Where are you my Princess? (Yaoi)
10.0
เขียนโดย C_W_C
วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.56 น.
25 บท
3 วิจารณ์
34.89K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 21.05 น. โดย เจ้าของนิยาย
9) ห้องคหกรรม
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ หลังจากวันนั้นที่พี่ดันเต้นัดเจอกับพวกพี่สาวของซีแล้ว ทั้งสองก็ยังคอยวนเวียนรบเร้าซีอยู่ไม่ขาดให้ร่างบางต้องคอยหาทางหลบเลี่ยงให้ปวดหัวอยู่ไม่น้อย
วันนี้ซีไม่มีเรียนในตอนเช้าจึงเข้ามาทำงานเป็นแคชเชียร์ที่ร้านหนังสือแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าใกล้มหาลัย แต่ถึงกระนั้นทีนี่ก็ถือได้ว่าเป็นที่นึงที่ซียังไม่เคยบังเอิญเจอดันเต้เลยซักครั้ง…รึเปล่า?
ร่างบางก้มหน้าก้มตาจดรายการหนังสืออยู่หลังเคาเตอร์ จนสายตาเหลือบไปเห็นหนังสือที่ลูกค้ายื้นมาสำหรับให้คิดเงิน มือบางเอื้อมไปหยิบคว้าและกำลังจะเงยหน้าส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเหมือนที่ทำกับลูกค้าทุกคนแต่แล้ว…
“น้องซี?”
สวรรค์ช่างกลั่นแกล้ง! ไม่ใช่นะๆ ต้องไม่ใช่คนนั้นสิ
ร่างบางคอยๆเงยหน้ามองให้เต็มตาอย่างพยามพิสูจน์ แต่ก็ต้องรีบหลบวูบเมื่อประสานสายตาเข้ากับดวงตาสีอ่อนที่คุ้นเคย
“พี่ดันเต้”
“บังเอิญเจอกันอีกแล้วนะ”จริงๆแล้วเขาสังเกตเห็นร่างบางตั้งแต่อยู่นอกร้านเลยจงใจเข้ามาซื้อหนังสือเพื่อหาโอกาสทักอีกฝ่ายให้ตกใจเล่น
“ครับ 159ครับ”ซีรับคำแล้วก้มหน้าก้มตาคิดเงิน พอรับเงินจากอีกฝ่ายแล้วทอนเงินให้เรียบร้อยก็หันไปจดจ่ออยู่กับการห่อปกหนังสือแทน
“ซีทำงานกี่ที่กันแน่เนี่ย”
“หลักๆก็สามที่ครับ” ดันเต้เดาอยู่ในใจหลังได้ฟังคำตอบ หลักๆสามที่คงจะเป็นที่นี่ ร้านอาหาร แล้วก็ที่บาร์สินะ
“หลักๆ? ยังทำงานยิบย่อยอย่างอื่นอีกหรอ”
“ครับ ก็แล้วแต่งานไป”เมื่อซีห่อปกเป็นการเรียบร้อยก็เอื่อมมือไปหยิบถุงแล้วจึงใส่หนังสือลงไปให้เรียบร้อย
“ทำไมต้องทำงานเยอะขนาดนั้นด้วยละ”
“อ่า ผมมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินนิดหน่อยน่ะครับ นี่ครับหนังสือ”ซีหาทางตอบเลี่ยงออกไปเสียงเบา ก่อนจะยื้นถุงหนังสือให้อีกฝ่าย แต่พอดันเต้รับไปร่างสูงก็ยังไม่ยอมขยับไปไหน
“ขอบใจ แล้ววันนี้เราไม่มีเรียนหรอ”
“มีตอนบ่ายน่ะครับ”
“พี่ก็เรียนบ่ายเหมือนกัน นี่ก็ใกล้แล้ว เดี๋ยวไปด้วยกันนะ”
“อ๊ะ! ไม่ต้องหรอกครับ”พอคิดว่าต้องใกล้ชิดกับคนตรงหน้าไปมากกว่านี้ซีก็รีบปฎิเสธทันที
“ไม่เป็นไรๆ ยังไงก็ทางเดียวกัน พี่รอหน้าร้านนะ”ใบหน้าหล่อเหลายังปรากฎยิ้มบางตามแบบฉบับ แล้วมือหนาก็ชี้ออกไปหน้าร้านเป็นการบ่งบอกก่อนจะขยับร่างเดินผละออกไป
“เดี๋ยวสิครับ!”ซีพยายามรั้งอีกฝ่ายไว้แต่ไม่ทันเสียแล้วดันเต้ก้าวขายาวๆของตนนำลิ่วไปหน้าร้านเป็นที่เรียบร้อย
ซีไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมรุ่นพี่คนนี้ถึงชอบมายุ่งกับเขานัก ต่อให้พยายามหนีมากเท่าไรอีกฝ่ายก็จะคอยมาปรากฎอยู่ตรงหน้าเสมอ เขาไม่เข้าใจจุดประสงค์ของคนๆนี้เลยจริงๆ
ถึงเขาจะเป็นรุ่นน้องที่รู้จักแต่ยังไงก็อยู่คนละคณะ ถ้าจะเป็นเรื่องเมื่อคืนงานเลี้ยงตัวเขาเป็นผู้ชายซึ่งพี่ดันเต้ก็ยอมรับว่ามันเป็นไปไม่ได้ถึงเขาจะยังแอบหวั่นๆว่าอีกฝ่ายจะนึกเอะใจก็เถอะ แถมเรื่องพี่สาวก็เครียร์ไปแล้วแท้ๆ ทำไมจะต้องเข้ามาใกล้ชิดกับเขาแบบนั้นด้วย หรือไม่ความใจดีอ่อนโยนแบบนี้คงมีให้กับทุกคนสินะ
ซีคิดไปคิดมาจนเริ่มสับสน สุดท้ายแล้วก็ยังหาคำตอบของการกระทำของพี่ดันเต้ไม่ได้อยู่ดี เขาเลยได้แต่ต้องพักเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้วผลัดเวรกับคนที่มาเข้ากะ ก่อนจะออกไปหาร่างสูงที่ยืนพิงขอบระเบียงรออยู่
“ไปกันเถอะ”
ร่างหนาออกเดินนำ ซึ่งซีก็ได้แต่เดินตามหลังไปเงียบๆ ตลอดทางเขาเห็นหลายๆคนมองตามพี่ดันเต้กันจนเหลียวหลัง เรียกได้ว่าร่างของคนตรงหน้านี้เป็นจุดรวมความสนใจมากๆเลยที่เดียว เขาที่ไม่คุ้นชินกับการถูกจ้องมองโดยคนมากๆอดจะรู้สึกเกร็งไม่ได้ เลยได้แต่ก้มหน้ามองขาคนตรงหน้าแล้วรีบเดินตามขายาวๆนั้นไปเท่านั้น
ด้วยช่วงขาที่ยาว และระยะก้าวที่กว้างทำให้จังหวะการก้าวเดินของดันเต้และซีค่อนข้างแตกต่างกันอยู่ ทำให้เขาต้องค่อยเร่งฝีเท้าเพื่อตามอีกฝ่ายให้ทันแต่ผ่านใปซักพักเมื่อพอรับรู้ได้ถึงดวงตาสีอ่อนที่มองมาที่ตนชั่วครู่ระยะก้าวของขายาวๆที่เขาก้มมองอยู่ก็สั้นลงแถมจังหวะยังช้าลงกว่าเดิมอีกด้วย ทำให้ซีสามารถกลับมาเดินในจังหวะปกติได้อีกครั้งแล้วก้าวเดินไปพร้อมกับร่างหนาที่ชะลอฝีเท้าจนมายืนอยู่ข้างกัน
รุ่นพี่ชะลอฝีเท้าเพื่อเขา…เมื่อคิดได้ดังนั้นไม่รู้ทำไมใจของซีกลับรู้สึกพองโตไปกับความเอาใจใส่เล็กๆนั้น
ตลอดการเดินทางมาถึงมหาลัยไม่มีบทสนทนาใดๆระหว่างซีกับดันเต้ มีแต่ร่างบางที่คอยเหลือบมองคนขับอยู่เงียบๆเหมือนกำลังตัดสินใจบางอย่างก่อนจะเอ่ยปากขอให้อีกฝ่ายไปส่งที่คณะแฟชั่นดีไซเนอร์เนื่องจากมีเรื่องต้องคุยกับนิวก่อน ซึ่งดันเต้ก็ไม่ปริปากซักถามอะไรนอกจากพาไปส่งให้ถึงที่อย่างใจดี
“ขอบคุณมากครับ”
“ไม่เป็นไร”ชายหนุ่มเพียงยิ้มให้อย่างเอ็นดูส่งร่างบางลงจากรถไปเท่านั้น
เมื่อรถเบนซ์คันงามเคลื่อนตัวออกไปซีก็หยิบโทรศัพท์ต่อถึงนิวทันที และเพียงไม่นานร่างเล็กๆของเพื่อนสนิทก็วิ่งลงจากอาคารมาหาทันที
“มีอะไรหรอซี มาหากูถึงที่คณะ”นิวถามอย่างสงสัยพรางทรุดนั่งลงตรงข้ามโต๊ะม้าหินหน้าคณะที่ซีนั่งอยู่ก่อนแล้ว
“คือ…เราว่าจะบอกความจริงกับพี่ดันเต้น่ะ”
“ห๊า! เอาจริงงะคิดดีๆนะเว้ย”
“อื้อ เราว่าพี่เขาก็ออกจะใจดี บอกความจริงไปคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง”ถึงซีจะพูดไปแบบนั้นแต่ดวงตาหลังกรอบแว่นนั้นยังฉายประกายความกังวลอย่างปิดไม่มิดซึ่งก็ไม่อาจรอดพ้นสายตานิวไปได้
ทั้งที่ตัวใหญ่กว่าเขาแท้ๆแต่เรื่องจิตใจน่ะอ่อนไหวกว่าเขาเยอะเลยอดจะเป็นห่วงไม่ได้ แต่เมื่ออีกฝ่ายพูดมาแบบนี้แล้วเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากคอยช่วยเท่านั้น
“เมื่อมึงตัดสินใจแล้วกูก็ไม่ขัด ไว้กูจะไปช่วยพูดอีกแรงแล้วกันนะ”
“อื้อ”
วันนี้หลังจากเลิกคลาสซีก็ตรงมาห้องชมรมพร้อมทอฝัน เนื่องจากไม่ใช่เวรรับน้องของพวกเขา ซีจึงอยากมาเข้าชมรมให้จิตใจสงบซักหน่อย ยังไงซะคณะคหกรรมของเขาก็ไม่ได้เคร่งเครียดเรื่องการรับน้องเท่ากับพวกคณะวิศวะพวกรุ่นพี่เลยไม่ได้ไปร่วมการรับน้องทั้งหมดแต่จะผลัดกันไปตามวัน จะรวมตัวกันจริงๆก็จะช่วงวันท้ายๆนู้น
ซีเดินคุยกับทอฝันมาเรื่อยจนถึงห้องชมรม มือบางเอื่อมไปผลักประตูให้เปิดออกแต่เพียงชั่วครู่เดียวที่เห็นสิ่งที่อยู่ภานในห้องซีก็รีบดึงประตูปิดกลับมาทันที
“มีอะไรหรอซี ทำไมไม่เข้าไปละ”ทอฝันเอ่ยถามอย่างสงสันเมื่อเห็นท่าทางแปลกๆของเพื่อนและหน้าที่จู่ๆก็ซีดลง
“ไม่เข้ามาหรอ? น้องซี”ประตูบานตรงหน้าถูกเปิดออกอีกครั้งด้วยคนด้านใน ร่างหนาใหญ่แบบคนมีสัญชาติฝรั่งยืนเด่นอยู่เต็มประตู
“พี่ดันเต้!”ฝันร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นชายในฝันปรากฎกายอยู่ต่อหน้า ซึ่งรุ่นพี่หนุ่มก็หันไปยิ้มละลายใจให้หญิงสาวเก็บไปฝันอีกหลายคืน
“ว่าไง ไม่เข้าหรอ?”ดันเต้มองร่างบางอย่างนึงขำ ที่ดูจะแข็งค้างไปแล้วเมื่อมาเจอเขาที่นี่อย่างคาดไม่ถึง นี่เป็นสิ่งที่เขาขอจากรักษ์เมื่อวันที่เจ้าตัวเอาผ้าเช็ดหน้ามาคืน
ขอมาดูร่างเล็กทำขนมที่ชมรมซึ่งเขาเองก็ไม่ข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงขออะไรแบบนั้น แต่เพื่อนหน้านิ่งของเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมวันนี้ที่เขามายังไล่สมาชิกชมรมคนอื่นกลับไปหมดโดยบอกว่าไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่นวายเพราะรำคาญเสียงกรี๊ดกร้าด
เมื่อเสียงทุ่มนุ่มช่วยกระตุ้นซีถึงสามารถเรียกสติให้กลับเข้าร่างแล้วกล่าวตอบออกไป“ขะ เข้าครับ อ่า…สวัสดีครับ”
“พี่ดันเต้คะ พี่ดันเต้มาทำอะไรหรอคะ”ทอฝันที่ฟื้นสติจากรอยยิ้มกระชากใจเอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น ซึ่งดันเต้ก็รีบดึงเพื่อนมาอ้างทันทีเพราะหากบอกความจริงไปกลัวร่างบางจะหนีหายไปซะก่อน
“พี่มาหารักษ์น่ะ
“พี่รู้จักพี่รักษ์ด้วยหรอคะ”แล้วสายตาของทอฝันก็หันไปมองประธานชมรมที่นั่งอยู่ในห้องอย่างอยากรู้
“ตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วละ”
“โหย พี่รักษ์รู้จักพี่ดันเต้ก็ไม่บอก”พอได้คำตอบหญิงสาวก็ส่งเสียงตัดพ้อไปยังคนหน้าตายที่ไม่คิดจะแยแสซักนิดเป็นเชิงว่าก็เธอไม่ได้ถาม
“แล้วจะยืนคุยกันอยู่ตรงนี้หรือไง ไม่เข้ามาข้างในเล่า มึงก็ขว้างทางน้องเขาอยู่ได้ไอ้เต้”เพื่อนสาวที่ขอติดสอยห้อยตามหนุ่มลูกครึ่งมาดด้วยเอ็ดเข้าให้ แล้วลุกออกจากเก้าอี้มายืนอยู่ข้างๆดันเต้เมื่อเห็นว่าไม่ยอมเข้าห้องกันมาซักที แล้วอดจะทักไม่ได้เมื่อเห็นหน้าคนที่เพื่อนเธอตั้งใจมาหาเต็มตา
“นี่น่ะหรอ น้องซีที่แกว่า”หน้าสวยจัง แถมตัวก็ผอมบางเชียวถ้าไม่ใส่เครื่องแบบนักศึกษาชายอยู่มองผ่านๆเธอนึกว่าผู้หญิง
“อื้อ ส่วนนี้น้องทอฝัน”ดันเต้รับคำแล้วผายมือแนะนำรุ่นน้องสาวอีกคน ก่อนจะหันมาแนะนำเพื่อนตัวเอง
“แล้วนี่กวางเพื่อนพี่”ซึ่งรุ่นน้องทั้งสองก็ยกมือไหว้หญิงสาวอย่างพร้อมเพียงแล้วทั้งหมดก็เดิยเข้ามาในห้อง ซึ่งซีก็อดจะแปลกใจไม่ได้ที่ไม่เห็นสมาชิกชมรมคนอื่นๆอยู่เลยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากถามอะไร
“น้องซีคุ๊กกี๊ที่เราทำให้เต้มันวันนั้นน่ะ พี่ไปแย่งมันกินอร่อยมากเลยน้า วันนี้พี่เลยขอตามไอ้เต้มาอยากมาชิมฝีมือเราอีก”กวางบอกถึงสาเหตุการมาซึ่งทำให้ซีเผยยิ้มกว้างให้เจ้าของดวงตาสีอ่อนที่มองอยู่ใจกระตุก
“ขอบคุณครับ วันนี้ผมจะทำให้ลองชิมอีกนะครับ”
“เดี๋ยวฝันช่วยนะ”เมื่อเพื่อนสาวขันอาสาซีก็หันไปยิ้มให้ทีนึงแล้วเดินไปหยิบอุปกรณ์มาเตรียมทำขนม
พวกรุ่นพี่ก็นั่งคุยกันไป ส่วนพวกรุ่นน้องก็ทำขนมกันอยู่ไม่ห่าง ซีตั้งอกตั้งใจทำขนมเป็นพิเศษเมื่อมีคนตั้งใจมาทานขนมของเขา แต่ทุกขั้นตอนเจ้าตัวก็จะยิ้มน้อยๆไปด้วยอย่างมีสุข พาให้รุ่นพี่ร่างสูงที่มองมาอยู่ตลอดเวลาเผลอยิ้มไปด้วย
แต่การกระทำนั้นเหมือนจะไปเข้าตาทอฝันเข้าให้เต็มๆ หญิงสาวจึงขยับตัวช้าๆไปกระซิบกระซาบกับรุ่นพี่อีกคนที่ดูเหมือนจะสังเกตเห็นความผิดปกตินี้เหมือนกัน
“พี่กวางสังเกตอะไรมั้ย”
“เรากำลังคิดเหมือนที่พี่คิดอยู่ใช่มั้ย”เมื่อเห็นแนวร่วมกวางก็หันมากระซิบด้วยทันที
“แต่เหมือนดูเหมือนแม้แต่เจ้าตัวเองจะยังไม่รู้ตัวเลยนะคะ”โธ่โถสุดหล่อของฝัน ถ้าเพื่อเพื่อนแล้วฝันจะยอมตัดใจค่ะ
“ก็คงอย่างงั้น เราคงต้องช่วยแล้วละ”
“งั้นก่อนอื่นเราคงต้องกำจัดก้างก่อนนะคะ”ทอฝันว่าแล้วก็ส่งสายตาไปที่ประตูเป็นเชิงให้มองตาม จึงได้เห็นร่างเล็กขาประจำกำลังจะก้าวเข้ามาในห้อง
“เดี๋ยวจัดการให้”น้ำเสียงเรียบนิ่งที่จู่ๆดังมาจากข้างหลังของสองสาว ทำให้ฝันกับกวางต้องมองตามหนุ่มผิวเข้มที่คาดว่าคงจะฟังพวกเธอมาตั้งแต่ต้นอย่างตกใจ
ร่างสูงเดินตรงดิ่งไปที่ประตูอย่างรวดเร็วและคว้าเอาร่างเล็กที่กำลังจะเปิดปากเรียกเพื่อนลับหายออกจากห้องไปแบบที่คนอื่นๆยังไม่ทันรู้ตัว
“ก็ไม่ได้ว่าให้กำจัดตอนนี้ซักหน่อย”กวางมองตามเพื่อนหนุ่มอย่างอ่อนใจและได้แต่หัวเราะแห้งๆ
“แต่ก้างที่ฝันว่ายังมีชิ้นใหญ่อยู่อีกชิ้นนะคะ”ว่าแล้วก็นึกไปถึงเพื่อนหนุ่มที่เธอแค่ดูก็รู้แล้วว่ากำลังคิดไม่ซื่อกับซีแน่ๆ
-----------------------------------------------
ใครหลงเข้ามาอ่านก็ทิ้งคำวิจารณ์กันไว้บ้างก็ได้นะคะ^^
วันนี้ซีไม่มีเรียนในตอนเช้าจึงเข้ามาทำงานเป็นแคชเชียร์ที่ร้านหนังสือแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าใกล้มหาลัย แต่ถึงกระนั้นทีนี่ก็ถือได้ว่าเป็นที่นึงที่ซียังไม่เคยบังเอิญเจอดันเต้เลยซักครั้ง…รึเปล่า?
ร่างบางก้มหน้าก้มตาจดรายการหนังสืออยู่หลังเคาเตอร์ จนสายตาเหลือบไปเห็นหนังสือที่ลูกค้ายื้นมาสำหรับให้คิดเงิน มือบางเอื้อมไปหยิบคว้าและกำลังจะเงยหน้าส่งยิ้มให้อีกฝ่ายเหมือนที่ทำกับลูกค้าทุกคนแต่แล้ว…
“น้องซี?”
สวรรค์ช่างกลั่นแกล้ง! ไม่ใช่นะๆ ต้องไม่ใช่คนนั้นสิ
ร่างบางคอยๆเงยหน้ามองให้เต็มตาอย่างพยามพิสูจน์ แต่ก็ต้องรีบหลบวูบเมื่อประสานสายตาเข้ากับดวงตาสีอ่อนที่คุ้นเคย
“พี่ดันเต้”
“บังเอิญเจอกันอีกแล้วนะ”จริงๆแล้วเขาสังเกตเห็นร่างบางตั้งแต่อยู่นอกร้านเลยจงใจเข้ามาซื้อหนังสือเพื่อหาโอกาสทักอีกฝ่ายให้ตกใจเล่น
“ครับ 159ครับ”ซีรับคำแล้วก้มหน้าก้มตาคิดเงิน พอรับเงินจากอีกฝ่ายแล้วทอนเงินให้เรียบร้อยก็หันไปจดจ่ออยู่กับการห่อปกหนังสือแทน
“ซีทำงานกี่ที่กันแน่เนี่ย”
“หลักๆก็สามที่ครับ” ดันเต้เดาอยู่ในใจหลังได้ฟังคำตอบ หลักๆสามที่คงจะเป็นที่นี่ ร้านอาหาร แล้วก็ที่บาร์สินะ
“หลักๆ? ยังทำงานยิบย่อยอย่างอื่นอีกหรอ”
“ครับ ก็แล้วแต่งานไป”เมื่อซีห่อปกเป็นการเรียบร้อยก็เอื่อมมือไปหยิบถุงแล้วจึงใส่หนังสือลงไปให้เรียบร้อย
“ทำไมต้องทำงานเยอะขนาดนั้นด้วยละ”
“อ่า ผมมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินนิดหน่อยน่ะครับ นี่ครับหนังสือ”ซีหาทางตอบเลี่ยงออกไปเสียงเบา ก่อนจะยื้นถุงหนังสือให้อีกฝ่าย แต่พอดันเต้รับไปร่างสูงก็ยังไม่ยอมขยับไปไหน
“ขอบใจ แล้ววันนี้เราไม่มีเรียนหรอ”
“มีตอนบ่ายน่ะครับ”
“พี่ก็เรียนบ่ายเหมือนกัน นี่ก็ใกล้แล้ว เดี๋ยวไปด้วยกันนะ”
“อ๊ะ! ไม่ต้องหรอกครับ”พอคิดว่าต้องใกล้ชิดกับคนตรงหน้าไปมากกว่านี้ซีก็รีบปฎิเสธทันที
“ไม่เป็นไรๆ ยังไงก็ทางเดียวกัน พี่รอหน้าร้านนะ”ใบหน้าหล่อเหลายังปรากฎยิ้มบางตามแบบฉบับ แล้วมือหนาก็ชี้ออกไปหน้าร้านเป็นการบ่งบอกก่อนจะขยับร่างเดินผละออกไป
“เดี๋ยวสิครับ!”ซีพยายามรั้งอีกฝ่ายไว้แต่ไม่ทันเสียแล้วดันเต้ก้าวขายาวๆของตนนำลิ่วไปหน้าร้านเป็นที่เรียบร้อย
ซีไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมรุ่นพี่คนนี้ถึงชอบมายุ่งกับเขานัก ต่อให้พยายามหนีมากเท่าไรอีกฝ่ายก็จะคอยมาปรากฎอยู่ตรงหน้าเสมอ เขาไม่เข้าใจจุดประสงค์ของคนๆนี้เลยจริงๆ
ถึงเขาจะเป็นรุ่นน้องที่รู้จักแต่ยังไงก็อยู่คนละคณะ ถ้าจะเป็นเรื่องเมื่อคืนงานเลี้ยงตัวเขาเป็นผู้ชายซึ่งพี่ดันเต้ก็ยอมรับว่ามันเป็นไปไม่ได้ถึงเขาจะยังแอบหวั่นๆว่าอีกฝ่ายจะนึกเอะใจก็เถอะ แถมเรื่องพี่สาวก็เครียร์ไปแล้วแท้ๆ ทำไมจะต้องเข้ามาใกล้ชิดกับเขาแบบนั้นด้วย หรือไม่ความใจดีอ่อนโยนแบบนี้คงมีให้กับทุกคนสินะ
ซีคิดไปคิดมาจนเริ่มสับสน สุดท้ายแล้วก็ยังหาคำตอบของการกระทำของพี่ดันเต้ไม่ได้อยู่ดี เขาเลยได้แต่ต้องพักเรื่องนี้ไว้ก่อนแล้วผลัดเวรกับคนที่มาเข้ากะ ก่อนจะออกไปหาร่างสูงที่ยืนพิงขอบระเบียงรออยู่
“ไปกันเถอะ”
ร่างหนาออกเดินนำ ซึ่งซีก็ได้แต่เดินตามหลังไปเงียบๆ ตลอดทางเขาเห็นหลายๆคนมองตามพี่ดันเต้กันจนเหลียวหลัง เรียกได้ว่าร่างของคนตรงหน้านี้เป็นจุดรวมความสนใจมากๆเลยที่เดียว เขาที่ไม่คุ้นชินกับการถูกจ้องมองโดยคนมากๆอดจะรู้สึกเกร็งไม่ได้ เลยได้แต่ก้มหน้ามองขาคนตรงหน้าแล้วรีบเดินตามขายาวๆนั้นไปเท่านั้น
ด้วยช่วงขาที่ยาว และระยะก้าวที่กว้างทำให้จังหวะการก้าวเดินของดันเต้และซีค่อนข้างแตกต่างกันอยู่ ทำให้เขาต้องค่อยเร่งฝีเท้าเพื่อตามอีกฝ่ายให้ทันแต่ผ่านใปซักพักเมื่อพอรับรู้ได้ถึงดวงตาสีอ่อนที่มองมาที่ตนชั่วครู่ระยะก้าวของขายาวๆที่เขาก้มมองอยู่ก็สั้นลงแถมจังหวะยังช้าลงกว่าเดิมอีกด้วย ทำให้ซีสามารถกลับมาเดินในจังหวะปกติได้อีกครั้งแล้วก้าวเดินไปพร้อมกับร่างหนาที่ชะลอฝีเท้าจนมายืนอยู่ข้างกัน
รุ่นพี่ชะลอฝีเท้าเพื่อเขา…เมื่อคิดได้ดังนั้นไม่รู้ทำไมใจของซีกลับรู้สึกพองโตไปกับความเอาใจใส่เล็กๆนั้น
ตลอดการเดินทางมาถึงมหาลัยไม่มีบทสนทนาใดๆระหว่างซีกับดันเต้ มีแต่ร่างบางที่คอยเหลือบมองคนขับอยู่เงียบๆเหมือนกำลังตัดสินใจบางอย่างก่อนจะเอ่ยปากขอให้อีกฝ่ายไปส่งที่คณะแฟชั่นดีไซเนอร์เนื่องจากมีเรื่องต้องคุยกับนิวก่อน ซึ่งดันเต้ก็ไม่ปริปากซักถามอะไรนอกจากพาไปส่งให้ถึงที่อย่างใจดี
“ขอบคุณมากครับ”
“ไม่เป็นไร”ชายหนุ่มเพียงยิ้มให้อย่างเอ็นดูส่งร่างบางลงจากรถไปเท่านั้น
เมื่อรถเบนซ์คันงามเคลื่อนตัวออกไปซีก็หยิบโทรศัพท์ต่อถึงนิวทันที และเพียงไม่นานร่างเล็กๆของเพื่อนสนิทก็วิ่งลงจากอาคารมาหาทันที
“มีอะไรหรอซี มาหากูถึงที่คณะ”นิวถามอย่างสงสัยพรางทรุดนั่งลงตรงข้ามโต๊ะม้าหินหน้าคณะที่ซีนั่งอยู่ก่อนแล้ว
“คือ…เราว่าจะบอกความจริงกับพี่ดันเต้น่ะ”
“ห๊า! เอาจริงงะคิดดีๆนะเว้ย”
“อื้อ เราว่าพี่เขาก็ออกจะใจดี บอกความจริงไปคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง”ถึงซีจะพูดไปแบบนั้นแต่ดวงตาหลังกรอบแว่นนั้นยังฉายประกายความกังวลอย่างปิดไม่มิดซึ่งก็ไม่อาจรอดพ้นสายตานิวไปได้
ทั้งที่ตัวใหญ่กว่าเขาแท้ๆแต่เรื่องจิตใจน่ะอ่อนไหวกว่าเขาเยอะเลยอดจะเป็นห่วงไม่ได้ แต่เมื่ออีกฝ่ายพูดมาแบบนี้แล้วเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากคอยช่วยเท่านั้น
“เมื่อมึงตัดสินใจแล้วกูก็ไม่ขัด ไว้กูจะไปช่วยพูดอีกแรงแล้วกันนะ”
“อื้อ”
วันนี้หลังจากเลิกคลาสซีก็ตรงมาห้องชมรมพร้อมทอฝัน เนื่องจากไม่ใช่เวรรับน้องของพวกเขา ซีจึงอยากมาเข้าชมรมให้จิตใจสงบซักหน่อย ยังไงซะคณะคหกรรมของเขาก็ไม่ได้เคร่งเครียดเรื่องการรับน้องเท่ากับพวกคณะวิศวะพวกรุ่นพี่เลยไม่ได้ไปร่วมการรับน้องทั้งหมดแต่จะผลัดกันไปตามวัน จะรวมตัวกันจริงๆก็จะช่วงวันท้ายๆนู้น
ซีเดินคุยกับทอฝันมาเรื่อยจนถึงห้องชมรม มือบางเอื่อมไปผลักประตูให้เปิดออกแต่เพียงชั่วครู่เดียวที่เห็นสิ่งที่อยู่ภานในห้องซีก็รีบดึงประตูปิดกลับมาทันที
“มีอะไรหรอซี ทำไมไม่เข้าไปละ”ทอฝันเอ่ยถามอย่างสงสันเมื่อเห็นท่าทางแปลกๆของเพื่อนและหน้าที่จู่ๆก็ซีดลง
“ไม่เข้ามาหรอ? น้องซี”ประตูบานตรงหน้าถูกเปิดออกอีกครั้งด้วยคนด้านใน ร่างหนาใหญ่แบบคนมีสัญชาติฝรั่งยืนเด่นอยู่เต็มประตู
“พี่ดันเต้!”ฝันร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นชายในฝันปรากฎกายอยู่ต่อหน้า ซึ่งรุ่นพี่หนุ่มก็หันไปยิ้มละลายใจให้หญิงสาวเก็บไปฝันอีกหลายคืน
“ว่าไง ไม่เข้าหรอ?”ดันเต้มองร่างบางอย่างนึงขำ ที่ดูจะแข็งค้างไปแล้วเมื่อมาเจอเขาที่นี่อย่างคาดไม่ถึง นี่เป็นสิ่งที่เขาขอจากรักษ์เมื่อวันที่เจ้าตัวเอาผ้าเช็ดหน้ามาคืน
ขอมาดูร่างเล็กทำขนมที่ชมรมซึ่งเขาเองก็ไม่ข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงขออะไรแบบนั้น แต่เพื่อนหน้านิ่งของเขาก็ไม่ได้ว่าอะไร แถมวันนี้ที่เขามายังไล่สมาชิกชมรมคนอื่นกลับไปหมดโดยบอกว่าไม่อยากให้เกิดเรื่องวุ่นวายเพราะรำคาญเสียงกรี๊ดกร้าด
เมื่อเสียงทุ่มนุ่มช่วยกระตุ้นซีถึงสามารถเรียกสติให้กลับเข้าร่างแล้วกล่าวตอบออกไป“ขะ เข้าครับ อ่า…สวัสดีครับ”
“พี่ดันเต้คะ พี่ดันเต้มาทำอะไรหรอคะ”ทอฝันที่ฟื้นสติจากรอยยิ้มกระชากใจเอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น ซึ่งดันเต้ก็รีบดึงเพื่อนมาอ้างทันทีเพราะหากบอกความจริงไปกลัวร่างบางจะหนีหายไปซะก่อน
“พี่มาหารักษ์น่ะ
“พี่รู้จักพี่รักษ์ด้วยหรอคะ”แล้วสายตาของทอฝันก็หันไปมองประธานชมรมที่นั่งอยู่ในห้องอย่างอยากรู้
“ตั้งแต่ปีหนึ่งแล้วละ”
“โหย พี่รักษ์รู้จักพี่ดันเต้ก็ไม่บอก”พอได้คำตอบหญิงสาวก็ส่งเสียงตัดพ้อไปยังคนหน้าตายที่ไม่คิดจะแยแสซักนิดเป็นเชิงว่าก็เธอไม่ได้ถาม
“แล้วจะยืนคุยกันอยู่ตรงนี้หรือไง ไม่เข้ามาข้างในเล่า มึงก็ขว้างทางน้องเขาอยู่ได้ไอ้เต้”เพื่อนสาวที่ขอติดสอยห้อยตามหนุ่มลูกครึ่งมาดด้วยเอ็ดเข้าให้ แล้วลุกออกจากเก้าอี้มายืนอยู่ข้างๆดันเต้เมื่อเห็นว่าไม่ยอมเข้าห้องกันมาซักที แล้วอดจะทักไม่ได้เมื่อเห็นหน้าคนที่เพื่อนเธอตั้งใจมาหาเต็มตา
“นี่น่ะหรอ น้องซีที่แกว่า”หน้าสวยจัง แถมตัวก็ผอมบางเชียวถ้าไม่ใส่เครื่องแบบนักศึกษาชายอยู่มองผ่านๆเธอนึกว่าผู้หญิง
“อื้อ ส่วนนี้น้องทอฝัน”ดันเต้รับคำแล้วผายมือแนะนำรุ่นน้องสาวอีกคน ก่อนจะหันมาแนะนำเพื่อนตัวเอง
“แล้วนี่กวางเพื่อนพี่”ซึ่งรุ่นน้องทั้งสองก็ยกมือไหว้หญิงสาวอย่างพร้อมเพียงแล้วทั้งหมดก็เดิยเข้ามาในห้อง ซึ่งซีก็อดจะแปลกใจไม่ได้ที่ไม่เห็นสมาชิกชมรมคนอื่นๆอยู่เลยแต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากถามอะไร
“น้องซีคุ๊กกี๊ที่เราทำให้เต้มันวันนั้นน่ะ พี่ไปแย่งมันกินอร่อยมากเลยน้า วันนี้พี่เลยขอตามไอ้เต้มาอยากมาชิมฝีมือเราอีก”กวางบอกถึงสาเหตุการมาซึ่งทำให้ซีเผยยิ้มกว้างให้เจ้าของดวงตาสีอ่อนที่มองอยู่ใจกระตุก
“ขอบคุณครับ วันนี้ผมจะทำให้ลองชิมอีกนะครับ”
“เดี๋ยวฝันช่วยนะ”เมื่อเพื่อนสาวขันอาสาซีก็หันไปยิ้มให้ทีนึงแล้วเดินไปหยิบอุปกรณ์มาเตรียมทำขนม
พวกรุ่นพี่ก็นั่งคุยกันไป ส่วนพวกรุ่นน้องก็ทำขนมกันอยู่ไม่ห่าง ซีตั้งอกตั้งใจทำขนมเป็นพิเศษเมื่อมีคนตั้งใจมาทานขนมของเขา แต่ทุกขั้นตอนเจ้าตัวก็จะยิ้มน้อยๆไปด้วยอย่างมีสุข พาให้รุ่นพี่ร่างสูงที่มองมาอยู่ตลอดเวลาเผลอยิ้มไปด้วย
แต่การกระทำนั้นเหมือนจะไปเข้าตาทอฝันเข้าให้เต็มๆ หญิงสาวจึงขยับตัวช้าๆไปกระซิบกระซาบกับรุ่นพี่อีกคนที่ดูเหมือนจะสังเกตเห็นความผิดปกตินี้เหมือนกัน
“พี่กวางสังเกตอะไรมั้ย”
“เรากำลังคิดเหมือนที่พี่คิดอยู่ใช่มั้ย”เมื่อเห็นแนวร่วมกวางก็หันมากระซิบด้วยทันที
“แต่เหมือนดูเหมือนแม้แต่เจ้าตัวเองจะยังไม่รู้ตัวเลยนะคะ”โธ่โถสุดหล่อของฝัน ถ้าเพื่อเพื่อนแล้วฝันจะยอมตัดใจค่ะ
“ก็คงอย่างงั้น เราคงต้องช่วยแล้วละ”
“งั้นก่อนอื่นเราคงต้องกำจัดก้างก่อนนะคะ”ทอฝันว่าแล้วก็ส่งสายตาไปที่ประตูเป็นเชิงให้มองตาม จึงได้เห็นร่างเล็กขาประจำกำลังจะก้าวเข้ามาในห้อง
“เดี๋ยวจัดการให้”น้ำเสียงเรียบนิ่งที่จู่ๆดังมาจากข้างหลังของสองสาว ทำให้ฝันกับกวางต้องมองตามหนุ่มผิวเข้มที่คาดว่าคงจะฟังพวกเธอมาตั้งแต่ต้นอย่างตกใจ
ร่างสูงเดินตรงดิ่งไปที่ประตูอย่างรวดเร็วและคว้าเอาร่างเล็กที่กำลังจะเปิดปากเรียกเพื่อนลับหายออกจากห้องไปแบบที่คนอื่นๆยังไม่ทันรู้ตัว
“ก็ไม่ได้ว่าให้กำจัดตอนนี้ซักหน่อย”กวางมองตามเพื่อนหนุ่มอย่างอ่อนใจและได้แต่หัวเราะแห้งๆ
“แต่ก้างที่ฝันว่ายังมีชิ้นใหญ่อยู่อีกชิ้นนะคะ”ว่าแล้วก็นึกไปถึงเพื่อนหนุ่มที่เธอแค่ดูก็รู้แล้วว่ากำลังคิดไม่ซื่อกับซีแน่ๆ
-----------------------------------------------
ใครหลงเข้ามาอ่านก็ทิ้งคำวิจารณ์กันไว้บ้างก็ได้นะคะ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ