มาตรา...มายารัก
เขียนโดย ปัณณพร
วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 21.54 น.
แก้ไขเมื่อ 11 มีนาคม พ.ศ. 2557 04.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
7)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเช้าวันอาทิตย์ที่สดใส เป็นวันที่ปัณชญาไม่ต้องไปทำงาน ปัณชญาเลือกที่นัดเพื่อนรักทั้งสองคนอย่างพิมพ์ลภัสและแพรพลอยมารับประทานอาหารที่บ้าน โดยในวันนี้มีปุณณภพเป็นผู้แสดงฝีมือการทำอาหารให้ทั้งสามสาวได้ทานกันอย่างเอร็ดอร่อย
“ ฝีมือสารวัตรเนี่ยไม่เคยตกเลยนะคะ ” แพรพลอยพูดอย่างเอาใจหัวหน้าของเธอ พร้อมตักสปาเกตตี้คำใหญ่เข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
“ ไม่ต้องมายอพี่เลยยัยพลอย...ทานเข้าไปเยอะๆช่วงนี้ใช้พลังงานในการไล่ตามนายปัฐน์เยอะไม่ใช่หรอเรา ” เมื่อได้ยินคำชมจากปากแพรพลอยปุณณภพก็ถึงกับยิ้มหน้าบาน แต่ก็อดที่จะแซวลูกน้องสาวคนสนิทไม่ได้
“ พิมพ์ว่าเราอย่าพูดถึงตาคุณปัฐน์อะไรนั่นเลยดีกว่าคะพี่ปุณ ดูยัยพลอยสิคะทำหน้าบึ้งอย่างกะทานสปาเกตตี้บูดเข้าไปแหนะ ” พิมพ์ลภัสพูดพลางพยักเพยิดให้ทุกคนหันไปดูหน้าแพรพลอย
“ ใครทำหน้าบึ้งอะไรกัน ก็แค่เวลาที่ฉันนึกถึงหมอนั่นแล้วรู้สึกโมโห อารมณ์เสียเท่านั้นเองแหละยัยพิมพ์” แพรพลอยพูดด้วยน้ำเสียงโมโห จนทุกคนที่โต๊ะอาหารอดที่จะหัวเราะกับอาการของแพรพลอยไม่ได้
“ คุณปัฐน์เค้าทำอะไรให้แกอีกหล่ะยัยพลอย ” ปัณชญาถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ก็นายนั่นหน่ะสิ ชอบโทรมาเรียกฉันให้ไปหาไม่เป็นเวร่ำเวลา นึกอยากจะโทรตามตอนไหนก็โทร ฉันจะไม่ไปก็ไม่ได้ เกิดนายนั่นออกไปโดนใครลอบทำร้ายมาอีกก็ซวยฉันหน่ะสิงานนี้ ”
ปัณชญาได้แต่พยักหน้าอย่างเห็นใจและเข้าใจความรู้สึกของเพื่อนรักอย่างแพรพลอยเป็นอย่างดี นายปัฐน์คงไม่ได้เลวร้ายอะไรมากอย่างที่คิด เพราะถ้าเป็นคนประเภทนั้นจริงๆแพรพลอยคงถอนตัวจากคดีนี้ไปนานแล้วเธอรู้จักเพื่อนรักของเธอดี
“ แล้วคุณปัฐน์เค้าโดนลอบทำร้ายเรื่องอะไรหรอคะพี่ปูณ แล้วมันเกี่ยวกับบริษัทวิฑิตโยธิน กรุ๊ปยังไง ปันรู้ได้ไหมคะ ”
“ ได้สิ พี่จะเล่าให้ฟัง เรื่องมันมีอยู่ว่าคุณพ่อของคุณปัฐน์คุณปรีชา ชริยาภร เป็นเพื่อนรักกับคุณภูสิทธิ์ วิฑิตโยธิน เมื่อประมาณ 45 ปีที่แล้วคุณปรีชาได้สร้างบริษัท ชริยาภร เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด ส่วนคุณภูสิทธิ์ได้สร้างบริษัทวิฑิตโยธินกรุ๊ป บริษัททั้งสองบริษัทเปรียบเสมือนบริษัทพี่บริษัทน้องกันมีการร่วมหุ้นกันและมีการร่วมลงทุนด้วยกันหลายโครงการ ”
“ คุณพ่อของคุณปัฐน์ กับคุณพ่อของคุณวิภูก็ดูจะสนิทสนมกันดีนะคะ แต่ดูลูกของทั้งสองคนสิ ดูไม่ค่อยจะสนิทกันเท่าไหร่เลย ”ปัณชญาถามขึ้นอย่างสงสัยหลังจากที่เธอพึ่งตักสปาเกตตี้คำสุดท้ายเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย
“ คุณปัฐน์กับวิภูก็เคยเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็กนี่แหละยัยปัน แต่มันมีเรื่องที่ทำให้ทั้งสองครอบครัวไม่ถูกกัน ” ปุณณภพเล่าอย่างใจเย็น เมื่อเห็นทั้งสามสาวกินสปาเกตตี้อิ่มกันหมดแล้วและหันมาจ้องมองตนที่กำลังเล่าเรื่องของปัฐน์และวิภูอย่างสนใจ
“ หลังจากที่บริษัทชริยาภร เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัดดำเนินกิจการได้ประมาณ 15 ปี คุณปรีชาก็เสียชีวิตอย่างกะทันหันด้วยอุบัติเหตุ ขณะนั้นคุณปัฐน์อายุประมาณ 16 ปี ช่วงที่คุณปรีชาเสียชีวิตทำให้บริษัทชริยาภร เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด ขาดผู้นำคุณปรางสุดาเลยต้องขึ้นเป็นประธานบริษัทแทนคุณปรีชาผู้เป็นสามี ลำพังคุณปรางสุดา ซึ่งเป็นภรรยาของคุณปัฐน์ซึ่งเคยเป็นแต่แม่ที่เลี้ยงลูกอยู่กับบ้าน ไม่เคยจับงานด้านบริหารก็คงจะบริหารงานบริษัทชริยาภร เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัดไม่ไหว เพราะขณะนั้นบริษัทมีงานเข้ามาเยอะมาก คุณภูสิทธ์ซึ่งเป็นเพื่อนรักของคุณปรีชา จึงให้คุณภูผามาช่วยคุณปรางสุดาบริหารงานบริษัทชริยาภร เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด ”
“ นี่ถ้าคุณภูสิทธิ์ไม่ให้คุณภูผามาช่วยคุณปรางสุดาบริหารงานบริษัทชริยาภร เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด คงต้องเข้าขั้นวิกฤติแน่ๆเลยนะคะ ” พิมพ์ลภัสพูดแสดงความคิดเห็นขึ้น
“ น้องพิมพ์เข้าใจถูกแล้วครับ หลังจากที่คุณภูผามาช่วยคุณปรางสุดาบริหารงานได้ประมาณปีกว่าๆ คุณภูผาและคุณปรางสุดาก็ตกลงแต่งงานกัน ในขณะนั้นคุณภูผาก็เป็นพ่อม่ายลูกติดก็คือนายชานนท์ ซึ่งแม่ของนายชานนท์เสียชีวิตไปตั้งแต่นายชานนท์ยังเด็ก ส่วนคุณปรางสุดาก็เป็นแม่ม่ายลูกติดก็คือคุณปัฐน์ ”
“ เรื่องของสองครอบครัวนี้นี่มันซับซ้อนจริงๆนะคะเนี่ย ” ปัณชญาพูดอย่างตื่นเต้นเมื่อได้รู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองครอบครัว
“ หลังจากที่คุณปรางสุดาแต่งงานกับคุณภูผาได้ไม่กี่ปี คุณปัฐน์ก็ถูกส่งไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษเมื่อเรียนจบคุณปัฐน์เลือกที่จะทำงานอยู่ที่อังกฤษจนเมื่อประมาณต้นปีที่แล้ว คุณปรางสุดาล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน คุณปัฐน์จึงต้องกลับมาช่วยดูแลบริษัทแทนคุณปรางสุดา แต่คุณปัฐน์ยังไม่ขอรับตำแหน่งประธานบริษัท ”ปุณณภพพูดพลางยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม
“ ทำไมกันหล่ะคะพี่ปุณ ในเมื่อบริษัทพ่อของคุณปัฐน์ก็เป็นคนสร้างขึ้นมา คุณปัฐน์ก็เป็นลูกชายคนเดียว ยังไงอีกไม่นานบริษัทนี้ก็ต้องตกเป็นของคุณปัฐน์อยู่ดี รีบๆรับตำแหน่งประธานบริษัทไปก็จบแล้ว ” ปัณชญาถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ ไม่เห็นจะยากเลยยัยปัน ก็คนอย่างหมอนั่น คงจะไม่อยากรับภาระไง บริษัทชริยาภร เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด มีพนักงานในบริษัทตั้งหลายร้อยหลายพันคน คนรักสนุกรักสบายอย่างนายนั่นจะบริหารงานไหวหรอ ” แพรพลอยพูดแทรกปุณณภพขึ้น
“ ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกยัยพลอย ฉันเคยคุยกับคุณปัฐน์เรื่องนี้แล้ว คุณปัฐน์เค้าบอกว่าเค้าไปเรียนอยู่เมืองนอกตั้งนาน แทบจะไม่รู้อะไรเกี่ยวกับบริษัทเลย จู่ๆจะให้มาเป็นประธานบริษัทเลย เค้าก็กลัวจะไม่ได้รับการยอมรับจากผู้หลักผู้ใหญ่ในบริษัทหลายๆคน ประกอบกับการที่ตอนที่คุณปรีชาเสียคุณปัฐน์ได้รับมรดกเป็นหุ้นส่วนบริษัทชริยาภร เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด ตั้ง 40 เปอร์เซ็นต์แหนะ คุณปัฐน์เลยขอคุณปรางสุดาศึกษาดูงานในบริษัทไปพลางๆก่อนเข้ารับตำแหน่ง ” พิมพ์ลภัสพูดแย้งแพรพลอยขึ้น ”
“ อ๋อ เป็นอย่างนี้นี่เอง พี่ปุณเล่าต่อเลยคะ แล้วพอคุณปัฐน์กลับมาแล้วเป็นยังไงต่อหรอคะ ” ปัณชญาเร่งเร้าให้ปุณณภพเล่าต่อด้วยความอยากรู้
“เมื่อคุณปัฐน์กลับมาบริหารงานบริษัทก็พบว่า คุณภูผาและนายชานนท์ซึ่งเป็นคณะกรรมการของบริษัท ได้สมคบกับคณะกรรมการบริษัทอีก 2 คน ในการประชุมกรรมการบริษัทและมีมติให้ขายที่ดินให้แก่คณะกรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัทและบุคคลภายนอกในราคาต่ำกว่าราคาประเมินและราคาตามท้องตลาดทำให้บริษัทเกิดความเสียหายยังไงหล่ะ ”
“ แล้วขายให้ใครบ้างหรอคะ ” ปัณชญาถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ ก็ขายให้แก่ คุณภูผา นายชานนท์ ซึ่งเป็นคณะกรรมการบริษัท คุณภูสิทธิ์ คุณพ่อของคุณวิภูวรรธน์ซึ่งก็เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นของบริษัทชริยาภร เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด และบุคคลภายนอกคือนายสตีเว่นค็อกซ์ นักธุรกิจชาวอังกฤษ ซึ่งก็เป็นผู้ต้องสงสัยในคดีค้ายาเสพติดข้ามประเทศด้วย ”ปุณณภพอธิบายให้ปัณชญาฟังอย่างละเอียด
“ และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณปัฐน์ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับบริษัทวิฑิตโยธินกรุ๊ปยังไงหล่ะยัยปัน เพราะคุณปัฐน์เค้าคิดว่าคุณภูสิทธิ์คุณพ่อของคุณวิภูวรรธน์คิดจะฮุบบริษัท ชริยาภร เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด มาตั้งแต่แรกจึงวางแผนส่งคุณภูผามาช่วยคุณปรางสุดาบริหารงาน จนทั้งสองคนได้แต่งงานกัน และคุณภูผากับนายชานนท์ก็แอบยักยอกทรัพย์บริษัทไปทีละนิด แต่ที่จับได้จริงๆก็เรื่องการขายที่ดินเนี่ยแหละ ” พิมพ์ลภัสช่วยพูดขยายความให้ปัณชญาเข้าใจมากขึ้น
“ ดังนั้นคุณปัฐน์ก็เลยไม่ชอบหน้าคุณวิภูวรรธน์เท่าไหร่ เพราะคิดว่าคุณพ่อคุณวิภูวรรธน์คิดจะฮุบบริษัทของพ่อตัวเอง แต่นี่คุณพ่อของคุณวิภูวรรธน์กำลังป่วยอยู่นะ ฉันว่าน่าจะเป็นฝีมือของสองคนพ่อลูกคุณภูผากับนายชานนท์มากกว่า ” ปัณชญาพูดขึ้นด้วยความไม่ค่อยเชื่อว่าภูสิทธิ์พ่อของวิภูวรรธน์จะอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด
“ อย่าพึ่งรีบด่วนตัดสินใจไปยัยปัน พี่ว่าเราค่อยๆสืบหาหลักฐานกันดีกว่าว่าจริงๆแล้วคุณภูสิทธิ์ได้อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดหรือเปล่า ”
“ ได้ค่ะพี่ปุณ ปันจะต้องหาหลักฐานมาให้ได้ว่าจริงๆแล้วคุณภูสิทธิ์เป็นผู้บริสุทธิ์ แล้วตอนนี้คดีเรื่องที่ดินนี่ไปถึงไหนแล้วยัยพิมพ์ ”ปัณชญารับคำปุณณภพพลางหันมาถามพิมพ์ลภัส
“ ยังไม่ได้ยื่นฟ้องเลย พี่ปุณขอให้คุณปัฐน์พักเรื่องคดีไว้ก่อนเพราะกลัวคุณภูผากับนายชานนท์จะไหวตัวทัน รวมไปถึงนายสตีเว่นค็อกซ์ นักธุรกิจชาวอังกฤษ ซึ่งก็เป็นผู้ต้องสงสัยในคดีค้ายาเสพติดข้ามประเทศด้วย ถ้าทั้งหมดนี่ไหวตัวทันหนีออกนอกประเทศไปกันหมด เท่ากับว่าที่พวกเราร่วมกันทำมาทั้งหมดจะสูญเปล่าเลยนะ ”
“ แล้วแกยื่นฟ้องคุณภูผากับนายชานนท์ แล้วก็กรรมการบริษัทอีกสองคนตามมาตราอะไรหรอ ฉันนึกไม่ออกเลย สงสัยจะห่างหายจากประมวลไปนานนะเนี่ยช่วงนี้ ความรู้กฎหมายฉันลงหม้อหมดแล้ว ” ปัณชญาถามพิมพ์ลภัสพลางอารมณ์เสียกับตัวเอง
“ก็ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1169 ไงยัยปัน ที่วางหลักว่า ถ้ากรรมการทำให้เกิดเสียหายแก่บริษัท บริษัทจะฟ้อง ร้องเรียกเอาสินไหมทดแทนแก่กรรมการก็ได้ หรือในกรณีที่บริษัทไม่ยอม ฟ้องร้อง ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งคนใดจะเอาคดีนั้นขึ้นว่าก็ได้”
“ อ๋อๆ ฉันเข้าใจแล้วเพราะคุณปรางสุดาแม่ของคุณปัฐน์ไม่ยอมฟ้องร้อง คุณภูผาและนายชานนท์และกรรมการอีก 2 คน คุณปัฐน์ในฐานะผู้ถือหุ้นเลยเป็นคนฟ้องร้องนั่นเอง ”
“ ก็ตามนั้นแหละแก แต่ตั้งแต่ที่คุณปัฐน์กลับมาทำงานที่บริษัท ชริยาภร เอ็นเตอร์ไพรซ์ จำกัด ดูเหมือนว่าคุณภูผาและนายชานนท์จะเริ่มไหวตัวทันแล้วแหละ สองคนพ่อลูกนั่นกลับมาทำงานที่บริษัทวิฑิตโยธิน กรุ๊ป ได้ปีกว่าๆแล้ว เห็นว่าคุณภูผาให้เหตุผลคุณปรางสุดาว่า ไม่อยากให้คุณปัฐน์มองว่าตนจะเข้าไปฮุบสมบัติที่คุณปรีชาสร้างขึ้นมาหน่ะเลยขอออกไปทำงานกับบริษัทพี่ชายตัวเองดีกว่า ”
“ จากที่ฟังๆดูนี่คุณภูผากับนายชานนท์นี่ก็ร้ายใช่เล่นเลยนะเนี่ย ไม่รู้ว่าฉันจะทันเล่ห์เหลี่ยมสองคนพอลูกนั่นหรือเปล่า ”
“ ฉันเป็นกำลังใจให้แกนะยัยปัน ก็มีแต่แกคนเดียวที่จะเข้าใกล้นายชานนท์ได้มากที่สุด ถ้าแกทำสำเร็จเราก็จับได้ทั้งคนโกง ทั้งพ่อค้ายา ที่สำคัญแกต้องระวังนายสตีเว่นค็อกซ์ ให้ดี เห็นว่าจะเดินทางมาประเทศไทยเร็วๆนี้เพื่อเซ็นสัญญากับบริษัทวิฑิตโยธินกรุ๊ป โดยการชักนำของนายภูผาเนี่ยแหละ ” แพรพลอยพูดพลางเอามือตบไหล่ปัณชญาอย่างให้กำลังใจ
จากที่ฟังเรื่องราวที่พี่ชายของเธอและเพื่อนรักทั้งสองคนของเธอเล่ามา ปัณชญาแทบจะมองไม่ออกเลยว่าเธอจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เธอรู้แค่ว่าเธอได้รับมอบหมายให้เป็นสายลับในคดีนี้แล้ว เธอจะต้องทำให้ดีที่สุด ไม่ว่ามันจะยากเย็น ต้องเจออันตราย เจอเล่ห์เหลี่ยมกลโกงอะไร เธอก็จะต้องปฏิบัติภารกิจนี้ให้สำเร็จ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ