RED STONE WAR
เขียนโดย nemon
วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.50 น.
แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.26 น. โดย เจ้าของนิยาย
40) Running man
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเวลาไม่เคยรอคอยใครเป็นฉันใดมันก็ย่อมเป็นฉันนั้นเสมอ ในขณะที่ไคและแปปซีกำลังนั่งเล่นเกมส์กันอยู่อย่างเงียบเงียบ จู่จู่ก็มีเสียงอะไรบางอย่างที่ไครู้สึกได้ทันทีเพราะเค้าเองก็เคยได้ยินเสียงแบบนี้มาก่อน
“คร่อกก คร่อกก คร่อกกกก”
ทันทีที่ไคหันไปมองทางต้นเสียง ก็พบกับภาพอันน่าขบขันเอามากมาก ภาพนั้นคือจัมพ์ที่หลับคาหน้าจอคอมพิวเตอร์ จัมพ์หลับในขณะที่มือของเขาข้างหนึ่งยังจับเมาส์อยู่เลย จัมพ์นอนกรน แถมยังนอนอ้าปากน้ำลายไหลอีก ทั้งไคและแปปซีเห็นภาพดังกล่าวของจัมพ์ก็อดขำไม่ได้จริงจริง
“สงสัยจัมพ์มันจะฝันว่ากำลังกินของอร่อยอยู่แน่แน่เลย ว่ามั้ย ไค ฮ่า ฮ่า”แปปซีพูดไปหัวเราะไปพร้อมกับมองหน้าไค ไคเองพอเห็นภาพบวกกับสิ่งที่แปปซีพูดก็อดหัวเราะตามแปปซีไม่ได้จริงจริง ทั้งคู่หัวเราะร่าอยู่ครู่หนึ่ง จัมพ์ก็สดุ้งตื่นขึ้นมา คงเพราะเสียงหัวเราะของคนทั้งคู่แน่แน่
“เกิดอะไรขึ้นเหรอ”จัมพ์ถามไคแบบ งง งง
“ไม่มีอะไรหรอกครับ คือพวกเรากำลังจะเลิกเล่นเกมส์พอดี นี่ก็ดึกมากแล้วผมว่าเรากลับตึกไปพักผ่อนกันดีกว่ามั้ย”ไคกล่าว
หลังจากนั้นทั้งจัมพ์และแปปซีก็เห็นด้วยกับคำพูดของไค เพราะเวลานี้ก็ดึกมากแล้วแถมฝนที่ตกอยู่ด้านนอกก็เหมือนว่าจะหยุดตกแล้ว ทั้งสามคนพร้อมกับโจเซฟก็ออกจากอาคารอเนกประสงค์ ในตอนที่ทั้งสามคนเดินออกมาจากอาคาร ไคสังเกตดูเค้าก็เห็นว่ายังมีคนอีกหลายคนที่ยังคงนั่งเล่นเกมส์อย่างขะมักเขม้น ภายนอกตัวอาคารก็ยังคงมีผู้คนเดินกันอย่างประปราย ทั้งสามคนเดินลัดเลาะมาทางด้านหลังของอาคารอเนกประสงค์ ทางเดินบริเวณนั้นค่อนข้างมืด มีแสงไฟน้อยมากแต่แปปซีบอกว่าทางนี้เป็นทางลัด แปปซีได้พาไคและจัมพ์เดินมาตามทางมืดมืด ตัดเข้าถนนสายหนึ่งที่อ้อมด้านหลังของอาคารตัวTเป็นทางเล็กเล็กที่อยู่ข้างคูน้ำมองไปทางด้านหน้าไม่ไกลมากนักก็เห็น สนามหญ้าเล็กเล็กกับเรือนเพาะชำของอาคารตึกAอยู่
“นั้นไงล่ะตึกของพวกเรา”แปปซีเอ่ยขึ้นพร้อมกับชี้ไปทางตัวอาคารA
“ฟู่ ฟู่ ครืดดด ครืดดด”
อยู่ดีดีก็มีเสียงประหลาดดังมาจากฝั่งตรงข้ามของคูน้ำ ทั้งสามคนจึงหันไปมองตามทิศทางของเสียงนั้นทันที ภาพที่ทั้งสามคนนั้นได้เห็นทำให้ทั้งสามคนตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูกได้แต่นิ่งเงียบจ้องมองบางสิ่งบางอย่างที่เป็นต้นเสียงที่อยู่อีกฝั่งของคูน้ำ สิ่งที่เห็นคือ เงาดำคล้ายคล้ายเงาคนรูปร่างสูงใหญ่กว่าพวกเค้าทั้งสามมากนักแถมยังมีดวงตาสีแดงกล่ำ ยืนจ้องมองมาทางคนทั้งสาม พร้อมกับเสียงหายใจที่ดังคล้ายเสียงของงู ทั้งสามคนมองเห็นไม่ถนัดมากนัก แต่ทั้งสามคนรู้ดีว่า เจ้าสิ่งนั้นที่พวกเค้าเห็นอยู่ไม่น่าจะเป็นมิตร โจเซฟเองก็รับรู้ได้ทันทีกับแววตาสีแดงกล่ำนั้นมันเริ่มคำรามอยู่ในลำคอ และเริ่มเห่าทันที
“โฮ่ง โฮ่ง”
ทันทีที่โจเซฟเห่าออกไปมันพยายามดิ้นไปมาเพื่อจะให้หลุดออกจากอ้อมแขนของไค แต่ไคเองก็ไม่ยอมปล่อยมัน โจเซฟเองที่รับรู้ถึงอันตรายที่กำลังจะเข้ามา มันพยายามดิ้นสุดชีวิตเพื่อจะให้ไคปล่อยมัน เพราะมันต้องการจะปกป้องไคและพวกพ้องของมัน ในความมืดมิดที่แถบจะมองไม่เห็นมือตัวเอง มีแค่เพียงแสงจากเงาจันทร์อ่อนอ่อนสาดส่องลงมาทันใดนั้น เจ้าเงาดำร่างทะมึนก็กระโจนลงคูน้ำทันที แล้วดำดิ่งพุ่งมายังจุดที่ทั้งสามคนยืนอยู่อย่างรวดเร็ว
“นั่นมันตัวอะไรวะนั้น ไคแกเห็นมันมั้ย”จัมพ์ตะโกนขึ้นพร้อมกับมองหน้าไค
“จะอยู่ทำไมล่ะ วิ่งซิวะอยู่ให้โง่รึ”เสียงแปปซีโหวกเหวกขึ้น
พอสิ้นเสียงของแปปซีเค้าก็หันหลังวิ่งโกยอ้าวไปทันที จัมพ์เห็นดังนั้นก็ขว้าข้อมือไคแล้วลากไควิ่งตามแปปซีไปติดติดอย่างรวดเร็ว ทั้งไคและจัมพ์ต่างก็วิ่งตามแปปซีไปติดติดแต่แปปซีวิ่งเร็วมาก ไคที่อุ้มเจ้าโจเซฟที่ดิ้นไปมาอยู่ตลอดเวลา ทำให้เค้าวิ่งช้าที่สุด ไคหันไปมองด้านหลังเค้าก็เห็นเจ้าเงาดำทะมึนตัวนั้นก็โผล่ขึ้นจากคูน้ำมาได้และกำลังวิ่งไล่กวดมาทางพวกเค้าอย่างรวดเร็ว ท่าวิ่งของเจ้าตัวประหลาดมีลักษณะแปลกประหลาดไม่เหมือนคนทั่วไป มันวิ่งในลักษณะแบบหมอบต่ำต่ำ และ เอามือทั้งสองข้างพาดไปอยู่ทางด้านหลัง มองเห็นเป็นเพียงก้อนเงาสีดำดำ กับ ดวงตาคู่สีแดงกล่ำที่จ้องมองมาที่เค้าอย่างดุดัน
ในทางด้านผู้นำในการวิ่งหนีคือแปปซี ในขณะที่จัมพ์กำลังจะวิ่งทันแปปซีแล้วจู่จู่แปปซีก็ใช้ความสามารถของผลึกทันทีเค้ากลายร่างเป็นสุนัขตัวโตสายพันธุ์โกลเดินริทรีฟเวอร์ ขนสีน้ำตาลอ่อนขนยาวมันเงาวิ่งนำหน้าจัมพ์และไคไปอย่างรวดเร็ว จัมพ์เห็นดังนั้นก็เร่งฝีเท้าวิ่งตามแปปซีไปติดติด เค้าวิ่งใช้เวลาไม่นานก็ตามแปปซีทัน พอจัมพ์วิ่งถึงตัวแปปซีได้เค้าก็ขว้าหางของเจ้าร่างสุนัขแปปซีเอาไว้ จนเจ้าสุนัขร้องลั่นด้วยความเจ็บ
“เอ๋งงงงงงง”เสียงร้องที่คล้ายเสียงสุนัขจริงจริงดังลั่น
และทันทีที่สิ้นเสียงร้องของแปปซี จัมพ์ก็สังเกตเห็นว่าแปปซีได้พาเค้ามาหยุดอยู่ที่หน้าอาคารAพอดีเลย หลังจากนั้นร่างสุนัขพันธุ์โกลเดินริทรีฟเวอร์ก็กลายร่างกลับคืนเป็นร่างกายมนุษย์อีกครั้ง จัมพ์ที่ยืนดูอยู่ได้แต่นิ่งอึ้งกับภาพที่เค้าไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน แขนกับขาของเจ้าสุนัขตัวโตโตที่มีขนสีเหลืองอ่อนยาวยาว ค่อยค่อยหดหายไป แต่กลับเป็นแขนและขาของมนุษย์ยืดออกมาแทน จัมพ์ยืนดูการคืนสภาพร่างกายของแปปซีอย่างน่าตื่นเต้น แต่ความตื่นเต้นก็ต้องหยุดลงอย่างรวดเร็ว เหตุเพราะว่าในตอนที่แปปซีคืนร่างเดิมกลับมาเป็นมนุษย์นั้น เสื้อผ้าที่เคยสวมใส่อยู่ในตอนแรกของเขาไม่เหลืออยู่เลยแม้แต่ชิ้นเดียว เหลือเพียงร่างเปลือยเปล่า ซึ่งจัมพ์เห็นแล้วรับไม่ได้จริงจริง
“ไอ้จัมพ์บ้าก็จะมาดึงหางข้าไว้ทำไมฟะ ข้าเจ็บนะเฟ้ย”แปปซีหลังจากคืนร่างเดิมแล้วก็โวยวายใส่จัมพ์ทันที
“ข้าขอโทษจริงจริง ก็ตอนนั้นแกรีบวิ่งซะเร็วเลยข้าก็กลัวจะไม่ทันก็เลยคว้าหางเอาไว้ก่อนนะสิ”จัมพ์กล่าวคำขอโทษจากใจจริง
“อ้าว แล้วแกตามข้ามาแค่คนเดียวเองรึ ไคกับโจเซฟล่ะ”แปปซีถามจัมพ์
“โครมมมม ตึงงงง โครมมมมม”
>…………………..<
จู่จู่ก็มีเสียงโครมครามดังมาจาก เรือนเพาะชำ ที่อยู่ไม่ไกลกับบริเวณที่จัมพ์และแปปซียืนอยู่มากนัก จัมพ์รับรู้ได้ทันทีว่าจะต้องเกิดเรื่องที่ไม่ดีกับไคและโจเซฟแน่แน่ ซึ่งในตอนที่วิ่งมานั้นไคและตัวเค้าคงจะพลัดหลงกันตรงบริเวณทางแยกก่อนหน้านี้ เนื่องด้วยความตกใจและความมืดอาจทำให้ไควิ่งผิดไปอีกทางก็เป็นได้ จัมพ์จึงรวบรวมสติแล้วบอกให้แปปซีไปตามคนมาช่วย ส่วนตัวเค้าจะรีบไปช่วยเหลือไคก่อน แปปซีรับคำแล้วรีบเข้าไปในตัวอาคารเพื่อไปตามคนมาช่วยเหลือทันที ส่วนตัวเค้าเองก็รีบวิ่งไปที่เรือนเพาะชำที่อยู่ใกล้ใกล้ทันที จัมพ์วิ่งไปตามเสียงที่ได้ยินพร้อมกับเรียกอาวุธคู่ใจ ดาบฟ้าสั่ง ออกมากำไว้แน่นเตรียมพร้อมที่จะฟาดฟันอะไรก็ตามที่ทำร้ายเพื่อนของเค้า ในตอนนั้นจัมพ์ขจัดความหวาดกลัวจนหมดสิ้น จัมพ์รู้เพียงแค่เค้าเป็นห่วงไค เพื่อนที่ดีที่สุดคนเดียวของเค้า ทันทีที่จัมพ์วิ่งไปถึงเรือนเพาะชำสิ่งแรกที่เค้าได้เห็นนั่นก็คือ ประตูทางเข้าเรือนเพาะชำที่ทำจากไม้ระแนงถูกทำลายพังยับเยิน เศษไม้ของบานประตูกระจัดกระจายไปทั่ว จัมพ์จึงรีบวิ่งเข้าไปด้านในเรือนเพาะชำทันที
ภายในเรือนเพะชำสภาพก็ไม่ต่างจากบานประตูมากนัก เศษซากข้าวของเสียหายไม่ว่าจะเป็นเศษกระถางต้นไม้ที่แตกละเอียดจำนวนหลายใบ อีกทั้งต้นไม้ใบหญ้าต่างต่างก็ล้มระเนระนาดพร้อมทั้งเศษอุปกรณ์การเกษตรก็แตกหักเสียหาย กระจัดกระจายไปทั่ว ดูเพียงแวบแรกก็รู้ได้ทันทีว่านี่มันคือร่องรอยการต่อสู้กันอย่างดุเดือดแน่นอน จัมพ์จึงเข้าไปดูด้านในสุดของเรือนเพาะชำ เค้าเห็นไคที่ยืนอย่างสงบนิ่งที่ในอ้อมแขนของไคยังคงอุ้มโจเซฟเอาไว้สภาพของไคดูมอมแมมไปทั้งตัว ไคยืนจ้องมองดูอะไรบางอย่างซึ่งเป็นรูโหว่ขนาดใหญ่ของรั้วไม้เรือนเพาะชำที่มีขนาดพอพอกับตัวคน พร้อมทั้งเศษไม้ระแนงแตกกระจัดกระจายเกลื่อนกลาด
“มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ ไค” นี่เป็นคำถามแรกที่ออกจากปากจัมพ์
฿฿฿฿฿฿
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ