ราชันบุปผาไหว้ศพ (ฉบับร่าง)
เขียนโดย snowred
วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 22.30 น.
แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558 17.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
53) บทที่ ๕๓: อดีต มิตรภาพ ความรัก องก์ที่ ๓
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ ๕๓
[บรรยายโดยผู้ประพันธ์]
อดีต มิตรภาพ ความรัก องก์ที่ ๓
“เป็นเช่นนี้นี่เอง” หลังจากที่ถามและได้คำบอกเล่าจากเด็กหญิงแล้ว กาสะลองก็คิดว่าไม่น่าถามเลย เพราะความเจ็บปวดที่เกินจะทานทนนั้นนางสัมผัสได้ในดวงตาที่ฉายความทุกข์ระทม ใสเพราะน้ำตาคลอ ดวงตาสีส้มนั้นราวกับพระอาทิตย์สดใสที่หม่นหมองเพราะเมฆฝน
กาสะลองเช็ดน้ำตาไป แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“อย่าร้องไห้เลย ต่อจากนี้เป็นต้นไปมิว่าอันใดจะเกิดขึ้น พี่จะอยู่เคียงข้างหนูนะ” มณฑารู้สึกว่าตนฝันไป ความอ่อนโยนที่แฝงความจริงใจนั้นไม่ใช่สิ่งที่นางเคยสัมผัส เด็กหญิงยิ้มแล้วหลับพลางซุกกับหน้าอกอบอุ่นด้วยความรู้สึกดีๆ
.
.
.
ต่อจากนั้นทั้งสองคนก็เริ่มทำความรู้จักและเล่นกัน กาสะลองรู้สึกเป็นห่วงมณฑาเพราะนางไว้ใจผู้อื่นง่ายเกินไป แต่อีกใจกาสะลองก็คิดว่าดีแล้วจะได้ไม่ต้องเกลี้ยกล่อมให้นาน ระหว่างนั้นก็มีบ่าวคนหนึ่งนำอาหารมาให้ ทั้งสองคนไม่รู้สึกจึงเล่นต่อไปอย่างมีความสุข บ่าวที่นำมาให้ก็ส่ายหน้าพลางยิ้ม พลอยมีความสุขไปด้วยที่คุณหนูกลับมายิ้มได้อีกครั้ง เพราะความโหดร้ายของครอบครัว
เมื่อถึงเวลาเรียน มณฑาก็ต้องจำใจต้องหยุดเล่น นางหันไปมองกาสะลองอย่างโหยหา อีกฝ่ายยิ้มให้เหมือนจะบอกว่าทนหน่อย ประเดี๋ยวก็จะได้เล่น เมื่อเป็นเช่นนั้นมณฑาจึงยอมไป สักพักนนทรีก็เข้ามาหากาสะลองก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบ “ท่านกาสะลอง น้องข้าได้ทำเรื่องมิดีฤๅไม่?”
“วางใจได้ แกเป็นเด็กดี” กาสะลองตอบ พลางคิดว่าถึงตายมณฑาจะทำเรื่องไม่ดีนางก็จะไม่ยอมบอกเด็ดขาด เพราะก่อนหน้านี้มณฑาได้ให้นางดูแผลตามตัวที่ถูกพี่สาวตนลงโทษนางก็เจ็บไปด้วย …เจ็บใจที่มาช้า เพื่อที่จะได้ปกป้อง
ข้าจะมิยอมให้ใครมาทำร้ายมณฑาเด็ดขาด
“หากน้องสาวข้าทำเรื่องมิดีบอกได้เลยนะเจ้าคะ” กล่าวจบนนทรีก็เดินไป ทิ้งให้หญิงสาวผมสั้นมองแผ่นหลังอันเย็นชาด้วยความเกลียดชัง
นนทรีนั่งอยู่ตรงโต๊ะข้างๆ นางฟังสิ่งที่คุณครูบอกพลางจดเนื้อหา ตาก็เหลือบมองมณฑาที่พยายามกลั้นยิ้ม
มีความสุขมากสินะ
เมื่อเรียนหมดชั่วโมงแล้วนนทรีก็ก้าวเท้าไปหามณฑาก่อนจะกระชากไหล่ให้หันมามอง ผู้เป็นน้องสาวเบิกตาตกตะลึงก่อนจะพยายามเอ่ยไม่ให้เสียงสั่นเพราะกลัว
“ม่ะ มีอันฤๅเจ้าคะ?”
“เจ้าไปแกล้งท่านกาสะลองฤๅไม่?”
“ไม่เจ้าค่ะ” นนทรีหรี่ตามองก่อนจะผลักมณฑาเบาๆ แล้วเดินจากไป
ใจจริงนนทรีไม่ได้สงสัยเรื่องนั้น แต่นางอิจฉาที่มณฑามีความสุขมากกว่าที่ได้อยู่กับกาสะลอง แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าตนเองทำไปขนาดนั้นการที่มณฑาจะไม่ชอบก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ชีวิตที่เคร่งครัดของครอบครัวตนเองทำให้นางทุกข์ไม่แพ้มณฑา ยิ่งเป็นพี่ก็ยิ่งต้องเป็นตัวอย่างให้แก่น้อง
…อยากเล่น อยากหัวเราะ อยากยิ้ม นั่นคือความปรารถนา
แต่นางทำไม่ได้ สิ่งที่จะทำแทนได้เพื่อให้ชื่นใจบ้างก็คือน้องสาวตนที่ยิ้มได้ หัวเราะได้
ทว่านั่นคือสิ่งที่แม่ของทั้งสองไม่ต้องการ นนทรีจึงจำต้องทำลายความสุขของตนโดยการทำร้ายมณฑา ไม่สนว่าน้องจะเกลียดไหม ร่างกายขาวผ่องบางสมวัยจะบอบช้ำหรือไม่นางก็ไม่สน
มณฑาต้องเป็นของข้า ของข้าเท่านั้น!!
ซอจำแลงร่างเป็นเด็กอีกครั้งก่อนจะไปหามณฑาที่ห้องโดยหวังว่าพี่สาวจะไม่มาด้วย เมื่อมองซ้ายแลขวาไม่เห็นใครก็เข้าไปในห้องด้วยใบหน้าสดใส
“?” ซอฉายความฉงนในแววตา เมื่อพบว่ามีหญิงสาวอยู่ในห้องด้วย นางทำท่าจะหนีไปแต่ก็ถูกมณฑารั้งไว้
“บัดเดี๋ยวก่อนซอ พี่สาวมิทำร้ายเราดอก มาเถิด” ซอกลับเข้ามาก่อนจะนั่งลงบนเตียง “ท่านผู้นี้คือใคร?” จริงๆ แล้วซอทราบดีว่าหญิงสาวผมสั้นคือใคร แต่หากทำเป็นรู้จักอีกฝ่ายอาจสงสัยได้จึงแกล้งทำเป็นไม่รู้ กาสะลองจ้องซอตาไม่กะพริบด้วยความคุ้นหน้า แต่สักพักก็เข้าใจ
ที่แท้ก็เป็นนายิกาแห่งภาคกลางประจำที่ชลบุรีนี่เอง
“ท่านคือนายิกาสินะเจ้าคะ” กาสะลองถาม หลังจากที่ทั้งสามคนเล่นเสร็จจนถึงกลางคืนมณฑาจึงหลับไปก่อน เหลือเพียงหญิงสาวสองคนที่อีกคนจำแลงร่างเด็ก ท่ามกลางความมือที่กลืนกินทุกสิ่ง ดอกไม้สีแดงโปรยปรายจากต้นราวกับเลือด ซอยิ้มบางๆ ก่อนจะตอบ
“ใช่”
“ท่านทำแบบนี้เพื่ออันใดกันเจ้าคะ?”
“ข้าเบื่อชีวิตที่วันๆ ต้องฝึกแต่ดนตรี เลยมาหาอะไรทำแก้เบื่อ” กาสะลองหลุบตาลงก่อนจะเอ่ยเบาๆ จนแทบไม่ได้ยินเสียง
“ท่านซอ… ท่านรู้ฤๅไม่ว่าทำแบบนี้จะยิ่งทำร้ายคุณหนู” ซอนิ่งไปพักหนึ่ง แล้วเอ่ย “ทำอันใด?”
“คุณหนูจมปรักแต่ความทุกข์มานานแล้ว พอใครมาให้ความสำคัญแกจะยิ่งไขว่ขว้า สุดท้าย… วันหนึ่งท่านทิ้งไปเพื่อที่จะทำหน้าที่ต่อคิดดูสิว่าคุณหนูจะรู้สึกอย่างไร” กาสะลองรู้สึกว่าปากตนเองสั่น ซอตะลึงกับคำตอบนั้น นางเบือนหน้าหนี
“ข้า… มิคิดมาก่อน”
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ท่านควรตัดไฟเสียแต่ต้นลมเพื่อมิให้เรื่องบานปลาย แม้ข้าจะอยู่ในฐานะพี่เลี้ยง แต่ข้าเคยสาบานกับตนแล้วว่าจะอยู่เคียงข้างคุณหนูตราบลมหายใจสิ้น”
เสียงแมลงแทรกความเงียบ ทั้งสองได้ยินแม้กระทั่งเสียงน้ำหยดจากที่ไหนสักแห่ง ซอพยักหน้าก่อนจะเอ่ย
“ข้าขอฝากด้วยล่ะ”
“เจ้าค่ะ”
ซอกลับมาถึงบ้านแล้ว แม่ของนางออกมามองก่อนจะกลับเข้าไป ซอรู้สึกว่าตนนั้นคล้ายกับมณฑา แม้จะไม่ได้ถูกทารุณแต่ความเยือกเย็นที่ผู้ให้กำเนิดมอบนั้นมันทรมานใจนางเหลือเกิน
“มานี่” แม่ของนางกล่าว ซอเข้าไปนั่งแล้วเงียบเพื่อรอฟังว่าแม่ตนจะเอ่ยอะไร
“เรื่องที่ข้าจะกล่าวต่อไปนี้มิได้อยากจะให้เจ้าเกลียดตระกูลวิไลผกามาศ แต่เพื่อย้ำให้เจ้าอย่าเข้าไปยุ่งอีกเป็นครั้งที่สาม”
“…”
“ครอบครัวของเด็กคนนั้นเคร่งครัดมาตลอด อาจเพราะด้วยมีเชื้อสายของตะวันตก แม่ของเด็กคนนั้นไม่ชอบการที่ชีวิตจะเถลไถลไปวันๆ …เหตุผลข้ามิเล่านะ พ่อของเขาเสียชีวิตไปไม่กี่ปีนี้เองทำให้แม่เขาต้องจริงจังกับการใช้ชีวิต นางจะโกรธมากหากลูกตนทำตัวไร้สาระจึงลงโทษเสียแต่เพื่อนที่ทำให้เป็นเช่นนั้นก็จะถูกไปด้วย… เพราะแบบนี้แหละข้าจึงมิอยากให้เจ้าเข้าไปยุ่ง ยังดีนะที่เจ้าเจอลูกคนโต หากเจอแม่อย่าหวังเลยว่าจะกลับมาพร้อมกับหัว”
“…” ซอหายใจไม่ค่อยออกกะทันหัน รู้สึกถึงความกดดันที่โหดร้ายในคำบอกเล่า แม่ของนางเงียบเหมือนจะรอฟังว่าลูกตนจะออกความเห็นอะไร
“เจ้าค่ะ ลูกจะมิไปอีก”
“ดี”
.
.
.
ต้องปลิดชีพให้ได้
ซอคิดในใจ นางมุ่งไปที่เรือนวิไลผกามาศอย่างว่องไว้พร้อมกับหนังสือกลอนและซอสามสาย แม้จะเป็นกลางคืน ความืดและความเงียบที่รายล้อมแต่นางก็ไม่กลัวเพราะยามที่นางทำภารกิจก็มักจะทำในเวลานี้
ที่นี่สินะ
ซอเชิดหน้าอย่างองอาจ ราวกับงูที่เชิดลำตัวเหมือนว่าจะฉกเหยื่อ นางค่อยๆ เหยียบกิ่งไม้ขึ้นไปแล้วเปิดหน้าต่างเบาๆ
ยังอยู่
พบแล้ว… แม่ของมณฑานอนอยู่ หญิงสาวแต่งกายตามสมัยสุโขทัยหัวเราะในลำคอก่อนจะเข้าไปอย่างระมัดระวัง นางปิดทุกสิ่งที่สามารถออกไปจากห้องได้เพื่อไม่ให้เสียงซอสามสายและกลอนเล็ดลอดให้ใครได้ยิน
เพราะหากได้ยินนอกจากจะมีใครทราบว่านางบุกรุกแล้วผู้ที่ได้ยินจะต้องตาย
ซอนั่งลงข้างเตียงก่อนจะเปิดหนังสือ นางฝึกมาก็เพื่อวันนี้
หากไม่มีแม่ของมณฑา มณฑาก็จะได้เป็นอิสระ แม้จะมีนนทรีก็ไม่ลำบาก
ซอเริ่มสีซอสามสายพลางขับร้องกลอนไปด้วย แรงกดดันวนเวียนในห้อง ความตายมาเยือน บรรยากาศในห้องหมุนวนเต็มไปด้วยความเศร้าโศกราวกับจะให้ผู้ได้ยินร้องไห้จนขาดใจตาย เสียงรื่นไพเราะแต่เต็มไปด้วยจิตสังหารนั้นแทบจะทำให้หายใจไม่ออก
แม่ของมณฑาขมวดคิ้วอย่างอึดอัด มือของนางปิดหู ไม่อยากได้ยิน แต่ไม่ว่าจะปิดสนิทเพียงใดเสียงนั้นก็ก้องในศีรษะ นางหลั่งน้ำตา อยากจะกรีดร้องก็ไม่กล้า ซอลอบยิ้มมุมปากก่อนจะบรรเลงต่อไป
“ฮะ--- ฮะ--- กะ กะ… กรี๊ด!!!” แม่ของมณฑาหวีดเสียงร้องโหยหวน นางหอบหายใจในขณะที่ร่างตกจากเตียงแล้วดิ้นทุรนทุราย แม้ซอจะไม่เห็นเพราะอีกฝ่ายอยู่อีกฝั่งของเตียงแต่นางก็รับรู้ได้ถึงความเจ็บปวด แทนที่จะสงสารแต่นางกลับสะใจกับความรู้สึกของอีกฝ่าย
จงลิ้มรสความเจ็บปวดที่เจ้าเคยกระทำเถิด หึๆๆ!!!
“เอ๊ะ?”
เสียงใสเอ่ยขึ้น ซอหยุดชะงักก่อนจะหันไปมอง พบร่างเล็กบางในชุดนอน เมื่อมองให้ชัดๆ ก็ทราบว่าเป็นมณฑา ซอรีบเก็บซอสามสายและหนังสือพลางคิดหาข้อแก้ตัว ในขณะนั้นเองมณฑาก็รีบตรงไปหาแม่ของตน เมื่อพบร่างหลั่งเลือดเป็นกองก็หวาดกลัวแล้วเผลอกรีดร้องออกมา
“กรี๊ด!!… ฮะ ฮะ ฮึก… ฮือๆ” มณฑาถอยหลังแล้วทำท่าจะหนีแต่ก็ถูกซอปิดปากไว้แล้วดึงเข้ามากอด นางโล่งใจที่ไม่มีใครได้ยิน หันซ้ายหันขวาก่อนจะเอ่ยเบาๆ
“อย่าร้องเลย”
“แม่… ท่านแม่ตายแล้ว ฮือๆๆ หนูกลัว หนูกลัว!!”
ซอร่ายอาคมเพื่อเก็บของที่นำมาก่อนจะลูบหลังมณฑาพลางอุ้มแล้วยืนขึ้นก่อนจะออกจากห้องไป
เช้า
“ศะ ศพ” บ่าวและคนอื่นๆ เข้ามาดู โดยที่มีคนจัดการศพนำออกไปแล้ว ทว่าเลือดยังคงส่งกลิ่นคาวน่าอาเจียนจนบางคนต้องออกจากห้องไป นนทรีที่มาทีหลังยืนนิ่ง ไม่ใช่เพราะเศร้าที่แม่ตนเสียไปแต่ดีใจจนทำอะไรไม่ถูก
ท่านแม่ตายแล้ว! ทีนี้เราจะได้มีชีวิตที่อิสระเสียที!
นางรู้ว่าการคิดแบบนี้มันอกตัญญู แต่ถ้าเทียบกับความทุกข์ที่ผ่านมามันเทียบไม่ได้เลย ชั่วหนึ่งที่นางลอบยิ้มก่อนจะทำสีหน้าเรียบเฉยเช่นเดิม นางบอกให้บ่าวมาเช็ดเลือดแล้วไปหามณฑา
“ฮือๆๆๆ…”
“หยุด ท่านแม่ตายไปแล้วเจ้าก็ควรจะทำตัวให้ดีขึ้น”
“หนู… ฮึกๆ” นนทรีถอนหายใจพลางคิดไปด้วย
เจ้าเด็กเขลาเอ๋ย ผู้ที่บงการชีวิตไปแล้วก็ควรจะดีใจสิ
“มิต้องพูดแล้วฟังข้าให้ดี ต่อจากนี้เป็นต้นไปข้าจะฝึกเจ้าเพื่อเตรียมตัวการเป็นนายิกา”
“นายิกา” มณฑามองนนทรีอย่างฉงน ผู้เป็นพี่มองกลับอย่างเย็นชาก่อนจะเอ่ย “มิต้องเอ่ยอันใด”
นนทรีวางแผนว่าจะให้น้องสาวตนเป็นนายิกา ตำแหน่งอันสูงศักดิ์ในมิตผกายสำหรับผู้หญิง หากได้เป็นก็เท่ากับว่าได้เป็นกษัตริย์
แค่เกือบ… แต่อย่างน้อยก็จะทำให้มีงานทำและผลตอบแทนนอกจากเงินทองแล้วยังได้ชื่อเสียงเรียงนาม นั่นคือความต้องการของนนทรี นางจะต้องทำให้มณฑาเป็นนายิกาให้ได้…
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ