attention มนุษย์คนนี้ของฉัน

-

เขียนโดย FP_JUNSEUNG

วันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 00.28 น.

  6 chapter
  1 วิจารณ์
  10.57K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 00.54 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) มนุษย์คนนี้ของฉัน 4

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

attention IV 

 

 เวย์พยุงไพร์มาจนถึงบ้าน ร่างบางวางอีกคนลงโซฟาตัวใหญ่ช้าๆ 

“มีกล่องปฐมพยาบาลไหม” เวย์ถามไพร์เพราะคิดว่ายังไงก็ต้องทำแผล ไพร์ส่ายหน้าเบาๆเขาไม่ใช่คนที่ดูแลตัวเองดีขนาดต้องมีของแบบนั้นไว้ในบ้าน

 

 

 

“เดี๋ยวผมไปเอาอยู่บ้านมาให้แล้วกัน เวย์เช็ดตัวให้ไอ้ไพร์ไปก่อนนะ”

 

 

 

“ครับ” แฮกวิ่งออกไปทันที เวย์หายเข้าไปในครัวหลังบ้านสักพักก็ออกมาพร้อมกับอ่างน้ำและผ้าเช็ดตัว ตาเหลือบไปมองฝ่ามือหนาตอนนี้เลือดเริ่มหยุดไหลแล้วก็อดแปลกใจไม่ได้ แวมไพร์มีแผลขนาดนี้ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยหรอ ปากแผลก็เหมือนกำลังสมานรักษาตัวเองในเวลาอันรวดเร็วเวย์นั่งลงข้างๆไพร์บิดผ้าที่ชุดน้ำไว้ออกหมาดๆกดซับเลือดที่ไหลบนหางคิ้วไพร์เบาๆไพร์เอียงหลบนิดๆด้วยความเจ็บ เวย์มองร่างสูงก็อดที่จะถอนหายใจออกมาไม่ได้ ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วยใช่อยู่ว่าไพร์สัญญาว่าจะดูแลเขาแต่มันก็มากไปสำหรับคนที่เพิ่งจะรู้จักกัน

 

“ไพร์ถามจริง ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย”

 

 

 

“ทำอะไร”

 

 

 

“ยังจะถามอีก ก็ที่นายเจ็บตัวขนาดนี้ก็เพราะช่วยฉันไม่ใช่หรือไงทั้งๆที่ไม่ต้องก็ได้” เวย์ถามออกมาตรงๆที่จริงก็ดีใจที่ไพร์ไปช่วยแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้หากไพร์เป็นมนุษย์ธรรมดาเหมือนกันกับเขาป่านนี้ไพร์อาจจะตายไปแล้วก็ได้

 

 

 

“ก็สัญญาไปแล้วหนิ”

 

 

 

“ก็ไม่ต้องทำก็ได้” เวย์เถียงกลับหันไปมองหน้าร่างสูง ไพร์มองเวย์ด้วยใบหน้าเรียบนิ่งจนเวย์ต้องหลบสายตาคู่นั้น สายตาที่เขาไม่รู้เลยว่าร่างสูงคิดอะไรอยู่

 

 

 

“เวย์ ฟังนะแวมไพร์ไม่ผิดสัญญาหรือพูดอะไรพล่อยๆหรอก”

 

 

 

“ถ้างั้นก็ไม่น่าจะสัญญากับฉันตั้งแต่แรกสิปล่อยให้ฉันอยู่ในป่าแบบนั้นก็ได้แต่ทำไม....” เวย์พูดความในใจออกมาเขาอดสงสัยไม่ได้แต่เสียงที่จะเอ่ยถามก็หายไปไม่รู้ว่าตัวเองอยากจะพูดหรือต้องการคำตอบแบบไหนจากร่างสูงกันแน่

 

 

 

“นายใส่ฝ้ายสีแดงตรงข้อมือตั้งแต่เมื่อไร”

 

 

 

“นี่น่ะหรอ ตั้งแต่เด็กแล้วม๊าบอกมันจะทำให้โชคดีถามทำไม” เวย์บอกพร้อมยกข้อมือซ้ายที่ฝ้ายตลอดเวลา

 

“นายไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลยนะ ตอบคำถามฉันมาก่อนสิ”

 

 

 

“ยากับผ้าพันแผลมาแล้ว” แฮกวิ่งเข้ามาขัดบทสนทนาทั้งสองพอดี

 

 

 

“ฉันเมื่อยทำแผลไปอย่าพูดมากหนวกหู” ไพร์ละสายตาจากเวย์แอนกายนอนลงบนโซฟาอย่างไม่ใส่ใจ

 

 

 

“ไอ้... ฮึ่ย! ถ้าไม่ติดว่าเจ็บอยู่นะจะบีบคอให้หักเลย!” เวย์ชี้หน้าอย่างเอาเรื่อง แฮกขำในความดื้อของเวย์ตัวแค่นี้คิดอะไรก็พูดอย่างนั้นแบบไม่กลัว จริงๆแล้วเวย์ก็ไม่กล้าทำหรอกโดนขนาดนั้นยังไม่สะทกสะท้านเลยแล้วอย่างเวย์จะทำอะไรไพร์ได้ ไพร์เหยียดกายนอนลงบนโซฟายกมือขึ้นคาดหน้าผากดวงตาคมหลับลงยกมือข้างที่เป็นแผลออกมา เวย์รับกล่องยาจากแฮกแล้วทำแผลให้ไพร์จนเสร็จเหมือนไพร์จะเหนื่อยจริงๆ ลมหายใจอ่อนๆถูกส่งออกมาอย่างสม่ำเสมอเป็นระยะ จากนั้นเวย์ก็เดินไปนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกันกับแฮกสำลีชุบแอลกอฮอล์กดลงบนมุมปากที่แตกเป็นรอยลงเบาๆ

 

“ขอบคุณนะครับที่ช่วยผมไว้” เอ่ยขอบคุณเพราะแฮกก็เจ็บตัวเพราะเขาไม่น้อย

 

 

 

“ครับไม่เป็นไร เวย์เป็นเพื่อนไอ้ไพร์ก็เหมือนเพื่อนผมนั่นแหละ”

 

 

 

“ครับ ว่าแต่ทำไมไพร์กับพ่อถึงดูไม่ลงรอยกันขนาดนั้นล่ะครับ เอ่อ..ถ้าผมยุ่งไม่เข้าเรื่องก็บอกนะครับ แต่ผมแค่เป็นห่วงไพร์อยากรู้เรื่องของเขาบ้างก็แค่นั้น”

 

 

 

“ไม่เป็นไรหรอก ไอ้ไพร์เห็นมันเข้มแข็งแบบนี้ก็เพราะอยากปิดอดีตที่อ่อนแอของมัน เรื่องที่ออกมาอยู่นอกเขตหมู่บ้านออกมาสร้างบ้านโดดกลางป่าอยู่หลังเดียวก็เพราะเรื่องเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่ไอ้ไพร์รู้เรื่องทั้งหมดแม่มันเป็นมนุษย์ธรรมดามาอยู่กับพ่อมันที่หมู่บ้านแวมไพร์ประกาศให้คนอื่นรู้อย่างไม่ปิดบัง พ่อมันดูแลอย่างดีทั้งสองรักกันไอ้ไพร์เองก็เกิดขึ้นมาจากความรักของทั้งสองวันที่ไอ้ไพร์เกิดอยู่ๆก็มีไฟไหม้ป่าวันถัดไปแวมไพร์ก็ล้มตายไปทีละคนอย่างไม่มีสาเหตุ ทุกคนลงความเห็นให้อัญเชิญวิญญาณเทพเจ้าเพื่อถามหาสาเหตุ พอทำพิธีชายแก่ร่างทรงบอกว่าเพราะมนุษย์กับอสูรกายอย่างแวมไพร์ไม่ควรอยู่ด้วยกันตั้งแต่แรกการที่ไพร์เกิดขึ้นมาจากความรักที่ผิดสายพันธุ์ผิดโลกของแต่ละฝ่ายเลยทำให้เกิดอาเพศ ทุกคนเริ่มขับไล่แม่ของไพร์ให้ออกจากหมู่บ้าน ตอนนั้นเองพ่อของไพร์ก็เป็นนายบ้านดูแลลูกบ้านมาตลอดครั้นจะตัดสินใจเลือกคนรักทิ้งลูกบ้านก็ไม่ได้ครั้นจะทำร้ายทิ้งคนรักก็ไม่ได้อีกพ่อไพร์เลยถามถึงวิธีแก้ก็เป็นวิธีที่เวย์เกือบจะเป็นเครื่องสังเวยนั่นแหละเป็นการทำพิธีที่ต้องแลกด้วยเลือด ใช้เลือดที่กรีดใหม่ๆอาบลงไปบนกลีบดอกไม้สีขาว อาบจนแปดเปื้อนกลีบขาวๆให้มากที่สุดแต่ตอนนั้นไม่มีใครแลกตัวเพื่อเข้าพิธีแม่ของไพร์เลยเลยตัดสินใจทำเองกับชายแก่ร่างทรงอย่างลับๆเพราะกลัวว่าคนรักของตนจะหาเพะรับบาปทั้งๆที่ตัวเองเป็นต้นเหตุและทำเพื่อปกป้องลูก แม่ไพร์ก็ไม่อยากให้ลูกตัวเองเดือดร้อนในการที่เกิดเป็นลูกของเขาแต่ตอนทำพิธีเลือดเสียมากเกินไปส่งผลให้แม่ของไพร์สิ้นลม พอพ่อไอ้ไพร์รู้ก็เสียใจไม่น้อย เพราะแวมไพร์จะมีรักได้แค่ครั้งเดียวและจะรักคนนั้นตลอดกาล พ่อไอ้ไพร์ก็เลี้ยงดูมันมาตลอดปิดเรื่องทั้งหมดไว้ พอวันนึงไพร์มันเจอเด็กผู้ชายคนนึงโดยบังเอิญคงเพราะยังเด็กมั้งเด็กคนนั้นก็เล่นกับมันปกติ มันแอบไปเล่นด้วยทุกวันจนพ่อมันจับได้พ่อมันไม่อยากให้ไอ้ไพร์ไปยุ่งกับมนุษย์อีกคงจะกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยถึงขั้นขู่ว่าจะฆ่าเด็กคนนั้นถ้าไพร์ไม่ฟังแต่นั่นยิ่งทำให้ไอ้ไพร์รั้นกว่าเดิมพ่อมันอดไม่ได้เลยเผลอพูดเรื่องแม่ออกมาบอกถ้าไม่มีมันคนรักของเขาก็คงไม่ตายและพอมันรู้เรื่องทั้งหมดมันก็ยิ่งทะเลาะกับพ่อเรื่องใหญ่กว่าเดิม มันไม่ยอมเรียกพ่อว่าพ่อตั้งแต่นั้นแถมยังหนีออกจากบ้านมาอยู่คนเดียวในป่าที่นี่ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับหมู่บ้านลอนด์อีก ตอนที่ช่วยเวย์ถือเป็นครั้งแรกในรอบสิบปีเลยก็ว่าได้ที่เข้าไปในหมู่บ้าน แล้วตั้งแต่ที่มันออกมาอยู่คนเดียวก็ไม่ได้พบเด็กคนนั้นอีกเห็นมีคนบอกว่าเด็กนั่นย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองตั้งแต่นั้นมันก็เก็บตัวมาตลอดไม่มีเพื่อนด้วยซ้ำ ก็มีแต่ผมนี่แหละที่เป็นเพื่อนกันกับมันตั้งแต่เด็ก แอบมาหามันบ่อยๆเพราะยังไงก็เพื่อนผมทิ้งให้มันอยู่คนเดียวไม่ได้หรอก”

 

 

 

“ไพร์อยู่แบบนี้ด้วยตัวเองมาตลอดเลยสินะครับ”

 

 

 

“ตลอดสิบปีเลย ปกติมันก็ไม่ค่อยพูดนะออกจะเงียบเลยด้วยซ้ำแต่ตั้งแต่เวย์มาอยู่เนี่ยมันก็เปลี่ยนไปเยอะดูใส่ใจเรื่องคนอื่นแถมยังเริ่มพูดเริ่มบ่นทั้งๆที่แต่ก่อนไม่เป็นแบบนี้ นี่ถือว่าพูดมากสำหรับมันแล้วนะ” แฮกพูดพร้อมขำเพื่อน จริงๆก็ดีใจที่เห็นเพื่อนตัวเองดูผ่อนคลายไม่ทำหน้าเครียดตลอดเวลาเหมือนแต่ก่อน

 

 

 

“ผมเป็นคนพูดมากน่ะครับ คนรอบข้างเลยดูพูดมากไปด้วย เอ่อแล้วไพร์รู้ไหมครับว่าหลุดศพแม่ตัวเองอยู่ไหน”

 

 

 

“ไม่รู้หรอกเพราะทะเลาะกันแถมพ่อไอ้ไพร์ก็ปิดเรื่องนี้เป็นความลับด้วย”

 

 

 

“อ่าวแบบนี้ก็แย่สิ แฮกเองก็ไม่รูหรอครับ”

 

 

 

“ผมก็ไม่รู้ ไม่มีใครในหมู่บ้านรู้เลยพ่อไพร์คงอยากในคนรักของตัวเองอยู่อย่างสงบๆล่ะมั้ง”

 

 

 

“แต่ยังไงก็น่าจะบอกลูก แถมทั้งสองก็ไม่น่าทะเลาะกันเลย”

 

 

 

“เพราะหัวรั้นกันทั้งคู่นั่นแหละเลยไม่มีใครยอมใคร”

 

 

 

“ผมก็ว่างั้น ทั้งพ่อทั้งลูก” ถึงจะไม่รู้จักดีแต่ก็พอจะเดาออกหัวรั้นไม่ยอมใครทั้งพ่อทั้งลูก

 

 

 

“หึ เวย์ไปนอนเลยนะเดี๋ยวผมดูไอ้ไพร์ให้” แฮกขำที่เวย์พูดออกว่าพ่อไพร์กับไพร์ตรงๆ ถ้าได้ไปเวย์กำราบทั้งสองคงจะดี

 

 

 

“แล้วแฮกไม่นอนหรอ”

 

 

 

“พรุ่งนี้เช้าผมว่าจะกลับบ้านแล้วค่อยนอน เวย์ไปพักผ่อนเถอะวันนี้เหนื่อยทั้งวันเลย”

 

 

 

“ครับ งั้นราตรีสวัสดิ์ครับ”

 

 

 

“เช่นกันครับ ราตรีสวัสดิ์” เวย์ลุกเอาอ่างน้ำกับผ้าเช็ดตัวไปเก็บแล้วเดินเข้าห้องนอน วันนี้เขาเหนื่อยจริงๆโดนแขวนจนเมื่อยไปหมดทั้งตัวไม่นานร่างบางก็หลับไป

 

 

 

------------------------------------------------------------------------

 

“ตื่นเช้าจัง ลุกได้แล้วหรอ” เวย์เดินออกมาจากห้องก็เห็นไพร์กำลังลงขึ้นนั่ง

 

 

 

“หิวน้ำ”

 

 

 

“เดี๋ยวไปเอาให้ นั่งลงเลย” ไพร์กำลังจะอ้าปากห้าม เวย์บอกแล้ววิ่งไปหยิบน้ำในตู้ออกมาให้ทันที

 

 

 

“อะไรของนายไม่ต้องทำเป็นห่วงขนาดนั้น ไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย” ไพร์รับน้ำจากเวย์แล้วยกขึ้นดื่ม

 

 

 

“ไม่เป็นไรได้ไงโดนขนาดนั้นถ้าช้ำในตายจะว่าไง”

 

 

 

“แค่นี้เองไม่เป็นไรหรอกน่า”

 

 

 

“หรอ... น่าจะโดนมากกว่านี้เนอะ” เวย์อดหมั่นไส้คนตรงหน้าไม่ได้จริงๆก็อยากจะแขวานานแล้ว แต่ไพร์ก็ทำทีไม่สนใจ

 

“แล้วนี่กินไรยัง”

 

 

 

“กินแล้วแฮกมันเอาปลามาให้กินตั้งแต่เช้า แล้วมันก็กลับบ้าน”

 

 

 

“กินแล้วหรอ แต่ฉันหิวอ่ะ”

 

 

 

“หิวก็เข้าครัวไปสิปลาในตู้ก็มี หรือจะกินเลือดในหลอดแก้วก็ได้นะฉันไม่หวง”

 

 

 

“จะบ้าหรอ! ใครจะไปกินเลือดเล่า ส่วนปลาฉัน....ฉันทำไม่เป็น” เวย์ทำอาหารไม่เป็นเลยจริงๆทั้งที่อยู่บ้านเดียวบ่อยๆแต่แม่ก็จะทำข้าวไว้ให้หรือพ่อแม่ไม่อยู่ก็จะออกไปกินข้างนอกซะมากกว่า

 

 

 

“ไม่ได้เรื่อง วันๆทำอะไรได้บ้าง”

 

 

 

“โหยอย่ามาว่าฉันนะ แค่ทำอาหารไม่เป็นเท่านั้นแหละ” ไพร์ถอนหายใจออกมาอย่างเอือมๆแล้วคว้าข้อมือเวย์ลากเข้ามาในครัวทำอาหารไปเรื่อยๆทำทีเหมือนสอน เวย์มองยิ้มๆพยักหน้าเหมือนสนใจแต่จริงๆไม่ชอบทำอาหารอยู่แล้ว ไพร์สอนหั่น สอนปรุงรส สอนทอด ปกติไพร์ก็ไม่รู้เรื่องพวกนี้หรอกพอมีเวย์มาอยู่ด้วยบ้านเขาก็มีอุปกรณ์ทำอาหารไม่ต่างจากบ้านมนุษย์ธรรมดาดีๆนี่เอง ทั้งน้ำมัน หม้อ กระทะ แก๊สหุงต้ม ตำราอาหารวุ่นวายไปหมด

 

 “ไพร์ กินข้าวด้วยกันนะ” เวย์เอ่ยชวนขณะที่ไพร์กำลังตักข้าวใส่จานให้

 

 

 

“ฉันกินแล้ว” ไพร์ปฏิเสธเพราะเขาเพิ่งจะกินไปไม่นานนี่เอง

 

 

 

“ฉันไม่อยากกินข้าวคนเดียวกินด้วยกันนะ นะๆๆ” เวย์ทำทีอ้อน เขาไม่ชอบกินข้าวคนเดียวเท่าไร

 

 

 

“แต่ฉันอิ่มแล้วไปนั่งกินเลยไป”

 

 

 

“ไม่เอาฉันไม่อยากกินข้าวคนเดียว” เวย์พูดเสียงอ่อยให้ไพร์ใจอ่อน ไพร์มองคนตรงหน้าก็ถอนหายใจออกมาอีกครั้งนี่เขาต้องยอมเวย์ตลอดเวลาเลยใช่ไหม ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนจะเออออไปกับเวย์ตลอดเพราะเขารำคาญเลยตัดปัญหาทำตามหรืออยากจะตามใจกันแน่

 

 

 

“นิดเดียวนะ”

 

 

 

“ได้ ไปนั่งรอเลยเดี๋ยวฉันเอาไปให้” ยิ้มออกมาที่ไพร์ยอมกินข้าวด้วยก่อนจะดันหลังร่างสูงให้ออกจากห้องครัวไปนั่งรอสักพักก็ถือจานข้าว2จานมาใว้บนโต๊ะกินข้าว

 

“มาแล้วๆ”

 

 

 

“ทำไมเป็นพวกนี้ล่ะ” ไพร์ถามขึ้นเพราะตรงหน้าเขาเป็นข้าวสุกอาหารก็มีแต่อาหารสุกที่ทำให้ร่างบาง

 

 

 

“ก็นั่งกินด้วยกันก็กินแบบนี้แหละ กินได้อยู่ไม่ใช่หรือไงแฮกเคยบอกฉัน กินเข้าไปเลย” เวย์ว่าพรางตักอาหารให้ไพร์

 

 

 

“ก็ไม่ชอบ” บอกออกไปตรๆเพราะไม่ค่อยชอบอาหารสุกเทาไรกินน่ะกินได้แต่มันไม่ค่อยถูกปาก

 

 

 

“ไม่ชอบก็ต้องกิน กินกับฉันจะเอาเลือดสดๆมาหรือไง กินเดี๋ยวนี้เลยบอกว่าจะกินด้วยกันแล้วหนิ” ไพร์มองหน้าร่างบางนิ่งอย่างใช้ความคิดนี่เขาต้องยอมอีกแล้วใช่ไหม ไพร์ได้แต่สงสารกระเพาะตัวเองที่ต้องมากินอาหารแบบนี้ก่อนจะจับช้อนตักข้าวเข้าปากทำหน้าแหยๆกับรสชาติอาหาร

 

“คิคิ กินเข้าไปเยอะๆนะ” เวย์หัวเราะออกมาที่เห็นไพร์ทำหน้าจะเป็นจะตาขนาดนั้นพร้อมกับตักอาหารใส่ให้ไพร์อีก

 

 

 

“พอแล้วกะจะให้ฉันตายหรือไง”

 

 

 

“ไม่ตายหรอกน่า ครึ่งนายก็เป็นค...” เวย์เผลอพูดออกมาอย่างไม่ตั้งใจ

 

 

 

“อะไร”

 

 

 

“เปล่านี่”

 

 

 

“นายไปรู้อะไรมาเวย์”

 

 

 

“คือฉัน เอ่อ...”

 

 

 

“ไอ้แฮกเล่าให้ฟังใช่ไหม”

 

 

 

“แฮกเขาไม่ได้ตั้งใจนะ ฉันเป็นคนถามเองแค่อยากรู้เรื่องนายเท่านั้น”

 

“ไพร์นายไปคุยกับพ่อดีๆไม่ได้หรอ”

 

 

 

“ฉันไม่อยากพูดเรื่องนี้อีก”

 

 

 

“นายควรจะไปปรับความเข้าใจกับท่านนะ จะให้อยู่คนเดียวแบบนั้นหรอเสียคนรักไปแล้วยังจะให้เสียลูกไปอีกคนหรือไง” ไพร์ชะงักกับคำพูดของเวย์ เขาเองก็โกรธคนเป็นพ่อจนไม่ได้คิดเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ

 

 

 

“เขาดูแลตัวเองได้อยู่หรอก ลูกบ้านเยอะอยู่หนิ” ไพร์พูดประชดเชิงน้อยใจที่พ่อมักเห็นลูกบ้านสำคัญกว่าสำคัญจนลังเลที่จะปกป้องแม่ของเขา ลังเลจนแม่ของเขาต้องไปตาย

 

 

“เฮ้อ นายนี่จริงๆเลย แล้วนายไม่อยากเจอแม่หรอไม่อยากไปไหว้ท่านสักครั้งเลยหรอ”               

 

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

#มนุษย์คนนี้ของฉัน

ฝากติดตามด้วยนะคะ   

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา