เพื่อนคนนี้ รักเธอได้ไหม
เขียนโดย PungKung
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.07 น.
แก้ไขเมื่อ 15 มีนาคม พ.ศ. 2557 23.17 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) แค่แอบรัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 3 แค่แอบรัก
“เอาล่ะ ครูจะเช็คชื่อแล้วนะ ว่ามากันครบหรือยัง” วันนี้แล้วสินะ ที่ทุกคนจะไดไปเข้าค่ายที่ดอยหลวงเชียงดาว
“นางสาว สุมาตรา” เสียงของครูสายขวัญตรวจรายชื่อที่นักเรียนมากันครบหรือยังเมื่อเห็นว่าถึงเวลาแล้ว
“มาค่ะ” สุมาตราตอบรับ
“นาย อุทกภัย”
“มาครับ” อุทกภัย หรือเพื่อนของตั้มอีกคนหนึ่ง
“นาย วรินทร”
“…”
“นายวริทร มาหรือเปล่า” เสียงเรียนของครูสายขวัญที่เรียกหานายวรินทร หรือ นายตั้มนั่นเอง
“…”
“มาสายอีกแล้ว” ครูสายขวัญพูดพร้อมถอนหายใจอย่างปลงอนิจจังเมื่อเห็นว่านักเรียนที่มาสายติด ท็อป ของโรงเรียนต้องมาขึ้นรถช้า
กริ๊งๆ กริ๊งๆ กริ๊ง
“อื้ม อะไรเนี่ย ปลุกแล้วเหรอ” นายตั้มตื่นขึ้นมาในลักษณะงูขี้เกียจพร้อมกับเอนตัวเพื่อหยิบนาฬิกาที่อยู่ข้างๆตัวขึ้มาดูในท่าทางที่ม่านตายังเปิดออกมาไม่ค่อยชัดเท่าไร
“เฮ้ย! เจ็ดโมงครึ่งแล้ว! ซวยแล้วๆ!” แค่นั้นแหละ ตื่นเป็นไก่ตื่นเลย ตั้มกระโดดออกจากเตียงและดูเวลาให้ชัดเจนอีกทีเพื่อดูว่าตนไม่ได้ดูผิดไป จากนั้นจึงรีบแต่งตัวชุดลำลองและหยิบเป้เสื้อผ้าที่วางไว้ข้างเตียงของตนวิ่งโร่ออกไปหน้าบ้านเพื่อที่จะขี่มอ’ไซค์ไปโรงเรียนอย่างเร่งรีบ
“อ้าว นักเรียน เร่งกันหน่อย เดี๋ยวออกเดินทางไม่ทันกันพอดี” เสียงของครูท่านหนึ่งดังขึ้นเพื่อให้นักเรียนเร่งขึ้นรถทัวร์ให้เร็วที่สุด เพราะการเดินทางจากกรุ่งเทพไปเชียงใหม่ มันไม่ไกล้เหมือนไปอนุสาวรีย์ชัยเลย
“เอ่อ..ครูคะ แล้ว..ตั้มล่ะคะ?” กัณซ่งยังไม่ขึ้นรถพร้อมกับเพื่อนอีกสามคนยังคงรอตั้มอยู่
“อ๋อ นายตั้มหนะเหรอ ยังไม่มาเลย สงสัยคงตื่นสาย” ครูสายขวัญบอกกับกัณและให้กัณชึ้นรถได้และไม่ต้องรอตั้ม เพราะคิดว่าตั้มคงมาสาย
“นายนี่หนิ” กัณสบถอย่างหัวเสียเบาๆเมื่อรู้ว่าตั้ม “อาจจะ”ตกรถไปแล้ว จากนั้นกัณจึงขึ้นรถทัวร์แต่ระหว่าที่ขาข้างซ้ายกำลังจะก้าวขึ้นบันไดรถทัวร์ขั้นแรก เสียงชายหนุ่มที่คุ้นหูจึงดังขึ้น
“รอผมด้วย! รอผมด้วยคร้าบครู” นั่น! เสียงนายตั้มหนิ ในที่สุด นายตั้ก็มาถึงเสียที
นายตั้มตะโกนพร้อมวิ่งหอบมาอย่างเหนื่อยหน่าย จึงได้มายืนก้มหน้าหอบอยู่หน้าครูสายขวัญ
“มาสายอีกแล้วนะ เกือบตกรถเลยไหมล่ะ ดีนะที่หนูกัณช่วยรอเธอเนี่ย” ครูสายขวัญเอ็ดตั้มและได้พูดถึงกัณที่ยังคอยตั้มอยู่ข้างล่างรถทัวร์
“กัณ? รอผมเหรอ กัณ เธอรอฉันอยู่เหรอ” ตั้มอ้ำอึ้งถามครู แล้วจึงหันไปหากัณเพื่อถามให้ความแน่ใจว่าครูไม่ได้พูดเล่น
“และไม่ใช่กัณ คนอีกเกือบทั้งห้องนั่งรอนายอยู่บนรถแล้ว นั่นหนะ” ครูสายขวัญยังเอ็ดตั้มอีก และอธิบายให้เข้าใจว่าไม่ใช่แค่กัณที่รอตั้ม แต่คือนักเรียนร่วมทัวร์อีกกลุ่ม(ใหญ่ๆ)กลุ่มหนึ่งด้วย
ตั้มเงยหน้ามองไปที่รถทัวร์แล้วต้องสะดุ้ง เมื่อทุกคนมาองตั้มอย่างอารมณ์เสียเป็นตาเดียวกัน
“.....”
“เฮ้ย! ไอ้ตั้ม ทำไรอยู่ว่ะ คนเขารอนานแล้วนะโว้ย!” ทาเกชิ ลูกครึ่ง ไทย-ญี่ปุ่นตะโกนออกมานอกหน้าต่างเพื่อเรียกให้เพื่อนของตนรีบขึ้นรถเพราะเห็นว่าคนอื่นๆชักจะรอนานแล้ว
“ไปๆ ขึ้นรถ มันจะไม่ทันแล้วเนี่ย” ครูสายขวัญบอกให้ตัม กัณและเพื่อนอีกสามคนรีบขึ้นรถ เพราจะต้องรีบเดินทางไกล
ณ....ดอยหลวงเชียงดาว
“เอ้า ให้นักเรียนทุกคนลงจากรถ นำสัมภาระไปกองไว้ที่หอประชุม เดี๋ยวไกด์ของเราจะนำทางไปเอง แล้วอย่าแอบไปที่ไหนล่ะ” วิทยากรที่ทำงานให้กับทัวร์นี้ได้บอกให้นักเรียนทุกคนนำสัมภาระไปรวมกองกันไว้ที่หอประชุมก่อน และอย่าแอบไปไหน
“โห่ คุณวิทยากร จะหนีไปไหนได้ละ นี่เขานะครูครับ” ก้องเกียจสบประหม่าเมื่อเห็นว่าจะไปเดินเล่นที่ไหนไม่ได้เพราะมันเป็นเขา
“เอ๊า! ยังจะมาเถียงอีก ไปๆ เอาของไปเก็บ เร็วเข้า!” ครูจงจิตร์ที่ร่วมทัวร์มาด้วยเอ็ดนายก้องเกียจที่เอาแต่เถียงคำไม่ตกฟากอยู่ได้
“สำหรับหอพักนักเรียนชาย จะให้ตั้งแค้มป์ทางฝั่งซ้ายนะ ส่วนนักเรียนหญิง จะมีห้องพักรวมให้ จะได้ไม่ลำบาก” วิทยากรคนนี้ได้บอกรายละเอียดเกี่ยวกับการพักผ่อนที่หลับที่หลับนอนของแต่ละกลุ่ม
“หลังจากที่เราเอาสัมภาระไปเก็บแล้วก็ให้นักเรียนไปรวมตัวที่หอประชุม เพื่อที่จะทำกิจกรรมต่อไปนะครับ” วิทยากรคนนี้ก็ได้บอกการนัดหมายสำคัญอีกอย่าง
ณ...หอประชุม
“กิจกรรมวันนี้คือ...เป่าแป้งหาเหรียญค่า” วิทยากรหญิงอีกคนได้บอกกิจกรรมต่อไปที่นักเรียนที่มาเข้าค่ายปฐมนิเทศได้เล่นสนุกอีกหลังจากที่ผ่านมาหลายกิจกรรมแล้ว
“โดยจะแบ่งกันเป็นคู่ชายหญิงนะคะ ก็ทั้งหมด7คู่ และผู้ที่เป่าแป้งหาเหรียญเจอก่อน เป็นผู้ชนะคะ อ่อ... วอนครูสายขวัญช่วยจับคู่นักเรียนหน่อยค่ะ” วิทยากรหญิงได้บอกรายละเอียดในการเล่นเกมส์นี้พร้อมทั้งวอนให้ครูสายขวัญช่วยจับคู่นักเรียนมาเล่นเกมส์
“อุทกภัยกับสุมาตรา ออกมา” คุ่แรกที่ออกมาจากปากของครูสายขวัญ ทำให้ สุมาต กับนายทก ออกมาเล่นเกมส์
“แล้วก็... อ้อ! กัณฐิกากับวรินทร” และครั้งนี้ครูสายขวัญก็ได้เชิญให้ นายตั้ม และกัณออกมาเล่นเกมส์ นับเป็นการให้พรของพระเจ้าสำหรับตั้มแท้ๆ ถึงแม้ว่ามันจะน้อยนิดก็เถอะ
“อ่า และแล้วเราก็ได้ผู้เล่นครบ 7คู่แล้วนะคะ เริ่มเกมส์เลยคะ” วิทยากรหญิงเห็นว่าได้ผู้เล่นเกมส์ครบแล้ว เกมส์จึงเริ่มขึ้น
ผู้เล่นเกมส์ทั้งเจ็ดคู่แต่ละคู่ได้ช่วยกันเป่าแป้งที่อยู่ในจานเพื่อจะหาเหรียญบาทให้เจอ หน้าทุกคนเต็มไปด้วยแป้ง รวมทั้งกัณและตั้มด้วย
ตั้มช่วยเป่าด้วย ถึงแม้จะเป่าออกมาเหมื่อนแค่หายใจเพราะเอาแต่มองหน้ากัณไม่หยุด เขายอบรับเลยว่า ตอนที่กันทำแก้มป่องเพื่อจะเป่าแป้ง...มันดูน่ารักมากๆ
“ผู่ ผู่ ผู่ นี่ไง!เจอเหรียญแล้ว!” ตั้มต้องผละสายตาออกเมื่อกัณได้พบเหรียญที่อยู่ในแป้งและโชว์ให้ตั้มดู เมื่อวิทยากรเห็นว่าคู่ของกัณเจอเหรียญก่อนจึงยุติการแข่งขันลง
“อ่า แล้วผู้ชนะก็คือ คู่ของกัณฐิกาค่ะ ปรบมือให้หน่อยเร้ววววว”
“แปะ แปะ แปะ” นักเรียนที่มาเข้าค่ายก็ช่วยกันปรบมือให้กับกัณและตั้มที่เป็นฝ่ายชนะ
“เธอ...หน้าเปื้อนแป้งหนะ มา เดี๋ยวฉันจัดการให้” ตั้มเห็นหน้าของกัณเปื้อนไปด้วยแป้งฝุ่นจึงอยากจะช่วยปัดฝุ่นออกไปให้ แต่กัณเห็นว่าไม่ดีเพราะมีคนดูอยู่เป็นร้อยจึงปฎิเสธออกไปเพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องโดยเฉพาะเพื่อนของกัณทั้งสามคน ที่ตอนนี้จ้องมองกัณกับตั้มเป็นตาเดียวกัน
“อ้อ ! ไม่เป็นไร เดี๋ยว...เดี๋ยวฉันจัดการเอง นายจัดการหน้านายก่อนเถอะ”
“อ้อ โอเค” ตั้มตอบตกลงไปเพราะไม่อยากวุ่นจุ้นมากนักถึงแม้อยากจะทำหน้าที่นี้มากๆ
ตอนเย็น.....
“ท่องข้าวทุกจาน ทุกคนปฎิบัติ!” ผู้คุมนักเรียนได้ออกคำสั่งอย่างเฉียบขาดว่าให้ท่องข้าวทุกจานก่อนที่จะสามารถทานข้าวได้
“ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทิ้งขว้าง....” ทุกคนได้ตั้งใจท่อง เว้นเสียแต่นายตั้มและเพื่อนอีกสามคนที่ไม่ตั้งใจท่อง เพราะอยากรู้อะไรจากตั้ม
“เออ ไอ้ตั้ม นั่นนายแอบไปคบกับยัยกัณตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย?” ทาเกชิเริ่มเป็นฝ่ายถามตั้มก่อนเมื่อตนเป็นคนที่อยากรู้มากที่สุด
“เออว่ะ เห๊ย! ไอ้ตั้ม ไปคบกับยัยกัณตั้งแต่เมื่อไหร่ว่ะ?” ต่อมานายรัฐก็ถามเข้าประเด็นต่อเมื่อสนใจเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย
“โอยยยย จะไปสงสัยอะไรกัน เดี๋ยวนี้ไอ้ตั้มกลายเป็นเด็กหน้าห้องแล้วโว้ย มันไม่ใช่เด็กหลังห้องเหมือนแต่ก่อนแล้ว ใช่มั้ย ไอ้ตั้ม?” คราวนี้นายก้องได้ตอบแทนนายตั้มไปเพราะคิดว่ามันคงจะเ)นแบบนี้ แต่ทั้งสองก็ไม่ได้สนใจคำตอบของก้อง เพราะอยากรู้คำตอบจากปากนายตั้มมากกว่า
“เอ่อ... เห๊ย! อะไรกัน ฉันไม่ได้คบกับยัยกัณซะหน่อย แล้วก็ไอ้ที่ว่าฉันเป็นนักเรียนหน้าห้องแล้วหนะ ไม่ใช่นะโว้ย ฉันยังเป็นเพื่อนพวกนายอยู่เหมือนเดิม” นายตั้มได้ตอบกลับไปอย่างติดๆขัดๆ เพราะกลัวว่าเพื่อนของตนจะรู้อะไรบางอย่างที่ทำให้เขาปวดหัวไปมากกว่านี้และยังยืนยันในมิตรภาพที่ยังคงเป็นเด็กหลังห้องคนเดิม
“ให้มันจริงเห๊อะ!!!” ทั้งสามคน ทาเกชิ ก้อง และรัฐได้ประหม่านายตั้มอย่างหัวเสียนิดๆ
“นายวรินทร สหรัฐ ก้องเกียรติ ทาเกชิ คุยอะไรกัน” ผู้คุมได้ตะโกนถามเมื่อเห็นว่าทั้งสี่ไม่ได้ท่องข้าวทุกจานเหมือนคนอื่น
“เอ่อ.....” ตั้มตอบแบบติดๆขัดๆ แต่กำลังจะได้คำตอบ(ที่ตนกุขึ้นมา)ผู้คุมได้ออกคำสั่งลงโทษที่ไม่ยอมท่องเหมือนคนอื่นเสียก่อน
“เอาปากคาบช้อนไว้ซะ เร็วเข้า!”
“ครับผ้ม!!” เมื่อทั้งสี่ไม่อาจโต้จอบคำสั่งบังคับบัญชาได้ จึงทำได้แค่ทำตามคำสั่งโดยคาบช้อนไว้จนกว่าจะได้ทานข้าว
เมื่อเห็นว่าทุกคนท่องข้าวทุกจานหมดทุกคนแล้ว ผู้คุมจึงออกคำสั่งที่เปรียบเสมือนพระเจ้ามาโปรดนักเรียนทุกคนยังไงยังงั้นแหละ
“ทานข้าวได้” และนี่คือคำสั่งของพระเจ้านี่เอง
และระหว่างที่ทุกคนทานข้าวอยู่ ทาเกชิได้ถามตั้มอีกครั้งเพราะอยากรู้ความจริงมากๆพร้อมกับทานข้าวไปด้วย
“ฉันถามนายจริงเถอะ ไอ้ตั้ม นาย..คิดยังไงกับยัยกัณ” คำถามเดิมของทาเกชิที่ยังสร้างความกดดันให้ตั้มอยู่เหมือนเดิม
“เอาความจริงนะโว้ย ฉันไม่อยากฟังคำโกหกของเพื่อนคนนี้ มันไม่เนียน” รัฐได้บอกไปก่อนเพราะอาจคั้นเอาแค่ความจริง เพราะเวลาที่ตั้มโกหกอะไร มันไม่เนียนเลย
“ฉัน...ฉัน..” คราวนี้ ตั้มกดดันมากๆ จนต้องยอมตอบคำถามนี้อย่างตรงไปตรงมาจนได้
“ฉัน..ฉัน ฉันแอบชอบยัยกันว่ะ”
แค่นั้นแหละ เพื่อนทั้งสามอุทานออกมา(แต่ไม่ดังมาก)ออกมาโดยพร้อมเพรียงกัน
“ห๊ะ!!!! นายเนี่ยนะ ชอบยัยกัณ” ก้องสบประหม่านายตั้มเพราะไม่คิดเลยว่า นิสัยเพล์ยบอยอย่างตั้ม แทนที่จะชอบสาวน่ารัก คิคุ กลับกลายเป็นว่า ตั้มชอบเด็กบ้าเรียนคนนี้ซะแล้ว
“เฮ้ย! เบาๆหน่อยดิ” ตั้มบอกให้เพื่อนๆเบาหน่อยเพราะรู้สึงว่า ทานข้าวไป คุยไป มันไม่ดีเอาซะเลย
“เฮ้ย! เป็นไปได้ไงว่ะ นายตั้ม เด็กนักเรียนหลังห้อง จะไปแอบชอบยัยกัณ เด็กรักเรียนอย่างงั้นเหรอ โธ่! ไม่นะ ไอ้ตั้มมมม” ทาเกชิพรำเพรื่อเพื่อนคนนี้อย่างเสียดาย
“แล้ว เรื่องนี้ยัยกัณรู้ยัง?” ก้องถามตั้มเมื่ออยากรู้ว่า เหตุการณ์ครังใหญ่ในประวัติศาสต์ของนายตั้ม ที่มีความรักกับเด็กเรียน อยากรู้ว่า กัณ เด็กเรียนคนนี้ รู้หรือยัง
“ยังหรอก ฉันยังไม่บอกเธอ” ตั้มตอบอย่างน้อยใจเพาะคิว่าคนเรียนดีอย่างกัณ จะไม่คบกับเด็กหลังห้องอย่างตั้มได้ง่ายๆ ว่าแล้วตั้มก็อ้าปากอ้ำข้าวและเคี้ยวกินอย่างน้อยใจ
“โธ่เอ๊ย! ไอ้ตั้ม!” รัฐได้แต่ให้กำลังใจไอ้ตั้มอยู่อย่างนี้ เพราะมันเป็นเรื่องของคนสองคน เพื่อนไม่เกี่ยว
“พอๆ กินข้าวห้ามพูด พอเลย พอ” ตั้มเห็นว่าการคุยกันระหว่างทานข้าว มันเสียมารยาท และที่สำคัญคือ...เขาไม่อยากถูกใครถามเรื่องนี้ให้มันกดดันมากกว่านี้...
“(ฉันจะต้องทำอย่างไร ให้เธอชอบฉัน ฉันจะต้องทำอย่างไร ช่วยบอกที กัณฐิกา”)
ติดตามตอนต่อไป...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ