Journey of gust

10.0

เขียนโดย Nutiwinwin

วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 07.11 น.

  5 ตอน
  0 วิจารณ์
  8,399 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2557 11.43 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

4) ความอ่อนโยนคืออาวุธที่แท้จริง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ณ เบรฟซิตี้

เบรฟซิตี้เป็นเมืองที่คล้ายกับเมืองในแถบยุโรปโบราณมองไปทางไหนก็มีแต่บ้านที่ทำจากหิน จากไม้ มองดูแล้วเพลินตา

"ถึงซักทีเบรฟซิตี้ ไปซื้ออาวุธดีกว่า" กัสต์พูด

"จอก~"เสียงท้องของกัสต์ดัง

"แหะๆ ไปหาข้าวกินก็ไม่เลวนะ ในเบรฟซิตี้มีร้านอาหารไหมเนี่ย" กัสต์พูด จากนั้นเขาก็เช็คแผนที่ในครอสไลฟ์

"อืม เจอแล้วร้านซันไรส์ งั้นไปกันเลย" กัสต์พูดจากนั้นเขาก็เดินทางไปยังร้านอาหารซันไรส์

 

ณ ร้านอาหารซันไรส์

บรรยากาศภายในร้านเป็นร้านที่ค่อนข้างหรู แต่กลับมีลูกค้าน้อย แต่เป็นร้านที่สะอาดมากของทุกอย่างได้วางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เมื่อกัสต์ไปถึงเข้าได้นั่งลงบนเก้าอี้ จากนั้นพนักงานคนหนึ่งก็เดินมาหากัสต์

"ยินดีต้อนรับค่ะ จะรับอะไรดีค่ะ" พนักงานกล่าวทักทายกัสต์ จากนั้นพนักงานคนนั้นก็ยื่นเมนูอาหารให้กัสต์

“เอ่อ ขอสเต็คครับ” กัสต์พูด

“How would you like your steak??” พนักงานถามกัสต์

“เอ่อ… ผมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ครับ” กัสต์พูด

“ขอโทษนะค่ะที่ไม่ได้บอก ทางร้านเรามีบริการรับประทานฟรีถ้าพูดภาษาอังกฤษได้นะคะ” พนักงานพูด

“งั้น ผมเอา…”กัสต์พูด

“เดี๋ยวชั้นจัดการเอง” เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินพูด

“โอเค” กัสต์พูด จากนั้นเขาก็เรียกเอมเพอร์เรอร์ดอลฟินออกมา

“Steak please” เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินพูด

“How would you like your steak??” พนักงานพูด

“กัสต์นายอยากกินสเต็คแบบไหนหล่ะ?? ” เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินพูด

“สุกหน่ะ ชั้นไม่ชอบกินของดิบ” กัสต์พูด

“Well-done please” เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินพูด

“ค่ะ รอซักครู่นะคะ” พนักงานพูด จากนั้นพนักงานก็เข้าไปในห้องครัว

“เอ๋ เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินนายพูดภาษาอังกฤษได้ด้วยเหรอ??” กัสต์ถามด้วยความประหลาดใจ

“ใช่แล้วที่ชั้นพูดได้เพราะเจ้านายคนเก่าชั้นสอนหน่ะสิ”เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินพูด

“เอ๋ ชั้นไม่ใช่เจ้านายคนแรกของชั้นเหรอ??” กัสต์ถาม

“ไม่ใช่หรอก เจ้านายคนแรกของชั้นหน่ะเขาเสียไปแล้วหล่ะ”เอมเพอร์เรอร์ดอลฟิน

“เขาเสียไปเพราะว่าอะไรเหรอ?? ” กัสต์ถาม

“เขาปกป้องชั้นตอนที่ชั้นกำลังถูกดูดไปยังมิติอีกมิติหนึ่งเพราะความอ่อนแอของชั้น ถ้าชั้นแข็งแกร่งกว่านี้ละก็ป่านนี้เขาคง…”เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินพูดจากนั้นเขาก็ร้องไห้ จากนั้นกัสต์ก็เอามือลูบหัวของเอมเพอร์เรอร์ดอลฟิน

“นายมีเจ้านายที่ดีนี่นา ชั้นต้องขอนับถือเลย ถ้าเกิดว่าเป็นไปได้ชั้นอยากจะเจอเขาจริงๆเจ้านายคนแรกของนาย” กัสต์พูด

“กัสต์…” เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินพูด จากนั้นพนักงานก็เอาสเต็คมาเสิร์ฟ

“อะ เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินชั้นแบ่งให้ครึ่งหนึ่ง” กัสต์พูด

“ไม่เป็นไรหรอกชั้นยกให้ก็แล้วกัน”เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินพูด

“ขอบใจนะ เอมเพอร์เรอร์ดอลฟิน” กัสต์พูดจากนั้นเขาก็รับประทานสเต็ค เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินได้แต่มองหน้ากัสต์

“กัสต์ชั้นตัดสินใจละว่า ชั้นจะอยู่กับนายตลอดไปไม่ว่าอย่างไรก็ตาม อาร์เทอร์ตอนนี้ชั้นเจอเจ้านายที่ดีเหมือนนายละนะ”เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินพูดในใจพลางมองขึ้นข้างบน จากนั้นกัสต์ก็รับประทานสเต็คจนหมด

“อิ่มละ ขอบใจมากจริงๆเอมเพอร์เรอร์ดอลฟิน” กัสต์พูด

“ไม่เป็นไรๆ เรื่องแค่นี้เอง”เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินพูด จากนั้นพวกเขาก็เดินออกไปข้างนอกร้าน

“ไว้มาอีกนะคะ” พนักงานพูด

“เอาละไปร้านอาวุธกันเถอะ เอมเพอร์เรอร์ดอลฟิน” กัสต์พูด

“โอเค” เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินพูด จากนั้นกัสต์ก็เอาเอมเพอร์เรอร์ดอลฟินเข้าไปในครอสไลฟ์

“อืม ร้านอาวุธมีไหนกันนา” กัสต์พูดขณะที่เขากำลังเช็คในแผนที่

“ออ เจอละ ร้านไอรอนบาร์เนี่ยแหละ” กัสต์พูด

“งั้นไปกันเถอะ เอมเพอร์เรอร์ดอลฟิน”กัสต์พูด

“อ่า” เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินพูด จากนั้นพวกเขาก็เดินทางไปร้านอาวุธไอรอนบาร์

 

ณ ร้านอาวุธไอรอนบาร์

ภายในร้านนั้นมีอาวุธหลายหลายชนิด คล้ายกับเป็นศูนย์รวมของอาวุธเลยทีเดียว

“โห มีแต่อาวุธเจ๋งๆเยอะมากเลย เอ่อ ขอซื้ออาวุธหน่อยครับ” กัสต์พูด

“เลือกเอาเลยครับ” พนักงานในร้านพูด

“โห เยอะมากจนเลือกไม่ถูกเลยนะเนี่ย นายคิดว่าจะเอาแบบไหนดีหล่ะ เอมเพอร์เรอร์ดอลฟิน” กัสต์พูด

“เอาดาบก็ไม่เลวนะ ถ้าเป็นปืนก็เจ๋งดี” เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินที่อยู่ในครอสไลฟ์พูด

“เอาเล่มนี้ไปอ่านดูสิครับ” พนักงานในร้านพูด จากนั้นพนักงานก็ยื่งหนังสือเล่มหนึ่งให้กัสต์

“นี่เป็นหนังสือรวมอาวุธที่มีทั้หมดในร้านครับ บอกคุณสมบัติไว้ด้วย” พนักงานในร้านพูด

“ว้าว!!! สุดยอดมากขอบคุณมากครับ” กัสต์พูดพลางเปิดหนังสือ จากนั้นกัสต์หยุดอยู่ที่หน้าหนึ่ง

“ผมเอาอันนี้ครับ” กัสต์พูพลางชี้ไปยังหน้านั้น

“ได้ครับ” พนักงานพูดจากนั้นเขาก็ไปหยิบอาวุธที่กัสต์ต้องการ

“นี่ครับ สครัชเบลด ดาบที่จะเปลี่ยนไปตามพลังของผู้ใช้ ถ้าจะใช้ให้เอามือแตะด้านล่างของด้ามนะครับ” พนักงานพูด

“ครับ อันนี้ราคาเท่าไหร่ครับ” กัสต์พูด

“อันนี้ราคา…”พนักงานพูดยังไม่จบจู่ๆก็มีชายคนหนึ่งวิ่งมาทางร้าน

“คุณเบิร์นครับ!!! แย่แล้วหล่ะครับ” ชายคนนั้นพูด

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ??” เบิร์นถาม

“ก็จู่ๆ เบรซดราก้อนที่เราเอามันมาเลี้ยงจู่ๆมันก็อาละวาดนะสิครับ” ชายคนนั้นพูด

“โอเคเดี๋ยวชั้นไปดูเอง” เบิร์นพูด

“ครับ” จากนั้นชายคนนั้นก็วิ่งออกจากร้านไป

“เธอรออยู่ที่นี่นะ เดี๋ยวชั้นมา” เบิร์นพูด จากนั้นเขาก็หยิบกระเป๋าใบหนึ่งออกไปและจากนั้นเขาวิ่งออกจากร้าน

“เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินนายว่าไง” กัสต์พูด

“ของมันแน่อยู่แล้ว” เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินพูด

“อื้ม” กัสต์พูด จากนั้นพวกเขาก็วิ่งตามเบิร์นไป

 

ณ สถานที่เบรซดราก้อนอาละวาด

“ตู้ม!!! เสียงระเบิดของตึกดังกังวาน จากนั้นตึกนั้นก็ถล่มลงไป

“อยู่ที่นี่เองเหรอไอ่ตัวแสบ” เบิร์นพูด

“เอาละงั้นพวกเราลุยกันดีกว่าเอมเพอร์เรอร์ดอลฟิน” กัสต์พูด

“โอเค” เอมเพอร์เรอร์ดอลฟินพูด

“โซลครอส!!!” กัสต์พูดจากนั้นเอมเพอร์เรอร์ดอลฟินก็กลายเป็นทวนสามง่าม

“เอาละนะ!!!” กัสต์พูดจากนั้นเขาก็ใช้งานสครัชเบลดที่เขาซื้อมา ดาบสครับเบลดของเขาได้กลายเป็นน้ำ ตามพลังของเขา และจากนั้นเขาก็วิ่งไปทางเบรซดราก้อน

“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวชั้นจัดการเอง ชั้นเอามันมาเลี้ยงดังนั้นชั้นต้องรับผิดชอบ” เบิร์นพูด เบิร์นเดินไปหาเบรซ ดราก้อน

“เบรซดราก้อน ชั้นไงเบิร์นจำได้ไหม” เบิร์นพูด จากนั้นเบรซดราก้อนได้หยุดอาละวาดแล้วมองมาทางเบิร์น

“จำชั้นได้ไหมเบรซดราก้อน” เบิร์นพูด เบรซดราก้อนได้แต่มองหน้าแต่ไม่พูดอะไร

“จำชั้นได้สินะ” เบิร์นพูด จากนั้นเบรซดราก้อนก็เอาเล็บตบเขาจนกระเด็นแต่ที่เห็นก็คือร่างของเขาคือไฟที่เบิร์นสร้างเพื่อหลอกตาแต่ร่างจริงอยู่บนหัวของเบรซดราก้อนแล้ว

“เอาละไอ่ตัวแสบ ขอชั้นเล่นกับนายหน่อยนะ” เบิร์นพูด จากนั้นเขาก็เปิดกระเป๋าของเอาขึ้นมาแล้วหยิบเข็มฉีดขนาดใหญ่แล้วปักลงบนหัวของเบรซดราก้อนจากนั้นเบรซดราก้อนก็สลบลงไป จากนั้นเบิร์นก็กระโดดลงมาจากหัวของเบรซดราก้อนแล้วเดินมาทางกัสต์

“เห็นไหมหล่ะไม่จำเป็นเลยที่จะต้องลงไม้ลงมือ กับเพทพวกนี้เลยปะกลับร้านกัน” เบิร์นพูด

“แล้วเบรซดราก้อนหล่ะครับ??” กัสต์ถาม

“เดี๋ยวจะมีคนมาตรวจสอบหาสาเหตุหน่ะ” เบิร์นพูด

“ครับ” กัสต์พูด

“งั้นไปที่ร้านกันเถอะ” เบิร์นพูด

“ครับ” กัสต์พูดจากนั้นพวกเขาก็กลับร้านกัน

 

ณ ร้านไอรอนบาร์

“เธอชื่ออะไรหล่ะ??” เบิร์นถาม

“ผมชื่อกัสต์ครับ” กัสต์พูด

“ชั้นชื่อว่า เบิร์นนะ เป็นช่างตีอาวุธ กับ เพทรีโคเวอร์หน่ะ”

“เอ๋คุณเป็นเพทรีโคเวอร์เหรอครับ??” กัสต์พูด

“ใช่แล้วหล่ะ” เบิร์นพูด

“ว่าแต่ทำไมเมื่อกี้ถึงห้ามผมหล่ะครับ??” กัสต์ถาม

“ที่ชั้นห้ามไม่ใช่เพราะชั้นอยากโชว์ออฟหรอกนะ แต่เป็นเพราะว่า ความอ่อนโยนต่อทุกสิ่งนั้นจะช่วยปกป้องทุกอย่างที่เราต้องการปกป้องได้ ถึงแม้ว่าจะอันตรายซักเพียงใดก็ตาม การที่ชั้นทำแบบนี้ก็เพื่อปกป้องทั้งเมือง ทั้งชาวบ้านและ เบรซดราก้อนของชั้น ไม่ใช่เพื่อต้องการที่จะสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง ทุกคนมีคนที่อยากปกป้องกันทั้งนั้น เพราะแบบนี้ไงชั้นถึงเลือกที่จะปกป้องทุกอย่าง แทนที่จะฆ่าเบรซดราก้อนทิ้ง เพื่อยุติปัญหา” เบิร์นพูด

“ครับ ดาบนี้ราคาเท่าไหร่ครับ” กัสต์พูด

“ฟรีจ้า” เบิร์นพูด

“เอ๋??” กัสต์พูดด้วยความมึนงง

“ชั้นให้นายฟรีไปเลยนะ แต่อย่าลืมว่าทุกครั้งที่นายสู้จะต้องมีความอ่อนโยน เพราะความอ่อนโยนคืออาวุธที่แท้จริงยังไงหล่ะ” เบิร์นพูด

“ครับ ขอบคุณมากนะครับ งั้นผมไปก่อนนะครับ” กัสต์พูด

“จ้าๆ” เบิร์นพูด

“กัสต์ลองไปที่กรุงเทพดูสิ ชั้นว่าที่นั่นนายต้องเจออะไรดีๆแน่เลย” เบิร์นพูด

“โอเคครับ” กัสต์พูด

“งั้นผมไปก่อนนะครับ” กัสต์พูด

“Bon voyage เดินทางโดยสวัสดิภาพนะ” เบิร์นพูด

“ครับ” กัสต์พูด จากนั้นกัสต์ก็เดินทางไปกรุงเทพตามคำแนะนำของเบิร์น

“กริ๊ง!!!” เสียงโทรศัพท์ของเบิร์นดังขึ้น

“ครับ” เบิร์นพูด

“เบิร์นตอนนี้เราทราบสาเหตุแล้วหล่ะนะว่าทำไมเบรซดราก้อนถึงอาละวาด เป็นเพราะว่า มีดาร์คชิพฝังอยู่ในหัวของเบรซดราก้อน จึงทำให้มันอาละวาด” เสียงของชายคนหนึ่งที่คุยผ่านโทรศัพท์

“ครับ เจ้าพวกนั้นเริ่มแล้วสินะครับ” เบิร์นพูด

“ก็คงอย่างงั้น แล้วเราจะทำยังไงดี??”  เสียงของชายคนนั้นพูด

“ไม่ต้องกลัวครับ มีลูกค้าคนนึ่งมาแวะที่ร้านดูแล้วมีแววนะครับเนี่ย ตอนนี้ผมแนะนำให้เขาไปกรุงเทพเพื่อให้เจอคนๆนั้น” เบิร์นพูด

“คนๆนั้นนะเหรอ อืม ดีมากเลยเบิร์น” เสียงของชายคนนั้นพูด

“แหมๆ พูดแบบนี้ผมก็เขินแย่เลยสิ555” เบิร์นพูด

“555” เสียงของชายคนนั้นหัวเราะ

“งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ”เบิร์นพูด จากนั้นเขาก็วางสาย

“ฝากด้วยนะธานี ฝากดูแลกัสต์ด้วย ว่าแต่กี่ปีละเนี่ยที่ไม่ได้เจอหมอนนั่น ” เบิร์นพูดในใจแล้วแหงนหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า

“อืมโทรไปหาหมอนนั่นดีกว่า” เบิร์นพูดจากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อโทรไปหาธานี

“ไง ธานี ชั้นเองเบิร์น” เบิร์นพูด

“อ่าว นี่เบิร์นเหรอมีอะไรเหรอ” ธานีพูด

“ตอนนี้ชั้นส่งเด็กคนหนึ่งไปหานายยังไงก็ฝากด้วยก็แล้วกันนะ” เบิร์นพูด

“ได้ ไว้ใจได้เลย ชั้นได้ข่าวนะว่าไอ่ตัวแสบอาละวาดหน่ะ” ธานีพูด

“แหมได้ข่าวเร็วจังนะ ว่าแต่ไอ่หมอนนั่นหน่ะเหรอ ด็อกเตอร์เนลสันเพิ่งโทรมาบอกเมื่อกี้นี้เองว่าทำไม” เบิร์นพูด

“ทำไมเหรอ??” ธานีถามเบิร์น

“เพราะว่า มีดาร์คชิพฝังอยู่นะสิ” เบิร์นพูด

“งั้นเหรอ แย่หน่อยนะพวกนั้นเคลื่อนไหวกันแล้วสินะ” ธานีพูด

“ใช่แล้วหล่ะ ว่าแต่…” เบิร์นพูด

“ว่าแต่…”ธานีพูด

“มาลีน้องสาวนายหายไปไหนฝากบอกด้วยนะว่า คิดถึ้งคิดถึงหน่ะ” เบิร์นพูด

“ยังจะมาจูจี๋กันอีกนะ!!!” ธานีพูดด้วยอารมณ์โกรธ

“ไม่เห็นเป็นไรเลย คนเค้ารักกัน” เบิร์นพูด

“ฮึ่ย!!! ชั้นวางละ” ธานีพูดจากนั้นธานีก็วางสายด้วยความโมโห

 

ณ กรุงเทพ

“พี่คะ ใครโทรมาเหรอ??” มาลีถาม

“ช่างมันเถอะ อย่าไปสนเลย” ธานีพูด

“เบิร์นใช่ม้า” มาลีพูด

“ช่างมันเถอะน่า!!!!” ธานีพูดด้วยความโมโห

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา