อลวนรักของหนุ่มน้อยหน้ามึน [Yaoi]

8.5

เขียนโดย JR_ST

วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.16 น.

  12 chapter
  10 วิจารณ์
  20.70K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 18.50 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

12) กลางคืน NC

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
ผมกอดร่างสูงไว้แน่นไม่อยากให้ร่างนี้จากไปไหน ผมจะไม่มีวันให้ร่างนี้หายไปจากชีวิตผมเหมือนความผิดพลาดของผมในตอนนั้น ถึงแม้ผมจะกลัวอยู่บ้างก็ตามแต่เพราะความรักทำให้ผมสามารถที่จะเผชิญหน้ากับมันได้ ร่างสูงที่ร็สึกว่าร่างเล็กกอดแน่นจึงเอ่ยออกมา
“ เอ่อ เมษ “ ผมสะดุ้ง
“ อ่ะ โทษที “ ผมคลายกอดถอยมาหนึ่งก้าวแล้วก้มหน้างุดด้วยความเขินอายอย่างบอกไม่ถูก ให้ตายเถอะ ทำไมผมเป็นคนอย่างนี้นะ
“ อา ตอนนี้ก็เริ่มจะมืดแล้ว งั้นไปกันเถอะ “ ดีฟพูดแล้วจับข้อมือผม
“ เอ่อ ใช่ ละ... แล้วจะไปไหน ? “ ผมยังคงพูดติดๆขัดๆอยู่ ดีฟยิ้มให้ผม เพียงแค่เห็นรอยยิ้มหวานนั่นใจผมแทบจะละลายแล้ว
“ เดี๋ยวก็รู้เอง ตามฉันมาเถอะ “ ดีฟบอกแล้วจูงผมออกจากที่นี่ ไปยังรถ
 
ระหว่างอยู่ในรถ...
“ นี่ จะพาฉันไปไหน “ ผมถามอีกครั้ง แต่คำตอบที่ได้รับกลับเหมือนเดิม
“ เดี๋ยวก็รู้เอง “
“ แต่ฉันอยากรู้นี่ “
“ ก็ได้ บ้านพักยังไงล่ะ “ ผมเบิกตากว้างอย่างดีใจแล้วหันมองดีฟที่กำลังขับรถ ผมยิ้มเล็กน้อย
“ อืม บ้านพัก “ผมเอ่ยแล้วหันมองไปนอกกระจกหน้าต่าง แสงสีของไฟ รถยนต์ที่กำลังวิ่งบนท้องถนนเป็นเส้นสีสวยหลากสี ภาพแบบนี้ทำให้ผมเริ่มเคลิ้ม เปลือกตาผมค่อยๆปิดลงเข้าสู่ห้วงนิทรา....
ร่างสูงที่กำลังมองทางอยู่แอบเหล่ตามองร่างเล็ก ก็เห็นร่างบางร่างบางหลับไปแล้ว เขายิ้มแล้วขำในลำคอเล็กน้อยด้วยความน่ารักของร่างเล็ก
“ หึ เด็กจริงๆ “ ร่างสูงเอ่ย แล้วเขาจึงขับไปยังสถานที่ต่อไปซึ่งเป็นเป้าหมายที่สองของเขา
 
บ้านพัก
“ เมษ เมษ ...” เสียงใครบางคนเรียกผมให้ตื่นขึ้น ผมลืมตาตื่น
“ ห้ะ เรียกทำไม “ ผมถามดีฟที่เป็นคนปลุกผม
“ ถึงแล้ว “ ผมมองไปข้างนอกหน้าต่าง มันเป็นบ้านหลังหนึ่งซึ่งใหญ่ขนาดกลาง ข้างนอกล้อมรอบด้วยทะเล
“ บ้านพักหรอ “
“ อืม ลงกันเถอะ ดึกมากแล้ว “ ดีฟว่าเสร็จผมก็ลงตามแล้วเดินไปยังบ้านพักหลังนั้น
แอ๊ด... เมื่อก้าวเข้ามาในบ้านหลังนี้ผมมองสำรวจบ้านหลังนี้ บ้านนี้มีสองชั้นเพราะเห็นบันได มีห้องนั่งเล่น ห้องครัว เหมือนบ้านทั่วไปหมดทุกอย่าง แต่ที่ต่างกันเพราะ...
ผนังกำแพงที่เต็มไปด้วยภาพวาดขีดๆเต็มบ้านไปหมด มันเหมือนฝีมือของเด็กเล็ก มันปรากฏเกือบทั่วบ้าน ไม่ใช่แค่ภาพเดียวแต่นับไม่ถ้วน
“ เอ่อ คือ ใครเป็นคนวาดผนังเนี่ย “ ผมเอ่ยถามร่างสูงที่เดินนำด้วยความสงสัย
“ ฉันเองล่ะ” ดีฟตอบระหว่างเดิน ผมอึ้ง ไม่น่าเชื่อว่าคนอย่างนายจะมีช่วงเวลาแบบนี้ด้วย
“ จริงเหรอ ? “ ผมบอกไปอย่างไม่เชื่อ
“ ก็จริงน่ะสิ “
“ ตอนนั้นไม่มีใครว่าเลยรึไง “
“ ไม่มีหรอก ตอนนั้นฉันยังเด็กมาก ฉันเล่นกับพี่ชายฉันที่บ้านหลังนี้... “ ดีฟเหมือนจะพูดบางอย่างแต่ก็ไม่เล่า ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไร แต่ผมก็ไม่กล้าถาม คงเป็นเรื่องส่วนตัวล่ะมั้ง
“ เมษ ไปนั่งที่โซฟาก่อน เดี๋ยวฉันทำอาหารให้ “ ดีฟสั่ง
“ ไม่น่าเชื่อว่าทำอาหารเป็นด้วย “ ผมพูดกวนๆ
“ ก็เป็นสิ ดีกว่านายละกันที่ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง ” ดีฟพูดพร้อมยักคิ้ว มันกระตุ้นต่อมความโกรธของผมได้เป็นอย่างดี
“ ไอ้... !! / ถ้านายพูดอีกคำนึงฉันจะปิดปากนายนะ “ ผมรีบหุบเพราะผมรู้ว่าไอ้คำว่าปิดปากมันหมายถึงอะไร ผมเดินถอยอย่างหัวเสียไปนั่งพักบนโซฟารออาหารมาเสิร์ฟโดยไอ้หมาบ้าสุดเจ้าเล่ห์
“ ชิ ไอ้ประธานบ้า ไอ้หมาบ้า “ ผมแบบ่นเบาไม่ให้ไอดีฟได้ยิน หากได้ยินผมก็ถูกปิดปากน่ะสิ บ่นเสร็จผมก็เดินไปเปิดทีวีดู
            “ ติ้ด ติ้ด...” ผมกดเลือกช่อง แต่ไม่มีสักช่องเลยที่ถูกใจ จนหยุดเปลี่ยนช่องเมื่อเจอช่องช่องหนึ่ง ผมหยุดแล้วดูละครเรื่องหนึ่งเป็นภาษาเกาหลีแต่มีซับไทย (เป็นเรื่องสมมุตินะคะ : ไรท์เตอร์)
            ภาพของหญิงชายคู่หนึ่งกำลังทะเลาะกันด้วยเหตุบางอย่าง ฝ่ายหญิงสลัดข้อมือออกเมื่อฝ่ายชายหยุดเดิน
“ นายต้องการอะไรอีกห้ะ ! นายมันเลวสุด นายทำลายชีวิตฉันย่อยยับขนาดนี้แล้วคราวนี้นายจะต้องการอะไรตัวฉันอีกห้ะ! “ หญิงเรือนผมสีแดงอมน้ำตาลแผดเสียงใส่ชายร่างสูงอย่างดัง น้ำตาเธอเริ่มไหลออกมาเป็นสาย
“ มันไม่ใช่อย่างนั้น”เขาปฏิเสธ แต่เธอไม่เชื่อที่เขาบอก
“ แล้วจะอะไร ! “
“ ฉัน ... ฉันรักเธอ “ เขาเอ่ย ผมที่นั่งดูอึ้ง ตอนนี้ผมเริ่มอินกับละครเรื่องนี้แล้วล่ะ ฝ่ายหญิงเบิกโพลงตากว้างอย่างไม่เชื่อใจ
“ เพียะ “ ฝ่ามือเล็กเรียวตบฉาดไปที่ใบหน้าหล่อนั่น ใบหน้าหล่อหันไปตามแรงตบนั่น เขาเอามือกุมแก้มข้างที่โดนผู้หญิงคนนี้ตบ แววตาเศร้าถูกมองมาที่เธอ
“ นายรักฉัน...ฮึก...แล้วที่ผ่านมามันคืออะไรล่ะ คัง มยอนโฮ [นามสมมุติค่ะ ถ้าซ้ำชื่อใครละครเรื่องอะไรขออภัยด้วยต่ะ ] “ เธอว่าปนเสียงสะอื้น ผมรู้สึกเจ็บแปล๊บที่หน้าอกยังไงไม่รู้หรือว่าผมเป็นโรคหัวใจ
“ จินฮี ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว “ มยอนโฮกล่าวขอโทษเธอ เธอยิ้มบนมุมปาก
“ เฮอะ ขอโทษ นายควรจะไปให้พ้นหน้าฉันแทนคำขอโทษนะ “ จินฮีบอกกับมยินโฮ เธอพูดเสร็จก็เดินชนไหล่แล้วจากเขาไป มยอนโฮถึงกับทำอะไรไม่ถูก มยอนโฮค่อยๆทรุดตัวลงนั่งชิดกำแพงแล้วร้องไห้ออกมา
“ ฮึก...จินฮี ฉันขอโทษ “ มยอนโฮได้แต่ร่ำร้องไห้อยู่อย่างนั้นเพียงลำพังท่ามกลางหิมะสีขาวที่กำลังตกลงมา
 
“ ฮึก ฮึก “ คราวนี้ไม่ใช่เสียงในทีวี แต่เป็นเสียงของร่างเล็กที่กำลังร้องไห้ด้วยอารมณ์ที่กำลังอินตามละครเรื่องนี้ ร่างเล็กค่อยๆล้มตัวลงนอนแล้วดูละครเรื่องนี้ต่อไป เปลือกตาคู่สวยค่อยๆปิดลง มือข้างที่ถือรีโมร์ทปล่อยลงมือคลายออกทำให้รีโมร์ทตกลงบนพื้นจนเกิดเสียงดัง
“ ป้อก “ เสียงรีโมร์ทหล่นลงกระแทกกบพื้น
ร่างสูงที่เพิ่งทำอาหารเสร็จจึงเดินออกมาตามต้นเสียงว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเดินมุ่งตรงมาที่โซฟาเห็นแต่โทรทัศน์ที่เปิดค้างไว้อยู่แต่ไม่เห็นหัวร่างเล็ก
“ หัวคนแม่งอยู่ไหน ? “ เขาถามหา เขาเดินเข้าไปเล็กน้อยเห็นร่างเล็กกำลังนอนหลับตาพริ้มเชียว เขานั่งคุกเข่ามองใบหน้าสวยหวานนั้น
“ หึ ร้องไห้ ? “ เขาเอ่ยเมื่อคราบน้ำตาที่แก้ม สงสัยคงจะอินกับละครมากไป ร่างสูงคิด เขาอยากจะปลุกแต่ไม่อยากรบกวนและอีกอย่างเขาอยากจะดูใบหน้าที่น่ารักของคนที่เขารักอีกสักนิด ร่างสูงคิดซุกซน เมื่อไม่มีอะไรจะทำ
นิ้วเรียวยาวแตะบนริมฝีปากบางสีชมพูแล้วทำการลูบไปมาอยู่อย่างนั้นจนร่างเล็กครางออกมาด้วยความรำคาญใจเมื่อมีบางสิ่งบางอย่างมารบกวนใจ
“ อือ...” ร่างเล็กครางเสียงในลำคอ ดีฟยิ้มบนมุมปาก ตอนนี้เขารู้ว่าคนๆนี้คือคนที่ใช่สำหรับเขา เขาสัญญากับตนเองว่าจะไม่ให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายเมษอีกแล้ว
“ ฉันจะปกป้องนายเอง เมษ ฉันสัญญา “ ดีฟเอ่ย
 
“ เมษ ตื่น เมษ... “ เสียงทุ้มเอ่ยเรียกผมให้ตื่นพร้อมกับแรงเขย่า ผมลืมตาตื่น ดวงตาคมมองมาทางผม ผมใจเต้นแรง อย่าจ้องตาฉันสิ มันหวั่นไหว
“ ลุกได้แล้ว กินข้าว “ ดีฟบอก ข้าวหรอ หิวก็หิว แต่ไม่หิวอ่ะ อยากนอนต่อ ผมพลิกตัวหันตัวหนีแล้วหลับตานอนต่อ
“ จะตื่นหรือไม่ตื่น “ ดีฟบอก ผมยังคงตอบว่า
“ ไม่ ! “
“ ไม่ใช่มั้ย “
“ เออ “
“ หนึ่ง “ ดีฟเริ่มนับเลขเพื่อให้เวลาร่างบางลุก
“....” เมษยังคงนอนอยู่กับที่ ไม่ยอมลุกออกจากโซฟา
“สอง”
“สาม “ ดีฟนับจบ เขาช้อนร่างบางขึ้นมาอุ้มอย่างง่ายดาย
 
“ เฮ้ย เปล่าลงเดี่ยวนี้นะ “ ผมโวยวาย นอนอยู่ดีๆก็ถูกไอประธานบ้าอุ้มขึ้นมา
            ตุบ ตุบ ปัก...ผมทั้งทุบและตีไอคนอุ้มหลายครั้งแต่ก็เหมือนเดิน ผมยอมเลิกความพยายามปล่อยให้ถูกแบกไปยังโต๊ะอาหารเพราะตียังไงก็ไม่สะทบสะท้านอะไรเลย ฮึ่ย เจ็บใจนัก
            เมื่อผมถูกวางตัวลงผมจ้องหน้าดีฟ ดีฟยิ้มบนมุมปาก หน้าผมเริ่มร้อน ทำไมผมต้องเขินด้วยนะ ผมรีบเดินหนีไปนั่งที่เก้าอี้ทันทีแก้ความเขินอาย เมื่อนั่งที่ กับข้าวบนโต๊ะผมโครตชอบเลยอ่ะ โดยเฉพาะไอต้มจืดเต้าหู้นั่น ผมเอื้มไปตักเต้าหูกับหมูเท่านั้นแล้วลงมือกินอย่างเดียว ผมก้มหน้าห้มตากินไม่มองไอ้คนที่นั่งตรงข้ามและเหมือนกำลังจ้องมาทางผม
“จึ๊บ” ผมตักเต้าหูกับหมูอีกป็นครั้งที่สอง
“ กินอย่างอื่นบ้างสิ “ ดีฟเอ่ย ผมมองหน้าอย่างไม่เข้าใจ ก็คนมันไม่ชอบผัก จะให้กินได้ไง
“ ไม่ชอบผัก “ ผมบอก
“ มิน่าล่ะ ตัวถึงได้ผอมแห้งขนาดนี้ หึหึ “ ดีฟบอกเมษพร้อมขำในลำคอ เมษไม่พอใจ
“ นี่ หุบปากไปเลยนะ เลิกหัวเราะเยาะฉันได้แล้วนะ ! “ ถึงเมษจะบอกแต่ดีฟก็ยังคงขำอยู่ดี ขำไม่หยุดจนเมษไม่รู้จะทำอย่างไรจึงก้มหน้าก้มตาทานข้าวต่อ พอหมดจานก็ลุกไปเก็บจานในห้องครัวแล้วเดินขึ้นห้องไป
 
ร่างบางเดินเข้าห้องอย่างหัวเสีย เมษเดินไปที่เตียงแล้วล้มนอนอย่างแรง
       ตุบ...
“ ฮึ่ย เจ็บใจนัก คอยดูนะ ถ้าฉันสูง ล่ำเมื่อไหร่ล่ะก็ หึ นายเสร็จฉันแน่ ฉันจะขยี้นายให้เป็นผุยผงเลยคอยดู ไอ้ประธานดีฟ ! “ ผมตวาดเสียง เฮ้อ พอได้ตะโกนออกไปเหมือนยกภูเขาออกจากอกเลย เวลานี้ไม่มีอะไรทำ...
เบื่อชะมัด ร้อนจริงๆ ห้องนี้มีแอร์มั้ยนี่ย ผมมองหาเครื่องปรับอากาศ อย่างที่คิด มีจริงๆด้วย แล้วรีโมร์ท ผมลุกจากเตียงเดินหารีโมร์ท ไม่นานผมก็เจอ ผมกดเปิดแล้วปรับอุณหภูมิ 28 องศา เพราะผมขี้หนาวถึงจะร้อนก็ตาม แล้วกลับมานอนที่เตียง คราวนี้ผมได้นอนสบายสักที ไม่มีอไระมารบกวนการนอนของผม
            เปลือกตาคู่สวยหลับตาหลงแล้วก็เข้าสู่ห้วงนิทรา...
 
            ฝ่ายร่างสูงที่อยู่ข้างล่างเดินขึ้นมาหวังจะง้อร่างเล็กที่กำลังงอนเขาอยู่ เขาเดินขึ้นมาแล้วเข้าไปที่ห้องนอน ทันทีที่เข้ามา เขารู้สึกถึงความเย็นในห้องที่แผ่ขยายออกมา ห้องที่มืดสนิท แต่ยังคงมีแสงสว่างจากดวงจันทร์เล็ดลอดจากบานหน้าต่างบานใหญ่เข้ามาในห้อง ร่างสูงก้าวเท้าเข้าใกล้ร่างที่กำลังหลับสนิทบนเตียงอย่างเงียบเชียบ
            ฟุบ... เตียงยุบลงเมื่อร่างสูงนั่งลง นิ้วเรียวปัดหน้าม้าที่ปิดบังหน้าผากและดวงตาคู่หนึ่งบนใบหน้าสวยของร่างเล็ก ดีฟโน้มหน้าลงประทับจูบบนปากบางๆสีชมพูนั้น
“ อืม “ ร่างบางครางเสียง ดีฟจึงผละจูบออกแล้วล้มตัวนอนข้างๆร่างเล็กบางนี้ เขากระชับกอดเมษ
 
            “ สุดที่รัก...”
_____________________________________________________________________________
จบ 555 หลังจากไม่ได้อัพนาน คงจะได้แค่นี้
.
 
.
 
.
 
.
ล้อเล่นค่ะ มีต่ออีกค่ะ อย่าเพิ่งโกรธกันน้า
 
                กลางดึก
ผมรู้สึกร้อนทั้งๆที่ผมเปิดแอร์แล้วนะ 28 องศา มันก็ไม่น่าจะร้อนขนาดนี้ และก็อึดอัดด้วย แทบจะหายใจไม่ออกด้วยซ้ำไป ผมลืมตาตื่น เห็นแผงอกกว้างสีขาวเนียน ใครวะ ผมเงยหน้าขึ้น
“ เฮ้ย ไอดีฟ “ ดีฟนอนกอดผม มานอนได้ไง ผมรู้สึกอะไรหนักๆที่เอว ผมมองไล่ลง ดีฟกอดกระชับผมแขนวางผาดที่เอว มันจะมากเกินไปแล้วนะ
“ อือ “ ดีฟครางส่งเสียงในลำคอ แล้วนอนต่อหน้าดื้อๆ ผมทนไม่ไหวจึงผลักแผงอกกว้างนั่นแต่ไม่ยักจะขยับ
“ ไอดีฟ ออกไปเลยนะ ตื่นดิ ไอดีฟ ! “ ผมส่งเสียงดัง ดีฟค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น
“ อะไร “ ดีฟจ้องหน้าผมถาม
“ คลายกอดฉันซะ “ ผมสั่ง ดีฟมองหน้าผมอย่างไม่พอใจ แทนที่จะคลายกอดแต่กลับยิ่งกระชับกอดมากกว่าเดิม อือฮือ พี่เบสครับ พี่ไปมีเพื่อนแบบนี้ได้ยังไง
“ เฮ้ย ปล่อย ฉันให้นายคลายกอดนะเว่ย ไม่ใช่ให้กอด”
“ นายเป็นของฉัน “ ดีฟบอกเมษ เมษเมื่อได้ยินถึงกับทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าเริ่มแดงก่ำลามไปถึงหู
“ ก็ใช่ แต่ว่า...” เมษพูดตะกุกตะกักด้วยความเขินอาย ตอนนี้เขายอมรับเลยว่าทำอะไรไม่ถูก ดวงตาคมสีคครามจ้องเข้ามาที่ดวงตาสีน้ำตาล เมษหลบสายตาที่กำลังจ้องเข้ามา มือใหญ่สัมผัสบนใบหน้า
“ เมษ “
“อะไรเหรอ”ผมถาม ให้ตายสิ ใจผมมันเต้นแรง
“ มองตาฉันสิ “ ผมค่อยๆหันมา ไอดีฟเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ ใบหน้าของผมใกล้กับไอดีฟมากจนรู้สึกถึงลมหายใจของอีกฝ่าย
“ ทำไม..อุ๊บ “ ไม่ทันพูดจบ ดีฟก็โน้มหน้าลงประกบจูบผม
“ อือ...อืม” ลิ้นร้อนเริ่มเข้ามาในโพรงปาก ควานหาอะไรบางอย่าง แขนเล็กคล้องคอร่างสูง ร่างเล็กจูบตอบกลับ
                ร่างสูงผละจูบแล้วโน้มหน้าลงที่ซอกคอขาวแล้วสูบดมกลิ่มหอมหวาน มือเริ่มไล่ลองมาแล้วสอดเข้าไปในเสื้อแล้วเลื่อนขึ้นไปสัมผัสที่ยอดอกสีสวยนั่น
“ อ้ะ “ ผมเผลอครางเสียงหลงออกมา ไอบ้านี่มือไวจริงๆ ผมบิดตัวไปมาเมื่อมีไอดีฟสัมผัสยอดอกนั่น
“ ปล่อย ไอ..” ผมถูกประกบจูบปิดสะกัดกลั้นคำพูดพวกนั้นอีกครั้ง รู้สึกอบอุ่นและเสียวในเวลาเดียวกัน
                ร่างสูงบีบและดึงยอดอกนั่นขณะที่กำลังจูบอยู่
 
“ อะ อ้ะ “ ผมร้องเสียงหลงเมื่อรู้สึกถึงแท่งร้อนๆกำลังสอดแทรกเข้ามาในช่องทางล่างนั่น มันทั้งเสียวทั้งเจ็บและรู้สึกดี มันปนกันไปหมด เสียงของเมษยิ่งไปกระตุ้นให้ร่างสูงอยากทำมากยิ่งขึ้น ร่างสูงค่อยๆกระแทกร่างเล็กจากจังหวะช้าไปเร็วจนเกิดเสียงเนื้อกระทบกัน
“ ช้าๆหน่อย...อ้ะ “   แต่ร่างสูงกลับไม่ฟังกลับยิ่งเร่งจังหวะมากขึ้นจนร่างเล็กต้องยอม
                แล้วก็เริ่มเข้าสู่บทรักอันแสนยาวนานในค่ำคืนนี้ของคู่รักคู่นี้...
                ร่างสูงถอนแก่นกายออกเมื่อได้ปลดปล่อยเสร็จ เขามองดูร่างเล็กที่สลบไปก่อน ใบหน้าขึ้นสีแดงระรเอเนื่องจากความเหนื่อย พอลองคิดย้อนไปอีกทีเหมือนเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป เขาสวมกอดร่างเล็กและหลับตาลงแล้วเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง..
555 ตอนนี้เรทไปหน่อย สัก
 
________________________________________
 
 
ตอนนึงคงไม่เป็นไร ปกติจะไม่ค่อยเขียน พอแต่งจริงๆนึกออกบ้างไม่ออกบ้าง แต่ก็สำเร็จไปด้วยดี ฝากติดตามต่อไปด้วยนะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา