The alloy

9.3

เขียนโดย nash

วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 11.39 น.

  3 บท
  4 วิจารณ์
  6,618 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 9 เมษายน พ.ศ. 2557 23.29 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) Intro...

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

Intro

 

 

           ตอนนี้เป็นช่วงฤดูหนาวของบอสตัน   อากาศติดลบสิบสี่องศาเซลเซียส   คริสไม่ได้เจออากาศแบบนี้มานานมากแล้ว   เขามองดูหิมะที่ร่วงลงมาใส่กระจกรถของเขา   แต่ก่อนสีผิวของเขาแทบจะเป็นสีเดียวกับหิมะ   แต่หลังจากเวลาผ่านไปหกปีเขากลายเป็นผู้ชายผิวเกือบแทนไปซะแล้ว   ร้านทาโก้เบลล์ที่เขากำลังขับผ่านเคยเป็นร้านโปรดตอนสมัยเด็กๆ   ถัดไปอีกสองช่วงตึกเป็นร้านสตาร์บัคที่เมื่อก่อนเคยเป็นร้านขายอาหารสัตว์   อะไรๆแถวนี้เปลี่ยนไปนิดหน่อย

          หลังจากหกปีที่แล้วที่ครอบครัวของเขาประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนักจนต้องปิดกิจการลง   เขาก็ย้ายไปอยู่ที่แคลิฟอร์เนียและไม่ได้กลับมาที่นี่อีกเลยจนถึงตอนนี้  

          เวลาเกือบจะสามทุ่มแล้ว    คริสนัดใครบางคนไว้ที่รอยัลผับที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงหนึ่งไมล์   เขาใช้เวลาไม่ถึงสิบห้านาทีก็ขับรถมาถึง   แม้จะจากไปหกปีแต่เขาก็ยังคงจำเส้นทางแถวนี้ได้ค่อนข้างแม่น   ที่นี่เป็นแหล่งมั่วสุมของพวกลูกเศรษฐีที่อายุยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะเข้าได้   ซึ่งแต่ก่อนเขาก็เป็นหนึ่งในนั้น   ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรปลอม   แค่เกิดมาในครอบครัวที่ฐานะร่ำรวยสักหน่อย   อภิสิทธิ์หลายอย่างก็จะเข้ามาหาอย่างที่คาดไม่ถึง  โลกก็เป็นอย่างนี้แหละ   เขาจอดรถตรงที่ว่างหน้าผับ   คนยังเยอะเหมือนเดิม   ยามหน้าประตูขอตรวจบัตรแล้วบ่อยให้เขาเข้าไปข้างใน            

          มองหาไม่นานก็เจอคนที่นัดไว้   เธอนั่งอยู่ที่บาร์   ผมบลอนด์ของเธอดูยาวขึ้นมาก   เขาเดินตรงเข้าไปแล้วทักเธอ

          “มิเชล”  เธอหันมาหาเขา

          “นั่งก่อนสิ   ฉันเพิ่งมาถึงไม่นานนี้เอง”  เขานั่งลงข้างๆเธอ   ดวงตาสีเขียวอ่อนที่มองมาทำให้เขาใจเต้นแรง   เกิดคำถามขึ้นมาในใจว่าในตอนนั้นเขาทิ้งเธอลงได้ยังไงกันนะ   “ดื่มอะไรดีหละ   ตากีล่าไหม”

          “ขอวอสก้าดีกว่า   ฉันยังไม่อยากเมาตอนคุยกับเธอ”  คริสยิ้ม   แต่เธอไม่ยิ้มตอบแล้วหันไปสั่งวอสก้าสองที่กับบาร์เทนเดอร์ 

          “ไม่คิดว่าจะได้เจอนายอีกนะคริส   รู้ไหมฉันตกใจมากแค่ไหนตอนที่นายโทรมา”

          “ขอโทษที่ไม่ได้ติดต่อมาเลย   ชีวิตช่วงนั้นเจอแต่เรื่องยุ่งๆ”

          “คงยุ่งมากอย่างที่นายว่า   แต่ก็ยังดีที่อย่างน้อยก็ยังเก็บเบอร์ฉันไว้อยู่   จดไว้ในสมุดโทรศัพท์เหรอ   เพราะนายน่าจะหักซิมนั้นทิ้งลงชักโครกไปแล้วนะ   ถึงไม่มีใครติดต่อนายได้เลยสักคน”

          วอสก้าถูกวางลงบนโต๊ะ

          “ฉันคิดถึงเธอนะมิเชล”

          “ฉันไม่รู้ว่าควรจะเชื่อในสิ่งที่นายพูดดีไหม”

          “ไม่เอาน่า   อย่าเย็นชาใส่กันอย่างงี้สิ  ยังโกรธฉันอยู่ใช่ไหม”

          “นายคิดว่าไงหละ   อยู่ดีๆก็หายตัวไปจากโรงเรียน   ไม่คิดจะติดต่อหาฉันเลยสักครั้ง   มีข่าวลือว่านายฆ่าตัวตายไปแล้วด้วยซ้ำ   แล้วตอนนั้นฉันก็คิดว่านายอาจจะตายจริงๆเพราะถ้านายยังมีชีวิตอยู่ก็ไม่น่าจะทำแบบนั้นกับฉันได้ลง”

          “มิเชลฉันขอโทษ   คือช่วงนั้นฉัน...   ฉันรู้สึกสับสนวุ่นวายในชีวิตมาก   ฉันแค่อยากจะขอโอกาสจากเธอ”

          “โอกาสอะไร   หกปีนะคริส   นายหายไปตั้งหกปี   ฉันรู้ว่ามีเรื่องมากมายเกิดขึ้นกับครอบครัวนาย   แต่นายจะรู้สึกสับสนวุ่นวายตลอดทั้งหกปีมันเป็นไปไม่ได้หรอกนะ   นายเก็บเบอร์ฉันไว้ทำไมถ้าไม่ได้คิดจะสนใจมันเลย”

          เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้

          “จะไปไหน   เราเพิ่งคุยกันเองนะ”

          “ไม่มีอะไรจะต้องคุยแล้ว   ฉันคิดว่านายจะมีคำแก้ตัวที่ดีกว่านี้   แต่สุดท้ายก็ไม่   นายมันงี่เง่ารู้ตัวไหม   นายปล่อยให้ฉันนอนร้องไห้อยู่เป็นเดือน”

          “ฉันไม่คิดว่าเธอจะเสียใจขนาดนั้น”

          “ไม่คิดเหรอ   นายไม่เคยคิดอะไรสักอย่างหรอกนอกจากเรื่องของตัวเอง”

          “ฉันนัดเธอมาที่นี่เพื่อจะปรับความเข้าใจกันนะ   ทำไมไม่ยอมฟังอะไรเลย”

          “เพราะแต่ละคำที่พูดออกมามันเชื่อไม่ได้ไง   ฟังนะ   ฉันมีคนรักใหม่แล้วคริส   เลิกยุ่งกับฉันแล้วอย่าหวังจะได้แม้แต่ความเป็นเพื่อน   คนอย่างนายมันสมควรที่จะต้องอยู่ตัวคนเดียว”

          เธอเดินจากไป   เขาอยากจะรั้งเอาไว้แต่ก็รู้ว่ามันไร้ประโยชน์   คุยกันยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ   มันแย่กว่าที่เขาคิดเอาไว้เยอะเลย   ที่สำคัญเธอมีคนรักใหม่แล้ว   คงหมดหนทางที่อะไรๆจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม

          วอสก้าสองแก้วนี้เขาคงต้องดื่มเองซะแล้วหละ

 

 

 

           ควันบุหรี่ลอยปะทะกับอากาศเย็นยิ่งทำให้เห็นเป็นสีขาวชัดเจน   ทรอยยกเท้าขึ้นพาดบนโต๊ะกระจกก่อนจะสูบเข้าไปอีกอึกใหญ่แล้วพ่นออกมา

            “โครตเซ็งกับการที่พี่ฉันกลับมาอยู่บ้านเลยหวะ”   เขาส่งบุหรี่ต่อให้แซคเพื่อนสนิทที่สุดของเขาและเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ด้วย

            “ทำไมวะ   ปกตินายก็ไม่ค่อยได้อยู่ที่นั่นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ   แล้วจะแคร์อะไร”  แซคถาม

            “ไม่รู้สิ   รู้สึกเหมือนมีลางสังหรณ์ว่ามันจะต้องเข้ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตฉันแน่ๆ”

            “เขาน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอวะ”

            “เปล่า   ก็แค่เป็นพวกชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน   แล้วอีกคนก็ชอบทำตัวเหมือนรู้ไปหมดซะทุกเรื่อง   กลับมาทีเดียวพร้อมกันสองคนคิดเหรอว่าลูกคนที่สามอย่างฉันจะไม่ได้รับผลกระทบไปด้วย”

            “เดี๋ยวนะ   พี่นายที่เพิ่งกลับมาคือคนที่ชื่อคริส   คนเดียวไม่ใช่เหรอ”

            “พี่ชายคนโตของฉันจะพ้นโทษในอีกสามวันข้างหน้า”

            “อ้าว   ที่จริงเขาต้องติดนานกว่านี้ไม่ใช่เหรอวะ”

            “เห็นว่าได้อนุมัติพ้นโทษก่อนกำหนดอะไรสักอย่างนี่แหละ”

            “แล้วนี่นายจะกลับไปอยู่บ้านไหม”

            “ยัง   ถ้ามีคำสั่งเรียกตัวกลับไปเมื่อไหร่ค่อยว่ากันอีกที”

            “ที่จริงนายย้ายมาอยู่ที่นี่ถาวรเลยก็ได้นะ   ฉันเริ่มไม่ชินกับการอยู่คนเดียวแล้ว”

            “บางทีฉันก็เกรงใจนายเหมือนกันหวะ”

            “นายเลยคำๆนั้นมาตั้งนานแล้วหละเพื่อน   พูดจริงๆนะ   ฉันชอบที่มีนายอยู่ด้วย   พอช่วงไหนที่นายกลับไปอยู่บ้านแล้วมันรู้สึกเหงาๆหวะ”           

          เขากระดกเบียร์ที่เหลืออยู่ก้นกระป๋องเข้าปาก

           "ฉันยังไม่อยากให้มันถึงขั้นนั้น   ยังไม่รู้ว่าในอนาคตฉันอาจจะต้องพึ่งพวกเขาหรือเปล่า"            "หมายความว่าไง"            

           "ไม่รู้สิ   บางทีชีวิตมันก็ไม่ค่อยแน่นอน"           

           เสียงออดดังมาจากประตูหน้าบ้าน                  

           "เดี๋ยวฉันไปดูให้”

            ทรอยลุกเดินไปที่ประตู   เขาส่องตรงช่องกระจกเล็กๆตรงกลางประตู

            “มีผู้หญิงมาหานาย”   ทรอยตะโกนบอก

            “ใคร”

            “ไม่รู้   ฉันไม่รู้จัก”

            แซคเดินมาแล้วส่องตรงช่องกลางประตู

            “ผู้หญิงที่ฉันเดทด้วยเมื่อคืน   น่าเบื่อชะมัด   นายไปนอนเหอะ”

            “โอเค  เคลียร์กันดีๆหละ  ดูด้วยว่าเธอแอบซ่อนมีดไว้ข้างหลังหรือเปล่า”

            “นายทำให้ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาเลยนะ”

             อีกไม่กี่นาทีต่อมาในขณะที่ทรอยกำลังเข้านอนเขาก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาจากหน้าบ้าน   ตามด้วยเสียงกระแทกประตูที่อาจจะทำให้คนบ้านข้างๆตื่นได้   นี่ไม่ได้ทำให้เขาตกใจอะไร   มันเกิดขึ้นบ่อยจนชินซะแล้ว   เขาเคยเตือนเพื่อนคนนี้ไปหลายครั้งแล้วเรื่องคบซ้อน   เดทกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า   แต่พูดไปก็เท่านั้น   คนอย่างแซคคงไม่หยุดพฤติกรรมแบบนี้ง่ายๆหรอกจนกว่าจะเจอคนที่รักจริงๆ  

            คืนนี้เขานอนไม่ค่อยหลับเลย   สมองมัวแต่คิดถึงเรื่องที่พี่ชายทั้งสองของเขากลับมา   ครอบครัวเขากำลังจะกลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง   แต่ทำไมเขากลับไม่ค่อยดีใจเลย   ความสัมพันธ์ที่เคยขาดมันคงยากที่จะต่อติดแล้วสินะ

  

.........................

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.7 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา