ราชินีสี่ปฐพี
เขียนโดย Manny
วันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 15.29 น.
แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน พ.ศ. 2557 13.45 น. โดย เจ้าของนิยาย
14) เมื่อเพื่อนที่สนิทนั้น กลับคืนสู่พระนคร
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความเมื่อวันที่ว่ากันได้มาถึง พระราชาจอห์น จึงเสด็จพร้อมด้วย มาเรีย และเจ้าชายหลุยส์ ไปรอหม่อมเจ้าแมนลี และครอบครัว ที่สถานีรถไฟเซ็นเตอร์ ตั้งแต่ 11 โมง จนกระทั่งเข็มนาฬิกาชี้ตรงที่เลข 12 อันหมายถึงว่าถึงเวลา 12 นาฬิกา ที่กำหนดไว้ แล้วทุกคนที่มารับหม่อมเจ้าแมนลี และครอบครัว ก็เห็นรถไฟที่หม่อมเจ้าแมนลี และครอบครัวนั่งมา ได้เทียบที่ชานชาลาสถานีพอดี แล้วหม่อมเจ้าแมนลี และครอบครัว ก็ลงมาจากรถไฟ แล้วหม่อมเจ้าแมนลี เข้ามาหาพระราชาจอห์น แล้วพูดว่า
"กู๊ดถาม ขอรับ พระราชาจอห์น" แล้วพระราชาจอห์นก็จับมือหม่อมเจ้าแมนลี แล้วพูดว่า
"เช่นกันไอเพื่อนชาย" แล้วหม่อมเจ้าแมนลี ก็แนะนำครอบครัวของตนให้กับพระราชาจอห์น มาเรีย และเจ้าชายหลุยส์ให้รู้กันความว่า
"พระราชาจอห์น ขอรับ ผู้หญิงที่ยืนข้างกระผมนี่ คือหม่อมหลวงคาร่า รอยัลกู๊ด ชายาของกระผมเอง แล้วคนที่ยืนอยู่ข้างหลังพวกเราสองคน นั้นคือ หม่อมราชวงศ์ลอร่า รอยัลกู๊ด ลูกสาวของกระผมเอง ขอรับ"
เมื่อเจ้าชายหลุยส์ ได้รู้จักกับหม่อมราชวงศ์ลอร่า เป็นครั้งแรก ต่างสบตากัน แล้วทำให้ทั้งสองเกิดความรู้สึกที่คล้ายคลึงกันว่ามีอะไรที่คล้ายๆกับศรรักปักดวงใจดวงจิต ทำให้ทั้งสองเกิดความรู้สึกที่เรียกว่า "รัก" เหมือนกัน แต่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่รู้ พระราชาจอห์น แนะนำครอบครัวของพระองค์ให้กับหม่อมเจ้าแมนลี หม่อมหลวงคาร่า และหม่อมราชวงศ์ลอร่าให้รู้กันความว่า
"แมนลี ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างฉันนี้คือ มาเรีย มเหสีของเราเอง ส่วนผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างมาเรีย นี่คือ เจ้าชายหลุยส์ ลูกของเราเอง" แล้วเมื่อทั้งสองฝ่ายต่างแนะนำกันเสร็จแล้ว พระราชาจอห์น มาเรีย และเจ้าชายหลุยส์ ก็พาหม่อมเจ้าแมนลี และครอบครัว ขึ้นรถยนต์พระที่นั่ง พาไปที่ประทับของพระองค์ เมื่อถึงที่ประทับ พระราชาจอห์น จึงบอกกับหม่อมเจ้าแมนลี และครอบครัว ว่า
"พักที่นี่ซะนะ ขาดเหลืออะไรก็บอกได้นะ" แล้วหม่อมเจ้าแมนลี ก็ตอบว่า "ขอรับ" ระหว่างที่ครอบครัวรอยัลกู๊ดพักอยู่ ณ ที่แห่งนี้นั้น โดยเฉพาะหม่อมราชวงศ์ลอร่า ได้รับการสอนงานต่างๆไม่ว่าจะเป็นงานหัตถกรรม หรืองานศิลปะต่างๆจากมาเรีย ทุกวัน เพราะมีวันหนึ่งที่มาเรียเคยบอกกับหม่อมราชวงศ์ลอร่า ที่เคยขอฝากตัวให้มาเรียสอนงานต่างๆที่เป็นของสตรีเพศความว่า
"จำไว้นะ ลอร่า การที่จะมาทำงานอย่างนี้นะ ต้องมีความอดทน และปราณีต งานที่ตัวเองตั้งใจจะทำถึงจะสำเร็จตรงตามเป้าหมายได้"
ทุกๆวันที่หม่อมราชวงศ์ลอร่า มาฝึกและมาทำงานศิลปะและหัตถกรรมกับมาเรีย ที่ห้องส่วนตัวของมาเรีย นั้น เจ้าชายหลุยส์ ก็ต้องมาแอบดูหม่อมราชวงศ์ลอร่า ฝึกและทำงานทุกที และทุกครั้งที่เจ้าชายหลุยส์มาเเอบดู หม่อมราชวงศ์ลอร่า ก็ต้องหันไปมองที่ประตูว่ามีใครแอบมองตนอยู่ แล้วทุกครั้งที่ตนรู้ว่าเป็นเจ้าชายหลุยส์ คือคนเเอบมอง ทำให้เจ้าชายหลุยส์ เกิดลนลาน แล้วสะดุ้งตัวออกมาแล้วย่องออกไป ส่วนหม่อมราชวงศ์ลอร่าพอหันไป แล้วหันกับมาทำงานเหมือนเดิม ก็ยิ้มและคิดตลอดว่า สงสัยเจ้าชายหลุยส์ เเอบชอบตนกระมัง ถึงได้มาแอบดูตลอด เจ้าชายหลุยส์ได้แอบดูหม่อมราชวงศ์ลอร่า มาอาทิตย์หนึ่งได้ มาเรีย ผู้เป็นแม่ก็รู้ว่า พระราชโอรสของตนได้มาแอบดูลูกศิษย์ของตนด้วยความชื่นชอบ
อยู่มาวันหนึ่งเจ้าชายหลุยส์ ไปวังหลวง เพื่อชมความงามภายในของแต่ละพระที่นั่ง แต่ละพระตำหนัก แต่ละตำหนัก โดยเจ้าชายหลุยส์ ทรงขับรถยนต์พระที่นั่งด้วยพระองค์เอง ระหว่างที่เจ้าชายหลุยส์ ไปวังหลวงนั้น มาเรียผู้เป็นแม่ ขณะที่ทำงานกับหม่อมราชวงศ์ลอร่าอยู่นั้น ในวันนั้นเป็นงานร้อยมาลัย มาเรียร้อยมาลัยอยู่ดีๆนั้น ปรากฏว่าเข็มร้อยมาลัยทิ่มนิ้วมาเรีย เมื่อหม่อมราชวงศ์ลอร่า เห็นว่ามาเรีย โดนเข็มทิ่ม จึงรีบไปเอายาฝรั่งมาทา ทำให้มาเรียคิดแล้วพูดออกมาว่า
"เอ๊ะ! วันนี้เราไปแปลกไปนะเนี่ย ทำไมเราซุ่มซ่ามขนาดนี้เนี่ย ปล่อยให้เข็มทิ่มนิ้วได้ หรือว่าจะเกิดเรื่องอะไรกันแน่"
เมื่อรถที่เจ้าชายหลุยส์ทรงขับนั้น ถึงจตุรัสเมืองแล้ว ปรากฏว่ามีรถจอดอยู่ ทำให้รถยนต์พระที่นั่งของเจ้าชายหลุยส์ชนกับท้ายรถคนที่จอดอยู่อย่างแรง ทำให้เจ้าชายหลุยส์ ทรงหมดพระสติ ได้เกิดความโกลาหลตื้นตระหนกตกใจแก่ผู้คนที่เดินทางสัญจรไปมาในแถวนั้น เมื่อรู้ว่าเจ้าชายหลุยส์ ทรงประสบอุบัติเหตุ ผู้คนแถวนั้นจึงนำเจ้าชายหลุยส์ ส่งโรงพยาบาล เมื่อถึงโรงพยาบาลแล้ว ปรากฏว่าแขนซ้ายของเจ้าชายหลุยส์หัก จึงได้ทำการผ่าตัดแล้ว หมอได้ทำการตรวจแล้วทั่วไปก็ปกติดี แล้วหมอจึงโทรศัพท์หามาเรีย เมื่อมาเรียรับสายแล้ว หมอจึงบอกว่า
"ฝ่าบาท ขอรับ คือเจ้าชายหลุยส์ ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ขอรับ" แล้วมาเรียก็เกิดความตกใจจึงถามหมอไปว่า
"แล้วหมอค่ะ ลูกข้าพเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง" แล้วหมอก็ตอบว่า
"ไม่เป็นไรแล้วขอรับ พ้นขีดอันตรายแล้วขอรับ แต่แค่พระพาหาด้านซ้ายหัก แต่ทำการผ่าตัดแล้วไม่ต้องเป็นห่วงนะขอรับ" เมื่อมาเรียวางสายแล้ว จึงรีบวิ่งไปหาพระราชาจอห์น แล้วจึงบอกเรื่องที่เจ้าชายหลุยส์ ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อพระราชาจอห์น ทรงทราบเรื่อง จึงไปโรพยาบาล ซึ่งหม่อมราชวงศ์ลอร่า ขอไปด้วย โดยเมื่อถึงโรงพยาบาลแล้ว หม่อมราชวงศ์ลอร่า ก็รออยู่หน้าห้องที่เจ้าชายหลุยส์ ส่วนพระราชาจอห์น และมาเรียเข้าไปหาเจ้าชายหลุยส์ เมื่อเจ้าชายหลุยส์ ทรงฟื้นแล้ว พระราชาจอห์นจึงถามเจ้าชายหลุยส์ว่า
"เป็นอย่างไรบ้าง ลูก" เจ้าชายหลุยส์ ก็ตอบว่า
"ก็ไม่เป็นไรแล้วขอรับ" แล้วมาเรีย ก็พูดกับเจ้าชายหลุยส์ว่า "พักซะนะลูก" แล้วเจ้าชายหลุยส์ก็ทรงบอกกับมาเรียว่า
"เสด็จแม่ ขอรับ กระผมรู้นะว่าแม่ลอร่า มากับเสด็จพ่อ เสด็จแม่ด้วยน่ะขอรับ ช่วยเรียกมาให้หน่อย แล้วกระผมก็จะพักผ่อนเสียหน่อย เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ไปหาอะไรเสวยก่อนก็ได้ขอรับ" แล้วพระราชจอห์น และมาเรียก็พยักพระพักตร์ แล้วออกจากห้องไป แล้วมาเรียก็บอกกับหม่อมราชวงศ์ลอร่าว่า
"แม่ลอร่า พอดีว่าหลุยส์ลูกฉันเรียกเธอเข้าไปเฝ้าน่ะ เข้าไปนะ" หลังจากที่หม่อมราชวงศ์ลอร่าเข้าไปในห้องแล้ว พระราชาจอห์นจึงถามมาเรียด้วยความสงสัยว่า
"แม่มาเรีย เธอว่าไหมไอลูกชายของพวกเราเนี่ย คงจากแอบชอบแม่ลอร่าลูกแมนลี ถึงได้เรียกเข้าไปเนี่ย แม่มาเรียว่าไหม" แล้วมาเรียก็ตอบว่า
"หม่อมฉันก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน เพคะ เพราะทุกครั้งที่แม่ลอร่ามาทำงานกับหม่อมฉันนะเพคะ ก็ต้องมาแอบดูทุกทีเลย แต่ก็ดีนะเพคะที่ลูกเราชอบแม่ลอร่า นะเพคะ เพราะดูเหมือนแม่ลอร่าจะมีให้ใจกับลูกเราเหมือนนะเพคะ"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ