EAT ME IF YOU CAN [[ Yaoi ]]

9.9

เขียนโดย iamkin

วันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 21.05 น.

  28 ตอน
  8 วิจารณ์
  84.46K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557 19.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) ตอนที่ : 9

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

EAT ME IF YOU CAN [9]

 

 [Near]

                ผมตัดสินใจแล้วครับ ผมตัดสินใจแล้ว

                'กูจะเรียนวิศวะ!!!'ผมพูดขึ้นกลางวงครับ ทำเอาเพื่อนผมหันกันให้ขวับ ไอ้บลูที่แชทบีบีอยู่กับสวามีใหม่ถึงกับอ้าปากค้างเลยครับ

                'อะไรมันเข้าฝันมึง ให้มึงจะเข้าวิศวะวะ' บลูถามผมครับ หลังจากมันหายไปนาน กูนึกว่าแม่งหายไปทำงาน ที่แท้หายไปอยู่กับผัวใหม่ ! เป็นผัวในร่างเมียเสียด้วย

                'เล่มนี้ไง..' ผมว่าแล้วชูคู่มือการศึกษาการเรียนต่อให้มันดู ความจริงผมอยากจะเข้าหมอนะ แต่กลัวเลือด กลัวเข็ม กลัวแม่งมันทุกอย่าง อย่างผมนี่คงไม่เหมาะหรอก

                'อะหือ..เป็นการเป็นงานเชียว' มิลานว่าแล้วดึงคู่มือดังกล่าวไปดู ไอ้มิลานมันเป็นเด็กเรียนดีครับ ยังไม่พ้นเทอมแรกมันก็มีที่เรียนเยอะแยะแล้ว แล้วตอนนี้มันก็ได้ที่เรียนแล้วด้วย เลยไม่ต้องมานั่งกลุ้มอกกลุ้มใจอย่างพวกผมซะเท่าไร รอรายงานตัวอย่างเดียวผมถึงอยากฉลาดบ้างอะไรบ้างไง

                'มึงอยากเข้าวิศวะ ทำไมไม่ให้เด็กวิศวะติวให้วะ ไอ้เหี้ยพี่กัสไง..ได้ข่าวที่แม่งสอบติด ก็อันดับไม่ใช่ขี้ๆเลยนะ ลองไปเจรจากับมันดีๆดูสิ เผื่อมันจะช่วยมึง' ไอ้บลูเสนอ มันเป็นความคิดที่ดีนะครับ ที่จะให้มันช่วยติวให้ อย่างน้อยก็พวกพื้นฐานอะไรงี้ไง

                '...ไม่เสียค่าเรียนพิเศษด้วย' มิลานพูดเสริมครับ ไม่น่าเชื่อใช่ไหม ว่ามันจะเป็นคนพูดเสริมขึ้นมา

                'เออๆๆ กูเห็นด้วยว่ะเนียร์ คอร์สติววิศวะแพงสัดๆ มึงน่าจะลองไปเจรจากับเหี้ยกัสดู อย่างน้อยแม่งก็น่าจะให้มึงหาเด็กให้มันนั่นแหละ เห้ยมิลาน กูไม่ได้ตั้งใจตอกย้ำมึงนะโว้ย'

                'ไม่เป็นไรๆๆ'

                'เออ...ไว้กูจะไปคุยกับมันดู เชี่ยนี่แม่งเล่นตัวอยู่ด้วย' ผมพูดต่อ แล้วเริ่มคิดถึงแผนเจรจากับมัน ผมว่า มันไม่ให้ผมหาเด็กให้มันหรอก มันจะเอาผมเองมากกว่า !

                'แล้วมึงสองคนล่ะ คิดไว้ยังจะไปต่อไหน' ผมถามพวกมันกลับบ้างครับ

                'บริหาร..' มิลานครับ ผมว่าเหมาะกับมันแล้วแหละ

                '...กูก็ว่าจะวิศวะว่ะ' ไอ้บลูตอบ ผมกับไอ้บลูคุยกันตั้งแต่ม.4 แล้วครับเรื่องเรียนต่อ เราสนใจวิศวะกันทั้งคู่ ผิดกันที่แค่วิชาเอกเท่านั้นแหละ มันอยากเรียนเครื่องกล เหมือนเหี้ยกัส แต่ผมอยากเรียนวิศวะคอมครับ ผมรักในการเขียนโปรแกรมครับ ผมได้ภาษาซีตอนม.4 เกรดสี่คนเดียวในระดับชั้นเลยนะเออ ไม่อยากจะคุย

                'เรียนตามผัวมึงหรอครับ หึๆ' ผมแซวมันครับ ไอ้บลูมันมาเล่าให้พวกผมฟัง สามีใหม่มันเป็นเด็กวิศวะ(อีกแล้ว) และดูท่ามันจะแคร์เบอร์ใหม่ของมันมาก เพราะตั้งแต่ผมเป็นเพื่อนมันมา ผมยังไม่เคยได้ยินมันแทนตัวเองว่า บลู..เลย ขนาดพี่เครปที่ว่าใช่แล้วนะ ไอ้คนใหม่นี่ใช่กว่าอ่ะ

                'เออ กูจะไปให้มันติวให้'

                'ติวบนเตียงกันสิมึง ถึงไม่รับสายกูเลย' ผมด่ามันปิดท้ายครับ ผมอยากเห็นจัง ว่าพี่สายฟ้า..ธันเดอร์ จะเป็นยังไง ถึงเอาหัวหน้าแก๊งค์สาวสาวสาวอยู่หมัด!

                'หุบปาก..เห้ยๆๆทางนี้ๆ' มันด่าผมแล้วลุกขึ้นยืนโบกมือครับ ผมหันหน้าไปตามมัน วันนี้เราหมดคาบเรียนแล้ว แต่ยามยังไม่อนุญาติให้ออกเนื่องจากป้องกันเด็กตีกัน เลยต้องรออีกประมาณครึ่งชั่วโมง นี่ก็รอกันมาเกือบครบแล้วละครับ

                'นี่...พี่ธัน'ผมกับไอ้มิลาน ถึงกับอ้าปากค้างกันเลยครับ แม่งพี่ธันของมันหล่อจริงอะไรจริง เสียดายไม่น่าอนุรักษ์พันธุ์ป่าไม้เลย ไม่งั้นพี่แกคงมีสาวติดตรึมแน่

                'นี่ๆๆ...กูว่าเหี้ยกัสหล่อแล้วนะ เจอพี่ธันนี่เทพบุตรอ่ะ' ผมสะกิดมิลานแล้วดึงมันมากระซิบครับ

                'ใครบอก..พี่กัสเขาหล่อแบบเทพบุตรอสูร ต่างหาก'

                'เหอะ! นี่ขนาดไม่อะไรกับมันแล้วนะ'

                'สวัสดีครับพี่..ผมมิลานฮะ'

                'ผมเนียร์ครับ..'

                'สวัสดีครับ..พี่ธันนะครับ'โอ้ย เทพบุตรสัดๆอะ กูอยากให้เหี้ยกัส พูดจาแบบพี่เขามั่งจัง กูคงฟังลื่นหูทุกวัน

                'พี่ธันเรียนอยู่วิศวะหรอครับ' ผมถาม พี่เขาพยักหน้า แล้วส่งยิ้มหล่อมาให้บลูกูขอเป็นเมียน้อยมึงได้ป่ะ ยิ้มทีกูจะตาย!

                'เข้ายากไหมพี่ ผมอยากเข้าบ้าง'

                'ไม่ยากหรอกครับ ขยันอ่านหนังสือให้มากๆ มั่นใจตอนทำข้อสอบก็ได้แล้ว' พี่เขาตอบแล้วส่งยิ้มเป็นมิตรมาให้ผมครับ ไอ้บลูมันไม่ถือหรอก ผมเลยส่งยิ้มกลับไปให้พี่เขา

                'มึงๆๆ เอาพินพี่เขาไปดิ เผื่อมีอะไรจะได้ถาม' ไอ้บลูเสริมครับ ผมพยักหน้าและหยิบบีบีมาจ่อหน้าพี่เขาเลย พี่เขาก็เฟรนลี่ดีนะครับผมพอยื่นให้เขาก็รับไป ไม่นานพินเขาก็อยู่ในเครื่องผมแล้ว

                'อะหือ..หวานสัดๆ' ผมพูดเบาๆครับ ดิสเพลบีบีพี่ธัน นี่แทบจะจูบปากไอ้บลูกันอยู่แล้วอ่ะ อิจฉา!กูอยากมีบ้างอะไรบ้าง...

               

วันนั้นจบลงโดยการที่พี่ธันพาพวกเราไปเลี้ยงข้าวเย็น แล้วก็ขนมครับ อร่อยกันไปเบาๆ ประมาณทุ่มหนึ่งผมก็กลับบ้าน ไอ้บลูจะนอนกับผมแล้ว แต่พี่ธันห้ามไว้ก่อน จะไปนอนด้วยกันล่ะสิพวกมึง...

                'รถใหม่บลูสวยเนอะ..' พอผมเดินเข้าบ้าน น้ำเสียงพร้อมคำถามของไอ้กัสก็ดังขึ้นทันที มันนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นครับ ตรงหน้ามีกล่องโฟมสำหรับข้าวเย็น และกระป๋องเบียร์หนึ่งกระป๋องที่เปิดแล้ว และอีกสามสี่กระป๋องที่ยังอยู่ในถุง

                'อือ' ผมรับมันสั้นๆครับ ไม่อยากจะพูดอะไรกับมันมาก เดี๋ยวผมเจ็บตัวอีก

                'พรุ่งนี้ขึ้นไปเก็บกวาดห้องให้กูด้วย และจะโอนเงินให้..'

                'แต่กูต้องอ่านหนังสือ'ผมพูดครับ ไอ้กัสถึงกับกดเบาเสียงทีวีแล้วมองหน้าผม เหี้ย! กูจะอ่านหนังสือสอบ ก็ผิดใช่ไหมอ่ะ

                'จะสอบแล้วหรอ'

                'อือ สอบโรงเรียน แล้วก็สอบเข้าด้วย'

                'เลือกแล้วหรอ จะเข้าคณะอะไร'

                'อือ' ความจริงมันก็เป็นความต้องการของแม่ด้วย ที่อยากให้ผมเรียนวิศวะ รวมถึงที่เดียวกับไอ้กัสด้วย...

                'คณะอะไร'

                'วิศวะ'

                'เอก'

                'ยังไม่ได้คิด'

                'เอก..นี้ไม่มีในคณะกูว่ะ'

                'กูกำลังตัดสินใจ'

                'ระหว่าง...' ผมน่าจะบอกเรียนหมอให้มันจบๆไป เหี้ยกัสจะได้ไม่ต้องมาซักเอาความจากผมอีก เพราะเหี้ยนี่ถ้าอยากรู้ต้องรู้ พอๆกับอยากได้ต้องได้นั่นแหละ

                'ไฟฟ้ากับคอมฯ'

                'เครื่องกลเท่านั้น...'กัสโซ่พูดเสียงนิ่ง ผมเงยหน้ามองหน้ามัน

                'ไม่ ชีวิตกู กูรักของกู มึงจะทำไม' ผมเถียงมันเสียงแข็ง กัสมันคงเห็นว่าเอาจริง มันเลยยกเบียร์ซด แล้วเมินหน้าหนี ผมเกลียดจริงๆนิสัยเสียของมันพวกนี่

                !ติ๊ด!

เสียงบีบีผมเข้าครับ ไอ้บลูนั่นเอง โปรฯบีบีมันหมด มันเลยเอาของพี่ธันทักมา ผมว่าแม่งไม่ให้ผมแอดพินเพื่อคุยกับพี่ธันหรอก เผื่อเวลามันโปรฯหมดมากกว่า

                !!ติ๊ด!!

เสียงเรียกเข้าบีบีดังขึ้นอีกครั้งครับ แต่คราวนี้เป็นของไอ้กัส ไม่ใช่ผม

'เนียร์'

                'อะไร'

                'ไปแดกเหล้ากับกูไหม'

                'ไม่'ผมตอบมันเสียงขาด ผมไม่ใช่ไม่ดื่มนะ แต่ดื่มไม่เก่งมากกว่า ถ้าไปกับมัน ผมโดนมันลากแบบไม่รู้ตัวแน่

                'ฮัลโหล..เออๆๆ กูไม่ไปนะ แค่นี้แหละ' มันว่าแล้วกดตัดสายไอโฟนมันทิ้งไป เหี้ย! รวยจริงอะไรจริง ข้างซ้ายไอโฟนข้างขวาบีบี ทำไมมึงไม่ห้อยไอแพดไว้ที่คอ แล้วเอาไอพอดทำเป็นต่างหูเลยวะ!

                'อ่าว นึกว่ามึงจะไปซะอีก'

                'มึงไม่ไป กูเลยไม่ไปไง' มันว่าแล้วเงยหน้ามองผมต่อ 'คืนนี้กูนอนด้วยนะ แอร์เสีย..ร้อนชะมัด'

                'นึกว่าห้องมึงซ่อมแอร์แล้วซะอีก'

                'ไม่รู้เป็นอะไรอีก นอนห้องมึงนั่นแหละ ประหยัดดี' มันว่า ก่อนจะลุกขึ้นยืนเอาถุงเบียร์มันติดมือเดินไปในห้องครัว ผมว่าถ้าจะประหยัดจริงๆเอาบีบีกับไอโฟนมึงมายัดเป็นเครื่องเดียวกันดีกว่ารับรองประหยัดแน่!

 

ว่าแล้วตกดึกมันก็เข้ามาห้องผมครับ มันขึ้นเตียงผมโดยที่ผมไม่ต้องเอ่ยปาก กัสมันมีความหน้าด้านเป็นอาวุธอยู่แล้ว จะอะไรนักหนา

                'เลขมึงได้เกรด เท่าไร' มันถามผมครับ คุณเชื่อไหม ตอนนี้ผมกับมันนอนอยู่เตียงเดียวกันนะ แต่กูกับมันกดบีบีกันทั้งคู่ ผมกำลังคุยกับพี่เต็นท์เพื่อนพี่ธันอยู่ครับ คือไอ้บลูบอกว่าผมชอบบีบีเข้าเครื่องพี่ธันตอนพวกมันกำลังเข้าได้เข้าเข็มกัน มันก็เลยส่งพินเพื่อนพี่ธันที่เรียนคณะวิศวะมาให้ พี่เต็นท์เขาเป็นคนคุยเก่งนะครับ แรกๆเราคุยกันเรื่องเรียนหลังๆ กลับคุยเรื่องสัพเพเหระกันเยอะแยะเต็มไปหมด พี่เขาสร้างความรู้ดีๆ ให้ผมแม้ผ่านจอบีบีได้รวดเร็วจัง

 

หรือผมกำลังอ่อนแอ เลยรู้สึกดีกับคนอื่นง่ายขนาดนี้?

 

                '2.7'

                'อังกฤษอ่ะ'

                '2.5'

                'โรงเรียนมึงเขาปล่อยเกรดป่าววะ' มันหันมาถามผมครับ จังหวะที่มันหันมาหา ผมก็หันไปหามันพอดี เลยเป็นฉากสวีทสัดๆเลยไง

                !ติ๊ด!

                !!ติ๊ด!!

                เสียงเรียกเข้าบีบีของมันและผมดังขึ้นพร้อมกันครับ เราเลยละสายตาออกจากกัน และสนใจไอ้จอเล็กๆตรงหน้าแทน ผมอยากรู้จริงๆ กลุ่มพี่ธันเขาจะหน้าเทพบุตรไปไหน ขนาดพี่เต็นท์ยังหล่อเลย ไอ้บลูบอกว่าถ้าผมอยากได้ใครดามใจ ให้บอกมัน กูว่า กูอยากได้แล้วว่ะ

                'แล้วเกรดรวมอ่ะ ได้เท่าไร'

                '2.9'

                'เหอะ ปล่อยเกรดจริงด้วย ถ้ามึงจะเข้าวิศวะ มึงก็ต้องเลิกกดบีบี แล้วไปอ่านหนังสือซะ'

                'กูรู้แล้วสัด มึงจะนอนได้ยัง กูจะปิดไฟแล้ว พรุ่งนี้กูต้องตื่นเช้ามาทำความสะอาดห้องมึงอีก'

                'หน้าเงินล่ะซิไม่ว่า ไอ้เช้าของมึงนี่เที่ยงใช่ไหม' 

                'เก้าโมงก็พอแล้ว มึงไม่นอน แต่กูจะนอน ห้ามเลยมาเขตของกู แล้วอย่าคิดทำอะไรเหี้ยๆกับกูอีก'

                'กูรู้..' มันพูดครับ ผมกำลังหันหลังให้มันอยู่ เพื่อจัดหมอนให้เข้าที่ มิลานส่งบีบีมาหาผมครับ 'ฝันดีเพื่อนรัก'กูไม่รู้ว่าถ้ามึงรู้เรื่องกูกับไอ้กัส มึงจะเรียกกูว่า เพื่อนรักอีกหรือป่าว

                'กัส..กูไม่ได้จะรื้อฝอยหาตะเข็บ หรือ อยากจะมีเรื่องกับมึงนะโว้ย แต่กูอยากรู้...จะเป็นอะไรไหม ถ้ากูจะถามอะไรมึงหน่อย' ผมพูดด้วยเสียงจริงจัง

                'เรื่องมิลานใช่ไหม..'

                'อือ..มึงรักมันใช่ไหม'

                'ป่าว...กูไม่ได้รักมัน'มันตอบครับ เท่านั้นผมก็ล้มตัวลงนอน ผมสงสารมิลาน แต่ทำไมผมถึงไม่คิดสงสารตัวเองเลย เรื่องสองปีที่แล้ว เรื่องผมกับมันยังวนเวียนอยู่ในหัวผมเสมอ ... เมื่อไรมันจะออกไปจากหัวผมสักที ผมลืมมันไม่ได้เลย

                'แล้วมึงล่ะ..ยังรักกูอยู่ไหม' กัสโซ่ถามผมกลับ ทำเอาผมสะดุ้ง ผมทำตัวให้นิ่งมากที่สุด มันจะได้คิดว่าผมหลับแล้ว แต่มันไม่ได้โง่ มันจับแขนผมและพลิกตัวผมให้นอนหงาย เพื่อจ้องหน้ามันที่รอผมอยู่

                'ยังรักกูอยู่ไหม เนียร์'เสียงมันดูมีความหวัง ไอ้กัสมักจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง เวลามันพูดเรื่องแบบนี้ เรื่องที่ชื่อเรื่องว่า..เรื่องของเรา

                '...' รัก อยากบอกมัน แต่บอกไม่ได้ 'ไม่รัก..มันจบแล้วไงกัส' ผมพูดย้ำด้วยเสียงเรียบ ใบหน้าของกัสโซ่ดูเจ็บปวด เกิดคำบรรยาย มันพยักหน้า เอื้อมมือไปปิดไฟที่หัวเตียงผม ก่อนจะทิ้งตัวนอนลงตาม คืนนั้นเรานอนบนเตียงเดียวกันเฉยๆ ไม่ได้เกิดอะไรขึ้น ไม่อยากจะบอกเลย..คืนนั้นผมข่มตาไม่หลับเลย ให้ตายเหอะ

 

                สองปีที่แล้ว ตอนมันย้ายมาอยู่ที่บ้านผมใหม่ๆ

                'เนียร์ นี่พี่กัส พี่ชายของเรา...ทำความรู้จักไว้สิลูก' แม่บอกผมในวัยสิบหก ด้วยเสียงอ่อนโยน

                'พี่ชื่อกัส..นะ' ร่างสูงกว่าผม แนะนำตัว

                'ชื่อเนียร์..'

                'ที่แปลว่าใกล้หรือป่าว'

                'อือ..'

                'ก็จริงนะ แค่เจอกันครั้งแรก..พี่ก็อยากอยู่ใกล้เราตลอดแล้ว' ร่างสูงว่าแล้วโน้มตัวลงมา ในจังหวะที่พ่อใหม่และแม่ของผมกำลังคุยกันอยู่

                ร่างสูงโน้มลงมาประกบริมฝีปากผมอย่างใจเย็น ความที่ผมเป็นเด็กและยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร ผมจึงได้แต่ยืนนิ่งๆ เสียจูบไปเท่านั้น

                'อือ..รสชาติดีหนิ'

                'อย่าทำแบบนั้นอีกนะพี่กัส ผมไม่ชอบ'

                'ไม่ชอบทำไม ไม่ขัดขืนล่ะ'

                ผมตอบร่างสูงไม่ได้ แม่ให้เรานอนห้องเดียวกันก่อน เพื่อเป็นการปรับตัวเข้าบ้านใหม่ของมัน และคืนนั้นก็คือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งทุกอย่าง ที่ฝังใจผมจนถึงวันนี้ .....

 

                'เห้ยๆๆ มึง ตื่นๆๆ'ผมเดินกลับเข้าห้องนอนผมอีกครั้งตอนเที่ยงวันครับ วันนี้ผมตื่นเร็วเก้าโมงเช้า ผมลุกไปอาบน้ำ กินข้าวแล้วก็ไปเก็บกวาดห้องไอ้กัสมันครับ ห้องแม่งรกเหี้ยๆ ดีนะมันไม่ทิ้งอะไรให้ผมดูเป็นหลักฐานด้วย คุณเชื่อไหม ผมน่ะ เจอมาหมดแล้ว อุปกรณ์ทั้งหลายแหล่ของมันอ่ะ

                แต่พอเที่ยงผมเห็นไอ้กัสยังไม่ลงไปครับ ผมเลยขึ้นมาดู แม่งยังนอนเปิดแอร์อยู่ในห้องผมอยู่เลย ไม่ได้ห่วงมันนะ แต่เดี๋ยวแม่งไม่โอนเงินให้ผมใช้

                'อือ...ยังไม่เช้าเลยเหี้ย' 

                'มึงสิเหี้ย มันจะบ่ายโมงแล้ว มึงลุกมาได้แล้วกัส ไม่งั้นกูปิดแอร์' ผมไม่พูดเปล่า ผมปิดแอร์แม่งเลย หมั่นไส้ ไม่นานเหี้ยกัสก็ใช้เท้าถีบผ้าห่ม แล้วลุกขึ้นมานั่งได้

                'ปิดแอร์ให้ผัวมึงร้อนหรือไงวะ สัด!' มันลุกขึ้นมาพร้อมกับด่าผมด้วยครับ สามารถมากครับมึง ตื่นปุ๊บด่ากูปั๊บ

                'จะนอนอีกนานไหมมึงอ่ะ ถ้ามึงจะนอนต่อ ลงไปนอนข้างล่าง ก่อนที่คอมเพรสเซอร์แอร์ห้องกูมันจะระเบิด!' ผมว่า เหี้ยกัสยอมลุกจากที่นอนจนได้ มันดูเดินตัวเซๆนะ ไม่ได้เป็นห่วงมันหรอกนะ แต่กลัวแม่งเป็นเหี้ยอะไร แล้วผมต้องตกเป็นผู้ต้องหาอ่ะดิ

                'อย่าลืมโอนตังค์ ให้กูล่ะไอ้สัด' ผมพูดตามหลังมันไป ไอ้กัสหยุดเดินแม่งคาประตูเลยครับ แล้วหันหน้ามาหาผมสี่สิบห้าองศา

                'ทำเสร็จแล้ว..'

                'เออ'

                'ไว้จะโอนให้ ลงมาหยิบโทรศัพท์ลงมาให้กูด้วย' มันสั่งครับ แล้วเดินลงข้างล่างไป มึงน่าจะแวะล้างหน้าหน่อยนะ

                'เหี้ย ทำไมไม่หยิบเองวะ' ผมบ่นแล้วเดินไปหยิบของให้มันครับ แม่งพกตั้งสองเครื่อง สภาพบีบีที่ผมเคยบอกว่าของมันน่ะใหม่เอี่ยม แต่นี่แม่งเละจนไม่รู้จะเละยังไงแล้วอ่ะ ส่วนไอโฟนเหมือนจอมันจะร้าวๆแล้วนะมึงใช้ของได้ถนอมมาก

                ผมไม่คิดกดดูโทรศัพท์มันหรอกครับ เพราะถ้าแม่งไม่ปิดเครื่อง แม่งก็ล็อคเครื่องอยู่ดี เหี้ยนี่หวงโทรศัพท์มันมากอะไรมาก ขนาดผมเป็นน้องมัน แค่ผมจับดูแอปฯมันในเครื่อง มันยังแทบจะกัดหัวผมเลย

                ผมเดินลงมาข้างล่างพร้อมโทรศัพท์แม่งสองเครื่องครับ พอลงมาก็เจอแม่งแดกมาม่าคัฟอยู่ที่โซฟาแล้ว วันๆนอกจากแดกกับนอนมึงไม่ทำอะไรแล้วใช่ไหม

                'เห้ย เอาไป' ผมว่าแล้วโยนมือถือสองเครื่องส่งให้แม่งพร้อมกันครับ เหี้ยกัสแทบจะโยนถ้วยมาม่าในมือออกทันที เพื่อรับโทรศัพท์มันทั้งสองเครื่อง ดีนะที่มันรับได้ เพราะถ้ามันรับไม่ได้กูซวยแน่

                'ถ้าตก กูจะหักหัวมึงเป็นชิ้นๆเลย'

                'จะออกไปไหนก็ล็อคบ้านด้วยแล้วกัน กูจะออกไปข้างนอก' ผมว่า พร้อมกับหยิบกุญแจอีกชุดติดมือไปด้วย

                'จะไปแรดไหนอีกละ'

                'จะไปแรดกับเมียเก่ามึงอ่ะ'

                '...มิลาน'

                'แหม จำชื่อกันได้ขึ้นใจเลยนะ!'

                'เหอะ..กูไม่ด่ามึงหรอก เพราะเข้าใจมึงหึง'

                'สัดหุบปาก!'ผมจ้องหน้ามัน ผมเกลียดมันจริงๆ เวลามันยกพวกเหตุผลแบบนี้มาด่าผมเนี่ย

                'อย่าแรดให้มันมากล่ะ ระวังจะไม่มีแรงกลับบ้าน!'

                'โอ้ย..กูไม่แคร์หรอก ถ้ากูไม่มีแรง กูก็นอนแม่งตรงนั้นแหละ ไว้มีแรงค่อยกลับบ้านเอา!!'

                'เนียร์!' ก่อนที่ไอ้กัสจะด่าผมไปมากกว่านี้ ผมรีบเดินออกจากบ้านแล้วปิดประตูดังปัง พอดีกับรถคันดำจอดเทียบหน้าบ้านผมพอดี

                'อ่าว..เนียร์ พี่กำลังจะเข้าไปเรียกที่บ้านพอดี'

                'ไปเหอะพี่เต็นท์..อย่าเข้าบ้านผมเลย หมาบ้ามันกำลังคลุ้มคลั่ง!!' ผมว่าแล้วเดินขึ้นรถพี่เต็นท์ไป เอ่อ..เดทหรอ ไม่หรอก เราแค่ไปเที่ยวกันเฉยๆ คือพี่เต็นท์เขาจะช่วยผมไปหาซื้อคู่มือเตรียมสอบน่ะ เราเลยนัดกันออกไป พี่เขาจะมารับผมที่บ้านตอนบ่ายๆ นั่นคือหลังจากผมจัดการกับห้องเหี้ยกัสเสร็จแล้ว ..

 

ผมไม่ได้จะควงรุ่นใหญ่..เพื่อประชด คนที่ชอบควงเด็กหรอกนะ ไม่เลย ไม่มี .....           

 

                !ติ๊ด!

                เสียงเรียกเข้าบีบี ทำให้ผมก้มลงมองมือถือในมือครับ และแล้วผมก็ต้องเบิกตากว้าง สาบานได้ ว่าผมไม่มีพินมัน และไม่เคยรับแอด หรือ ไม่เคยแอดไปหามันเลย!!!

                CASSO' : เพิ่งรู้ว่ากูมีเมียเก่าเป็นเมะเหมือนกู!!!!

                'เหี้ยแล้ว...'ผมพึมพำออกมาเบาๆ จนพี่เต็นท์ที่ขับรถอยู่หันมามองหน้าผม

                'ไม่มีอะไรหรอกพี่..ลืมให้ข้าวหมาที่บ้านน่ะ'เออใช่ ไอ้เหี้ยกัสมันปิดเครื่องล็อคเครื่องตอนนอน แต่ผม ไม่เคยปิดเครื่องล็อคเครื่องตอนนอนเลย !!!!!!

 

                 พี่เต็นท์พาผมเข้าร้านหนังสืออยู่หลายร้านครับ เพื่อเลือกหนังสือคู่มือการสอบเข้าให้ได้ดีที่สุด และผมเข้าใจง่ายที่สุด เราเลือกกันอยู่นานกว่าจะได้ พี่เต็นท์บอกว่าถึงผมจะได้หนังสือดีขนาดไหน ถ้าผมยังดอทเออยู่แบบไม่บันยะบันยังแบบนี้ ต่อให้คณะที่ใช้คะแนนน้อยสุดผมก็เข้าไม่ได้หรอกครับ

                'ซื้อไปแล้วก็อ่านซะนะ เดี๋ยวพี่จะไปหาข้อสอบเก่าๆมาให้ทำ เดี๋ยวจะไปขโมยของน้องมาให้ด้วยดีกว่า จะได้ประหยัดค่าหนังสือไปอีก' พี่เต็นท์บอกกับผมครับ ในมือผมกับพี่เต็นท์มีไอศกรีมโคนคนละอันครับ ผมเกิดอยากจะกินขึ้นมา เลยแวะหน่อย พี่เต็นท์ก็เลยเอาด้วย

                'ขโมยเลยหรอ ไม่ดีม้าง' ถึงผมจะรู้ว่าพี่เขาพูดเล่น แต่ถ้าพี่เขาต้องทำแบบนั้นจริงๆ มันก็ไม่ดีหรอก ที่ผมต้องรับของโจรอ่ะ

                'ฮ่าๆ ไม่หรอก มันไม่ใช้แล้ว เดี๋ยวเอามาให้ เราจะได้แน่นไง ดีป่ะ เตรียมตัวไว้ก่อน ถึงจะม.6 เทอมสองแล้วเหอะนะ' พี่เต็นท์พูดอย่างปลงๆ เมื่อผมจะมาติวเข้าเอาตอนนี้ แต่เชื่อสิครับ หัวอย่างผมถ้าจะเอาดีก็เอาได้

                'พี่เต็นท์มีน้องด้วยหรอ'

                'อือ ทั้งพี่ทั้งน้องแหละ พี่คนกลาง'

                'ผู้ชายหมด...'

                'ฮ่าๆ พี่มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่ง กับน้องชาย..'อ่า รู้สึกดีจัง ที่ในที่สุดเรื่องนี้ก็มีตัวละครเป็นผู้หญิงซะที

                'อ้อ น้องพี่เต็นท์เข้าวิศวะหรอ'

                'อือ ปีที่แล้วเอง วิศวะโยธา ไม่รู้แม่งมั่วทิ้งดิ่ง แต่เสือกสอบติด พี่อยากจะบ้าตาย'

                'น้องพี่เขาอาจจะเทพจริงเทพจังก็ได้ ใครจะไปรู้'

                'ช่างมันเหอะ ไอศกรีมเลอะปากหมดแล้ว ไอ้หนู' พี่เต็นท์ว่าแล้วเอื้อมมือมาเช็ดปากให้ผม..นิ้วเรียวของพี่เขาปาดลงกลีบปากผมเพียงชั่วเวลาเดียว ก่อนจะผละออกไป

                'อือ..ไว้วันหลังพี่จะลองสั่งรสนี้มากินบ้างดีกว่า..' ก่อนจะเอานิ้วที่เช็ดปากผมเข้าปากตัวเอง ... เซ็กซี่อ่ะ

                'พี่อยากกินก็บอกนะ เดี๋ยวแบ่งให้ก็ได้'

                'คนดีมีน้ำใจ...แต่เลี้ยงพี่นะ'

                'โอ้ย เด็กๆ'ผมพูดอย่างสบายๆ พี่เต็นท์หัวเราะออกมา เวลาพี่เขายิ้มดวงตาของพี่เขาจะปิดหมดเลย เป็นคนตาชั้นเดียวที่เซ็กซี่ที่สุดเท่าที่ผมรู้จักมาเลยอ่ะ .... และจังหวะนั้นเอง ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า มีสายตาอีกคู่จับจ้องผมอยู่ ...

                'หิวไหม เดี๋ยวจะพาไปหาอะไรกินกัน' ผมเอ่ย พี่เต็นท์พยักหน้าอย่างเร็ว ก็ใช่น่ะสิ เราใช้เวลากันในร้านหนังสือค่อนข้างนาน เพราะพี่เต็นท์ต้องเปิดอ่านและดูทุกเล่ม ส่วนผมก็ต้องรับมาอ่านต่ออีกรอบ เพื่อดูว่าตัวผมจะเข้าใจได้หรือเปล่า

                'เลี้ยงพี่นะ'

                'กินเยอะเปล่าเนี่ย มีงบแค่...พันเดียว' ผมว่าแล้วหยิบแบงค์พันในกระเป๋าที่แอบเอามาจากห้องไอ้กัสตอนเข้าไปทำความสะอาดขึ้นมาชูให้พี่เขาดู

                'โหยย..พี่ก็ไม่ได้กินเยอะขนาดนั้น ไปถ้ากินเยอะ เดี๋ยวพี่ช่วยจ่าย' พี่เต็นท์ว่าแล้วดึงผมเข้าไปกอด อย่าเรียกว่ากอดเลย เรียกว่าโอบไหล่แบบแมนๆดีกว่าแต่ตัวพี่สูงจัง...ผมชอบอ่ะ

     [End Near]

 

     [Casso]

                เจ็บใจ......

                ผมทุบกำปั้นที่เคยอาบเลือดลงบนกำแพงห้าง อย่างไม่แคร์สายตาใคร เพราะผมทำมันไว้เยอะใช่ไหม เนียร์มันเลยเอาคืนผมด้วยวิธีนี้ ผมเจ็บใจจังเลย ... ผมรู้แล้วความรู้สึกตอนที่ผมหิ้วคนมานอนที่บ้าน แล้วเนียร์มันรู้สึกยังไง แค่มันมาเที่ยวด้วยกัน เดินด้วยกัน กอดคอกัน มันยังทำให้ผมบ้าได้ขนาดนี้ ถ้ามันทำมากกว่านี้และ..ผมยังจะทนได้อีกไหม

                ขาของผมเดินหน้าอีกครั้ง และเข้าไปในร้านอาหารร้านที่เนียร์มันชอบสั่งไปกินที่บ้าน ผมเลือกโต๊ะมุมสุด แต่เห็นพวกนั้นแบบชัดเจนที่สุด ก่อนจะสั่งอาหารสองสามอย่างเพื่อไม่ให้พนักงานหมั่นไส้ ว่ามานั่งหนักร้านเขา ก่อนที่ผมจะไม่สนใจอาหารตรงหน้าเลย เพราะคู่ตรงหน้าน่าสนใจกว่าอาหารตรงหน้าผมเยอะ

                ต่างคนต่างช่วยกันเลือกเมนูเด็ดของร้าน ดูเหมือนว่าไอ้เหี้ยนั่นก็น่าจะชอบร้านนี้เหมือนกัน เพราะเท่าที่เห็น แต่ละเมนูที่ทั้งคู่สั่ง เป็นเมนูยอดฮิตทั้งนั้น ผมอยากจะปาบีบีใส่หัวมันจริงๆ เอาไอ้เนียร์ให้สลบ แล้วลากมันกลับเข้าห้อง

                เพื่อจะได้ท้วงความเป็นเจ้าของให้สมบูรณ์ สักที ... ผมปล่อยมาตั้งสองปีแล้วนะ ผมให้โอกาสมันหา คนที่ใช่ คนที่ดีกว่าผม มาตั้งสองปี แต่มันก็ไม่ยอมใช้โอกาสนั้นให้เป็นประโยชน์ จนกระทั่งครบสองปี ผมกำลังจะมาทวงมันคืน .. แต่มันกำลังจะมีคนอื่นเนี่ยสิ สองปีที่ผ่านมา มึงทิ้งทำกระต่ายอะไร !! เนียร์มันคงคิดว่า ผมคงลืมไปแล้ว เกี่ยวกับเรื่องสองปีที่ผ่านมา แต่ขอโทษ แม้แต่คำสุดท้ายที่ผมพูดกับมันในฐานะคนรัก ผมยังจำได้เลย

 

                'กูจะให้เวลามึงสองปี มึงไปหาคนที่ใช่ คนที่ดีกว่ากู ถ้ามึงหาไม่ได้ วันนั้นกูจะเอามึงมาเป็นของกูเหมือนเดิม!!'

                'เอาสิกัส สองปีต่อจากนี้ มึงจะไปมั่วที่ไหน กับใครก็เชิญ กูต้องหาคนที่ดีกว่า ใช่กว่ามึงเจอแน่ๆ'

 

                หวังว่าตอนนี้ มึงยังไม่เจอคนคนนั้นใช่ไหม

                แล้วคนคนนั้น ต้องเป็นกูใช่ไหม ......

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา