มาเฟียสุดเฟี้ยวกะยัยเปรี้ยวสุดบ้า
9.8
เขียนโดย Akademi
วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2557 เวลา 18.45 น.
12 ตอน
5 วิจารณ์
20.48K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 3 เมษายน พ.ศ. 2557 21.23 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ความซวยมาเยือน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 1
“เย้! มาฉลองให้กับการจบ ม.6 กัน ^0^”
“เย้! ใช่ๆ^0^” อย่าเพิ่งเข้าใจผิดล่ะ ว่าพวกเราดื่มของมึนเมา และกำลังอยู่ในผับในบาร์ซะก่อนล่ะ เพราะที่จริงเราดื่มน้ำอัดลมกัน และอยู่ร้านส้มตำข้างโรงเรียนนั่นเอง
“นานเนอะ กว่าจะจบอ่ะ เรียนหัวแทบหงอก” ยัยท๊อฟฟี่ เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของฉัน ที่กะโปโลที่สุดในกลุ่มของฉัน ซึ่งกลุ่มของฉันมีกันอยู่สามคน อีกคนหนึ่งก็คือ...
“ใช่ ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ เรียนแทบหัวระเบิดเลยอ่ะ” ยังไม่ทันจะแนะนำชื่อมันให้ทุกคนรู้จักเลย ยัยแคนดี้ก็พูดมาซะก่อน (-_-) นี่ล่ะคือเพื่อนสนิทคนที่สองของฉัน และกลุ่มเราก็เป็นกลุ่มที่เรียนเก่งที่สุดในห้อง และที่สำคัญ เกรียนที่สุดด้วย
“นี่ ยัยเจมิน ไปเที่ยวกันไหม เดี๋ยวแกต้องไปเรียนต่อที่เมืองนอกแล้วจะไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันอีก” ยัยท๊อฟฟี่ถามฉันขึ้นมา และชื่อของฉันก็คือ แต๊น แต้น แตน เจมินนั่นเอง ^0^ (ทำเป็นเรื่องตื่นเต้นไปได้ เขารู้กันตั้งแต่ยัยท๊อฟฟี่เรียกแกแล้ว = คนแต่ง)
“คงจะไม่อ่ะ”
“เอ้า! ทำไมล่ะ o_0”
“ฉันว่าจะอยู่บ้านเฉยๆ อ่ะแหละ ถ้าพวกแกจะไปเที่ยวไหนก็อย่าลืมบอกฉันด้วยล่ะ” พูดตามตรงเลยน่ะว่าฉันขี้เกียจที่จะไปเที่ยวมาก เพราะฉันอยากพักผ่อนจากการเรียนหนังสือมากกว่า แต่ถ้ายัยพวกเพื่อนบ๊องๆ ของฉันชวนไปเที่ยวฉันก็จะไป เพราะเดี๋ยวเพื่อนมันเสียน้ำใจอ่ะน่ะ
“อื่อๆ ฉันมีโปรแกรมว่าจะไปภูเก็ตอ่ะ ไปป่ะ?” ยัยแคนดี้ บ้านแกนี่จะรวยไปยันไหนย่ะ แค่ไปจังหวัดใกล้ๆฉันยังคิดแล้วคิดอีกเลย ฉันไม่มีตังค์โว๊ย!!
“แต่ฉันไม่ไปหรอกน่ะ”
“เอ้า!! ทำไมล่ะ/ ทำไมว่ะ” แหม พวกแกนี่รีบประสานสียงกันเลยน่ะ
“ฉันไม่มีตังค์ไปหรอกน่ะ บ้านฉันไม่ได้รวยเหมือนแกน่ะ”
“แกคิดมากกับเรื่องแค่นี้เองเหรอ”
“เออดิ (-_-)” ไม่มีตังค์แล้วฉันจะไปยังไง ไอ้บ้า!! และคุณผู้อ่านคงจะสงสัยที่ฉันบอกไปว่าฉันจน แต่ทำไมถึงไปเรียนเมืองนอกได้ ก็ที่โรงเรียนเค้าให้ทุนไปเรียนต่อ ถ้าไม่มีทุนฉันคงไม่มีปัญญาไปเรียนต่อที่ไกลๆ หรอก
“ฉันเลี้ยงย่ะ จบทั้งที เพื่อนคนนี้เลี้ยงเต็มที่ ไปอยู่ที่รีสอร์ทของอาฉัน ฟรีอยู่แล้ว^0^”
“เย้ จริงอ่ะ >0<” อย่าเพิ่งเข้าใจผิด คิดว่าเป็นฉันที่ร้อง เย้ ล่ะ เพราะคนที่ร้องเย้ ก็คือยัยท๊อฟฟี่ ยัยนี่น่ะ ไปไหนไปด้วยไม่เคยพลาดเลย
“จริงดิ แล้วแกว่าไง ยัยเจมิน”
“ก็ดี ว่าแต่จะไปกี่วันอ่ะ”
“สักสามวันพอมั้ย”
“พอจ้า เพื่อนเลิฟ ^0^” และนี้ก็ไม่ใช่เสียงฉันอีกนั่นแหละ (-_-)
“โอเค งั้นตกลงตามนี้ ถ้าจะไปวันไหน เดี๋ยวบอกอีกทีน่ะ”
“โอเค/โอเค”
“พี่ครับ”
ขวับ ~ ไอ้น้องชายตัวแสบนี่เอง
“ว่าไงบิ๊กกัฟ”
“อ๊ายยยย ^///^ น้องแกหล่อขึ้นทุกวันเลยน่ะ”
“แต่ฉันคิดว่ามันขี้เหร่กว่าเดิมน่ะ ยัยแคนดี้ (-_-)”
“พี่อ่ะ ผมออกจะหล่อน่ะ สาวกรี๊ดตรึม”
“เหรอย่ะ แล้วมาเรียกพี่มีอะไรอ่ะ”
“เอ่อ ... เออ” ไอ้นี่ จะพูดก็ไม่พูด แล้วมันก็ส่งสายตาไปทางยัยแคนดี้ที ยัยท๊อฟฟี่ที นี่มันจะมองหาพระถังกัมจังเหรอไงว่ะ (-_-)
“อะไรเล่า!!”
“เอ่อ...เออ” เอาอีกแล้ว มันมองอีกแล้ว อ๋อ!! สงสัยมันอยากคุยกับฉันแค่สองคน เฮ้อ ~ แล้วก็ไม่บอก
“เอ่อ.. พวกแก งั้นฉันกลับบ้านก่อนน่ะ”
“ทำไมรีบกลับแท้ล่ะ” ยัยท๊อฟฟี่อีกล่ะ ไม่อยากรู้สักเรื่องมันจะตายมั้ยเนี่ย (-_-)
“เออน่า เดี๋ยวฉันเดินกลับกับบิ๊กกัฟเอง”
“เออๆ งั้นถ้าถึงแล้วก็โทรบอกด้วยล่ะ”
“อื่อๆ งั้นฉันไปล่ะน่ะ”
“อื่อๆ”
ฉันเดินออกมาจากร้านพร้อมกับบิ๊กกัฟ น้องสุดที่รักกกกกกกกก -_- ‘ (ประชดน่ะ) และเริ่มต้นถามพร้อมกับเดินกลับบ้าน
“มีอะไร ว่ามา”
“พี่ครับ..”
“อะไร บอกก็บอกมาสิ จะขึ้นม.5 แล้วน่ะ อย่าปอดแหกเหมือนเด็กประถมหน่อยเลย (-_---)”
“ผม....”
“เฮ้ย!! นั่นมันไอ้บิ๊กกัฟนี่หว่า”
“เฮ้ย! พี่เดี๋ยวผมอธิบายให้ฟังทีหลังน่ะ ตอนนี้ผมต้องหนีก่อน 0_0”
“เฮ้ย! เดี๋ยวก่อนสิบิ๊กกัฟ “แล้วไอ้พวกชายชุดดำ เป็นพวกใครกันเนี่ย ทำไมต้องตามบิ๊กกัฟด้วยน่ะ
“เฮ้ย! ไอ้บิ๊กกัฟมันหนีแล้ว รีบไปจับตัวมัน เร็ว!!!” หน๊อยแน่ะ!! พวกแกคิดที่จะทำร้ายน้องฉันใช่มั้ย ฉันไม่ยอมหรอกโว๊ย!!
“อ๊ากกก! ไอ้พวกหน้าปลาจวด แกจะทำอะไรน้องชายฉัน”
หมับ!!
“เฮ้ย!! 0_0” ฉันกระโดดขึ้นหลังไอ้ชายหน้าปลาจวด และก็ปิดตามัน ฮ่าๆ เป็นไงล่ะเจอฉันเข้าไปแล้วจะหนาว
“อ๊ายยย ไอ้โรคจิต แกจับก้นฉัน แม่ยอมไม่ได้โว๊ย!!! 0o0” ไอ้หน้าปลาจวดที่ฉันขึ้นหลัง มันเอามือมาแต๊ะอั๋งก้นฉัน
ฉันรู้ว่ามันไม่ได้ตั้งใจหรอก มันคงตกใจที่ฉันปิดตามัน แต่แม่ไม่ยอมหรอกย่ะ
ป้าบ ป้าบ!!
“เฮ้ย! ยัยบ้า ไม่เคยมีใครตบหัวฉันเลยน่ะ”
“ก็ฉันนี่แหละเป็นคนแรกที่ได้ตบหัวแก ไอ้ลามก”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจน่ะ”
“ฉันไม่สนหรอกย่ะ แกตายๆ อ๊ายยยย”
พลั่ก!
“โอ๊ย~ ไอ้บ้า แกเหวี่ยงฉันลงทำไมเนี่ย”
“ใครบ้าจะให้เธอตบหัวเล่า”
“พี่!! เป็นไรมากมั้ยครับ” มาแล้วเหรอไอ้ตัวแสบ ถ้าฉันไม่ได้ขึ้นหลังไอ้หน้าปลาจวดนี้ แกไม่รอดแน่
“ไม่เป็นไรมากหรอก”
“พี่....”
“ไอ้บิ๊กกัฟ แกยังไม่ยอมใช้หนี้เลยน่ะ” ไอ้หน้าปลาจวดมันพูดเรื่องอะไรของมันเนี่ย
“นี่!! ไอ้หน้าปลาจวด แกพูดเรื่องอะไรนะ”
“นี่เธอเรียกฉันว่าอะไรน่ะ”
“ไอ้-หน้า-ปลา-จวด ทำไมเหรอ o_0” ฉันทำหน้ากวนteen มันเลยยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่
“พี่ อย่าไปพูดยั่วโมโหมันสิ มันเป็นมือปืนมือหนึ่งของย่านนี้เลยน่ะ”
“แล้วไงล่ะ นึกว่าฉันกลัวตายล่ะ” แน่ะ! ฉันยังจะไปปากดีอีก นี่ฉันไม่ได้ตั้งใจพูดไปน่ะ แต่ปากมันไปเองอ่ะ(-_-“)
“นี่แก!!”
“นี่!! แล้วจะบอกมาได้หรือยังว่าแกพูดเรื่องอะไร เมื่อกี้น่ะ” ฉันต้องหาทางรอดก่อนล่ะ ถามมันเลยน่าจะดีกว่า
“ก็น้องแก มันติดหนี้เจ้านายฉันน่ะสิ”
“หะ!! ว่าไงน่ะ” ฉันรีบหันไปหาความจริงจากน้องชายสุดที่รักของฉัน และก็ได้คำตอบมาก็คือ มันหลบหน้าฉัน
“เอ่อ..”
“บอกมาเดี๋ยวนี้น่ะ บิ๊กกัฟ!!!”
“เฮือก!.. ครับ ผมติดหนี้มันครับ” ฉันควรจะขอโทษมันมั้ยเนี่ย เมื่อกี้ฉันแค่เรียก มันยังสะดุ้งเลย ตอนแรกก็ว่าจะขอโทษอยู่หรอก แต่ตอนนี้แม่จะกินหัวมันแล้ว! ><’’’’
“แก....ทำไมต้องไปยืมเงินพวกมันมา”
“เอ่อ ...”
“ก็มันเอาเงินที่ยืมไป ซื้อของให้แฟนมันน่ะสิ ฉันคอยแอบตามแกตลอด ฉันเห็นแกเดินซื้อของให้แฟนแกอยู่”
“จริงเหรอ” ฉันพยายามกลั้นความโกรธไว้ถึงที่สุดก่อนที่มันจะระเบิดออกมา จนที่นี้พังพินาศ
“เอ่อ.. จริงครับ”
“ฮึ่ม!!”
“แต่พี่ครับ ผม...”
“หยุด! ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
“แต่...”
“บอกให้หยุด!! ก็หยุดสิ!!”
“....”
“น้องฉันติดหนี้พวกแกเท่าไร”
“สองหมื่น ฉันให้เวลาแกแค่ 2 เดือน ต้องเอาเงินมาใช้ให้ครบด้วย ไม่งั้นน้องแกตายแน่”
“สองหมื่น!! 0o0 ใครจะไปหาทันฮะ แค่สองเดือนเอง ฉันไม่มีปัญญาหรอกน่ะ”
“ฉันไม่สน”
“แต่....”
ติ๊ด ติด
“ครับเจ้านาย”
‘....’
“ได้ครับ” มันคุยอะไรของมันว่ะ เร็วจริง (-_-) เป็นฉันน่ะคุยเป็นชั่วโมง มัวแต่เม้าท์นู้นเม้าท์นี้กับยัยเพื่อนสองหน่อนั้น ทั้งเรื่องเจอคนหล่อๆ พวกมันวี๊ดว๊าย และชอบมาเล่าให้ฉันฟัง แต่เฮ้ย!! นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องนี้นี่หว่า
“ฉันได้รับคำสั่งให้น้องชายเธอไปทำงาน เพื่อใช้หนี้ที่บ้านเจ้านายของฉัน”
“ฉันจะไปแทนน้องฉันเอง”
“พี่ครับ...”
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่จัดการเอง ส่วนแกก็ทำตามตัวปกติ อย่าให้พ่อแม่รู้ล่ะ เดี๋ยวท่านจะไม่สบายใจ”
“ครับ..”
“นี่!! ฉันยังไม่ได้บอกเลยน่ะ ว่าเธอจะไปทำงานแทนน้องเธอได้นะ”
“ยังไงก็ต้องได้”
“เอ้า!! ยัยนี่ ตกลงใครเป็นคนขู่กันแน่เนี่ย”
“เออน่า! แกก็ลองโทรถามเจ้านายแกหน่อยสิ”
“เออๆ ก็ได้ แต่ถ้าไม่ได้ขึ้นมา ต้องทำตามเดิมน่ะ”
“อื่อๆ”
“เจ้านายครับ”
‘....’
“พี่สาวของไอ้บิ๊กกัฟ ขอทำงานแทนน้องชายของมันครับ เจ้านายจะอนุญาตมั้ยครับ”
‘…. ‘ มันพูดอะไรกันว่ะ พูดให้มันดังๆหน่อยได้มั้ย (ใครบ้าจะคุยให้แกได้ยินล่ะย่ะ)
“ครับ”
หลังจากไอ้หน้าปลาจวดวางสาย ฉันก็รีบถามมันทันทีทันใด
“ตกลง ได้มั้ย”
“เจ้านายของฉันอนุญาต พรุ่งนี้จะมีคนไปรับที่หน้าบ้านเธอ เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ ขนเอาของไปเฉพาะจำเป็นล่ะ เพราะอยู่ที่นั้นคงไม่ได้ใช้อะไรมากหรอก เพราะว่างานมันหนักกว่าที่เธอคิด”
“อะไรน่ะ พรุ่งนี้เลยเหรอ 0_0” ฉันไม่ได้สะเทือนอะไรกับคำของมันเลย นอกจากคำว่าจะไปพรุ่งนี้ แล้วฉันจะบอกพ่อแม่ยังไงเนี่ย
“ก็ใช่น่ะสิ ถ้าไม่ไปพรุ่งนี้ ก็ตามที่เราตกลงกันไว้”
“เออๆ ก็ได้ กี่โมงว่ามา”
“10.00 น.”
“ตามนั้น ป่ะ! บิ๊กกัฟ เรากลับบ้านกันเถอะ”
“ครับ”
ฉันและบิ๊กกัฟเดินกลับบ้าน โดยที่ไม่มีใครพูดอะไรเลย ในที่สุดบิ๊กกัฟก็พูดออกมาทำลายความเงียบ
“พี่ไม่จำเป็นต้องใช้หนี้แทนผมหรอกน่ะ”
“หืม?”
“ผมควรจะเป็นคนไปทำงานน่ะ แต่ทำไมพี่...”
“ฉันไม่อยากให้พ่อแม่ต้องเสียใจเพราะแก ฉันจะทำงานใช้หนี้แทนแกเอง”
“พี่ครับ..ฮึก ฮือๆ T^T”
“โธ่ ไอ้เด็กไม่รู้จักโต ร้องไห้เป็นผู้หญิงไปได้ ^-^” ฉันกอดไอ้น้องชายตัวแสบของฉัน นานเท่าไรแล้วน่ะที่ฉันไม่ได้กอดน้องชายฉันเลย เพราะว่าตอนนี้มันโตเป็นหนุ่มแล้วน่ะสิ และฉันห่างกับมันแค่สองปีเอง ฉันเดินไปกับมันที่ไหนมีแต่คนหาว่าเราเป็นแฟนกันตลอดแหละ
“หยุดร้องได้แล้ว กลับบ้านกันเถอะ” ฉันคลายกอดจากบิ๊กกัฟ และก็ชวนกันกลับบ้าน
“ครับ”
ที่บ้าน
“พ่อคะ แม่คะ เรากลับมาแล้วค่ะ”
“มากินข้าวกันสิลูก”
“ค่ะ/ครับ”
ฉันเดินมาในห้องครัว พร้อมกับหน้าตาที่เป็นกังวล จนพ่อกับแม่สังเกตเห็น
“เจมิน เป็นไรหรือเปล่าลูก”
“อ่อ.. เปล่าค่ะ (-_-“) ”
พวกเรากินข้าวกันได้สักพัก ฉันก็ทนไม่ไหวแล้ว อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดว่าฉันปวดขี้ล่ะ แต่ฉันทนไม่ไหวที่จะไม่พูดแล้ว ยังไงวันนี้ก็ต้องพูดกับพ่อและแม่ให้ได้ พรุ่งนี้ฉันจะต้องไปแล้ว
“เอ่อ.. แม่คะ พ่อคะ”
“ว่าไงลูก”
“หนูจะขอไปทำงานตอนปิดเทอมนะค่ะ”
แก๊ง!
เสียงพ่อวางช้อนแล้ว พ่อฉันน่ากลัวสุดแล้ว ห่วงลูกสาวอย่างฉันมากเลยแหละ จะให้ไปไหนทีต้องคิดลำบาก
“งานอะไร (-_-) ” แค่เสียงก็น่ากลัวแล้ว
“เอ่อ.. งานเลี้ยงเด็กอ่อนค่ะ”
“ที่ไหน (-_-) ”
“เอ่อ.. บ้าน (-_-“)”
“บ้านของเพื่อนแฟนผมครับ แม่ของเขามีลูกแต่ไม่มีเวลาเลี้ยงเอง ก็เลยขอความช่วยเหลือจากผมน่ะครับ ผมก็เลยแนะนำพี่เจมินไป” ดีน่ะ ที่บิ๊กกัฟบอกแทน เพราะฉันคิดไม่ออกเลยว่าจะตอบท่านไปว่าอย่างไง
“แล้วพ่อจะเชื่อใจเขาได้ยังไง และที่สำคัญลูกต้องเตรียมตัวไปเรียนต่อที่เมืองนอกน่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ สองอาทิตย์ก่อนไปเรียนหนูจะกลับมาค่ะ”
“และผมก็ขอรับประกันความปลอดภัยด้วยหัวของผมเลยครับ”
ขวับ!
ฉันรีบหันหน้าไปหาบิ๊กกัฟทันที ไอ้บ้า! บ้านที่ฉันจะไปทำงานน่ะอันตรายยิ่งกว่าเข้าดงเสืออีกน่ะ แล้วแกบอกพ่อไปได้ไงว่ารับประกันได้อ่ะ
“แน่ใจน่ะ”
“ครับ”
“แล้วจะไปเมื่อไรล่ะ”
“พรุ่งนี้ค่ะ”
“หะ!! ทำไมมันถึงเร็วขนาดนั้นล่ะ”
“เอ่อ.. เพราะว่าเขาจะไปเมืองนอกพรุ่งนี้น่ะครับ เลยต้องรีบไป”
“เหรอ งั้นก็ไปเตรียมตัวเถอะลูก”
“ค่ะ”
“เดี๋ยวก่อน” แงะๆ อะไรอีกอ่ะพ่อ หนูกลัวน่ะ
“คะพ่อ (-_-“)”
“ลูกต้องโทรมมาหาพวกเราบ่อยๆน่ะ” เฮ้อ โล่งใจ นึกว่าจะเปลี่ยนใจไม่ให้ไปซะแล้ว
“ค่ะ”
ฉันเดินขึ้นห้องพร้อมกับอาการเซ็งจิต ปวดตับ ปวดม้าม รู้สึกเหมือนว่าจะปวดขี้ด้วยแหละ งั้นขอไปเข้าห้องน้ำอาบน้ำพร้อมขี้ก่อนล่ะน่ะ บายๆ
เวลาผ่านไป 40 นาที สบายเนื้อสบายตัวดีจริงๆ ไปนอนดีกว่า แต่เอ๊ะ! ต้องโทรหายัยเพื่อนทั้งสองก่อน เดี๋ยวมันได้โวยเป็นแน่
ตื๊ดตืด ตื๊ดตืด
‘ฮัลโหล ว่าไงคุณเพื่อน’
“จะว่าไงล่ะ ก็แกให้ฉันโทรมาหนิ”
‘เออ โทษทีลืมว่ะ ‘ ยัยท๊อฟฟี่เป็นคนที่รั่วที่สุดในกลุ่มเลยน่ะ รั่วได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ (-_-)
“ประชุมสายกับยัยแคนดี้ดิ มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง”
‘อ่อๆ แป๊ปนึงน่ะ’
“อื่อๆ”
ตื๊ดตืด ตื๊ดตืด
‘Hello คุณเพื่อนทั้งสอง ^0^’ <= ยัยแคนดี้
‘เออๆ เจมินมันมีเรื่องจะเล่าให้พวกเราฟังอ่ะ’ <=ยัยท๊อฟฟี่
‘ว่ามาเลย เพื่อนคนนี้พร้อมฟังอยู่แล้ว’<=ยัยแคนดี้
‘เจมินมันเป็นเรื่องที่แกซีเรียสมากเลยใช่ป่ะ’ <=ยัยท๊อฟฟี่
“ใช่ แกรู้ได้ไงอ่ะ”
‘ก็ฟังจากเสียงแล้ว ใครไม่รู้ก็โง่แล้ว’<=ยัยท๊อฟฟี่
‘เฮ้ย! แล้วจะเริ่มเล่าได้ยังเนี่ย’ ยัยแคนดี้ก็บ่นจริงๆเลย อยากฟังละสิ ขอแกล้งมันหน่อยล่ะกัน โหะๆ ^0^
“เออๆ กาลครั้งหนึ่งมีอยู่ว่า พื้นไม้ พื้นปูน พื้นกระเบื้อง....”
‘เฮ้ยๆ เดี๋ยวก่อน นี่มันอะไรกันเนี่ย พื้นไม้ พื้นปูน พื้นกระเบื้อง.... เรื่องอะไรของแกเนี่ยยัยเจมิน (-_-) ‘ <=ยัยแคนดี้
‘เออ นั่นดิ เรื่องอะไรของแกว่ะ’ <=ยัยท๊อฟฟี่
“เอ้า! พวกแกไม่รู้จักนิทานพื้นบ้านเหรอ โหะๆ ^0^ ”
‘นี่!!! / นี่!!!’ อะไรว่ะ ล้อล่นแค่นี้ทำมาเป็นเสียงดุใส่ ชิๆ เลิกเล่นก็ได้
“แหะๆ ^^; เค้าล้อเล่นน่ะตัวเอง”
‘อย่าเล่นอย่างนี้อีกน่ะ พวกเราซีเรียสรู้ป่ะ’ <=ยัยแคนดี้
‘เออ ใช่’<=ยัยท๊อฟฟี่
“รู้แล้วจ๊ะ”
‘งั้นเริ่มเล่าเลยดิ (-_-)’
“อืม ตอนที่ฉันกลับบ้านกับบิ๊กกัฟ...........................” ฉันก็เล่าเรื่องที่ฉันประสบพบเจอให้ยัยพวกนี้ฟัง มันก็เป็นผู้ฟังที่ดีจริงๆ คอยถามแทรกตลอดอ่ะ กว่าจะจบก็ล่อเป็นชั่วโมงเลย (-_-)
“จบแล้ว”
‘อื่อ ฉันขอถามแกเป็นคนแรกเลยแล้วกันน่ะ’
“ว่ามา”
‘แล้วแกจะไปเที่ยวภูเก็ตกับพวกฉันได้มั้ยเนี่ย!!’ ไอ้เราก็นึกว่าจะถามเรื่องที่ดีกว่านี้ แต่แกดันถามเรื่องเที่ยวเนี่ยน่ะ
“ไม่รู้สิ ถ้าเจ้านายของไอ้หน้าปลาจวดไม่ให้ไปก็คงไม่ไปอ่ะน่ะ”
‘โห้ เซ็งอ่ะ’
“นี่!! ยังไม่ทันรู้เลยว่าจะได้ไปหรือเปล่า ทำไมแกรีบเซ็งแท้ล่ะ”
‘ฉันก็แค่ซ้อมๆไว้อ่ะน่ะ’
“เหรอ”
‘นี่ยัยแคนดี้ ให้ฉันคุยกับยัยเจมินมั้งดิ’ ยัยท๊อฟฟี่ ถ้าไม่ได้คุยสักวันจะตายมั้ยเนี่ย(-_-)
‘เออๆ’
‘นี่ยัยเจมิน’
“ว่าไง”
‘แกบอกว่าไอ้ลูกน้องที่มันมาหาเรื่องบิ๊กกัฟหน้าตาเหมือนปลาจวดใช่ป่ะ’
“อืม ทำไมเหรอ 0_o”
‘ฉันว่าเจ้านายของมันจะต้องหน้ากลมเหมือนโดเรม่อน ผอมเหมือนไอ้ก้าง หัวล้านเหมือนลานบิน กลิ่นตัวก็คงจะเหม็นเขียวแน่เลยอ่ะแก’
“แกอย่าพูดให้ฉันใจเสียได้มั้ย”
‘เอ้า!! ก็มันจริงหนิ’
“แกเคยเห็นหน้าแล้วเหรอ”
‘ยังอ่ะ’
“แล้วแกรู้ได้ไงว่าเขาหน้าตาเหมือนอย่างที่แกพูดอ่ะ”
‘ฉันก็ใช้หลักวิทยาศาสตร์ โดยดูคนรอบข้างไง เขาบอกว่าถ้าอยู่กับคนนั้นๆ นานๆ จะหน้าตาคล้ายกันอ่ะ’
“เหรอ”
‘อืม’
“ฉันควรจะเตรียมใจรับกับหน้าตาอันประหลาดของเจ้านายฉันใช่มั้ยเนี่ย”
‘ใช่/ใช่’
“เฮ้อ ~”
แอ๊ด ~
“เจมิน เตรียมข้าวของยังลูก”
“อ่อ ยังค่ะแม่”
“มันดึกแล้วน่ะ รีบเตรียมแล้วก็รีบนอนซะน่ะ”
“ค่ะแม่”
ปัง
“เฮ้ยแก!! เดี๋ยวฉันเตรียมของก่อนน่ะ ฝันดีน่ะเพื่อน”
‘อืม ฝันดีเพื่อน / ฝันดีน่ะ’
“อืม”
ก๊อกๆ
“เจมิน ตื่นได้แล้วลูก สายแล้วน่ะ”
“หาว ~ ตื่นแล้วค่ะ”
“ตื่นแล้วก็รีบอาบน้ำน่ะลูก”
“ค่ะ”
กี่โมงแล้วเนี่ย แม่รีบมาปลุกแต่เช้าเลย นอนต่ออีกครึ่งชั่วโมงได้มั้ยเนี่ย
“หา!! 8 โมง” ต้องรีบแล้วเรา ป่านนี้พ่อคงไปทำงานแล้วแน่เลย ก็ดีเหมือนกันเราจะได้ไม่อึดอัดใจ ฉันรีบไปอาบน้ำโดยอาบด้วยความเร็วแสง ประมาณ 30 นาที ก็เสร็จภารกิจอาบน้ำ (ความเร็วแสงตรงไหนย่ะ นานขนาดนั้น บ้านฉันเรียกว่าเล่นขี้อยู่ในห้องน้ำ)
ตึก ตัก
“เจมิน เดินเบาๆ สิลูก (-_-) ถ้าพ่ออยู่โดนดุไปแล้วน่ะเนี่ย”
“ขอโทษค่ะแม่”
“มากินข้าวสิลูก”
“ค่ะ แล้วบิ๊กกัฟไปไหนล่ะค่ะ”
“น้องยังไม่ตื่นเลย แม่วานให้ลูกไปปลุกน้องหน่อยสิ” ไอ้น้องคนนี้ต้องให้ปลุกตลอด เดี๋ยวแม่จะเอาน้ำไปสาดเลยคอยดู
“ได้ค่ะ”
ก๊อก ก๊อก!
“ตื่นได้แล้วไอ้ขี้เซา”
“อีกครึ่งชั่วโมงน่ะพี่”
“แล้วแต่แกน่ะ เพราะอีกครึ่งชั่วโมงไอ้พวกนั้นก็คงจะมารับฉันไปแล้วล่ะ”
แอ๊ด ~
“เฮ้ย!! ตกใจหมดเลย” ไอ้น้องคนนี้ เปิดประตูออกมาไม่ยอมบอกกล่าว ถ้าเกิดฉันหัวใจวายตายไป แกจะทำไงห๊ะ!!
“’งั้น พี่รอผมแป๊ปนึงน่ะ เราจะไปกินข้าวพร้อมกัน” อะไรของมัน อยู่ดีๆ ก็อยากจะกินข้าวกับฉันซะงั้น สงสัยมันกินยาไม่ได้เขย่าขวดแน่เลย
“อืม”
10 ผ่านไป ไวอย่างกับโกหก
“เสร็จแล้วครับ” ไอ้นี้อาบน้ำเร็วเป็นบ้า แต่ก็ดีเพราะฉันคงไม่รอมันอาบน้ำนานหรอก
“เสร็จแล้วก็ไปกินข้าวกัน ^^”
“ครับ ^^ ”
ระหว่างที่เดินลงมากินข้าว ไอ้น้องชายก็มองฉันตลอดการเดินจนฉันทนไม่ไหวเลยต้องถามมัน สงสัยจะมีปัญหาอยากจะถาม
“มองหน้าพี่มีปัญหาเหรอไง”
“อ่อ..เปล่าหรอก แค่คิดว่าไม่มีพี่อยู่คง....”
“แกคงจะดีใจล่ะสิ” ฉันรู้ความคิดแกน่ะว่าแกไม่อยากให้ฉันอยู่อ่ะ เพราะถ้าฉันอยู่แกคงไม่มีวันที่สวยงามแน่
“คงเหงาต่างหากล่ะ”
“จริง? 0_0” อึ้งเลยค่ะท่านผู้อ่าน คนอย่างไอ้บิ๊กกัฟเนี่ยน่ะบอกว่าถ้าฉันไม่อยู่มันคงเหงา สงสัยมันเมายาดมแน่เลย
“จริงสิ ถึงแม้พี่จะเป็นคนขี้บ่น ขี้โมโห โวยวาย ชอบแกล้งน้อง..”
“เฮ้ย! หยุดได้แล้ว ก่อนที่แกจะโดนฉันกินหัว ไอ้น้องบ้า!!”
“ถึงพี่จะเป็นแบบนั้น แต่ผมก็รักพี่น่ะ แล้วตอนที่พี่ไม่อยู่แล้วผมจะโดนใครแกล้งอ่ะ”
“พอๆ เดี๋ยวได้อ้วกก่อนกินข้าวแน่ -///-” เล่นอย่างนี้เลยเหรอ เขินเป็นน่ะเว้ย!
“แหะๆ ^^;”
ตึก ตึก
“สองพี่น้องมากินข้าวสิลูก”
“ค่ะ/ครับ”
“ฝีมือแม่อร่อยเหมือนเดิมเลยนะค่ะ”
“แหม อย่าชมแม่อย่างนี้สิ แม่ก็เขินเป็นน่ะ^///^”
“ฮะฮ่าๆ แม่เขินแล้วน่ารักจัง ^_^”
ปริ๊น ปริ้น ~~
“สงสัยเขามารับหนูแล้วล่ะค่ะ” มาที ได้จังหวะเชียวน่ะ ฉันเพิ่งกินข้าวได้แค่ 3 คำเอง ขอย้ำว่า 3 คำ!!
“แต่ลูกเพิ่งกินข้าวได้แค่นิดเดียวเองน่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะแม่ หนูไม่ค่อยหิวเท่าไร” คอยดูน่ะ ฉันจะด่าไอ้คนที่มารับ แกทำให้ฉันได้กินข้าวแค่ 3 คำ
“จ้าๆ”
“แม่ครับ เดี๋ยวผมขอไปส่งพี่ที่รถน่ะครับ”
“อ่อจ้า”
ปริ๊น ปริ้น ~~
“เออ รู้แล้วน่า จะบีบแตรให้เสียงดังรบกวนชาวบ้านทำไมเนี่ย”
“ใจเย็นๆสิพี่ เดี๋ยวเราค่อยจัดการกับมันทีหลัง แต่ตอนนี้แม่อยู่น่ะ สงบสติอารมณ์หน่อย” ดีน่ะที่บิ๊กกัฟกระซิบข้างหูเตือนฉันก่อน ไม่งั้นฉันด่าไม่ยั้งไปแล้ว
“อืม งั้นแม่ค่ะหนูไปก่อนนะค่ะ ^^”
“จ้า ดูแลตัวเองด้วยน่ะ ^^ ”
“ค่ะ”
“รีบไปเถอะพี่”
“อืมๆ”
มีรถเบนซ์คันหรูจอดอยู่หน้า แต่ไม่เห็นข้างในเลยอ่ะ มันจะติดฟิล์มหนาอะไรขนาดนั้นกะจะไม่ให้ใครเห็นว่าทำอะไรกันเลยใช่ป่ะ ติดฟิล์มอย่างนี้ต้องเป็นพวกมีศัตรูเยอะแน่เลย เช่น พวกมาเฟีย อะไรประมาณนั้นอ่ะ
“นี่เธอ!! ทำอะไรนานจังฉันบีบแตรตั้งหลายรอบไม่ยอมออกมาสักที”
“ไม่ต้องรู้จะได้มั้ย”
“นี่!!”
“พี่อย่าไปกวนประสาทมันสิ พี่รีบไปเถอะน่ะ”
“เออๆก็ได้ -_____-;;;;” ไอ้น้องคนนี้ชอบขัดขวางความสุขฉันที่จะกวนประสาทไอ้นี่อีกแหละ
“ขึ้นรถสิ”
“เออๆ รู้แล้วๆ” ไอ้นี่ก็เร่งอยู่ได้ เดี๋ยวแม่ซัดให้เลย
“บายๆ พี่”
“อืม บายๆ” จะว่าไปไอ้น้องคนนี้ฉันก็รักมันน่ะ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่แสดงออก แต่ยังไงพี่น้องก็ไม่เกลียดกันหรอก
บรื๊น บรื้น~~
ใช้เวลาในการเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงพระราชวังอะไรก็ไม่รู้เนี่ย ได้ข่าวว่าฉันมาทำงานที่บ้านไม่ใช่พระราชวังไม่ใช่เหรอ แล้วไอ้หน้าปลาจวดนี่พาฉันมาที่พระราชวังทำไมเนี่ย
“นี่!! บ้านเจ้านายแกเหรอ”
“ใช่ สวยใช่มั้ยล่ะ”
“ไม่ใช่สวยอย่างเดียวน่ะ โคตรใหญ่เลยแหละ *0* ” ไม่น่าเชื่อว่านี้จะเป็นบ้าน เพราะว่าบ้านมันใหญ่มาก ถามจริงเคยเดินหลงในบ้านตัวเองมั้ยเนี่ย
“นี่ถึงแล้ว เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปพบกับเจ้านายฉันก่อน”
“อืมๆ”
“เย้! มาฉลองให้กับการจบ ม.6 กัน ^0^”
“เย้! ใช่ๆ^0^” อย่าเพิ่งเข้าใจผิดล่ะ ว่าพวกเราดื่มของมึนเมา และกำลังอยู่ในผับในบาร์ซะก่อนล่ะ เพราะที่จริงเราดื่มน้ำอัดลมกัน และอยู่ร้านส้มตำข้างโรงเรียนนั่นเอง
“นานเนอะ กว่าจะจบอ่ะ เรียนหัวแทบหงอก” ยัยท๊อฟฟี่ เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของฉัน ที่กะโปโลที่สุดในกลุ่มของฉัน ซึ่งกลุ่มของฉันมีกันอยู่สามคน อีกคนหนึ่งก็คือ...
“ใช่ ฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ เรียนแทบหัวระเบิดเลยอ่ะ” ยังไม่ทันจะแนะนำชื่อมันให้ทุกคนรู้จักเลย ยัยแคนดี้ก็พูดมาซะก่อน (-_-) นี่ล่ะคือเพื่อนสนิทคนที่สองของฉัน และกลุ่มเราก็เป็นกลุ่มที่เรียนเก่งที่สุดในห้อง และที่สำคัญ เกรียนที่สุดด้วย
“นี่ ยัยเจมิน ไปเที่ยวกันไหม เดี๋ยวแกต้องไปเรียนต่อที่เมืองนอกแล้วจะไม่ได้ไปเที่ยวด้วยกันอีก” ยัยท๊อฟฟี่ถามฉันขึ้นมา และชื่อของฉันก็คือ แต๊น แต้น แตน เจมินนั่นเอง ^0^ (ทำเป็นเรื่องตื่นเต้นไปได้ เขารู้กันตั้งแต่ยัยท๊อฟฟี่เรียกแกแล้ว = คนแต่ง)
“คงจะไม่อ่ะ”
“เอ้า! ทำไมล่ะ o_0”
“ฉันว่าจะอยู่บ้านเฉยๆ อ่ะแหละ ถ้าพวกแกจะไปเที่ยวไหนก็อย่าลืมบอกฉันด้วยล่ะ” พูดตามตรงเลยน่ะว่าฉันขี้เกียจที่จะไปเที่ยวมาก เพราะฉันอยากพักผ่อนจากการเรียนหนังสือมากกว่า แต่ถ้ายัยพวกเพื่อนบ๊องๆ ของฉันชวนไปเที่ยวฉันก็จะไป เพราะเดี๋ยวเพื่อนมันเสียน้ำใจอ่ะน่ะ
“อื่อๆ ฉันมีโปรแกรมว่าจะไปภูเก็ตอ่ะ ไปป่ะ?” ยัยแคนดี้ บ้านแกนี่จะรวยไปยันไหนย่ะ แค่ไปจังหวัดใกล้ๆฉันยังคิดแล้วคิดอีกเลย ฉันไม่มีตังค์โว๊ย!!
“แต่ฉันไม่ไปหรอกน่ะ”
“เอ้า!! ทำไมล่ะ/ ทำไมว่ะ” แหม พวกแกนี่รีบประสานสียงกันเลยน่ะ
“ฉันไม่มีตังค์ไปหรอกน่ะ บ้านฉันไม่ได้รวยเหมือนแกน่ะ”
“แกคิดมากกับเรื่องแค่นี้เองเหรอ”
“เออดิ (-_-)” ไม่มีตังค์แล้วฉันจะไปยังไง ไอ้บ้า!! และคุณผู้อ่านคงจะสงสัยที่ฉันบอกไปว่าฉันจน แต่ทำไมถึงไปเรียนเมืองนอกได้ ก็ที่โรงเรียนเค้าให้ทุนไปเรียนต่อ ถ้าไม่มีทุนฉันคงไม่มีปัญญาไปเรียนต่อที่ไกลๆ หรอก
“ฉันเลี้ยงย่ะ จบทั้งที เพื่อนคนนี้เลี้ยงเต็มที่ ไปอยู่ที่รีสอร์ทของอาฉัน ฟรีอยู่แล้ว^0^”
“เย้ จริงอ่ะ >0<” อย่าเพิ่งเข้าใจผิด คิดว่าเป็นฉันที่ร้อง เย้ ล่ะ เพราะคนที่ร้องเย้ ก็คือยัยท๊อฟฟี่ ยัยนี่น่ะ ไปไหนไปด้วยไม่เคยพลาดเลย
“จริงดิ แล้วแกว่าไง ยัยเจมิน”
“ก็ดี ว่าแต่จะไปกี่วันอ่ะ”
“สักสามวันพอมั้ย”
“พอจ้า เพื่อนเลิฟ ^0^” และนี้ก็ไม่ใช่เสียงฉันอีกนั่นแหละ (-_-)
“โอเค งั้นตกลงตามนี้ ถ้าจะไปวันไหน เดี๋ยวบอกอีกทีน่ะ”
“โอเค/โอเค”
“พี่ครับ”
ขวับ ~ ไอ้น้องชายตัวแสบนี่เอง
“ว่าไงบิ๊กกัฟ”
“อ๊ายยยย ^///^ น้องแกหล่อขึ้นทุกวันเลยน่ะ”
“แต่ฉันคิดว่ามันขี้เหร่กว่าเดิมน่ะ ยัยแคนดี้ (-_-)”
“พี่อ่ะ ผมออกจะหล่อน่ะ สาวกรี๊ดตรึม”
“เหรอย่ะ แล้วมาเรียกพี่มีอะไรอ่ะ”
“เอ่อ ... เออ” ไอ้นี่ จะพูดก็ไม่พูด แล้วมันก็ส่งสายตาไปทางยัยแคนดี้ที ยัยท๊อฟฟี่ที นี่มันจะมองหาพระถังกัมจังเหรอไงว่ะ (-_-)
“อะไรเล่า!!”
“เอ่อ...เออ” เอาอีกแล้ว มันมองอีกแล้ว อ๋อ!! สงสัยมันอยากคุยกับฉันแค่สองคน เฮ้อ ~ แล้วก็ไม่บอก
“เอ่อ.. พวกแก งั้นฉันกลับบ้านก่อนน่ะ”
“ทำไมรีบกลับแท้ล่ะ” ยัยท๊อฟฟี่อีกล่ะ ไม่อยากรู้สักเรื่องมันจะตายมั้ยเนี่ย (-_-)
“เออน่า เดี๋ยวฉันเดินกลับกับบิ๊กกัฟเอง”
“เออๆ งั้นถ้าถึงแล้วก็โทรบอกด้วยล่ะ”
“อื่อๆ งั้นฉันไปล่ะน่ะ”
“อื่อๆ”
ฉันเดินออกมาจากร้านพร้อมกับบิ๊กกัฟ น้องสุดที่รักกกกกกกกก -_- ‘ (ประชดน่ะ) และเริ่มต้นถามพร้อมกับเดินกลับบ้าน
“มีอะไร ว่ามา”
“พี่ครับ..”
“อะไร บอกก็บอกมาสิ จะขึ้นม.5 แล้วน่ะ อย่าปอดแหกเหมือนเด็กประถมหน่อยเลย (-_---)”
“ผม....”
“เฮ้ย!! นั่นมันไอ้บิ๊กกัฟนี่หว่า”
“เฮ้ย! พี่เดี๋ยวผมอธิบายให้ฟังทีหลังน่ะ ตอนนี้ผมต้องหนีก่อน 0_0”
“เฮ้ย! เดี๋ยวก่อนสิบิ๊กกัฟ “แล้วไอ้พวกชายชุดดำ เป็นพวกใครกันเนี่ย ทำไมต้องตามบิ๊กกัฟด้วยน่ะ
“เฮ้ย! ไอ้บิ๊กกัฟมันหนีแล้ว รีบไปจับตัวมัน เร็ว!!!” หน๊อยแน่ะ!! พวกแกคิดที่จะทำร้ายน้องฉันใช่มั้ย ฉันไม่ยอมหรอกโว๊ย!!
“อ๊ากกก! ไอ้พวกหน้าปลาจวด แกจะทำอะไรน้องชายฉัน”
หมับ!!
“เฮ้ย!! 0_0” ฉันกระโดดขึ้นหลังไอ้ชายหน้าปลาจวด และก็ปิดตามัน ฮ่าๆ เป็นไงล่ะเจอฉันเข้าไปแล้วจะหนาว
“อ๊ายยย ไอ้โรคจิต แกจับก้นฉัน แม่ยอมไม่ได้โว๊ย!!! 0o0” ไอ้หน้าปลาจวดที่ฉันขึ้นหลัง มันเอามือมาแต๊ะอั๋งก้นฉัน
ฉันรู้ว่ามันไม่ได้ตั้งใจหรอก มันคงตกใจที่ฉันปิดตามัน แต่แม่ไม่ยอมหรอกย่ะ
ป้าบ ป้าบ!!
“เฮ้ย! ยัยบ้า ไม่เคยมีใครตบหัวฉันเลยน่ะ”
“ก็ฉันนี่แหละเป็นคนแรกที่ได้ตบหัวแก ไอ้ลามก”
“ฉันไม่ได้ตั้งใจน่ะ”
“ฉันไม่สนหรอกย่ะ แกตายๆ อ๊ายยยย”
พลั่ก!
“โอ๊ย~ ไอ้บ้า แกเหวี่ยงฉันลงทำไมเนี่ย”
“ใครบ้าจะให้เธอตบหัวเล่า”
“พี่!! เป็นไรมากมั้ยครับ” มาแล้วเหรอไอ้ตัวแสบ ถ้าฉันไม่ได้ขึ้นหลังไอ้หน้าปลาจวดนี้ แกไม่รอดแน่
“ไม่เป็นไรมากหรอก”
“พี่....”
“ไอ้บิ๊กกัฟ แกยังไม่ยอมใช้หนี้เลยน่ะ” ไอ้หน้าปลาจวดมันพูดเรื่องอะไรของมันเนี่ย
“นี่!! ไอ้หน้าปลาจวด แกพูดเรื่องอะไรนะ”
“นี่เธอเรียกฉันว่าอะไรน่ะ”
“ไอ้-หน้า-ปลา-จวด ทำไมเหรอ o_0” ฉันทำหน้ากวนteen มันเลยยิ่งโมโหเข้าไปใหญ่
“พี่ อย่าไปพูดยั่วโมโหมันสิ มันเป็นมือปืนมือหนึ่งของย่านนี้เลยน่ะ”
“แล้วไงล่ะ นึกว่าฉันกลัวตายล่ะ” แน่ะ! ฉันยังจะไปปากดีอีก นี่ฉันไม่ได้ตั้งใจพูดไปน่ะ แต่ปากมันไปเองอ่ะ(-_-“)
“นี่แก!!”
“นี่!! แล้วจะบอกมาได้หรือยังว่าแกพูดเรื่องอะไร เมื่อกี้น่ะ” ฉันต้องหาทางรอดก่อนล่ะ ถามมันเลยน่าจะดีกว่า
“ก็น้องแก มันติดหนี้เจ้านายฉันน่ะสิ”
“หะ!! ว่าไงน่ะ” ฉันรีบหันไปหาความจริงจากน้องชายสุดที่รักของฉัน และก็ได้คำตอบมาก็คือ มันหลบหน้าฉัน
“เอ่อ..”
“บอกมาเดี๋ยวนี้น่ะ บิ๊กกัฟ!!!”
“เฮือก!.. ครับ ผมติดหนี้มันครับ” ฉันควรจะขอโทษมันมั้ยเนี่ย เมื่อกี้ฉันแค่เรียก มันยังสะดุ้งเลย ตอนแรกก็ว่าจะขอโทษอยู่หรอก แต่ตอนนี้แม่จะกินหัวมันแล้ว! ><’’’’
“แก....ทำไมต้องไปยืมเงินพวกมันมา”
“เอ่อ ...”
“ก็มันเอาเงินที่ยืมไป ซื้อของให้แฟนมันน่ะสิ ฉันคอยแอบตามแกตลอด ฉันเห็นแกเดินซื้อของให้แฟนแกอยู่”
“จริงเหรอ” ฉันพยายามกลั้นความโกรธไว้ถึงที่สุดก่อนที่มันจะระเบิดออกมา จนที่นี้พังพินาศ
“เอ่อ.. จริงครับ”
“ฮึ่ม!!”
“แต่พี่ครับ ผม...”
“หยุด! ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
“แต่...”
“บอกให้หยุด!! ก็หยุดสิ!!”
“....”
“น้องฉันติดหนี้พวกแกเท่าไร”
“สองหมื่น ฉันให้เวลาแกแค่ 2 เดือน ต้องเอาเงินมาใช้ให้ครบด้วย ไม่งั้นน้องแกตายแน่”
“สองหมื่น!! 0o0 ใครจะไปหาทันฮะ แค่สองเดือนเอง ฉันไม่มีปัญญาหรอกน่ะ”
“ฉันไม่สน”
“แต่....”
ติ๊ด ติด
“ครับเจ้านาย”
‘....’
“ได้ครับ” มันคุยอะไรของมันว่ะ เร็วจริง (-_-) เป็นฉันน่ะคุยเป็นชั่วโมง มัวแต่เม้าท์นู้นเม้าท์นี้กับยัยเพื่อนสองหน่อนั้น ทั้งเรื่องเจอคนหล่อๆ พวกมันวี๊ดว๊าย และชอบมาเล่าให้ฉันฟัง แต่เฮ้ย!! นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาพูดเรื่องนี้นี่หว่า
“ฉันได้รับคำสั่งให้น้องชายเธอไปทำงาน เพื่อใช้หนี้ที่บ้านเจ้านายของฉัน”
“ฉันจะไปแทนน้องฉันเอง”
“พี่ครับ...”
“ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่จัดการเอง ส่วนแกก็ทำตามตัวปกติ อย่าให้พ่อแม่รู้ล่ะ เดี๋ยวท่านจะไม่สบายใจ”
“ครับ..”
“นี่!! ฉันยังไม่ได้บอกเลยน่ะ ว่าเธอจะไปทำงานแทนน้องเธอได้นะ”
“ยังไงก็ต้องได้”
“เอ้า!! ยัยนี่ ตกลงใครเป็นคนขู่กันแน่เนี่ย”
“เออน่า! แกก็ลองโทรถามเจ้านายแกหน่อยสิ”
“เออๆ ก็ได้ แต่ถ้าไม่ได้ขึ้นมา ต้องทำตามเดิมน่ะ”
“อื่อๆ”
“เจ้านายครับ”
‘....’
“พี่สาวของไอ้บิ๊กกัฟ ขอทำงานแทนน้องชายของมันครับ เจ้านายจะอนุญาตมั้ยครับ”
‘…. ‘ มันพูดอะไรกันว่ะ พูดให้มันดังๆหน่อยได้มั้ย (ใครบ้าจะคุยให้แกได้ยินล่ะย่ะ)
“ครับ”
หลังจากไอ้หน้าปลาจวดวางสาย ฉันก็รีบถามมันทันทีทันใด
“ตกลง ได้มั้ย”
“เจ้านายของฉันอนุญาต พรุ่งนี้จะมีคนไปรับที่หน้าบ้านเธอ เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ ขนเอาของไปเฉพาะจำเป็นล่ะ เพราะอยู่ที่นั้นคงไม่ได้ใช้อะไรมากหรอก เพราะว่างานมันหนักกว่าที่เธอคิด”
“อะไรน่ะ พรุ่งนี้เลยเหรอ 0_0” ฉันไม่ได้สะเทือนอะไรกับคำของมันเลย นอกจากคำว่าจะไปพรุ่งนี้ แล้วฉันจะบอกพ่อแม่ยังไงเนี่ย
“ก็ใช่น่ะสิ ถ้าไม่ไปพรุ่งนี้ ก็ตามที่เราตกลงกันไว้”
“เออๆ ก็ได้ กี่โมงว่ามา”
“10.00 น.”
“ตามนั้น ป่ะ! บิ๊กกัฟ เรากลับบ้านกันเถอะ”
“ครับ”
ฉันและบิ๊กกัฟเดินกลับบ้าน โดยที่ไม่มีใครพูดอะไรเลย ในที่สุดบิ๊กกัฟก็พูดออกมาทำลายความเงียบ
“พี่ไม่จำเป็นต้องใช้หนี้แทนผมหรอกน่ะ”
“หืม?”
“ผมควรจะเป็นคนไปทำงานน่ะ แต่ทำไมพี่...”
“ฉันไม่อยากให้พ่อแม่ต้องเสียใจเพราะแก ฉันจะทำงานใช้หนี้แทนแกเอง”
“พี่ครับ..ฮึก ฮือๆ T^T”
“โธ่ ไอ้เด็กไม่รู้จักโต ร้องไห้เป็นผู้หญิงไปได้ ^-^” ฉันกอดไอ้น้องชายตัวแสบของฉัน นานเท่าไรแล้วน่ะที่ฉันไม่ได้กอดน้องชายฉันเลย เพราะว่าตอนนี้มันโตเป็นหนุ่มแล้วน่ะสิ และฉันห่างกับมันแค่สองปีเอง ฉันเดินไปกับมันที่ไหนมีแต่คนหาว่าเราเป็นแฟนกันตลอดแหละ
“หยุดร้องได้แล้ว กลับบ้านกันเถอะ” ฉันคลายกอดจากบิ๊กกัฟ และก็ชวนกันกลับบ้าน
“ครับ”
ที่บ้าน
“พ่อคะ แม่คะ เรากลับมาแล้วค่ะ”
“มากินข้าวกันสิลูก”
“ค่ะ/ครับ”
ฉันเดินมาในห้องครัว พร้อมกับหน้าตาที่เป็นกังวล จนพ่อกับแม่สังเกตเห็น
“เจมิน เป็นไรหรือเปล่าลูก”
“อ่อ.. เปล่าค่ะ (-_-“) ”
พวกเรากินข้าวกันได้สักพัก ฉันก็ทนไม่ไหวแล้ว อย่าเพิ่งเข้าใจผิดคิดว่าฉันปวดขี้ล่ะ แต่ฉันทนไม่ไหวที่จะไม่พูดแล้ว ยังไงวันนี้ก็ต้องพูดกับพ่อและแม่ให้ได้ พรุ่งนี้ฉันจะต้องไปแล้ว
“เอ่อ.. แม่คะ พ่อคะ”
“ว่าไงลูก”
“หนูจะขอไปทำงานตอนปิดเทอมนะค่ะ”
แก๊ง!
เสียงพ่อวางช้อนแล้ว พ่อฉันน่ากลัวสุดแล้ว ห่วงลูกสาวอย่างฉันมากเลยแหละ จะให้ไปไหนทีต้องคิดลำบาก
“งานอะไร (-_-) ” แค่เสียงก็น่ากลัวแล้ว
“เอ่อ.. งานเลี้ยงเด็กอ่อนค่ะ”
“ที่ไหน (-_-) ”
“เอ่อ.. บ้าน (-_-“)”
“บ้านของเพื่อนแฟนผมครับ แม่ของเขามีลูกแต่ไม่มีเวลาเลี้ยงเอง ก็เลยขอความช่วยเหลือจากผมน่ะครับ ผมก็เลยแนะนำพี่เจมินไป” ดีน่ะ ที่บิ๊กกัฟบอกแทน เพราะฉันคิดไม่ออกเลยว่าจะตอบท่านไปว่าอย่างไง
“แล้วพ่อจะเชื่อใจเขาได้ยังไง และที่สำคัญลูกต้องเตรียมตัวไปเรียนต่อที่เมืองนอกน่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ สองอาทิตย์ก่อนไปเรียนหนูจะกลับมาค่ะ”
“และผมก็ขอรับประกันความปลอดภัยด้วยหัวของผมเลยครับ”
ขวับ!
ฉันรีบหันหน้าไปหาบิ๊กกัฟทันที ไอ้บ้า! บ้านที่ฉันจะไปทำงานน่ะอันตรายยิ่งกว่าเข้าดงเสืออีกน่ะ แล้วแกบอกพ่อไปได้ไงว่ารับประกันได้อ่ะ
“แน่ใจน่ะ”
“ครับ”
“แล้วจะไปเมื่อไรล่ะ”
“พรุ่งนี้ค่ะ”
“หะ!! ทำไมมันถึงเร็วขนาดนั้นล่ะ”
“เอ่อ.. เพราะว่าเขาจะไปเมืองนอกพรุ่งนี้น่ะครับ เลยต้องรีบไป”
“เหรอ งั้นก็ไปเตรียมตัวเถอะลูก”
“ค่ะ”
“เดี๋ยวก่อน” แงะๆ อะไรอีกอ่ะพ่อ หนูกลัวน่ะ
“คะพ่อ (-_-“)”
“ลูกต้องโทรมมาหาพวกเราบ่อยๆน่ะ” เฮ้อ โล่งใจ นึกว่าจะเปลี่ยนใจไม่ให้ไปซะแล้ว
“ค่ะ”
ฉันเดินขึ้นห้องพร้อมกับอาการเซ็งจิต ปวดตับ ปวดม้าม รู้สึกเหมือนว่าจะปวดขี้ด้วยแหละ งั้นขอไปเข้าห้องน้ำอาบน้ำพร้อมขี้ก่อนล่ะน่ะ บายๆ
เวลาผ่านไป 40 นาที สบายเนื้อสบายตัวดีจริงๆ ไปนอนดีกว่า แต่เอ๊ะ! ต้องโทรหายัยเพื่อนทั้งสองก่อน เดี๋ยวมันได้โวยเป็นแน่
ตื๊ดตืด ตื๊ดตืด
‘ฮัลโหล ว่าไงคุณเพื่อน’
“จะว่าไงล่ะ ก็แกให้ฉันโทรมาหนิ”
‘เออ โทษทีลืมว่ะ ‘ ยัยท๊อฟฟี่เป็นคนที่รั่วที่สุดในกลุ่มเลยน่ะ รั่วได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ (-_-)
“ประชุมสายกับยัยแคนดี้ดิ มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง”
‘อ่อๆ แป๊ปนึงน่ะ’
“อื่อๆ”
ตื๊ดตืด ตื๊ดตืด
‘Hello คุณเพื่อนทั้งสอง ^0^’ <= ยัยแคนดี้
‘เออๆ เจมินมันมีเรื่องจะเล่าให้พวกเราฟังอ่ะ’ <=ยัยท๊อฟฟี่
‘ว่ามาเลย เพื่อนคนนี้พร้อมฟังอยู่แล้ว’<=ยัยแคนดี้
‘เจมินมันเป็นเรื่องที่แกซีเรียสมากเลยใช่ป่ะ’ <=ยัยท๊อฟฟี่
“ใช่ แกรู้ได้ไงอ่ะ”
‘ก็ฟังจากเสียงแล้ว ใครไม่รู้ก็โง่แล้ว’<=ยัยท๊อฟฟี่
‘เฮ้ย! แล้วจะเริ่มเล่าได้ยังเนี่ย’ ยัยแคนดี้ก็บ่นจริงๆเลย อยากฟังละสิ ขอแกล้งมันหน่อยล่ะกัน โหะๆ ^0^
“เออๆ กาลครั้งหนึ่งมีอยู่ว่า พื้นไม้ พื้นปูน พื้นกระเบื้อง....”
‘เฮ้ยๆ เดี๋ยวก่อน นี่มันอะไรกันเนี่ย พื้นไม้ พื้นปูน พื้นกระเบื้อง.... เรื่องอะไรของแกเนี่ยยัยเจมิน (-_-) ‘ <=ยัยแคนดี้
‘เออ นั่นดิ เรื่องอะไรของแกว่ะ’ <=ยัยท๊อฟฟี่
“เอ้า! พวกแกไม่รู้จักนิทานพื้นบ้านเหรอ โหะๆ ^0^ ”
‘นี่!!! / นี่!!!’ อะไรว่ะ ล้อล่นแค่นี้ทำมาเป็นเสียงดุใส่ ชิๆ เลิกเล่นก็ได้
“แหะๆ ^^; เค้าล้อเล่นน่ะตัวเอง”
‘อย่าเล่นอย่างนี้อีกน่ะ พวกเราซีเรียสรู้ป่ะ’ <=ยัยแคนดี้
‘เออ ใช่’<=ยัยท๊อฟฟี่
“รู้แล้วจ๊ะ”
‘งั้นเริ่มเล่าเลยดิ (-_-)’
“อืม ตอนที่ฉันกลับบ้านกับบิ๊กกัฟ...........................” ฉันก็เล่าเรื่องที่ฉันประสบพบเจอให้ยัยพวกนี้ฟัง มันก็เป็นผู้ฟังที่ดีจริงๆ คอยถามแทรกตลอดอ่ะ กว่าจะจบก็ล่อเป็นชั่วโมงเลย (-_-)
“จบแล้ว”
‘อื่อ ฉันขอถามแกเป็นคนแรกเลยแล้วกันน่ะ’
“ว่ามา”
‘แล้วแกจะไปเที่ยวภูเก็ตกับพวกฉันได้มั้ยเนี่ย!!’ ไอ้เราก็นึกว่าจะถามเรื่องที่ดีกว่านี้ แต่แกดันถามเรื่องเที่ยวเนี่ยน่ะ
“ไม่รู้สิ ถ้าเจ้านายของไอ้หน้าปลาจวดไม่ให้ไปก็คงไม่ไปอ่ะน่ะ”
‘โห้ เซ็งอ่ะ’
“นี่!! ยังไม่ทันรู้เลยว่าจะได้ไปหรือเปล่า ทำไมแกรีบเซ็งแท้ล่ะ”
‘ฉันก็แค่ซ้อมๆไว้อ่ะน่ะ’
“เหรอ”
‘นี่ยัยแคนดี้ ให้ฉันคุยกับยัยเจมินมั้งดิ’ ยัยท๊อฟฟี่ ถ้าไม่ได้คุยสักวันจะตายมั้ยเนี่ย(-_-)
‘เออๆ’
‘นี่ยัยเจมิน’
“ว่าไง”
‘แกบอกว่าไอ้ลูกน้องที่มันมาหาเรื่องบิ๊กกัฟหน้าตาเหมือนปลาจวดใช่ป่ะ’
“อืม ทำไมเหรอ 0_o”
‘ฉันว่าเจ้านายของมันจะต้องหน้ากลมเหมือนโดเรม่อน ผอมเหมือนไอ้ก้าง หัวล้านเหมือนลานบิน กลิ่นตัวก็คงจะเหม็นเขียวแน่เลยอ่ะแก’
“แกอย่าพูดให้ฉันใจเสียได้มั้ย”
‘เอ้า!! ก็มันจริงหนิ’
“แกเคยเห็นหน้าแล้วเหรอ”
‘ยังอ่ะ’
“แล้วแกรู้ได้ไงว่าเขาหน้าตาเหมือนอย่างที่แกพูดอ่ะ”
‘ฉันก็ใช้หลักวิทยาศาสตร์ โดยดูคนรอบข้างไง เขาบอกว่าถ้าอยู่กับคนนั้นๆ นานๆ จะหน้าตาคล้ายกันอ่ะ’
“เหรอ”
‘อืม’
“ฉันควรจะเตรียมใจรับกับหน้าตาอันประหลาดของเจ้านายฉันใช่มั้ยเนี่ย”
‘ใช่/ใช่’
“เฮ้อ ~”
แอ๊ด ~
“เจมิน เตรียมข้าวของยังลูก”
“อ่อ ยังค่ะแม่”
“มันดึกแล้วน่ะ รีบเตรียมแล้วก็รีบนอนซะน่ะ”
“ค่ะแม่”
ปัง
“เฮ้ยแก!! เดี๋ยวฉันเตรียมของก่อนน่ะ ฝันดีน่ะเพื่อน”
‘อืม ฝันดีเพื่อน / ฝันดีน่ะ’
“อืม”
ก๊อกๆ
“เจมิน ตื่นได้แล้วลูก สายแล้วน่ะ”
“หาว ~ ตื่นแล้วค่ะ”
“ตื่นแล้วก็รีบอาบน้ำน่ะลูก”
“ค่ะ”
กี่โมงแล้วเนี่ย แม่รีบมาปลุกแต่เช้าเลย นอนต่ออีกครึ่งชั่วโมงได้มั้ยเนี่ย
“หา!! 8 โมง” ต้องรีบแล้วเรา ป่านนี้พ่อคงไปทำงานแล้วแน่เลย ก็ดีเหมือนกันเราจะได้ไม่อึดอัดใจ ฉันรีบไปอาบน้ำโดยอาบด้วยความเร็วแสง ประมาณ 30 นาที ก็เสร็จภารกิจอาบน้ำ (ความเร็วแสงตรงไหนย่ะ นานขนาดนั้น บ้านฉันเรียกว่าเล่นขี้อยู่ในห้องน้ำ)
ตึก ตัก
“เจมิน เดินเบาๆ สิลูก (-_-) ถ้าพ่ออยู่โดนดุไปแล้วน่ะเนี่ย”
“ขอโทษค่ะแม่”
“มากินข้าวสิลูก”
“ค่ะ แล้วบิ๊กกัฟไปไหนล่ะค่ะ”
“น้องยังไม่ตื่นเลย แม่วานให้ลูกไปปลุกน้องหน่อยสิ” ไอ้น้องคนนี้ต้องให้ปลุกตลอด เดี๋ยวแม่จะเอาน้ำไปสาดเลยคอยดู
“ได้ค่ะ”
ก๊อก ก๊อก!
“ตื่นได้แล้วไอ้ขี้เซา”
“อีกครึ่งชั่วโมงน่ะพี่”
“แล้วแต่แกน่ะ เพราะอีกครึ่งชั่วโมงไอ้พวกนั้นก็คงจะมารับฉันไปแล้วล่ะ”
แอ๊ด ~
“เฮ้ย!! ตกใจหมดเลย” ไอ้น้องคนนี้ เปิดประตูออกมาไม่ยอมบอกกล่าว ถ้าเกิดฉันหัวใจวายตายไป แกจะทำไงห๊ะ!!
“’งั้น พี่รอผมแป๊ปนึงน่ะ เราจะไปกินข้าวพร้อมกัน” อะไรของมัน อยู่ดีๆ ก็อยากจะกินข้าวกับฉันซะงั้น สงสัยมันกินยาไม่ได้เขย่าขวดแน่เลย
“อืม”
10 ผ่านไป ไวอย่างกับโกหก
“เสร็จแล้วครับ” ไอ้นี้อาบน้ำเร็วเป็นบ้า แต่ก็ดีเพราะฉันคงไม่รอมันอาบน้ำนานหรอก
“เสร็จแล้วก็ไปกินข้าวกัน ^^”
“ครับ ^^ ”
ระหว่างที่เดินลงมากินข้าว ไอ้น้องชายก็มองฉันตลอดการเดินจนฉันทนไม่ไหวเลยต้องถามมัน สงสัยจะมีปัญหาอยากจะถาม
“มองหน้าพี่มีปัญหาเหรอไง”
“อ่อ..เปล่าหรอก แค่คิดว่าไม่มีพี่อยู่คง....”
“แกคงจะดีใจล่ะสิ” ฉันรู้ความคิดแกน่ะว่าแกไม่อยากให้ฉันอยู่อ่ะ เพราะถ้าฉันอยู่แกคงไม่มีวันที่สวยงามแน่
“คงเหงาต่างหากล่ะ”
“จริง? 0_0” อึ้งเลยค่ะท่านผู้อ่าน คนอย่างไอ้บิ๊กกัฟเนี่ยน่ะบอกว่าถ้าฉันไม่อยู่มันคงเหงา สงสัยมันเมายาดมแน่เลย
“จริงสิ ถึงแม้พี่จะเป็นคนขี้บ่น ขี้โมโห โวยวาย ชอบแกล้งน้อง..”
“เฮ้ย! หยุดได้แล้ว ก่อนที่แกจะโดนฉันกินหัว ไอ้น้องบ้า!!”
“ถึงพี่จะเป็นแบบนั้น แต่ผมก็รักพี่น่ะ แล้วตอนที่พี่ไม่อยู่แล้วผมจะโดนใครแกล้งอ่ะ”
“พอๆ เดี๋ยวได้อ้วกก่อนกินข้าวแน่ -///-” เล่นอย่างนี้เลยเหรอ เขินเป็นน่ะเว้ย!
“แหะๆ ^^;”
ตึก ตึก
“สองพี่น้องมากินข้าวสิลูก”
“ค่ะ/ครับ”
“ฝีมือแม่อร่อยเหมือนเดิมเลยนะค่ะ”
“แหม อย่าชมแม่อย่างนี้สิ แม่ก็เขินเป็นน่ะ^///^”
“ฮะฮ่าๆ แม่เขินแล้วน่ารักจัง ^_^”
ปริ๊น ปริ้น ~~
“สงสัยเขามารับหนูแล้วล่ะค่ะ” มาที ได้จังหวะเชียวน่ะ ฉันเพิ่งกินข้าวได้แค่ 3 คำเอง ขอย้ำว่า 3 คำ!!
“แต่ลูกเพิ่งกินข้าวได้แค่นิดเดียวเองน่ะ”
“ไม่เป็นไรค่ะแม่ หนูไม่ค่อยหิวเท่าไร” คอยดูน่ะ ฉันจะด่าไอ้คนที่มารับ แกทำให้ฉันได้กินข้าวแค่ 3 คำ
“จ้าๆ”
“แม่ครับ เดี๋ยวผมขอไปส่งพี่ที่รถน่ะครับ”
“อ่อจ้า”
ปริ๊น ปริ้น ~~
“เออ รู้แล้วน่า จะบีบแตรให้เสียงดังรบกวนชาวบ้านทำไมเนี่ย”
“ใจเย็นๆสิพี่ เดี๋ยวเราค่อยจัดการกับมันทีหลัง แต่ตอนนี้แม่อยู่น่ะ สงบสติอารมณ์หน่อย” ดีน่ะที่บิ๊กกัฟกระซิบข้างหูเตือนฉันก่อน ไม่งั้นฉันด่าไม่ยั้งไปแล้ว
“อืม งั้นแม่ค่ะหนูไปก่อนนะค่ะ ^^”
“จ้า ดูแลตัวเองด้วยน่ะ ^^ ”
“ค่ะ”
“รีบไปเถอะพี่”
“อืมๆ”
มีรถเบนซ์คันหรูจอดอยู่หน้า แต่ไม่เห็นข้างในเลยอ่ะ มันจะติดฟิล์มหนาอะไรขนาดนั้นกะจะไม่ให้ใครเห็นว่าทำอะไรกันเลยใช่ป่ะ ติดฟิล์มอย่างนี้ต้องเป็นพวกมีศัตรูเยอะแน่เลย เช่น พวกมาเฟีย อะไรประมาณนั้นอ่ะ
“นี่เธอ!! ทำอะไรนานจังฉันบีบแตรตั้งหลายรอบไม่ยอมออกมาสักที”
“ไม่ต้องรู้จะได้มั้ย”
“นี่!!”
“พี่อย่าไปกวนประสาทมันสิ พี่รีบไปเถอะน่ะ”
“เออๆก็ได้ -_____-;;;;” ไอ้น้องคนนี้ชอบขัดขวางความสุขฉันที่จะกวนประสาทไอ้นี่อีกแหละ
“ขึ้นรถสิ”
“เออๆ รู้แล้วๆ” ไอ้นี่ก็เร่งอยู่ได้ เดี๋ยวแม่ซัดให้เลย
“บายๆ พี่”
“อืม บายๆ” จะว่าไปไอ้น้องคนนี้ฉันก็รักมันน่ะ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่แสดงออก แต่ยังไงพี่น้องก็ไม่เกลียดกันหรอก
บรื๊น บรื้น~~
ใช้เวลาในการเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง ก็มาถึงพระราชวังอะไรก็ไม่รู้เนี่ย ได้ข่าวว่าฉันมาทำงานที่บ้านไม่ใช่พระราชวังไม่ใช่เหรอ แล้วไอ้หน้าปลาจวดนี่พาฉันมาที่พระราชวังทำไมเนี่ย
“นี่!! บ้านเจ้านายแกเหรอ”
“ใช่ สวยใช่มั้ยล่ะ”
“ไม่ใช่สวยอย่างเดียวน่ะ โคตรใหญ่เลยแหละ *0* ” ไม่น่าเชื่อว่านี้จะเป็นบ้าน เพราะว่าบ้านมันใหญ่มาก ถามจริงเคยเดินหลงในบ้านตัวเองมั้ยเนี่ย
“นี่ถึงแล้ว เดี๋ยวฉันจะพาเธอไปพบกับเจ้านายฉันก่อน”
“อืมๆ”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.8 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ