แรงบันดาลใจ

8.8

เขียนโดย JKCandy

วันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 19.22 น.

  4 ตอน
  5 วิจารณ์
  7,392 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 มีนาคม พ.ศ. 2557 19.38 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ฉัน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

“ลลิตา”

 

เสียงๆหนึ่งดังขึ้นในความเงียบงัน เสียงที่ยืดและยาวนั้นทำให้ฉันเหมือนอยู่ในภวังและเหมือนกำลังโดนสะกดจิต ฉันพยายามเอียหูฟังว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของใคร และเสียงนั้นมาจากไหน

 

“ลลิตา!”

 

เสียงนั้นเรียกชื่อฉันอีกครั้ง เป็นเสียงที่ดังกว่าคราวแรก และในครั้งนี้เสียงกลับดูคุ้นหู เหมือนกับว่าฉันเคยได้ยินเสียงๆนี้มาก่อน

 

“ยัยลลิตา !!! ”

 

เสียงนั้นดังสนั่น ทำให้ฉันต้องสะดุ้งสุดตัว ภาพตรงหน้าเป็นภาพที่เบลอมาก ฉันพยายามกระพริบตาถี่ๆ เพื่อปรับภาพ แต่ภาพก็ยังไม่ชัดทันใจ ฉันเลยขยี้ตาและลองลืมตามองอีกครั้ง แล้วเมื่อฉันเงยหน้าขึ้น ฉันก็ได้พบกับใบหน้าที่คุ้นเคย นั้นคือ .. อาจารย์ศุภาวดี !!!  นี่ฉันอยู่ในห้องเรียนหรอเนี่ย แล้วเมื่อกี้.. ฉันหลับหรอเนี่ย ? เสียงเมื่อกี้ คือเสียงของอาจารย์หรอเนี่ย? ฉันอยู่บนรถเมล์ไม่ใช่หรอ? โธ่! ไม่น่าเป็นแค่ฝันเลย กำลังฝันดีแท้ๆ

 

“ยัยลลิตา! เธอกำลังเหมออะไรของเธอ! กล้าดียังไงมานอนในคาบของฉัน”

 

ตายละฉัน จะตอบยังไงดีละเนี่ย อาจารย์ศุภาวดี เป็นอาจารย์ที่ใครๆก็รู้ว่าโหดที่สุดในโรงเรียน แล้วฉันเป็นอะไรของฉันเนี่ย ถึงได้กล้าหลับในคาบนี้ สวรรค์แกล้งหรือสวรรค์เกลียดฉันละเนี่ยถึงทำให้ฉันเป็นอย่างนี้ คิดแล้วอยากจะหายตัวไปจากตรงนี้ ไปอยู่ในฝันต่อได้ก็คงจะดี คิดแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ เพ้ออีกแล้วฉัน ก่อนจะเพ้อไปมากกว่านี้ รีบตอบคำถามอาจารย์ก่อนคงจะเป็นทางออกที่ดีสุด

 

“หนูขอโทษค่ะอาจารย์ เมื่อคืนหนูอ่านหนังสือดึกไปหน่อย เลยเผลอหลับในห้องขอโทษนะคะอาจารย์”

 

นึกอะไรไม่ออกแล้วนิน่า นอกจากอ่านหนังสือ เพราะอาจารย์ทุกคนคงไม่ว่าถ้าเราตั้งใจเรียน อ่านหนังสือทบทวนบทเรียน แต่ปัญหาก็คือว่า ฉันไม่ได้อ่านจริงๆนะสิ 

 

“อ่านหนังสืองั้นหรอ? ยัยลลิตาทำไมเธอถึงขยันขนาดนี้ นี่ยังไม่ใกล้สอบเลยด้วยซ้ำ นักเรียนทุกคน ดูเป็นตัวอย่างให้ดี เราเป็นนักเรียน มีหน้าที่เรียน ควรรู้ว่าอะไรควรทำ ไม่ควรทำ หมั่นศึกษาหาความรู้ ทบทวนบทเรียนสม่ำเสมอ …..”

 

แล้วอาจารย์ก็พร่ำต่ออีกยาวเลยหละ คงเป็นประเด็นที่อาจารย์ชอบใจน่าดู หนูขอโทษนะคะอาจารย์ที่หนูต้องพูดแบบนั้น ทั้งๆที่หนูไม่ได้อ่านจริงๆ ฉันเริ่มรู้สึกผิดขึ้นมาทีละนิด

 

“นี่แหละ นักเรียนดีเด่นของโรงเรียนเรา ครูละภูมิใจในตัวเธอจริงๆ ลลิตา.. ถ้ายังงั้นโทษคราวนี้ฉันจะให้อภัยเธอละกันนะลลิตา”

 

“ขอบคุณค่ะอาจารย์”

 

ฉันได้แต่ยิ้มรับกับคำชมที่อาจารย์มอบให้แบบฝืนๆ นี่ฉันเป็นถึงนักเรียนดีเด่น แต่กลับมานั่งหลับในห้อง ทำแบบนี้ได้ยังไงนะ เสียชื่อหมด คิดแล้วก็ขำในใจ แต่ยังไงฉันก็ยังเป็นเด็กคนหนึ่ง ที่ยังอยากเล่น อยากทำอย่างอื่น นอกจากเรียนบ้าง แต่พอเอาเข้าใจจริง การเรียนก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับฉันอยู่ดีนั้นแหละ

 

อ๊อด…!!!

 

เสียงอ๊อดดังขึ้น เป็นสัญญาณบอกว่า หมดคาบเรียนแล้ว แต่ในกรณีนี้เป็นเวลา 2.45 ซึ่งก็คือเวลาที่โรงเรียนเลิกพอดี

 

“นักเรียนเคารพ (สวัสดีครับ / สวัสดีค่ะ)”

 

ก็ฉันอีกนั้นแหละที่เป็นหัวหน้าห้อง ทั้งเรียนเก่ง ทั้งมีความรับผิดชอบ จึงไม่แปลกที่ฉันเป็นที่รักของอาจารย์แทบทุกคน ส่วนกับเพื่อนๆนั้น ก็แน่นอนทุกคนอยากรู้จักฉันทั้งนั้น เพราะอะไรนะหรอ ?? 

 

“ลิตา..ทำการบ้านเสร็จรึยัง ? ขอลอกหน่อยสิ”

“ลิตา..การบ้านข้อนี้ทำยังไงหรอ สอนเราหน่อยสิ”

“ลิตา..เราทำงานนี้ไม่ทัน ช่วยทำให้เราหน่อยสิ”

“ลิตา..วันนี้เราไม่ไปเรียน นะ บอกจารย์ให้หน่อยว่าเราไม่สบาย”

“ลิตา....ลิตา...”

 

ทุกคนที่คบฉัน ก็ล้วนแต่ต้องการผลประโยชน์จากตัวฉันทั้งนั้น มีใครสักคนมั้ย ที่จะคบฉันเพราะเป็นฉัน และคบฉันแบบไม่หวังผลประโยชน์ ในทุกๆวันที่ฉันมาโรงเรียน จากมุมมองของคนอื่น ฉันอาจเป็นคนที่มีแต่คนรัก คนเข้าหา ไปไหนก็มีแต่คนรู้จัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ฉันรู้สึกอ้างว้าง และรู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียว ในเวลาที่ฉันต้องการความช่วยเหลือ แต่ฉันกลับไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากคนอื่นเลย มันทำให้ฉันยิ่งเห็นว่า ไม่มีใครเลย ที่เป็นเพื่อนแท้ของฉันจริงๆสักคน 

 

“ลิตา..”

 

เสียงของหญิงสาวคนนึงดังขึ้นจากด้านหลังของฉัน เมื่อฉันหันกลับไปก็พบว่าเธอก็คือเพื่อนร่วมห้องของฉันนั้นเอง

 

“หื้ม ? ว่าไง?”

 

“พรุ่งนี้อ้ะ ต้องส่งงานปูนปั้นแล้วใช่ปะ?” เธอถามกลับมาด้วยท่าทีที่ร่าเริง

 

“ปูนปั้น?”

 

“ก็วิชาศิลปะไง ปูนปั้นอ้ะ”

 

“อ้อ !!” ตายละ ! ฉันก็เพิ่งนึกได้ว่าพรุ่งนี้ต้องส่งงาน โธ่ ยัยลลิตา! เมื่อกี้เพิ่งบอกอยู่ว่าเป็นคนมีความรับผิดชอบ แต่ลืมทำงานเนี่ยนะ ยัยเบ๊อะเอย

 

“จำได้ละชะปะ ? คือเราทำไม่ทันอ้ะ บอกจารย์ให้เลื่อนส่งหน่อยได้มั้ย ? ถ้าเป็นเธออ้ะ จารย์คงยอม ถ้าเราไปขอ เขาก็ไม่ยอมหรอก” เธอพูดแบบอ้อนวอนสุดๆ

 

“คงไม่ได้หรอก เพราะเราขอเลื่อนเขาไปแล้ว อาทิตย์ก่อน ก็เธอไม่ใช่หรอ ที่มาขอเลื่อน จำได้ละชะปะ?” ฉันย้อนกลับไปทันที ก็เรื่องอะไรต้องให้ฉันบากหน้าไปขออาจารย์เลื่อนส่งงานเพราะคนๆเดียว แล้วฉันต้องยอมโดนด่าแทนอีกกี่รอบกันละฮะ!

 

“ก็เราทำไม่ทันจริงๆนิ เธอก็รู้ เราไม่เก่งเรื่องศิลปะ ขอให้หน่อยเถอะนะ น้าาาาา” ยังๆ ยังจะมาอ้อนต่อไม่เลิก ใช่สิศิลปะไม่เก่ง แต่เรื่องผู้ชายนี่เก่งเลยใช่มั้ยจ๊ะ?

 

“อื้อ ไม่ได้หรอก โทษนะ เราต้องไปแล้วอ้ะ” ฉันรีบจบบทสนทนา แล้วหยิบกระเป๋า เดินออกมาจากห้องเรียนทันที เธอคงยืนอึ้งไป แต่ไม่เป็นไรหรอก ปกติเธอก็ไม่ได้ชอบฉันอยู่แล้ว โดนแบบนี้ไปก็คงไม่ได้ทำให้เกลียดฉันไปมากกว่านี้เท่าไหร่หรอก ฉันไม่แคร์ 

 

ตลอดทางที่ฉันจะเดินไปถึงหน้าโรงเรียน ฉันคิดไปคิดมาอยู่ในหัวตลอด ว่าสิ่งที่ทำเมื่อกี้ คิดถูกแล้วหรือเปล่า? ฉันควรช่วยเขารึเปล่า? เพราะถ้าไปขอเลื่อน ฉันเองก็มีเวลาทำงานเพิ่มด้วย แต่ถ้าช่วย แล้วฉันต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน? คิดแล้วฉันก็ตัดสินใจที่จะไม่ขอเลื่อนส่งงาน เอาน่างานของเราเดี๋ยวก็เสร็จทัน มันต้องมีทางออกสิ แลกกับการดัดนิสัยคนๆนึงให้หัดตรงต่อเวลาซะบ้าง มันก็คุ้มนะ 

 

กว่าจะคิดได้แบบนี้รถเมล์ก็มาพอดี ฉันก้าวเท้าขึ้นรถเมล์และมองหาที่นั่ง ฉันได้ที่นั่งริมหน้าต่าง เป็นที่นั่งที่ฉันชอบ เพราะมันทำให้ได้รับลมเย็นๆ ตลอดทาง นั่งไปนั่งลมเย็นๆก็ทำฉันเคลิ้ม ท่าทางคงจะหลับอีกตามเคย แล้วฉันก็สะดุ้งตื่นอีกทีก็ตอนที่ภาพตรงหน้าบ่งบอกว่าใกล้จะถึงบ้านแล้วนะ แต่ในวันนี้มีสถานหนึ่งที่มันเหมือนมีรังสีอะไรบางอย่าง ทำให้สถานที่นั้นดูสว่างไสวเป็นที่สะดุดตาของฉันขึ้นมา 

 

สถานที่นี้เป็นสถานที่เหมือนจะเป็นสิ่งก่อสร้าง แต่เป็นสิ่งก่อสร้างที่สร้างไม่เสร็จ ทำให้มันมีแต่โครงร่างของผนังไว้ และสิ่งที่เป็นที่สะดุดตาของคนแถวนี้ก็เพราะ มักจะมีคนมาเพ้นผนังพวกนี้อยู่ตลอด ไม่ใช่เพ้นแบบรักสถานบันอะไรพวกนั้นหรอก แต่เพ้นแบบมีศิลปะเลยต่างหาก ทำให้แถวนี้ดูอาตขึ้นมาทันตา พอมองไปมองมาฉันก็มีไอเดียปิ๊งขึ้นมาทันที ถ้าเราเอาปูนที่เราปั้นแล้วมาวางไว้ จะมีคนมาเพ้นให้เรามั้ยนะ? ฉันคิดแบบคนมีเลศนัย ตากลอกไปกลอกมาแบบใช้ความคิด แล้วรถเมล์ก็มาหยุดตรงป้ายรถเมล์หน้าหมู่บ้านของฉันพอดี ฉันรีบวิ่งลงจากรถเมล์ และวิ่งไปเอาจักรยานที่ฉันล็อกไว้ เมื่อได้จักรยานฉันก็ปั่นสุดชีวิตเพื่อกลับเข้าบ้าน ตอนนี้ก็บ่ายสามโมง กว่าจะเข้าบ้านกว่าจะออกมา สี่โมง ก็คงโอเคนะ เวลากำลังดี ..                

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา