ริมฝั่งทะเลฝัน

-

เขียนโดย น้ำไนล์

วันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.56 น.

  14 ตอน
  2 วิจารณ์
  17.25K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 19.24 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) หอมกลิ่นความฝัน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                    สายวันนี้แสงแดดเริ่มโลมเลียมาจนถึงหน้าระเบียงบ้าน  นัทนั่งง่วนอยู่กับการฉีกระดาษหนังสือพิมพ์เป็นเศษเล็กๆเพื่อประดิษฐ์เปเปอร์มาเช่ วิทยุเครื่องเล็กครวญเสียงเพลงอยู่ข้างๆ

                   แทนเดินออกมาโยกตัวบิดขี้เกียจอยู่ข้างๆนัท

                   “เฮ้อ…ทะเลนี่มันช่างสวยงามจริง จริ้ง…”

                   “แหมแฮปปี้เชียวนะ…ทำไมถึงตื่นเร็วได้ล่ะแก” นัทหันไปมองค้อนแทนที่กำลังสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด

                   “มีนัดโว้ย…วันนี้จะพาน้องเค้าไปกินข้าว” แทนตอบอย่างอารมณ์ดี

                   “นั่นแกทำอะไรของแกวะไอ้นัท เห็นนั่งฉีกกระดาษอยู่ตั้งนานแล้ว”

                   “เปเปอร์มาเช่…รู้จักเปล่า”

                   “อะไรของแก…ข้าวแช่เหรอ”

                   “แหมแกนี่เชยจริง…เปเปอร์มาเช่ก็คือของที่ประดิษฐ์จากกระดาษโดยการที่เราฉีกกระดาษเป็นชิ้นเล็กๆแล้วแปะทับกันลงบนแบบพิมพ์ที่เราจะทำ พอเราแปะจนหนาได้ที่เราก็แกะกระดาษนั้นออกมาจากแบบพิมพ์ซึ่งมันก็จะเป็นรูปร่างอย่างที่เราต้องการ จากนั้นเราก็ระบายสีแต่งให้สวยงาม อย่างนี้” นัทพยายามอธิบายให้แทนฟัง ซึ่งแทนก็พยักหน้ารับอย่างงงๆ

                   “เออๆมาเราช่วย” แทนช่วยนัทฉีกกระดาษหนังสือพิมพ์เป็นชิ้นเล็กๆแล้วแช่น้ำเอาไว้

                   “แล้วแกทำ ทำไมตั้งเยอะแยะ”

                   “เราจะเอาไปขาย”

                   “จะขายได้เร้อ บูดๆเบี้ยวๆอย่างนี้” แทนล้อ

                   “แหมไอ้นี่ ดูถูก” แทนหัวเราะท่าทางของนัทแล้วก้มลงฉีกหนังสือพิมพ์ต่อไป สายตาของแทนสะดุดกับข้อความและภาพบางอย่างในหนังสือพิมพ์ แทนก้มหน้านิ่งพักหนึ่งแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมองนัท

                   “นัท นี่ใช่รูปพ่อแกรึเปล่า” แทนส่งหนังสือไปให้นัทดู นัทก้มมองนิ่งหัวใจกระตุกวูบเมื่อเห็นภาพข่าว

                   “นัทเป็นอะไรรึเปล่า”

                   “ไม่มีอะไรหรอก ข่าวแบบนี้เราชินแล้วล่ะ แกไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะ มีนัดไม่ใช่เหรอ”

                   “แก โอเคนะ”

                   “เออน่า แกไปเถอะ” แทนเดินมาตบบ่านัทเบาๆอย่างให้กำลังใจก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้าน นัทหยิบภาพข่าวขึ้นมาดูอีกครั้ง ไล่สายตาไปตามอักษรในภาพข่าวทีละตัว

                   …ขอแสดงความยินดีกับคุณวิรัตน์ เศรษฐีหนุ่มใหญ่ที่ได้ทายาทเป็นลูกชายมาเชยชมสมใจ…

                   ตัวอักษรพร่าเลือนด้วยม่านน้ำตา ภาพของพ่อที่อุ้มเด็กทารกตัวน้อยไว้ในอ้อมกอด บนเตียงคนไข้คือผู้หญิงคนใหม่ของพ่อ ผู้หญิงที่มาแทนที่แม่ของนัทตลอดไป น้ำตาหยดหนึ่งหล่นร่วง รู้สึกเหมือนตัวเองไร้ตัวตน สายใยบางๆระหว่างนัทกับพ่อดูเหมือนจะหลุดลอยห่างหายไปไกลแสนไกล…นาทีนี้นัทคิดถึงแม่จับหัวใจ

………………………………………………….

                   แสงสีส้มโรยตัวอยู่เรี่ยผืนน้ำ ผืนฟ้ายามเย็นฉาบทอไปด้วยสีม่วงเศร้า นัทนั่งซุกตัวเงียบอยู่ตรงซอกโขดหิน ความเศร้าทับซ้อนอยู่ในดวงตา ภาพคืนวันเก่าๆหมุนวนซ้ำแล้วซ้ำเล่าในความคำนึง

                   …นับจากวันที่แม่จากไป พ่อมีผู้หญิงมากหน้าหลายตาหมุนเวียนมาแทรกแทนที่แม่ เบียดให้ระยะความสัมพันธ์ของนัทกับพ่อเริ่มห่างออกจากกันเรื่อยๆ นัทโหยหาอ้อมกอดของพ่อ โหยหาสัมผัสที่ทำให้นัทรู้สึกปลอดภัย แต่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนว่างเปล่า พ่อปล่อยให้นัทโดดเดี่ยวอยู่เพียงลำพัง อ้างว้างอยู่กับความเหงา วันเวลาหมุนผ่านนัทยังคงฝังตัวเองไว้กับความทรงจำที่เกี่ยวกับแม่ ฝันถึงอ้อมกอดและรอยยิ้มของแม่

                   “แม่จ๋า…นัทหนาวเหลือเกิน แม่กอดนัทหน่อยสิ” นัทคร่ำครวญถึงแม่ในสายลมที่เหน็บหนาว

                   “ทำไมพ่อไม่รักแม่กับนัทบ้างเลยนะ”

                   ดวงอาทิตย์ทิ้งตัวลงสู่ผืนน้ำความมืดคืบคลานมาอย่างเงียบเชียบ ลมหายใจเศร้าอ้อยอิ่งอย่างเซื่องโศก นัทหลับตาลงคิดถึงแม่…คิดถึงรอยยิ้มและทุกหยดน้ำตาของแม่

                   “แม่จ๋า…ร้องไห้ทำไม”นัทถามแม่ในค่ำคืนที่น้ำตาแม่รินสายพร่างพรู

                   “แม่ไม่ได้ร้องไห้หรอกลูก…แค่ความเศร้ามันหล่นร่วงจากดวงตาแม่เท่านั้น”

                   “แม่จ๋าทำไมความเศร้าของแม่ถึงมากมายนัก” นัทโผเข้ากอดแม่ ตอนนั้นนัทยังเด็กเกินกว่าจะเข้าใจคำพูดของแม่ เด็กเกินกว่าที่จะรับรู้ปัญหาของแม่ รู้เพียงแต่ว่าวันนั้นแม่กอดนัทไว้แน่นราวกับกลัวว่าจะพรากจากกัน

                   “นัทเราไปทะเลกันเถอะลูก”

                   ทะเลคือสิ่งที่แม่รัก แม่เคยบอกว่าทะเลคือเพื่อนที่ดีสำหรับเราเสมอเพราะมันอ้าโอบเอาความเศร้าของเรามาฝังไว้ใต้ผืนทะเล แม่บอกว่าทะเลทำให้แม่รู้สึกเป็นอิสระและมีความสุขทะเลเป็นที่ที่แม่หลับได้อย่างสบายใจ นัทเห็นดวงตาของแม่พราวฝันและเป็นประกายระยิบทุกครั้งที่มาทะเล….สิ่งหนึ่งที่นัทจำได้ดี คือ พ่อกับแม่ไม่เคยมาทะเลด้วยกันเลยสักครั้ง

                   “เม็ดดาวเริ่มกระพริบแสงบนราวฟ้า…ดวงตาของแม่จะกระพริบมองนัทอยู่บ้างไหมนะจะรู้บ้างไหมว่านัทเหงาและคิดถึงแม่เหลือเกิน

                   “แม่จ๋า…แม่จากนัทไปทำไม” ลมทะเลโชยพัดคล้ายรับฟังถ้อยคำคร่ำครวญของนัทหยาดน้ำตารินสายสะท้อนประกายใต้แสงจันทร์

                   นัทก้าวเท้าเดินเรื่อยๆตามแนวถนนที่ทอดยาวเลียบริมหาด ไม่นานนักก็หยุดยืนตรงหน้าบ้านไม้สีขาว  แสงไฟจากในบ้านยังคงสว่างอยู่ นัทเปิดประตูรั้วเดินเข้าไปตรงหน้าระเบียงบ้าน หยุดยืนเคาะประตูบ้านอยู่ตรงนั้น ชั่วครู่ประตูก็เปิดออกพร้อมกับสายตาประหลาดใจของฟ้า

                   “นัท…เกิดอะไรขึ้น”ฟ้าร้องถามอย่างห่วงใย ใบหน้าของนัทหม่นหมองดวงตาชุ่มฉ่ำไปหยาดน้ำตา นัทโผเข้ากอดฟ้าอย่างโหยหาสัมผัสที่อบอุ่น

…………………………………………………………..

                   ดึกดื่น…จันทร์เสี้ยวแขวนเรียวบนกิ่งฟ้าค่ำคืนนี้แสงจันทร์ดูหม่นเศร้าไม่สว่างไสวเช่นทุกคืน ผืนฟ้ามืดดำขับให้เม็ดดาวระยิบดูโดดเด่น นัทนั่งพิงรั้วระเบียงอยู่ด้านนอก สายตาเหม่อไกลอย่างเลื่อนลอย ฟ้าถือแก้วนมอุ่นๆมาให้และนั่งลงข้างๆนัท

                   “ดื่มนมก่อนนะ นัทคงไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่ตอนเย็นแล้วใช่มั๊ย” นัทค่อยหันหน้ามาหาฟ้า

                   “พี่ฟ้า…พ่อเค้ามีลูกใหม่แล้วล่ะ เค้ามีครอบครัวที่สมบูรณ์แล้ว…อีกหน่อยเค้าก็คงลืมนัทถึงตอนนั้นนัทคงไม่เหลือใครแล้วล่ะ” เสียงนัทติดขัดเหมือนกลั้นรอยสะอื้น ฟ้าเฝ้ามองนัทอยู่เงียบๆไร้ถ้อยคำปลอบโยนมีเพียงสายตาห่วงใยที่ทอดมองอย่างเข้าใจความรู้สึกของนัท

                   “ทำไมพ่อเค้าไม่รักนัทบ้างเลยนะ” เสียงนั้นเบาหวิวจนฟ้ารู้สึกใจหาย ฟ้าลูบผมนัทอย่างอ่อนโยน

                   “พ่อเค้าอาจจะมีเหตุผลของเค้าก็ได้” ฟ้าปลอบใจอย่างไม่รู้ว่าจะมีถ้อยคำไหนที่ดีกว่านี้

                   “ไม่จริงหรอก…พ่อไม่เคยคิดถึงความรู้สึกของนัทมาตั้งนานแล้ว” นัทค่อยๆเอนกายลงนอนหนุนตักฟ้า หลับตาลงหยาดน้ำตารินสายเป็นทางบนใบหน้า ฟ้ารู้สึกสงสารนัทจับใจ

                   “นัทคิดถึงแม่จังเลยพี่ฟ้า”

                   “แม่ไม่ไปไหนไกลหรอกเค้าคงเฝ้ามองนัทอยู่บนฟ้า นัทต้องเข้มแข็งรู้มั๊ย” เสียงฟ้าดังแว่วเหมือนสายลมพัดแผ่ว นัทดึงมือของฟ้ามาแนบไว้ที่ใบหน้ารู้สึกอบอุ่นไปถึงหัวใจ

                   “พี่ฟ้ารู้มั๊ยตอนเด็กๆเวลานัทร้องไห้ หรือไม่สบาย นัทชอบมานอนตักแม่และจับมือแม่ไว้อย่างนี้…แม่ก็จะเล่านิทานบ้าง ร้องเพลงไห้ฟังบ้างกล่อมนัทไปเรื่อยจนนัทหลับ  แล้วก็แม่นั่นแหละที่ต้องแบกนัทโทงๆขึ้นไปนอนบนห้อง  มีอยู่ครั้งหนึ่งนัทโดนพ่อตี จำไม่ได้แล้วว่าทำอะไรผิด แต่รู้ว่าพ่อโกรธมากฟาดนัทซะขาลายเลย แม่เข้ามาห้ามจนโดนลูกหลงไปด้วย แม่ทายาให้นัทไปก็ร้องไห้ไป ตอนนั้นนัทยังเด็กเห็นแม่ร้องไห้ ก็ใจเสียร้องไห้ดังใหญ่เลย กลายเป็นว่าเราสองคนแม่ลูกร้องไห้เพราะโดนพ่อตี….แม่ชอบทะเลตอนเด็กๆแม่พานัทมาทะเลบ่อย แต่ไม่มีพ่อมาด้วยหรอกนะ แม่จะเล่านั่นเล่านี่เกี่ยวกับทะเลให้นัทรู้ แม่มีนิทานเกี่ยวกับทะเลเยอะแยะไปหมด นัทเองก็ชอบฟังมันเพลินดี…”

                   นัทยังคงหลั่งไหลเรื่องราวของแม่ให้ฟ้าฟัง ใบหน้านั้นอ่อนละมุนลงทั้งที่ดวงตาปิดนิ่ง  ฟ้าก้มลงมองนัทด้วยความรู้สึกที่ฟ้าเองก็อธิบายไม่ถูก มันเต็มไปด้วยความเศร้าและความว้าเหว่  หัวใจของนัทมีแต่ความทรงจำของแม่ ภาพทุกภาพของแม่ยังฝังแน่นอยู่ในนั้น ฟ้ารู้ว่าหัวใจของนัทมีแต่รอยอ้างว้างและหม่นเหงา นัทถึงได้ช่างหวั่นไหวได้ง่ายดายกับทุกเรื่องที่มากระทบจิตใจ

                   “นัทๆๆ” ฟ้าเรียกชื่อนัทเมื่อเห็นว่านัทเงียบเสียงลงและงีบหลับไป นัทลืมตาตื่นอย่างสลึมสลือ

                   “ไปนอนข้างในเถอะ ตรงนี้น้ำค้างแรง” ฟ้าค่อยๆพยุงกายนัทเข้าไปในบ้าน นัทเดินงัวเงียเข้าไป ฟ้าค่อยๆให้นัทนอนลงที่เตียง ดึงผ้าห่มมาคลุมให้ ใบหน้าเรียวขาวนั้นหลับสนิทอย่างคนอ่อนเพลีย ขนตางอนสวยยังมีรอยชื้นของหยาดน้ำตา ฟ้าใช้นิ้วเกลี่ยไรผมข้างแก้มนัทอย่างอ่อนโยน

…………………………………………………………..

                   เสียงกุกกักอะไรบางอย่างดังแว่วเข้ามา นัทค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นภาพรอบข้างที่ไม่คุ้นชินทำให้ต้องค่อยๆลำดับเหตุการณ์ต่างๆ นัทพลิกตัวขึ้นกลิ่นหอมอ่อนๆของหมอนที่วางไว้ทำให้นัทฝังหน้าลงไปสูดกลิ่นนั้นจนชื่นใจ เมื่อนัทจัดเก็บที่นอนเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมานอกห้อง เห็นฟ้ากำลังง่วนทำกับข้าวอยู่ในครัว

                   “ตื่นแล้วเหรอนัท” ฟ้าถามเมื่อเห็นนัทมายืนมองอยู่

                   “ไปล้างหน้าสิ พี่ทำข้าวต้มไว้ให้” ฟ้าเดินเข้าห้องน้ำอย่างว่าง่ายเมื่อกลับออกมาอีกทีจึงเห็นฟ้านั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร บนนั้นมีข้าวต้มวางอยู่สองถ้วย กลิ่นหอมกรุ่นนั้นทำเอานัทน้ำลายสอ

                   “โอ้โห…หน้าตาน่ากินจังเลย”

                   “หิวล่ะสิ เมื่อคืนยังไม่ได้กินอะไรเลย…เอ้ากินให้หมดนะ” นัทก้มหน้าก้มตาทานอย่างเอร็ดอร่อยแต่จู่ๆก็ทำหน้าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้

                   “เออ…เมื่อคืนนี้นัทนอนที่ห้องพี่ฟ้า..แล้วพี่ฟ้านอนไหนเหรอ”

                   “พี่ก็นอนเตียงเดียวกับนัทน่ะสิจ๊ะ…เอ๊ะทำไมเหรอ”

                   “เอ่อ...ปละ..เปล่า  นัทไม่รู้สึกตัวน่ะ” นัทก้มลงทานข้าวต่อ ไม่อยากให้ฟ้าเห็นใบหน้าที่แดงซ่านเพราะความเขิน…ตั้งแต่เด็กนอกจากแม่แล้วนัทไม่เคยนอนเตียงเดียวกับใครเลย…นัทซ่อนรอยยิ้มในใบหน้าเมื่อนึกถึงกลิ่นหอมของหมอนใบนั้น

                   “วันนี้พี่ฟ้าจะเปิดร้านรึเปล่า”

                   “จ๊ะ...เดี๋ยวสายๆพี่คงจะออกไปแล้ว”

                   “ให้นัทช่วยนะ…นะ”นัทรีบอาสา ฟ้ายิ้มขำกับท่าทีเอาใจของนัท

                   “อย่าเลย…พี่ว่านัทรีบกลับบ้านก่อนเถอะป่านนี้ทั้งวินและแทนเป็นห่วงแย่แล้วหายมาทั้งคืนแบบนี้ อีกอย่างพี่ว่านัทควรจะกลับไปพักผ่อนหน่อยนะ” ฟ้ายื่นมือไปขยี้ผมนัทเบาๆยิ้มเอ็นดูท่าทีที่นัททำตาละห้อยอาวรณ์

                   “แต่นัทอยากไปช่วยพี่ฟ้านะ” นัทโอดครวญด้วยความเสียดายเพราะยังอยากอยู่กับฟ้าให้นานกว่านี้

                   “เอาเถอะ…วันหลังค่อยมาพี่จะให้อยู่ช่วยทั้งวันเลย แต่ตอนนี้ต้องพักผ่อนก่อนรู้มั๊ย”

                   ฟ้าเดินมาส่งนัทที่หน้าประตูรั้ว ก่อนที่นัทจะกลับฟ้าดึงมือนัทมากุมไว้ และพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน

                   “นัทไม่ได้อยู่คนเดียวนะ อย่างน้อยก็มีพี่คนหนึ่งที่เป็นห่วงนัท” นัทสบตากับดวงตาหวานสวยคู่นั้น รูสึกอบอุ่นล้ำลึก

………………………………………………………..

                   “เฮ้ย…นัท” เสียงแทนตะโกนดังลั่นตั้งแต่นัทยังไม่ก้าวขึ้นบนบ้าน

                   “ไปไหนมาวะ เป็นห่วงแทบแย่” วินเดินออกมาถามนัทด้วยความเป็นห่วง

                   “เออ นึกว่าตกทะเลตายไปซะแล้ว”

                   “แหม ขอบใจมากนะไอ้แทนที่อุตส่าห์เป็นห่วง” นัททำเสียงประชดนิดๆ

                   “เราไปคุยกับพี่ฟ้ามา ดึกไปหน่อยเลยค้างที่นั่นเลย ขอโทษนะที่ทำให้พวกแกเป็นห่วง”

                   “เออ คราวหลังก็บอกก่อนแล้วกัน…เนี่ยถ้าวันนี้แกยังไม่กลับล่ะก็กะว่าจะไปงมศพในทะเลแล้ว”

                   “แหมแกไม่ต้องลำบากขนาดนั้นหรอกไอ้แทน รอให้คลื่นซัดเข้าฝั่งมาเองก็ได้…ขอบใจโว้ย” นัทส่งสายตาค้อนให้แทนแล้วเดินเลยเข้าห้องไป เสียงวินและแทนหัวเราะดังแว่วมา   นัทเข้าไปในห้องนอนทิ้งตัวลงบนที่นอนกลิ่นหอมอ่อนของหมอนใบนั้นยังติดอยู่ที่ปลายจมูก นัทยิ้มให้กับตัวเองหลับตาลงฝันถึงค่ำคืนอันงดงาม

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา