แรงบันดาลใจ
เขียนโดย JKCandy
วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 19.22 น.
แก้ไขเมื่อ 7 มีนาคม พ.ศ. 2557 19.38 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) นาย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
กริ๊งงงงง~~~~
เสียงที่ตรงต่อเวลาที่สุดดังขึ้น ฉันเอื้อมมือไปปิดเจ้านาฬิกาปลุกข้างเตียงนั่น มือขวานหาแว่นที่อยู่ใกล้ๆกัน และพยายามลุกขึ้นจากเตียง
“ต้องไปเรียนอีกแล้วหรอเนี่ย เฮ้อ ป้ะ! ลุก! อาบน้ำ!” ฉันมักจะพูดกับตัวเองเสมอ เพื่อเป็นการกระตุ้น แต่ก็มีบางทีที่การพูดกับตัวเองมันก็ทำให้ฉันต้องทะเลาะกับตัวเองเหมือนกัน
15 นาทีผ่านไป ฉันก็แต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เป็นไงละ แต่งตัวไวใช่มั้ยละ รวมเวลาอาบน้ำแล้วด้วยนะ แต่จะให้ช้าอะไรละ ก็ฉันมันไม่ใช่คนรักสวยรักงามอะไร อาบน้ำเสร็จก็แต่งตัว มัดผม ไปเรียนได้ ขั้นตอนง่ายๆที่ทำมาจนชิน รู้สึกตัวอีกที หิวชะมัด ว่าแล้วก็ลงไปข้างล่างดีกว่า เผื่อว่าแม่จะทำอาหารเสร็จแล้ว
“หิวจังเลย วันนี้มีอะไรกินบ้างเอย ??”
“ข้าวต้มกุ้งจ๊ะ เสร็จพอดี”
ในขณะที่กำลังกินอย่างเมามัน ฉันก็เพิ่งนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“โอ๊ะ ! เดี๋ยวหนูไปก่อนนะค่ะ”
“จะรีบไปไหนละลูก นี่พ่อยังไม่ลงมาเลย”
“หนูรีบนะค่ะ ฝากบอกพ่อด้วยนะค่ะว่าหนูต้องไปก่อน สวัสดีค่ะแม่”
มือคว้ากระเป๋า แล้วรีบลุกจากโต๊ะอาหาร แล้วไปลากจักรยานคันเก่ง รีบปั่นออกจากบ้านในขณะที่แม่ได้แต่ยืนมองอย่างงงๆ ว่าจะรีบอะไรขนาดนั้น
“ถึงสักที ! ~” เสียงลมหายใจที่ดังขึ้น บอกได้เลยว่า คงจะต้องเหนื่อยมากแน่ๆ
ฉันค่อยๆเดินไปยังจุดหมาย ที่ที่เมื่อวานได้ตัดสินใจทำอะไรบ้าๆลงไป อย่างที่ไม่เหมือนตัวเองเลย ในขณะที่เดินเข้าไปใกล้ๆ ในใจก็คิดตลอดว่า มันจะเป็นยังไงบ้างนะ ปูนนั้นจะเป็นสีขาวอย่างเดิม หรือว่าจะมีสีสันสวยงาม เอ๊ะ! แล้วถ้ามันไม่สวยละ? ยากละ ตอนนี้เท่าที่ทำได้ก็คงต้องเผชิญกับความจริงเท่านั้น
“เห้ย !!!!!!!!”
ฉันยืนนิ่งไปสักพัก ตัวแข็งทื่อ ตาค้างเฉียบพลัน หลังจากที่มายืนอยู่ในจุดเดิมของเมื่อวาน
“กรี๊ด !!!!!!!!!”
ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจาก กรี๊ด!! ก็ภาพตรงหน้า มันคือ ! มันคือ !
“เจ้าปูนปั้น!!! ทำไมสวยขึ้นขนาดนี้ อ้าก!! ดีใจสุด”
ก็เจ้าปูนปั้นสีขาวเมื่อวาน ตอนนี้มันชั่งสวยยยยยยยยยอะไรขนาดนี้ ฉันเห็นเองยังแทบไม่เชื่อสายตาว่าจะสวยขึ้นมากขนาดนี้ โอ๊ยยย แฮปปี้สุดๆ นึกว่าจะไม่มีงานส่งซะอีก ไม่เสียแรงที่ไว้ใจคนแถวนี้ น่ารักที่สุดอ้ะ ว่าแล้วก็เอากล้องมาถ่ายรูปเก็บไว้ซะหน่อย ปกติแล้วฉันมักจะพกกล้องตัวเล็กติดตัวเสมอ ก็ฉันชอบถ่ายรูปสิ่งที่อยู่รอบๆตัวอยู่แล้ว เวลาไปไหนจะได้ถ่ายได้ทันที
แชะ !!!
หลังจากชื่นชมอยู่นานก็เพิ่งเห็นว่ามีกระดาษวางอยู่ใต้ปูนปั้น ตอนแรกก็นึกว่าจดหมายของตัวเอง แต่พอดูดีๆ ไม่ใช่ลายมือเรานิน่า อ่านสักหน่อยละกัน
“ถึง เธอเจ้าของ
เธอคิดยังไงของเธอนะ ถึงได้เอาของอะไรมาวางไว้แบบนี้ เธอไม่รู้หรอ ว่าแถวนี้เป็นยังไง กล้ามากนะ !”
หลังจากอ่านเสร็จอารมก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ
“ไอตาบ้านี่ ! อะไรของเขาเนี่ย ดูพูดจา ! ต้องไม่ใช่คนเดียวกับที่ระบายปูนปั้นให้เราแน่ๆ ต้องไม่ใช่สิ คนดีๆ ไม่พูดจางี้หรอก”
แล้วตาก็เหลือบไปเห็นขอบกระดาษด้านล่าง เขียนว่า “ต่อด้านหลัง”
“เล่นอะไรของเขาเนี่ย !” ปากก็บ่น แต่ก็พลักอ่านทันที
“ฉันเป็นคนระบายให้เธอเอง เธอติดหนี้ฉัน” คิ้วของฉันขมวดเข้าหากัน นี่อะไรกันเนี่ย ติดหนี้เลยหรอ? เอาไงดีละ ควรจะเขียนโต้ตอบดีมั้ยนะ? แล้วฉันก็เปิดกระเป๋าหากระดาษปากกาทันที
“ถึง นาย….
แค่ขอให้ช่วยระบายสีแค่เนี่ย มันก็เป็นงานง่ายๆสำหรับพวกนายอยู่แล้วไม่ใช่หรอ? แค่นี้ต้องติดหนี้นายด้วยหรอ? นี่พูดเล่นพูดจริง?!”
เขียนอะไรอีกดีละ ? แค้นๆ ในใจนี่ร้อนไปหมด แต่ก็ไม่รู้จะบรรยายออกมาเป็นคำพูดยังไงดี อยากเขียนว่า ฉันไม่กลัวนายหรอก มาสิ! แต่ก็แอบกลัวๆ จะพูดก็พูด ไม่รู้ว่าเด็กพวกนี้เป็นคนยังไง ดี? ไม่ดี? ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่จากที่ดู คนที่ชอบงานอาตๆ คงไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้นมั่ง
“ตายละ เดวสายรีบไปดีกว่า พอละ !” พอเห็นเวลาฉันก็เลยรีบวางกระดาษไว้ที่เดิม แล้วหาหินแถวนั้นวางทับ คว้ากระเป๋าแล้วก็วิ่งไปที่ป้ายรถเมล์ แต่ก็แอบหันมาถ่ายรูปอีกแชะ แล้วก็วิ่งต่อ
ในขณะเดียวกัน... ใกล้ๆกับป้ายรถเมล์นั้น
“ไอเต้!!! ” เสียงผู้ชายสองสามคนส่งเสียงเรียกใครคนนึงดังลั่นจนทำให้คนแถวๆนั้นต้องหันไปมองตามเสียงนั้นอย่างอัติโนมัติ
“หื้ม ?!” ชายหนุ่มผู้ถูกเรียกที่กำลังยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล์ หันกลับไปมองต้นต่อของเสียงนั้นในขณะที่เป็นเวลาเดียวกับที่รถเมล์ขับมาจอดอยู่หน้าตัวเขาพอดี ผู้คนมากมายเบียดเขาขึ้นรถเมล์คันนั้นไป รวมถึง “ลิตา”
“เห้ย! อย่าเพิ่งไปๆ มานี่ก่อนๆ” ชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าเต้โดนรั้งตัวให้หยุดอยู่
“อะไรของพวกแกหวะ!” เต้หันมาทำท่าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ถูกรั้งให้อยู่ ทั้งๆที่ แค่ก้าวเท้าอีกแค่ก้าวเดียว เขาก็ได้ขึ้นรถเมล์แล้ว
“มีไรจะให้ดู มานั่งนี่ก่อนๆ” พวกเพื่อนๆของเต้ เดินเข้าไปลากตัวเขามานั่งที่ป้ายรถเมล์
“ไหน? มีไร?” เต้ได้แต่มองรถเมล์ที่เพิ่งแล่นผ่านไป ด้วยอารมฉุนนิดๆ
“นั้นไง! น้องเกตคนสวย” เพื่อนๆชี้ไปยังเป้าหมายที่เดินอยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน
“กวนตีนปะ !?” พอเห็นเป้าหมายที่ว่า ก็อารมเสียขึ้นมาดื้อๆเลย
“ฮาาา ฮาาาา ฮ่าาาาา ฮ่าาาาา” เพื่อนๆต่างพากันหัวเราะเสียงดังลั่น ก็จะไม่ให้หัวเราะได้ไง ก็น้องเกตที่ว่า เป็นคนที่เพิ่งมาหักอกเต้ไปเมื่อไม่นานมานี้ พอเห็นแบบนี้แล้ว ใครจะไม่อารมเสียกันละ แต่ในตอนนี้เรื่องเดียวที่จะทำให้คนอย่างเต้ฉุนได้ ก็มีเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว ทุกคนเลยยิ่งพากันแกล้งเข้าไปอีก ก็นายเต้คนนี้ ไม่ค่อยจะแสดงอารมเหมือนใครเขานะสิ วันๆก็นั่งเงียบๆ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา ออกจะเป็น หนุ่มขรึมๆ แต่เขาก็มีเพื่อนมากมายที่รักและก็จริงใจกับเขา แก๊งเนี่ย เป็นแก๊งร่วมสาบาน ว่าไปไหนไปกัน ไม่ทิ้งกัน รักกันซะเหลือเกิน
“ขำ! ตลกกันมากดิ”
“เห้ย ! อย่าคิดมากดิหวะ ยิ่งเจ็บต้องยิ่งเจอดิหวะ จะได้หายไวๆ ไง นี่ช่วยนะเนี่ย ช่วยอยู่ ฮ่าๆๆๆ ฮาาาาาๆ ”
เฮ้อ เนี่ยแหละครับ ชีวิตผม ก็ผมเป็นคนเงียบๆ พูดไม่ค่อยเก่ง ไม่ค่อยอะไรๆเหมือนคนอื่นเขา ก็เลยโดนแย่งแฟนไปต่อหน้าต่อตา แต่จะให้ผมไปแย่งคืนหรอ มันก็ไม่ใช่ผมอีกนั้นแหละ อย่างในตอนนี้ ปากผมก็ทำเป็นฉุนเฉียวไปงั้นแหละ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร นอกจากนั่งดูเพื่อนหัวเราะกันอย่างตลกขบขัน เพราะที่จริงผมก็รู้อยู่แล้วว่าเพื่อนก็เป็นห่วง และคงไม่อยากให้ผมต้องนั่งเสียใจอยู่ทุกวัน ถึงแม้ผมจะไม่ได้แสดงออกว่าเสียใจ แต่พวกเพื่อนก็รู้อยู่ดีว่าผมเสียใจแค่ไหนที่เลิกกับน้องเกต แต่ก็นะ วิธีที่พวกมันช่วยเนี่ยไม่ได้ช่วยให้หายเสียใจเลย ยิ่งตอกย้ำด้วยซ้ำ แต่เอาหนะ ผู้ชาย แมนๆ หน่อย เรื่องแค่เนี่ย ไม่ตายหรอก
“ไม่ต้องมาทำเป็นโกรธๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้ ป้ะๆ รถเมล์มาละ” หลังจากที่แกล้งผมกันอย่างซะใจแล้ว พวกมันก็เรียกให้ชึ้นรถเมล์ ทั้งๆที่ผมควรจะได้ไปตั้งแต่คันเมื่อกี้แล้ว
“เออ ! ” ผมตอบกลับไปหวนๆ และเดินขึ้นรถเมล์ไปอย่างเงียบๆ ตามสไตล์ วันนี้จะมีอะไรเกิดขึ้นอีกนะ ถ้าไปโรงเรียนแล้วต้องเจอน้องเกตกับแฟนใหม่ ผมจะทนเห็นภาพนั้นได้รึเปล่า แต่ถึงทนไม่ได้ ก็ต้องทำให้ได้ ก็เพราะผมเองที่ดูแลเขาไม่ดีพอ เขาไปมีคนใหม่ก็ดีสำหรับเขาแล้ว โชคดีนะ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ