เรื่องราวจากความทรงจำ (Memory story)
7.6
เขียนโดย หมูขาว
วันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 14.06 น.
6 ตอน
3 วิจารณ์
10.25K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน พ.ศ. 2557 17.55 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) รองเท้าของฉัน
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"นี่เธอ! ทำไมถึงใส่รองเท้าแตะมาเรียน! คิดว่าที่นี่เป็นตลาดหรือยังไงกัน เธอเป็นเด็กนักเรียนทุนนะ ต้องทำตัวให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้สมกับที่มหาวิทยาลัยยอมจ่ายเงินให้เธอมานั่งเรียนฟรีๆ อย่างนี้ เข้าใจใช่มั้ย! พรนภา .. ถ้าขืนเธอยังทำอย่างนี้อีก ชั้นจะ.........."
เสียงบบทสวดยาวของอาจารย์ประจำภาควิชายังดังก้องอยู่ในหูสองข้างของฝ้าย เธอรู้สึกอับอายขายหน้ามาก เพราะตลอดมาเธอไม่เคยทำตัวออกนอกลู่นอกทางขนาดนี้
(แล้วถ้าถูกปลดจากทุน จะยังไงดีล่ะ)
ฝ้ายได้แต่นั่งก้มหน้าและถอนหายใจให้กับความโชคร้ายที่เธอได้รับและเป็นอยู่ เธอตั้งใจเอารองเท้าที่พีคให้ยืมวันก่อนมาคืน และกะว่าจะไปซื้อรองเท้าคู่ใหม่หลังเลิกงานพาร์ทไทม์ เพราะคืนนี้เป็นวันที่เงินค่าแรงออก
"นี่...หล่อน! เงยหน้าให้เห็นชัดๆ หน่อยซิ!"
เจ้าของเสียงนั้นคือ หนึ่งในแฟนคลับหรือจะเรียกว่าเป็นสาวกของพลเลยก็ยังได้ ฝ้ายจำพวกหล่อนได้ตอนกดน้ำวันก่อน ฝ้ายเงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียกแหลมปรี๊ดนั้น และรู้สึกสังหรณ์ถึงสัญญาณอันตราย
"ใช่แล้วล่ะ ยัยหน้าด้านคนนี้แหละ ที่มันทำร้ายพี่พลของพวกเรา" สาวกอีกคนหนึ่งยืนยัน
"แกเตรียมตัวหรือยังนังเด็กใหม่ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!" สาวกทั้งสองเดินย่ามเข้ามาหมายจะทำร้ายฝ้าย
ฝ้ายไม่ปล่อยให้ตนเองตกอยู่ในอันตราย เธอลุกขึ้นและหลบหลีกตัวออกจากเก้าอี้ซึ่งเป็นมุมอับของเธอ แต่ยังไม่ทันได้ป้องกันตัวอะไร เธอไม่ทันสังเกตเห็นสาวกอีกคนที่เหลือ กำลังวิ่งเข้ามาหาเธอพร้อมกับถังน้ำที่มีน้ำอยู่เต็มถัง
"ซู่ม!" เสียงแรงปะทะของน้ำดังมาก ฝ้ายได้แต่หลับตาปี๋ และคิดว่า เธอไม่รอดแน่ ๆ แล้ว แต่...
(เอ๊ะ! ทำไมรู้สึกว่าตัวเองไม่เปียกน้ำเลยล่ะ)
ฝ้ายค่อย ๆ ลืมตาขึ้น และต้องตกใจมากที่เห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนกางแขนบังตัวเธอเอาไว้ ตัวทั้งตัวของเขาเปียกโชกไปตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
บรรดาสาวกหน้าถอดสี และรีบวิ่งหนีไปทันที เมื่อรู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง
ความเงียบเข้ามาแทนที่ จนกระทั่งผู้ชายคนนั้นเริ่มขยับตัวและหันหน้ามาหาฝ้ายอย่างช้า ๆ
"เฮ้อ เจอเธอทีไร ชั้นต้องเปียกทุกทีเลยนะ เธอนี่มันตัวปัญหาจริง ๆ"
ฝ้ายตกใจมากเมื่อเห็นหน้าผู้ชายคนที่เข้ามาช่วยเธอ ชายหนุ่มที่สาว ๆ ใฝ่ปอง "(นาย)พล" นั่นเอง แต่หลังจากได้ยินเสียงอันกวนโทสะของผู้ชายคนนี้แล้ว ทำให้เธอรู้สึกจี๊ดขึ้นมาในหัวใจ
“ว่าไงนะ ตัวปัญหาเหรอ! ชั้นขอให้นายเข้าช่วยเหลือชั้นหรือไง!”
พลค่อย ๆ ยื่นหน้าของเขาเข้ามา จนหยดน้ำที่หยดลงมาจากเส้นผมของเค้า หยดโดนหน้าของเธอ
"เฮ้อ นี่จะไม่ขอบคุณกันหน่อยเลยเหรอ ที่ชั้นเข้าช่วยเธอไว้เนี่ย"
"ขอบคง ขอบคุณอะไร ที่ชั้นต้องเจอเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่เพราะนายเหรอ!"
"นี่...ยัยจักรยานเน่า แถมวันนี้รองเท้าก็ยังเน่าอีก ไม่มีใครสอนหรือยังไง ทำผิดก็ต้องขอโทษ ได้รับความช่วยเหลือก็ขอบคุณ"
คราวนี้พลเขยิบหน้าเข้าใกล้ฝ้ายอีก จนหญิงสาวรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขา ฝ้ายพยายามเอนตัวไปข้างหลัง แต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอหยุดการจู่โจมด้วยความพูดอันเจ็บแสบของเธอได้
"แล้วยังไง ชั้นมันคนละระดับกับนายผู้สูงส่งนี่! นายจะมาช่วยชั้นทำไม ถ้าจะช่วยจริง นายช่วยไปบอกบรรดาติ่งสาว ๆ ของนายดีกว่านะ ว่าให้หยุดตามตอแยชั้น และหยุดสร้างความเดือดร้อนให้ชั้นได้แล้ว วันก่อนก็ฉีกหนังสือชั้นจนยับเยิน .. ไหนจะเรื่อง.. เฮ้อ .. อย่าพูดเลย สรุป นายเลิกยุ่งกับชั้นได้แล้ว! ชั้นไม่อยากเห็นหน้านายอีก!”
ฝ้ายหันหลังขวับและทำท่าจะเดินหนีไปจากตรงนั้น แต่โดนพลคว้าแขนไว้
“หยุดเลยนะ เธอจะไปไหน ... วันนี้เสื้อของชั้นเปียกเพราะเธอ เธอต้องชดใช้และรับผิดชอบ มานี่เลย มา!”
พลลากกึ่งฉุดฝ้ายมาที่ห้องชมรมบาสท่ามกลางสายตามากมายของผู้คนที่ผ่านมาเห็น ฝ้ายไม่กล้าตอบโต้ หรือยื้อยุดอะไร เพราะเมื่อเช้าเพิ่งโดนอาจารย์สังคายนาชุดใหญ่ เธอไม่ควรทำตัวเป็นจุดเด่นมากไปกว่านี้
ในห้องชมรมบาสไม่มีใครเลย เพราะว่าทุกคนคงเพิ่งออกไปที่สนามกันหมด พลปล่อยมือฝ้าย และทำท่าจะถอดเสื้อ
“กรี๊ด! นายจะทำอะไรน่ะ” ฝ้ายเอามีปิดตา และหันหลังให้พลทันที
“ชั้นก็กำลังจะถอดเสื้อออกไง มันเปียก ใส่นาน ๆ เดี๋ยวเป็นปอดบวมกันพอดี...” พลตอบอย่างใจเย็น
“นายก็ไปถอดข้างในห้องน้ำสิ นู่นๆๆๆ” ฝ้ายชี้ไปทางเข้าห้องน้ำของชมรม
“ไม่ล่ะ ขี้เกียจ ผู้ชายเค้าไม่จำเป็นต้องไปถอดกันในห้องน้ำหรอก”
พลหันหลังให้ฝ้ายและถอดเสื้อทันที...หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว สายตาเจ้ากรรมของเธอดันเห็นแผ่นหลังของพล และมันดูกว้างมาก ถ้าเทียบกับตัวเธอแล้ว ตัวเธอบางเล็กลงไปเลย ระหว่างที่สายตาของฝ้ายกำลังจับจ้องที่ร่างกายอันกำยำของพลนั้น พลก็หันหลังกลับมา ทำให้สายตาของทั้งสองประสานกัน ทำให้เกิดอารมณ์เคมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น
พลเดินตรงเข้ามาใกล้ ๆ หญิงสาวด้วยแผ่นอกเปลือยที่แลดูแน่นหนา เธอพยายามสาวเท้าถอยหลังไป แต่ตอนนี้เธอขยันไปไหนไม่ได้แล้ว ตัวเธอดันชิดกับตู้ล็อกเกอร์ พลยกมือข้างหนึ่งท้าวกับตู้ล็อกเกอร์ และยื่นหน้าเข้าไปหาหญิงสาวอย่างช้า ๆ ตาที่จดจ้องไปที่หญิงสาวนั้นไม่กระพริบแม้แต่สักครั้งเดียว
ฝ้ายพยายามรวบรวมสติและพูดขึ้นอย่างเร่งรีบว่า
“นี่...หยุดนะ! นายจะทำอะไรชั้นน่ะ”
“แล้วเธอคิดว่าชั้นจะทำอะไรเธอล่ะ เธอทำเสื้อชั้นเปียกแล้วเธอจะชดใช้ชั้นยังไง”
ฝ้ายหลับตาปี๋ ใจเต้นแรงมาก ๆ พยายามหันหน้าหลบพล .. พลจับจ้องที่หน้าหวาน ๆ ของฝ้าย และมองดูอากัปอาการที่ลุกลี้ลุกลนของหญิงสาว จนทนไม่ไหวที่เขาต้องเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว พลยัดเสื้อที่เปียกโชกของเขาไว้ในมือของฝ้าย ฝ้ายสะดุ้งตกใจและลืมตาโพรงขึ้นมา
“เธอต้องเอาเสื้อไปซักแล้วก็รีดให้ชั้น แล้วเอามาคืนชั้นพรุ่งนี้ เข้าใจมั้ย ถ้าทำมันขาดหรือเสียหายเด็ดขาด ไม่งั้นเธอต้องชดใช้จนอานเลย”
“อึ อึ อื้อ ... รู้แล้ว”
“แล้วก็หลบไปได้แล้ว เธอยืนบังล็อกเกอร์ของชั้นอยู่”
ฝ้ายเขยิบตัวออกไป ส่วนพลก็เปิดล็อกเกอร์ที่อยู่หลังฝ้าย และหยิบเสื้อนักกีฬาของเขาออกใส่แล้วเดินออกไปจากห้อง .. ฝ้ายได้แต่ยืนหน้าแดง มือก็กำเสื้อของพลไว้ แล้วส่ายหัวไปมาสั่นงก ๆ ด้วยความอับอายขายขี้หน้าที่เธอคิดว่า พลจะทำอะไรเธอ ...
(บ้าจริงเลยชั้น... เป็นอะไรไปนี่)
หลังเลิกเรียน ฝ้ายเอารองเท้าไปคืนพีค และบอกลาก่อนกลับบ้าน แต่เธอไม่ได้ตรงกลับบ้านของเธอ เย็นนี้เธอยังต้องไปทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านขายกาแฟที่อยู่ใกล้บ้านของเธอก่อน
“เชิญเลยค่า รับอะไรดีคะ คุณลูกค้า”
เสียงใส ๆ ของฝ้ายเจื้อยแจ้วตลอดเวลาการทำงาน ฝ้ายทำงานอย่างขยันขันแข็ง และจะมีความสุขทุกครั้งที่ได้รับเงินค่าแรงจากทางร้าน
“เอาชาเขียวปั่น 1 ที่”
ฝ้ายเงยหน้าขึ้นเมื่อได้เสียงที่คุ้ยเคย
“อ้าว พีค มาทำอะไรที่นี่น่ะ”
“อ้อ...พอดีแวะมาหาไรกินก่อนเข้าบ้านน่ะ”
“อื้อ .. อ่ะ ได้แล้วจ้า ชาเขียวปั่น 1 ที่จ้า ทั้งหมด 65 จ้ะ”
พีคนั่งมองฝ้ายจากมุม ๆ หนึ่งของร้านอย่างเงียบ ๆ และต้องเผลอตัวทุกทีที่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นรอยยิ้มหวาน ๆ ของหญิงสาว เธอพยายามบริการลูกค้าอย่างเต็มที่ แต่ทุกครั้งที่หญิงสาวหันมามองเขา เขาก็จะเฉไฉสายตาไปที่หนังสือเรียนที่เขาพกมาเพื่อการประกอบฉากในการนั่งรอของเขาวันนี้
“ขอโทษนะคะ คุณชื่ออะไรเหรอคะ”
“คุณน่ารักมากเลยค่ะ มีแฟนหรือยังคะ”
“ขอเบอร์หน่อยได้ไหมคะ”
“มาคนเดียวเหรอคะ ขอนั่งด้วยได้ไหมคะ”
ใบหน้าอันสะอาดสะอ้าน หล่อเหลา และดวงตากลมโตที่ไม่เหมือนใครของพีค บรรดาลูกค้าสาว ๆ ของร้านต่างพากันกรี๊ดกร๊าด และหลงเสน่ห์พีคไปตาม ๆ กัน
....บ้างก็เดินมาที่โต๊ะ
....บ้างก็แอบจับกลุ่มนั่งจ้องพีค
แต่พีคก็ยังคงฟอร์มเดิมของเขา นั่งอ่านหนังสือของเขาไปเรื่อย ๆ อย่างไม่สนใจใครทั้งนั้น ฝ้ายซึ่งแอบรู้สึกถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไปของร้าน ทำให้เริ่มรู้สึกประหลาดใจที่เธอไม่เคยสังเกตเรื่องความหล่อหมดจดของพีคเลย
(เอ .. ที่จริงพีคนี่ก็หล่อเหมือนกันนะ ทำไมเราไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย เป็นที่นิยมในหมู่สาว ๆ ซะด้วย)
พอฝ้ายเลิกงาน พีคก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เธอจึงเดินไปคุยกับพีค
“ยังไม่กลับอีกเหรอ พีค นายรอเราเหรอ”
“เปล่านี่ ก็นั่งอ่านหนังสือไปเรื่อย ๆ อ้าวเลิกแล้วเหรอ”
(แป่ววววว....)
“อ้อ เอานี่ไปสิ”
พีคยื่นกล่องใบหนึ่งให้ฝ้าย ปรากฏว่าข้างในเป็นรองเท้านักเรียนผู้หญิงคู่หนึ่ง
“นี่เธอ ซื้อให้เราเหรอ”
“อื้อ... เธอไม่มีใส่แล้วไม่ใช่เหรอ”
“อือ .. งั้นเราไม่รับฟรี ๆ นะ เดี๋ยวเราจ่ายเงินคืนนายด้วย”
“เราไม่เอาเงินหรอก จ่ายเป็นอย่างอื่นให้เราได้ไหมล่ะ”
“อ้าว แล้วนายจะให้จ่ายเป็นอะไร ถ้าไม่ใช่เงิน”
“เออ น่า เดี๋ยวไว้ค่อยบอกพรุ่งนี้”
ฝ้ายทำหน้าสงสัยพีค ส่วนพีคก็ยิ้มกว้างตอบ แต่ด้วยความดีใจของหญิงสาว เธอเริ่มหยิบรองเท้าคู่ใหม่ของเธอมาเชยชม และลองสวมใส่อย่างชอบใจ
ในขณะนั้นเอง พลได้ขับรถมาหาฝ้ายที่ร้านกาแฟแห่งนี้ ตามคำบอกเล่าของใบเฟิร์นซึ่งเป็นเพื่อนสาวของฝ้าย เขาจอดรถเทียบฟุตบาทเสร็จแล้ว กำลังเตรียมตัวลงจากรถ แต่ภาพที่เขาเห็นนั้นทำให้ต้องชะงักและหยุดการกระทำทุกอย่าง
(เรามาช้าไปใช่ไหมเนี่ย)
ความปวดร้าวในใจเกิดขึ้นเหมือนพายุโหมในใจของพล ความเงียบสงัดในรถทำให้พลได้ยินแต่เสียงลมหายใจหม่น ๆ ของตัวเอง ชายหนุ่มได้แต่นั่งก้มหน้าและถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกที่วังเวงใจอย่างบอกไม่ถูก
“เฮ้อ...ก็แค่จะแสดงความรับผิดชอบ เราก็ไม่น่าต้องถึงทำขนาดนี้นี่นา”
สายตาของชายหนุ่มมองไปยังกล่องรองเท้าที่ตนเพิ่งซื้อมา เขาย้อนนึกถึงวันนั้นที่เห็นพีคพาฝ้ายมาหารองเท้าในห้องชมรม มันทำให้เขารู้สึกหวิว ๆ และปั่นป่วนในหัวใจ
เสียงบบทสวดยาวของอาจารย์ประจำภาควิชายังดังก้องอยู่ในหูสองข้างของฝ้าย เธอรู้สึกอับอายขายหน้ามาก เพราะตลอดมาเธอไม่เคยทำตัวออกนอกลู่นอกทางขนาดนี้
(แล้วถ้าถูกปลดจากทุน จะยังไงดีล่ะ)
ฝ้ายได้แต่นั่งก้มหน้าและถอนหายใจให้กับความโชคร้ายที่เธอได้รับและเป็นอยู่ เธอตั้งใจเอารองเท้าที่พีคให้ยืมวันก่อนมาคืน และกะว่าจะไปซื้อรองเท้าคู่ใหม่หลังเลิกงานพาร์ทไทม์ เพราะคืนนี้เป็นวันที่เงินค่าแรงออก
"นี่...หล่อน! เงยหน้าให้เห็นชัดๆ หน่อยซิ!"
เจ้าของเสียงนั้นคือ หนึ่งในแฟนคลับหรือจะเรียกว่าเป็นสาวกของพลเลยก็ยังได้ ฝ้ายจำพวกหล่อนได้ตอนกดน้ำวันก่อน ฝ้ายเงยหน้าขึ้นตามเสียงเรียกแหลมปรี๊ดนั้น และรู้สึกสังหรณ์ถึงสัญญาณอันตราย
"ใช่แล้วล่ะ ยัยหน้าด้านคนนี้แหละ ที่มันทำร้ายพี่พลของพวกเรา" สาวกอีกคนหนึ่งยืนยัน
"แกเตรียมตัวหรือยังนังเด็กใหม่ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง!" สาวกทั้งสองเดินย่ามเข้ามาหมายจะทำร้ายฝ้าย
ฝ้ายไม่ปล่อยให้ตนเองตกอยู่ในอันตราย เธอลุกขึ้นและหลบหลีกตัวออกจากเก้าอี้ซึ่งเป็นมุมอับของเธอ แต่ยังไม่ทันได้ป้องกันตัวอะไร เธอไม่ทันสังเกตเห็นสาวกอีกคนที่เหลือ กำลังวิ่งเข้ามาหาเธอพร้อมกับถังน้ำที่มีน้ำอยู่เต็มถัง
"ซู่ม!" เสียงแรงปะทะของน้ำดังมาก ฝ้ายได้แต่หลับตาปี๋ และคิดว่า เธอไม่รอดแน่ ๆ แล้ว แต่...
(เอ๊ะ! ทำไมรู้สึกว่าตัวเองไม่เปียกน้ำเลยล่ะ)
ฝ้ายค่อย ๆ ลืมตาขึ้น และต้องตกใจมากที่เห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนกางแขนบังตัวเธอเอาไว้ ตัวทั้งตัวของเขาเปียกโชกไปตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า
บรรดาสาวกหน้าถอดสี และรีบวิ่งหนีไปทันที เมื่อรู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง
ความเงียบเข้ามาแทนที่ จนกระทั่งผู้ชายคนนั้นเริ่มขยับตัวและหันหน้ามาหาฝ้ายอย่างช้า ๆ
"เฮ้อ เจอเธอทีไร ชั้นต้องเปียกทุกทีเลยนะ เธอนี่มันตัวปัญหาจริง ๆ"
ฝ้ายตกใจมากเมื่อเห็นหน้าผู้ชายคนที่เข้ามาช่วยเธอ ชายหนุ่มที่สาว ๆ ใฝ่ปอง "(นาย)พล" นั่นเอง แต่หลังจากได้ยินเสียงอันกวนโทสะของผู้ชายคนนี้แล้ว ทำให้เธอรู้สึกจี๊ดขึ้นมาในหัวใจ
“ว่าไงนะ ตัวปัญหาเหรอ! ชั้นขอให้นายเข้าช่วยเหลือชั้นหรือไง!”
พลค่อย ๆ ยื่นหน้าของเขาเข้ามา จนหยดน้ำที่หยดลงมาจากเส้นผมของเค้า หยดโดนหน้าของเธอ
"เฮ้อ นี่จะไม่ขอบคุณกันหน่อยเลยเหรอ ที่ชั้นเข้าช่วยเธอไว้เนี่ย"
"ขอบคง ขอบคุณอะไร ที่ชั้นต้องเจอเรื่องพวกนี้ ไม่ใช่เพราะนายเหรอ!"
"นี่...ยัยจักรยานเน่า แถมวันนี้รองเท้าก็ยังเน่าอีก ไม่มีใครสอนหรือยังไง ทำผิดก็ต้องขอโทษ ได้รับความช่วยเหลือก็ขอบคุณ"
คราวนี้พลเขยิบหน้าเข้าใกล้ฝ้ายอีก จนหญิงสาวรู้สึกได้ถึงลมหายใจของเขา ฝ้ายพยายามเอนตัวไปข้างหลัง แต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอหยุดการจู่โจมด้วยความพูดอันเจ็บแสบของเธอได้
"แล้วยังไง ชั้นมันคนละระดับกับนายผู้สูงส่งนี่! นายจะมาช่วยชั้นทำไม ถ้าจะช่วยจริง นายช่วยไปบอกบรรดาติ่งสาว ๆ ของนายดีกว่านะ ว่าให้หยุดตามตอแยชั้น และหยุดสร้างความเดือดร้อนให้ชั้นได้แล้ว วันก่อนก็ฉีกหนังสือชั้นจนยับเยิน .. ไหนจะเรื่อง.. เฮ้อ .. อย่าพูดเลย สรุป นายเลิกยุ่งกับชั้นได้แล้ว! ชั้นไม่อยากเห็นหน้านายอีก!”
ฝ้ายหันหลังขวับและทำท่าจะเดินหนีไปจากตรงนั้น แต่โดนพลคว้าแขนไว้
“หยุดเลยนะ เธอจะไปไหน ... วันนี้เสื้อของชั้นเปียกเพราะเธอ เธอต้องชดใช้และรับผิดชอบ มานี่เลย มา!”
พลลากกึ่งฉุดฝ้ายมาที่ห้องชมรมบาสท่ามกลางสายตามากมายของผู้คนที่ผ่านมาเห็น ฝ้ายไม่กล้าตอบโต้ หรือยื้อยุดอะไร เพราะเมื่อเช้าเพิ่งโดนอาจารย์สังคายนาชุดใหญ่ เธอไม่ควรทำตัวเป็นจุดเด่นมากไปกว่านี้
ในห้องชมรมบาสไม่มีใครเลย เพราะว่าทุกคนคงเพิ่งออกไปที่สนามกันหมด พลปล่อยมือฝ้าย และทำท่าจะถอดเสื้อ
“กรี๊ด! นายจะทำอะไรน่ะ” ฝ้ายเอามีปิดตา และหันหลังให้พลทันที
“ชั้นก็กำลังจะถอดเสื้อออกไง มันเปียก ใส่นาน ๆ เดี๋ยวเป็นปอดบวมกันพอดี...” พลตอบอย่างใจเย็น
“นายก็ไปถอดข้างในห้องน้ำสิ นู่นๆๆๆ” ฝ้ายชี้ไปทางเข้าห้องน้ำของชมรม
“ไม่ล่ะ ขี้เกียจ ผู้ชายเค้าไม่จำเป็นต้องไปถอดกันในห้องน้ำหรอก”
พลหันหลังให้ฝ้ายและถอดเสื้อทันที...หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว สายตาเจ้ากรรมของเธอดันเห็นแผ่นหลังของพล และมันดูกว้างมาก ถ้าเทียบกับตัวเธอแล้ว ตัวเธอบางเล็กลงไปเลย ระหว่างที่สายตาของฝ้ายกำลังจับจ้องที่ร่างกายอันกำยำของพลนั้น พลก็หันหลังกลับมา ทำให้สายตาของทั้งสองประสานกัน ทำให้เกิดอารมณ์เคมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้น
พลเดินตรงเข้ามาใกล้ ๆ หญิงสาวด้วยแผ่นอกเปลือยที่แลดูแน่นหนา เธอพยายามสาวเท้าถอยหลังไป แต่ตอนนี้เธอขยันไปไหนไม่ได้แล้ว ตัวเธอดันชิดกับตู้ล็อกเกอร์ พลยกมือข้างหนึ่งท้าวกับตู้ล็อกเกอร์ และยื่นหน้าเข้าไปหาหญิงสาวอย่างช้า ๆ ตาที่จดจ้องไปที่หญิงสาวนั้นไม่กระพริบแม้แต่สักครั้งเดียว
ฝ้ายพยายามรวบรวมสติและพูดขึ้นอย่างเร่งรีบว่า
“นี่...หยุดนะ! นายจะทำอะไรชั้นน่ะ”
“แล้วเธอคิดว่าชั้นจะทำอะไรเธอล่ะ เธอทำเสื้อชั้นเปียกแล้วเธอจะชดใช้ชั้นยังไง”
ฝ้ายหลับตาปี๋ ใจเต้นแรงมาก ๆ พยายามหันหน้าหลบพล .. พลจับจ้องที่หน้าหวาน ๆ ของฝ้าย และมองดูอากัปอาการที่ลุกลี้ลุกลนของหญิงสาว จนทนไม่ไหวที่เขาต้องเผลอยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว พลยัดเสื้อที่เปียกโชกของเขาไว้ในมือของฝ้าย ฝ้ายสะดุ้งตกใจและลืมตาโพรงขึ้นมา
“เธอต้องเอาเสื้อไปซักแล้วก็รีดให้ชั้น แล้วเอามาคืนชั้นพรุ่งนี้ เข้าใจมั้ย ถ้าทำมันขาดหรือเสียหายเด็ดขาด ไม่งั้นเธอต้องชดใช้จนอานเลย”
“อึ อึ อื้อ ... รู้แล้ว”
“แล้วก็หลบไปได้แล้ว เธอยืนบังล็อกเกอร์ของชั้นอยู่”
ฝ้ายเขยิบตัวออกไป ส่วนพลก็เปิดล็อกเกอร์ที่อยู่หลังฝ้าย และหยิบเสื้อนักกีฬาของเขาออกใส่แล้วเดินออกไปจากห้อง .. ฝ้ายได้แต่ยืนหน้าแดง มือก็กำเสื้อของพลไว้ แล้วส่ายหัวไปมาสั่นงก ๆ ด้วยความอับอายขายขี้หน้าที่เธอคิดว่า พลจะทำอะไรเธอ ...
(บ้าจริงเลยชั้น... เป็นอะไรไปนี่)
หลังเลิกเรียน ฝ้ายเอารองเท้าไปคืนพีค และบอกลาก่อนกลับบ้าน แต่เธอไม่ได้ตรงกลับบ้านของเธอ เย็นนี้เธอยังต้องไปทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านขายกาแฟที่อยู่ใกล้บ้านของเธอก่อน
“เชิญเลยค่า รับอะไรดีคะ คุณลูกค้า”
เสียงใส ๆ ของฝ้ายเจื้อยแจ้วตลอดเวลาการทำงาน ฝ้ายทำงานอย่างขยันขันแข็ง และจะมีความสุขทุกครั้งที่ได้รับเงินค่าแรงจากทางร้าน
“เอาชาเขียวปั่น 1 ที่”
ฝ้ายเงยหน้าขึ้นเมื่อได้เสียงที่คุ้ยเคย
“อ้าว พีค มาทำอะไรที่นี่น่ะ”
“อ้อ...พอดีแวะมาหาไรกินก่อนเข้าบ้านน่ะ”
“อื้อ .. อ่ะ ได้แล้วจ้า ชาเขียวปั่น 1 ที่จ้า ทั้งหมด 65 จ้ะ”
พีคนั่งมองฝ้ายจากมุม ๆ หนึ่งของร้านอย่างเงียบ ๆ และต้องเผลอตัวทุกทีที่ยิ้มออกมาเมื่อเห็นรอยยิ้มหวาน ๆ ของหญิงสาว เธอพยายามบริการลูกค้าอย่างเต็มที่ แต่ทุกครั้งที่หญิงสาวหันมามองเขา เขาก็จะเฉไฉสายตาไปที่หนังสือเรียนที่เขาพกมาเพื่อการประกอบฉากในการนั่งรอของเขาวันนี้
“ขอโทษนะคะ คุณชื่ออะไรเหรอคะ”
“คุณน่ารักมากเลยค่ะ มีแฟนหรือยังคะ”
“ขอเบอร์หน่อยได้ไหมคะ”
“มาคนเดียวเหรอคะ ขอนั่งด้วยได้ไหมคะ”
ใบหน้าอันสะอาดสะอ้าน หล่อเหลา และดวงตากลมโตที่ไม่เหมือนใครของพีค บรรดาลูกค้าสาว ๆ ของร้านต่างพากันกรี๊ดกร๊าด และหลงเสน่ห์พีคไปตาม ๆ กัน
....บ้างก็เดินมาที่โต๊ะ
....บ้างก็แอบจับกลุ่มนั่งจ้องพีค
แต่พีคก็ยังคงฟอร์มเดิมของเขา นั่งอ่านหนังสือของเขาไปเรื่อย ๆ อย่างไม่สนใจใครทั้งนั้น ฝ้ายซึ่งแอบรู้สึกถึงบรรยากาศที่เปลี่ยนไปของร้าน ทำให้เริ่มรู้สึกประหลาดใจที่เธอไม่เคยสังเกตเรื่องความหล่อหมดจดของพีคเลย
(เอ .. ที่จริงพีคนี่ก็หล่อเหมือนกันนะ ทำไมเราไม่รู้ตัวเลยนะเนี่ย เป็นที่นิยมในหมู่สาว ๆ ซะด้วย)
พอฝ้ายเลิกงาน พีคก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม เธอจึงเดินไปคุยกับพีค
“ยังไม่กลับอีกเหรอ พีค นายรอเราเหรอ”
“เปล่านี่ ก็นั่งอ่านหนังสือไปเรื่อย ๆ อ้าวเลิกแล้วเหรอ”
(แป่ววววว....)
“อ้อ เอานี่ไปสิ”
พีคยื่นกล่องใบหนึ่งให้ฝ้าย ปรากฏว่าข้างในเป็นรองเท้านักเรียนผู้หญิงคู่หนึ่ง
“นี่เธอ ซื้อให้เราเหรอ”
“อื้อ... เธอไม่มีใส่แล้วไม่ใช่เหรอ”
“อือ .. งั้นเราไม่รับฟรี ๆ นะ เดี๋ยวเราจ่ายเงินคืนนายด้วย”
“เราไม่เอาเงินหรอก จ่ายเป็นอย่างอื่นให้เราได้ไหมล่ะ”
“อ้าว แล้วนายจะให้จ่ายเป็นอะไร ถ้าไม่ใช่เงิน”
“เออ น่า เดี๋ยวไว้ค่อยบอกพรุ่งนี้”
ฝ้ายทำหน้าสงสัยพีค ส่วนพีคก็ยิ้มกว้างตอบ แต่ด้วยความดีใจของหญิงสาว เธอเริ่มหยิบรองเท้าคู่ใหม่ของเธอมาเชยชม และลองสวมใส่อย่างชอบใจ
ในขณะนั้นเอง พลได้ขับรถมาหาฝ้ายที่ร้านกาแฟแห่งนี้ ตามคำบอกเล่าของใบเฟิร์นซึ่งเป็นเพื่อนสาวของฝ้าย เขาจอดรถเทียบฟุตบาทเสร็จแล้ว กำลังเตรียมตัวลงจากรถ แต่ภาพที่เขาเห็นนั้นทำให้ต้องชะงักและหยุดการกระทำทุกอย่าง
(เรามาช้าไปใช่ไหมเนี่ย)
ความปวดร้าวในใจเกิดขึ้นเหมือนพายุโหมในใจของพล ความเงียบสงัดในรถทำให้พลได้ยินแต่เสียงลมหายใจหม่น ๆ ของตัวเอง ชายหนุ่มได้แต่นั่งก้มหน้าและถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกที่วังเวงใจอย่างบอกไม่ถูก
“เฮ้อ...ก็แค่จะแสดงความรับผิดชอบ เราก็ไม่น่าต้องถึงทำขนาดนี้นี่นา”
สายตาของชายหนุ่มมองไปยังกล่องรองเท้าที่ตนเพิ่งซื้อมา เขาย้อนนึกถึงวันนั้นที่เห็นพีคพาฝ้ายมาหารองเท้าในห้องชมรม มันทำให้เขารู้สึกหวิว ๆ และปั่นป่วนในหัวใจ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
7.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.7 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ