มนตร์หงส์ NC 18+

10.0

เขียนโดย WiwaWriter

วันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 20.02 น.

  13 บท
  0 วิจารณ์
  24.35K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 21.06 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ความจริงบางอย่างต้องยอมรับว่าเป็นเพราะพรหมลิขิต

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

เว็บขีดเขียนหน้าห้องผ่าตัดของโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เดินวนกลับไปกลับมาด้วยความร้อนใจ เวลาล่วงเลยมาหลายชั่วโมงแล้ว แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าประตูบานคู่ตรงหน้านั้นจะถูกเปิดออก เขาชะโงกมองผ่านกระจกใสหน้าประตูหลายครั้ง แต่ก็เห็นเพียงชุดสีเขียวของแพทย์และผู้ช่วยขยับอย่างวุ่นวาย

 ในที่สุดคนที่รอคอยก็ต้องยอมแพ้กับความเมื่อยล้า แต่ทันทีที่เขากำลังจะหย่อนก้นลงบนม้านั่งพลาสติก ประตูสวรรค์หรือนรกไม่รู้ก็ถูกผลักออก คนในชุดเขียวสวมหมวกคลุมหัวและคาดหน้ากากอนามัยก้าวออกมาอย่างรีบร้อน ชายหนุ่มลุกพรวดแล้วมุ่งไปหาแพทย์ผู้นั้นอย่างร้อนรน

“ยายยาเป็นไงบ้างไอ้ชัย” ชายหนุ่มยิงคำถามใส่คนตรงหน้าทันที

“ปลอดภัยแล้ว ไอ้กร” หมอหนุ่มที่ถูกเรียกว่า ‘ไอ้ชัย’ ดึงหน้ากากลงแล้วตอบเสียงเอื่อยๆ

กันต์กรถอนหายใจแล้วยิ้มอย่างโล่งอก แทบจะกระโดดกอดเพื่อนหมอตรงหน้า แต่ดูจากเสื้อกาวน์ที่เปื้อนเลือดแล้วคงกอดไม่ลง สมชัยคงกลัวเขาจะวิตกกังวลจึงรีบออกมาแจ้งให้ทราบด้วยตัวเอง ทั้งที่ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลย

“แต่ก็ต้องรอดูอาการไปก่อน” หมอหนุ่มบอกพร้อมกับทำสีหน้าแปลกใจ “ไม่น่าเชื่อว่ะ”

กันต์กรทำหน้าสงสัยแล้วรีบถามกลับเพราะเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของน้องสาว

“ไม่น่าเชื่ออะไรวะ”

“ตอนแรกน้องเอ็งหยุดหายใจไปแล้วนะ” สมชัยพูดตรงๆ ไม่อ้อมค้อม กันต์กรใจหายวาบในครั้งแรก และอดด่าคนตรงหน้าไม่ได้

“ไอ้เลว เอ็งแช่งน้องข้าเหรอ”

“ไม่ใช่อย่างนั้น” หมอหนุ่มรีบโบกไม้โบกมือปฏิเสธพัลวัน “คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ ตอนแรกหัวใจน้องเอ็งหยุดเต้นไปแล้ว แต่จู่ๆ ก็กลับมาเต้นเหมือนเดิม ทีมผ่าตัดก็แปลกใจไม่น้อยเลย”

คำพูดของสมชัยทำให้กันต์กรยิ่งกลัวเข้าไปใหญ่ แต่ถึงอย่างไร กันติยา น้องสาวของเขาก็รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ ชายหนุ่มจึงรีบยกมือขึ้นไหว้เหนือหัวแล้วพึมพำ

“ขอบคุณคุณพระคุณเจ้า”

หมอสมชัยตบไหล่เพื่อนเบาๆ “เออ ข้าก็โล่งใจเหมือนกัน ไม่ต้องห่วงหรอก การผ่าตัดเรียบร้อยดี ตอนนี้ย้ายไปเฝ้าระวังอาการแทรกซ้อนที่ห้องไอซียูก่อนสักสองสามชั่วโมง ถ้าไม่มีอะไรผิดปกติก็ย้ายไปห้องพักผู้ป่วยธรรมดาได้ เดี๋ยวขอไปเปลี่ยนชุดแป๊บหนึ่ง เรามีเรื่องต้องคุยกันต่อ”

กันต์กรพยักหน้าให้เพื่อนพร้อมรอยยิ้มดีใจ แต่คำว่ามีเรื่องต้องคุยต่อของหมอสมชัยทำให้ชายหนุ่มยังวิตกกังวล คงมีอะไรเกี่ยวกับกันติยาที่ต้องนั่งคุยกันเป็นเรื่องเป็นราว กันต์กรยืนรออยู่หน้าห้อง รอเพื่อนหมอกลับเข้าห้องผ่าตัด ก่อนชายหนุ่มสวมแว่นร่างผอมสูงจะเดินออกมาในชุดเสื้อเชิ้ตขาวทับด้วยชุดกาวน์ เมื่อไม่มีหน้ากากกับหมวกก็เผยให้เห็นใบหน้าแดงเรื่อเหมือนหมดเรี่ยวแรงจากการผ่าตัดใหญ่

หมอสมชัยพากันต์กรมานั่งที่ห้องพักแพทย์ ก่อนจะเริ่มต้นคุยด้วยสีหน้าจริงจัง

“กร เอ็งต้องทำใจนะ น้องเอ็งอาจจะ…” สมชัยนิ่งไปหลายนาทีกว่าจะเอ่ยขึ้น

ได้ยินแบบนี้คนเป็นพี่ก็ใจคอไม่ดี แต่ก็ยังกลั้นใจถามอีกฝ่ายด้วยความกังวล

“พูดมาเถอะ ไอ้หมอ ข้ารับได้หมดแหละ”

หมอสมชัยถอนหายใจยาวๆ แล้วตอบเสียงอ่อน

“พูดตามตรงนะ ยายยาผ่าตัดมาหลายครั้ง หัวใจก็อ่อนแรงมากด้วย ไม่แน่ผ่าตัดครั้งต่อไปอาจจะ…”

เพื่อนหมอหยุดพูดไปเสียดื้อๆ แต่กันต์กรก็พอจะเดาประโยคต่อไปต่อได้

“คิดใหม่ได้นะไอ้กร” สมชัยเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ส่งยายยาไปเมืองนอกเถอะ ที่นั่นการแพทย์เขาดีกว่าเรานะ”

“ยายยายอมไปที่ไหน อีกอย่าง ถึงไปเมืองนอกแต่ยังไงการใส่หัวใจเทียมมันก็เสี่ยงเป็นตายเท่ากันแหละว้า”

กันต์กรตอบไปตามความประสงค์ของน้องสาวและความเป็นจริง ณ ตอนนี้เขาคงเจ็บปวดน้อยลงเพราะทำใจเรื่องกันติยามาหลายปีแล้ว ที่น้องสาวเขาอยู่ได้ขนาดนี้ก็เพราะฝีมือการยื้อชีวิตของหมอสมชัยบวกกับบุญเก่าของเธอที่ยังเหลืออยู่ กันต์กรยอมรับความจริงว่าสักวันหนึ่งกันติยาต้องจากเขาไป โรคหัวใจไม่แข็งแรงนั้นเรื้อรังมาตั้งแต่เธอยังเด็ก และการผ่าตัดแต่ละครั้งเปอร์เซ็นต์การรอดชีวิตก็ลดลงเรื่อยๆ  ชายหนุ่มก็ได้แต่ภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หากเป็นไปได้เขาไม่อยากสูญเสียใครไปอีก เพราะในชีวิตนี้สายเลือดเดียวกับเขาก็เหลือเพียงกันติยา ตอนนี้คนเป็นพี่ชายอย่างเขาคงทำได้แค่ดูแลเธอให้มีความสุขไปวันๆ เท่านั้น 

เมื่อเห็นสีหน้าเพื่อนไม่สู้ดีนักหมอสมชัยจึงรีบปลอบ

“เอาเถอะ อย่าคิดมาก ข้าเป็นหมอโรคหัวใจมือฉมังเชียวนะเว้ย ไม่ยอมให้ยายหัวทโมนนั่นเป็นอะไรหรอก”

กันต์กรเลื่อนมือมาจับมือเพื่อนเบาๆ

“ขอบใจมากว่ะเพื่อน”

กันต์กรรู้ดีว่าแม้จะเป็นแค่คำปลอบใจแบบลมๆ แล้งๆ แต่คนกำลังเหนื่อยใจอย่างเขาก็เหมือนมีพลังให้ฮึดสู้ขึ้นมาอีก และที่สำคัญเขาไว้ใจหมอสมชัยหรือไอ้ชัยซึ่งเป็นเพื่อนซี้ตั้งแต่เรียนมัธยม ดีกรีแพทย์มือหนึ่งด้านโรคหัวใจชื่อดังของประเทศคงจะช่วยยื้อชีวิตน้องสาวเขาให้นานที่สุด ถึงแม้สีหน้าของเพื่อนจะดูอิดโรยกับผู้ป่วยเคสนี้เต็มที แต่มันก็ไม่เคยบ่นสักครั้ง แถมยังปั้นหน้ายิ้มให้กำลังใจเขาอยู่ตลอด

ท่ามกลางบรรยากาศซาบซึ้ง เสียงเพลงจังหวะสนุกก็ดังขึ้น กันต์กรหลุดจากภวังค์แล้วรีบล้วงหยิบโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเสื้อขึ้นมากดรับสาย

“กร…ขา” เสียงแหลมสำเนียงแบบคนพูดไทยไม่ชัดดังลอดโทรศัพท์ออกมาจนชายหนุ่มรีบชักโทรศัพท์ออกห่างก่อนแก้วหูจะแตก

“ว่าไงครับ ซูซี่” กันต์กรตอบเสียงหวาน เพราะปลายสายคือซูซี่หรือสุทัตตา ลูกสาวเจ้านายที่เขาต้องเทกแคร์แบบสุดๆ

“เราจะได้เจอกันแล้วนะคะกันต์ ซูซี่จะคัมแบ็กไทยแลนด์แล้ว”

กันต์กรตาลุกพราว

“มาเมื่อไหร่ครับ”

“อีกสองวันค่ะ กรเตรียมรับซูซี่ที่แอร์พอร์ตเลยนะคะ ซูซี่จะกลับไปพร้อมกับร็อบค่ะ”

“ตายห่าละ”

“อะไรตายคะ”

คนปลายสายถามกลับ กันต์กรสะดุ้งหลังจากลืมตัวเผลออุทานออกไป

“ผมต้องตายแน่ๆ ถ้าไม่ได้เจอคุณ”

“ปากหวานจริงนะคะ ซูซี่คิดถึงกรจังเลย”

“ผมก็คิดถึงคุณครับซูซี่” กันต์กรตอบกลับด้วยเสียงเข้มๆ อีกฝ่ายทำเสียงกรี๊ดกร๊าด แต่ตอนนี้เขายังไม่มีอารมณ์คุยเรื่องไร้สาระกับซูซี่ ชายหนุ่มจึงหาเรื่องวางสายด้วยการอ้อนเสียงหวานๆ ตามแบบฉบับที่เขาเคยใช้กับบรรดาสาวเล็กสาวใหญ่

“แค่นี้ก่อนนะครับ ผมก็อยากเจอคุณมากๆ แต่ตอนนี้ผมต้องไปพบลูกค้าแล้ว”

“โอเคค่ะกร ไว้เจอกันนะคะ มิสยูค่ะ” ว่าแล้วซูซี่ก็วางสายไปอย่างรู้งาน กันต์กรส่ายหน้าก่อนจะเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า

“เมียหลวงจะมาเหรอวะ”

โทรศัพท์มือถือไม่ทันลงถึงก้นกระเป๋าเสื้อ เพื่อนหมอปากหมาก็แซวทันที แต่คนโดนเล่นก็รีบแก้ต่างให้ตัวเองอย่างเร็วไม่แพ้กัน

“เมียหลวงบ้านเอ็งสิ ข้ากับซูซี่ยังไม่หมั้นกันสักหน่อย”

หมอสมชัยหัวเราะทำให้บรรยากาศตึงเครียดค่อยๆ คลายลง

“งั้นเหรอ พอถึงตอนหมั้นเอ็งจะเคลียร์พวกน้องหนูออกจากสต๊อกหมดทันมั้ยนะ”

“หุบปากไปเลยไอ้เพื่อนหมา เอ้ย หมอ” กันต์กรด่าทีเล่นทีจริง “ที่ข้ากังวลเป็นเรื่องของคุณร็อบเขาต่างหาก ประธานบริษัทเลยนะเว้ย นานๆ จะมาเยี่ยมครั้งหนึ่ง”

“เอ็งซีเรียสมากไปเปล่าวะ” หมอสมชัยว่า “เขาก็เหมือนพี่ชายเอ็ง”

ไม่ใช่หรอก กันต์กรเถียงในใจ เพราะร็อบคนที่พวกเขากำลังเอ่ยถึงคือ โรเบิร์ต คอลลี นักธุรกิจเจ้าของบริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่อย่าง คอลลี คอเปอเรชั่น  ที่กันต์กรเป็นถึงรองประธานบริษัทสาขาประเทศไทยได้ก็เพราะความเมตตาของมิสเตอร์ไรอันกับคุณหญิงทรงศรี พ่อแม่ของโรเบิร์ตและสุทัตตาที่ให้ความอนุเคราะห์กันต์กรกับน้องสาวราวกับลูกในไส้ตั้งแต่ทั้งคู่ยังเป็นเด็ก

ถึงแม้สถานะของโรเบิร์ตจะดูไม่ต่างจากพี่ชายกันต์กรมากนัก แต่เขากลับรู้สึกว่าไม่ควรจะตีตนเสมอชายหนุ่มผู้เพียบพร้อมอย่างโรเบิร์ต

“ข้าไม่กล้าเทียบเขาหรอก” กันต์กรพูดยิ้มๆ “ข้าเป็นลูกจ้างของเขาต่างหาก”

หมอชัยตบโต๊ะดังปังใหญ่ ก่อนจะตอกกลับ

“ป๊าด ไอ้นี่ เอ็งรู้มั้ยไอ้กร เอ็งเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกเลยนะเว้ย งานก็ดีเงินก็ดี แถมยังจะได้เป็นคู่หมั้นคู่หมายของลูกสาวเจ้าของคอลลี คอเปอเรชั่นอีก มีที่ไหนจะโชคดีหลายเด้งขนาดนี้”

กันต์กรกระตุกยิ้มกับคำพูดของเพื่อนอย่างหน่ายใจ เขาจึงได้แต่ยักไหล่กว้างแล้วเถียงเพื่อนอย่างเปิดอก

“เรื่องหน้าที่การงานน่ะโชคดีจริง แต่เรื่องที่ต้องหมั้นกับซูซี่นี่สิ ข้าไม่ได้รักเธอเลยว่ะ”

“เอ็งไม่เอาข้าเอานะ คุณซูซี่ออกจะอวบอึ๋ม” สมชัยแซวพร้อมทำหน้าได้เหมือนโรคจิตหื่นกามไม่มีผิด กันต์กรจึงโต้กลับบ้าง

“เอ็งไปเคลียร์กับเมียเอ็งก่อนเถอะ”

เพื่อนหมอทำหน้าซังกะตาย

“เออว่ะ พูดอย่างนี้ก็หมดอารมณ์เลยทีเดียว” ว่าแล้วหมอหนุ่มร่างผอมก็ลุกขึ้นก่อนจะเอ่ยปากชวน “ข้าว่าไปเยี่ยมน้องสาวเอ็งหน่อยมั้ย เดี๋ยวค่อยคุยกันต่อ”

กันต์กรลุกพรวดโดยไม่ต้องให้อีกฝ่ายชวนซ้ำ หลังจากนั้นหมอสมชัยก็พาเขาไปที่ห้องพักฟื้นผู้ป่วยของกันติยา ในห้องนั้นมีพยาบาลคนหนึ่งกับชายหนุ่มร่างสูงในชุดเสื้อกาวน์ยืนอยู่ข้างเตียง กันต์กรขมวดคิ้วอย่างสงสัย ขณะที่สมชัยรีบเดินเข้าไปแนะนำ

คนในชุดเสื้อกาวน์หันหน้ามา เขาเป็นชายหนุ่มผอมสูง ใบหน้าคมขาวสะอาดสะอ้านหมดจดจนดูเหมือนกับพวกเกย์ กันต์กรนึกขำอยู่ในใจ แต่ท่วงท่าการเดินนั้นองอาจราวกับนายแบบ

“อ้าวมาพอดี นี่หมอใหม่ที่จะมาดูแลยายยาแทนข้า ชื่อหมออโร” หมอสมชัยรีบแนะนำ

พอเห็นเพื่อนจะโยนเคสคนไข้ คนเป็นพี่ก็ถึงกับถามเสียงเขียว

“เอ็งหมายความว่าไงไอ้ชัย”

“ไม่มีอะไร หมอหนุ่มๆ คนนี้แหละ ข้าจะให้เขาดูแลน้องเอ็งแทนข้า เห็นหนุ่มๆ แบบนี้อิมพอร์ตจากนอกเลยนะเว้ย” หมอสมชัยตบไหล่กันต์กรพร้อมเอ่ยเบาๆ “ส่วนข้าถึงไม่ใช่หมอเจ้าของคนไข้แล้ว แต่ก็ยังช่วยดูยายยาด้วยอีกแรง ข้าคิดว่าความสามารถข้าตอนนี้คงช่วยอะไรยายยาไม่ได้มากกว่านี้ พอดีโรง’บาลเราจ้างหมอโรคหัวใจคนนี้มา หมออโรเขาก็สนใจเคสยายยามากเหมือนกัน”

กันต์กรหันมามองชายหนุ่มชื่อแปลกตรงหน้าอย่างประเมิน รูปร่างสูงพอๆ กับเขา ผิวขาวกว่าเหมือนจะเป็นพวกคนจีน ใบหน้าขาวผุดผ่องเหมือนกับใช้ครีมหน้าเด้งราคาแพง คิ้วเข้มยาว จมูกโด่ง และปากบางเล็กคล้ายผู้หญิง แต่ก็ดูจืดชืดต่างจากเขาที่ดูหล่อเข้มแบบธรรมชาติ ดูท่าทางแล้วอายุคงอ่อนกว่าเขาอยู่สามสี่ปี ส่วนเรื่องฝีมือเขาไม่แน่ใจว่าสามารถดูแลกันติยาได้ดีแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจขัดดุลยพินิจของเพื่อนหมอได้

“สวัสดีครับ คุณกันต์กร” หมออโรเดินเข้ามาทักทายพร้อมยกมือไหว้  กันต์กรคิดในใจว่า ไหว้สวยเสียด้วย หากหมอเป็นตุ๊ดก็คงไม่ต้องกังวลเรื่องหวงน้องสาวสักเท่าไร หรือที่เขาหมายถึงคงไม่เสร็จยายกันติยาแน่ๆ แม่น้องสาวตัวดีของเขาคลั่งดาราเกาหลีเสียด้วย หากเห็นหน้าหมอหนุ่มคนนี้เข้า ปลาหนุ่มตัวนี้มีหวังติดอวนที่กันติยาตัวแสบวางไว้แน่

แต่กันต์กรก็ตบต้นแขนอีกฝ่ายเบาๆ พร้อมกับกล่าวฝากฝังกันติยา หมออโรหันไปมองเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่หลับตาพริ้มอยู่บนเตียงแล้วเอ่ยเบาๆ

“ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอกครับ” อโรตอบเสียงนุ่ม “ผมจะดูแลเธอเอง”

กันต์กรมองหน้าหมอหนุ่มอย่างแปลกใจ สายตาเจ้าหมอนี่เวลามองยายยาแล้วแปลกๆ พิกล เหมือนกำลังเอ็นดูน้องสาวเขา แต่พอคิดได้ว่าหมอใหม่ก็ดูท่าทางน่าจะเป็นคนดี กันต์กรจึงไม่อยากระแวงไปให้ปวดหัว ชายหนุ่มมองหน้าที่เริ่มมีเลือดฝาดของกันติยาแวบหนึ่งก่อนจะชวนสมชัยเดินออกจากห้องพักผู้ป่วย เพราะรู้ว่าหลังผ่าตัดคนไข้ควรจะได้พักผ่อน และกว่าน้องสาวจะฟื้นก็คงอีกหลายชั่วโมง

หลังออกจากห้องมาไม่ถึงสามก้าว กันต์กรจึงเอ่ยขึ้นทันที

“ไอ้หมอหน้าจืดนั่นไว้ใจได้แน่นะ”

“แน่นอนสิ” หมอสมชัยย้ำเสียงเข้ม “หมอเก่งจบจากนอกนะเว้ย”

“นอกไหนวะ”

“เมกา” หมอชัยตอบ

“เมกา” กันต์กรทวนคำอย่างสงสัย

“ใช่ เออนี่” สมชัยเหมือนจะนึกอะไรออก “ข้าลืมบอกเอ็งไป ตอนที่ผ่าตัดอยู่ ที่ข้าเล่าว่าน้องแกหยุดหายใจไปแล้ว จำได้ไหม”

“จำได้สิ จำได้ว่าข้าเกือบจะต่อยปากเอ็งแน่ะ”

กันต์กรว่าพลางง้างหมัดแกล้ง หมอสมชัยรีบเอามือปิดปาก แต่ก็ยังเล่าต่อ

“โธ่ไอ้บ้า ตอนนั้นน้องแกหยุดหายใจไปแล้ว เราเลยไปเรียกหมอคนนี้มา แค่สัมผัสมือ หัวใจยายยาก็กลับมาเต้นอีกครั้ง น่าแปลกมั้ยล่ะ”

“พูดเป็นเล่นน่า” กันต์กรหัวเราะในลำคอ

“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดอะไรขึ้น” แต่เพื่อนหมอกลับทำหน้าจริงจังขึ้นมา กันต์กรจึงส่ายหน้าอย่างหน่ายใจ ก่อนกล่าวเบาๆ

“งั้นหมออโรคนนั้นคงมีของดีจริงๆ”

“ไอ้บ้า” สมชัยด่าก่อนจะขยี้หัวตัวเอง “หรือข้าคิดมากไปเอง”

“เออ ภารกิจใหญ่ครั้งนี้ผ่านไปได้ก็ดีแล้ว แต่คราวนี้เอ็งดูเหนื่อยกว่าครั้งก่อนๆ นะ” กันต์กรพูดพลางส่ายหน้า สมชัยคงจะเคร่งเครียดมากเกินไป คงต้องพาไปผ่อนคลายสักหน่อย “งั้นคืนนี้จัดสักหน่อยเป็นไงวะ”

ดวงตาหลังเลนส์แว่นของหมอสมชัยลุกวาวอย่างสนใจ

“ก็ดีว่ะ คืนนี้ข้าไม่ขึ้นเวรด้วย”

“ขากลับค่อยแวะดูยายยาพอดี งั้นเจอกันที่เดิมไอ้เพื่อนเลิฟ” ว่าแล้วก็ตบไหล่สมชัยเบาๆ “ชวนไอ้กล้ามาด้วยก็ดีนะ”

“ไอ้กล้ามันจะมาเร้อ กลัวเมียอย่างกับอะไรดี” หมอสมชัยว่า

“เดี๋ยวมันก็หาทางหนีออกมาได้เองแหละ” กันต์กรว่าก่อนจะเล่าวีรกรรมของคนที่กำลังพาดพิง “จำเรื่องม่านรูดเมียน้อยมันได้มั้ย ที่เมียมันถือปืนไปถล่มม่านรูดน่ะ มันยังหนีออกไปได้ทันเลย”

“ก็เพราะเพื่อนเลวๆ อย่างเอ็งไงไอ้กร”

กันต์กรหัวเราะอย่างสะใจ

“ก็เมียมันโทร.มาถามข้านี่หว่า ข้าก็เลยบอกไปว่าอยู่ม่านรูด แล้วอีกสิบนาทีก็โทร.ไปบอกให้มันหนีไป โคตรมันเลยว่ะ”

สมชัยกุมท้องหัวเราะ ก่อนจะรีบตัดบทขณะที่ใบหน้ายังแดงเรื่อและเหลือแววตลกขบขันอยู่

“เอาละ พอๆ ข้าต้องไปดูคนไข้ต่อ”

“แล้วเจอกันเพื่อน”

หลังจากลาหมอสมชัย กันต์กรก็กลับมาที่รถเก๋งคันหรู ก่อนจะวางมือไว้บนพวงมาลัย ถอนหายใจเบาๆ อย่างน้อยวันนี้กันติยาก็รอดไปอีกวัน ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คงหนีไม่พ้นหมอหน้าใหม่คนนั้น ดูไปก็หน้าตาดีไม่ใช่น้อย หากแต่สายตาอ่อนโยนของหมออโรทำให้กันต์กรรู้สึกวางใจและกังวลไปพร้อมๆ กัน

 นี่เขาเกิดหวงน้องสาวขึ้นมาหรืออย่างไร

 

@กันต์กรลงจากรถแล้วพับแขนเสื้อเชิ้ตขึ้นขณะเดินเข้าไปในผับที่เคยมาประจำ เสียงเพลงดังกระหึ่มเข้าเต็มหูมาพร้อมกลิ่นบุหรี่ฉุนจมูกที่คุ้นเคย เขาเดินรี่ไปยังโต๊ะที่นั่งเป็นประจำ ก่อนจะเจอเจ้าสมชัย หมอนอกกรอบ กับไอ้กล้า ตำรวจหนุ่มนอกเครื่องแบบที่กำลังนั่งรินเหล้าสีเข้ม โดยมีน้องหนูในชุดเกาะอกกระโปรงสั้นจุ๊ดจู๋คอยปรนนิบัติอยู่ข้างกาย

ชายหนุ่มรีบสาวเท้าเข้าไปหา ในใจก็ยังหวาดๆ กลัวไอ้กล้าจะเอาเรื่องตอนที่เคยแกล้งมันเรื่องม่านรูด

“ไงวะ ไอ้กร” กล้าลุกพรวดเข้ามากอดเพื่อนหนุ่ม “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”

“เออว่ะ” กันต์กรทักตอบ ก่อนเพื่อนตำรวจจะต่อยเข้าที่ต้นแขนของเขาแรงๆ ทีหนึ่ง

กันต์กรถึงกับสูดปากร้อง มือก็ลูบรอยประทับตราหมัดเหล็กของตำรวจหนุ่มป้อยๆ แม้ในใจมีคำตอบแล้วว่ากำลังโดนลงโทษเพราะวีรกรรมเก่า แต่กันต์กรก็ยังถามกลับอย่างใสซื่อ

“ไรของมึงวะเนี่ย”

“อย่ามาทำเนียน ข้าจำขึ้นใจเลยละว่า ใครเป็นคนบอกเมียข้าว่าข้าอยู่ม่านรูด” กล้ากัดฟันกรอดแถมทำตาขวางใส่กันต์กร

“โอ๊ย ข้าก็บอกให้เอ็งหนีแล้วไง”

คนถูกว่าทิ้งก้นลงนั่งบนโซฟานุ่ม ขณะที่หมอสมชัยหัวเราะขบขัน

“แหม เอ็งแกล้งข้าทำไมข้าจะไม่รู้ แต่โชคดีที่ข้าหนีไปได้ทันเวลา” ไอ้กล้าว่าแล้วรินเหล้าเข้าปาก

กันต์กรไขว้ขากอดอกขำ ขณะที่ตำรวจหนุ่มนอกเครื่องแบบกลับมาถามเรื่องเครียดๆ

“แล้วน้องสาวเป็นไงบ้างวะ เห็นไอ้ชัยบอกว่าปลอดภัยแล้ว”

“ปลอดภัยแล้วว่ะ” กันต์กรตอบพลางรับแก้วเหล้าจากสาวนั่งดริงก์

“ดีมากๆ” ไอ้กล้าร้องก่อนชูแก้วไปข้างหน้า “แด่น้องยา”

กันต์กรยิ้มน้อยๆ แล้วชนแก้วกับสหายทั้งสอง ก่อนกระดกเหล้าเข้าปากอย่างชำนาญ ของเหลวร้อนผ่าวไหลลื่นผ่านลำคอ ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกซาบซ่านและมีชีวิตชีวาขึ้นมาเล็กน้อย

“คืนนี้ไปต่อมั้ยจ๊ะหนู” กล้าหันไปกระซิบข้างหูสาวข้างกาย

กันต์กรส่ายหน้ากับเพื่อนหน้าหม้ออย่างหน่ายใจ จะว่าไปแต่ก่อนเขากับไอ้พวกนี้ก็สันดานไม่ค่อยต่างกันเท่าไร สมัยอยู่มัธยมจึงได้ฉายา สามทหารเสือ ซึ่งติดไปจนถึงมหาวิทยาลัย แม้จะอยู่คนละคณะแต่ก็ยังซี้ปึ้กไม่ต่างจากแต่ก่อน และถึงจะเจ้าชู้เหมือนกัน แต่เอาเข้าจริงเขากับกล้ามีรสนิยมเรื่องผู้หญิงต่างกัน ไอ้ผู้กองกล้ามันไม่เคยเลือกกินเลยสักครั้ง ส่วนกันต์กรแม้จะคบผู้หญิงมามาก แต่เขาก็เลือกคนที่รู้สึกสนใจจริงๆ เท่านั้น

“สนใจไหมวะ ไอ้กร” ไอ้กล้าหันมาชวนไปต่อกับสาวนั่งดริงก์

กันต์กรส่ายหน้าตอบ

“เออว่ะ ข้ารู้ เอ็งค่อนข้างมีรสนิยม” กันต์กรยิ้มน้อยๆ กับคำเหน็บของเพื่อนตัวแสบ ก่อนมันจะถามต่อ “แล้ววันนี้นึกยังไงชวนมาวะ”

“เออนั่นสิ” สมชัยร่วมสมทบ

พอถูกมองแบบเค้นความจริง กันต์กรก็ตอบไปอย่างเรียบๆ ว่า

“ก็ไม่มีไร ก็แค่เบื่อๆ เรื่องพวกนี้แล้ว”

“ไปบวชเลยไป” ตำรวจหนุ่มเยาะพร้อมหัวเราะ

“แต่ข้ากลัวแม่ชีสาวๆ จะศีลแตก” เพื่อนหมอรีบหยอก

“ไอ้หมอปากหมาเอ๊ย บาปกินหัวแน่เอ็ง” กันต์กรพูดติดตลก ขณะที่กล้าหัวเราะร่าอย่างพอใจที่เห็นเพื่อนกัดกัน

พอพูดถึงเรื่องผู้หญิง กันต์กรก็เจอคำถามเดิมจากเพื่อนเหมือนทุกครั้งที่เจอกัน

“นี่สามสิบสองแล้วทำไมยังไม่มีเมียอีกวะไอ้กร ดูข้านี่ เมียหลวงหนึ่ง เมียน้อยสอง ไอ้ชัยเมียหลวงหนึ่ง เมียน้อยสามแล้ว ฮ่าๆ”

“ไอ้ส้น…” หมอสมชัยด่าและชะงักคำหลังอย่างฉุนๆ “ข้ารักเดียวใจเดียวโว้ย”

“ให้มันจริงเหอะ” ตำรวจหนุ่มพูดเสียงเอื่อยปนทะเล้น ดูท่าคงจะกึ่มๆ แล้ว

ที่เพื่อนเขาพูดก็ถูก เขาอายุสามสิบสองแล้ว ยังไม่เป็นฝั่งเป็นฝาสักที ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากรักใครหรืออะไร แต่ทุกครั้งที่เขามีแฟนหรือคนคุยด้วย สุทัตตาก็จะตามราวีทุกหนทุกแห่ง จนเขากับผู้หญิงที่ผ่านมาต้องเลิกรากันไป แต่เขาก็รู้ว่าอำนาจของเงินนั้นซื้อทุกอย่างได้จริงๆ แม้กระทั่งความรักที่บริสุทธิ์ใจ กันต์กรจึงตั้งปณิธานว่าอีกสักสองสามปีหากยังไม่เจอรักแท้ เขาก็คงต้องยอมรับความจริงว่าตัวเองเกิดมาเพื่อเป็นของสุทัตตาคนเดียว

“น้องสุทัตตาสวยเอกซ์ขนาดนั้นยังไม่ตกลงกันอีกเหรอว่าจะแต่งเมื่อไหร่” กล้ายิงคำถามได้ตรงจุด กันต์กรก็เบื่อที่จะตอบเรื่องนี้แล้วเหมือนกัน

“เมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้นแหละว่ะ ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของเขาละกัน” หนุ่มรองประธานที่นั่งกลางพูดอย่างผ่านๆ

“หรือว่ามึงไม่ได้ชอบซูซี่” กล้าถามอีก

กันต์กรเงียบแล้วถอนหายใจเบาๆ

“นั่นไง กูว่าแล้ว” ตำรวจหนุ่มร้องอย่างกับถูกหวย “ไม่รัก แต่ก็ต้องรักเพราะเห็นว่าเป็นบุญคุณ”

บรรยากาศตึงเครียดลงทันใด กันต์กรหลุบตาลงต่ำแล้วตอบเพื่อนไปอย่างปลงๆ

“จะทำไงได้ ชีวิตของเราทุกวันนี้ก็เหมือนเครื่องจักรอยู่แล้ว”

“ถึงจะเป็นเครื่องจักร แต่ก็เป็นเครื่องจักรไฟแรงนะเว้ย” กล้าเสริมพร้อมกับยื่นแก้วเข้ามา ทำให้บรรยากาศกลับมาดี กันต์กรยิ้มพอใจกับคำพูดตลกของเพื่อนแล้วชนแก้วตอบ

“เออว่ะ ไอ้กล้าพูดโดนใจโคตรๆ เลย” สมชัยยกแก้วเข้าร่วมชนด้วย

เหล้าเข้าปากกันต์กรไปอีกเพียงสองอึก เขากลับร้อนผ่าวกลางหน้าอกเหมือนมีเหล็กร้อนๆ มาทาบ แม้อาการจะไม่รุนแรง  ชายหนุ่มยกมือหนาขยุ้มอกเสื้อเชิ้ตแน่น จึงรู้ว่ามันไม่ได้เป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ แต่เป็นปฏิกิริยาจากสร้อยที่ใส่อยู่

“เป็นอะไรไป ไอ้กร” สมชัยหันมาถาม

“ข้ารู้สึกอึดอัดว่ะ ขอตัวออกไปสูดอากาศข้างนอกแป๊บนึง”

“เออ ตามสบายเลย” กล้าว่าก่อนจะแอบหยิกแก้มสาวนั่งดริงก์แสนสวยข้างๆ

กันต์กรรีบลุกพรวดออกจากผับเพราะไม่อยากให้เพื่อนรู้ว่าเขามีอาการแปลกไป ตั้งแต่ใส่สร้อยเส้นนี้มันไม่เคยแผ่ความร้อนอย่างนี้มาก่อนเลยนี่นา

 

 

 สำหรับผู้ที่อยากอ่านฉบับเล่ม สามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปจ้า.....

ขอฝากเพจไว้ด้วยนะจ๊ะ >>>>>https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B2-Wiwa-Hot-love/547368525376943?ref=hl

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา