ราชันบุปผาไหว้ศพ (ฉบับร่าง)
เขียนโดย snowred
วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 22.30 น.
แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558 17.47 น. โดย เจ้าของนิยาย
118) บทที่ ๑๑๗ : หฤทัยแห่งปักษา (แบบที่ ๑)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทพิเศษ
[๑]
[บรรยายโดยผู้ประพันธ์]
หฤทัยแห่งปักษา
(แบบที่ ๑)
มีเรื่องเล่าที่จะกล่าวว่าเป็นนิทานก็ไม่ใช่ ตำนานก็ไม่เชิง ของยักษ์กับเทวกินรีตนหนึ่งที่มีความรักซึ่งมิอาจเป็นไปได้ ฝ่ายยักษ์นั้นพยายามที่จะไม่อยู่ใกล้ แต่ฝ่ายกินรีพยายามที่จะเข้าหา …ไม่เคยพร่ำบอกรักหรือให้อีกฝ่ายสัมผัสผิวกายที่นุ่มนวลไม่ต่างจากขนของปีกที่มีสีขาวบริสุทธิ์ ยักษ์ตนนั้นต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่แตะต้อง เพราะไม่อยากให้กามารมณ์มาควบคุมจิตใจทั้ง ๆ ที่ตนนั้นยังไม่ยอมรับความรู้สึกที่มีต่อกินรีตนนี้ และไม่แน่ใจว่าตนเองรักอีกฝ่ายจริงหรือไม่ รวมทั้งเผ่าพันธุ์ของตนเองที่ทานเนื้อเป็นอาหาร …แม้กระทั่งมนุษย์และอมนุษย์
“ขอเพียงได้ใกล้ชิดในวิกาลนี้ ข้าจะมิตามเช่นนี้อีกต่อไป จะเพียงเฝ้าดูห่าง ๆ”
“ข้าเคยเตือนแล้วนะ ว่าข้าอาจกินเจ้าได้หากยับยั้งความปรารถนามิได้”
“ตายเพราะความรักคงจะดีกว่าการตายอย่างเดียวดาย ฉะนั้นแล้วข้าจะตามเจ้าต่อไป” กินรียังคงไม่ล้มเลิกความพยายาม ยักษ์ตนนั้นไม่สบอารมณ์ที่อีกฝ่ายยังคงเป็นเช่นนั้น หากจุดจบเป็นดังที่ตนเองกล่าวแล้วกินรีตนนั้นมากล่าวในคราหลังว่า ตนนั้นใจอำมหิตยักษ์ตนนี้ก็จะกลายเป็นผู้ผิด
หลังจากนั้นจู่ ๆ พื้นดินก็กลายเป็นบึงที่กว้างเกินขอบเขตสายตาราวกับเป็นมหาสมุทร และมีดอกบัวสีขาวผุดขึ้น กั้นทั้งสองไว้ ซึ่งทุกเหล่าล้วนหุบกลีบยังไม่แย้มบาน เป็นภาพที่ดูว้าเหว่ชอบกล กินรีมองยักษ์ตนนั้นเดินจากไปด้วยความรู้สึกท้อแท้ที่ค่อย ๆ ก่อเกิดขึ้นมา
“หากนี่คือรักแท้ ขอให้ดอกบัวเหล่านี้บานเพื่อให้ข้าข้ามไปหานางด้วยเถิด”
คำวิงวอนจากความรู้สึกอันแท้จริงนั้น ส่งผลดอกบัวยอมบานเพื่อให้นางเดินข้ามไป
…หนึ่งเหล่า… สองเหล่า… สี่เหล่า… ดอกบัวยังคงมีไม่สิ้นสุดในขณะเดียวกันน้ำก็เริ่มไหลเข้ามาทีละน้อย
เริ่มจะจมแล้ว… อย่านะ ขอเพียงให้ได้เจออีกครั้ง ข้าจะต้องส่งความรู้สึกอันแท้จริงไปให้นางให้ได้
อาจจะเป็นเหล่าที่ร้อยแล้วกระมังเมื่อกินรีตนนี้เดินมาถึง แต่ไม่ทันไรร่างของนางก็ร่วงหล่นลงพื้น
…ซูม…
เสียงน้ำดังขึ้น ผมสีน้ำสนิทปลิวลอยขึ้นก่อนที่จะค่อย ๆ ร่วงลงพร้อมกับร่างของนาง เมื่อผ่านม่านผิวน้ำมาความเย็นเชียบอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนก็เข้ามา ความมืดที่ยากจะหยั่งลึกของบึงนี้ทำให้นางหวาดกลัว …กลัวจะไม่ได้เจอกับยักษ์ตนนั้นอันเป็นที่รักยิ่งของตน ก่อนหน้านี้นางไม่อยากแสดงความรู้สึกออกมาตรง ๆ ด้วยความที่ขลาดของตน บัดนี้นางอยากย้อนเวลากลับไปอีกครั้ง
…บอกรักด้วยริมฝีปากสีชาดนี้
……มองอย่างลึกซึ้งด้วยดวงตาสีดำแววใสคู่นี้
………และสัมผัสผิวกายอย่างรักใคร่ ด้วยมือและอ้อมกอดที่มีแต่ความเดียวดายนี้
ข้ารักเจ้าเกินกว่าจะเอ่ยเป็นถ้อยคำ ไยความรู้สึกนี้ถึงยากจะพรรณนานะ
…อา นี่ข้าต้องไปแล้วจริง ๆ ใช่ไหม …สวรรค์ ท่านโกรธเกลียดข้าถึงเพียงนี้เชียวฤๅ? กระทั่งบอกรักก็ยังมิให้ข้าได้เอ่ยออกไป ได้โปรดเปิดทางให้ แล้วจะดึงข้าสู่หุบเหวแห่งความสิ้นหวังก็สุดแล้วแต่เถิด…
เหมือนสวรรค์ได้ยินคำอธิษฐาน เมื่อน้ำรอบตัวพลันหายเหลือเพียงความมืดมิด ร่างของนางหล่นลงอีกครั้งแต่โชคดีที่มีใครช่วยไว้ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบกับใบหน้าของผู้ที่ตนเองรัก กินรีแย้มริมฝีปากออกด้วยความดีใจ มือเรียวยกขึ้นลูบใบหน้านั้นด้วยความรักใคร่ แนบใบหน้าตนเองกับอกที่อุ่น ได้ยินเสียงหัวใจเต้นแรงทว่าต่อมากลับเต้นเป็นปรกติ จนกินรีมีสังหรณ์ไม่ดี
“เจ้า…”
ยังไม่ทันได้ถามอะไรโซ่เส้นหนึ่งก็เข้ามาพันธนาการก่อนที่ยักษ์จะปล่อยร่างไป กินรีแสดงสีหน้าเจ็บปวดเพราะร่างกระแทกพื้น แล้วมองยักษ์ตนนั้นด้วยความแปลกใจ อีกฝ่ายก็มองนางด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา ทว่ามีความสั่นไหวระริกอยู่ในดวงตาสีดำนั้น
ยักษ์ตนนั้นนั่งคุกเข่าข้างหนึ่ง ก่อนจะยกมือของอีกฝ่ายมาจุมพิต หัวใจของกินรีเต้นรัวเร็วเพราะความรู้สึกเขินอายที่ยักษ์อันเป็นที่รักของตนทำเช่นนั้น ทว่าดีใจได้ไม่นานเขี้ยวโค้งออกจากปากก็กดลงก่อนจะกระชากนิ้วออกไป เลือดสาดกระเซ็นจนเปื้อนเลือดทั้งสองฝ่าย บนใบหน้าที่เปรอะของกินรีก็แสดงสีหน้าเจ็บปวดและหวาดกลัว นางหวีดร้องเสียงดังด้วยความทรมาน พอความเจ็บปวดทุเลาลงยักษ์ก็ค่อย ๆ เขยิบหน้าเข้ามาใกล้ ก่อนจะบรรจงจุมพิตบนริมฝีปากอย่างอ่อนโยน มือข้างซ้ายยกขึ้นลูบเรือนผมสีดำอย่างทะนุถนอม ทว่ามือข้างขวากลับหักปีกของกินรีอย่างโหดเหี้ยม
อยากกรีดร้องใจแทบขาดกับความเจ็บปวดแสนสาหัสนี้ ทว่าความอ่อนโยนที่ต่างจากความโหดเหี้ยมนั้นทำให้นางยังคงรับจุมพิตต่อไป
แคว่ก!
ปีกถูกเด็ดออกพร้อม ๆ กับขนสีขาวบริสุทธิ์โลหิตที่หลุดร่วงปลิวว่อนอย่างนุ่มนวล กระนั้นก็ยังคงรับจุมพิตต่อไปด้วยความสิเน่หา น้ำตาไหลพรากแทนเสียงกรีดร้อง ยักษ์ตนนั้นค่อย ๆ ถอนจุมพิตออกก่อนจะปล่อยร่างกินรีที่นิ่ง ดวงตาสีดำที่เคยมีความรู้สึกบัดนี้ว่างเปล่าน่าใจหาย เช่นเดียวกับยักษ์ผู้โหดเหี้ยมตนนี้
ฉึก!
เล็บทั้งห้าที่งอกยาวนั้นทิ่มลงไปยังอก ก่อนที่มือจะล้วงลงไปเอาหัวใจออกมาทาน ลิ้มรสคาวเลือดด้วยความปรารถนา …น้ำตาไหลออกมาเพราะความรู้สึกลึก ๆ ภายใน
“อย่ารักข้า… ข้าเคยเตือนเจ้าแล้วว่าจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น”
“ข้ามิยอม …ข้ารักเจ้า รัก รักมาก และจะรักเช่นนี้ตลอดไป…” กินรีเอ่ยด้วยเรี่ยวแรงและความรู้สึกทั้งหมดที่มี
อา นี่น่ะฤๅหุบเหวแห่งความสิ้นหวัง แต่เป็นความสิ้นหวังที่น่ายินดีเหลือเกิน
ข้าได้เอ่ยไปแล้ว… ทีนี้ก็นอนได้อย่างสบายใจ
…ถึงเจ้าจะมิรับรักข้า แต่ข้าก็จะมอบดวงหฤทัยนี้แด่เจ้าเพียงผู้เดียว… ชั่วนิรันดร์
พั่บ
เสียงหน้ากระดาษหนังสือปิดดังขึ้นเบา ๆ ในห้องหนังสือที่เป็นเรือนไทย โดยเด็กสาวผมสีดำดุจขนนกกาซึ่งสยายบานออกราวกับจะปกคลุมดั่งท้องฟ้ายามรัตติกาล ประดับด้วยรัดเกล้าที่เป็นรูปปีกสองข้าง เช่นเดียวกับปิ่นปักผมที่เป็นรูปปีกข้างเดียว เธอสวมชุดนักเรียนมัธยมปลาย นัยน์สีดำในกรอบตาที่ปลายหางยกชี้สูงนั้น ฉายแววครุ่นคิดมองปกหนังฉลุลายไทย ก่อนจะเบนความสนใจไปมองท้องฟ้านอกหน้าต่าง
“อสุรา เมื่อใดหนอที่เจ้าจะรู้สึกโดยที่ข้ามิต้องเอื้อนเอ่ย”
--------------------------------------------------------------------
สวัสดีค่ะ ไม่ได้มาเสียนาน มีเรื่องจะชี้แจงค่ะ ตรงคำว่า แบบที่ ๑ ที่หนูพิมพ์นั้นเพื่อบอกว่าบทพิเศษ หฤทัยแห่งปักษา นี้จะมีอีกแบบหนึ่ง ซึ่งตอนแรกที่วางเนื้อเรื่องเป็นแบบบทนี้ แต่ไป ๆ มา ๆ หนูเปลี่ยนให้เป็นอีกแบบนี้ อย่างไรเสียก็ถือว่าบทนี้อ่านเล่นแล้วกันนะคะ
ขอบคุณค่ะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ