GangsteR อันธพาลหลังห้อง

8.5

เขียนโดย nooonaa

วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 18.50 น.

  15 ตอน
  5 วิจารณ์
  25.49K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 23.46 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) GangsteR 02 : อันธพาลของจริง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

by nooonaa

 

 

"GangsteR อันธพาลหลังห้อง" 02 : อันธพาลของจริง

 

 

+น้องเจมส์+

 

 

"พี่เจมส์ ผมขอตังหน่อยดิ"

 

"อีกแล้วหรอวะ เมื่อวานมึงก็เพิ่งเอาไปเองนะ"

 

"โถ่พี่ คนมันต้องกินต้องใช้นี่" 

 

เห้อ...เป็นแบบนี้ตลอดเลยน้องผม

 

ผมส่ายหน้าอย่างเอือมๆเล็กน้อย  แต่ก็ยอมควักกระเป๋าเงินออกมา ผมนับแบงก์พันที่อยู่ในนั้นสองสามใบเพื่อให้มันไปโรงเรียน แต่มือใหญ่ของน้องชายกลับคว้ามันไปทั้งกระเป๋าก่อนจะหยิบเงินทั้งหมดในนั้นไป

 

"เห้ย! สัดโจ! เอาคืนมานะเว้ย!" 

 

เหี้ยแม่ง! กูต้องกินต้องใช้เหมือนกันนะ ไมมึงเป็นน้องที่เลวขนาดนี้วะสัด!

 

"พี่เจมส์อะตัวเล็ก กินแค่ร้อยเดียวพอ" แล้วมันก็เอาแบงก์ร้อยของตัวเองมาใส่ในกระเป๋าสตางค์ผมก่อนจะโยนมันคืนมาให้ ผมนี่จี๊ดเลยครับ แค่มึงได้พันธุ์พ่อมาตัวเลยใหญ่กว่าผมนิดเดียว  แต่ไม่ได้หมายความว่ามึงจะต้องใช้เงินเยอะขนาดนั้นนะเว้ย

 

แม่งเซ็งสัด! ทำไมผมต้องยอมมันทุกครั้งเลยเนี่ย

 

"กินให้มันน้อยๆหน่อยโจ เดี๋ยวแม่ก็ด่าให้หรอก" ผมเตือนมันเมื่อรู้สึกว่าชีวิตมันเริ่มเหลวแหลก แต่มันก็แค่ยื่นหน้ามาจุ๊บที่แก้มผมก่อนจะยิ้มให้

 

"ผมรู้ว่าพี่เจมส์ไม่ปล่อยให้แม่ด่าผมหรอก ขอบใจนะพี่ ไปและ"

 

ก็เพราะมึงคือน้องกูไงไอ้โจ กูถึงต้องดูแลมึง

 

เห้อ..ผมน่ะ ยิ่งกว่าแม่มันอีก นี่พูดเลย

 

พอมันวิ่งแจ่นออกจากบ้านไปผมก็เดินไปหยิบกระเป๋าตามไปเหมือนกัน วันนี้เรามีประชุมที่แก๊งครับ เราจะประชุมกันทุกวันจันทร์ พุธ ศุกร์ เพื่อเคลียร์ปัญหาให้ไอ้เฮียร์กับคนในแก๊งที่ไปก่อเรื่องไว้ แล้วก็โยนขี้มาให้ผมเช็ด จนผมนี่กลายเป็นกุนซือของแก๊งไปแล้ว

 

แต่ยังไม่ทันที่ผมจะก้าวพ้นประตูบ้าน เสียงแม่บ้านก็ร้องเรียกผมไว้ก่อนจะยื่นแผ่นกระดาษมาให้

 

"อะไร"

 

"คุณนายฝากบอกคุณหนูใหญ่กับคุณหนูเล็กว่าท่านจะกลับอีกเดือนหนึ่งค่ะ"

 

เห้อ...นี่ก็แทบจะเจอหน้ากันปีละครั้งมั้ง แม่ผมเนี่ย

 

"อืม ขอบใจ" ผมรับแผ่นกระดาษนั้นมาก่อนจะอ่านข้อความที่เหลือ

 

'แม่โอนเงินให้แล้วนะ แม่รักเจมส์โจมากนะ'

 

ผมก็รักแม่ครับ...ถ้าแม่กลับบ้านบ้าง

 

แต่ก็ชินแล้วล่ะ ตั้งแต่พ่อตายแม่ก็ต้องรับช่วงต่อ มันก็เป็นธรรมดาที่พวกเราจะได้ใช้เงินเป็นเบี้ย แต่สำหรับผม...ผมขอได้เงินวันละห้าสิบบาทก็พอ บางทีตอนกลับมาบ้านแต่ละวันผมอาจจะได้เจอแม่บ้าง

 

อะ ช่างมันเถอะ ไปโรงเรียนดีกว่า คิดไปมันก็เป็นจริงไม่ได้

 

ผมเดินไปรอรถเมล์ที่หน้าหมู่บ้านก่อนจะมาถึงโรงเรียนอีกสามสิบนาทีต่อมา พอมาถึงก็เจอพวกไอ้พีชก็กำลังเล่นไพ่ของโปรดปรานพวกมันแต่เช้า ยิ่งตอนนี้อยู่กันครบแก๊งก็ยิ่งวุ่นวาย พวกมันเอะอะเสียงดังลั่นจนสถานที่นั้นมีแต่พวกเราที่สุมหัวกันอยู่

 

"เบาๆหน่อยสิวะ ถึงพวกมึงจะใหญ่แต่ก็ต้องมีมารยาท อย่าให้คนอื่นมาดูถูกพวกมึงดิ" 

 

บางทีผมก็ไม่เหมือนเพื่อนมันนะ เหมือนแม่มากกว่า ที่ต้องมารับเลี้ยงไอ้ลูกเวรจันไรพวกนี้ แต่พวกมันก็เชื่อฟังผมนะ พอด่ามันก็ทำตามทันที อย่างตอนนี้  พวกมันก็เงียบกริบจนเหมือนประชด

 

"เจมส์ มานานยัง" ถ้ามึงจะถามกูด้วยเสียงที่เบาจนกูตดยังดังกว่าแบบนี้ กูก็คงต้องปล่อยมึงไป

 

"เหี้ย! กวนตีนกูทุกคน กูเป็นรองหัวหน้าแก๊งนะเว้ย! หัดเกรงกูบ้าง สัด!"

 

"ฮ่าๆ" แล้วพวกมันก็หัวเราะลั่นเลยครับ เล่นเอาหน้าผมหงิกเลย ยิ่งไอ้พีชแกล้งผมต่อด้วยเลยยิ่งหงิกเข้าไปใหญ่ ก็มันดึงผมเข้าไปนั่งตักกว้างของมันก่อนจะกดหัวผมลงซบอกแล้วลูบหลังเบาๆ

 

"โอ๋ๆ อย่าร้องนะครับคนดี เดี๋ยวพี่พีชจะชื้อไอติมให้หนูอมเล่นนะครับ"

 

"สัดพีช!" ผมทุบหลังมันสุดแรงแต่ก็ไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด

 

"ฮ่าๆ"

 

แม่ง! แกล้งกูตลอด เดี๋ยวเถอะพวกมึง

 

"เห้ยๆ นั่นมันไอ้เตี้ยนี่หว่า" อยู่ๆไอ้นัทก็ร้องทักจนพวกเราทั้งแก๊งนับสิบคนหันขวับไปทางมัน แต่วันนี้ไอ้เฮียร์มันบอกจะมาโรงเรียนกับมันไม่ใช่รึไง แล้วทำไมผมไม่เห็นมัน ผมเลยเรียกมันเพื่อจะถามหาอีกคน

 

"ฝุ่น"

 

"...." สัด หยิ่งนะมึง เรียกไม่หันนะ เดี๋ยวจะเจอตีนกู

 

"เดินหนีกูนะมึง" ผมเลยด่ามันเสียงเขียวจนร่างเล็กยอมหยุดเดิน แต่พอมันหันมาก็เล่นเอาหนาวกันไปหลายเฮือก เพราะหน้ามันดูไร้อารมณ์และดูรำคาญพวกผมมาก

 

"มีไร"  

 

"ไอ้เฮียร์ล่ะ มึงมาถึงแล้วไอ้เฮียร์อยู่ไหน" มันเลิกลักเล็กน้อยก่อนจะตอบผมกลับมา

 

"ไม่รู้"

 

"ไม่รู้ได้ไง มึงต้องไปปลุกมันไม่ใช่รึไง" นี่ไอ้เฮียร์อุส่าโทรมาโม้ผมเมื่อคืน ว่าพรุ่งนี้เช้าไอ้ฝุ่นจะไปปลุกมันถึงเตียงอย่างที่มันฝันมาตลอด แถมมันยังถามผมว่าถ้ามันแกล้งทำเป็นละเมอดึงมันมากอดหรือว่าจูบ...อันไหนมันดีกว่ากัน ผมก็ยังสนับสนุนให้มันจูบอยู่เลย สงสัยวันนี้เพื่อนผมคงนอนตายจมขี้ฟันตัวเองอยู่บนเตียงแล้วมั้ง

 

"กูไม่ได้ไป"

 

"เห้ย มึงกล้าขัดคำสั่งมันรึไง วอนหาตีนนะมึงไอ้ฝุ่น" คราวนี้เป็นไอ้ต้นคนที่เกลียดการปีนเกลียวมากที่สุดเป็นคนด่ามันกลับอย่างเหลืออด แถมมันยังทำท่าจะพุ่งเข้าซัดใส่ร่างบางอีก โชคยังดีนะที่ไอ้นัทคว้าตัวมันไว้ได้ทันไม่งั้นมันเองนั่นแหละที่จะโดนตีนไอ้เอียร์

 

ซ่าให้ถูกคนหน่อยมึง...นี่มันซ้อของแก๊งเรานะเว้ย

 

"กูไม่กลัวหรอก" แต่ดูท่าอีกคนจะไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิด มันยิ้มเหยียดเหมือนสมเพชพวกผม จนผมเริ่มคันปากยิบๆ

 

ตอนแรกกะจะคุยกับมึงดีๆแล้วนะสัด

 

"อย่าคิดว่าอาเฮียจะปกป้องมึงได้ตลอดนะ ถ้ากวนตีนมากๆเดี๋ยวกูอดไม่ไหวแล้วมึงจะเจอกู" อยู่ๆไอ้หนึ่งเจ้าตีนผีก็โผงขึ้นมา ผมก็มองเฉยๆ เพราะอยากรู้ว่ามันจะทำยังไงต่อ เจอไอ้หน้าโหดของแก๊งเข้าแบบนี้

 

"กูขอเตือนนะไอ้ฝุ่น อย่าขัดใจไอ้เฮียร์มาก ถ้ามันเลิกยุ่งกับมึง มึงนั่นแหละที่จะซวย" 

 

ถ้ามันไม่ตัดสินใจเข้าหามึงแบบตอนนี้ มึงนั่นแหละที่จะโดนมากกว่าที่เป็นอยู่ มึงควรจะขอบคุณมันที่ออกมาปกป้องมึงด้วยซ้ำ

 

"เรื่องของมัน" แล้วมันก็เดินเข้าตึกไปเลยครับ แต่สีหน้ามันดูจะเครียดตามที่ผมพูดขึ้นมานิดหน่อย แต่สิ่งที่ผมพูดออกไปเป็นเพราะผมเป็นห่วงมันจริงๆ ถ้ามันไม่มีไอ้เฮียร์อยู่ใกล้ๆ มันต้องแย่แน่

 

พอเหตุการณ์เริ่มปกติผมก็โทรหาอีกคนทันที มันก็หงุดหงิดใส่ผมใหญ่เมื่อผมบอกว่าไอ้ฝุ่นมาถึงโรงเรียนแล้ว สรุปผมผิดรึไงวะ นี่กูสั่งให้มึงนอนรอมันรึไงเนี่ย

 

"สัด! มึงก็นอนอยู่ตรงนั้นแหละไม่ต้องไปไหน ไม่ต้องมาโรงเรียนด้วย เดี๋ยวมันก็ไปหามึงเอง" 

 

ติ๊ด!

 

เป็นกูตลอดที่ต้องจัดการเรื่องไร้สาระให้มึงเนี่ยไอ้เฮียร์ สมองก็มีแต่ดันเอาไปคิดแต่เรื่องลามกกับไอ้ฝุ่นจนคิดเรื่องอื่นไม่เป็นแล้วเนี่ย

 

"เห้ยๆ ไอ้แห้งๆ" พอผมเห็นไอ้แห้งขาเม้าประจำโรงเรียนเดินผ่านโต๊ะพวกผม ก็รีบเรียกมันให้มาหา ก่อนที่ร่างแห้งๆของมันจะรีบวิ่งมาทันที

 

"มะ มีอะไรหรอครับ"

 

น่ากลัวมากเลยรึไง หมายถึงไอ้พวกข้างหลังกูมันน่ากลัวกว่ากูมากรึไงหะ! ถึงเอาแต่จ้องหน้ากูแต่ไม่มองหน้าพวกมันเนี่ย

 

เหี้ย! บางทีกูก็อยากออกจากแก๊งวะ

 

"มึงไปปล่อยข่าวว่าอาเฮียไม่มาโรงเรียนเพราะทาสเฮียไม่ไปปลุกตามหน้าที่ดิ ห้านาทีทั้งโรงเรียนต้องรู้ทั้งหมดนะมึง"

 

"คะ ครับ" 

 

"ครับเสร็จก็ไปสิวะ!" ต้องให้ขึ้นเสียง! มันเจ็บคอนะเว้ย

 

"มึงจะทำอะไรวะ" ไอ้พีชถามผมทันทีที่ไอ้แห้งวิ่งเตลิดออกไป 

 

"ทำให้เกมพวกมึงสำเร็จไวๆไง"

 

"หึๆ ดีๆ"

 

แต่เกมพวกมึงมันก็ไม่สำคัญเท่ากับไอ้เฮียร์สมหวังหรอกวะ

 

 

 

พอสองวันต่อมาไอ้เตี้ยก็พาไอ้เฮียร์มาโรงเรียนตามที่คาดจนได้ แถมหน้ามันนี่บานจนน่าหมั่นไส้ พวกเราเลยแกล้งไอ้ฝุ่นจนร่างเล็กงอนสะบัดตูดหนีไปเลย ผมกับเพื่อนๆก็ไม่สนใจก่อนสายจะวิ่งมาบอกไอ้เฮียร์ว่าผงฝุ่นอยู่กับประธานนักเรียนในห้องพยาบาลตอนนี้ ใจผมนี่สั่นสะท้านเลยครับ กลัวมันหึงจนหน้ามืด แล้วคลุ้มคลั่งฆ่าใครตายขึ้นมา แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้เตือนสติ ขายาวก็วิ่งตรงดิ่งไปที่นั่นทันที

 

คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง เดี๋ยวมันเจอไอ้ฝุ่นโกรธทีเดียวก็เลิกบ้าเองและ

 

"ท่าจะหึงเกินหน้าเกินตาไปป่าววะ"

 

ทำเป็นพูดดีนะไอ้ต้น ถ้าเป็นเมียมึงอยู่กับผู้ชายคนอื่นสองต่อสองแถมสถานที่นั้นมีเตียงอยู่ใกล้ๆแบบที่ไอ้เฮียร์เจอ มึงก็ต้องเดือดเหมือนกันและวะ

 

พอนั่งอยู่สักพักผมก็เดินแยกจากแก๊งเข้าห้องเรียนตัวเอง แต่พอเข้าไปผมก็ได้ยินเสียงซุบซิบเรื่องไอ้เตี้ยจนรู้ว่ามันโดนแฟนคลับไอ้เฮียร์ตบ ผมนี่ซี๊ดเลยครับ กะไว้แล้วเชียว ไอ้พวกแฟนคลับหัวรุนแรงต้องเล่นไอ้เตี้ยเข้าสักวัน  แล้วพวกมึงก็เล่นจนได้ เดี๋ยวได้เจอไอ้เฮียร์อาละวาดแน่พวกมึง

 

ผมเลยนั่งรอให้พวกมันกลับมาที่ห้องเป็นชั่วโมงๆแต่ก็ไม่มีใครกลับมา ใจก็คิดไปต่างๆนานาว่าไอ้เตี้ยอาจจะโดนไอ้เฮียร์บ้าใส่จนตายคามือไปแล้วมั้ง พอคิดอย่างนั้นผมวิ่งรีบวิ่งไปหาพวกมันจนทั่วโรงเรียนก่อนจะเจอร่างสูงยืนเหม่อลอยเหมือนขาดสติอยู่กลางสวน แค่นั้นผมก็รู้แล้วล่ะ ว่ามันต้องเผลอทำร้ายจิตใจไอ้เตี้ยแน่

 

"ด่าไปหนักเลยล่ะสิมึง" 

 

ผมถามพรางนั่งลงบนพื้นสนามหญ้า โดยที่ตาคมเองก็แค่ชายมามองเท่านั้นก่อนมันจะล้มตัวลงนอนราบไปกับพื้น

 

"เห้อ...กู กูทำมันร้องไห้อีกแล้ว" 

 

แบบนี้ไง...มันรู้ว่าตัวเองเป็นคนโมโหร้าย แถมยังยั้งแรงตัวเองไม่เคยได้ มันเลยยอมเก็บความรักที่มีต่อผงฝุ่นมาตลอด เพราะมันกลัวว่าสักวันหนึ่ง...วันจะทำให้อีกคนร้องไห้

 

"เอาน่า...มันผิดพลาดกันได้ ครั้งต่อไปก็หัดยั้งมือหน่อย"

 

"จะให้กูยั้งยังไง แค่ก็เห็นไอ้สัดนั่นโดนตัวมัน กูก็แทบจะถีบยอดหน้าใส่ แถมยังพาลใส่ไอ้ฝุ่นด้วย" คราวนี้มันคงรู้สึกผิดมากจริงๆ เพราะมันเอาแขนตัวเองมาพาดหน้าตัวเองทันทีที่พูดจบ เหมือนกับมันกำลังปิดปังสีหน้าตัวเองไว้

 

"ก็คิดซะว่าถ้ามึงไม่หยุดโมโห ไอ้เตี้ยอาจจะไม่คุยกับมึงอีกตลอดชีวิตไง มึงทนได้มั้ยล่ะ"

 

"เหี้ย กูยอมตามดีกว่า"

 

หึๆ กลัวขนาดนั้นเชียว

 

"งั้นก็ต้องยอม"

 

"เออ กูจะพยายาม" ผมตบหน้าขามันเบาๆสองสามทีก่อนจะถามหาอีกคน

 

"แล้วไอ้ฝุ่นล่ะ"

 

"วิ่งหนีขึ้นห้องไปแล้ว" ขึ้นห้องหรอ

 

"กูเพิ่งลงมาจากห้องนะ ไม่เห็นเจอ" แค่นั่นมันก็เด้งตัวขึ้นมาทันทีก่อนใบหน้าหล่อนั้นจะดูเครียดขึ้นมาถนัด

 

"แล้วมันไปไหน"

 

เป็นเรื่องแล้วไง

 

เห้อ...เซ็งจริง นี่ต้องเป็นกูอีกแล้วใช่มะ ที่ต้องมานั่งแก้ปัญหาให้กับพวกมึงเนี่ย

 

"มึงเลิกสนใจมันก่อน มันไปไหนได้ไม่ไกลหรอก ตอนนี้กูว่ามึงรีบไปจัดการพวกแฟนคลับโรคจิตมึงซะ เมื่อเช้ามันตบไอ้ฝุ่นซะหน้าหัน"

 

"มึงว่าอะไร!!" เสียงเข้มตวาดใส่ซะดังลั่นก่อนกรามมันจะขบกันแน่น

 

เอาแล้วไง...ระเบิดปรมาณูลงแน่มึง

 

"เห็นพวกผู้หญิงมันบอกว่าเพราะเมื่อเช้ามึงให้มันซ้อนจักรยานแล้วมันก็กอดเอวมึง พวกหล่อนเลยโกรธมาก"

 

น่ากลัว...ผมว่าผมมีแฟนคลับเป็นพวกชายแบบนี้ก็ดีและ

 

เออ...คือผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมผมถึงเป็นขวัญใจพวกมัน แต่ก็เล่นเอาขนลุกเลยทีเดียว

 

"งั้นที่มันด่าว่าเป็นเพราะกูที่ทำให้มันเจ็บตัวคงจะเป็นเรื่องนี้สินะ" พอมันคิดได้ก็ทึ้งหัวตัวเองใหญ่ ผมก็มองเฉยๆจนมันเลิกทึ้งหัวตัวเองแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

 

"ปะไอ้เจมส์ กูต้องไปจัดการนางบ้าพวกนั้นก่อนที่มันจะทำผงฝุ่นของกูอีก"

 

"เห้อ...อย่าแรงมากนะมึง"

 

สัด!!!!

 

กูบอกว่าอย่าแรงไงวะ!!

 

"อะ! อาเฮีย!  ปล่อยขวัญนะ ขวัญเจ็บ"

 

"ทีอย่างนี้ล่ะเจ็บ แล้วที่มึงทำไอ้ฝุ่นละไม่คิดว่ามันจะเจ็บบ้าง มันน่าฆ่าซะดีมะ!!"

 

กรี๊ด!!

 

เสียงกรี๊ดลั่นอย่างตกใจเมื่อไอ้เฮียร์ทำท่าจะฟาดมือใหญ่ใส่ จนตอนนี้เจ้าหล่อนล้มขาอ่อนแรงอยู่บนพื้นห้องชมรมบอลที่ไอ้เฮียร์ลากพวกหล่อนนับสิบคนมาจัดการ ยิ่งพวกที่เหลือที่เห็นไอ้เฮียร์โกรธจัดก็ยิ่งร้องไห้ดังระงม

 

"พวกเราขอโทษ พวกเราจะไม่ยุ่งกับผงฝุ่นแล้ว นะ พวกเราสัญญา" หนึ่งในนั่นร้องบอกก่อนจะคลานเข้ามากอดขาไอ้เฮียร์แน่น มันเลยยอมปล่อยมือออกจากเสื้อน้องขวัญแล้วดึงร่างบางคนนั้นขึ้นมาแทน

 

"กูเคยเตือนพวกมึงแล้วว่าอย่ามายุ่งวุ่นวายกับชีวิตกู ถ้าล้ำเส้นเข้ามานิดเดียวกูไม่ปล่อยพวกมึงไว้แน่"

 

พลั่ก!

 

แล้วมันก็ผลักร่างบางนั้นลงกับพื้นจนเจ้าหล่นกลิ้งมาแทบเท้าผม ผมเลยค่อยๆพยุงเธอขึ้นยืนแล้วดันไปข้างหลัง

 

"พอแล้วมึง มันจะมากเกินไปแล้ว" ผมเตือนสติร่างสูงให้หยุดเมื่อมันเริ่มควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ถึงใจจะรู้ว่ามันไม่มีทางทำร้ายผู้หญิง แต่ถ้าเป็นเรื่องของผงฝุ่น...มันก็ไม่แน่

 

"กูฝากต่อด้วย" มันคงจะเพิ่งนึกได้ว่าทำแรงเกินไป มันเลยบอกผมแค่นั้นก่อนจะหยิบบุหรี่ในกระเป๋าขึ้นสูบ แต่ก่อนจะไปมันก็ตวัดตาคมใส่ทุกคนในนั้นจนสะดุ้งกันไปหลายเฮือกก่อนจะเดินออกไปจากห้อง แต่พอมันออกไป...สาวๆก็กรี๊ดร้องเสียงดังลั่นพร้อมกับพ่นคำขอโทษมากมายจนผมเริ่มกลัวพวกหล่อน

 

"พอๆแล้วๆ เลิกร้องได้แล้ว" ผมร้องบอกเมื่อรู้สึกปวดหูกับเสียงพวกเธอ แต่มันก็ไม่ได้ผลจนผมต้องตบตู้ล็อกเกอร์เสียงดังลั่น

 

ปังๆๆ

 

"เงียบ!!"

 

เงียบกริบ

 

"เออ...พูดให้มันได้ง่ายๆอย่างนี้สิวะ" ผมถอนหายใจออกมาหลายเฮือกก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบแก้เครียดบ้าง

 

"ฟังนะ การเป็นแฟนคลับที่ดีคือการคอยสนับสนุนคนที่เราปลื้ม ไม่ใช่มาทำให้เขาเครียด ยิ่งพวกเธอทำแบบนี้ไอ้เฮียร์ยิ่งเกลียดพวกเธอ ที่จริงก็รู้อยู่แล้วว่ามันไม่ชอบให้ใครยุ่งเรื่องส่วนตัว ยิ่งพวกเธอไปยุ่งกับทาสมันมันยิ่งโกรธ ถ้าอยากเห็นไอ้เฮียร์อีกก็ทำตัวดีๆซะ ก่อนที่มันจะหมดความอดทน"

 

"แต่ว่า..." มีปัญหาอีก!

 

"ไม่ต้องพูด ถ้าไม่เชื่อในสิ่งที่พี่พูด พวกเธอได้โดนดีแน่น"

 

อึก!

 

พวกเธอตัวแข็งทื่อไปเลยครับ ผมเลยอัดควันเข้าปอดก้อนใหญ่ก่อนจะพ่นมันออกมาเป็นทางยาวเมื่อรู้สึกว่าพวกเธอจะไม่ก่อปัญหาอีก เพราะพวกเธอก็รู้ว่าที่ผมพูดนั้นมันเป็นเรื่องจริงที่ไอ้เฮียร์จะทำแน่ ผมเลยเดินออกจากห้องแล้วกลับไปหาร่างสูงที่กำลังระดมโทรหาไอ้ฝุ่นอยู่

 

"เป็นไง ติดปะ"

 

"ไม่ว่ะ สงสัยจะโกรธหนัก" หน้ามันดูเครียดมากเลยครับ 

 

"เห้อ" แล้วแต่มึงแล้วล่ะวะ กูหมดปัญญาจะช่วยมึงแล้วจริงๆ

 

แล้ววันนี้ผมก็ไม่เจอไอ้เตี้ยเลยทั้งวัน เลยคาดว่ามันน่าจะหนีกลับบ้านไปแล้ว พอเลิกเรียนไอ้เฮียร์ก็ตามไปดูที่บ้านทันที ส่วนผมเองก็ได้เวลาพักสมองแล้วเหมือนกัน

 

พอถึงบ้านผมก็อาบน้ำอาบท่าเตรียมตัวนอนทันที ไม่คิดจะกินข้าวด้วยผม ไม่ไหวและล่ะวันนี้ ขอนอนก่อนนะครับ

 

~Bye bye love....~

 

เหี้ย!!

 

ผมสะดุ้งตื่นจากที่นอนทันทีที่เสียงริงโทนมันดังสนั่นลั่นห้อง หัวผมนี่จี๊ดเลยครับ ปวดจนอยากจะด่าคนที่โทรมาจริง

 

"สัด! ดึกขนาดนี้ยังโทรมาอีก พ่อมึงไม่สอนรึไงสัด!!" พอกดรับสายได้พ่อปั๊ดด่าไม่เลือก แต่พอผมได้ยินเสียงสะอื้นจากปลายสายก็เล่นเอาลืมหายใจเลยทีเดียว

 

"นะ นี่ใครวะ" ผมถามมันเมื่อเห็นเบอร์ที่โทรมาไม่คุ้ยตาเลยสักนิด แต่พอมันพูดเท่านั้นและ ใจผมหายวาบทันที

 

"พี่เจมส์...ฮึกๆ พี่เจมส์ ช่วยผมด้วย"

 

เหี้ยโจ!!

 

"มึงเป็นอะไรวะ ทำไมร้องไห้แบบนั้น!!" ผมผวาลงจากเตียงไปเปิดไฟให้สว่างทั่วห้องก่อนจะกัดเล็บตัวเองเมื่อความเครียดเข้าครอบงำอย่างลืมตัว

 

"พี่เจมส์ ผะ ผมกลัว ฮึกๆ ผมกลัว. ฮื่อๆ..." 

 

"หยุดร้อง! มึงเป็นน้องกูต้องอย่าร้องสิวะ มึงค่อยๆบอกกูมาว่ามึงอยู่ไหน กูจะไปหาเดี๋ยวนี้" ผมสั่งมันเสียงเข้มเพื่อให้อีกคนตั้งสติ มันเลยสะอึกอีกสองสามครั้งก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงที่ดูคุ้นหูมาก

 

(น้องมึงอยู่กับกูที่โกดังXXX  รีบมาหน่อยนะมึง ก่อนที่กูจะทำอะไรน้องมึงแก้เบื่อตอนที่รอมึงมา)

 

อึก!

 

"สัด! อย่าแตะน้องกูนะเว้ย!!"

 

(หึ ก็รีบมาสิวะ (พี่เจมส์ ฮื่อๆ รีบมานะ ผมกลัว ฮื่อๆ)....)

 

"อะ ไอ้โจ!!  ไอ้โจ!"

 

ติ๊ด

 

แต่ยังไม่ทันที่ผมจะร้องหาน้องชาย มันก็ตัดสายผมทิ้งอย่างไม่ใยดี ก่อนที่ขาผมจะเริ่มอ่อนแรงและทรุดลงกับพื้นห้องทันที

 

ไอ้โจ...อย่าเป็นอะไรไปนะมึง

 

ผมเริ่มตั้งสติให้เลิกฟุ้งซ่านก่อนจะวิ่งไปคว้ากุญแจรถที่วางอยู่บนโต๊ะอ่านหนังสือ พอคว้าได้ก็รีบออกไปหาน้องชายตัวเองตามที่มันบอกทันที

 

ตอนนี้ใจผมสั่นมากเลยครับ ถ้าไอ้โจเป็นอะไรไปผมต้องขาดใจแน่ เรามีอยู่ด้วยกันสองพี่น้อง แล้วผมก็ดูแลมันตั้งแต่เด็กด้วยมือตัวเอง แต่ถ้ามันโดนใครทำร้ายจนบาดเจ็บผมคงทนไม่ได้แน่

 

นี่กูสอนมึงไม่ดีใช่มั้ยมึงถึงเดินเข้าไปหาเรื่องบ้าบอแบบนี้

 

ไม่นานผมก็มาถึงโกดังขนาดใหญ่ที่ถูกปล่อยร้างบางส่วน แต่อีกฝากก็ยังคงถูกใช้งานตามปกติ ผมเลยมองไปรอบๆเพื่อหาทางหนีทีไล่ก่อนจะเดินไปหากลุ่มผู้ชายสี่ห้าคนที่ยืนดูผมอยู่หน้าประตูโกดังบานใหญ่ แต่เพียงแค่ผมเดินเข้าไปหาก็มีผู้ชายคนหนึ่งที่ใส่ชุดหนักศึกษาของสถาบันชื่อดังเดินมาทางผมพร้อมกับเอ่ยถามเสียงเข้ม

 

"มึงคือพี่ชายไอ้โจใช่มะ"

 

สัด!

 

"เออ แล้วน้องกูอยู่ไหน" ผมกวาดตาไปรอบตัวก็เจอมันเพียงแค่สี่คน แต่ยังไม่เจอน้องชายผมเลยสักนิด ไอ้นั่นเลยพยักหน้าให้คนข้างหลังเป็นสัญญาณอะไรสักอย่างก่อนที่คนนั้นจะวิ่งไปเปิดประตูโกดังข้างหน้าออกจนเผยบุคคลนับสามสิบคนที่กำลังสนุกท่ามกลางเสียงเพลงและสิ่งมึนเมาอยู่ในนั้น 

 

พอประตูถูกเปิดออกผมก็ถูกผลักให้เดินเข้าไปท่ามกลางสายตาดุดันของพวกนั้นก่อนที่ผมจะรีบกวาดตามองโดยรอบเพื่อหาน้องชายตัวเอง จนผมรู้สึกว่านี่มันไม่ใช่แค่โกดังร้าง แต่มันเป็นเหมือนที่กลบดานของพวกคนเลว ยิ่งภายในนั้นมีสิ่งอวยความสะดวกทุกสิ่งทุกอย่างอย่างกับบ้านหลังหนึ่ง มันก็ยิ่งทำให้ผมเริ่มรู้สึกกลัว

 

เพราะมันไม่เหมือนพวกอันธพาลธรรมดาตามท้องถนน แต่มันเหมือนกับพวกทรงอิทธิพลยังไงก็ไม่รู้ ถึงทุกคนจะอยู่ในชุดนักศึกษาทั้งหมดก็เถอะ

 

นี่น้องชายผมไปรู้จักพวกมันได้ยังไง

 

"อะ พี่เจมส์!! พี่เจมส์ช่วยผมด้วย!!"

 

แต่แล้วผมก็ได้ยินเสียงร้องเรียกอย่างดีใจก่อนที่ผมจะเห็นร่างหนาที่ผมคุ้นเคยกำลังถูกมัดติดกับต้นเสากลางโกดัง แค่นั้นผมก็รีบวิ่งไปหามันก่อนจะพยายามแก้เชือกที่มัดข้อมือน้องชายผมที่มันเริ่มเขียวคล้ำเพราะเลือดไม่สามารถไหลผ่านไปล่อเลี้ยงได้

 

"โจๆ มึงโอเคนะ พี่มาแล้วๆ เรากลับบ้านกันนะ" ผมรนรานแกะเชือกให้น้องจนนิ้วที่แกะเริ่มเจ็บ แต่ก็พยายามบังคับเสียงไม่ให้ตัวเองแสดงอาการกลัวออกไป เพราะตอนนี้น้องชายผมกำลังมีผมเป็นที่พึ่ง

 

"พี่เจมส์...ผมขอโทษ ผมขอโทษ"

 

"ไม่เป็นไรมึง เดี๋ยวพี่จัดการเอง มึงปลอดภัยก็พอแล้ว"

 

"หึๆ คิดง่ายไปป่าววะ"

 

อะ! เสียงนี้...คุ้นหูชะมัด

 

ผมหยุดแกะเชือกนั้นทันทีก่อนจะหันไปตามเสียง แต่เพียงแค่ผู้ชายร่างสูงในชุดนักศึกษาพวกนั้นแหวกทางออกเพื่อให้ใครบางคนเดินออกมาก็ทำให้ใจผมสั่นสะท้านทันที

 

"มะ มึง!" 

 

"สวัสดีครับ...น้องเจมส์ หึๆ"

 

อะ ไอ้...ไอ้หล่อขั้นบ้า!!

 

 

 

 

 

 

++++++++++++++++++++++++++++++

140126

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.6 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา