โฉมงามกับเจ้าชายอสูร yaoi
-
เขียนโดย บันนี่โจแจ็ค
วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 19.31 น.
4 ตอน
1 วิจารณ์
10.10K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2557 19.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) โฉมงามกับเจ้าชายอสูร yaoi 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 2
เจ้าหน้าที่นำทางอัลเบิร์ตเดินลัดเลาะัมาถึงตึกค่อนข้างใหม่ ส่งเขารวมพลกับกลุ่มผู้ผ่านคัดเลือก พวกเขาทั้งหญิงและชายสวมเครื่องแบบบอกบรรดาศักดิ์ ต่างผ่อนอิริยบถบนโซฟาหนานุ่มยาวใหญ่รอพิธีแต่งตั้ง ทานของว่างซึ่งจัดเตรียมไว้ในห้องข้างๆและทำความรู้จักกัน หลายคยสนิทสนมคุ้นเคยกันภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่ส่วนมากรู้จักกันดีอยู่แล้วในแวดวงสังคมชั้นสูง บางคนให้ความสนใจอัลเบิร์ตที่เพิ่งเข้ามา ยิ่งรู้ว่าเขาเป็นญาติเซียนปราบ เขาเลยถูกซักด้วยความอยากรู้อยากเห็น บรรยากาศตื่นเต้นกับอนาคตโดยเฉพาะพิธีรับตำแหน่งอันจะเกิดขึ้นเมื่อก้าวออกจากห้อง รอพิธิคัดเลือกสิ้นสุด ฝ่ายสามัญชนมาสมทบบ้างแล้ว กลุ่มสนทนาตอนนี้แบ่งแยกออกชัดเจน จะมีสองสามคนไม่ถือตัวแวะมาชวนสนทนายกตัวอย่างเช่นเจ้าชายเบนจามินแห่งครู๊กซ์ นายอัลโด จากเรดเฮดแมนฮิลคือคนที่อัลเบิร์ตคุยด้วยเยอะที่สุด ก่อนที่วงสนทนาจะขยายกว้างเรื่องดาบ
" ผมออกแรงดึงแทบตายแน่ะ เอาเข้าจริงผมทำใจแล้วว่าต้องผิดหวัง "
" ฉันดึงนิดเดียวก็ออกล่ะ หูอื้อเลย แสงสีฟ้าเต็มไปหมดประทับใจมากตอนนี้แสงยังติดตาอยู่เลย "
" ฉันก็ประทับใจ เกิดมาเพิ่งเคยเห็นดาบวิเศษ แถมมันสำแดงความวิเศษกับฉันด้วย ฉันเห็นคนตัวยักษ์ดึงกันหน้าดำหน้าแดง ฮ่าๆฮ่า ไหงฉันดึงแป๊ปเดียวก็ออก "
" ครอบครัวผมต้องดีใจมากแน่ๆพวกเขาไม่ได้มาดูหรอกแถมยังบ่นอีกต่างหากเพราะเสียดายค่าเดินทาง แต่ละปีคนผ่านไม่ถึงร้อย ยังไงก็เชื่อว่าผมไม่ผ่าน ค่าเดินทางผมเก็บสะสมเอง บ้านผมอยู่ใกลมากเดินทางข้ามหกเมือง คิดดุสิ ผมติดตราเป็นเซียนปราบสำเร็จแล้วไปเคาะประตูบ้าน แม่ผมตากผ้าอยู่คงกรี๊ดแตกเลยล่ะ " ทุกคนหัวเราะขันกับคำพูดของเขา
" ผมสงสัยว่าทำไมเราจึงมีแสงคนละสีกันนะ ทั้งที่มันออกมาจากดาบเล่มเดียวกัน "
" ผมคิดว่าเพราะพลังของเราไม่เท่ากัน " ส่วนมากพยักน้าเห็นด้วยกับความคิด
" แต่ฉันเคยเห็นเซียนปราบต่อสู้กับปิศาจ พวกเค้าไม่มีออร่าออกเลยนะ ทั้งที่พวกเค้ามีพลังเยอะกว่าเรา "
" ใช่ พี่ชายผมสองคนเป็นเซียนปราบ เวลาใช้พลังร่ายมนต์ไม่มีแสงแบบพวกเราล่ะ " อัลเบิร์ตเอ่ย
" พี่นายเป็นเซียนปราบ เค้าพูดเรื่องดาบว่าไงบ้าง "
" .....เขาบอกแค่ว่าวิธีคัดเลือกแต่ละปีไม่เหมือนกัน แต่ก่อนโหดขนาดมีคนตายแต่เลโอนาร์ทปิดข่าวเลยไม่เคยให้นักข่าวเขียนข่าวเกี่ยวกับวิธีคัดเลือก แต่ญาติพี่น้องคนที่ตายเอาไปบอกคนในเมือง ทำให้คนไม่กล้ามาคัดเลือก เดี๋ยวนี้อัตราการตายลดลงรีเปล่าไม่แน่ใจ " นายเจมส์ ฮาวาร์ตบอกมาจริงๆ
บางคนกระพริบตาปริบ งงกับข้อมูลใหม่ และกำ้กึ่งว่าพูดเล่นรึพูดจริง สาวผมทองกับสาวผมแดงหันมาหัวเราะคิก เกิดการไล่ลำดับใครเข้ามาก่อนหลังภายในกลุ่ม ถามกันเองหาคนตายในพิธีซะงั้น พอดีเด็กสาวคนล่าสุดปรากฏกายขึ้นในห้อง ทั้งกลุ่มพุ่งความสนใจที่เธอ หนึ่งคนถาม รายล้อมด้วยคนอยากรู้อยากเห็น เธอสายหน้างงปนตกใจ ที่ถูกต้อนรับด้วยคำถามว่าข้างนอกมีใครตายไปบ้างรึยัง
" ไม่มีค่ะ!! " ถอนใจกันทำไมเหรอ
" แสงออกมาจากดาบใช่ใหม เพราะมันเป็นดาบวิเศษ เราสัมผัสมัน มันสัมผัสเรา จึงเรียกว่าดาบคัดเลือก " สาวเจ้าวิเคราะห์ต่อ " ถ้าเรามีคุณสมบัติอะไรก็ตามที่สมควาเป็นเซียนปราบมันจึงหลุดออกมา รึพวกนายมีความเห้นว่าอย่างไรกันบ้าง " เป็นการเดาที่ตรงกับใจหลายคนซึ่งส่งเสียงในลำคอเออออ " นายคิดว่าไง " เธอหันมาทางอัลเบิร์ต
" ผมเห็นแสงออกจากตัวเรานะครับไม่ใช่ดาบ ดาบต่างหากสะท้อนแสงจากตัวผม "
" ทายกันได้ใกล้เคียง " บุรุษหนุ่มสวมเครื่องแบบเจ้าหน้าที่เอ่ย ตราบนเครื่องแบบบอกยศสูงกว่าเจ้าหน้าที่ในพิธีและคนมาส่ง เขามากับเด็กหนุ่มสามคน ช่วยเฉลยกลไกดาบเมื่่อมีผู้สนใจกระตือรือร้นอยากทราบ
" ดาบจะถูกชักออกโดยพลังจิต ลำพังพลังกายเพียงอย่างเดียวมิอาจดึงขึ้นได้ เมื่อพวกคุณรีดเร้นรวบรวมพลังทุกชนิดในร่างกายทุ่มลงไปและจิตเอาชนะด้วยเจตนาจูงใจใดก็ตามเพื่อดึงมันขึ้น อำนาจจิตที่แฝงเร้นจักแก่กล้า หากคนผู้ไร้ซึ่งพลังจิตเข้าเป็นเซียนปราบ เขาก็ไม่อาจร่ายคาถาได้สัมฤทธิ์ผล เลโอนาร์ทยังลงเวทย์เพิ่มนำ้หนักสำหรับชายผู้มีเรียวแรงเกินมนุษย์ เช่นที่พวกคุณเห็นชายร่างสูงหนาใหญ่โตเพียงใดยังไม่อาจสามารถ พวกคุณจึงเหนือมนุษย์ ออร่าเหล่านั้นเกิดจากกิตคุณเอง ต่อไปพวกคุณเก่งขึ้นจะรู้จักเรียนรู้ปิดซ่อนจิตเหมือนรุ่นพี่ เมือ่ใจพวกคุณเต็มไปด้วยความลับ....." เขากวาดตารอบห้อง ทุกคนล้วนหยุดฟังตั้งแต่เห็นการมาของเขา บุรุษหนุ่มประกาศให้ผู้ผ่านการคัดเลือกเดินตามเขาไปเพื่อเข้าพิธีรับตำแหน่งเดินขึ้นบันได ผ่านหุ่นเหล็กตามจุดต่างๆตลอดโถงทางเดินพาเหลียวค้าง ยิ่งขนลุกเพราะพิจดูละเอียดเเล้วมันคือเหล็กล้วนๆปราศจากคนควบคุมด้านในแต่สาบานว่า พวกมันเบือนหัวมองตามคณะ คนในคณะยื่นมือลองแตะมัน
" เฮ้ย!! " หุ่นเหล็กฉวยหมับ คณะหยุดเดินหันมามอง เจ้าชายกระเสือกกระสนดึงมือออก เตะต่อยพัลวันลืมว่าเป็นเหล็ก หุ่นเหล็กปล่อยมือ ถีบเจ้าชายลอยกระแทกผนัง ผู้หญิงกรี๊ด เจ้าชายผู้ซุกซนลว่งลงกุมท้องร้องโอย ใครสองคนวิ่งเข้าไปช่วยพยุง ตำแหน่งที่รา่งเจ้าชายกระเด็นตกฟ้องความแรงลูกถีบอย่างดี!! ผู้นำทางเอ่ย
" ระหว่างทาง อย่ายุ่งกับทหารเลโอนาร์ทดีกว่านะ " เฮือก!! ไม่ต้องเตือนก็รู้.... แต่บอกไวกว่านี้จะดีกว่านะ
ผู้นำทางหยุดหน้าประตูบานใหญ่ หุ่นเหล็กร่ายักษ์อารักขาประตูซ้ายขวา เขากำชับเรื่องอย่าลืมทำความเคารพพ่อมดเลโอนาร์ท ก่อนจะโค้งศีรษะให้หุ่นรึอะไรก็ตามที ประตูเลื่อนเปิดตัวเอง พวกเขาแบ่งเป็นสองแถวเดินยำ่่พรมเข้าไปอย่างเป็นระเบียบมาหยุดลงเบื้องหน้าบัลลังค์เตี้ย ทำความเคารพเกือบพร้อมเพรียงต่อบุรุษผู้ประทับบนนั้น พ่อมดเลโอนาร์ท.... บุรุษหัวโล้นเกลี้ยง ร่างหนาใหญ่กำยำ ดูคล้ายยอดนักรบมากกว่าผู้เป็นเอกในเวทมนตร์ปีนี้ได้มาหกสิบเจ็ดคน พ่อมดเลโอนาร์ทใช้สายตาสำรวจคร่า่วๆ ดวงหน้าตกประหม่า ดวงหน้านิ่งเฉย ดวงหน้าเฝ้ารอ จะมีเพชรแท้เม็ดแกร่งซ่อนอยู่กี่ดวง
" เข้ามาใกล้ๆข้าสิ " คนหน้าสุดก้าวเข้ามา ขาสั่นนิดๆ " บอกชื่อเจ้ามา เจ้าคือคนของข้าเเล้ว "
" หม่อมชั้น บิลเลียม คาเพนเตอร์ จากเมืองแองเจอร์สัน พะยะค่ะ "
" บิลเลียม คาเพนเตอร์ เจ้าจะยอมสาบานด้วยหัวใจว่าจะซื่อสัตย์ต่อหน้าที่เซียนปราบที่ข้าจะมอบให้รึไม่ "
" กระหม่อมสาบานพะยะค่ะ " เลโอนาร์ทหยิบเข็มขัดประดับตราเซียนปราบส่งให้วิลเลียม ผู้นำทางเลี่ยงออกไปยืนด้านซ้ายแต่แรกกระซิบแนะนำสั้นๆให้วิลเลียมสวมมัน วิลเลียมสวมมันเก้ๆกังๆเนื่องจากตกประหม่า เสร็จแล้ว ฝ่ามือเลโอนาร์ทเลื่อนประทับอกซ้า้ยวิลเลียม ประกายสีขาวล้อมแขนพ่อมด บิลเลียมกรีดร้อง ร่างสั่นระรัวล่วงทรุดลงกองแทบพื้นทันทีที่เลโอนาร์ทดึงมือกลับ
" เจ้าเป็นเซียนปราบโดยสมบูรณ์ตั้งแต่บัดนี้เป้นต้นไป บิลเลียม คาเพนเตอร์ " ผู้ผ่านคัดเลือกตกใจกันถ้วนหน้า บิลเลียมลงมายืนหอบนิดหน่อย สิริรวมแล้วยังมีชีวิตอยู่ เพียงแต่เจ็บปวดเล็กน้อยรึแค่ตกใจกันแน่จึงร้องโหยหวนตัวสั่นราวถูกไฟดูด ใหนขอลงอหน่อยซิ ผู้นำทางเรียกคนต่อไป
" หม่อมชั้นเจ้าหญิงโซเฟีย จากเมืองแบลคอาวน์เพคะ " " หม่อมชั้นสาบานเพคะ "กรี๊ดดดดดดดด " คนถัดไป
" กระหม่อมเจ้าชายวานูบี เบเบดูดู จากเมืองเบเบดูดู พระเจ้าค่ะ " " กระหม่อมสาบานพระเจ้าค่ะ "" อ๊ากกกกกกกกกกก " คนต่อไป
" กระหม่อม อัลโด คอเนอร์ จากเมืองเร้ดเฮดแมนอิลพะยะค่ะ " " กระหม่อมสาบานพะยะค่ะ "" อ๊าาาาาาาาาาาาาา " คิวถัดไป
" หม่อมชั้นเจ้าชายเบนจามิน จากเมืองครู๊กซ์พะยะค่ะ " " หม่อมชั้นสาบานพะยะค่ะ "" อั่กกกก อั่กกกก อั่กกกก " คิวต่อไป
" กระหม่อม อัลเบิร์ต ฮาร์วาร์ต จากเมืองเซาท์สตาร์พะยะค่ะ " อัลเบิร์ตประสานสายตาสง่าผ่าเผยและหลุบลงตามมารยาทยามรับเข็มขััด ตาไล่จากลำคอหนา ประโยคของแอลผุดกลางมโน
" ปีศาจสีตัวนั่นยอมเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อเข้าไปโค่นจอมเวทย์เลโอนาร์ท แต่ถึงแม้จะหลุดเข้าทัพเซียนไปได้ก็ฆ่าเลโอนาร์ทไม่สำเร็จหรอก เพราะเลโอนาร์ทเป็นอมตะ " ลำตัวหนากำยำ หากต้องศาตราวุธในระยะประชั้นชิดก็คงจะไม่ตายสินะ อัลเบิร์ตละสายตาจากท้องพ่อมด สวมเข็มขัด
" อัลเบิร์ต ฮาร์วาร์ต เจ้าจะยอมสาบานดว้ยหัวใจของเจ้าว่าเจ้าจะซื่อสัตย์ต่อหน้าที่เซียนปราบซึ่งข้าจะแต่งตั้งให้รึไม่ " ณ จุดๆนี้ จะทำเท่ห์ต่อต้า้น ตะโกนปฎิเสธ พุ่งโบกใส่หัวเหม่ง ก่อนจะหันหลังวิ่งออกไปโดนคาถาไล่หลังจนถลาล้มลง คลานกระเสือกกระสนพ้นห้องไปจบชีวิตสวยงามใต้บาทาไอ้หุ่นเหล็ก คงจะไม่ใช่สำหรับผู้ดึงดาบแทบเป็นแทบตายด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกัน มันจึงต้องเอื้อนเอ่ยตามพิธี
" กระหม่อมสาบานพะยะค่ะ " เพื่อให้มือซ้ายเจ้าเหม่งวางบนบ่า มือขวาแนบลงอกข้างซ้าย จากนั้นก็ อั่กก อั่กก อั่กก โยกย้ายส่ายร่างราวสนุกสนานเต็มที่ไม่น้อยหน้าใคร อั่กก อั่กกก อั่กก
แอล ฮาวาร์ต ฉุดแขนอัลเบิร์ต เขาชะงักฝีเท้าตามแรงดึงกับเสียงเรียกชื่อ แอลอมยิ้ม มองเข็มขัดประดับเด่นหราอวดตราเอี่ยมอ่องเส้นที่สามของตระกูล
" พี่ดีใจด้วย สมหวังแล้วนะ " มรกตคู่เรียวจริงใจใสซื่อ อัลเบิร์ตตวัดแขนโอบกอดพี่ชายผู้มายืนดักรอหน้าท้องพระโรง พวกเขาหัวเราะเดินกลับเกวียนซึ่งจอดริมกำแพง เจมส์นั่งเล่นรอ เห้นเขาทั้งคู่เดินใกล้เข้า อ้าปากค้างทันทีที่สายตาโฟกัสเส้นใหม่พาดที่เอวอัลเบิร์ต
" เฮ้ย !! ตกลงแกผ่านเรอะ "
" ครับ " อัลเบิร์ตยิ้มแฉ่ง แต่แอลหน้าจ๋อย
" บ้าชะมัดเลยแอล ถ้ารู้ว่ามันจะได้ ฉันไม่ปล่อยให้มาหรอก ดันได้เฉย !! " เจมส์อาละวาด
" โธ่ อย่างน้อย น้องเรามีพลังจิตเหมือนพวกเราเลยนะ " แอลปลอบใจเจมส์ตามความรู้สึก ทำไงได้ล่ะ เจมส์หน้าบึ้ง หลุดความในใจทีละประโยค บ่นหึ่งๆ
" ได้มันมาชั้นก็ดีใจ หวังว่าจะมาช่วยดูแลสมบัติ มันจะได้ใช้แทนให้คุ้มกับท่พวกเราเอาชีวิตไปเสี่ยงกว่าจะได้มันมาตอนพวกเราเป็นอะไรไป ไอ้บ้านี่เกิดจะมาเป็นเซียนปราบอีกคน แล้วสมบัติล่ะ เงินทอง คฤหาสน์ คุณพ่อบ้านกับแม่บ้านใครจะดูแล " โห นึกว่าห่วงเรา อัลเบิร์ตนึกในใจ ที่แท้ก็ห่วงสมบัติ
" เอาน่าเจมส์ คุณลุงสั่งไว้เขามีสิทธิ์เลือกทางเดินของตัวเอง " แอลเตือน ที่เจมส์ได้แต่สบถออกมา
" บ้าชะมัด แล้วเขาทำอะไรแกบา้งล่ะเลโอนาร์ทน่ะ " อัลเบิร์ตเล่าให้ฟังคร่าวๆ สองพี่น้องนิ่งอึ้ง
" นั่นล่ะ เขาดูดหัวใจนายไปแล้วอย่างที่เล่าแต่แรก ทีนีแกจะไม่มีหัวใจให้ใครอีกนอกจากเลโอนาร์ทกับปีศาจที่มันเดินว่อนกันอยู่ข้างนอก ราชาพวกมันจะกลับมา ถ้าแกไม่เจ๋งจริงหนีภารกิจเลโอนาร์ทจะกำจัดแก สมนำ้หน้า ที่นี้แกก็ไม่มีหัวใจให้สาวที่ใหนแล้ว "
" ใครว่าครับ หัวใจของผมมอบให้เค้าตั้งแต่แรกพบ ทีนี้รา่งกายจะได้ตามไปดุแลหัวใจเสียที " อัลเบิร์ตอมยิ้มนิดๆสีหน้าอ่อนโยน สองพี่น้องอึ้งสนิท จับเค้าลางๆจนได้บทสรุป
" นี่แกอย่าบอกนะว่า แรงจูงใจคือหลงรักสาวในนี้น่ะ " เจมส์ชี้ทััพเซียน อ้าปากหวอ น้องชายก้มหน้าลงกระนั้นก็ซ่อนผิวซับสีเลือดไม่มิด อาการเท่ากับยอมรับกลายๆ เจมส์กับแอลเงียบกริบ พี่ใหญ่หมุนตัวปีนขึึึึึึึึึึึึ้นเกวียน ตามด้วยพี่รองแอล นายช้างเท้าหลัง
" ไร้สาระ "
เกวียนเทียมม้าควบปุเลงกลับ เจมส์ไม่คุยกับน้องชายคนสุดท้องเลย แอลกางหนังสือพิมพ์ที่เจมส์ซื้อติดไม้ติดมือกลับมา เหลือบไปเห็นภาพครึึึ่งหน้าหลัง เจ้าคนขี้บ่นเริ่มบ่น
" ยังจับเจ้าหญิงแอนดันไม่ได้อีก กับแค่เด็กผู้หญิงวัยรุ่นคนเดียว "
" เธออาจจะเก่ง " แอลพลิกหนังสือพิมพ์ควำ่ลงดู
" ชั่วร้ายต่างหาก สมุนปิศาจในคราบมนุษย์ เกิดเป็นมนุษย์ดีๆไม่ชอบ ซ่องสุมเป็นลิ่วล้อราชาปิศาจ "
" ใหนครับ " อัลเบิร์ตเอนตัวชิดเเอล ขอดูรายละเอียดข่าวประกาศจับเจ้าหญฺงแอนดันเต้บ้าง เบียดไปเบียดมา แอลลดหนังสือพิมพ์ลง ดันอัลเบิร์ตที่แทบจะกองหนุนตักรอมร่อ เขายอมเอนกลับมานั่งดีๆ
" แอลมีแฟนรึยังคร้าบ " ตาระยับพราว เท่านั้นล่ะคนที่เงียบไปกรรโชกถาม
" แกถามทำไม " อัลเบิร์ตไม่ตอบ ยังมองแอลซึ่งลอบยักคิ้วให้ก่อนหายไปหายเข้าไปหลังหนังสือพิมพ์ตามเดิม กิริยาที่เล็ดลอดเข้าตาเจมส์
" นี่แกอยา่บอกนะว่า เซียนปราบที่แกหลงรักคือแอลน่ะ " เจมส์ขยับพรวดดึงแอลมากอดไว้ " ห้ามนาเฟ้ยแอลแฟนฉัน ถ้าแกจีบแอลแกตายแน่ " คำประกาศพร้อมคาดโทษเสร็จสรรพ อัลเบิร์ตอ้าปาก
" แอลคือพี่ชายคนที่สองของผมไม่ใช่หรือครับ "
" ที่ใหนล่ะ แอลใช้ฮาร์วาตเพราะแต่งเข้าต่างหาก จำไว้ซะเจ้าบ้า " แอลเหนี่ยวแขนเจมส์ ระบายยิ้ม
" อัลเบิร์ตเค้ารู้แต่แรกแล้วล่ะ " ชายผู้ตกข่าวขมวดคิ้วฉับ " ห๊ะ "
" ตั้งแต่ฉันเดินสะดุดขาเก้าอี้คืนนั้น ต่อดว้ยหัวกระแทกโต๊ะ " แอลเฉลยราบเรียบ เจมส์แปลกใจจริงอยู่ทว่าก็ัรับได้ที่ความรับแตกก่อนแต่แรก ก็ในเมื่อแอลยังไม่เป็นเดือดเป็นร้อนทั้งๆที่เป็นคนขอให้ปิดเรื่องนี้ เจมส์เสียอีกกลับสบายใจ
" รู้ก็ดีแล้ว " เขาทอดร่า่งอิงแอบแอล
" อ่านหนังสือพิมพ์ต่อเถอะแอล ห้ามแอบมองนาเฟ้ย " แอลยิ้มเขิน แต่ก็ยกหนังสือพิมพ์ขึ้นบัง ขาเหยียดยาวสองคู่ทอดเคียงกัน ครึ่งบนทั้งคู่หายไปในหนังสือพิมพ์ อ่านหนังสือพิมพ์ดังจ๊วบจุ๊บ ปล่อยอัลเบิร์ตเผชิญหน้ากับเจ้าหญิงแอนดันสิงเต็มปกหลัง ตาสีฟ้าของเธอสบกับอัลเบิร์ต เรือนผมยาวขับดวงหน้าหวานยิ่งขึ้น อัลเบิร์ตเปล่าสนใจเธอ กำลังตะแคงหูฟังเสียงจุ๊บจ๊วบ ก่อนจะเบือนหน้ามองทิวทัศน์นอกเกวียนอย่างสบายอารมณ์
คฤหาสน์ฮาร์วาร์ต นายเจมส์ผู้ปกครองสูงสุดนั่งจิบนำชายามบ่ายในซุ้มริมสวนเงียบๆ อัลเบิร์ตกำลังเล่นกับนิกสุนัขประจำบ้าน นิกยืนสองข้าใส่อัลเบิร์ต เทียบส่วนสูงเท่าพุงเด็กหนุ่ม อีกสองวันอัลเบิร์ตต้องย้ายเข้าทัพเซียนเพื่อฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วยมอเปล่าและอาวุธ ประสานพลังจิตเข้ากับทุกท่วงท่า ใช้พลังจิตคู่คาถาเวทย์ จะไม่ได้กลับทัพเซียนพักใหญ่จนกว่าเขาพร้อมออกภาคสนามรับภารกิจจึงจะมีอิสระอิสระออกจากทัพเซียน แว่บเถลไถลที่อื่นเหทือนจเมส์กับแอล พอหอมปากหหอมคอแล้วค่อยกลับทัพดังเดิม อัลเบิร์ตเป็นลูกของพี่ชายพ่อเขา เขาทั้งสองเพิ่งได้เจออัลเบิร์ตเมื่อสัปดาห์ก่อน เด็กหนุ่มผมบรอนซ์ ตาสีฟ้า มาตัวเปล่ากับจดหมายฝากฝังจากคุณลุงซึ่งทำงานที่เมืองมิราฌ รูปการณ์บอกว่าคุณลุงคงจะหาชีวิตไม่แล้ว ช่วงแรกอัลเบิร์ตเศร้าซึมน่าเห็นใจ พออยู่ไปซักพัก เจมส์ลงความเห็นว่าอัลเบิร์ตนั้นแท้จริงเป็นเด้กที่กวนประสาทคนนึง ไม่ใช่เพราะเห็นเขาเป็นผู้ปกครองซึ่งมีอายุมากกว่าสองปี แอลอายุห่างแค่ปีเดียวเลยไม่เคารพ เพราะอัลเบิร์ตเคารพเชื่อฟังพวกเขาเจมส์จึงมองออกว่า เด็กนี่กวนประสาทโดยเนื้อแท้แต่มีชั้นเชิงจึงไม่ได้ถูกมองว่าปีนเกลียว แรกๆเจมส์สงสารอัลเบิร์ต พูดดีๆด้วยซึ่งผิดวิสัยเขา เราสองคนเป็นห่วงสุขภาพใจอัลเบิร์ต เสร็จภารกิจไม่กลับทัพเซียนแต่จะมาค้างที่บ้านไม่ต้องการทิ้งอัลเบิร์ตผู้เพิ่งเผชิญจากการสูญเสียไว้ตามลำพังในคฤหาสน์หลังโต แม้จะนอนคนละห้อง ใช่ แอลแคร์เด็กคนนี้มากขนาดขอความร่วมมือพ่อบ้านและสาวใช้ทุกคนให้ช่วยปกปิดความสัมพันธ์แท้จริงของเราต่ออัลเบิร์ต และแยกห้องนอนไม่ให้เขาร่วมห้อง กลัวอัลเบิร์ตระแคะระคาย ช่วงนั้นฝนชอบตกกลางคืนและฟ้าก็ผ่าแล่บเข้ามาทางกระจกหน้าต่างสว่างที เห็นซอกตู้ในเงาตะคุ่มที ถึงจะปิดม่านเสียงก็ดังอยู่ดี บางคืนฝนไตกนิกจะหอนตอนกลางดึกโดยไม่มีสาเหตุ แอลมัวแต่พะวงอัลเบิร์ตที่เพิ่งเสียพ่อจนลืมกระมังว่าเขาเพิ่งเสียลุงไปเช่นกันจึงปล่อยเขานอนคนเดียวทั้งที่เราไม่เคยแยกกันนอน บางคืนเขาแอบย่องผ่านประตูห้องนอนอัลเบิร์ตไปเคาะห้องแอล แอลก็ห้าม เกรงว่าตอนเขาเปิดประตูออกมาอัลเบิร์ตจะบังเอิญเห็นซักครั้ง จะหายตัวไปห้องแอล แอลก็ห้าม เนื่องจากการหายตัวจะเกิดเสียงในอากาศ เด็กอัลเบิร์ตใช่ย่อยเสียที่ใหน วันแรกที่เอาจดหมายมาให้เขาทั้งสองก็หายหัวจ้อย ไปเจออีกทีเป็นเด็กคอกมังกรเสียอย่างนั้น เขาตามกลับมาผ่าจะเป็นเซียนปราบ ทั้งที่พ่อหมอนั่นเกลียดเซียนปราบมาก ทรัพย์สมบัติตระกูลฮาร์วาร์ตมีท่วมท้นให้อยู่สุขสบายไม่สนใจ คืนแรกที่เจมส์เรียกอัลเบิร์ตว่าไอ้เด็กบ้านนอก...
นอกเรื่อง
แอลกำลังหาของกินในครัวเล็กแหล่งเก็บขนม หลังจากเข้านอนซักพัก เจมส์เพิ่งกลับมาจากหาเพื่อน เขาตามเสียงกุกกักเข้ามาดู เรายืนพิงเคานเตอร์กินขนใพลางสนทนากันเรื่องเพี่อน ไม่ได้ติดไฟ เพราะเราเพลินกับช่วงเวลาที่เหมือนเรามีแค่กันและกัน อาศัยแสงจันทร์ลางๆเห็นหน้ากันพอ เจมส์โน้มหาแก้มเงาขาวผ่อง จุมพิตหน้าผากนั่นด้วย
" คิดถึง " พึมพัม
" คิดถึงทำไม อยู่ด้วยกันตลอด " กระซิบ
" ต้องส่งแอลเข้านอนเเล้ว ตั้งแต่อัลเบิร์ตมากินข้าวก็ไม่อิ่ม " คนตัดพ้อซุกไซ้ซอกคอ แอลเกร็งตัว ขยุ้มใหล่เขา
" ไม่อิ่มก็ไปกินสิ " แอลไล่
" ให้กินจริงนะ " ตาวาวพราว
" หมายถึงข้าวไม่ใช่อย่างอื่น " ปากประกบปิดปาก อุตส่าห์เบือนออกปากยังตามกระซิบเคลียแก้ม
" กินแอลอิ่มกว่า "
" ง่วงนอน.... ราตรีสวัสดิ์ " แอลจูบลาปลายคางสี่เหลี่ยม ขืนตัวผละจากวงแขน
" โธ่ อัลเบิร์ตหลับไปแล้วมั้ง " เจมส์ช้อนมือแอลแนบจุมพิตอาวรณ์ แอลเลิกดันเปลี่ยนเป็นโอบกอดแน่น มือหยาบรูดเสื้อขึ้นซุกไซ้กล้ามท้อง ปลดกางเกงแอลลงกองตรงตาตุ่ม บริวารเรือนหลังไม่เป็นปัญหาอยู่แล้ว ฝูงแกะในฝันอัลเบิร์ตวิ่งเล่นกันอิสระเสรี เลิกกระโดดข้ามรั้วที่ละตัวให้เด็กมันนอนนับ เด็กหนุ่มคล้อยสู่ห้วงนิทราแสนสุข.....
ลูกบิดบิดแกร่กก..
คู่รักสะดุ้งเฮือก!!
เจมส์ฉุดแอล ขาแอลเกี่ยวเก้าอี้สะดุดล้มคลานรีบมุดเข้าใต้โต๊ะอาหารทันทีที่ประตูเปิดออก
เสียงหาวหวอด โชคดีที่ชายผ้าปูโต๊ะยาวจรดพื้นอำพราง โต๊ะแคบสำหรับชายวัยรุ่นสองคน ร่างเปลือยท่อนล่างเบียดเกย ซึ่งมันเป็นเรื่องไหวสะท้านสำหรับทั้งสอง แอลสะท้านเพราะลืมกางเกงไว้ข้างนอก สะท้านว่าเจ้าของเท้าเปลือยคืออัลเบิร์ต และสะท้านเพราะถูกลวนลาม เจมส์สะท้านเพราะแอลเบียดแน่นเกิน ยากอดใจ และทั้งสองสะท้านตรงกันคือหากอัลเบิร์ตเปิดไฟจะพบกางเกงปริศนาหล่นอยู่ เสียงนำไหลก่อกแก่ก เท้าเปล่าหันหลังขวับเดินข้ามกองผ้าด้วยความบังเอิญ เจมส์อาศัยจังหวะเลื้อยแขนดึงกางเกงเข้ามา ดำเนินการหาเศษหาเลยต่อไป อัลเบิร์ตหมุนเท้าออกจากห้องไป เจมส์ได้ใจ ใช้นิ้วกับลิ้นปลาหมึกรุกลำยิ่งขึ้น แอลดิ้นหนีจนหัวกระแทกโต๊ะ คลานออกมา กระซิบแรงๆ
" นี่ พอได้แล้ว ประตูปิดไม่สนิท " ซัดคนลามกซักผลั่วะ
" ไอ้เด็กบ้านนอกขึ้นไปแล้ว " พูดระดับเสียงปกติ อุ้มแอลนั่งตัก แกล้งขัดขวางไม่ให้สวมกางเกงสำเร็จ
" หน้าสิ่วหน้าขวานยังจะหื่น ไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลย "
" อัลเบิร์ตไม่รู้หรอก ไม่ได้ติดไฟ "
" ................."
" แอลอยากปกปิดไม่ให้หมอนั่นรู้ต้องเจอแบบนี้ ว่าไปก็สนุกดีเหมือนกัน "
" ................. "
" มันต้องมีกันบ้างนิดหน่อยน่า ก็มันคิดถึง " ยิ้มโชว์ฟันขาวตัดเงามืด แอลใจอ่อน ยอมถูกปล่อยโดนจับโยกเสมือนกล่อมเด็ก
" เจมส์อยากให้อัลเบิร์ตรังเกียจเราเหรอ "
" เฮ้ย !! ใครจะอยาก เดี๋ยวหนีไปล้างคอกมังกรล่ะยุ่ง "
" เป็นพี่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี "
" แหงล่ะ ให้มารู้ได้ไงว่ามีแฟนเป็นผู้ชาย "
" แคร์เหมือนกันเหรอ "
" ก็ใช่ แต่ไม่เห่อเหมือนใครบางคนหรอก " ขมวดคิ้วเหลือกตา ผลักหัวทองหอมแชมพูเบาๆ
" ตอนนี้อยู่เป็นเพื่อนอัลเบิร์ตก่อน พอส่งเข้าโรงเรียนจะได้มีเพื่อน ไม่เหงา แล้วเราค่อยกลับทัพเซียน... ที่นี้ " มรกตคู่เรียวเจ้าของร่างอุ่นบนตักอธิบายอย่างเว้าวอนให้เห็นใจ
" ทีนี้.... " เจมส์ทวนคำตากรุ้มกริ่ม
ทีนี้ อัลเบิร์ตเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอันดับต่อไป หมันตัวจากหลังประตูแง้มๆเพื่อขึ้นห้องนอน โธ่ ผมนึกว่าแมวหลบผมจนชนเก้าอี้ กะจะดักจับมาเล่นเสียหน่อย แอลกับเจมส์หารู้ไม่ ความลับไม่เป็นความลับเสียแล้ว
*******
บอกแล้วเด็กคนนี้มันกวนโอ๊ย สุดท้ายมันก็รู้จนได้เพราะมันแอบฟังหลังประตู ไอ้เด็กบ้า แล้วก็เฉยปล่อยเขาเก๊กกับมันเสียนาน เพราะว่าความจริงแล้วเมืองมิราฌบ้านนอกจริงนี่นา ดีที่คืนนั้นไม่ออกสเต็ปรุนแรง ถึงมันจะแอบฟังก็ไม่เห็นหรอก ฮ่า ฮ่า เราทั้งคู่นั่งบนพื้นตอนจึ๋ยจึ๋ยกันและโต๊ะบังอย่ แต่ก็ดีที่มันรู้จะได้หอมแก้มแอลได้เวลาที่อยาก จับมือไม่ต้องปิดบังต่อไป อะแฮ่ม... ก็ดีที่มันเข้าใจไม่รังเกียจ อัลเบิร์ตจะเป็นซียนปราบ ขอดูฝีมือติดตัวหน่อย อืมม์ ดาบละกัน เด็กผู้ชายทุกเมืองใครๆก็เป็นดาบกันทั้งนั้น เจมส์กำมือยืดออกแตะรอยสักที่ท้องแขนเพ่งจิตร่ายคาถาเบิกดาบ ดาบเด้งจากรอยสักออกมาสองเล่ม แอลเดินย้อนเฉียดมาอีกรอบ เลิกคิ้ว เจมส์ลุกขึ้นฉวยดาบ แอลกระจ่างทันทีที่เห็นดาบคู่
" อยู่ดูฝีมือเจ้านั่นด้วยกันสิ " ชวนสีหน้านิ่ง บ่ายหน้าหาเจ้าเด็กที่นั่งเล่นกับนิก แอลกอดอกพิงโต๊ะรอดู พักรายการจัดเตรียมของเข้าทัพซึ่งอัลเบิร์ตรวบรวมเองเกือบครบแล้วไว้ก่อน
" อัลเบิร์ต " หันมา เจมส์ส่งดาบให้
" ครับ " งงแต่ก็รับมา อัลเบิร์ตเข้าใจทันที
" ขอดูฝืดาบหน่อยสิ " สองเด็กหนุ่มตั้งท่าเตรียมประจัน หนุ่มรุ่นพี่ร่างบทต่อสู้พื้นฐานขึ้นในหัว หนุ่มรุ่นน้องเคร่งเครียดอึดอัดเห็นได้ชัด ประดาบสิบสองที ดาบรุ่นน้องหล่นเคร้ง รุ่นพี่ถอยมา รุ่นน้องก้มลงฉวยดาบขึ้นตั้งท่าเตรียมประจัน ประดาบแปดที ดาบเล่มเดิมตกกระทบพื้น อัลเบิร์ตเก็บมันขึ้น สองพี่น้องประดาบอีกหน เจมส์ปรับระดับฝีดาบลงอีกให้เข้ากับอัลเบิร์ต อ่านระดับฝีมืออัลเบิร์ตออก การประดับหนนี้ยืดเวลาอัลเบิร์ตได้ชั่วระยะ และสุดท้ายดาบอัลเบิร์ตกระเด็นตกดังเปรื่อง
" ฝีมือนายอ่อนเกินไปนะ " เจมส์พูดความจริงในใจ แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ มีพี่สองคนเป็นเซียนปราบ และเข้าทัพไปจะถูกฝึกจนเก่งกาจทุกคน เพียงแต่คนอ่อนพื้นฐานจะโดนเข้มงวดกวดหนักกว่าใคร อีกหน่อยอัลเบิร์ตจะเก่งขึ้นเอง เชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย นัยน์ตาฟ้าแจ๋วดึงขึ้นเหลือบมอง จมส์เปลี่ยนโหมดเป็นครูฝึกแนะนำเทคนิคและชี้จุดด้อยในฝีดาบให้เจ้าตัว น่าชื่นใจที่นักเรียนตรงหน้าตั้งใจและเรียนรู้ไว...
มาจะกล่าวบทไป
มาจะกล่าวบทไป ถึงเจ้าชายแห่งมิราฌ มิราฌ เมืองประมงเล็กๆและบ้านนอกในความเห็นเจมส์ เด็กหนุ่มผมแดงอ่านข่าวผลการคัดเลือกเซียนปราบจบพับหนังสือพิมพ์เก็บ ตาสีฟ้าครุ่นคิดทอดชมพระจันทร์ ดาดฟ้าของดาดฟ้าของดาดฟ้า สถานที่ใกล้ชิดอัญมณีแห่งราตรีที่สุดในโลก จันทราที่เด็กหนุ่มเห็นจึงเรือนมหึมาอวดลวดลายหลุมบ่อชัดเจน มิราฌเป็นเมืองนึงที่รู้ความจริงว่าพระจันทร์ไม่ใช่ลายกระต่าย มันสวยงามและขลังกว่านั้น โดยเฉพาะยามเที่ยงคืน พระจันทร์ดุจจะถูกโลกดึงดูดเข้ามาใกล้ที่สุดเช่นยามนี้ เจ้าชายแอนนูร่านอนไขว่ห้างชม แม้สายตาจะจับมองดวงจันทร์ ทว่าความคิดหาได้เกี่ยวข้องกับมันไม่ มัวชื่นชมจันทร์เจ้าอยู่ใย สถานการณ์ตึงเครียด เครียดทั้งเขาทั้งราชสำนัก แต่บ้านเมืองยังไม่ระเเคะระคายหรอก วันนี้พ่อเรียกเขาไปพบตอนฝึกดาบ ที่พ่อมาฝึกด้วยตนเอง จากนั้นพร้อมหน้าด้วยแม่ นับเป็นเรื่องดีเพราะทั้งสองเอาแต่ทำงานไม่ค่อยเหลียวแลลูก! ทั้งสองคนดูมีภาระให้คิดจนหัวคิ้วไม่ย่นน้อยก็ย่นมาก พ่อพักดาบ นำเสียงเรียบเรื่อยชวนคุย
" ฝีดาบยังอ่อนนัก พ่อถามจริงๆลูกตั้งใจฝึกรึเปล่า " เหตุการณ์นี้คุ้นๆนะ แอนนูร่าว่าไม่ใช่ปัญหา เชื่อสิ ยังมีคนอ่อนดาบอีกเยอะในแผ่นดิน
" ตั้งใจสิคร้าบ " ยืนยันทว่าเสียงอ่อนงึมงัม
" แต่ช่างมันเถอะ ลูกจะทำได้ดีรึไม่ ลุกมีวิธีช่วยมิราฌได้ดีกว่านั้น "
" เรากวดขันแอนนูร่าน้อยไปรึเปล่า " แม่บ่นรำพึงกับพ่อโดยเฉพาะ พอพ่อสบตาด้วยก็ขยายความ " ลูกผู้ชายต้องเอาดีซักเรื่อง โดยพื้นฐานอาจเป็นดาบ ธนู หอก ศิลปะการต่อสู้สักอย่าง "
" แล้วลูกมีการต่อสุ้แบบใหนที่ชอบและคิดว่าทำได้ดีบ้างล่ะ " คำถามพ่อทำให้แอนนูร่าหยุดคิด พ่อกับแม่รอคอยคำตอบ
" คิดนานไปรึเปล่าลูก มันหายากขนาดนั้นเทียว " พ่อเริ่มวิตกตามคำพูดแม่ แอนนุร่าเอ่ยในที่สุด
" ธนูครับ " ด้วยเสียงมั่นใจ พ่อถามว่ามีธนูประจำตัวรึยัง
" มีครับ แต่มันหักไปแล้ว "
" คันหักเชียว " พ่อหัวเราะ
" ไม่ได้พูดเล่นนะครับ " ความจริงแอนนูร่ามีอาวุธส่วนตัวทุกชนิดสำหรับฝึก แต่เขาไม่ได้พกอวดเดินไปเดินมาเหมือนอลัน พ่อสั่งให้ผู้ติดตามหาธนูดีๆมาอีกคัน โดยมีฟักทองเป็นเป้า เจ้าชายใส่ลูกธนูง้างสายเล็งยิงทันทีเฉกเช่นคนคุ้นเคย ลูกธนูดอกนั้นแล่นทะลุอากาศปักเข้าผลฟักทอง พ่อเอาฟักเขียวซึ่งมีเล็กลงไปตั้งแทนเดินออกมายืนดูห่างๆที่เดิม ฟักต้องธนูแตกกระจุย พ่อแทนที่ด้วยแตงโม ตามมาด้วยลูกแอปเปิล ตามมาด้วยผลส้มซึ่งมีขนาดเล็กลงมาอีก ตามมาด้วยผลมะนาว ไม่ได้โม้นะ แอนนูร่าเค้ายิงปักผลมะนาวจริงๆ ตามมาด้วยพริกขี้หนู.... อันนี้ไม่ใช่แระ หันไปดูพระราชา เฮ้ย คนติดตามไม่เพียงแค่เอาผลฟักทองมา เขายกผักรวมมิตรจากในครัวมาทั้งกระบะต่างหาก ให้พระราชาเลือกสรรไซต์ตามสบาย อย่ามาเรียกใช้กุอีกนะ พระราชากับพระราชินีดูสนุกกับการทดสอบลูกชาย ไม่พลาดเป้าซักดอก ดูซะพวกแก อ้าว พากันถอยกรูดไปยืนเรียงแถวหน้าแนวรั้วทำไม อ๋อ หลบเศษเป้าและลูกธนูเพราะตอนนี้พระราชากับพระราชินีสลับกันโยนผักผลไม้เป็นเป้าลอยกับเป้าบินให้เจ้าชายอวดความสามารถ ทุกสิ่งชิ้นอัน โดนทุกดอก จนพระราชาพึงพอใจ
" ลูกเราเก่งธนู " สรุปยิ้มๆ อีกสักพักพ่อก็ทำเหมือนกับว่าที่พูดไปไม่ด้สลักสำคัญอะไร เจ้าชายถูกพาเดินมาเรื่อยๆจนถึงห้องทำงานของพ่อทรุดนั่งประจำตำแหน่งราวกับว่าราชการมากกว่าพูดกับลูก เปิดประเด็น
เจ้าหน้าที่นำทางอัลเบิร์ตเดินลัดเลาะัมาถึงตึกค่อนข้างใหม่ ส่งเขารวมพลกับกลุ่มผู้ผ่านคัดเลือก พวกเขาทั้งหญิงและชายสวมเครื่องแบบบอกบรรดาศักดิ์ ต่างผ่อนอิริยบถบนโซฟาหนานุ่มยาวใหญ่รอพิธีแต่งตั้ง ทานของว่างซึ่งจัดเตรียมไว้ในห้องข้างๆและทำความรู้จักกัน หลายคยสนิทสนมคุ้นเคยกันภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่ส่วนมากรู้จักกันดีอยู่แล้วในแวดวงสังคมชั้นสูง บางคนให้ความสนใจอัลเบิร์ตที่เพิ่งเข้ามา ยิ่งรู้ว่าเขาเป็นญาติเซียนปราบ เขาเลยถูกซักด้วยความอยากรู้อยากเห็น บรรยากาศตื่นเต้นกับอนาคตโดยเฉพาะพิธีรับตำแหน่งอันจะเกิดขึ้นเมื่อก้าวออกจากห้อง รอพิธิคัดเลือกสิ้นสุด ฝ่ายสามัญชนมาสมทบบ้างแล้ว กลุ่มสนทนาตอนนี้แบ่งแยกออกชัดเจน จะมีสองสามคนไม่ถือตัวแวะมาชวนสนทนายกตัวอย่างเช่นเจ้าชายเบนจามินแห่งครู๊กซ์ นายอัลโด จากเรดเฮดแมนฮิลคือคนที่อัลเบิร์ตคุยด้วยเยอะที่สุด ก่อนที่วงสนทนาจะขยายกว้างเรื่องดาบ
" ผมออกแรงดึงแทบตายแน่ะ เอาเข้าจริงผมทำใจแล้วว่าต้องผิดหวัง "
" ฉันดึงนิดเดียวก็ออกล่ะ หูอื้อเลย แสงสีฟ้าเต็มไปหมดประทับใจมากตอนนี้แสงยังติดตาอยู่เลย "
" ฉันก็ประทับใจ เกิดมาเพิ่งเคยเห็นดาบวิเศษ แถมมันสำแดงความวิเศษกับฉันด้วย ฉันเห็นคนตัวยักษ์ดึงกันหน้าดำหน้าแดง ฮ่าๆฮ่า ไหงฉันดึงแป๊ปเดียวก็ออก "
" ครอบครัวผมต้องดีใจมากแน่ๆพวกเขาไม่ได้มาดูหรอกแถมยังบ่นอีกต่างหากเพราะเสียดายค่าเดินทาง แต่ละปีคนผ่านไม่ถึงร้อย ยังไงก็เชื่อว่าผมไม่ผ่าน ค่าเดินทางผมเก็บสะสมเอง บ้านผมอยู่ใกลมากเดินทางข้ามหกเมือง คิดดุสิ ผมติดตราเป็นเซียนปราบสำเร็จแล้วไปเคาะประตูบ้าน แม่ผมตากผ้าอยู่คงกรี๊ดแตกเลยล่ะ " ทุกคนหัวเราะขันกับคำพูดของเขา
" ผมสงสัยว่าทำไมเราจึงมีแสงคนละสีกันนะ ทั้งที่มันออกมาจากดาบเล่มเดียวกัน "
" ผมคิดว่าเพราะพลังของเราไม่เท่ากัน " ส่วนมากพยักน้าเห็นด้วยกับความคิด
" แต่ฉันเคยเห็นเซียนปราบต่อสู้กับปิศาจ พวกเค้าไม่มีออร่าออกเลยนะ ทั้งที่พวกเค้ามีพลังเยอะกว่าเรา "
" ใช่ พี่ชายผมสองคนเป็นเซียนปราบ เวลาใช้พลังร่ายมนต์ไม่มีแสงแบบพวกเราล่ะ " อัลเบิร์ตเอ่ย
" พี่นายเป็นเซียนปราบ เค้าพูดเรื่องดาบว่าไงบ้าง "
" .....เขาบอกแค่ว่าวิธีคัดเลือกแต่ละปีไม่เหมือนกัน แต่ก่อนโหดขนาดมีคนตายแต่เลโอนาร์ทปิดข่าวเลยไม่เคยให้นักข่าวเขียนข่าวเกี่ยวกับวิธีคัดเลือก แต่ญาติพี่น้องคนที่ตายเอาไปบอกคนในเมือง ทำให้คนไม่กล้ามาคัดเลือก เดี๋ยวนี้อัตราการตายลดลงรีเปล่าไม่แน่ใจ " นายเจมส์ ฮาวาร์ตบอกมาจริงๆ
บางคนกระพริบตาปริบ งงกับข้อมูลใหม่ และกำ้กึ่งว่าพูดเล่นรึพูดจริง สาวผมทองกับสาวผมแดงหันมาหัวเราะคิก เกิดการไล่ลำดับใครเข้ามาก่อนหลังภายในกลุ่ม ถามกันเองหาคนตายในพิธีซะงั้น พอดีเด็กสาวคนล่าสุดปรากฏกายขึ้นในห้อง ทั้งกลุ่มพุ่งความสนใจที่เธอ หนึ่งคนถาม รายล้อมด้วยคนอยากรู้อยากเห็น เธอสายหน้างงปนตกใจ ที่ถูกต้อนรับด้วยคำถามว่าข้างนอกมีใครตายไปบ้างรึยัง
" ไม่มีค่ะ!! " ถอนใจกันทำไมเหรอ
" แสงออกมาจากดาบใช่ใหม เพราะมันเป็นดาบวิเศษ เราสัมผัสมัน มันสัมผัสเรา จึงเรียกว่าดาบคัดเลือก " สาวเจ้าวิเคราะห์ต่อ " ถ้าเรามีคุณสมบัติอะไรก็ตามที่สมควาเป็นเซียนปราบมันจึงหลุดออกมา รึพวกนายมีความเห้นว่าอย่างไรกันบ้าง " เป็นการเดาที่ตรงกับใจหลายคนซึ่งส่งเสียงในลำคอเออออ " นายคิดว่าไง " เธอหันมาทางอัลเบิร์ต
" ผมเห็นแสงออกจากตัวเรานะครับไม่ใช่ดาบ ดาบต่างหากสะท้อนแสงจากตัวผม "
" ทายกันได้ใกล้เคียง " บุรุษหนุ่มสวมเครื่องแบบเจ้าหน้าที่เอ่ย ตราบนเครื่องแบบบอกยศสูงกว่าเจ้าหน้าที่ในพิธีและคนมาส่ง เขามากับเด็กหนุ่มสามคน ช่วยเฉลยกลไกดาบเมื่่อมีผู้สนใจกระตือรือร้นอยากทราบ
" ดาบจะถูกชักออกโดยพลังจิต ลำพังพลังกายเพียงอย่างเดียวมิอาจดึงขึ้นได้ เมื่อพวกคุณรีดเร้นรวบรวมพลังทุกชนิดในร่างกายทุ่มลงไปและจิตเอาชนะด้วยเจตนาจูงใจใดก็ตามเพื่อดึงมันขึ้น อำนาจจิตที่แฝงเร้นจักแก่กล้า หากคนผู้ไร้ซึ่งพลังจิตเข้าเป็นเซียนปราบ เขาก็ไม่อาจร่ายคาถาได้สัมฤทธิ์ผล เลโอนาร์ทยังลงเวทย์เพิ่มนำ้หนักสำหรับชายผู้มีเรียวแรงเกินมนุษย์ เช่นที่พวกคุณเห็นชายร่างสูงหนาใหญ่โตเพียงใดยังไม่อาจสามารถ พวกคุณจึงเหนือมนุษย์ ออร่าเหล่านั้นเกิดจากกิตคุณเอง ต่อไปพวกคุณเก่งขึ้นจะรู้จักเรียนรู้ปิดซ่อนจิตเหมือนรุ่นพี่ เมือ่ใจพวกคุณเต็มไปด้วยความลับ....." เขากวาดตารอบห้อง ทุกคนล้วนหยุดฟังตั้งแต่เห็นการมาของเขา บุรุษหนุ่มประกาศให้ผู้ผ่านการคัดเลือกเดินตามเขาไปเพื่อเข้าพิธีรับตำแหน่งเดินขึ้นบันได ผ่านหุ่นเหล็กตามจุดต่างๆตลอดโถงทางเดินพาเหลียวค้าง ยิ่งขนลุกเพราะพิจดูละเอียดเเล้วมันคือเหล็กล้วนๆปราศจากคนควบคุมด้านในแต่สาบานว่า พวกมันเบือนหัวมองตามคณะ คนในคณะยื่นมือลองแตะมัน
" เฮ้ย!! " หุ่นเหล็กฉวยหมับ คณะหยุดเดินหันมามอง เจ้าชายกระเสือกกระสนดึงมือออก เตะต่อยพัลวันลืมว่าเป็นเหล็ก หุ่นเหล็กปล่อยมือ ถีบเจ้าชายลอยกระแทกผนัง ผู้หญิงกรี๊ด เจ้าชายผู้ซุกซนลว่งลงกุมท้องร้องโอย ใครสองคนวิ่งเข้าไปช่วยพยุง ตำแหน่งที่รา่งเจ้าชายกระเด็นตกฟ้องความแรงลูกถีบอย่างดี!! ผู้นำทางเอ่ย
" ระหว่างทาง อย่ายุ่งกับทหารเลโอนาร์ทดีกว่านะ " เฮือก!! ไม่ต้องเตือนก็รู้.... แต่บอกไวกว่านี้จะดีกว่านะ
ผู้นำทางหยุดหน้าประตูบานใหญ่ หุ่นเหล็กร่ายักษ์อารักขาประตูซ้ายขวา เขากำชับเรื่องอย่าลืมทำความเคารพพ่อมดเลโอนาร์ท ก่อนจะโค้งศีรษะให้หุ่นรึอะไรก็ตามที ประตูเลื่อนเปิดตัวเอง พวกเขาแบ่งเป็นสองแถวเดินยำ่่พรมเข้าไปอย่างเป็นระเบียบมาหยุดลงเบื้องหน้าบัลลังค์เตี้ย ทำความเคารพเกือบพร้อมเพรียงต่อบุรุษผู้ประทับบนนั้น พ่อมดเลโอนาร์ท.... บุรุษหัวโล้นเกลี้ยง ร่างหนาใหญ่กำยำ ดูคล้ายยอดนักรบมากกว่าผู้เป็นเอกในเวทมนตร์ปีนี้ได้มาหกสิบเจ็ดคน พ่อมดเลโอนาร์ทใช้สายตาสำรวจคร่า่วๆ ดวงหน้าตกประหม่า ดวงหน้านิ่งเฉย ดวงหน้าเฝ้ารอ จะมีเพชรแท้เม็ดแกร่งซ่อนอยู่กี่ดวง
" เข้ามาใกล้ๆข้าสิ " คนหน้าสุดก้าวเข้ามา ขาสั่นนิดๆ " บอกชื่อเจ้ามา เจ้าคือคนของข้าเเล้ว "
" หม่อมชั้น บิลเลียม คาเพนเตอร์ จากเมืองแองเจอร์สัน พะยะค่ะ "
" บิลเลียม คาเพนเตอร์ เจ้าจะยอมสาบานด้วยหัวใจว่าจะซื่อสัตย์ต่อหน้าที่เซียนปราบที่ข้าจะมอบให้รึไม่ "
" กระหม่อมสาบานพะยะค่ะ " เลโอนาร์ทหยิบเข็มขัดประดับตราเซียนปราบส่งให้วิลเลียม ผู้นำทางเลี่ยงออกไปยืนด้านซ้ายแต่แรกกระซิบแนะนำสั้นๆให้วิลเลียมสวมมัน วิลเลียมสวมมันเก้ๆกังๆเนื่องจากตกประหม่า เสร็จแล้ว ฝ่ามือเลโอนาร์ทเลื่อนประทับอกซ้า้ยวิลเลียม ประกายสีขาวล้อมแขนพ่อมด บิลเลียมกรีดร้อง ร่างสั่นระรัวล่วงทรุดลงกองแทบพื้นทันทีที่เลโอนาร์ทดึงมือกลับ
" เจ้าเป็นเซียนปราบโดยสมบูรณ์ตั้งแต่บัดนี้เป้นต้นไป บิลเลียม คาเพนเตอร์ " ผู้ผ่านคัดเลือกตกใจกันถ้วนหน้า บิลเลียมลงมายืนหอบนิดหน่อย สิริรวมแล้วยังมีชีวิตอยู่ เพียงแต่เจ็บปวดเล็กน้อยรึแค่ตกใจกันแน่จึงร้องโหยหวนตัวสั่นราวถูกไฟดูด ใหนขอลงอหน่อยซิ ผู้นำทางเรียกคนต่อไป
" หม่อมชั้นเจ้าหญิงโซเฟีย จากเมืองแบลคอาวน์เพคะ " " หม่อมชั้นสาบานเพคะ "กรี๊ดดดดดดดด " คนถัดไป
" กระหม่อมเจ้าชายวานูบี เบเบดูดู จากเมืองเบเบดูดู พระเจ้าค่ะ " " กระหม่อมสาบานพระเจ้าค่ะ "" อ๊ากกกกกกกกกกก " คนต่อไป
" กระหม่อม อัลโด คอเนอร์ จากเมืองเร้ดเฮดแมนอิลพะยะค่ะ " " กระหม่อมสาบานพะยะค่ะ "" อ๊าาาาาาาาาาาาาา " คิวถัดไป
" หม่อมชั้นเจ้าชายเบนจามิน จากเมืองครู๊กซ์พะยะค่ะ " " หม่อมชั้นสาบานพะยะค่ะ "" อั่กกกก อั่กกกก อั่กกกก " คิวต่อไป
" กระหม่อม อัลเบิร์ต ฮาร์วาร์ต จากเมืองเซาท์สตาร์พะยะค่ะ " อัลเบิร์ตประสานสายตาสง่าผ่าเผยและหลุบลงตามมารยาทยามรับเข็มขััด ตาไล่จากลำคอหนา ประโยคของแอลผุดกลางมโน
" ปีศาจสีตัวนั่นยอมเอาชีวิตเข้าเสี่ยงเพื่อเข้าไปโค่นจอมเวทย์เลโอนาร์ท แต่ถึงแม้จะหลุดเข้าทัพเซียนไปได้ก็ฆ่าเลโอนาร์ทไม่สำเร็จหรอก เพราะเลโอนาร์ทเป็นอมตะ " ลำตัวหนากำยำ หากต้องศาตราวุธในระยะประชั้นชิดก็คงจะไม่ตายสินะ อัลเบิร์ตละสายตาจากท้องพ่อมด สวมเข็มขัด
" อัลเบิร์ต ฮาร์วาร์ต เจ้าจะยอมสาบานดว้ยหัวใจของเจ้าว่าเจ้าจะซื่อสัตย์ต่อหน้าที่เซียนปราบซึ่งข้าจะแต่งตั้งให้รึไม่ " ณ จุดๆนี้ จะทำเท่ห์ต่อต้า้น ตะโกนปฎิเสธ พุ่งโบกใส่หัวเหม่ง ก่อนจะหันหลังวิ่งออกไปโดนคาถาไล่หลังจนถลาล้มลง คลานกระเสือกกระสนพ้นห้องไปจบชีวิตสวยงามใต้บาทาไอ้หุ่นเหล็ก คงจะไม่ใช่สำหรับผู้ดึงดาบแทบเป็นแทบตายด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกัน มันจึงต้องเอื้อนเอ่ยตามพิธี
" กระหม่อมสาบานพะยะค่ะ " เพื่อให้มือซ้ายเจ้าเหม่งวางบนบ่า มือขวาแนบลงอกข้างซ้าย จากนั้นก็ อั่กก อั่กก อั่กก โยกย้ายส่ายร่างราวสนุกสนานเต็มที่ไม่น้อยหน้าใคร อั่กก อั่กกก อั่กก
แอล ฮาวาร์ต ฉุดแขนอัลเบิร์ต เขาชะงักฝีเท้าตามแรงดึงกับเสียงเรียกชื่อ แอลอมยิ้ม มองเข็มขัดประดับเด่นหราอวดตราเอี่ยมอ่องเส้นที่สามของตระกูล
" พี่ดีใจด้วย สมหวังแล้วนะ " มรกตคู่เรียวจริงใจใสซื่อ อัลเบิร์ตตวัดแขนโอบกอดพี่ชายผู้มายืนดักรอหน้าท้องพระโรง พวกเขาหัวเราะเดินกลับเกวียนซึ่งจอดริมกำแพง เจมส์นั่งเล่นรอ เห้นเขาทั้งคู่เดินใกล้เข้า อ้าปากค้างทันทีที่สายตาโฟกัสเส้นใหม่พาดที่เอวอัลเบิร์ต
" เฮ้ย !! ตกลงแกผ่านเรอะ "
" ครับ " อัลเบิร์ตยิ้มแฉ่ง แต่แอลหน้าจ๋อย
" บ้าชะมัดเลยแอล ถ้ารู้ว่ามันจะได้ ฉันไม่ปล่อยให้มาหรอก ดันได้เฉย !! " เจมส์อาละวาด
" โธ่ อย่างน้อย น้องเรามีพลังจิตเหมือนพวกเราเลยนะ " แอลปลอบใจเจมส์ตามความรู้สึก ทำไงได้ล่ะ เจมส์หน้าบึ้ง หลุดความในใจทีละประโยค บ่นหึ่งๆ
" ได้มันมาชั้นก็ดีใจ หวังว่าจะมาช่วยดูแลสมบัติ มันจะได้ใช้แทนให้คุ้มกับท่พวกเราเอาชีวิตไปเสี่ยงกว่าจะได้มันมาตอนพวกเราเป็นอะไรไป ไอ้บ้านี่เกิดจะมาเป็นเซียนปราบอีกคน แล้วสมบัติล่ะ เงินทอง คฤหาสน์ คุณพ่อบ้านกับแม่บ้านใครจะดูแล " โห นึกว่าห่วงเรา อัลเบิร์ตนึกในใจ ที่แท้ก็ห่วงสมบัติ
" เอาน่าเจมส์ คุณลุงสั่งไว้เขามีสิทธิ์เลือกทางเดินของตัวเอง " แอลเตือน ที่เจมส์ได้แต่สบถออกมา
" บ้าชะมัด แล้วเขาทำอะไรแกบา้งล่ะเลโอนาร์ทน่ะ " อัลเบิร์ตเล่าให้ฟังคร่าวๆ สองพี่น้องนิ่งอึ้ง
" นั่นล่ะ เขาดูดหัวใจนายไปแล้วอย่างที่เล่าแต่แรก ทีนีแกจะไม่มีหัวใจให้ใครอีกนอกจากเลโอนาร์ทกับปีศาจที่มันเดินว่อนกันอยู่ข้างนอก ราชาพวกมันจะกลับมา ถ้าแกไม่เจ๋งจริงหนีภารกิจเลโอนาร์ทจะกำจัดแก สมนำ้หน้า ที่นี้แกก็ไม่มีหัวใจให้สาวที่ใหนแล้ว "
" ใครว่าครับ หัวใจของผมมอบให้เค้าตั้งแต่แรกพบ ทีนี้รา่งกายจะได้ตามไปดุแลหัวใจเสียที " อัลเบิร์ตอมยิ้มนิดๆสีหน้าอ่อนโยน สองพี่น้องอึ้งสนิท จับเค้าลางๆจนได้บทสรุป
" นี่แกอย่าบอกนะว่า แรงจูงใจคือหลงรักสาวในนี้น่ะ " เจมส์ชี้ทััพเซียน อ้าปากหวอ น้องชายก้มหน้าลงกระนั้นก็ซ่อนผิวซับสีเลือดไม่มิด อาการเท่ากับยอมรับกลายๆ เจมส์กับแอลเงียบกริบ พี่ใหญ่หมุนตัวปีนขึึึึึึึึึึึึ้นเกวียน ตามด้วยพี่รองแอล นายช้างเท้าหลัง
" ไร้สาระ "
เกวียนเทียมม้าควบปุเลงกลับ เจมส์ไม่คุยกับน้องชายคนสุดท้องเลย แอลกางหนังสือพิมพ์ที่เจมส์ซื้อติดไม้ติดมือกลับมา เหลือบไปเห็นภาพครึึึ่งหน้าหลัง เจ้าคนขี้บ่นเริ่มบ่น
" ยังจับเจ้าหญิงแอนดันไม่ได้อีก กับแค่เด็กผู้หญิงวัยรุ่นคนเดียว "
" เธออาจจะเก่ง " แอลพลิกหนังสือพิมพ์ควำ่ลงดู
" ชั่วร้ายต่างหาก สมุนปิศาจในคราบมนุษย์ เกิดเป็นมนุษย์ดีๆไม่ชอบ ซ่องสุมเป็นลิ่วล้อราชาปิศาจ "
" ใหนครับ " อัลเบิร์ตเอนตัวชิดเเอล ขอดูรายละเอียดข่าวประกาศจับเจ้าหญฺงแอนดันเต้บ้าง เบียดไปเบียดมา แอลลดหนังสือพิมพ์ลง ดันอัลเบิร์ตที่แทบจะกองหนุนตักรอมร่อ เขายอมเอนกลับมานั่งดีๆ
" แอลมีแฟนรึยังคร้าบ " ตาระยับพราว เท่านั้นล่ะคนที่เงียบไปกรรโชกถาม
" แกถามทำไม " อัลเบิร์ตไม่ตอบ ยังมองแอลซึ่งลอบยักคิ้วให้ก่อนหายไปหายเข้าไปหลังหนังสือพิมพ์ตามเดิม กิริยาที่เล็ดลอดเข้าตาเจมส์
" นี่แกอยา่บอกนะว่า เซียนปราบที่แกหลงรักคือแอลน่ะ " เจมส์ขยับพรวดดึงแอลมากอดไว้ " ห้ามนาเฟ้ยแอลแฟนฉัน ถ้าแกจีบแอลแกตายแน่ " คำประกาศพร้อมคาดโทษเสร็จสรรพ อัลเบิร์ตอ้าปาก
" แอลคือพี่ชายคนที่สองของผมไม่ใช่หรือครับ "
" ที่ใหนล่ะ แอลใช้ฮาร์วาตเพราะแต่งเข้าต่างหาก จำไว้ซะเจ้าบ้า " แอลเหนี่ยวแขนเจมส์ ระบายยิ้ม
" อัลเบิร์ตเค้ารู้แต่แรกแล้วล่ะ " ชายผู้ตกข่าวขมวดคิ้วฉับ " ห๊ะ "
" ตั้งแต่ฉันเดินสะดุดขาเก้าอี้คืนนั้น ต่อดว้ยหัวกระแทกโต๊ะ " แอลเฉลยราบเรียบ เจมส์แปลกใจจริงอยู่ทว่าก็ัรับได้ที่ความรับแตกก่อนแต่แรก ก็ในเมื่อแอลยังไม่เป็นเดือดเป็นร้อนทั้งๆที่เป็นคนขอให้ปิดเรื่องนี้ เจมส์เสียอีกกลับสบายใจ
" รู้ก็ดีแล้ว " เขาทอดร่า่งอิงแอบแอล
" อ่านหนังสือพิมพ์ต่อเถอะแอล ห้ามแอบมองนาเฟ้ย " แอลยิ้มเขิน แต่ก็ยกหนังสือพิมพ์ขึ้นบัง ขาเหยียดยาวสองคู่ทอดเคียงกัน ครึ่งบนทั้งคู่หายไปในหนังสือพิมพ์ อ่านหนังสือพิมพ์ดังจ๊วบจุ๊บ ปล่อยอัลเบิร์ตเผชิญหน้ากับเจ้าหญิงแอนดันสิงเต็มปกหลัง ตาสีฟ้าของเธอสบกับอัลเบิร์ต เรือนผมยาวขับดวงหน้าหวานยิ่งขึ้น อัลเบิร์ตเปล่าสนใจเธอ กำลังตะแคงหูฟังเสียงจุ๊บจ๊วบ ก่อนจะเบือนหน้ามองทิวทัศน์นอกเกวียนอย่างสบายอารมณ์
คฤหาสน์ฮาร์วาร์ต นายเจมส์ผู้ปกครองสูงสุดนั่งจิบนำชายามบ่ายในซุ้มริมสวนเงียบๆ อัลเบิร์ตกำลังเล่นกับนิกสุนัขประจำบ้าน นิกยืนสองข้าใส่อัลเบิร์ต เทียบส่วนสูงเท่าพุงเด็กหนุ่ม อีกสองวันอัลเบิร์ตต้องย้ายเข้าทัพเซียนเพื่อฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วยมอเปล่าและอาวุธ ประสานพลังจิตเข้ากับทุกท่วงท่า ใช้พลังจิตคู่คาถาเวทย์ จะไม่ได้กลับทัพเซียนพักใหญ่จนกว่าเขาพร้อมออกภาคสนามรับภารกิจจึงจะมีอิสระอิสระออกจากทัพเซียน แว่บเถลไถลที่อื่นเหทือนจเมส์กับแอล พอหอมปากหหอมคอแล้วค่อยกลับทัพดังเดิม อัลเบิร์ตเป็นลูกของพี่ชายพ่อเขา เขาทั้งสองเพิ่งได้เจออัลเบิร์ตเมื่อสัปดาห์ก่อน เด็กหนุ่มผมบรอนซ์ ตาสีฟ้า มาตัวเปล่ากับจดหมายฝากฝังจากคุณลุงซึ่งทำงานที่เมืองมิราฌ รูปการณ์บอกว่าคุณลุงคงจะหาชีวิตไม่แล้ว ช่วงแรกอัลเบิร์ตเศร้าซึมน่าเห็นใจ พออยู่ไปซักพัก เจมส์ลงความเห็นว่าอัลเบิร์ตนั้นแท้จริงเป็นเด้กที่กวนประสาทคนนึง ไม่ใช่เพราะเห็นเขาเป็นผู้ปกครองซึ่งมีอายุมากกว่าสองปี แอลอายุห่างแค่ปีเดียวเลยไม่เคารพ เพราะอัลเบิร์ตเคารพเชื่อฟังพวกเขาเจมส์จึงมองออกว่า เด็กนี่กวนประสาทโดยเนื้อแท้แต่มีชั้นเชิงจึงไม่ได้ถูกมองว่าปีนเกลียว แรกๆเจมส์สงสารอัลเบิร์ต พูดดีๆด้วยซึ่งผิดวิสัยเขา เราสองคนเป็นห่วงสุขภาพใจอัลเบิร์ต เสร็จภารกิจไม่กลับทัพเซียนแต่จะมาค้างที่บ้านไม่ต้องการทิ้งอัลเบิร์ตผู้เพิ่งเผชิญจากการสูญเสียไว้ตามลำพังในคฤหาสน์หลังโต แม้จะนอนคนละห้อง ใช่ แอลแคร์เด็กคนนี้มากขนาดขอความร่วมมือพ่อบ้านและสาวใช้ทุกคนให้ช่วยปกปิดความสัมพันธ์แท้จริงของเราต่ออัลเบิร์ต และแยกห้องนอนไม่ให้เขาร่วมห้อง กลัวอัลเบิร์ตระแคะระคาย ช่วงนั้นฝนชอบตกกลางคืนและฟ้าก็ผ่าแล่บเข้ามาทางกระจกหน้าต่างสว่างที เห็นซอกตู้ในเงาตะคุ่มที ถึงจะปิดม่านเสียงก็ดังอยู่ดี บางคืนฝนไตกนิกจะหอนตอนกลางดึกโดยไม่มีสาเหตุ แอลมัวแต่พะวงอัลเบิร์ตที่เพิ่งเสียพ่อจนลืมกระมังว่าเขาเพิ่งเสียลุงไปเช่นกันจึงปล่อยเขานอนคนเดียวทั้งที่เราไม่เคยแยกกันนอน บางคืนเขาแอบย่องผ่านประตูห้องนอนอัลเบิร์ตไปเคาะห้องแอล แอลก็ห้าม เกรงว่าตอนเขาเปิดประตูออกมาอัลเบิร์ตจะบังเอิญเห็นซักครั้ง จะหายตัวไปห้องแอล แอลก็ห้าม เนื่องจากการหายตัวจะเกิดเสียงในอากาศ เด็กอัลเบิร์ตใช่ย่อยเสียที่ใหน วันแรกที่เอาจดหมายมาให้เขาทั้งสองก็หายหัวจ้อย ไปเจออีกทีเป็นเด็กคอกมังกรเสียอย่างนั้น เขาตามกลับมาผ่าจะเป็นเซียนปราบ ทั้งที่พ่อหมอนั่นเกลียดเซียนปราบมาก ทรัพย์สมบัติตระกูลฮาร์วาร์ตมีท่วมท้นให้อยู่สุขสบายไม่สนใจ คืนแรกที่เจมส์เรียกอัลเบิร์ตว่าไอ้เด็กบ้านนอก...
นอกเรื่อง
แอลกำลังหาของกินในครัวเล็กแหล่งเก็บขนม หลังจากเข้านอนซักพัก เจมส์เพิ่งกลับมาจากหาเพื่อน เขาตามเสียงกุกกักเข้ามาดู เรายืนพิงเคานเตอร์กินขนใพลางสนทนากันเรื่องเพี่อน ไม่ได้ติดไฟ เพราะเราเพลินกับช่วงเวลาที่เหมือนเรามีแค่กันและกัน อาศัยแสงจันทร์ลางๆเห็นหน้ากันพอ เจมส์โน้มหาแก้มเงาขาวผ่อง จุมพิตหน้าผากนั่นด้วย
" คิดถึง " พึมพัม
" คิดถึงทำไม อยู่ด้วยกันตลอด " กระซิบ
" ต้องส่งแอลเข้านอนเเล้ว ตั้งแต่อัลเบิร์ตมากินข้าวก็ไม่อิ่ม " คนตัดพ้อซุกไซ้ซอกคอ แอลเกร็งตัว ขยุ้มใหล่เขา
" ไม่อิ่มก็ไปกินสิ " แอลไล่
" ให้กินจริงนะ " ตาวาวพราว
" หมายถึงข้าวไม่ใช่อย่างอื่น " ปากประกบปิดปาก อุตส่าห์เบือนออกปากยังตามกระซิบเคลียแก้ม
" กินแอลอิ่มกว่า "
" ง่วงนอน.... ราตรีสวัสดิ์ " แอลจูบลาปลายคางสี่เหลี่ยม ขืนตัวผละจากวงแขน
" โธ่ อัลเบิร์ตหลับไปแล้วมั้ง " เจมส์ช้อนมือแอลแนบจุมพิตอาวรณ์ แอลเลิกดันเปลี่ยนเป็นโอบกอดแน่น มือหยาบรูดเสื้อขึ้นซุกไซ้กล้ามท้อง ปลดกางเกงแอลลงกองตรงตาตุ่ม บริวารเรือนหลังไม่เป็นปัญหาอยู่แล้ว ฝูงแกะในฝันอัลเบิร์ตวิ่งเล่นกันอิสระเสรี เลิกกระโดดข้ามรั้วที่ละตัวให้เด็กมันนอนนับ เด็กหนุ่มคล้อยสู่ห้วงนิทราแสนสุข.....
ลูกบิดบิดแกร่กก..
คู่รักสะดุ้งเฮือก!!
เจมส์ฉุดแอล ขาแอลเกี่ยวเก้าอี้สะดุดล้มคลานรีบมุดเข้าใต้โต๊ะอาหารทันทีที่ประตูเปิดออก
เสียงหาวหวอด โชคดีที่ชายผ้าปูโต๊ะยาวจรดพื้นอำพราง โต๊ะแคบสำหรับชายวัยรุ่นสองคน ร่างเปลือยท่อนล่างเบียดเกย ซึ่งมันเป็นเรื่องไหวสะท้านสำหรับทั้งสอง แอลสะท้านเพราะลืมกางเกงไว้ข้างนอก สะท้านว่าเจ้าของเท้าเปลือยคืออัลเบิร์ต และสะท้านเพราะถูกลวนลาม เจมส์สะท้านเพราะแอลเบียดแน่นเกิน ยากอดใจ และทั้งสองสะท้านตรงกันคือหากอัลเบิร์ตเปิดไฟจะพบกางเกงปริศนาหล่นอยู่ เสียงนำไหลก่อกแก่ก เท้าเปล่าหันหลังขวับเดินข้ามกองผ้าด้วยความบังเอิญ เจมส์อาศัยจังหวะเลื้อยแขนดึงกางเกงเข้ามา ดำเนินการหาเศษหาเลยต่อไป อัลเบิร์ตหมุนเท้าออกจากห้องไป เจมส์ได้ใจ ใช้นิ้วกับลิ้นปลาหมึกรุกลำยิ่งขึ้น แอลดิ้นหนีจนหัวกระแทกโต๊ะ คลานออกมา กระซิบแรงๆ
" นี่ พอได้แล้ว ประตูปิดไม่สนิท " ซัดคนลามกซักผลั่วะ
" ไอ้เด็กบ้านนอกขึ้นไปแล้ว " พูดระดับเสียงปกติ อุ้มแอลนั่งตัก แกล้งขัดขวางไม่ให้สวมกางเกงสำเร็จ
" หน้าสิ่วหน้าขวานยังจะหื่น ไม่รู้ร้อนรู้หนาวเลย "
" อัลเบิร์ตไม่รู้หรอก ไม่ได้ติดไฟ "
" ................."
" แอลอยากปกปิดไม่ให้หมอนั่นรู้ต้องเจอแบบนี้ ว่าไปก็สนุกดีเหมือนกัน "
" ................. "
" มันต้องมีกันบ้างนิดหน่อยน่า ก็มันคิดถึง " ยิ้มโชว์ฟันขาวตัดเงามืด แอลใจอ่อน ยอมถูกปล่อยโดนจับโยกเสมือนกล่อมเด็ก
" เจมส์อยากให้อัลเบิร์ตรังเกียจเราเหรอ "
" เฮ้ย !! ใครจะอยาก เดี๋ยวหนีไปล้างคอกมังกรล่ะยุ่ง "
" เป็นพี่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี "
" แหงล่ะ ให้มารู้ได้ไงว่ามีแฟนเป็นผู้ชาย "
" แคร์เหมือนกันเหรอ "
" ก็ใช่ แต่ไม่เห่อเหมือนใครบางคนหรอก " ขมวดคิ้วเหลือกตา ผลักหัวทองหอมแชมพูเบาๆ
" ตอนนี้อยู่เป็นเพื่อนอัลเบิร์ตก่อน พอส่งเข้าโรงเรียนจะได้มีเพื่อน ไม่เหงา แล้วเราค่อยกลับทัพเซียน... ที่นี้ " มรกตคู่เรียวเจ้าของร่างอุ่นบนตักอธิบายอย่างเว้าวอนให้เห็นใจ
" ทีนี้.... " เจมส์ทวนคำตากรุ้มกริ่ม
ทีนี้ อัลเบิร์ตเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอันดับต่อไป หมันตัวจากหลังประตูแง้มๆเพื่อขึ้นห้องนอน โธ่ ผมนึกว่าแมวหลบผมจนชนเก้าอี้ กะจะดักจับมาเล่นเสียหน่อย แอลกับเจมส์หารู้ไม่ ความลับไม่เป็นความลับเสียแล้ว
*******
บอกแล้วเด็กคนนี้มันกวนโอ๊ย สุดท้ายมันก็รู้จนได้เพราะมันแอบฟังหลังประตู ไอ้เด็กบ้า แล้วก็เฉยปล่อยเขาเก๊กกับมันเสียนาน เพราะว่าความจริงแล้วเมืองมิราฌบ้านนอกจริงนี่นา ดีที่คืนนั้นไม่ออกสเต็ปรุนแรง ถึงมันจะแอบฟังก็ไม่เห็นหรอก ฮ่า ฮ่า เราทั้งคู่นั่งบนพื้นตอนจึ๋ยจึ๋ยกันและโต๊ะบังอย่ แต่ก็ดีที่มันรู้จะได้หอมแก้มแอลได้เวลาที่อยาก จับมือไม่ต้องปิดบังต่อไป อะแฮ่ม... ก็ดีที่มันเข้าใจไม่รังเกียจ อัลเบิร์ตจะเป็นซียนปราบ ขอดูฝีมือติดตัวหน่อย อืมม์ ดาบละกัน เด็กผู้ชายทุกเมืองใครๆก็เป็นดาบกันทั้งนั้น เจมส์กำมือยืดออกแตะรอยสักที่ท้องแขนเพ่งจิตร่ายคาถาเบิกดาบ ดาบเด้งจากรอยสักออกมาสองเล่ม แอลเดินย้อนเฉียดมาอีกรอบ เลิกคิ้ว เจมส์ลุกขึ้นฉวยดาบ แอลกระจ่างทันทีที่เห็นดาบคู่
" อยู่ดูฝีมือเจ้านั่นด้วยกันสิ " ชวนสีหน้านิ่ง บ่ายหน้าหาเจ้าเด็กที่นั่งเล่นกับนิก แอลกอดอกพิงโต๊ะรอดู พักรายการจัดเตรียมของเข้าทัพซึ่งอัลเบิร์ตรวบรวมเองเกือบครบแล้วไว้ก่อน
" อัลเบิร์ต " หันมา เจมส์ส่งดาบให้
" ครับ " งงแต่ก็รับมา อัลเบิร์ตเข้าใจทันที
" ขอดูฝืดาบหน่อยสิ " สองเด็กหนุ่มตั้งท่าเตรียมประจัน หนุ่มรุ่นพี่ร่างบทต่อสู้พื้นฐานขึ้นในหัว หนุ่มรุ่นน้องเคร่งเครียดอึดอัดเห็นได้ชัด ประดาบสิบสองที ดาบรุ่นน้องหล่นเคร้ง รุ่นพี่ถอยมา รุ่นน้องก้มลงฉวยดาบขึ้นตั้งท่าเตรียมประจัน ประดาบแปดที ดาบเล่มเดิมตกกระทบพื้น อัลเบิร์ตเก็บมันขึ้น สองพี่น้องประดาบอีกหน เจมส์ปรับระดับฝีดาบลงอีกให้เข้ากับอัลเบิร์ต อ่านระดับฝีมืออัลเบิร์ตออก การประดับหนนี้ยืดเวลาอัลเบิร์ตได้ชั่วระยะ และสุดท้ายดาบอัลเบิร์ตกระเด็นตกดังเปรื่อง
" ฝีมือนายอ่อนเกินไปนะ " เจมส์พูดความจริงในใจ แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ มีพี่สองคนเป็นเซียนปราบ และเข้าทัพไปจะถูกฝึกจนเก่งกาจทุกคน เพียงแต่คนอ่อนพื้นฐานจะโดนเข้มงวดกวดหนักกว่าใคร อีกหน่อยอัลเบิร์ตจะเก่งขึ้นเอง เชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย นัยน์ตาฟ้าแจ๋วดึงขึ้นเหลือบมอง จมส์เปลี่ยนโหมดเป็นครูฝึกแนะนำเทคนิคและชี้จุดด้อยในฝีดาบให้เจ้าตัว น่าชื่นใจที่นักเรียนตรงหน้าตั้งใจและเรียนรู้ไว...
มาจะกล่าวบทไป
มาจะกล่าวบทไป ถึงเจ้าชายแห่งมิราฌ มิราฌ เมืองประมงเล็กๆและบ้านนอกในความเห็นเจมส์ เด็กหนุ่มผมแดงอ่านข่าวผลการคัดเลือกเซียนปราบจบพับหนังสือพิมพ์เก็บ ตาสีฟ้าครุ่นคิดทอดชมพระจันทร์ ดาดฟ้าของดาดฟ้าของดาดฟ้า สถานที่ใกล้ชิดอัญมณีแห่งราตรีที่สุดในโลก จันทราที่เด็กหนุ่มเห็นจึงเรือนมหึมาอวดลวดลายหลุมบ่อชัดเจน มิราฌเป็นเมืองนึงที่รู้ความจริงว่าพระจันทร์ไม่ใช่ลายกระต่าย มันสวยงามและขลังกว่านั้น โดยเฉพาะยามเที่ยงคืน พระจันทร์ดุจจะถูกโลกดึงดูดเข้ามาใกล้ที่สุดเช่นยามนี้ เจ้าชายแอนนูร่านอนไขว่ห้างชม แม้สายตาจะจับมองดวงจันทร์ ทว่าความคิดหาได้เกี่ยวข้องกับมันไม่ มัวชื่นชมจันทร์เจ้าอยู่ใย สถานการณ์ตึงเครียด เครียดทั้งเขาทั้งราชสำนัก แต่บ้านเมืองยังไม่ระเเคะระคายหรอก วันนี้พ่อเรียกเขาไปพบตอนฝึกดาบ ที่พ่อมาฝึกด้วยตนเอง จากนั้นพร้อมหน้าด้วยแม่ นับเป็นเรื่องดีเพราะทั้งสองเอาแต่ทำงานไม่ค่อยเหลียวแลลูก! ทั้งสองคนดูมีภาระให้คิดจนหัวคิ้วไม่ย่นน้อยก็ย่นมาก พ่อพักดาบ นำเสียงเรียบเรื่อยชวนคุย
" ฝีดาบยังอ่อนนัก พ่อถามจริงๆลูกตั้งใจฝึกรึเปล่า " เหตุการณ์นี้คุ้นๆนะ แอนนูร่าว่าไม่ใช่ปัญหา เชื่อสิ ยังมีคนอ่อนดาบอีกเยอะในแผ่นดิน
" ตั้งใจสิคร้าบ " ยืนยันทว่าเสียงอ่อนงึมงัม
" แต่ช่างมันเถอะ ลูกจะทำได้ดีรึไม่ ลุกมีวิธีช่วยมิราฌได้ดีกว่านั้น "
" เรากวดขันแอนนูร่าน้อยไปรึเปล่า " แม่บ่นรำพึงกับพ่อโดยเฉพาะ พอพ่อสบตาด้วยก็ขยายความ " ลูกผู้ชายต้องเอาดีซักเรื่อง โดยพื้นฐานอาจเป็นดาบ ธนู หอก ศิลปะการต่อสู้สักอย่าง "
" แล้วลูกมีการต่อสุ้แบบใหนที่ชอบและคิดว่าทำได้ดีบ้างล่ะ " คำถามพ่อทำให้แอนนูร่าหยุดคิด พ่อกับแม่รอคอยคำตอบ
" คิดนานไปรึเปล่าลูก มันหายากขนาดนั้นเทียว " พ่อเริ่มวิตกตามคำพูดแม่ แอนนุร่าเอ่ยในที่สุด
" ธนูครับ " ด้วยเสียงมั่นใจ พ่อถามว่ามีธนูประจำตัวรึยัง
" มีครับ แต่มันหักไปแล้ว "
" คันหักเชียว " พ่อหัวเราะ
" ไม่ได้พูดเล่นนะครับ " ความจริงแอนนูร่ามีอาวุธส่วนตัวทุกชนิดสำหรับฝึก แต่เขาไม่ได้พกอวดเดินไปเดินมาเหมือนอลัน พ่อสั่งให้ผู้ติดตามหาธนูดีๆมาอีกคัน โดยมีฟักทองเป็นเป้า เจ้าชายใส่ลูกธนูง้างสายเล็งยิงทันทีเฉกเช่นคนคุ้นเคย ลูกธนูดอกนั้นแล่นทะลุอากาศปักเข้าผลฟักทอง พ่อเอาฟักเขียวซึ่งมีเล็กลงไปตั้งแทนเดินออกมายืนดูห่างๆที่เดิม ฟักต้องธนูแตกกระจุย พ่อแทนที่ด้วยแตงโม ตามมาด้วยลูกแอปเปิล ตามมาด้วยผลส้มซึ่งมีขนาดเล็กลงมาอีก ตามมาด้วยผลมะนาว ไม่ได้โม้นะ แอนนูร่าเค้ายิงปักผลมะนาวจริงๆ ตามมาด้วยพริกขี้หนู.... อันนี้ไม่ใช่แระ หันไปดูพระราชา เฮ้ย คนติดตามไม่เพียงแค่เอาผลฟักทองมา เขายกผักรวมมิตรจากในครัวมาทั้งกระบะต่างหาก ให้พระราชาเลือกสรรไซต์ตามสบาย อย่ามาเรียกใช้กุอีกนะ พระราชากับพระราชินีดูสนุกกับการทดสอบลูกชาย ไม่พลาดเป้าซักดอก ดูซะพวกแก อ้าว พากันถอยกรูดไปยืนเรียงแถวหน้าแนวรั้วทำไม อ๋อ หลบเศษเป้าและลูกธนูเพราะตอนนี้พระราชากับพระราชินีสลับกันโยนผักผลไม้เป็นเป้าลอยกับเป้าบินให้เจ้าชายอวดความสามารถ ทุกสิ่งชิ้นอัน โดนทุกดอก จนพระราชาพึงพอใจ
" ลูกเราเก่งธนู " สรุปยิ้มๆ อีกสักพักพ่อก็ทำเหมือนกับว่าที่พูดไปไม่ด้สลักสำคัญอะไร เจ้าชายถูกพาเดินมาเรื่อยๆจนถึงห้องทำงานของพ่อทรุดนั่งประจำตำแหน่งราวกับว่าราชการมากกว่าพูดกับลูก เปิดประเด็น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ