเปล่า” หมี่เกี๊ยวสะกิดไหล่ฉันในตอนที่กำลังจะเคลิ้มหลับ โธ่! เพิ่งผ่านถนนลูกรังมาเป็นถนนลาดยางก็ของีบสักหน่อยไม่ได้รึไง #_#
“ไหน?” ฉันชะโงกหน้าไปดูจอมือถือในมือหมี่เกี๊ยวทั้งที่ในใจไม่ได้มีอารมณ์อยากจะดูเลย -_-; ฉันล่ะงงจริงๆ ว่าป่าดงดิบแถวนี้ 3G ถึงด้วยหรอ?
“เฮ้ย!!” ทั้งที่จริงๆ แล้วฉันกะจะดูไปแบบส่งๆ เพราะจะรีบกลับมานอน แต่มันกลับทำไม่ได้แล้วเพราะว่ารูปนั้นมัน!!!
“ทำไม...แกจริงๆ หรอน้ำปิง!”
ฉันเงยหน้าขึ้นมองสีหน้าตื่นๆ ของหมี่เกี๊ยวแล้วรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมาทันที ยัยนี่เป็นแฟนคลับตัวยงของพี่ปาร์เกต์นี่นา U_U; รูปที่หมี่เกี๊ยวให้ดูถึงแม้ว่ามันจะแค่เบลอๆ แต่ฉันจำได้แม่นว่าเป็นภาพตอนที่พี่ปาร์เกต์โอบไหล่ฉันแล้วประกาศว่าเราเป็นแฟนกันในงานเลี้ยงของพี่มาร์ช ถ้าเกิดยัยหมี่เกี๊ยวรู้ล่ะก็ชีวิตฉันหาไม่แน่ T^T
“แค่...แค่คนหน้าเหมือนเอง ไม่ใช่ฉันสักหน่อย -_-;;” ฉันตอบหน้าตาย ทั้งที่ในรูปมันคือฉันชัดๆ
“แต่มันเหมือนมากเลยนะ” หมี่เก็ยวพูดพร้อมกับยกจอมือถือขึ้นมาเทียบกับหน้าฉัน
“บอกว่าไม่ใช่ก็ไม่ใช่สิ ฉันเนี่ยนะจะไปอยู่ในงานแบบนั้น ไม่มีทางหรอก...แล้วนี่แกเอารูปมาจากไหนเนี่ย”
“มีคนโพสต์ไว้ในเฟสบุ๊กของคณะ เขาเขียนใต้ภาพว่าเป็นเด็กคณะเรากับพี่ปาร์เกต์”
“เฟสของคณะเลยหรอ! O_O!” อิ๊บอ๋ายล่ะ >_<!! แฟนคลับของพี่ปาร์เกต์ในคณะฉันมีน้อยซะที่ไหน! ใครกันนะที่มันมือบอนอัพรูปลงเฟส อย่าให้รู้เชียวแม่จะจับทำปลาร้าส่งซาอุซะให้เข็ด -_+! (ที่ซาอุเขากินปลาร้ากันไหม -_-?)
“ดีแล้วล่ะที่ไม่ใช่แก ถ้าเป็นแกจริงๆ ล่ะก็ต้องรีบหลบดีๆ เพราะว่าพี่ในคณะที่ปลื้มพี่ปาร์เกต์กำลังตามตัวคนในรูปอยู่ คิดแล้วสยองอ่ะถ้าเกิดพี่เขาเจอตัวเมื่อไหร่ฉันว่าศพไม่สวยแน่” หมี่เกี๊ยวทำท่าลูบต้นแขนตัวเองด้วยความสยดสยอง ทำเอาฉันที่แอบลอบกลืนน้ำลายลงคอถึงกับสยองไปด้วย เหมือนจะมีอีเว้นเข้ามาอีกงานแล้วล่ะน้ำปิงเอ้ย =_=;
เรานั่งรถมาสักพักใหญ่ก็ถึงที่หมายในช่วงใกล้เที่ยง ซึ่งหนุ่มๆ วิศวะจากกรุงเทพก็มาถึงก่อนหน้าเราแล้ว พวกเขาเลยเข้ามาขนของช่วยพวกเราอย่างขันแข็ง มีแต่คนหน้าใสๆ ทั้งนั้นเลย เห็นแบบนี้แล้วคิดถึงพี่ยศจังเลย >///<
“เอ้ารับ...เฮ้ย! น้ำปิงระวัง!!” อยู่ๆ หมี่เกี๊ยวซึ่งกำลังส่งของลงมาจากรถให้ฉันก็รีบร้องบอก แต่ไม่ทันที่ฉันจะตั้งตัวก็มีกล่องกระดาษกล่องหนึ่งหล่นลงมาจากรถ เฮ้ย! ไม่นะ ฉันยังไม่อยากคอหักตอนนี้ =[ ]=!!
เสี้ยววินาทีนั้นฉันรีบก้าวเท้าไปข้างหลังเพื่อหลบกล่องใบนั้นเหมือนภาพสโลโมชั่น แต่ขาข้างนั้นดันก้าวไปตกหลุมอุกกาบาตทำให้ฉันเซไปมาอย่างไร้จุดศูนย์ถ่วง
ขมิบก้นเตรียมพร้อมรับแรงกระแทกไว้เลยยัยน้ำปิง >[ ]<!!
หมับ!
ก้นที่ฉันขมิบรอการกระแทกของดินลูกรังลอยตัวอยู่เหนือพื้นเพราะมีพระเอกที่ไหนไม่รู้มาช่วยรับตัวฉันไว้
“พี่ยศ *O*” ฉันหันไปเรียกคนที่รับฉันไว้ อ๊ายยย นี่สิพระเอกตัวจริง >///<
“มันเหม่ออะไรอยู่น้ำปิง ระวังหน่อยสิ -*-” พี่ยศทำหน้าดุใส่ฉันพร้อมกับปล่อยร่างของฉันมห้เป็นอิสระ
“ขอบคุณค่ะพี่ยศ ต่อไปปิงจะระวัง (_ _;)”
“หวัดดีน้ำปิง เจอกันทีไรหัวฟูทุกทีเลยนะ ^_^” พี่มาร์ชเดินเข้ามายกกล่องเจ้ากรรมที่เกือบจะหล่นทับคอฉันไปถือไว้
“เห้อๆ สวัสดีค่ะพี่มาร์ช ^^” แต่ทำไมพี่ต้องทักปมด้วยกันด้วยล่ะคะพี่มาร์ช
“น้องคะ เหลือลังน้ำดื่มบนรถคันนั้นลังหนึ่งนะ ช่วยยกไปไว้ที่เต็นท์กองอำนวยการด้วยนะจ้ะ” รุ่นที่คนหนึ่งที่ยกของผ่านมาตะโกนบอก
“ค่ะพี่” ฉันรับคำ
“พี่ช่วยไหม” พี่ยศถามขณะที่ฉันกำลังจะเดินออกมา
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ยศ ปิงว่าพี่ช่วยขนคันนี้ดีกว่า มีแต่กล่องหนักๆ ทั้งนั้นเลย” ฉันบอกก่อนจะเดินแยกออกมา
ฉันเดินมาถึงรถกระบะคันนั้นก็เห็นลังน้ำดื่มที่ว่าวางอยู่ แต่สายตากลับเหลือบไปเห็นคนนอนหลับอยู่บนรถโดยสารที่ขนส่งนักศึกษาซึ่งจอดอยู่ข้างๆ กัน มานอนอะไรแถวนี้เนี่ย ยังหายใจอยู่ไหมน่ะ -_-;
ฉันค่อยๆเดินขึ้นไปบนรถโดยสารช้าๆ จนกระทั่งเข้าใกล้พอที่จะเห็นหน้าคนๆ นั้นได้ แต่พอเห็นหน้าชัดๆ เท่านั้นแหละฉันก็แทบจะสำลักน้ำลายตัวเองเพราะคนที่นอนบนรถคันนั้นคือพี่ปาร์เกต์!...คนอื่นเขาพากันขนของงกๆ ตัวเองทำไมมานอนสบายใจอยู่แบบนี้ล่ะ เห็นแก่ตัวชะมัด -*-!
“ไม่ยุ่งดีกว่า” ฉันพึมพำกับตัวเอง แล้วตัดสินใจเดินกลับลงมาจากรถเพราะมีรูปออกสื่อด้วยกันแบบนั้นฉันเลยไม่อยากยุ่งกับพี่ปาร์เกต์เท่าไหร่ แต่ด้วยความซุ่มซ่ามที่มากจนเว่อร์ทำให้ฉันสะดุดขายาวๆ ของพี่ปาร์เกต์เข้าอย่างจัง!!
“โอ้ย!! >.<!” ฉันเผลอร้องออกมาจนยกมือปิดปากแทบไม่ทัน ตายล่ะ! ถ้าเกิดเขาตื่นขึ้นมาจะทำไงดี >_<!
“ใครวะ!!”
นั่นไง...คิดยังไม่ทันไร U_U;
พี่ปาร์เกต์ตะโกนเสียงดังพร้อกกับเด้งตัวลุกขึ้นนั่งอย่างไม่สบอารมณ์ ขุดหลุมฝังตัวเองไว้กับดินลูกรังแถวนี้ทันไหมเนี่ย T^T
“ยัยขี้เหร่!! เจอเธออีกแล้วหรอเนี่ย?” พี่เขาขมวดคิ้วมองฉันอย่างเคืองๆ “แล้วไปนั่งทำอะไรตรงนั้น -*-”
“ล้มน่ะค่ะ” ฉันตอบแล้วรีบลุกขึ้นยืน “ทำไมพี่ไม่ไปทำงานช่วยคนอื่นเขาล่ะคะ เขาเริ่มทำงานกันแล้วนะ”
“ทำทำไม? ไม่เห็นหรอว่าฉันนอนอยู่” พี่ปาร์เกต์ทิ้งตัวลงนอนอย่างไม่สนใจใยดีต่อสรรพสิ่งใดในโลก หนอย!! ปล่อยให้คนอื่นทำงานแต่ตัวเองดันมานอนกินลมชมชนบทคนเดียวแบบนี้มันไม่น่าให้อภัยเอาซะเลย -_+!
“แต่คนอื่นเขาก็เหนื่อยเหมือนกันนะคะ มานอนกินแรงกันแบบนี้ได้ยังไง!”
“กินแรง?...เธอบอกว่าฉันกินแรงคนอื่นงั้นหรอ -_+?” พี่ปาร์เกต์ลุกขึ้นมานั่งอีกครั้ง
“ชะ...ใช่ค่ะ หัดเห็นใจคนอื่นบ้างสิคะ คนอื่นเขาทำงานกันงกๆ ตัวเองกลับมานอนอยู่แบบนี้ไม่เรียกว่ากินแรงแล้วจะเรียกว่าอะไร...”
“นี่!...” พี่ปาร์เกต์ลุกยืนพรวดขึ้นมามองหน้าฉันด้วยสายตาน่ากลัว ฉันเลยรีบเดินลงจากรถทันที แต่ก็ไม่ลืมที่จะยกลังน้ำดื่มจากรถคันข้างๆ มาด้วย
เกือบตายจริงๆ แล้วไหมล่ะ ทำไมฉันต้องไปยุ่งกับคนพรรค์นั้นด้วยนะ >_<!
ฉึบ!
อยู่ๆ ก็มีคนเข้ามาแย่งลังน้ำดื่มที่ฉันอยู่ไป ฉันหันไปมองผู้หวังดีเพื่อที่จะขอบคุณเขาสักหน่อยเพราะคงเป็นหนุ่มวิศวะเท่ๆ สักคนในค่ายมาช่วยยกแน่ๆ เลย >///<
-_-*
...ค่ะ นี่คือหน้าที่ฉันเห็น (_ _;;) พี่ปาร์เกต์ยกลังน้ำเดินจ้ำๆ ไปวางไว้ที่กองอำนวยการอย่างรู้งาน ด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับทั้งที่มีเสียงกรี๊ดกร๊าด วี๊ดว๊ายต้อนรับในทุกๆ ย่างก้าวที่พี่เขาเดินไป ส่วนฉันก็ค่อยๆ เดินตามไปห่างๆ ถ้าเกิดฉันเดินเข้าไปใกล้พี่ปาร์เกต์ในรัศมี 2 เมตรมีหวังตายสถานเดียว =_=;
“อ้าวปาร์ก ทำไมตื่นไวจังแกเพิ่งนอนเองไม่ใช่หรอ” พี่ยศทักทันทีที่เราเดินมาถึงกองอำนวยการ
“ถามยัยนี่สิ -_-” พี่ปาร์เกต์พยักพเยิดมาที่ฉันแล้วเดินแยกไปอีกทาง
“น้ำปิงไปทำอะไรมันรึเปล่า ทำไมมันหน้าหงิกมาขนาดนั้น”
“ปิงไม่ได้ทำอะไรนะคะ แค่ปลุกพี่ปาร์เกต์ให้มาช่วยงานเพื่อนเฉยๆ”
“เฮ้ย!” พี่ยศร้องเสียงดังจนผู้หญิง 2-3 คนที่นั่งจัดของอยู่ข้างๆ หันมามองพวกเราอย่างสนใจทั้งที่เมื่อกี๊ก็แอบฟังพวกเราคุยกันจนหูผึ่งอยู่แล้ว คราวนี้ยิ่งเพิ่มสีหน้าความอยากรู้อยากเห็นขึ้นเป็นทวีคูณ เรื่องแอบฟังชาวบ้านเนี่ยชะนีไทยไม่แพ้ชาติใดในโลกจริงๆ ฉันคอนเฟิร์ม U_U;
“ทำไมหรอคะ”
“ไอ้ปาร์กมันเพิ่งนอนตอนหกโมงเช้านี่เอง มันทำชั้นหนังสือกับโต๊ะเก้าอี้กับรุ่นน้องทั้งคืนเลย”
“ห๋า! จริงหรอคะ O_o!!”
“พี่เคยโกหกน้ำปิงไหมล่ะ =_=”
“พี่ยศ...งั้นปิงก็...ผิดเต็มๆ เลยสิคะ (_ _;;)”
ฉันก้มหน้ารับกรรมและแบกความรู้สึกผิดไว้คนเดียวตลอดทั้งวัน อยากจะไปขอโทษแต่คนนี้หาตัวยากเหลือเกิน ไม่รู้ไปหาที่นอนอยู่ซอกหลืบไหน ฉันจนปัญญาที่จะหาแล้ว -_-;;
“น้ำปิง >///<” อยู่ๆ หมี่เกี๊ยวก็วิ่งเข้ามาเกาะแขนฉันแล้วกระโดดดึ๋งๆ จนปังตอที่ฉันกำลังสับหมูอยู่แทบจะหล่นลงไปสับเข้ากลางหลังเท้าแทน -_-*
“มีอะไร หนุ่มวิศวะมาขอเบอร์รึไง =_=”
“ไม่ใช่ >///<”
“แล้วอะไรล่ะ -_-?”
“พะ...พี่ปาร์ก!! พี่ปาร์กนอนหลับอยู่หลังรถกระบะคณะเราแหละ >.<//”
“ห๊ะ! จริงอ่ะ O_O” ฉันหูผึ่งทันทีที่ได้ยิน ตามหาซะจนแทบจะพลิกตึกเรียนผุๆ หาอยู่แล้วยังไม่เจอ ที่แท้ก็มาแอบงีบอยู่ใต้จมูก (ที่มีดั้งอันน้อยนิด) ของฉันนี่เอง =_=;
“อ้าว! แล้วนั่นแกจะไปไหนน่ะ” เสียงของหมี่เกี๊ยวดังตามมาไกลๆ ฉันไม่รู้ว่าตัวเองเดินลิ่วๆ ออกมาจากห้องครัวตอนไหน แต่พอรู้ตัวอีกทีก็มายืนอยู่หน้าพี่ปาร์เกต์แล้ว
“น้ำปิง! แกจะทำอะไร ฉันได้ยินว่าพี่ปร์กไม่ชอบให้ใครรบกวนเวลานอนนะ >_<!” หมี่เกี๊ยวเข้ามากระซิบและพยายามจะลากฉันออกไป
ฉันรู้น่าหมี่เกี๊ยว...ฉันรู้ดีมากเลยล่ะ =_=
“เธอเป็นใคร! สนิทกับฉันนักหรอถึงเรียกฉันว่า ‘ปาร์ก’ น่ะ!!” พี่ปาร์กถามด้วยประโยคที่คุ้นเคย แล้วดันตัวลุกขึ้นนั่งด้วยสีหน้าเดียวกับที่ฉันเจอบนรถโดยสารเปี๊ยบ หมี่เกี๊ยวถึงกับเข้ามาหลบอยู่ข้างหลังฉันเลยทีเดียว นี่พี่จะรู้ไหมว่าสายตาของพี่ฆ่าคนได้เลยนะ =_=
“เอ่อ...เกี๊ยวของโทษค่ะ” หมี่เกี๊ยวตอบด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ แต่พี่ปาร์เกต์กลับหันมาถามฉันโดยไม่สนใจคำขอโทษของหมี่เกี๊ยวเลย
“มีอะไรอีกยัยขี้เหร่ -_-”
“เอ่อ...ฉันจะมาขอโทษน่ะค่ะที่ไปปลุก...”
“ไม่จำเป็น” พี่ปาร์เกต์พูดแทรกขึ้นมาทั้งที่ฉันยังพูดไม่จบประโยคดี ทำเอาใจฉันหายวาบไปเลยแล้วยิ่งพี่เขาล้มตัวลงนอนอย่างไม่สนใจด้วยแล้ว ฉันยิ่งรู้สึกแย่เข้าไปอีกพี่เขาคงโกรธฉันมากเลยสินะ Y.Y
“ไปเหอะ” หมี่เกี๊ยวกระซิบแล้วรีบเดินออกมา ฉันถอนหายใจออกมาช้าๆ แล้วเดินตามหมี่เกี๊ยวออกมา แต่ฉันรู้สึกเหมือนมีแรงดึงจากชายเสื้อฉันเลยหันควับไปมองคนข้างหลังทันที
“เธอซักเสื้อบ้างรึเปล่า -_-?” พี่ปาร์เกต์มองเสื้อแขนยาวตัวนอกที่ฉันใส่อยู่อย่างพินิจพิจารณา ดู๊ดู ดูคำถามสิ!
“ซักสิคะ เพิ่งจะเอามาใส่เมื่อเช้านี้เอง”
“งั้นยืมหน่อย จะเอามาบังแดด”
“ห๊ะ!! O_o” ฉันกับหมี่เกี๊ยว (ที่เดินย้อนกลับมา) ร้องออกมาพร้อมกัน จะบ้าหรอมาปล้นเสื้อผ้ากันกลางป่ากลางดงแบบนี้เลยเร๊อะ! >_<//
“มาห๊ะมาเห๊อะอะไร ถอดมา!” พี่ปาร์เกต์ดุงชายเสื้อฉันแรงๆ สองทีเป็นการเร่ง
“เอ่อ...เอาเสื้อเกี๊ยวไหมคะ” หมี่เกี๊ยวแกะเสื้อแขนยาวที่ใช้มัดเอวส่งให้พี่ปาร์เกต์ด้วยมือที่สั่นนิดๆ พี่ปาร์เกต์ปลายตามองเสื้อของหมี่เกี๊ยวแล้วกลับมาคะยั้นคะยอให้ฉันถอดต่อทำให้หมี่เกี๊ยวหน้าถอดสีเลย ทำไมใจร้ายแบบนี้นะคนเขาอุตส่าห์มีน้ำใจ -_-*
“จะถอดไม่ถอด -_-”
“เอ่อ...>.<”
“โธ่เอ้ย!! แค่นี้ก็ให้ไม่ได้ ขนาดนอนด้วยกะ!...”
พี่ปาร์เกต์มีโอกาสพูดได้แค่นี้แหละค่ะ เพราะว่าฉันรีบกระโจนเข้าไปปิดปากพี่เขาไว้ ฟู่~ เกือบไม่ทันซะแล้วยัยน้ำปิงเอ้ย! >_<;;
“เอ่อ...เมื่อกี๊? o_o!” หมี่เกี๊ยวขมวดคิ้วมองฉันกับพี่ปาร์เกต์อย่างไม่เข้าใจ เฮ้อ...อย่าพยายามเข้าใจเลยเพื่อน มันไม่ค่อยจะถูกจารีตประเพณีเท่าไหร่หรอก (_ _;;)
“...แหวะ! ยัยขี้เหร่เธอเอามือไปจับอะไรมาเนี่ย เลอะเต็มหน้าฉันหมดเลย!!” พี่ปาร์เกต์ผลักฉันออกเบาๆ ก่อนจะเอานิ้วป้ายคราบเลือดหมูที่ติดอยู่บนหน้าตัวเองออกมาดมทำจมูกฟุดฟิด -..-
“เอ่อ...พอดีฉันกำลังสับหมูอยู่น่ะค่ะ ^^;” ฉันยิ้มแหยๆ ใหเพี่ปาร์เกต์พร้อมกับชูมือที่มีแต่คราบเลือดขึ้นไปให้พี่ปาร์เกต์ดู ทำไมรู้สึกสะใจแปลกๆ นะเรา =..=
“เฮ้ย!! ยัยขี้เหร่! เธอ!!!” พี่ปาร์เกต์ลุกพรวดขึ้นยืนอย่างด่วน โธ่! นี่ฉันมาขอโทษหรือมาสร้างคดีเพิ่มเนี่ย >_<
“ขอโทษค่ะพี่! ขอโทษจริงๆ” ฉันรีบขอโทษขอโพยพี่ปาร์เกต์ยกใหญ่ แล้วถอดเสื้อแขนยาวตัวนอกออกมาเพื่อจะเช็ดหน้าที่เปื้อนเลือดออกให้ แต่พี่เขาก็ปัดมือฉันออกซะแรง หน้าเกือบคว่ำแน่ะ T^T
“ไม่ต้อง...เอามานี่” พี่ปาร์เกต์เอื้อมมือมาคว้าเสื้อแขนยาวของฉันไปถือไว้แล้วเดินแยกไป ฉันมองตามแผ่นหลังของพี่เขาไปจนกระทั่งลับสายตา
“เธอกับพี่ปาร์ก...ดูสนิทกันจังเลยเน๊อะ” หมี่เกี๊ยวพูดขึ้นมา ทำให้ฉันละสายตาจากดินฟ้าอากาศที่กำลังมองอยู่
“ก็...ไม่เท่าไหร่หรอก ถ้าสนิทกันจริงพี่เขาคงให้ฉันเรียกว่า ‘ปาร์ก’ แล้วล่ะ”
“แต่ถึงอย่างนั้นก็น่าอิจฉาอยู่ดีที่พี่เขาเลือกยืมของของเธอ”
“ฉันว่าโชคร้ายมากกว่าน่าอิจฉานะ =_=”
“งั้นหรอ...” หมี่เกี๊ยวส่งเสียงออกมาเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันพูด แววตาดูเศร้าสลด หดหู่จนเห็นได้ชัดก่อนจะเดินแยกออกไปอีกคน
“อ้าว เกี๊ยว!” ฉันร้องตาม แต่หมี่เกี๊ยวไม่หันกลับมาเลย -_-?
ทำไมเดินคอตกไปแบบนั้นล่ะเพื่อนฉัน =_=;; สงสัยจะช็อกกับปฏิกิริยาโต้กลับแรงๆ ของพี่ปาร์เกต์แน่ๆ ยัยนั่นยิ่งเป็นแฟนคลับของพี่ปาร์เกต์อยู่ด้วย เจอแบบนี้ก็คงยิ่ง sad เข้าไปใหญ่ที่ถูกคนที่ตัวเองชอบปฏิเสธแบบนั้น
เวลาของมื้อค่ำมาถึงพร้อมกับความหิวโหยของทุกคนในค่ายที่ช่วยกันทำงานอย่างขยันขันแข็งจนตะวันตกดิน ทุกคนต่างมารวมตัวกันที่โรงอาหารของโรงเรียนที่มีโต๊ะเล็กๆ เรียงกันเป็นแถวอย่างเป็นระเบียบ อาหารค่ำวันนี้อร่อยและมีสีสันยิ่งขึ้นเมื่อหนุ่มๆ วิศวะเล่นกีตาร์และร้องเพลงขับกล่อมให้ฟัง ^_^
แต่มันเริ่มเสียบรรยากาศก็ตรงที่มิวเข้ามาทักฉันนี่แหละ ฉันก็ลืมไปว่ามิวเรียนคณะนี้ด้วย
“น้ำปิงจะไปไหน ทักทายกันหน่อยไม่ได้เลยหรอ” มิวเดินตามฉันออกมาจากโรงอาหาร
“สวัสดี” ฉันหันไปกล่าวคำทักทายตามที่ร้องขอ
“หือ?...อะไร -_-”
“อ้าว ก็อยากให้ทักทายไม่ใช่หรอ ก็ทักทายแล้วนี่ไง” ฉันพูดกวนๆ ฉันรู้ว่ามันกวนอวัยวะที่ใช้ยืนมาก แต่ฉันไม่อยากจะพูดดีๆ กับมิวเลย เจอหน้ามิวทีไรภาพของยัยพะแพงก็ลอยเข้ามาทุกที -_-;
“มิว! โห...ไม่เจอกันตั้งนานหล่อขึ้นนะเนี่ย” หมี่เกี๊ยวเดินเข้ามาทักทายมิว
“หวัดดี เป็นไงบ้างเกี๊ยว สบายดีไหม”
“เราสบายดี ว่าแต่มิวเถอะ มีแฟนแบ้วก็ไม่บอกนะ ทั้งที่แฟนตัวเองก็น้องรหัสเราแท้ๆ”
“โทษทีนะที่ไม่ได้บอก แต่ตอนนี้...เลิกกันแล้วนะ” มิวพูดพร้อมกัยปลายตามามองฉัน ทำเป็นปลายตกปลายตามามอง มองหาสิวเสี้ยนอยู่รึไงยะ!
“อุ้ย! ขอโทษนะ เราไม่รู้ว่าเลิกกันแล้ว (_ _;;)”
“ไม่เป็นไร...แล้วนี่ แฟนปิงไปไหนล่ะเราไม่เจอพี่เขาเลย” ประโยคท้ายมิวหันมาถามฉัน ทำให้หมี่เกี๊ยวขมวดคิ้วมองฉันอย่างต้องการคำตอบทันที
“แฟนปิงนี่ใครหรอ?” หมี่เกี๊ยวถามมิว แต่สายตาของหมี่เกี๊ยวยังคงจ้องฉันอย่างไม่ละสายตา
ซวยละ!! ถ้ามิวพูดชื่อพี่ปาร์เกต์ออกมาล่ะก็หมี่เกี๊ยวเลิกคบฉันแน่ เพราะหลังจากเรื่องเสื้อแขนยาวเมื่อตอนกลางวันยัยเกี๊ยวยังไม่ยอมคุยกับฉันเกิน 3 คำเลย ถ้าชีวิตมันจะซวยได้น่าเกลียดขนาดนี้ล่ะก็ ปิดเทอมคราวนี้ฉันจะกลับไปกราบเท้าพ่อกับแม่ขอร้องให้เปลี่ยนชื่อจาก ‘น้ำปิง’ เป็น ‘ยัยซวย’ ซะเลย -_-!
“ก็พี่ปาร์เกต์ไง นี่เกี๊ยวไม่รู้หรอ” มิวถามหมี่เกี๊ยวอย่างใสซื่อ โถๆ พ่ออินโนเซ้นต์!! พูดออกมาได้ สงสัยฉันต้องเปลี่ยนชื่อเป็น ‘ยัยซวย’ จริงๆ แล้วล่ะ U_U;
“ว่าไงนะ!” หมี่เกี๊ยวถามเสียงเข้ม
เอาแล้วไง...-_-;;
“ก็แฟนปิงไง...”
“พอแล้วน่ามิว พูดมากจริงๆ เลย” ฉันหันไปว่ามิวที่กำลังจะชี้แจงแถลงไข ก่อนจะลากหมี่เกี๊ยวออกมาจากตรงนั้น จะบ้าตาย! ฉันเกลียดนายจริงๆ มิว >_<!
“เกี๊ยว แกอย่าไปฟังมิวนะ เรื่องนี้ฉันอธิบายได้...” ฉันพูดทันทีที่เราออกมายังที่ที่ปลอดคนแล้ว
“ไม่ฟังได้ยังไง!! ในเมื่อมันเกี่ยวกับเรื่องของพี่ปาร์ก...ฉันว่าแกก็น่าจะรู้ดีว่าฉันปลื้มพี่ปาร์กมานานแล้ว แต่พอมีโกกาสได้ใกล้ชิด มีโอกาสได้รู้จักตัวเป็นๆ แบบไม่ต้องฝันถึงกลับมารู้ความจริงว่าพี่เขาเป็นแฟนแกแบบนี้จะไม่ให้ฉันโกรธได้ยังไง!! แกเห็นฉันโง่นักรึไงห๊ะ!!!” หมี่เกี๊ยวตะโกนใส่หน้าฉันแล้วสะบัดแขนฉันออกแรงๆ จนแขนข้างซ้ายของฉันไปกระแทกเข้ากับผนังของตึกเรียน ทั้งที่หมี่เกี๊ยวก็เห็นว่าแขนฉันกระแทกแรงขนาดไหนแต่กลับมองฉันอย่างสมน้ำหน้าและสะใจ...มันเป็นแววตาที่ร้ายกาจเกินกว่าที่คนเป็น ‘เพื่อน’ จะมองกัน
...ไม่น่าเชื่อนะว่าคนที่คบกันมา 7 ปี จะต้องแตกคอกันเพียงเพราะผู้ชายคนเดียว!
*******************************************************
อัพอีก 1 ตอนจ้า
ปล :: คอมเม้นทุกคอมเม้นเป็นกำลังใจในการอัพนะจ้ะ อิอิ ^_^
********************************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ