RED STONE WAR

9.0

เขียนโดย nemon

วันที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.50 น.

  86 ตอน
  9 วิจารณ์
  74.15K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.26 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) โจเซฟ ริชาร์ด ปาร์คเกอร์

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                         ดวงจันทร์ใช้เวลาในการหมุนรอบตัวเองที่ได้จังหวะพอดีกับวิถีของการโคจรรอบโลก และแสงจันทร์สาดส่องลงมากระทบพื้นดินแสงสีอ่อนอ่อนพาดผ่านมาที่สวนสนามหญ้า หลังบ้านหลังใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งลักษณะตัวบ้านเป็นบ้านทรงยุโรปสไตล์สแกนดิเนเวียน เป็นบ้านสองชั้นสีขาวประดับด้วยโคมไฟมากมายมีโคมไฟระย้า เปร่งแสงระยิบระยับมองดูคล้ายเพชรกระรัตงาม ที่ชั้นล่างของบ้านทั้งบานประตูและหน้าต่าง ออกแบบคล้ายกันโดยเป็นกระจกลายตารางหมากรุกรอบตัวบ้าน ส่วนชั้นสองของบ้านเป็นสีขาว และเป็นกระจกสามบานขนาดใหญ่ ที่หลังคาบ้านยังมีปล่องไฟ เป็นบ้านที่สวยงามทรงยุโรปแบบโบราณบ่งบอกถึงลักษณะผู้ที่อยู่อาศัยบ้านหลังนี้คงเป็นคนมีฐานะค่อนข้างดีเลยทีเดียว ที่ชั้นล่างของด้านในตัวบ้าน ที่พื้นบ้านปูด้วยลายไม้โอ๊คสีอ่อน มีพรมหนังสัตว์เจ็ดสีวางเต็มพื้นที่ห้องรับแขก ซึ่งดูเข้ากันมากกับโซฟาขนาดใหญ่สามตัวสีน้ำตาลเข้มเป็นโซฟาที่ทำมาจากกำมะหยี่แท้และบนเก้าอี้สีน้ำตาลอ่อนมีชายรูปร่างสูงโปร่งน่าจะดูมีอายุมากแล้วเพราะสังเกตได้จากศีรษะของเค้าเป็นสีขาวทั้งหัวนั่งอยู่ เค้าสวมชุดทักซิโด้สีดำ ด้านในมีเสื้อเชิ้ตแบบคอปกกว้างสีขาวแขนยาวและที่ด้านหลังของชายผมสีขาวยังมีผู้ชายอีกคนนึงยืนอยู่ชายคนนี้สวมชุดแบบเดียวกันแต่เป็นเหมือนชุดสูทสีดำแสดงให้เห็นถึงความต่างชั้นกันอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่สังเกตดูจากการยืนตรงนิ่งนิ่งน่าจะเป็นคนรับใช้คนสนิทของชายผมขาวผู้มีฐานะแน่แน่ คนทั้งคู่เหมือนกับว่ารออะไรบางอย่าง เหตุเพราะชายคนที่มีผมสีขาวที่นั่งอยู่ มักที่จะมองดูนาฬิกาเรือนทองที่ข้อมือของเขาอยู่เป็นระยะระยะอย่างร้อนรน ทันใดนั้นเสียงเปิดประตูห้องจากชั้นสองของบ้านก็เปิดออกมีหญิงสาวอายุประมาณสี่สิบปีเศษเศษ แต่เธอยังดูดีรูปร่างสูงโปร่งดูสง่างามบ่งบอกถึงการดูแลตัวเองเป็นอย่างดีของเจ้าหล่อน เธอค่อยค่อยย่างกรายเดินลงบันไดอย่างช้าช้า เพราะชุดที่เธอสวมใส่เป็นชุดราตรีสีขาวที่มีชายกระโปรงยาวจนแทบจะลากพื้น เธอสวมเครื่องประดับด้วยเพชรระยิบระยับไปทั้งตัวไม่ว่าจะเป็นสร้อยคอ ตุ้มหู แหวนเพชร ประดับประดาคล้ายราชินีก็ไม่ปาน ที่พื้นพรมในขณะที่เธอกำลังจะเดินลงจากบันได ก็มีลูกสุนัขสีขาวสายพันธ์ เวสต์ไฮแลนด์ไวท์เทอร์เรีย ขนสีขาว ตัวเล็กดวงตาสีดำขนยาว มีหูขนาดเล็กตั้งตรง เป็นเพศผู้สูงประมาณสามสิบเซนติเมตรหนักไม่เกินสิบกิโล วิ่งมุดผ่านกระโปรงยาวของเธอไป มันวิ่งลงบันไดไปหาชายผมขาวผู้เป็นเจ้าของมันอย่างคล่องแคล่ว พอถึงเก้าอี้ที่เจ้านายมันนั่งอยู่มันก็วิ่งหมุนรอบตัวเองเป็นวงกลมพร้อมกับกระดิกหางไปมา ตัวเจ้าสุนัขพอมันหมุนตัวไปมาหลายหลายรอบมันจึงหยุดแล้วจ้องมองเจ้านายของมัน ทันทีที่เจ้านายของมันเห็นตัวมันเค้าก็ยิ้ม แล้วเอื้อมมือมาลูบหัวมันเบาเบา ก่อนจะอุ้มมันขึ้นมากอดไว้ เจ้าลูกสุนัขกระดิกหางสบัดไปมาอย่างมีความสุขแสดงออกต่อการรับรู้ถึงความรักและความสัมพันธ์ของเจ้านายของมันและตัวมันเองอย่างชัดเจน ต่อมาชายผมขาวจึงวางเจ้าลูกสุนัขลงกับพื้นเหตุเพราะว่า หญิงสาวคนรักของเค้าได้เดินลงมาหาเค้าทั้งคู่ต่างมองตากันยืนนิ่งเงียบไปทั้งคู่เจ้าลูกสุนัขตัวน้อยจ้องมองเจ้านายของมันมองตากันอย่างเป็นประกาย ตัวมันเองก็รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นและความผูกพันของคนทั้งคู่หลังจากนั้นเจ้านายของมันทั้งคู่ก็จับมือกันแล้วชายคนที่มีผมสีขาวก็หันไปพูดกับชายที่ยืนอยู่ด้านหลังอีกคน เหมือนออกคำสั่งอะไรบางอย่างชายคนดังกล่าวพอได้รับคำสั่งก็วิ่งเบาเบาออกไปทันที เจ้าลูกสุนัขจ้องมองอย่างสงสัยแล้วคนทั้งสองจึงหันมามองเจ้าลูกสุนัขตัวน้อย ชายคนที่มีผมสีขาวมองเจ้าลูกสุนัขแล้วจึงพูดกับมันว่า

“อิ๊กกี้ ไปเที่ยวข้างนอกกัน” อิ๊กกี้ คือชื่อของมันแน่แน่เพราะเป็นเสียงเรียกที่คุ้นหูของมันมาตั้งแต่มันยังตัวเล็กเล็ก พอเจ้าลูกสุนัขตัวน้อยได้ยินคำสั่งของเจ้านายมันที่แสนจะคุ้นเคยมันจึงรีบวิ่งแซงนำหน้าคนทั้งสองไปทันที แล้วไปหยุดอยู่ที่หน้าประตูบานใหญ่ทำจากไม้สักสีน้ำตาลเข้มสลับกับลายกระจกใส ตกแต่งสวยงามตรงขอบบานประตูก็สลักด้วยลายไทยดูงดงาม เจ้าลูกสุนัขตัวน้อยได้มาหยุดอยู่หน้าประตูมันหันกลับไปมองคนทั้งคู่ที่กำลังเดินตามมันมาอย่างช้าช้า มันกระดิกหางไปมาหมุนรอบตัวเองแล้วก็เห่าไม่หยุดเหมือนกับว่ากำลังส่งเสียงให้ใครซักคนนึงมาเปิดประตูบานใหญ่ให้กับมัน เจ้าลูกสุนัขมันยืนรอจนคนทั้งคู่เดินมาถึงหน้าบานประตูบานใหญ่ พอประตูเปิดออกเจ้าสุนัขตัวน้อยก็กระโจนนำหน้าเจ้านายมันออกไปทันทีมันวิ่งตรงดิ่งไปยังจุดหมายของมัน ซึ่งคือที่ที่ชายคนที่สวมสูทสีดำคนแรกที่เดินออกมาก่อนยืนอยู่ ก็คือคนขับรถของเจ้านายของมันนั่นเอง ซึ่งเค้าได้เดินออกมาก่อนเพื่อไปนำรถมาจอดรอรับชายผู้เป็นนายจ้างของเขา ชายคนนั้นยืนอยู่ข้างข้างรถเมอร์เซเดสเบนซ์ เอสคลาสคันโตสีดำจอดอยู่ ทันทีที่เจ้าลูกสุนัขไปถึงมันก็ไปหยุดอยู่ที่ด้านข้างประตูของรถทันทีมันกระดิกหางไปมาแล้วก็เห่า ชายคนขับรถเห็นดังนั้นก็เปิดประตูรถให้เจ้าลูกสุนัขทันที เค้าทำราวกับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้าลูกสุนัขตัวนี้เป็นเรื่องปรกติมากสำหรับที่นี่ ทันทีที่ประตูรถเปิด เจ้าลูกสุนัขตัวน้อยก็กระโจนขึ้นไปที่เบาะด้านหลังคนขับทันที มันขึ้นไปยืนในที่ของมันประจำพร้อมทั้งกระดิกหางไปมาเพื่อรอเจ้านายของมัน เจ้าลูกสุนัขหันไปชะเง้อมองเจ้านายของมันที่กำลังเดินมาที่รถมันเห่าเพื่อร้องเรียกเจ้านายของมันให้รีบมา พอทั้งคู่เดินมาถึงที่รถคนขับรถก็เปิดประตูให้เจ้านายทั้งสองได้ขึ้นรถอย่างปลอดภัย แล้วจึงวิ่งไปที่ประตูด้านคนขับแล้วขับรถออกจากจุดนั้นทันที โดยที่เจ้านายของเขาไม่ต้องสั่งการใดใด เหมือนกับว่าคนขับรถรู้ถึงจุดหมายที่คนทั้งสองต้องการจะไป พอรถวิ่งออกพ้นประตูบ้านเจ้าลูกสุนัขทำท่าทางเหมือนมีความสุขและตื่นเต้นมากมาก เมื่อมันได้ออกจากบ้านและได้ไปเที่ยวกับเจ้านายที่แสนดีของมันทั้งคู่ มันรู้สึกและสัมผัสได้ถึงความสุขและความอบอุ่นที่ได้อยู่ที่บ้านหลังนี้ จริงจริง มันกระโดดไปเกาะที่ประตูแล้วชะเง้อมองผ่านกระจกรถ เพื่อมองวิวสองข้างทางอย่างมีความสุขและมีมือของเจ้านายของมันลูบหัวและหลังของมันไปมาอย่างเบามือ มันรักเจ้านายของมันเสียเหลือเกิน มันกระดิกหางไปมา พอรถขับมาได้สักพักนึงประมาณไม่ถึงครึ่งชั่วโมงล้อรถก็หยุดหมุน ทันทีที่รถจอดเจ้านายคนที่มีผมสีขาวของมันก็เปิดประตูรถด้วยตัวเองพอประตูรถเปิดปุ๊บ เจ้าอี๊กกี้ก็กระโดดลงจากรถทันที มันลงไปยืนจ้องมองไปตรงด้านหน้าแล้วกระดิกหางไปมา ภาพเบื้องหน้าที่เจ้าลูกสุนัขอิ๊กกี้เห็นนั้นคือ สถานที่แปลกประหลาดใหญ่โตซึ่งมันไม่เคยเห็นมาก่อน ด้านหน้าทางเข้ามีประตูกระจกบานใหญ่สีน้ำตาลสามบานทางด้านข้างมีรูปปั้นรูปคนสีขาวยืนอยู่ทั้งสองด้านเลยไปจนสุด มีเสาหินโรมันขนาดใหญ่โตอีกสี่เสา มองขึ้นไปด้านบนเพดานมีรูปวาดประดับเพดานขนาดใหญ่เป็นรูปเทวดาและนางฟ้าบินอยู่ในอากาศดูงดงามอย่างน่าเหลือเชือ ด้านพื้นล่างที่มันยืนก็เป็นหินอ่อนรูปดาวสีขาวกับสีดำสลับกัน ลักษณะเหมือนมันอยู่ใต้โต๊ะของยักษ์ก็ไม่ปาน ในตอนที่เจ้าอิ๊กกี้กำลังสำรวจสถานที่อยู่นั้นเจ้านายของมันก็คว้าตัวเจ้าลูกสุนัขขึ้นมาอุ้มไว้เจ้าอิ๊กกี้ก็กระดิกหางพร้อมกับเลียไปที่ใบหน้าของเจ้านายของมัน หลังจากนั้นทั้งคู่พร้อมกับเจ้าอิ๊กกี้เดินผ่านประตูกระจกสามบานนั้นเข้าไปด้านใน พอเข้าไปด้านในเจ้าอิ๊กกี้ก็ต้องตกตะลึงอีกครั้งภายในอาคารแห่งนั้นมีผู้คนมากมายแออัดอยู่เต็มไปหมด แต่ละคนในนั้นล้วนแต่งกายดูดีคล้ายกับเจ้านายของมันทุกคนแล้วมีผู้ชายแต่งกายดูดีในชุดสีเงินเดินมาหามันและเจ้านายของมันเพื่อพาไปนั่งที่โต๊ะ เจ้าอิ๊กกี้รู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศภายในมากมากทั้งกลิ่นแปลกแปลก ทั้งกลิ่นน้ำหอม ทั้งกลิ่นบุรี่ มันไม่พอใจมันจึงเห่าออกมาสองครั้ง แต่ว่าเจ้านายของมันก็ห้ามไม่ให้มันเห่าพลางลูบหัวมันเบาเบาเหมือนจะปลอบโยนไม่ให้มันกลัวมันรู้สึกดีที่เจ้านายของมันลูบหัวมันเล่น มันเริ่มรู้สึกผ่อนคลายและเลิกตื่นตะหนกในทันที พอผู้คนรอบรอบตัวมันเริ่มนั่งกันตามตำแหน่งของแต่ละคนแต่ยังมีผู้คนอีกจำนวนมากหลายร้อยคนไม่มีที่นั่งได้แต่ยืนพูดคุยกันอยู่ด้านหลังเต็มไปหมด เจ้าอิ๊กกี้มองสังเกตรอบรอบตัวทั้งด้านหน้าและบนเพดานมันมองเห็นรูปวาดตามเพดานและฝาผนังเต็มไปหมดรวมถึงแสงไฟจากหลอดไฟจำนวนมากแล้วจู่จู่แสงไฟทั้งห้องโถงขนาดใหญ่ก็ดับวูบลง มีเพียงแสงสว่างเพียงจุดเดียวที่ตรงเวทีด้านหน้าของมันเพียงจุดเดียวเท่านั้นเอง อยู่ดีดีผู้คนในห้องโถงใหญ่ที่มีอยู่มากมายต่างก็เงียบลง มีเพียงชายที่อยู่หน้าเวทีที่มีแสงไฟส่องเท่านั้นที่พูดอยู่แล้วจู่จู่คนในห้องโถงก็พูดคุยกันมีเสียงคนตะโกนกันไปมาอย่างอื้ออึงไปหมด เสียงผู้คนตะโกนสลับกับความเงียบไปมาเป็นระยะระยะ แล้วต่อมาก็มีเสียงปรบมือมาจากทุกทิศทุกทางแล้วเจ้านายของเจ้าอิ๊กกี้ก็ยืนขึ้น อุ้มเจ้าลูกสุนัขน้อยส่งให้กับภรรยาของเค้าหลังจากนั้นจึงเดินไปที่หน้าเวทีเจ้าลูกสุนัขอิ๊กกี้ได้แต่เพียงมองตามเจ้านายของมันไปเท่านั้น พอเจ้านายของมันไปยืนอยู่ที่หน้าเวทีซักครู่หนึ่ง มันก็เห็นคนจำนวนมากยืนขึ้นแล้วปรบมือให้กับเจ้านายของมันกันทุกคน พอสิ้นเสียงปรบมือมันเห็นเจ้านายของมันเดินหายไปที่ด้านหลังของเวที เจ้าอิ๊กกี้ได้แต่ชะเง้อมองหาเจ้านายผมสีขาวของมันอย่างเป็นห่วง ในเวลาต่อมาเจ้านายของเจ้าอิ๊กกี้ก็กลับมา แต่พอมาถึงเจ้านายของมันยังไม่ทันนั่งที่ นายผู้หญิงของมันก็ลุกขึ้นเดินตามไปกับนายผู้ชายของมันทันทีด้วยความรีบเร่งของคนทั้งคู่จึงลืมเจ้าอิ๊กกี้ไว้บนที่นั่ง เจ้าลูกสุนัขตัวน้อยได้แต่ยืนรออยู่กับที่กระดิกหางไปมา มันรอสัญญาณของเจ้านายผู้อันเป็นที่รักของมันเรียกเพียงเท่านั้น ทันทีที่เจ้านายมันหันมาเรียก เจ้าอิ๊กกี้รีบกระโดดลงจากเก้าอี้ตัวสีเขียวที่มันยืนอยู่ แล้วรีบวิ่งตามเจ้านายของมันไปอย่างรวดเร็ว อิ๊กกี้สังเกตเห็นสิ่งของบางอย่างที่เจ้านายของมันถืออยู่มันคือกล่องไม้ขนาดเล็กสีน้ำตาลอ่อนมันเห็นเจ้านายของมันถือกล่องไม้นั้นอย่างระมัดระวังเป็นอย่างมาก เจ้านายของมันก่อนเข้ามาก็ไม่เห็นมีกล่องอะไรถือมาซะหน่อย เจ้าอิ๊กกี้คิดในใจและสงสัยของที่อยู่ในกล่องนั้นเป็นอย่างยิ่ง ครั้นพอออกมาถึงหน้าทางเข้าของอาคารขนาดใหญ่ทั้งสองคนยืนรออยู่สักพักรถเมอร์เซเดสเบนซ์สีดำคันใหญ่ก็วิ่งมาจอดเบื้องหน้า เจ้านายของอิ๊กกี้ทั้งสองคนจึงรีบขึ้นรถทันที หลังจากที่รถสีดำคันใหญ่เคลื่อนที่ออกจากสถานที่นั้นได้ไม่นาน เจ้านายผู้มีผมสีขาวก็เปิดกล่องที่เค้าได้ถือมาออกมาให้ภรรยาของเขาดู ทันทีที่เปิดกล่องใบนั้นก็มีแสงสีเหลืองเหลืองวิ่งมากระทบลูกตาของเจ้าอิ๊กกี้พอดี เจ้าอิ๊กกี้ก็อดสงสัยไม่ได้กับของที่อยู่ในกล่องใบนั้น มันจ้องมองไปในทิศทางเดียวกับที่แสงสีเหลืองส่องมา มันคือสร้อยผลึกสีเหลืองสด ภายในผลึกสีเหลืองมองดูคล้ายสิ่งมีชีวิตเพราะว่ามันขยับไปมาได้ เจ้าอิ๊กกี้เห็นได้ชัดเจน มันรู้สึกไม่พอใจกับเจ้าสิ่งของชิ้นนี้เอาเสียเลย มันจึงเริ่มเห่าไม่หยุดเหมือนราวกับว่ามันสามารถรับรู้ถึงความชั่วร้ายหรืออันตรายที่จะตามมาของสร้อยผลึกดังกล่าว แต่เจ้านายของมันทั้งสองคนกลับไม่สนใจทั้งคู่ต่างมองสร้อยผลึกอย่างชื่นชมและภาคภูมิใจกับมันเอามากมาก ทันใดนั้นเองเจ้าอิ๊กกี้ก็ได้ยินเสียงประหลาด คล้ายเสียงของแข็งกระทบกับกระจกแหวกผ่านร่างกายมนุษย์ทะลุเบาะคนขับ เจ้าอิ๊กกี้หันไปมองที่ด้านหลังของเบาะคนขับมันเห็นว่าที่ด้านหลังของเบาะคนขับมีรูขนาดใหญ่เกิดขึ้น ตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของเสียงเจ้านายผู้หญิงของมัน เจ้าลูกสุนัขตัวน้อยรับรู้ได้ทันทีว่าเกิดเรื่องร้ายขึ้นกับเจ้านายของมันเป็นแน่ พอมันหันไปดูทางเจ้านายผมสีขาวของมัน มันได้กลิ่นคาวเลือดในทันทีกับภาพเสื้อสีขาวของเจ้านายของมันได้กลายเป็นสีแดงกระจายทั่วหน้าอก แล้วต่อมารถก็เกิดเสียหลักพุ่งเข้าชนต้นไม้อย่างจัง อิ๊กกี้รับรู้ถึงอันตรายได้ทันทีมันตกใจสุดขีดได้แต่เห่าเพื่อปลุกให้เจ้านายมันตื่นขึ้น มันมองเห็นเจ้านายผู้หญิงของมันเขย่าตัวเจ้านายผมขาวของมันไปมา แล้วร้องไห้พลางกรีดร้องสุดเสียงคล้ายเหมือนกับใจจะขาด ตัวมันเองก็ได้แต่เห่าไม่หยุดมันไม่รู้ว่าจะช่วยเจ้านายของมันอย่างไรดี หลังจากที่นายผู้หญิงของมันเปิดประตูรถทางด้านฝั่งของเธอได้เธอจึงรีบวิ่งออกจากตัวรถไปทันที อิ๊กกี้มองก็รู้ได้ว่านายหญิงของมันคงกำลังจะหาวิธีช่วยเจ้านายผมสีขาวของมันอยู่แน่แน่ ทางเดียวที่มันจะช่วยเจ้านายของมันได้มันต้องปลุกเจ้านายของมันให้ตื่นขึ้น มันจึงเห่าสุดเสียงเพื่อจะปลุกเจ้านายของมันให้ได้ อิ๊กกี้เห่าไปเรื่อยเรื่อยไม่ยอมหยุดในความคิดของมันถาพที่เกี่ยวข้องกับเจ้านายของมัน ภาพที่เจ้านายคอยรูปหัวมัน คอยเล่นกับมันกำลังจะค่อยค่อยเลือนหายไป พอมันเห่าไปซักพักนึงมันสังเกตเห็นว่ามือของเจ้านายมันขยับได้เล็กน้อยและค่อยค่อยลืมตาขึ้นแต่ใบหน้าของเจ้านายมันตอนนี้ ดูอิดโรยและเปรอะไปด้วยคราบเลือดเต็มไปหมด มันจึงกระดิกหางไปมาและกระโดดไปมามันเข้าไปเลียคราบเลือดที่ติดตามใบหน้าของเจ้านายมันจนตัวของมันเลอะคราบเลือดไปหมด เจ้านายผู้ชายของมันรวบรวมเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายเอามือลูบหัวมันเบาเบาแล้วพูดกับเจ้าลูกสุนัขตัวน้อยเหมือนเป็นคำสั่งเสียสุดท้ายคล้ายคำสั่งเสียของบิดาต่อลูกชายก็ไม่ปาน

“อิ๊กกี้ ฝากดูแลนายผู้หญิงด้วยนะ เจ้าลูกชาย”นี่คงจะเป็นคำพูดสุดท้ายของเจ้านายผู้อันเป็นที่รักของมันแต่ก่อนที่เจ้านายของมันจะสิ้นใจ เค้าได้นำเอาสร้อยผลึกสีเหลืองเส้นนั้นมัดรวมกันแล้วผูกไว้ที่คอของเจ้าอิ๊กกี้เจ้าลูกสุนัขตัวน้อยยืนอยู่ข้างข้างเจ้านายของมันจนสิ้นเสียงเต้นของหัวใจ เจ้านายของมันนอนนิ่งสนิทไม่ขยับตัวอีกต่อไปมันรับรู้ได้ว่าเจ้านายของมันคงไม่กลับมาเล่นกับมันอีกต่อไปแล้ว มันจึงนึกถึงคำฝากฝังของเจ้านายผมสีขาวของมัน แต่ก่อนที่มันจะจากไปเจ้าอิ๊กกี้ก็ก้มหัวลงไปเลียที่มือของเจ้านายมันสองครั้งก่อนที่จะกระโดดลงจากรถแล้ววิ่งตามนายผู้หญิงของมันไป เจ้าอิ๊กกี้วิ่งไปตามรอยของนายผู้หญิงของมันจมูกก็ดมกลิ่นตามทางมา มันวิ่งจนมาถึงบริเวณสะพานไม้ข้ามคลองบำบัดน้ำเสียแห่งหนึ่ง มันมองเห็นนายผู้หญิงที่สวมชุดสีขาวที่ยืนอยู่ตรงกลางสะพานมาแต่ไกล ทันทีที่มันกำลังจะเห่าเรียกนายหญิงของมันก็มีเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งครั้งเสียงของปืนดังมากจนเจ้าลูกสุนัขได้ยินอย่างชัดเจน ลูกกระสุนปืนวิ่งผ่านอากาศไปถูกที่บริเวณกลางหน้าอกของนายผู้หญิงของมันพอดีจึงทำให้ร่างของนายผู้หญิงของมันกระเด็นตกจากสะพานไป อิ๊กกี้จึงรีบวิ่งไปที่กลางสะพานตรงที่นายผู้หญิงของมันยืนอยู่ก่อนที่จะตกลงไป มันมองเห็นร่างของนายหญิงของมันลอยอยู่ในน้ำโดยไม่ไหวติง เจ้าอิ๊กกี้จึงเห่าร้องเรียกนายผู้หญิงของมันแต่ก็ไม่มีการตอบรับของนายหญิงของมันกลับมา มันจึงตัดสินใจกระโดดลงไปในน้ำเพื่อจะไปหาร่างของนายหญิงของมันแต่โชคร้ายยังคงไม่หมด น้ำในคลองกับไหลเชี่ยวและแรงมาก สายน้ำพัดร่างของนายหญิงกับตัวมันแยกห่างออกจากกันไปเรื่อยเรื่อย ส่วนตัวของมันเองถูกกระแสของน้ำพัดจนมันแทบจะหมดแรงดำผลุดดำว่าย

                    ความแรงของกระแสน้ำทำให้เจ้าอิ๊กกี้เริ่มจะหมดแรง ขาทั้งสี่ของมันเริ่มอ่อนล้า การหายใจเริ่มติดขัด สายตาของมันเริ่มพล่ามัวสมองของมันเริ่มจะไม่สั่งงาน จมูกที่เคยได้รับกลิ่นจากนายหญิงของมันเริ่มจางหายไปเพราะกลิ่นน้ำเสียที่เข้าจมูกและปากจนมันสำลัก ในขณะที่สติของเจ้าอิ๊กกี้เริ่มเลือนลาง สร้อยคอประหลาดที่เจ้านายผมสีขาวของมันมอบให้ไว้ก่อนตายได้หลุดจากคอของมันค่อยค่อยจมหายไปในน้ำ ทันใดนั้นเจ้าอิ๊กกี้เหลือบไปเห็นพอดีมันรวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายของมันมุดน้ำลงไปคาบสร้อยที่กำลังจะจมไว้ในปากแล้วจมหายไปในสายน้ำ

“อิ๊กกี้ อิ๊กกี้ ตื่นเถอะนอนนานเกินไปแล้วนะ”เสียงที่คุ้นหูเอามากมาก กำลังปลุกเจ้าลูกสุนัขให้ตื่นขึ้น เสียงนั้นคือเสียงของนายหญิงของมันนั่นเอง เจ้าลูกสุนัขจึงค่อยค่อยลืมตาขึ้นพอรวบรวมสติได้มันจึงรีบลุกขึ้นมายืนทันทีมันหันไปมองรอบรอบตัวกับมืดสนิทมองไม่เห็นสิ่งมีชีวิตใดใดเลย มีเพียงเสียงน้ำไหลอยู่ที่ด้านหลังของมันเท่านั้น นี่มันฝันไปหรือหูแว่วกันนะมันถึงได้ยินเสียงนายหญิงของมัน มันแหงนหน้าขึ้นไปมองเห็นพระจันทร์ดวงโตส่องสว่างอยู่ พอมันกวาดสายตาลงมามันมองเห็นแสงไฟจากรถยนต์ มันคุ้นเคยกับแสงแบบนั้นดีมันจึงรีบวิ่งไปจุดที่มีแสงไฟนั้นทันที มันวิ่งลัดพุ่มไม้เล็กเล็กไปจนมาเจอเนินดินสูงท่วมหัวมันพยายามตะเกียกตะกายจนวิ่งข้ามเนินดินมาได้ มันมองเห็นพื้นถนนอยู่เบื้องหน้าไม่ไกลนัก แต่มันก็ต้องหยุดลงเพราะมันได้กลิ่นที่บ่งบอกถึงอันตรายที่จะตามมา มันคือกลิ่นปัสสาวะของสุนัขตัวอื่นที่ทำเครื่องหมายแสดงถึงอาณาเขตเอาไว้ เจ้าอิ๊กกี้รู้ตัวดีมันจึงค่อยค่อยระวังตัวมากขึ้น หยาดฝนเริ่มโปรยปรายลงมา เจ้าอิ๊กกี้คิดว่านี่อาจเป็นสิ่งดีเพราะสายฝนอาจจะกลบกลิ่นของมันได้บ้างเพราะหากต้องมาเจอสุนัขเจ้าถิ่นที่นี่คงไม่ดีแน่ แต่คงสายไปซะแล้วจมูกของเจ้าอิ๊กกี้รับรู้ถึงกลิ่นของสุนัขตัวอื่นได้ มันไม่ได้มีแค่ตัวเดียวเท่านั้นแต่มีหลายตัวเลยทีเดียว อิ๊กกี้เริ่มกางเล็บทั้งสี่ขาของมันจิกพื้นไว้แน่นพร้อมกับแยกเขี้ยวร้องคำรามจนขนของมันลุกชูชันเตรียมพร้อมกับการต่อสู้ทันที บริเวณรอบรอบตัวของมันมีสุนัขตัวโตซึ่งเป็นสุนัขจรจัดที่หากินอยู่บริเวณนั้นจำนวนแปดตัวกำลังเดินเข้ามาล้อมตัวอิ๊กกี้อยู่ แต่ละตัวต่างก็ขู่คำรามแยกเขี้ยวใส่อิ๊กกี้ ท่ามกลางสายฝนที่เริ่มจะตกหนักขึ้น มีสุนัขสีดำตัวหนึ่งกระโจนเข้ามาจู่โจมใส่ขาหลังของเจ้าอิ๊กกี้ตัวน้อยแต่ว่ามันหลบได้ แต่ยังมีอีกสองตัวกระโดดเข้าจู่โจมจากด้านบนอีกที เจ้าอิ๊กกี้แยกเขี้ยวใส่แล้วกระโจนใส่สุนัขตัวโตสองตัวนั้นโดยไม่เกรงกลัวแม้แต่น้อย

             หยาดฝนเริ่มจางลงเจ้าลูกสุนัขอิ๊กกี้เดินโซซัดโซเซเพราะร่างกายของมันขาดน้ำและอาหาร เหมือนว่ามันจะเริ่มไม่สบายเพราะตากฝนมาทั้งคืน เนื้อตัวสกปรกมอมแมมตามตัวของมันเลอะเทอะไปด้วยคราบดินโคลนรวมทั้งน้ำเสียและคราบเลือดกลิ่นเหม็นสาบคละคลุ้งไปหมด ไม่ว่าเจ้าอิ๊กกี้จะเดินไปทางไหนก็มีแต่ผู้คนรังเกียจเพราะกลิ่นตัวที่รุนแรงของมันนั้นเอง มันเริ่มอ่อนแรงจนไม่สามารถจะก้าวขาต่อไปได้มันจึงหาที่หลบพักสักครู่มันเห็นพุ่มไม้เล็กเล็กเป็นพุ่มดอกเข็มขนาดไม่ใหญ่มากพอมันเข้าไปหลบได้ มันกำลังจะหลับตานอนพักหยาดฝนก็ตกลงมาอีกครั้ง ตัวมันเองไม่สามารถขยับไปจากตรงนั้นได้แล้วมันจึงทำได้เพียงนอนขดตัวหนาวสั่น มันคิดภายในใจคราวนี้มันคงไม่รอดแน่แน่มันคิดถึงเจ้านายผมสีขาวกับนายผู้หญิงของมันเสียเหลือเกินอยากเจอคนทั้งคู่อีกซักครั้งจริงจริง แล้วเจ้าอิ๊กกี้ก็ค่อยค่อยหลับตาลงอยู่ดีดีก็มีมืออุ่นอุ่นพร้อมด้วยผ้าขนหนูสีขาวที่สะอาดมาห่อหุ้มตัวของมันเอาไว้ มันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกทำให้ตัวมันเลิกหนาวสั่นได้มันพยายามลืมตามองว่าเป็นใครกันนะที่มาช่วยมันเอาไว้

 

“อย่าเป็นอะไรนะเจ้าหมาน้อย แกปลอดภัยแล้วไม่ต้องกลัวนะ”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.2 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา