อุบัติรักเล่ห์มายา
เขียนโดย pangpangjay
วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 19.12 น.
แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2557 19.44 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) เหตุบังเอิญ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
บทที่ 1 เหตุบังเอิญ
ถึง กรัณฑา น้องรัก
นานแล้วที่พี่สาวคนนี้ไม่ได้เจอน้องรักเลยหรือแม้จะส่งเงินไปให้น้องอย่างที่ควรพี่ขอโทษจริง เพราะตอนนี้พี่แต่งงานแล้วพี่จึงต้องเก็บเงินไว้สำหรับลูกของพี่ที่กำลังจะเกิดมา แต่อย่าบอกแม่นะผึ้ง เดี๋ยวพี่จะพาลูกและสามีไปขอขมาท่านด้วยตัวเอง ว่าแต่เป็นอย่างไงบ้างน้องสาว แล้วลูกไก่ล่ะ?เป็นเด็กดีหรือเปล่า ถ้าซนพี่แนะนำให้ตีได้เลยนะ เราอาจสงสัยว่าทำไมพี่ถึงส่งจดหมายมาหาน้อง คงไม่ใช่แค่เรื่องที่พี่แต่งงาน.....ตอนนี้ใกล้จะปิดเทรอมแล้วซินะ พี่อยากขอร้องให้เรามาช่วยเป็นเลขาส่วนตัวให้หลานชายเจ้านายพี่ได้ไหม ก็ช่วงที่พี่ลาคลอดได้หรือเปล่า ถ้าได้ไปตามที่อยู่นี่นะแล้วนี่เบอร์โทร 084-53xxxxx
คิดถึงเสมอ
กรัณฑ์
ร่างบางในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวเรียบร้อยปลดกระดุมสองเม็ดเพื่อระบายความร้อนที่ขณะนี้ใกล้เที่ยงกว่าๆแล้ว กระโปรงยาวเท่าเข่ากับส้นสูง2นิ้วเสริมให้เรียวขาเล็กดูสวยยิ่งกว่า เก่า กรัณฑาหรือรวงผึ้งอ่านจดหมายในมืออีกครั้งพลางสายตาจะกวาดมองไปรอบบ้าน....หรือจะเรียกว่าคฤหาสน์ดีนะ
“เธอใช่กรัณฑาน้องสาวของกรัณฑ์หรือเปล่า?”หญิงสูงวัยเดินมาพร้อมกับแม่บ้านเทียนที่พยุงอยู่ใกล้ๆ
“ค่ะ สวัสดีค่ะท่านประธาน”กรัณฑาลุกขึ้นไหว้หญิงสูงวัยอย่างน้อบน้อม
“นั่งก่อนซิ”คุณหญิงธันยากล่าวกับคนที่อายุน้อยกว่าก่อนจะนั่งที่โซฟาตรงข้าม “รันคงบอกเธอแล้วว่าฉันต้องการให้เธอทำอะไร”
“ค่ะ พี่รันบอกว่าท่านต้องการให้ดิฉันมาดูแลประธานคนใหม่แทนพี่รันที่ลาคลอด”
“ท่าทางเธอจะเป็นคนเก่งนะ พี่เธอชอบเล่าให้ฟังบ่อยๆว่าเธอเก่งไปซะทุกอย่าง”รวงผึ้งยิ้มบางๆแต่ไม่รู้สึกเขินอะไรกับคำพูดนั้นเท่าไหร่
“พี่เขาก็ชอบยออย่างนี้เสมอค่ะ ดิฉันก็ไม่ได้เก่งอะไรมากมายก็แค่พอทำเป็นค่ะ เทียบกับท่านแล้วดิฉันดูด้อยไปเลยค่ะ ท่านเป็นหญิงเหล็กในทุกๆด้านทั้งเรื่องงานบริษัทที่ดูแลต่อจากสามีและเรื่องครอบครัวที่สมบูรณ์แบบ”คุณหญิงธันยายิ้มกับคำพูดฉลาดๆของคนตรงหน้า หญิงชรายอมรับกับตัวเองเลยว่าถูกชะตากับเธอคนนี้ ตั้งแต่พี่สาวของเธอเล่าเรื่องให้ฟังเธอก็อยากเจอตลอดพอพี่สาวเธอลาคลอดเธอจึงอยากที่จะเจอเธอคนนี้ เธอฉลาด สวย เก่งและอ่านใจยากมาก
“จริงหรือ? แต่ฉันนึกไม่ผิดจริงๆที่เรียกเธอมาดูแลหลานชายฉัน เขาเป็นคนที่ไม่เหมือนใครหรอกนะเธอต้องเข้าใจเขาหน่อย เขามีนิสัยอย่างกับเด็กเอาแต่ใจ ครูสาวอย่างเธอช่วยอบรมเขาให้เป็นคนทีนะ”คุณหญิงธันยากำลังพูดถึงอาชีพคุณครูของเธอที่เป็นอาชีพหลัก
“อันนี้ก็คงต้องแล้วแต่นักเรียนคนนี้นะค่ะว่าเขาจะยอมรับดิฉันหรือเปล่า”
“เขาอายุเท่าหนูน่ะ จัดการเขาได้เต็มที่ฉันอนุญาต”
“ดิฉันคงทำอะไรแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะเพราะเขาเป็นเจ้านาย”
“ถือว่าช่วยๆนะหนู ถ้าหนูเจอเขาหนูก็จะเข้าใจว่าทำไมฉันจึงพูดอย่างนี้”
“คุณหญิงค่ะ! คุณหญิงค่ะ!!เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ”
ก้อยวิ่งมาหน้าตาตื่นพลางชี้ไปที่บ้านใหญ่
“นังก้อย เอ็งไม่เห็นหรือไงว่าคุณหญิงกำลังคุยธุระอยู่”
แม่บ้านเทียนที่นั่งข้างล่างตรงโฟฟาเอ็ดก้อย
“เรื่องมารยาทช่างก่อนเถอะค่ะคุณแม่บ้านเทียน ตอนนี้บ้านกำลังลุกเป็นไฟแล้วค่ะ ก็คุณชายฝรั่งผลักคุณชายกรตกบันได ตอนนี้คุณชายใหญ่กำลังทะเลาะกับคุณชายฝรั่งบ้านจะแตกแล้วค่ะ”ก้อยพูดเร็วด้วยอย่างรีบร้อน
“แม่บ้านเทียนพาฉันไปที่บ้านใหญ่เร็ว หนูรวงผึ้งกลับไปก่อนนะวันนี้คงเป็นวันที่ไม่ดีเท่าไหร่ที่จะมาเจอกับเจ้าเลย์”
“ค่ะ”
แม่บ้านเทียนพยุงคุณหญิงธัญยาอย่างนุ่มนวลกลัวจะเป็นอันตราย ร่างบางมองหญิงชราจนลับสายไปก่อนที่จะหยิบจดหมายขึ้นมาอ่านรอบที่สิบได้ ผึ้งเริ่มจะใจไม่ดีแล้วซิพี่รันว่าเจ้านายใหม่ของพี่จะเป็นคนดีหรือเปล่า หรือเป็นแค่เด็กมีปัญหา
“ฮัลโหล ว่าไงนะ!!แน่ใจนะนนท์ว่าไม่ได้ยินผิดไป จ๊ะๆพี่จะไปจัดการกับยัยตัวแสบตอนนี้แหละ”
เมื่อเธอวางสายจากชานนท์เธอก็ตรงไปโบกแท็กซี่โชคดีที่แท็กซี่ผ่านมาพอดีเธอจึงขึ้นไปแล้วบอกคนขับให้ขับไปตามที่ที่จะไป มือบางกดโทรหา ‘ยัยตัวแสบ’เป็นสิบครั้งแต่ก็ไม่มีวีแววว่า ‘ยัยตัวแสบ’จะรับโทรศัพท์เลย
“อย่าให้ฉันเจอเธอนะ ยัยตัวแสบ!”
ภายในผับ
คนที่กำลังเหงาหรือเบื่อก็มักที่จะมาที่แห่งนี้ ไม่เว้นแม้แต่เขา เอเลน แซมซันหรือเลย์ เจ้าของดวงตาน้ำทะเลตามแบบฉบับชาวอังกฤษจากผู้เป็นแม่ เขาเป็นลูกเสี้ยวไทย-อังกฤษ ที่มาอยู่เมืองไทยไม่ถึงเดือนด้วยธุระของแม่ที่ฝากไว้ก่อนตายว่าให้มาดูแลพ่อให้ดีที่สุด...จากพวกที่ทำร้าย เขาอดคิดไม่ได้ว่าแม่ยังพ่ออยู่ทั้งๆที่ผู้ชายคนนั้นทิ้งเขาและแม่ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่เมืองไทยตั้งแต่เกิดแต่เขาก็สามารถที่จะพูดภาษาไทยได้เพราะก่อนมาอยู่ที่เมืองไทยเขาเคยเรียนกับครูสอนภาษาไทยมาบ้าง
เขากระดอกแอลกอฮอล์รวดเดียวจบอย่างเบื่อหลังจากเกิดเหตุการณ์ที่เกิดตอนเที่ยง เขาทะเลาะกับพ่ออย่างหนักเลยทั้งที่ตั้งแต่เขามาเมืองไทยพ่อเขาก็ดีกับเขาเสมอ เขายังบอกด้วยว่าจะให้ทุกสิ่งทุกอย่างกับเขาในฐานะลูกคนโต แต่เมื่อตอนเที่ยงเขาพยายามบอกพ่อไปหลายรอบว่าเขาไม่ได้ทำ ไอ้เจ้านั่นมันล้มไปเองแต่พ่อก็ไม่เชื่อบอกว่าเขาโกหก เจ้านั่นที่เขากำลังคิดนั้นเขาคือคิรากรเป็นน้องคนละแม่ของเขา คงเพราะเขาร่างกายไม่แข็งแรงและเดินไม่ได้พ่อจึงให้ความสำคัญกับเขามากกว่า
“คุณเลย์ คุณดื่มมากไปแล้วนะครับ”
เตโชดมหัวหน้าบอดี้การ์ดพูดด้วยความเป็นห่วงแม้ว่าจะไม่ค่อยสนิทกับเขามากเท่าไหร่แต่เขาก็อดเป็นห่วงเป็นใยไม่ได้ ก็มันเป็นนิสัยจนเลิกยากของเขาไปแล้วมันช่างต่างจากบุคลิกห้าวๆกับกล้ามเนื้ออย่างสมบูรณ์แบบตามแบบฉบับคนชอบดูแลตัวเอง
“ยุ่งน่าเต มาผับทั้งทีก็ต้องมาสนุกสุดเหวี่ยงตามแบบฉบับคนโสดซิว่ะ นายก็น่าจะทำแบบฉันนะ ไม่ต้องเกรงใจหรอกนะเต ฉันเห็นสาวๆโต๊ะนั้นนะว่ากำลังมองนายตาเป็นมัน”
หนุ่มตาน้ำข้าวหันไปส่งยิ้มหวานให้สาวๆโต๊ะข้างหลังไม่ห่างจากเขามากนักกำลังมองทั้งเขาและเตโชดม สาวนางหนึ่งยกแก้วสวยที่มีแอลกอฮอล์สีสวยขึ้นก่อนจะค่อยๆดื่มพลางจิกสายตาราวพญาอินทรีย์ให้หนุ่มตาน้ำข้าวอย่างยั่วยวน ร่างสูงมองสาวเจ้าพลางลูบหนวดยาวปกหน้าเรียวพลางยิ้มหวานให้
“มันยังอยู่เวลางานของผมอยู่ครับคุณชาย ผมว่าคุณรีบกลับบ้านไปเคลียกับคุณชายใหญ่ดีกว่าไหมครับ”เลย์เสยผมยาวประมาณไหล่อย่างอารมณ์เสียเมื่อพูดถึงคุณชายใหญ่หรือเขาก็คือพ่อแท้ๆของเขา
“ฉันยังไม่อยากกลับไปเจอเขา ถ้านายอยากกลับไปเจอเมียที่บ้านก็กลับไปก่อนเลย ฉันไม่ฟ้องเขาหรอก”
“ผมยังไม่มีเมียครับ ผมว่าคุณควร....”
“ฉันจะไปจีบสาวต่อ”เขาแทรกขึ้นมาแล้วดึงสาวเจ้าที่ยั่วเมื่อครู่โอบเอวซึ่งสาวเจ้าก็ไม่เถียงอะไรแต่ยอมโดยดีก่อนจะกระพริบตาหนึ่งทีให้กับเตโชดมอย่างยั่วยวน ซึ่งสาวเจ้าได้หมายตาเตโซดมไว้ก่อนแล้วแต่ถ้าเขาไม่เล่นด้วยก็ไม่เป็นอะไรเพราะหล่อนมีหนุ่มตาน้ำข้าวแล้ว
ขณะที่เลย์พาสาวเจ้าเดินผ่านประตูทางเข้านั้น ร่างบางในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวกับกระโปรงยาวเท่าเข่าเดินเข้ามาพอดี ดวงตากลมโตของกรัณฑาสอดส่องมาซ้ายขวาหา ‘ยัยตัวดี’ จึงไม่ทันเห็นคนสองคนที่โอบไหล่จะเดินไป ‘ทำกันต่อ’ในห้องน้ำ ในช่วงนั้นเองที่เลย์ก้มลงไปผูกเชือกรองเท้าแล้วลุกขึ้นทำให้ผมยาวสวยที่ปล่อยประมาณไหล่เกี่ยวเข้ากับกระดุมเม็ดที่ห้าของรวงผึ้ง
“คะ...คุณจะทำอะไรน่ะ!!”
“ผมของผมไปเกี่ยวเข้ากับกระดุมของคุณนี่ อย่าเพิ่งขยับซิครับคุณ ผมของผมจะหลุดแล้ว”
เขาปราบเพราะร่างบางได้แต่ถอยหลังตลอดเวลาทำให้เขาที่อยู่ในท่าคลุกเข่าเพราะเขาสูงกว่าเธอมากต้องคลานตาม
“จะไม่ให้ฉันเดินหนีได้อย่างไงล่ะค่ะคุณ ในเมื่อ...!!”
รวงผึ้งเลือกที่จะเงียบเพราะจะพูดออกไปได้อย่างไงล่ะว่าใบหน้าของเขาชนหน้าอกใหญ่ๆของเธอ
“ดาร์ริ้งเป็นอะไรค่ะ”
สาวนางที่เดินโอบไหล่เขามาถามด้วยเป็นห่วงก่อนจะหันมาพูดกับรวงผึ้ง
“นี่หล่อน!!เดินอย่างไงให้กระดุมราคาต่ำของหล่อนมาเกี่ยวผมดาร์ริ้งของฉัน”
รวงผึ้งหันขวับแม้จะอยู่ในที่ๆสรัวๆไม่ค่อยมีแสงเท่าไหร่แต่รวงผึ้งก็พอเห็นใบหน้าของสาวเจ้าว่ากำลังไม่พอใจอย่างมากที่กระดุมของเธอไหมล่ะ เขาต่างหากที่ผิด!!
“คุณพูดผิดหรือเปล่าค่ะ ฉันว่าคุณควรที่จะพูดว่าขอโทษนะค่ะหรือมีอะไรให้ช่วยไหมค่ะมากกว่านะ สงสัยคุณอาจจะลืมเรื่องมารยาทไปนิดนึงนะค่ะ”
ร่างบางยิ้มพิมพ์ใจให้สาวเจ้าที่ทำหน้าบึงตึง ร่างสูงที่พยายามจะแกะผมออกจากกระดุมก็มีสีหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก
“ดาร์ริ้ง!!เขาว่าฮันนี่”
“พอเถอะฮันนี่อย่ามีเรื่อง พวกคุณหรือใครก็ได้ครับมาช่วยผมดีกว่าไหม”
ร่างบางมองหน้าสาวเจ้าที่เรียกตัวเองว่าฮันนี่เพื่อว่าเธอจะได้มาแกะผมออกจากกระดุม แต่สาวเจ้าทำหน้าบึ้งตึงมากกว่าเก่าเพราะเมื่อครู่เขาเพิ่งดุไป รวงผึ้งที่เห็นว่าคนกำลังมองมากและต้องตามหายัยตัวแสบจึงพาเขามาหลบที่โซฟาตัวใหญ่แล้วเขานั่งส่วนเธอยืน
“มาเดี๋ยวฉันช่วย ฉันว่าสงสัยจะต้องตัดผมออกแล้วล่ะ”
“ไม่ได้!!!ฉันไม่ยอม”
เขาตอบอย่างเด็กๆ
“ถ้าไม่ตัดแล้วจะทำอย่างไงล่ะค่ะ เพราะคุณดันแก้จนยุ่งแก้ก็เหมือนยิ่งไปทำให้มันเกี่ยวกันยิ่งกว่าเก่า”
“ก็ตัดกระดุมของเธอไปซิ”
เร็วเกินกว่าที่เขาจะพูดจบเมื่อมือเล็กหยิบคัตเตอร์ในกระเป๋าตัดปลายผมของเขาหลุดจากกระดุมอย่างรวดเร็ว ผมเส้นเล็กที่ตัดด้วยคัตเตอร์ร่วงลงพื้นด้วยแรงโน้มถ้วงของโลก ร่างสูงเมื่อเห็นว่าผมของตัวเองได้ขาดแล้วก็มองหน้าหวานอย่างเอาเรื่อง ขณะที่หันมาสบตากันนั้นเธอคิดไม่ผิดจริงๆว่าผู้ชายคนนี้หล่อ.....หล่อมาก
จมูกโด่งเป็นสันดวงตาสีน้ำทะเลจ้องลึกเข้ามาที่ดวงตาของเธออย่างเอาเรื่อง ผมยาวประมาณไหล่ แม้เคราที่ลุงลังแต่ก็ไม่ลบความหล่อเขาเลยแต่ทำให้เขาดูหล่อแบบเหี้ยมๆยิ่งตอนที่แสงจากในผับกระทบด้วยแล้ว
“ธะ....เธอ ตัดผมฉัน”
“ใช่เสร็จธุระจะได้ไปซักที ไปนะ”
เธอบอกปัดทั้งๆที่สายตาไม่อาจละจากใบหน้าหล่อนั้นได้เลย ให้ความรู้สึกว่าหัวใจจะหลุดอย่างไงอย่างงั้นเมื่อสบเข้ากับดวงตาสีน้ำทะเลคู่นั้น เธอตีหน้านิ่งและเดินจากไป แต่มือใหญ่ของคนตัวสูงก็จับหมับอย่างรวดเร็ว ร่างบางที่ถูกดึงอย่างกระทันบวกกับที่มีคนกลุ่มหนึ่งมาชนเธอทำให้คนตัวเล็กเซไปกระทบกับอกกว้าง แก้มเนียนแนบกับอกกว้างที่แม้จะมีเสื้อกั้นอยู่แต่ก็ทำให้ใบหน้าอมชมพูมีสีแดงระเรื่อ
มือเล็กผลักเขาออกอย่างรวดเร็วแต่คนสูงใหญ่ราวกำแพงก็ไม่ขยับซักนิดทำให้รวงผึ้งเซเสียหลักหัวเล็กกำสัมผัสกับพื้น ดวงตากลมโตหลับปี้เพราะไม่ถึงวินาทีกำลังจะเจ็บอย่างแน่นอน แต่ผ่านไปนานพอสมครวรวงผึ้งก็รู้สึกถึงมือใหญ่ๆที่โอบเอวของเธอด้วยมือเดียวไว้แล้วดึงขึ้นราวเต้นลีลาเพราะทั้งสวยงามและรวดเร็วจนหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“คุณนี่ซุมซ่ามนะครับ มาดาม”เสียงแหบผ่าวกระซิบที่ข้างหู ก่อนที่ใบหน้าคมคายของเขาจะหันมาสบตากับเธอตรงๆแต่จมูกโงก็ไม่วายเฉียดแก้มจนคนที่เป็นเจ้าของแก้มหน้าร้อนขึ้นมาเฉยๆ
"ปะ...ปล่อยเถอะค่ะ แฟนคุณมองตาเขียวแล้ว”เขาเหลือบไปมองคนข้างๆที่เขาหิ้วมาด้วยว่ามีอาการอย่างที่เจ้าหล่อนบอก
“เขาไม่ใช่แฟนหรอกครับ แต่เป็นคู่นอน”เขาบอกพลางส่งสายตาแพรวพราว
“ดิฉันว่าถ้าเขาได้ยินคำเมื่อครู่ที่คุณพูดเขาคงอยากที่จะข่วนหน้าคุณให้เสียโฉม”เธอขู่กลายๆว่าจะฟ้องเจ้าหล่อน พลางมองมือของเขาที่ยังโอบรอบเอวไม่ยอมปล่อยเสียที
“แค่นี้ผมก็หล่อมากแล้วนะครับ ถ้าจะหล่อน้อยกว่านี้หน่อยคงไม่เป็นอะไร”เธอมองค้อนเขาใหญ่เหมือนเขามั่นใจว่าหล่อเสียยิ่งกว่าอะไร
“อยากเจอดิฉันข่วนให้หน้าแหกไหมล่ะค่ะ ปล่อยได้แล้วค่ะ”เธอพยายามผลักออก
“แมวน้อยยั่วสวาทของผม โหดใช่ย่อยนะครับ”
“ไม่ได้เรียกว่าโหดค่ะ เพราะดิฉันทำจริงปล่อยค่ะ”เธอทำเสียงเข้มมากกว่าเดิมแต่เพิ่มรอยยิ้มบนใบหน้าของคนตัวสูงมือปลาหมึก
“โอเค ปล่อยก็ปล่อย”คนตัวโตกว่าปล่อยร่วงผึ้งอย่างที่บอกพลั้นร่างบางก็รู้สึกว่าถูกหยิบอะไรออกไป
“อุ๊ย!!คุณจะทำอะไร”เธอทำเสียงเข้มพลางจ้องอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อแต่คนที่ถูกมองไม่ได้เกรงกลัวอย่างใด เขากดเบอร์โทรศัพท์ในมือถือของเจ้าหล่อนแล้วโทรมาที่เบอร์ของเขาแล้วส่งคืนพลางส่งยิ้มพิมพ์ใจให้ร่วงผึ้ง
“เบอร์ผมเองครับ ผมชื่อเลย์นะแล้วคุณล่ะ”
เขาเริ่มแนะนำตัวเองก็บคนตรงหน้า เธอมองเขาตาโตอยากจะซื้อความหน้าด้านของเขาจริงๆ
“ไม่ต้องรู้ชื่อฉันหรอกค่ะ ขอตัว”เธอพาร่างเล็กของตัวเองออกจากจุดนั้นให้เร็วที่สุดแต่ก็ไม่ลืมที่จะมองค้อนกับไปให้คนตัวสูง
เขามองคนตัวเล็กเดินออกไปแล้วแต่เขาก็มองเธอจนหายไปกับผู้คน เขานึกถึงตอนที่ร่างกายสูงใหญ่ของเขาเบียดเสียดกับร่างน้อยๆนั้นแต่หน้าอกหากได้เล็กตามร่างกาย เมื่อนึกถึงช่วงเวลานั้นแล้วมันทำให้เขาอดไม่ได้ที่หัวใจจะเต้นโครมครามราวกลองรัว นึกอยากจะสายสัมพันธ์กับเจ้าหล่อน แต่เมื่อเจ้าหล่อนไม่เล่นด้วยเขาก็คงจะทำอะไรไม่ได้
รวงผึ้งเดินเบียดๆคนที่อยู่ในผับอย่างทุลักทุเล พลั้นดวงตาโตก็เห็นไหล่เล็กที่แสนคุ้นเคย ไวเกินความคิดเมื่อเรียวยาวก้าวฉับๆไปจับต้นแขนเล็กไว้ได้
“พี่ผึ้ง พี่มาได้ไงหรือไอ้นนท์เป็นคนโทรมาฟ้องพี่”
ลูกไก่หรือกฤติกาสะบัดมือเล็กของกรัณฑาออกจากการเกาะกุม ใบหน้าหวานมีสีหน้าไม่ชอบใจนักที่เจอพี่สาวในตอนนี้แต่ไม่แสดงความหวาดกลัวแต่อย่างไง พี่สาวคนกลางเริ่มหน้าตึงที่เห็นน้องคนเล็กทำอย่างนี้
“มันไม่สำคัญหรอกว่าพี่ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน แต่สำคัญที่ว่าเรามาที่นี่ทำไม”
“ไก่ก็มาพิสูจน์ให้พี่เห็นไงว่าไก่โตแล้วสามารถที่จะเอาตัวรอดได้แล้ว ไก่ไม่ใช่ลูกเจี๊ยบที่มีขังไว้ในกรงอีกต่อไป”
ลูกไก่พูดด้วยความอัดอั้น ร่างอรชรเดินไปหารุ่นพี่ที่โรงเรียนเป็นหัวหน้ากลุ่มและเป็นลูกชายเจ้าของผับจึงไม่ยากที่จะพาเธอเข้ามา
“น้องลูกไก่มีอะไรหรือเปล่าจ๊ะ”เอ็มชายร่างท้วมถามด้วยความเป็นห่วงทั้งที่ในใจไม่ได้เป็นห่วงอย่างที่ปากพูด ตรงกันข้ามอยากที่จะกินลูกเจี๊ยบน้อยเต็มแก่แต่ติดที่ต้องรอโอกาส
“พี่ที่ลูกไก่เล่าให้ฟังค่ะพี่เอ็ม เขามาตามไก่กลับบ้าน”
พูดจบเจ้าของร่างเล็กก็เดินไปนั่งเก้าอี้อย่างอารมณ์เสียพลางสายตาก็เห็นรวงผึ้งวิ่งตามมาพอดี รวงผึ้งเดินมาด้วยใบหน้าหงิกงอกะจะไปคุยกับลูกไก่ให้รู้เรื่องแต่เอ็มก็ใช่ร่างท้วมๆขวางไว้
“หวัดดีครับอาจารย์”เอ็มไหว้ไปตามความรู้จักเพราะเขาก็เคยเรื่องกับรวงผึ้งเหมือนว่าจะจบไปแล้วแต่ก็ได้ยินเรื่องกิตติศัพย์เล่าลือว่าเธอสวยโหดแค่ไหน “ไม่เจอกันตั้งนาน อาจารย์ยังสวยแจ่มเหมือนเดิมเลยนะฮะ”
สายตาของเอ็มไล่มองคนตรงหน้าอย่างเปิดเผยเพราะหุ่นนางสวยอย่างกับนางแบบ
“แก้0ฉันยังไม่เสร็จหรอถึงมาทำปากหวาน หลบไป”เอ็มยังไม่หลบ “นายภัครพล ลาภมีทรัพย์ ถ้ายังไม่อยากให้เรื่องนี้ถึงหูผู้ปกครองเรื่องที่เธอล่อลวงนักเรียนม.ปลายอายุยังไม่ถึง18ปีเข้าผับ จงหลบไป”
เอ็มยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือหัวเหมือนบอกว่ายอมแพ้
“ลูกไก่กลับบ้านกับพี่”
“ไก่ไม่กลับกับพี่หรอก”
“ทำไมไก่บอกเหตุผลพี่มา”
“ง่ายๆสั้นๆคือไม่อยากกลับ!!”
“ทำไมเป็นเด็กอย่างนี้ล่ะ ถ้าพ่อและแม่รู้จะเสียใจมากเลยนะ”
“ไก่ก็เสียใจเหมือนกัน”
“แล้วสาเหตุล่ะ ทำไมไก่ไม่กลับบ้านมีปัญหาอะไรบอกพี่ได้นะ”
ลูกไก่เงียบซักพักก่อนที่เสียงดีเจจะดังแว่วมา
“เอาล่ะครับทีนี้ เรามีเกมให้เล่นแก้เบื่อกันโดยมีรางวัลเป็นตั๊ว2ที่นั่งคอนเสิร์ตที่กำลังดังอยู่ในตอนนี้นั่นก็คือ วงแฟรี่ไงครับ!!”เสียงจากผู้ฟังดังกระหึ่มเป็นระยะทั่วผับเมื่อได้ยินชื่อวง “แต่กติกาเราไม่ง่ายนะครับ ฟังดีๆนะครับสาวคนไหนก็ได้กี่คนก็มาได้เลย มาเต้นโคโยตี้สุดเซ็กซี่ที่สุดให้พวกเราดูรับไปเลยตั๊วคอนเสิร์ต!!”
มือเรียวเล็กของลูกไก่ยกขึ้นสูง เรียวขายาวก้าวออกไปตรงหน้าเวทีอย่างมาดมั่น ซักพักแสงสปอตไลท์ก็ส่องมาที่เธอ
“น้องครับจะเต้นให้พวกพี่ดูคนแรกเลยหรอน้อง”เรียวปากรูปกระจับยกยิ้มขึ้น
“ไม่ใช่ค่ะ แต่เป็นคนนี้”นิ้วเรียวชี้มาที่ร่างบางที่ยังงงงวยไม่หาย“ถ้าพี่อยากให้ไก่กลับบ้านไปด้วย....ก็ไปแข่งเต้นโคโยตี้นั้นซะ”
รวงผึ้งสบตากับร่างเล็กอย่างเนินนาน เธอเดินมาใกล้ๆลูกไก่อย่างช้าๆพร้อมกับค่อยดึงเสื้อเชิ้ตที่ใส่ข้างในกระโปรงออกมาจนมันยาวเท่าเข่า เล็บเรียวจิกไปที่ชายกระโปรงก่อนจะชีกมันอย่างไม่ใยดี ผมยาวที่มัดไว้อย่างดีถูกปล่อยยาวสลวย กระดุมที่ปกติปลดออกแค่สองเม็ดก็ถูกปลดเพิ่มอีกสามเม็ดเผยให้เห็นเสื้อกล้ามกับบราสีดำเล็กน้อยแต่ก็ไม่สามารถปกปิดทรวงอกโตได้
“พี่จะชนะให้เราดู”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ