University of life "มหาวิทยลัยชีวิต"
4.0
เขียนโดย นายปากกล้วย
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.58 น.
1 chapter
3 วิจารณ์
3,517 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 26 มีนาคม พ.ศ. 2557 23.06 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) ต๋องผู้มั่งคั่ง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ สวัสดีครับทุกท่านหลังจากที่ห่างหายจากแป้นพิมพ์มานานวันนี้จึงมีผลงานมาเสนอ
โดยใช้ชื่อว่า "University of life" หรือ "มหาวิทยลัยชีวิต" นั่นเองผลงานนี้จะอิงมาจากชีวิตที่เคยประสบพบเจอมาและจะมาเล่าสู่กันฟัง
โดยหลักๆจะเริ่มจากเด็กที่ชื่อ "ต๋อง" ต้องนั้นเป็นเด็กเอาแต่ใจที่มีพ่อแม่ร่ำรวยหรือลูกเศรษฐีนั้นเองจนมาวันนึงต๋องต้องเจอกับปัญหาครอบครัวถึงขั้นขีดสุดยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะครับ ^^
Fanpage : https://www.facebook.com/accmanga
เวลาบ่ายๆในวันที่ฝนตกโปรยปรายมีเด็กหนุ่มคนนึงอายุราวๆ 12 ปี กำลังนั่งเล่นเกมส์อยู่ในห้องของตน
แม่: ต๋องลูกทานข้าวได้แล้วนี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย เลิกเล่นคอมพิวเตอร์แล้วลงมากินข้าวก่อนเร็ว
ต๋อง: สัสเอ๊ย!! กูบอกให้ All กลางไม่ได้ยินหรือไง!
แม่: ต๋องลูก...
ต๋อง: เออ!! รู้แล้วน่าจะพูดซ้ำทำไม เดียวหิวก็ลงเองแหละ!
หลังจากนั้นเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงหนุ่มน้อยก็ยังไม่ลงมาทานข้าวจนท้ายสุดก็เกิดอาการหิวขึ้นมา
ต๋อง: โอ๊ย! แม่ผมหิวข้าววันนี้มีไรกินมั่ง
แม่: มีผัดผักกับไข่ตุ๋นและก็หมูทอดจ้ะลูก..
ต๋อง: โว้ะ! กินแต่อะไรเดิมๆต๋องเบื่อ เบื่อ เบื่อ! ต๋องอยากกินพิซซ่าหรือ KFG ก็ได้
ต๋อง: ถ้าแม่ไม่สั่งให้ต๋อง ต๋องก็จะไม่กินข้าว!
แม่: จ้ะจ้ะเดียวแม่บอกพ่อให้นะ...
หนุ่มน้อยไร้เดียงสาที่อายุ 12 ช่างเอาแต่ใจและด้อยประสบการชีวิตเขาใช้ชีวิตอย่างประมาทโดยไม่ระวังว่าในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้าเขาต้องเจอกับมรสุมชีวิตที่รุ่นแรงเลย...
กาลเวลาล่วงเลยไป 4 ปีตอนนี้เด็กหนุ่มอายุ 16 ปีแล้วเขามีเกรดเฉลี่ยต่ำไม่ตั้งใจเรียนทำตัวเกเร เที่ยวเตร่ไปวันวัน ดูดบุหรี่กินเหล้าจนแล้ววันหนึ่งในวันที่ 22 มกราคม ก้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อ พ่อแม่และต๋องได้ประสบอุบัติเหตุระหว่างไปเที่ยวกันที่เชียงใหม่พ่อแม่ต๋องอาการสาหัสและได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลโดยมีต๋องที่บาดเจ็บที่ศรีษะเพียงเล็กน้อย โดยที่พยาบาลได้ให้การกับต๋องที่ฟื้นขึ้นมาว่า
พยาบาล: รถย์เก๋งของคุณประสานงานกับรถบรรทุกร์ที่สี่แยก...
ต๋อง: แล้วพ่อแม่ผมล่ะ! พ่อแม่ผมเป็นยังไงบ้าง ผมอยากเจอพ่อแม่ผม!!
พยาบาล: .........(หน้านิ่ง)
ต๋อง: !!!??
พยาบาล: ทั้งสองท่านเสียชีวิตครับ หลังจากที่มุลนิธิกู้ภัยไปที่เกิดเหตุพบว่า แม่ของคุณที่โอบคุณไว้เพื่อไม่ให้มีอะไรมาทำร้ายคุณส่วนคุณพ่อของคุณได้โอบกอดแม่คุณอีกที..แต่ทว่าในความเร็วของรถย์นั้นที่พุ่งเข้ามาชนกัน มีแรงมหาศาลเราจึงไม่สามารถยื้อชีวิตพ่อแม่ของคุณได้...ผมเสียใจด้วยครับ
ในวินาทีที่คุณหมอพูดเสร็จหัวใจต๋องแทบสลายเด็กหนุ่มวัยรุ่นตอนต้นผู้อ่อนต่อโลกไม่รู้ว่าชีวิตหลังจากนี้เขาจะเดินไปในทางเส้นทางไหนต่อไปเขาได้แต่นอนบนเตียงและร้องไห้ฟูมฟาย...
------------------------------------------------------------------------------
หลังจากนั้นคุณย่าของต๋องเป็นญาติที่เหลือเพียงท่านเดียว มารับต้องไปเลี้ยงที่่ จ.นครราชสีมา อ.ปากช่อง คุณยายได่ให้ต๋องไปเรียนโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ ชีวิตความเป็นอยุ่ของต๋องเปลีย่นจากหน้ามือเป็นหลังมือจากที่อยู่บ้านจัดสรรห์ใหญ่โตมโหฬานต้องมาอยู่บ้านไม้ที่มีเพียง บ้านไม้โทรมๆและมีใต้ถุนและฟาร์มไก่กับฟาร์มหมู จากที่เคยมีห้องส่วนตัวต้องมานอนมุ้งรวมกับคุณย่า
เช้าวันที่ 2 หลังจากที่ต๋องมาอยู่กับย่าตนได้เพียงซึมจากเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้น... ทันใดนั้นไอหมูกับไอวัน เด็กข้างบ้านออกมามองดูต๋องด้วยความประหลาดใจ
ย่าเฉลียว: เห้ย เอ็งไอหมูไอวัน ชวนไอต๋องหลานข้าออกไปเล่นมั่งสิ่ว้ะ
ไอหมู&วัน: ได้เลยย่าเฉลียว
ไอหมู: ต๋อง นายเล่นบาลลูนเรียกชื่อเป็นไหมว้ะ?
ต๋อง: .........??(ยืนมองด้วยความสงสัย)
ไอวัน: นี่ไง ที่ข้าต้องโยนปิงปองขึ้นฟ้าแล้วสุ่มเรียกชื่อเอ็งสองคนไง
ไอหมู: สงสัยไอต๋องมันเล่นไม่เป็นวะ เดียวข้าจะสอนให้
ทันใดนั้นหมูจึงลากตัวต๋องไปเพื่อที่จะสอนการละเล่นที่ในเมืองกรุงหาแทบไม่มีแล้ว มันคือการละเล่นที่ไม่ต้องใช้ไฟ ไม่ต้องใช้เน็ต ไม่ต้องใช้คอมพ์การเรียนรู้ของต๋องพึ่งจะเริ่มต้นขึ้น..
โดยใช้ชื่อว่า "University of life" หรือ "มหาวิทยลัยชีวิต" นั่นเองผลงานนี้จะอิงมาจากชีวิตที่เคยประสบพบเจอมาและจะมาเล่าสู่กันฟัง
โดยหลักๆจะเริ่มจากเด็กที่ชื่อ "ต๋อง" ต้องนั้นเป็นเด็กเอาแต่ใจที่มีพ่อแม่ร่ำรวยหรือลูกเศรษฐีนั้นเองจนมาวันนึงต๋องต้องเจอกับปัญหาครอบครัวถึงขั้นขีดสุดยังไงก็ฝากติดตามผลงานด้วยนะครับ ^^
Fanpage : https://www.facebook.com/accmanga
เวลาบ่ายๆในวันที่ฝนตกโปรยปรายมีเด็กหนุ่มคนนึงอายุราวๆ 12 ปี กำลังนั่งเล่นเกมส์อยู่ในห้องของตน
แม่: ต๋องลูกทานข้าวได้แล้วนี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย เลิกเล่นคอมพิวเตอร์แล้วลงมากินข้าวก่อนเร็ว
ต๋อง: สัสเอ๊ย!! กูบอกให้ All กลางไม่ได้ยินหรือไง!
แม่: ต๋องลูก...
ต๋อง: เออ!! รู้แล้วน่าจะพูดซ้ำทำไม เดียวหิวก็ลงเองแหละ!
หลังจากนั้นเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงหนุ่มน้อยก็ยังไม่ลงมาทานข้าวจนท้ายสุดก็เกิดอาการหิวขึ้นมา
ต๋อง: โอ๊ย! แม่ผมหิวข้าววันนี้มีไรกินมั่ง
แม่: มีผัดผักกับไข่ตุ๋นและก็หมูทอดจ้ะลูก..
ต๋อง: โว้ะ! กินแต่อะไรเดิมๆต๋องเบื่อ เบื่อ เบื่อ! ต๋องอยากกินพิซซ่าหรือ KFG ก็ได้
ต๋อง: ถ้าแม่ไม่สั่งให้ต๋อง ต๋องก็จะไม่กินข้าว!
แม่: จ้ะจ้ะเดียวแม่บอกพ่อให้นะ...
หนุ่มน้อยไร้เดียงสาที่อายุ 12 ช่างเอาแต่ใจและด้อยประสบการชีวิตเขาใช้ชีวิตอย่างประมาทโดยไม่ระวังว่าในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้าเขาต้องเจอกับมรสุมชีวิตที่รุ่นแรงเลย...
กาลเวลาล่วงเลยไป 4 ปีตอนนี้เด็กหนุ่มอายุ 16 ปีแล้วเขามีเกรดเฉลี่ยต่ำไม่ตั้งใจเรียนทำตัวเกเร เที่ยวเตร่ไปวันวัน ดูดบุหรี่กินเหล้าจนแล้ววันหนึ่งในวันที่ 22 มกราคม ก้เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้นเมื่อ พ่อแม่และต๋องได้ประสบอุบัติเหตุระหว่างไปเที่ยวกันที่เชียงใหม่พ่อแม่ต๋องอาการสาหัสและได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลโดยมีต๋องที่บาดเจ็บที่ศรีษะเพียงเล็กน้อย โดยที่พยาบาลได้ให้การกับต๋องที่ฟื้นขึ้นมาว่า
พยาบาล: รถย์เก๋งของคุณประสานงานกับรถบรรทุกร์ที่สี่แยก...
ต๋อง: แล้วพ่อแม่ผมล่ะ! พ่อแม่ผมเป็นยังไงบ้าง ผมอยากเจอพ่อแม่ผม!!
พยาบาล: .........(หน้านิ่ง)
ต๋อง: !!!??
พยาบาล: ทั้งสองท่านเสียชีวิตครับ หลังจากที่มุลนิธิกู้ภัยไปที่เกิดเหตุพบว่า แม่ของคุณที่โอบคุณไว้เพื่อไม่ให้มีอะไรมาทำร้ายคุณส่วนคุณพ่อของคุณได้โอบกอดแม่คุณอีกที..แต่ทว่าในความเร็วของรถย์นั้นที่พุ่งเข้ามาชนกัน มีแรงมหาศาลเราจึงไม่สามารถยื้อชีวิตพ่อแม่ของคุณได้...ผมเสียใจด้วยครับ
ในวินาทีที่คุณหมอพูดเสร็จหัวใจต๋องแทบสลายเด็กหนุ่มวัยรุ่นตอนต้นผู้อ่อนต่อโลกไม่รู้ว่าชีวิตหลังจากนี้เขาจะเดินไปในทางเส้นทางไหนต่อไปเขาได้แต่นอนบนเตียงและร้องไห้ฟูมฟาย...
------------------------------------------------------------------------------
หลังจากนั้นคุณย่าของต๋องเป็นญาติที่เหลือเพียงท่านเดียว มารับต้องไปเลี้ยงที่่ จ.นครราชสีมา อ.ปากช่อง คุณยายได่ให้ต๋องไปเรียนโรงเรียนมัธยมประจำอำเภอ ชีวิตความเป็นอยุ่ของต๋องเปลีย่นจากหน้ามือเป็นหลังมือจากที่อยู่บ้านจัดสรรห์ใหญ่โตมโหฬานต้องมาอยู่บ้านไม้ที่มีเพียง บ้านไม้โทรมๆและมีใต้ถุนและฟาร์มไก่กับฟาร์มหมู จากที่เคยมีห้องส่วนตัวต้องมานอนมุ้งรวมกับคุณย่า
เช้าวันที่ 2 หลังจากที่ต๋องมาอยู่กับย่าตนได้เพียงซึมจากเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้น... ทันใดนั้นไอหมูกับไอวัน เด็กข้างบ้านออกมามองดูต๋องด้วยความประหลาดใจ
ย่าเฉลียว: เห้ย เอ็งไอหมูไอวัน ชวนไอต๋องหลานข้าออกไปเล่นมั่งสิ่ว้ะ
ไอหมู&วัน: ได้เลยย่าเฉลียว
ไอหมู: ต๋อง นายเล่นบาลลูนเรียกชื่อเป็นไหมว้ะ?
ต๋อง: .........??(ยืนมองด้วยความสงสัย)
ไอวัน: นี่ไง ที่ข้าต้องโยนปิงปองขึ้นฟ้าแล้วสุ่มเรียกชื่อเอ็งสองคนไง
ไอหมู: สงสัยไอต๋องมันเล่นไม่เป็นวะ เดียวข้าจะสอนให้
ทันใดนั้นหมูจึงลากตัวต๋องไปเพื่อที่จะสอนการละเล่นที่ในเมืองกรุงหาแทบไม่มีแล้ว มันคือการละเล่นที่ไม่ต้องใช้ไฟ ไม่ต้องใช้เน็ต ไม่ต้องใช้คอมพ์การเรียนรู้ของต๋องพึ่งจะเริ่มต้นขึ้น..
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
3.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ