มนตร์หงส์ NC 18+

10.0

เขียนโดย WiwaWriter

วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.02 น.

  13 บท
  0 วิจารณ์
  24.35K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 21.06 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

10) บางครั้งชีวิตก็ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ไอ้หน้าโง่…

คำตำหนินี้ยังน้อยไปสำหรับพี่ชายปากพล่อย ที่ปล่อยให้อคติและทิฐิในใจอยู่เหนือสติจนไปทำร้ายจิตใจน้องสาวอย่างไม่รู้ตัว แต่ที่พูดไปก็เพราะเป็นห่วงกันติยาจริงๆ อาจจะมีหวงบ้างเพราะเธอยังเด็ก และเป็นเพียงคนเดียวที่เขาต้องดูแลให้ดีที่สุด ตอนนี้คงยังกลับเข้าไปปรับความเข้าใจกันไม่ได้เพราะบรรยากาศกำลังมาคุ ชายหนุ่มจึงได้แต่ภาวนาให้น้องสาวรับรู้ถึงความห่วงใยที่แฝงอยู่ในคำพูดร้ายๆ ของเขา

กันต์กรถอนหายใจหนักๆ เลิกคิดมาก กดรีโมตเปิดประตูรถ แต่จู่ๆ ก็เหมือนมีอะไรแข็งๆ แตะที่กลางหลัง ไม่ทันที่เขาจะหันกลับไปมอง เสียงกระซิบก็ดังขึ้นประชิดตัว

“ถ้าไม่อยากตายอยู่นิ่งๆ”

พวกโจรปล้นรถแน่

กันต์กรชำเลืองไปมองด้านหลัง นอกจากคนที่ใช้อาวุธจี้เขาแล้วยังมีพรรคพวกอีกสองคน ดูท่าจะรับมือยาก

“ตามกูมา” ไอ้คนถือปืนสั่ง

พวกมันพากันต์กรไปที่สวนหย่อมข้างโรงพยาบาลซึ่งตอนนี้ปลอดคนและพรางสายตาจากคนภายนอกด้วยต้นไม้ใหญ่ ก่อนคนถือปืนจะเตะชายหนุ่มจนเซไปชนกับลำต้นไม้แข็งๆ แต่พวกมันก็ยังไม่ลงมือยิงเขาสักที ชายหนุ่มจึงพอเดาได้ว่าพวกมันไม่ได้หมายจะเอาชีวิต แต่คงต้องการอะไรบางอย่าง เงินหรือ? กันต์กรกัดฟันถามพร้อมเอามือกุมท้องที่จุกเพราะโดนอัด

“ต้องการอะไรก็ว่ามาสิ”

มันชี้ปืนไปที่หัวของกันต์กร

“แกเคยมีเรื่องกับใครไว้ล่ะ”

“มีเรื่อง” กันต์กรทวนคำก่อนจะนึกอยู่ครู่หนึ่ง แต่ไม่ทันจะได้คำตอบ พวกมันก็บุกเข้ามาค้นตัวเขา ก่อนจะล้วงเอาโทรศัพท์มือถือไป เท่านี้ชายหนุ่มก็คิดออกทันที เขาเคยมีเรื่องกับลูกชายของรัฐมนตรีทรงธรรมในผับตอนนั้น มันคงส่งลูกน้องมาจัดการกับคลิปที่เขาเคยอัดเอาไว้

“อัดมันให้น่วม” ไอ้คนถือปืนสั่ง

อีกสองคนกรูกันเข้ามา ก่อนจะปล่อยหมัดใส่กันต์กร แต่ชายหนุ่มยกแขนขึ้นกันก่อนเงื้อมือขึ้นกะจะต่อยกลับ ทว่าอีกฝ่ายชกสวนเข้าที่ท้องเขาเสียก่อน จากนั้นอีกคนก็จับสองแขนของเขาล็อกไว้ด้านหลัง กันต์กรดิ้นสุดแรง แต่พอปลายกระบอกปืนจ่อมาทางเขา ชายหนุ่มจึงต้องหยุดเคลื่อนไหว ก่อนไอ้คนถือปืนจะต่อยเข้าที่ใบหน้าเขาแรงๆ ครั้งหนึ่งจนกันต์กรเริ่มโมโห

“ไอ้หมา แน่จริงมาต่อยกันตัวๆ สิวะ มีดีแค่ถือปืนขู่คนอื่นหรือไง”

“อย่ามาทำให้กูเขว” คนถือปืนว่า “กูมืออาชีพพอ”

“มืออาชีพ หรือหมาอาชีพวะ” กันต์กรตอกกลับ เขาจึงโดนซัดไปอีกเปรี้ยงหนึ่ง ชายหนุ่มปวดที่แก้ม เลือดเค็มๆ ไหลออกมาจากปาก

“ปากดีนัก เจ้านายกูฝากมาบอกว่า มึงอย่าได้ไปทำกร่างที่ผับนั่นอีก”

“ฝากไปบอกเจ้านายมึงเถอะ เจ้านายมึงแหละจะโดนดี” กันต์กรสวนทันควัน

คนถือปืนหัวเราะในลำคอ ก่อนจะเล็งปืนมาที่กันต์กรอีกครั้ง

“ฝากรอยบากไว้ที่หน้าหล่อๆ ของมึงซักหน่อยดีมั้ย”

กันต์กรจ้องมันอย่างหวั่นๆ แต่ก็ต้องตั้งหน้าสู้ไว้ก่อน ไม่เช่นนั้นจะดูอ่อนแอจนพวกมันหัวเราะเยาะได้

“ก็เอาสิ กูจะได้จ้างมือปืนไปเด็ดหัวพวกมึงทีละคนเลยไง”

“หน็อย ปากดีนัก” ไอ้หัวหน้ากัดฟันกรอด ก่อนจะสั่งเสียงกร้าว “รุมมัน”

ลูกน้องคนหนึ่งหันมาถาม “นายบอกแค่สั่งสอนมันสักหมัดสองหมัดไม่ใช่เหรอพี่”

ลูกพี่หน้าเหี้ยมเหมาะกับผมรกรุงรังเก็บปืนเหน็บเอว ก่อนจะแสยะยิ้มตอบด้วยเสียงเย็นๆ

“กูหมั่นไส้มันเป็นการส่วนตัว จัดการมัน”

ลูกน้องสองคนรับคำแล้วก็ผลักกันต์กรลงพื้น ก่อนจะช่วยกันรุมกระทืบ

 

@นิภิศากับป้าเมี้ยนเปิดประตูลงจากแท็กซี่ หญิงสาวถือตะกร้าลงจากรถ ขณะที่ป้าเมี้ยนลดโทรศัพท์ลงจากหูด้วยสีหน้าแปลกใจ

“คุณกรบอกจะมาหาคุณยา แต่ทำไมป้าโทร.หาแล้วไม่รับสายเลย”

พูดเสร็จป้าเมี้ยนก็มองไปที่ลานใหญ่ที่มีรถยนต์จอดอยู่ ก่อนเธอจะร้องออกมาด้วยความตกใจ

“นั่นรถคุณกรนี่ ทำไมประตูรถเปิดไว้แบบนั้นล่ะ”

ว่าแล้วแม่บ้านสูงวัยก็รีบเข้าไปดู แต่พอไม่เห็นกันต์กรอยู่ก็แสดงท่าทีเป็นกังวล

“ไม่อยู่ในรถ แต่ทำไมเปิดประตูรถทิ้งไว้แบบนี้ ถ้ารถหายขึ้นมาจะทำยังไงเนี่ย เฮ้อ คุณกรนะคุณกร”

แต่จู่ๆ ป้าเมี้ยนก็เริ่มหน้าซีด “หรือว่าคุณกรจะมีเรื่อง”

นิภิศาทำหน้างงๆ

“ปกติคุณกรไม่สะเพร่าแบบนี้นี่” หญิงสูงวัยเอามือทาบอก “ป้ารู้สึกใจคอไม่ดีเลย คุณกรหายไปไหน หนูศาออกไปตามหาคุณกรให้ป้าหน่อย ป้าจะลองขึ้นไปถามที่ห้องของคุณยาดู”

“คะ?” นิภิศาอุทานก่อนจะชี้มาที่ตัวเอง

“ใช่ ลองไปตามหาคุณกรแถวนี้ ป้าคงเดินไกลตากแดดร้อนๆ ไม่ไหว ช่วยป้าหน่อยนะ”

ป้าเมี้ยนเขย่าแขนนิภิศาด้วยสีหน้าอ้อนวอน พอเห็นหน้าตาท่าทางของนางไม่สู้ดีนัก หงส์สาวจึงพยักหน้ารับไปแบบผ่านๆ เพื่อให้อีกฝ่ายสบายใจ ป้าเมี้ยนรีบเอากระเช้าจากมือนิภิศาไปแล้วเข้าไปในโรงพยาบาล

ทำไมต้องสร้างเรื่องให้เธออยู่เรื่อย นิภิศาบ่นในใจ ก่อนจะใช้มือสัมผัสที่มือจับประตูรถ  

ครู่หนึ่งเธอก็เห็นภาพนิมิตขึ้นในหัว กันต์กรถูกคนบางกลุ่มจับตัวไป นิภิศารีบมุ่งไปที่สวนหย่อมของโรงพยาบาล ที่มุมลับตาเธอเห็นคนสองคนกำลังรุมกระทืบกันต์กร หงส์สาวส่ายหน้าอย่างหน่ายใจกับเรื่องของมนุษย์ ส่วนหนุ่มปากดีก็ยังสบถด่าพวกมันทั้งสามคนอย่างไม่ไยดีฝ่าเท้า

นิภิศาไม่อยากช่วยคนแบบนี้เลย ทั้งปากจัด นิสัยเสีย แต่คำพูดของป้าเมี้ยนก็ดังขึ้นในหัว

‘ช่วยหน่อยนะ หนูศา ช่วยคุณกรด้วย’

หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะพนมมือ หามนตร์บทไหนมาช่วยดีนะ อ้อ เจอแล้ว!

 

พฤกษ์พนาไพรแห่งนี้ ขออัญเชิญผีไม้ผีป่ามากำราบผู้ชั่วช้า

 

สิ้นเสียงภาวนาของเธอ ต้นไม้ใหญ่ใกล้กันต์กรก็สั่นไหว จนชายฉกรรจ์ที่รุมกระทืบอยู่หยุดชะงักก่อนจะแสดงอาการตื่นตกใจพร้อมกับร้องลั่นอย่างคนขวัญเสีย เมื่อมีหญิงสาวนุ่งสไบเขียวปรากฏตัวออกมาจากต้นไม้ แล้วยื่นแขนหมายจะจับตัวพวกคนพาลจนพวกมันต่างตกใจรีบวิ่งจ้ำอ้าวกันจ้าละหวั่น

นิภิศาก้มศีรษะไหว้นางไม้เพื่อขอบคุณ ส่วนวิญญาณสาวพนมมือไหว้ตอบก่อนจะหายกลับเข้าต้นไม้ ยิ่งหงส์สาวเดินเข้าไปใกล้กันต์กรที่พิงหลังอยู่กับลำต้น ก็เห็นเขาชัดเจนในสภาพมือกุมท้องตัวเอง ใบหน้ามีแผลแตกเลือดไหลซิบ และเสื้อผ้าเต็มไปด้วยรอยเท้าของคู่อริ หญิงสาวนั่งลงข้างๆ ชายหนุ่มก่อนมองเขาอย่างสังเวช

ฝ่ายกันต์กรที่เห็นเธอถึงกับตาเบิกกว้าง

“คุณมาที่นี่ได้ยังไง อูย…” ชายหนุ่มกุมแก้มตัวเอง

หญิงสาวไม่ตอบเพราะไม่อยากเสวนากับมนุษย์หนุ่มใจร้าย

“คุณไล่พวกมันไปใช่มั้ย” แต่เหมือนเขายังฝืนถามต่อ นิภิศาจึงตอบกลับไปเบาๆ

“อย่าขยับตัวให้มากนักเลย”

“คุณช่วยพยุงผมหน่อยสิ” กันต์กรทำเสียงอ้อนวอนพร้อมกับยื่นมือให้ แต่นิภิศากลับขยับตัวออกห่างเล็กน้อยอย่างตกใจ

พยุง! เธอได้ยินว่าเขาให้เธอช่วยพยุง เป็นไปไม่ได้ เธอไม่มีทางทำแบบนั้นแน่ เธอไม่เคยแตะต้องชายใดนอกจากอโรคาที่เลี้ยงมาเปรียบกับน้องชาย ขนาดเดชาธรที่ว่าสนิทยังไม่จับแม้แต่ชายผ้า ส่วนชายผู้นี้ถึงจะแตะเนื้อต้องตัวเธอมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่ถึงขั้นต้องพยุงให้เนื้อกายชิดใกล้กันเช่นนี้

“ผม...ไม่...ไหวแล้ว” กันต์กรกัดฟันพูด

“ฉันจะไปเรียกคนมาช่วย” นิภิศาพยายามหาทางออกที่ดีที่สุด

“ไม่เป็นไร” กันต์กรพยายามยันตัวเองลุกขึ้นก่อนจะพาร่างสะบักสะบอมเดินโซเซ นิภิศาที่เดินตามหลังได้แต่มองอย่างลุ้นๆ ว่าเขาจะไปรอดได้กี่ก้าว

ไม่ทันไรกันต์กรก็ล้มลงพื้นจริงๆ นิภิศาจึงจำใจต้องไปช่วย หงส์สาวค่อยๆ วาดแขนไปยังหลังกว้างของชายหนุ่มด้วยมือสั่นๆ ก่อนจะตัดสินใจว่าเธอควรเรียกคนมาช่วยดีกว่า

แต่ไม่ทันเสียแล้ว กันต์กรจับแขนเธอแล้วเอาโอบเอวเขาทันที นิภิศาสะดุ้งสุดตัว ครั้งที่สองแล้วที่ชายหนุ่มคนนี้สัมผัสเธอ หญิงสาวแทบจะเข่าทรุดลงตรงนั้น กลายเป็นว่ากันต์กรอาจได้พยุงตัวเธอแทน แต่ชายหนุ่มยังไม่หยุดแค่นั้น เขายังเอาท่อนแขนใหญ่อีกข้างมาพาดคอของเธออีก นิภิศาถึงกับยืนอึ้ง แต่ก็พยายามประคองไม่ให้กายเธอกับกายหนักๆ ของเขาล้มกองลงพื้นทั้งคู่

“นี่คุณ ประคองดีๆ หน่อย จะถึงโรงพยาบาลมั้ยเนี่ย”

ชายหนุ่มตำหนิเสียงแผ่ว นิภิศาใจเต้นตึกตัก ตอนนี้ในใจไม่มีความโกรธหรืออะไรทั้งนั้นนอกจากพยายามต่อต้านกลิ่นหายหอมผสมเหงื่อนิดๆ ของชายหนุ่มที่ชวนให้สัมผัสเธอปั่นป่วน

“คุณ ผมเรียกคุณไม่ได้ยินเหรอครับ คุณศา” กันต์กรเรียกเสียงดัง

นิภิศาตื่นจากภวังค์ ก่อนจะตั้งหน้าตั้งตากอดเอวกันต์กรแล้วพยุงเขาไปที่โรงพยาบาล โดยไม่เห็นรอยยิ้มพอใจของชายหนุ่ม

 

@กันต์กรร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวดขณะที่พยาบาลคนสวยกำลังทำแผลให้เขาในห้องทำแผลของโรงพยาบาล ป้าเมี้ยนที่ยืนดูอยู่ข้างๆ ถามขึ้น สีหน้านางทั้งเป็นห่วงและวิตกอย่างเห็นได้ชัด

“ใครกันที่มาทำกับคุณกรแบบนี้”

“คงจะเป็นพวกที่มีเรื่องกันครั้งนั้นน่ะป้า” กันต์กรตอบก่อนจะหันมาทางนิภิศา “โอ๊ย เพราะไปช่วยใครบางคนนั่นแหละ ถึงต้องเจอแบบนี้”

หญิงสาวทำหน้าสงสัย เหมือนกันต์กรอยากจะบอกว่าเธอเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้อย่างนั้นหรือ

“ป้าจะไปแจ้งตำรวจ”

“ไม่ต้องหรอก ผมไม่อยากมีเรื่องแล้ว มันเอาโทรศัพท์ผมไปได้ คงไม่ตามมาราวีแล้วละ” กันต์กรรีบห้าม

คราวนี้นิภิศารู้แล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับกันต์กรมีชายหนุ่มคนที่เคยลวนลามเธอที่ผับอยู่เบื้องหลัง ต้นเหตุทั้งหมดเป็นเพราะตัวเธอเองที่เผลอทำร้ายชายหนุ่มคนนั้นจนเป็นเรื่อง และกันต์กรก็ใช้ของวิเศษที่เธอเพิ่งมารู้ภายหลังว่ามันเป็นโทรศัพท์มือถือที่มนุษย์ใช้ติดต่อสื่อสารกันเก็บภาพเหตุการณ์นั้นไว้เป็นหลักฐาน ผู้ชายนิสัยไม่ดีคนนั้นคงส่งสมุนมาแก้แค้นกันต์กร

“ดิฉันว่าคุณน่าจะแจ้งตำรวจนะคะ ข้อหาทำร้ายร่างกายเลยนะคะเนี่ย” พยาบาลเสนอความเห็น

“ไม่ละครับ ผมไม่ได้เป็นอะไรมาก” กันต์กรพูดเสียงเข้มพร้อมกับมองหน้าพยาบาลสาวจนเธอยิ้มน้อยๆ ด้วยความเขิน

นิภิศาขมวดคิ้วสงสัย เมื่อกี้เขาบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ตอนที่ขอให้เธอช่วยประคองกลับมีทีท่าว่าจะล้มแหล่มิล้มแหล่อยู่เลย ชายคนนี้ประหลาดนัก หรือไม่ก็ยาที่พยาบาลสาวทาให้คงจะมีสรรพคุณดีเยี่ยม จนทำให้เขาหายดีได้ไวขนาดนี้

หลังจากทำแผลเสร็จกันต์กรก็เดินมากุมมือป้าเมี้ยนก่อนเอ่ยขอร้อง

“อย่าบอกเรื่องนี้ให้ยายยารู้นะครับ”

หญิงชราทำหน้านิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะรับปาก

“จ้ะ คุณกรคงไม่อยากให้คุณยาไม่สบายใจ แต่คุณกรจะทำยังไง ถ้าไปเยี่ยมคุณยา ป้าว่าคุณยาก็ต้องเห็นสภาพคุณกรตอนนี้อยู่ดี”

“ผมคงไม่ไปเยี่ยมยายยาสักพัก” กันต์กรก้มหน้างุด นิภิศารู้สึกเหมือนชายคนนี้กำลังเศร้า

“ป้าว่าหมออโรอะไรนั่นเขาก็ดีนะ น่าจะดูแลคุณยาแทนคุณกรได้อยู่”

กันต์กรสงบปากกับคำพูดของป้าเมี้ยน ส่วนนิภิศานั้นตื่นตัวเมื่อได้ยินชื่อของอโรคา เพราะมันช่วยเตือนสติว่าเธอมาที่นี่เพื่อทำอะไร

คิดได้นิภิศาก็รีบเดินออกจากห้องทำแผล แต่กันต์กรก็เข้ามาคว้าแขนเธอไว้ก่อน หญิงสาวรีบสะบัดแขนออกจนหลุดจากมือเขา ชายหนุ่มมองเธอด้วยสายตาจับผิดพร้อมกระซิบเตือน

“ถ้าคุณมาตามหาหมออโร อย่าไปก่อเรื่องในห้องน้องสาวผมล่ะ”

นิภิศาพ่นลมหายใจหนักๆ ใส่กันต์กรแล้วรีบไปทำหน้าที่ของเธอ หญิงสาวเข้าไปในกล่องเหล็กที่พวกมนุษย์เรียกว่าลิฟต์ซึ่งเธอเคยขึ้นแล้วเมื่อครั้งก่อน จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่ห้องพักผู้ป่วยของกันติยา แต่พอเข้าไปแล้วก็ไม่พบอโรคาเลย

“อ้าว พี่ศา” กันติยาร้องทัก

นิภิศาหันซ้ายขวาเพื่อหาตัวหงส์หนุ่ม

“หาอะไรอยู่คะพี่”

นิภิศายิ้มให้กันติยาน้อยๆ แล้วออกมาจากห้องพักผู้ป่วยอย่างไม่สบอารมณ์ อโรคาคงรู้ว่าเธอมาที่นี่ถึงได้หนีไปก่อน ครั้งที่แล้วหงส์สาวใจอ่อนเพราะไม่คิดว่าเขาจะยอมตายด้วยคาถาของเธอ ตอนนี้นิภิศาเริ่มมีโมโหจนอยากจะจัดการอโรคาอย่างเด็ดขาด สงสัยแผนการเข้าใกล้กันติยาคงจะไม่ค่อยเข้าท่าเสียเท่าไรละมัง เจ้านกกระจิบน้อย

หงส์สาวเดินครุ่นคิดมาตลอดทาง จนกระทั่งกลับมาหาป้าเมี้ยนที่ด้านนอกห้องทำแผล ซึ่งอีกฝ่ายก็รีบถาม

“ไปไหนมาจ๊ะ”

“กลับนะคะป้า”

นิภิศาตัดบทเสียดื้อๆ

“ป้ายังทำธุระไม่เสร็จเลย คุณยาอยากให้ป้าอยู่เป็นเพื่อนน่ะ งั้นเอางี้”ป้าเมี้ยนเสนอ “พอดีคุณกรแกโดนขโมยกุญแจรถ หนูนั่งแท็กซี่ไปกับคุณกรเลยละกัน ทางเดียวกัน เดี๋ยวรบกวนคุณกรไปส่งหนูที่บ้านเลยด้วย”

นิภิศาทำตาโตอย่างตกใจ แล้วรีบปฏิเสธ

“ไม่ค่ะ หนูจะอยู่กับป้า”

“คือ พอดีป้าเมี้ยนกับน้องยาเขาจะพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวน่ะ” กันต์กรรีบแทรกขึ้นมา “ตอนนี้ผมอยากพักผ่อนแล้ว กลับบ้านกันเถอะ”

นิภิศาเม้มปากแน่น เธอไม่ใช่คนเรื่องมาก แต่กับผู้ชายคนนี้เธอทำไมถึงคิดเล็กคิดน้อยไปได้

“ฝากคุณกรด้วยนะหนูศา เดี๋ยวป้าจะตามไปทีหลังนะ”

นิภิศาอ้าปากค้าง

“เชิญครับ คุณศา”

ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ หญิงสาวจึงได้แต่ทำหน้านิ่งแล้วเดินนำชายหนุ่มไปด้านหน้าตึกโดยไม่หันไปมองเขา พอแท็กซี่แล่นเข้ามาชายหนุ่มก็รีบวิ่งไปกวักเรียก ทั้งคู่เปิดประตูแล้วสอดตัวลงนั่งเบาะท้าย ต่างคนต่างนั่งชิดไปคนละฟากประตู เว้นระยะห่างกันเกือบครึ่งเมตร

“ไปไหนดีครับ” คนขับแท็กซี่หันหลังมาถาม

กันต์กรบอกที่อยู่หมู่บ้าน ขณะที่แท็กซี่แล่นไปตามถนนใหญ่ซึ่งมีรถพลุกพล่าน ทั้งสองไม่คุยกันเลยจนกระทั่งกันต์กรเป็นฝ่ายเอ่ยปากถาม หรืออาจจะเรียกว่าหาเรื่องก็ได้

“รู้ใช่มั้ยว่าที่ฉันเจ็บแบบนี้เพราะใคร”

นิภิศาไม่ตอบ ...บาดเจ็บเพราะเจ้าทำตัวเจ้าเองต่างหากกันต์กร วันนั้นหากเจ้าไม่มายุ่ง ข้าก็จัดการคนเดียวได้อยู่แล้ว

“ฉันไม่รู้ว่าคุณหมายถึงอะไร” หงส์สาวจึงตอบปัดไปแบบไม่รู้เรื่องราว

“แหม ลืมง่ายดีเนอะ คงเจอเหตุการณ์ลวนลามบ่อยสิท่า”  

นิภิศาไม่สนใจคำพูดยียวนของเขา เธอกอดอกแล้วมองออกไปนอกหน้าต่างพร้อมกับภาวนาให้เจ้าเต่ายักษ์รีบพาเธอให้พ้นจากมนุษย์ปากเสียผู้นี้เร็วๆ ด้วยเถอะ

“ผมนี่ไม่เข้าใจคุณจริงๆ ตอนกลางวันใส่เสื้อมิดชิดกระโปรงยาว เรียบร้อยดี แต่ทำไมตอนกลางคืนถึงแต่งตัวอย่างกับจะไปเป็นโคโยตี้” กันต์กรเปรยขึ้นแล้วส่ายหน้า “ไหนจะเรื่องเป็นแฟนหมออโรแล้วไม่ยอมรับอีก”

นิภิศาถอนหายใจเบาๆ  ...ก็ตอนนั้นเธอไม่รู้นี่นาว่าแต่งตัวแบบนั้นเป็นพวกผู้หญิงกลางคืน  

“นี่คุณจะไม่โต้แย้งหน่อยเหรอ”

...หากเธอโต้แย้งไป อย่างกับชายคนนี้จะฟังเธอพูดงั้นแหละ ไม่เสียเวลาพาทีเสียหรอก

“โอเค ไม่พูดก็ไม่พูด งั้นไปส่งที่บ้านคุณก่อนนะ”

นิภิศาหันหน้ามามองกันต์กรแล้วรีบเอ่ย

“ไปส่งที่บ้านคุณนั่นแหละ เดี๋ยวฉันจะกลับเอง”

“อ้าว คุณนี่” กันต์กรย้อน “จากที่ป้าเมี้ยนบอก เหมือนบ้านคุณจะใกล้กว่านะ เอ๊ะ หรือว่าคุณอยากไปอยู่เป็นเพื่อนผมที่บ้านก่อน”

นิภิศาเม้มปากแน่น รอดูอีกฝ่ายว่ามาไม้ไหนอีก

“ผมก็ไม่ได้อะไรกับคุณหรอก ไม่ต้องทำเป็นหวงเนื้อหวงตัวให้มากหรอกน่า ผมไม่สนใจคุณอยู่แล้ว”

...จะพูดอะไรก็ช่าง ใช่เรื่องที่เธอต้องสนใจเสียหน่อย

“ถึงตอนนี้แล้ว ผมยังไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร มารู้จักกับป้าเมี้ยนเพราะอะไรกันแน่ แต่เตือนไว้ก่อนนะ ผมไม่ยอมคุณมาหลอกครอบครัวผมได้หรอก”

“ถึงหมู่บ้านแล้วครับ บ้านหลังไหนครับ” คนขับแท็กซี่เอ่ยถาม นิภิศาขอบคุณสวรรค์ที่ทำให้การเดินทางอันแสนยาวกับผู้ชายคนนี้ใกล้จะจบลง

กันต์กรหันมาถามผู้ร่วมทาง

“บ้านคุณหลังไหนล่ะ คุณศา”

“ไปบ้านคุณกันต์กรค่ะ”

“ยังไม่ต้องครับลุง ไปบ้านเธอก่อน เลี้ยวซ้ายครับ”

“ครับ” คนขับขับรถผ่านป้อมยามเข้าไป ทำท่าจะเลี้ยวซ้าย

“ไปบ้านคุณกันต์กรค่ะ ทางขวา”

“ครับ” คนขับเลี้ยวพวงมาลัยไปอีกทาง

“ไม่ครับ ไปบ้านเธอก่อน”

คนขับเบรกรถกะทันหันจนทั้งคู่หน้าคว่ำ ก่อนจะหันขวับมาว่าอย่างเคืองๆ

“ผมว่า พวกคุณคุยกันก่อนดีมั้ยว่าจะให้ไปส่งที่ไหน”

กันต์กรผงกหัวขอโทษขอโพย ก่อนจะหันมาทำเสียงเข้มใส่หญิงสาว

“ผมสั่งให้ไปบ้านคุณศา ผมเป็นคนจ่ายเงินนะ”

นิภิศาร่ายมนตร์ในใจครู่หนึ่ง ก่อนรถจะเร่งเครื่องไปเองท่ามกลางความตกใจของคนขับแท็กซี่

“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย!!”

รถเลี้ยวขวาเข้าซอยอย่างรวดเร็ว นิภิศารู้ว่าตัวเองพลาดอย่างหนัก ขณะที่รถเลี้ยวหักศอกนั้น ตัวของกันต์กรก็เลื่อนมาทับตัวเธอเต็มๆ นิภิศาถึงกับสะดุ้งสุดตัว เธอมองใบหน้าที่ประชิดเข้ามาจนปลายจมูกเกือบแตะกันอย่างตกใจ แค่ประคองเข้าโรงพยาบาลก็มากพอแล้ว นี่เลื่อนมาทับแทบทั้งตัว แถมเจ้าหนุ่มนั่นยังทิ้งแรงมาสุดๆ อย่างไม่นึกว่าเธอจะเจ็บและอึดอัด

พอรถหยุดลงนิภิศาก็ผลักกันต์กรออกแล้วดึงตัวเปิดประตูรถด้านใน แต่ประตูกลับไม่เปิด

“ลุงยังไม่ได้ปลดล็อก” ลุงคนขับแท็กซี่ถอนหายใจหน่ายๆ ก่อนจะกดปุ่มปดล็อกประตู ขณะที่กันต์กรหัวเราะขบขันกับความโก๊ะของนิภิศา

พอลงจากรถได้นิภิศาก็รีบก้าวยาวๆ ไปจากตรงนั้น กันต์กรที่จ่ายค่าแท็กซี่เสร็จก็วิ่งตามมา

“นี่คุณ”

นิภิศารีบเร่งฝีเท้าไปตามบาทวิถีให้เร็วขึ้น ขณะที่ฝีเท้าหนักวิ่งตามมาทางด้านหลัง

...เจ้ามนุษย์ร่างใหญ่ผู้นี้ทำไมถึงต้องตอแยเธอมากขนาดนี้ แล้วนี่เธอจะใช้มนตร์บทไหนหนีจากเขาพ้นล่ะ ตอนนี้เธอคิดอะไรไม่ออกสักอย่าง

“ผมบอกให้หยุดก่อน”

ปล่อยไว้ก็คงไม่เลิกตาม นิภิศาจึงหันไปประจันกับชายหนุ่มซึ่งๆ หน้า  

“มีอะไรคะ ฉันจะฟังคุณเพียงชั่วอึดใจเท่านั้น”

“ดูคุณพูดสิ ตลกจัง”

เธอส่งสายตาจริงจังเพื่อรอคำพูดจากกันต์กร ชายหนุ่มเอามือถูท้ายทอยแล้วก้มมองพื้นเหมือนชั่งใจอะไรบางอย่าง แต่หญิงสาวก็ไม่ได้สนใจว่าเขาต้องการอะไร ถ้าเขาไม่ยอมพูดภายในสามลมหายใจ เธอก็จะไป

หมดเวลา! หญิงสาวหมุนตัวแล้วเดินต่อ

“ขอบคุณนะ”

เสียงนุ่มๆ ของกันต์กรส่งผลให้หญิงสาวก้าวขาไม่ออก เธอไม่ค่อยมั่นใจว่าเมื่อกี้ได้ยินว่า ‘ขอบคุณ’ หรือเปล่า แต่เธอคงไม่ได้หูฝาดไปแน่

ชายหนุ่มที่ไม่ค่อยชอบเธอบอกว่าขอบคุณ หากจะหันหน้าไปตอนนี้นิภิศาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะปั้นหน้าเช่นไร ที่สำคัญตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีใครพูดคำนี้กับเธอเลย อาจเป็นเพราะตอนอยู่จิตตกูฏเธอไม่ค่อยได้ช่วยเหลือใคร นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่มนุษย์เอ่ยคำนี้กับเธอ คนแรกก็ป้าเมี้ยน และคนที่สองก็คือเขา

คำพูดของมนุษย์ช่างเป็นสิ่งลึกล้ำ ท่านยายสุเรนนาเคยบอก บางทีก็ดี บางทีก็ร้าย เดาใจยาก นิภิศาพยายามไม่คิดว่าคำคำนี้จะกระทบอะไรกับจิตใจเธอนัก มันก็แค่สะกิดเพียงหน่อยเดียว อาจเป็นเพราะความแปลกใจที่จู่ๆ ก็ได้รับคำขอบคุณ ทั้งที่ต้นเหตุของเรื่องราวนั้นเป็นเพราะเธอ

“ผมไปนะ” พูดจบกันต์กรก็เดินจากไป

นิภิศาไม่ได้หันกลับไปมองเขา เธอหยุดที่มุมซอยแล้วถอนหายใจ

...ก็แค่คำขอบคุณ หากทำไมเธอถึงรู้สึกเหมือนได้สมบัติล้ำค่าในชีวิต ไม่มีทางหรอก สมบัติล้ำค่าของเธอคือทำหน้าที่ให้สำเร็จเท่านั้น

 

@“ป้าปล่อยให้สองคนนั้นไปด้วยกันเหรอ” กันติยาถามขึ้นอย่างตื่นเต้น ขณะที่แม้บ้านสูงวัยนั่งจัดลูกชุบใส่จาน

“โธ่ คุณยาละก็” ป้าเมี้ยนยิ้มพราย

“แต่หนูว่าพี่กรกับพี่ศาเหมาะกันดีออกนะ ดีกว่ายายซูซี่ตั้งเยอะ” เด็กสาวกอดอกยิ้มกว้างอย่างพอใจ

“จุ๊ๆ” ป้าเมี้ยนจุปาก “คุณยาอย่าเอะไป เดี๋ยวใครมาได้ยินเข้าจะหาว่าป้าเป็นคนไม่ดี ที่ป้าให้พวกเขากลับบ้านด้วยกัน เป็นการสร้างความสัมพันธ์ หนูศาป้าดูปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นเด็กกริยางาม แววตาสดใสเป็นคนดี อีกอย่างเวลาคุณกรมองหนูศาน่ะ ตาเป็นประกายเชียวนะ นึกถึงสมัยลุงแกมองป้าตอนสาวๆ”

กันติยาหัวเราะเบาๆ

“จริงเหรอป้า ตอนแรกก็นึกว่าเป็นกิ๊กพี่กรนะเนี่ย แต่ถ้าพี่กรมองพี่ศาตาเป็นมันจริงๆ ก็คงสิ้นลายเสือกลายเป็นแมวน้อยก็คราวนี้แหละ” พูดเสร็จเด็กสาวก็ชักประหลาดใจ “ป้าเมี้ยนคะ  ป้ารู้ได้ยังไงว่าพี่ศาแกเป็นคนดี ป้ารู้จักเขามากแค่ไหน”

หญิงสูงวัยไม่ตอบ เธอวางจานไว้บนโต๊ะเมโยข้างเตียงกันติยา เด็กสาวรีบลุกขึ้นมามองลูกชุบอย่างสนใจ

“มันเป็นรูปนกอะไรเหรอป้า”  

“หงส์จ้ะ” ป้าเมี้ยนตอบเสียงอ่อนโยน

“หงส์เหรอ” กันติยารีบหยิบขึ้นมาพิจารณาด้วยความพอใจ “ป้าทำสวยจัง”

“หนูศาแกเป็นคนคิดน่ะ”

“จริงเหรอ” กันติยาทำตาโต ป้าเมี้ยนพยักหน้า “อ้อ แบบนี้นี่เอง ป้าเมี้ยนถึงชอบพี่ศานัก”

“เมื่อกี้ที่คุณยาถามว่ารู้จักหนูศาดีแค่ไหน ป้ายังไม่เคยเห็นบ้านหนูศาหรอกนะ” ป้าเมี้ยนกลับเข้าประเด็นที่ค้างอยู่

“ไม่มีหัวนอนปลายเท้า” กันติยาวางส้อมลงก่อนจะจ้องหน้าป้า “ป้าอยากให้พี่กรคบกับผู้หญิงที่ป้ายังไม่รู้จักงั้นเหรอ”

ป้าเมี้ยนถอนหายใจ

“คุณยาจะว่าอะไรป้าก็ได้นะ ป้าไม่ว่า แต่เห็นแล้วหนูศาแกก็เป็นคนดีจริงๆ ถึงแม้จะเป็นคนเงียบๆ ก็ตาม ป้ารักคุณกรกับคุณยาเหมือนลูกหลานป้า ตั้งแต่เกิดมาคุณกรแกยังไม่เคยได้เจอผู้หญิงที่ดีสักครั้ง คนนี้แหละป้ามองไม่พลาดหรอก ป้าอยากให้คุณกรมีความสุขบ้าง”

“หนูจะว่าอะไรป้าได้ล่ะ” กันติยาพูดพลางขำ “ป้าเมี้ยนอุตส่าห์เป็นแม่สื่อให้พี่ศาทั้งที”

“แหม คุณยา ป้าไม่ใช่แบบนั้นสักหน่อย” ป้าเมี้ยนปฏิเสธพลางตีเบาๆ ที่แขนเด็กสาวอย่างอายๆ ส่วนกันติยาจิ้มลูกชุบเข้าปากแล้วเคี้ยวตุ้ยๆ

“แต่อย่าลืมว่ายายเปรตวัดสุทัศน์ไม่ยอมรามือแน่”

“คุณยา ดูพูดเข้า” หญิงสูงสัยดุก่อนจะถอนหายใจปลงๆ “แต่นั่นสินะ ป้าจะโดนถอนหงอกหรือเปล่าเนี่ย”

“ไม่หรอกค่ะป้า” กันติยาหัวเราะขำ ขณะที่จับมือป้าเมี้ยนแน่น “หนูไม่มีทางให้ยายนั่นมาถอนหงอกป้า

หรอก”

 ป้าเมี้ยนคลี่ยิ้มมองกันติยาอย่างเอ็นดู

“ขอบคุณค่ะ เห็นคุณยาดูแข็งแรงขึ้นแบบนี้ป้าก็ดีใจมากแล้ว เรื่องอื่นปล่อยให้เป็นไปตามกรรม

ดีกว่านะ”

“ป้าเมี้ยนไม่ลืมนะคะ ยังไงพี่กรก็ต้องแต่งงานกับซูซี่” กันติยาย้ำ “หนูไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเลย”

“ป้ารู้ คุณกรแต่งงานไปกับคุณซูซี่สบายทั้งชาติก็จริง แต่ป้าก็ดูออกว่าคุณกรไม่ได้ชอบคุณซูซี่หรอก ไม่งั้นคงแต่งไปนานแล้ว นี่ผลัดไปเรื่อยๆ ทั้งที่อายุหน้าที่การงานของตัวเองก็พร้อมทุกอย่าง”

“ลำพังแค่ซูซี่ไม่เท่าไหร่หรอก คุณนายทรงศรี คุณไรอัลก็ไม่เท่าไหร่” กันติยาเงียบไป

ป้าเมี้ยนทำหน้าครุ่นคิด ก่อนจะเอ่ยเบาๆ อย่างไม่แน่ใจ “คุณยาหมายถึง คุณโรเบิร์ตเหรอคะ”

กันติยาพยักหน้าเรียบๆ ขณะเอาลูกชุบเข้าปาก

“รายนั้นน่ะ คงไม่ยอมให้กันต์กรไปแต่งงานกับหญิงอื่นแน่”

ป้าเมี้ยนมองไปที่หน้าต่างอย่างว้าวุ่น

“ป้าว่า คุณกรแกเกรงใจคุณโรเบิร์ตมากกว่า หากเลือกได้คุณกรไม่มีทางจะแต่งงานกับคุณซูซี่หรอก”

“ร็อบ...โรเบิร์ต คอลลี” กันติยาทวนคำเบาๆ “เจ้าชายผู้ลึกลับ”

“ทำไมไปเรียกเขาแบบนั้นล่ะคุณยา” ป้าเมี้ยนหัวเราะกับฉายาที่เด็กสาวตั้งให้

“จริงๆ นี่” กันติยาว่า “บางครั้งหนูก็กลัวเขานะ”

ป้าเมี้ยนรีบแย้งคนที่กินลูกชุบเบาๆ

“คุณยาก็ว่าไป คุณโรเบิร์ตเขาออกจะน่ารัก ไม่ได้เจอตั้งสองปี กลับมาคราวนี้คงเป็นที่ครึกโครมของสาวๆ ในบริษัทแน่เลยค่ะ”

 

 

ตอนนี้ลงให้เป็นตอนสุดท้ายในเว็บแล้ว ใครสนใจสามารถอ่านต่อได้ในเล่มนะจ๊ะ^_^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา