The Adventure of Light&Shadow

-

เขียนโดย mariananeko

วันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 16.24 น.

  7 ตอน
  4 วิจารณ์
  9,716 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2557 08.16 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) เมลเลียส

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

2

เมลเลียส

 

     ห้องโถงเล็กหลังปราสาทโชวารอสมีซุ้มประตูกว้างหันหน้าออกไปสู่ท่าอ่าวที่มีรูปคล้ายพระจันทร์เสี้ยว มองออกไปมีเรือสำเภาสินค้ามากมายลอยเทียบท่าจนล้นอ่าว เงิน อาหารและทองคำต่างไหลหลั่งเข้ามาอ่าวแห่งนี้ไม่ขาดสาย และสิ่งสำคัญอีกอย่าง โอกาส

        เมลเลียสยืนแน่นิ่งมองลอดผ่านซุ้มประตูนั้นราวกับรูปปั้นกลางห้องโถงครุ่นคิดเรื่องโอกาสที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า พวกโยโลเกียจะข้ามทะเลทรายเฮมัสที่กั้นดินแดนทั้งสองมาเยือนที่นี่และสิ่งที่กำลังมานั้นจะต้องแลกสิ่งสำคัญกับโอกาสที่มหาศาล

        “ท่านพ่อ”เสียงแหบเล็กลอยมาจากด้านหลังของเมลเรียส เขาหันมามองต้นเสียงที่เขาคุ้นเคยด้วยสีหน้าที่แช่แข็ง

       “เรื่องเกิดเร็วเพียงใด” มิซ่าเปิดการสนทนาด้วยสีหน้าเดียวกับที่พ่อเขามองเธอ เธอรู้ดีว่าเขาจะไม่พูดอะไรหรือบอกให้เธอนั่งเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆเป็นแน่แท้ และเธอมักจะพูดออกมาก่อนเขาเสมอ “อีกไกลเพียงใดที่…..”

         “ทูตต้นไม้ส่งสาส์นผ่านนกเวทย์มนต์มาเมื่อครู่ กษัตริย์ต้นไม้จะเริ่มออกเดินทางรุ่งสางวันพรุ่งนี้” เมลเลียสตอบขัดมิซ่า “อีกสี่วันคงจะถึงชายแดนหัวเมืองฝั่งเหนือ”

        มิซ่าเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ เธอโล่งอกที่คำที่มิโน่พี่ชายของเธอจะพูดเกินจริงไปหน่อย  “แล้วท่านพ่อเรียกข้ามาที่นี่ มีเหตุอันใด” เสียงของเธอเบาลงจากตอนแรกที่เธอพูด

       “ด้านล่างสาส์นบอกว่า เจ้าชายลาคินทายาทบัลลังก์ต้นไม้ได้ล่วงหน้ามาก่อนแล้ว และน่าจะผ่านป้อมสตรอมการ์ด เข้ามาเมืองหลวงนี้แล้ว มิซา เจ้าจงไปรับเขาพามายังโชวารอส”

       มิซาพยักหน้า  “ข้าจะไป”  “เตรียมม้าและคนคอยรอรับ เลมีและลูม่าจะไปกับข้า”เธอตอบห้วนสั่นก่อนที่จะตัดจบบทสนทนาด้วยการเดินออกไปนอกห้องโถง

      “และอีกอย่าง” เมลเลียสพูดขึ้นหยุดมิซาก่อนจะเดินออกไป “เจ้าควรไปรับคนเดียวคงมีอะไรคุยกันอีกมากกว่ากับการที่เจ้าพาเพื่อนไป”

   “เจ้าชายเป็นคู่หมั้นเจ้า” เขาพูดตัดจบบทสนทนาแทน แล้วเดินออกไปทางซุ้มประตูหน้าระเบียงพร้อมเอามือทั้งสองเท้ารั้วระเบียงแล้วมองออกไปที่อ่าวท่าจันทร์เสี้ยว ปล่อยให้มิซ่ามองเขาด้วยความเงียบที่ซุ้มประตูทางออกฝั่งตรงข้าม เธอหันกลับไปและเดินออกไปรวดเร็วและก้าวเท้าอย่างหนักจนเสียงรองเท้าแข็งของเธอดังกระทบกับพื้นจนเสียงค่อยๆเบาลงในห้องโถง

   

      “ความสัมพันธ์ที่พูดยาก รักมากเพียงใด แต่กับไม่สามารถบอกให้ได้รู้” เสียงผู้หญิงดังออกมาจากมุมมืดของห้อง หญิงลึกลับเดินออกมาจากหลืบเงา เธอสวมเสื้อผ้าไหมทอประณีตสีฟ้าอ่อนงามดั่งคนชั้นสูง เธอดูอ่อนกว่าเมลเลียสเล็กน้อยจากรอยตีนกาจางๆ เธอเดินอย่างช้าๆออกมาหน้าระเบียงแล้วใช้มือข้างหนึ่งเท้ากับรั้วระเบียงข้างเมลเลียส 

     “เหตุใดไม่บอกเล่าว่าเจ้าชายอยู่ที่นั่น ฝ่าบาท” เธอถามเขาพร้อมกับมองออกไปที่อ่าวจันทร์เสี้ยว

      เมลเลียสรู้สึกไม่ชอบกับคำถามนั้นสักเท่าไหร่  “ทุกอย่างพร้อมไหม” เขาหันมามองเธอพร้อมกับเลี่ยงคำถามด้วยการถามเธอกลับไป

      “ขึ้นอยู่กับสิ่งนั้นคืออะไร ฝ่าบาท มีเรื่องมากมายที่ข้าต้องทำในเมืองหลวงแห่งนี้ และไม่กี่วันนี้สหายทั้งสองของท่านจะมายังเมืองหลวง ท่านแน่ใจแล้วหรือว่าท่านพร้อมแล้วกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น แม้แต่สหายทั้งสองของท่านก็ยังไม่รู้ว่าสิ่งที่เตรียมพร้อมไว้นั่นคืออะไร”

        “เราต่างรู้”เขาตอบกลับ “ข้าหวังว่าเจ้าคงไม่ลืมเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นเร็วๆนี้”

         “กำลังเกิด จะเกิด อาจจะเกิด” เธอพูด “บางทีท่านควรใช้คำหลังจะเป็นการดีกว่า”

          “อาจจะ”เมลเลียสทวน “เจ้าคงไม่มาหาข้าหากไม่มีอะไรที่เคลื่อนไหวในตอนนี้”

      เธอยิ้มให้เขา “คนของกษัตริย์ต้นไม้จ้างมาจะทำตามแผนการเอง ตอนนี้เดินทางมาถึงเมืองหลวงแล้ว”

        “มาถึงพร้อมกับเจ้าชาย”เมลเลียสพูดด้วยความสงสัย “เจ้าชายรู้เรื่องนี้หรือ”

       “ไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากท่านกับคนที่ท่านอยากให้รู้”เธอกล่าว “นักฆ่ารับจ้างเดินทางมาถึงพร้อมกับเจ้าชายจริงแต่ไม่ได้มากับเจ้าชายด้วย”

        “นักฆ่ารับจ้าง”เมลเลียสทวนคำด้วยความตกใจ

        “คนพวกนี้มีฝีมือที่มาจากเกาะดำมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถติดต่อกับพวกนี้ได้ และจะทำตามภารกิจจนกว่าจะจบตามที่ขอ ครั้งนี้พวกนักฆ่าถูกจ้างมาให้ฆ่าเฉพาะคนที่ขัดขวางเท่านั้นท่านวางใจได้ นักฆ่าจากเกาะดำมีชื่อเรื่องความไวและเงียบและดูแลของที่มันนำไปอย่างดีไม่มีรอยขีดข่วน” เธอตอบข้อสงสัยด้วยเสียงเย็นชา

        “แต่มันก็ยังเป็นนักฆ่า ข้าไม่ไว้ใจพวกมัน”เมลเลียสกล่าว “หากเกิดอะไรผิดพลาดขึ้นมาอาจเกิดเรื่องรุนแรงอย่างที่ไม่เคยมีก็ได้”

        “สิ่งที่กำลังจะเกิดเดิมพันสูงนัก ฝ่าบาท ท่านได้เลือกแล้ว” เธอตอบเสียงหนักแน่น “และมันมีแค่สองทางที่จะเกิด ทุกอย่างจะเป็นไปได้ด้วยดีหรือล้มเหลวเท่านั้น และทุกทางเลือกจะต้องยอมเสี่ยงไม่ว่าจะยังไง”

 

       เมลเลียสมองตาเธอ ดวงตาสีน้ำตาลทำให้เขารู้สึกอบอุ่น “ข้ารู้จักกับเจ้ามาตั้งแต่ยังเด็ก อินลี่” เขาถอนหายใจ แล้วมองไปยังสุดขอบทะเลที่ตัดกับท้องฟ้าที่ปากอ่าว  “ตั้งแต่พ่อของเจ้าที่ทำงานให้พ่อของข้า และตอนที่ข้านำทัพรวบรวมอาณาจักรนี้ไว้ พ่อเจ้าเปรียบเหมือนเป็นหูเวทย์มนต์ของดินแดนโดยแท้ ไม่มีข่าวสารหรือความลับใดลอดผ่านพ่อของเจ้าได้ แต่ตอนนี้เขาได้จากไป และเจ้าก็รับงานต่อจากเขา เจ้าทำให้ข้าคิดถึงพ่อของเจ้า ดวงตาของเจ้าทำให้นึกถึงตอนที่เขาแนะนำข้าให้รู้จักเด็กหญิงคนหนึ่ง เด็กหญิงที่ดูไร้เดียงสาและอ่อนโยน แต่ตอนนี้เด็กหญิงได้โตขึ้นและกลายเป็นคนที่กุมข่าวสารของวาเนียและมีสายอยู่ทั่วอาณาจักร ที่จริงนี้เป็นสิ่งสุดท้ายที่คิดว่าข้าจะได้เห็นจากสิ่งที่เจ้าเป็นในตอนนี้  ทีนี้บอกข้าได้ไหมว่าทุกอย่างจะพร้อม”

 

          อินลี่ดูใจเล็กน้อยกับคำที่เมลเลียสพูด แม้ว่าทั้งสองจะเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาสมัยเด็ก แต่เมื่อนานมาแล้วตอนที่พ่อเธอยังไม่สิ้นลมหายใจ ตอนที่เมลเลียสยังไม่เจอหญิงสาวที่เขาหลงรัก เธอมีใจให้เขาไม่น้อยไปกว่าหญิงสาวที่เมลเลียสหลงรักมาตลอด แต่เมื่อทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป เขารวบรวมดินแดนและได้เป็นกษัตริย์ แล้วพ่อของเธอก็จากไปไม่นานหลังจากนั้น เธอได้เลือกการงานและหน้าที่ต่อจากพ่อของเธอและเพื่ออาณาจักร แทนการรักข้างเดียวของเธอ

        “ฝ่าบาท” สุดท้ายเธอก็พูดออกมาอย่างเงียบๆและเบือนหน้าออกไปที่อ่าว

      “เรียกข้า อย่างที่ข้าเรียกเจ้า จะดูมีมรรยาทและน้อบน้อมกว่าสำหรับข้า” เมลเลียสขยับมือของเขาไปวางทับมือของอินลี่ที่วางอยู่เบาๆ

            “กษัตริย์ต้นไม้จะเดินทางวันพรุ่ง ข้ามีสายอยู่ในขบวนเสด็จ” เธอหลบสายตาเขา “ถ้ามีอะไรข้าจะมาบอกเจ้า” เธอดึงมือออกมาพร้อมเดินออกจากระเบียงไปในห้องโถงด้วยอาการลุกลน

            “บางที” เธอหันมาหาเมลเลียสที่ยืนอยู่นอกระเบียง “เจ้าควรอ่อนโยนกับลูกสาวของเจ้าให้มากกว่านี้ ก่อนสิ่งที่เตรียมพร้อมไว้จะเริ่ม เราอยู่กับคนที่เรารักไม่ได้ตลอดเจ้าก็รู้ เหมือนกับตอนที่เจ้าส่งพ่อข้าไปตายที่สตรอมการ์ด นั่นคือตอนที่ทำให้ข้าได้เรียนรู้คำสอนติดปากของชาวแดนขวานนี้อย่างลึกซึ้งเชียวล่ะ” เธอพูดเสียงเรียบนิ่งและยิ้มจางๆให้เป็นการดูมีมรรยาทและน้อบน้อมสำหรับเมลเลียส ก่อนจะเดินจากไปอย่างเงียบๆ

          ผู้หญิงที่เป็นหนึ่งในคนที่เมลเลียสรู้จักมานานที่สุดที่ยังมีชีวิต รู้จักกันมาครึ่งชีวิตเขา เมลเลียสรู้สึกคำของเธอได้เยือกแข็งเข้ามาที่หน้าอก รอยยิ้มจางๆที่ทำให้เขารู้สึกผิดมาตลอดยี่สิบห้าปีหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น และสิ่งที่เขาไม่เคยบอกเธอ คำสัญญาลูกผู้ชายที่พ่อของเธอมีไว้กับเขาก่อนจะจากไปสิ้นลมที่สตรอมการ์ดนั้น เขาไม่เคยบอกใครมาตลอดยี่สิบห้าปี แต่สิ่งที่เขารู้สึกผิดอีกอย่างกับอินลี่มาตลอด และสิ่งที่เขายากที่จะบอกกับเธอออกมา นั้นคือคำ ขอโทษ

       

       ทุกอย่างย่อมดำเนินไป บางคนยังนึกถึงเรื่องราวที่ดูราวกับวันวานแล้วตระหนักกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นว่า  เราไม่สามารถอยู่กับอะไรได้ตลอด  นั้นคือคำสอนของชาวแดนขวานที่เขารู้ดี รู้อยู่เสมอ รู้อยู่แก่ใจของเขาเอง

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา