A DaY ....วันรักวุ่นลุ้นรัก

-

เขียนโดย fibo6040

วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 00.02 น.

  8 บท
  1 วิจารณ์
  11.39K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 5 มีนาคม พ.ศ. 2557 19.31 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

7) Still Promise You

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

“อรุณสวัสดิ์ค่ะ คุณไนท์ไม่เจอกันตั้งหนึ่งเดือนแน่ะ คิดถึงจังเลยค่ะ” เพนนีส่งเสียงร้องทักไนท์ที่เดินเข้ามาในห้องเรียน

 

“ว่าไงเพนนี ปิดเทอมไปเที่ยวไหนมาบ้าง ไม่เห็นมีของฝากเลย” ไนท์ทักทายพร้อมทวงของฝาก

 

“ไม่มีหรอกค่ะ ไม่ได้ไปไหน ออกงานสังคมเกือบทุกวันเลยล่ะค่ะ อุ๊ย! อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณคิง” เพนนีหันไปทักคนที่เพิ่งเข้ามาใหม่ ใบหน้างัวเงียยังไม่ตื่นดี

 

“อ้าว ยัยนั่นยังไม่มาเหรอ” คิงหันมาถามทั้งสองคน เพนนีหันไปมองไนท์

 

“คุณคิงถามหาคุณนิล เนี่ยนะคะ ดิฉันประหลาดใจจังค่ะ” เธอเอียงคอกระซิบให้ได้ยินแค่สองคน ไนท์ยิ้มกริ่ม

 

“รู้อะไรดีๆแล้วไม่บอก ดิฉันจะโกรธนะคะคุณไนท์”

 

“ดูๆไปก่อน ยังไม่แน่ใจเหมือนกัน” ไนท์ทิ้งปริศนาให้เพนนีอยากรู้มากขึ้น เธอจับจ้องไปที่ร่างสูงไม่วางตา คิงหันมามอง

 

“เฮ้ย! จ้องอะไรฉันยัยเพนนีคนโรคจิต” คิงใช้มือกอดไหล่ตัวเองแกล้งหวาดกลัว เพนนีเม้มปากอย่างแค้นเคือง

 

“เอ ว่าแต่นี่จะได้เวลาเข้าเรียนแล้วนะ ทำไมคุณนิลยังไม่มาอีกล่ะ” เพนนีชะเง้อหน้ามองไปที่ประตูห้องเรียน คิงลุกขึ้นยืน

 

“อ้าวนั่นนายจะไปไหน”ไนท์ถาม

 

“จะไปล้างหน้าก็จะเริ่มเรียนแล้วนี่”

 

ที่ด้านหน้าของโรงเรียนประตูปิดลงเป็นสัญญาณว่าได้เวลาที่นักเรียนทุกคนควรจะเข้าเรียนได้แล้ว ยกเว้นพวกที่มาสายต้องโดนทำโทษตามแต่ที่คณะกรรมการนักเรียนจะสั่ง นิลซึ่งตื่นสายตั้งแต่วันแรกที่เปิดเทอมไหนจะต้องแวะไปส่งหลานชายตัวน้อยอีก สุดท้ายเธอก็มายืนทำหน้าแป้นแล้นรอการลงโทษจากเหล่าคณะกรรมการนักเรียน แต่เธอไม่ได้ยืนอยู่คนเดียวหรอกนะ ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างเธอก็คือพี่จี นั่นเอง

 

“ไง น้องหนูสายตั้งแต่วันแรกเลยนะ” จีก้มลงไปกระซิบข้างหูเธอ

 

“พี่เองก็มีสภาพไม่ต่างจากหนูหรอกนะคะ” นิลโต้กลับ จีหัวเราะ

 

“เฮ้ย คุยอะไรกัน ช่วยทำตัวสำนึกผิดกันหน่อยเหอะ” รองประธานนักเรียนผู้เข้มงวดเอ่ยเสียงเข้ม ทั้งสองจึงได้แต่ก้มหน้าซ่อนยิ้ม

 

“เห! มีคนสายแค่สองคนเองเหรอ ไม่สนุกเลยอะ” ปริ๊นส์ที่เดินมาหยุดอยู่ข้างๆรองประธานนักเรียน ส่งเสียงอย่างผิดหวัง แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อทั้งสองคนนั่นคือเพื่อนสนิทกับรุ่นน้องที่รู้จัก รองประธานเหล่มองปริ๊นส์

 

“ห้ามเล่นพรรคเล่นพวกเป็นอันขาด” เขาสั่งเสียงเหี้ยม ปริ๊นส์หน้าม่อยลง

 

“สรุปจะลงโทษยังไงดีครับ ประธาน” เสียงคณะกรรมคนอื่นๆ รอคำตอบจาก

ประธานนักเรียน ปริ๊นส์ลูบคางอย่างใช้ความคิด รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้น

 

“รู้แล้ว ลงโทษด้วยการให้สองคนนี้ไปเดทกันในวันหยุดนี่ละกัน เย้ สลายโต๋ได้” ทุกคนได้แต่อ้าปากค้างกับความคิดของปริ๊นส์ รองประธานนักเรียนตัวสั่นเขากำลังข่มอารมณ์อย่างถึงที่สุด

 

“อะ ไอ้ ประธานเฮงซวย แบบนั้นไม่ใช่การลงโทษแล้วคิดใหม่เดี๋ยวนะโว้ย”

 

“อ๊ะ ไม่ได้เหรอ งั้นก็ไปวิ่งรอบสนามฟุตบอล ห้ารอบละกัน” ปริ๊นส์ตอบไปส่งเดช

 

ทุกคนถอนหายใจอย่างโล่งอก ดีที่ประธานนักเรียนของเขาไม่ล้อเล่นต่อ ถ้าเป็นอย่างนั้นรองประธานได้อาละวาดแน่นอน สุดท้ายจีและนิลก็ต้องไปวิ่งรอบสนามฟุตบอล ห้ารอบ ซึ่งจำนวนรอบน่ะเรื่องเล็ก แต่ระยะทางนี่สิ เพราะสนามมันกว้างมากแถมทั้งสองก็เป็นพวกถนัดแต่ใช้สมองกว่าใช้แรงซะด้วย งานนี้ทั้งสองยืนกลืนน้ำลายก่อนจะหลับหูหลับตาวิ่งๆไปให้จบ

 

“นี่น้องหนู แข่งกันไหม ใครแพ้เลี้ยงน้ำ” จีท้าแข่งกับนิล

 

“ถ้าอย่างนั้นพี่เอาเงินของหนูไปซื้อน้ำเลยละกัน ไม่แข่งด้วยหรอก” นิลยอมแพ้ จีหัวเราะ

 

“น่าๆวิ่งเฉยๆมันไม่สนุกอะ แข่งกันเหอะนะ” จียังคงตื๊อต่อ

 

“ก็ได้ แพ้ผู้หญิงขึ้นมาอายชาวบ้านไม่รู้ด้วยนะ” นิลสบประมาท จียิ้ม

 

“เดี๋ยวก็รู้” แล้วทั้งสองก็ออกวิ่งกันอย่างเอาเป็นเอาตาย สุดท้ายนิลก็แพ้อยู่ดีน่ะแหละ นั่งสองหอบแฮ่ก อยู่ที่อัฒจรรย์ริมสนาม

 

“เฮ้อ เหนื่อยเป็นบ้าเลย เรื่องใช้แรงนี่ไม่ไหวเลยแฮะ ทำขนมยังง่ายกว่าเยอะ”

 

“โอ๊ย แพ้อะ”นิลโอดครวญ

 

ที่มุมหนึ่งบริเวณระเบียงทางเดิน คิงมองดูจีกับนิลที่คุยกันอย่างสนุกสนาน ทั้งที่เขาอุตส่าห์มาตามหาเพราะคิดว่าอาจจะโดนใครแกล้งอยู่ที่ไหนซักแห่งกลับต้องมาพบว่า เธอกำลังคุยอยู่กับคนอื่นโดยไม่ทุกข์ร้อน ภาพตรงหน้าเห็นแล้วมันชวนหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก เขาถอนใจแรงแล้วเดินกลับห้องเรียนทันทีเพราะไม่สามารถทนมองภาพแบบนั้นได้อีก

 

“คุณนิลคะไปทำอะไรมาเหงื่อโทรมกายเลยนะคะ” เพนนีร้องขึ้นเมื่อเห็นนิลเดินเข้ามาในห้องเรียน

 

“วิ่งรอบสนามฟุตบอล โทษฐานที่มาสายน่ะสิ” นิลตอบเธอนั่งลงข้างคิง เหลือบมองเขาแต่อีกฝ่ายกลับเอาแต่มองกระดาน

 

“นี่ๆคิง วันนี้เขาจะประกาศผลสอบใช่ไหม” นิลกระซิบถาม อีกฝ่ายนิ่งเงียบไม่สนใจ นิลสะกิดคิงต่อ

 

“คิง” นิลเท้าคางมองอีกฝ่าย คิ้วขมวดเข้าหากันอย่างไม่พอใจ

 

“อ้าวเราไปทำอะไรให้อีกล่ะ” เขาเหลือบตามองเธอ

 

“อย่ามากวนตอนฉันเรียนหนังสือได้ไหม รำคาญ” คิงเค้นเสียงตอบ

 

“เออ” แล้วต่างฝ่ายก็ต่างไม่สนใจกันและกันอีก เพนนีกับไนท์มองคิงและนิล

 

“ตอนปิดเทอมนี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ ดิฉันสัมผัสได้ถึงพลังงานบางอย่าง” ไนท์หัวเราะคิกเมื่อเพนนีพูดออกมาหน้าตาเฉยแบบนี้

 

“ก็ไม่รู้สินะ” ไนท์ตอบเพนนี แล้วทั้งสองก็หัวเราะให้กัน

 

พักกลางวัน ไนท์และเพนนีวิ่งออกไปจองโต๊ะที่โรงอาหารกันก่อนเนื่องจากช่วงเปิดเทอมใหม่ทีไรโรงอาหารมักจะแน่นขนัดไปด้วยเด็กนักเรียนแต่พอเข้ากลางๆเทอมผู้คนกลับบางตาลงไปซะอย่างนั้น ทำให้ทั้งสองต้องรีบไปก่อนที่จะไม่มีที่ว่างกินข้าว นิลกำลังเก็บของเข้าลิ้นชัก ส่วนคิงยืนคุยกับอาจารย์ประจำวิชาอยู่ เมื่อทุกคนทยอยเดินออกจากห้องกันไปแล้ว เหลือคิงกับนิลที่อยู่ในห้องสองคน

 

“นี่จะไม่พูดกับเราจริงๆเหรอ” นิลถามเสียงอ่อย

 

“......”

 

“เราไปทำอะไรให้ไม่พอใจกันอีกล่ะ ขอโทษละกันนะ” นิลยิ้มให้คิง คิงยังคงเงียบไม่ตอบสนอง

 

“ถ้ายอมพูดด้วยเดี๋ยวเย็นนี้ทำไก่ทอดให้กินเอาเปล่า” นิลหลอกล่อด้วยของคิง และดูเหมือนว่าจะได้ผล คิงหันกลับมามอง

 

“อย่าลืมล่ะ”

 

“ไปโรงอาหารกันเถอะหิวแล้ว” นิลดึงแขนคิงให้ออกเดิน คิงมองตาม ไม่รู้เหมือนกันว่าความขุ่นข้องหมองใจนั้นหายไปตั้งแต่ตอนไหน หรือจะเป็นตอนที่เขาได้เห็นรอยยิ้มของเธอเมื่อครู่กันนะ

 

“ช้ามากทั้งสองคน ค่าปรับคือไปซื้อน้ำมาเดี๋ยวนี้”ไนท์ออกคำสั่งเพราะทั้งเขาและเพนนีได้มาจองโต๊ะกันตั้งนานแล้ว ทั้งสองพยักหน้าแล้วเดินไปที่ตู้กดน้ำ

 

“คิงเอาน้ำอะไร” นิลหันมาถาม คิงกวาดตามองที่หน้าตู้ นึ่งคดอย่างลังเล นิลยืนกอดอกมองอย่างรำคาญ

 

“คิดเร็วๆสิ ลังเลจริงเลย” นิลเร่ง คิงก็ยังตัดสินใจไม่ได้

 

“อ้าวน้องหนูขี้แพ้” คิงหันขวับไปจ้องมองอีกฝ่ายรู้ว่าถูกจ้องจึงมองตอบเช่นเดียวกัน

 

“โห พี่จีเลิกเรียกหนูด้วยสรรพนามน่าเกลียดแบบนั้นนะ”

 

“เลิกเรียกก็ได้แต่ต้องเลี้ยงน้ำนะที่แพ้พี่” จีเลิกสนใจคิงหันมาคุยกับนิลอย่างสนิทสนม

 

“ได้เลย ว่าแต่พี่จีจะกินน้ำอะไร” นิลหยอดเหรียญลงไปพลางถามอีกฝ่าย

 

“ขอชาเขียวก็แล้วกัน” เสียงกระป๋องชาเขียวหล่นลงมา นิลจะหยิบแต่ไม่ทัน คิงคว้ามาถือไว้ซะเอง

 

“ฉันจะเอาอันนี้” คิงพูดพร้อมกับเปิดกระป๋องยกขึ้นดื่ม จีหรี่ตามองอย่างไม่พอใจ

 

“อะไรของเธอเนี่ย ไม่เป็นไรพี่จีเดี๋ยวหนูกดให้ใหม่” กระป๋องใบที่สองหล่นลงมา คิงคว้าขึ้นมาอีกครั้ง

 

“ฉันอยากได้สองกระป๋อง” จีเขม่นมองอีกฝ่ายจะกวนโอ๊ยกันมากไปแล้วมั้งไอ้น้อง นิลกดครั้งที่สามและคราวนี้เธอเป็นคนคว้าไว้เสียเอง นิลยื่นให้รุ่นพี่ จียิ้มรับ

 

“ขอบใจนะน้องหนู ไว้เจอกันใหม่นะ” เขาล่ำลานิลก็จะเสมองไปทางคิงที่ยืนห่างออกไป หลังจากจีเดินลับตาไปแล้วนิลเงื้อหมัดชกไปที่ต้นแขนของคิง

 

“โอ๊ย! ทำอะไรของเธอเนี่ยฉันเจ็บนะ”

 

“สมควรจะโดนซะบ้าง ไปกวนประสาทพี่เขาทำไมกัน”

 

“ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ” คิงแก้ตัว นิลเบ้ปาก

 

“จริงๆเลย ไปเหอะซื้อน้ำครบแล้วไปหาเพนนีกับไนท์ดีกว่า” คิงได้แต่มองตามนิลไป

 

เฮ้อ! เป็นเธอนี่ดีจังนะไม่รู้อะไรเอาซะเลยว่าใครรู้สึกกับเธอยังไง

 

ร้านเบเกอรี่สไตล์ญี่ปุ่นที่ตั้งขึ้นภายในโรงอาหารของโรงเรียนด้วยฝีมือการใช้อำนาจของประธานนักเรียนอย่างปริ๊นส์ คลาคล่ำไปด้วยนักเรียนตลอดเวลา นิลหยุดยืนมองขนมเค้กที่อยู่หน้าร้านอย่างสนใจ เค้กที่ออกแบบมาอย่างน่ารักเอาใจนักเรียนสาวๆ เค้กผลไม้ รวมถึงเค้กแฟนซี เหล่านี้ล้วนดึงดูดความสนใจเอไม่น้อย เธอหันไปเรียกเพนนีให้เดินเข้าไปในร้านด้วยกัน สองหนุ่มเลยต้องเดินตามเข้าไปในร้าน

 

“อ้าวพี่จี” นิลเอ่ยทัก เมื่อเห็นจีกำลังยืนพิจารณาขนมปังที่วางอยู่บนชั้น ถัดไปคือปริ๊นส์ที่ยืนหาวรอจีอยู่ เพนนีมองหน้าทุกคนสลับไปมา

 

“หืม อ้าวน้องหนูเองเหรอ” จีเอ่ยทัก

 

“ร้านนี้คนเยอะนะคะ ว่าแต่พี่จียืนดูอะไรอยู่เหรอ” นิลเดินไปยืนข้างกายเขา จีโคลงหัวไปมา

 

“กำลังยืนดูขนมพวกนี้น่ะว่าทำยังไง กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อไปชิม น้องหนูอยากกินอะไรเดี๋ยวพี่เลี้ยงเอง”

 

“อันไหนที่มันแพงที่สุดกันนะ”นิลพูดกับจี

 

ปริ๊นส์มองทั้งคู่แล้วยิ้มกริ่ม แววตาเจ้าเล่ห์เป็นประกายทันที เขาค่อยๆขยับตัวดันให้จีใกล้นิลมากขึ้น เพนนีที่มองดูการกระทำของปริ๊นส์อย่างไม่พอใจ เธอค่อยดึงนิลให้ขยับเข้าใกล้เธอ ปริ๊นส์ไม่ยอมแพ้ ดันตัวจีให้เข้าใกล้อีก ไนท์ยืนมองยิ้มๆ

 

ส่วนคิงตอนนี้สะกดกลั้นอารมณ์อย่างถึงที่สุด เพนนีเม้มปากอย่างขัดใจสุดท้ายเธอเดินไปแทรกกลางระหว่างนิลกับจี คิงลอบยิ้ม ‘ดีมากยัยคุณหนู’ ปริ๊นส์ชะโงกมามอง ‘ยัยนี่เป็นใครฟะ’ ส่วนเพนนีก็มองกลับไปเช่นกัน ทั้งสองส่งสายตาอาฆาตใส่กัน นิลกับจีได้แต่ยืนมองตาปริบเกิดอะไรขึ้นกันล่ะเนี่ย

 

“จะอารมณ์ดีอะไรนักหนา” ปริ๊นส์พึมพำเมื่อเห็นจีเอาแต่เดินยิ้มน้อยยิ้มใหญ่

 

“นายชอบนิลเหรอจี”ปริ๊นส์ถามตรงๆ จีหยุดยืนมองหน้าเพื่อน

 

“คิดว่าชอบนะ แหะๆ แต่ว่าก็มีคู่แข่งอยู่เหมือนกันล่ะนะ”

 

“ไอ้เจ้าเด็กลูกครึ่งจอมอวดดีนั่นน่ะเหรอ” ปริ๊นส์หมายถึงคิง พูดแล้วก็ชวนหงุดหงิดชอบกล ท่าทางหยิ่งยโสแบบนั้น

 

“อย่ากังวลไปน่า ท่านปริ๊นส์คนนี้จะเป็นกองเชียร์ให้นายเอง” จีหัวเราะ

 

“ถึงขนาดต้องมีกองเชียร์เลยเหรอ นายคิดว่าฉันเจอศึกหนักอยู่รึไง” จีถามยิ้มๆ ปริ๊นส์ยักไหล่

 

อีกด้านหนึ่งก่อนจะเข้าเรียน เหล่าสี่สหายมายืนปลาบปลื้มกับการประกาศผลสอบและจัดอันดับภายในของระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่5 แน่นอนอันดับหนึ่งก็คงหนีไม่พ้น คิงอยู่แล้ว เพนนีกับไนท์อยู่อันดับเดียวกัน ส่วนนิลเข้ากลางเทอมติดอันดับ1ใน 30 คนแรกก็ถือว่าใช้ได้ละนะอย่างน้อยก็ไม่ต้องเรียนซ้ำชั้น นิลยืนมองอย่างภาคภูมิใจ คิงเหล่มองกระทุ้งศอกไปที่แขนนิล เขาก้มลงกระซิบที่ข้างหูนิล

 

“เก่งจังน๊า ด้วยฝีมือใครเอ่ย”

 

“ทวงบุญคุณ ขึ้นมาเชียวนะ”

 

“เปลี่ยนจากไก่ทอดเป็นสุกี้หม้อไฟดีกว่ามั้ง”

 

“ก็ดีเหมือนกันนะ” คิงยิ้มขยี้หัวเราะนิล นิลสะบัดออก

 

“จะเล่นใช่มะ” เธอถามก่อนจะแกล้งจี้เอวอีกฝ่าย คิงปัดป้องไม่ยอมเหมือนกัน

 

“คิง” เสียงร้องเรียกทำให้คิงและนิลหยุดชะงัก คิงยืนนิ่งก่อนนะจะหันไปมองข้างหลัง เด็กสาวร่างเล็กในชุดไปรเวท ใบหน้าปิดผ้าพันแผลไว้ครึ่งหนึ่ง ผมที่เคยไว้ยาวถูกตัดซอยสั้นลง ดวงตาเรียวดำ จ้องมองคิงนิ่งๆ

 

“บลู” คิงเรียกอีกฝ่ายด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ก่อนจะผละจากนิลไปหาเธอทันที

 

“บลูมาได้ยังไง แล้วผมทำไมเป็น.....” บลูหัวเราะเมื่อเห็นคิงถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ

 

“ก็ไม่มีอะไรหรอก ออกจากโรงพยาบาลก็อยากแวะมาโรงเรียน ส่วนผมนี่ก็แค่อยากตัดสั้นเฉยๆ ทำไมต้องประหลาดใจอะไรขนาดนั้น” เธอตอบพร้อมเลื่อนสายตาไปข้างหลังคนร่างสูง ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน

 

“ดูอะไรกันอยู่เหรอ” บลูถาม

 

“ประกาศผลสอบ”

 

“คิงได้ที่หนึ่งอีกตามเคยสินะ” คิงลูบต้นคอเขิน นิลมองดูคิงด้วยความรู้สึกว่าวันนี้คิงดูไม่เหมือนกับทุกวัน

 

“เรากลับก่อนนะ รถที่บ้านมารอแล้ว แล้วเจอกันใหม่นะคิง”

 

“เดี๋ยวเราเดินไปส่ง” คิงเดินไปกับบลู โดยที่เขาลืมไปเลยว่านิลยังยืนอยู่ตรงนี้ นิลมองตามคนทั้งคู่ไปด้วยสายตาตั้งคำถามแต่แล้วเอก็หมดความสนใจมุ่งหน้าไปยังห้องเรียนแทน

 

“อ้าวคุณนิลทำไมกลับมาคนเดียวล่ะคะ” เพนนีกับไนท์พอดูผลสอบเสร็จก็ชวนกันขึ้นห้องเรียนไม่ได้รอนิลและคิง เธอจึงแปลกใจเมื่อเห็นนิลเดินเข้ามาคนเดียว

 

“ก็เมื่อกี้นี้ มีคนรู้จักของคิงแวะมาโรงเรียน แล้วคิงก็เดินไปส่งเขาน่ะ” นิลอธิบายช้าๆ

 

“ใครเหรอ” ไนท์ยื่นหน้ามาถาม

 

“อืม....ชื่อบลูน่ะ เพนนีกับไนท์รู้จักไหม” นิลถามกลับ ทั้งสองคนต่างมองหน้ากัน

 

“บลูออกจากโรงพยาบาลแล้วเหรอเนี่ย” ไนท์พึมพำ

 

“ไนท์ก็รู้จักเหรอ เขาเป็นใครล่ะ” นิลถามต่อ

 

“ไม่ใช่เรื่องของเธอ” คิงพูดแทรกขึ้นมา ใบหน้าเรียบเฉยและน้ำเสียงห้วนๆ ทำให้นิลรู้สึกว่าคิงแปลกไป

 

“เหรอ” นิลสะบัดหน้ากลับไปนั่งอ่านหนังสือเรียน คิงนั่งลงข้างๆสายตาจับจ้องไปที่กระดานดำ ทั้งสองต่างจมอยู่กับความคิดของตัวเอง

 

ในตอนเย็นนิลมารับกระเต็นที่ฝั่งอนุบาลและพากันไปซื้อวัตถุดิบที่ซูเปอร์มาเก็ตมาทำสุกี้หม้อไฟตามที่ได้สัญญากับคิงไว้ ในตอนนี้เธอยืนจดๆจ้องๆอยู่ประตูรั้วบ้านของคิงชั่งใจว่าจะกดออดดีหรือไม่ แต่เด็กชายกระเต็นเอื้อมมือไปกดแทนเธอซะแล้ว รอแค่ชั่วอึดใจคิงเดินมาเปิดประตู เขายิ้มร่าเมื่อเห็นเธอถือถุงของกินมาด้วย

 

“นึกว่าเย็นนี้จะอดตายซะแล้วสิ” คิงแกล้งบ่น

 

“ก็คุยกันไว้แล้วใครจะไปลืมกันล่ะ” นิลตอบเรียบๆ คิงยิ้มพร้อมกับดันไหล่นิลให้เข้าไปในครัว ส่วนตัวเขาเองไปสอนเปียโนให้กระเต็นอย่างสบายอารมณ์ทิ้งให้เธอเตรียมของอยู่คนเดียว

 

“คิง กระทะไฟฟ้าอยู่ไหนล่ะ”นิลชะโงกหน้ามาถามคนร่างสูงที่นั่งเล่นเปียโนกับเด็กชายนกกระเต็นที่ห้องนั่งเล่น เขาลุกขึ้นเดินตามเธอเข้าไปในครัวก่อนจะยืนนิ่งใช้ความคิดเพราะเขาเองก็จำไม่ได้ซะด้วย

 

“คิดนานจัง สรุปมีไหมเนี่ย”นิลเร่ง

 

“อยู่ชั้นบนสุดของชั้นวางของไง” เสียงเล็กๆเอ่ยขึ้น บลูนั่นเองความจริงแล้วเธอรอให้คิงเลิกเรียนแล้วจะแวะมาคุยด้วยแต่เมื่อเธอเดินเข้ามาในบ้านเธอเห็นเด็กชายตัวเล็กที่เคยเจอและเธอได้ยินเสียงคิงดังลอดมาจากในครัว บลูเดินตามเสียงนั้นมาจนมาหยุดอยู่ที่ประตูทางเข้า คิ้วสวยขมวดเข้าหากันด้วยความแปลกใจ ผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว

 

“เธอเป็นใครเหรอคิง” คิงยืนนิ่งไม่ได้ตอบคำถามของบลู

 

“คิง” บลูเรียกซ้ำ นิลมองหน้าผู้หญิงที่เพิ่งเดินเข้ามาสลับกับคิง

 

“เราชื่อนิล เรียนห้องเดียวกับคิง เราขอร้องให้คิงช่วยสอนเปียโนให้หลานชายเรา วันนี้เราเลยจะมาทำอาหารตอบแทน”นิลแนะนำตัวพร้อมทั้งอธิบายเกี่ยวกับตัวเธอสั้นๆให้บลูฟัง

 

“หลานชายเธอ นกกระเต็นน่ะเหรอ” บลูถามกลับ

 

“เอ๊ะ! เธอรู้จักหลานชายเราเหรอ” นิลหันไปมองหน้าคิง

 

“เราเคยพากระเต็นไปโรงพยาบาล ไปเยี่ยมบลู”คิงเอ่ยปากขึ้นมาหลังจากเงียบไปนาน

 

“ถ้าอย่างนั้นมาเริ่มมื้อเย็นกันเถอะ”

 

นิลยิ้มให้ทุกคน เพื่อทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดนี้ จะว่าไปแล้วเธอไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเพิ่มขึ้นซักนิด ไม่รู้ว่าเกี่ยวข้องกับคิงอย่างไร แต่ที่เธอรู้สึกได้คือบรรยากาศความกดดันและความหมางเมินของคิง หลังอาหารเย็นผ่านไป คิงเดินออกมาส่งนิลและกระเต็นที่ประตูรั้ว นิลและคิงยืนสบตากัน นิลถอนหายใจเมื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึมของคิงเอเอื้อมมือไปหยิกแก้มอีกฝ่ายเต็มแรง

 

“โอ๊ย นี่เธอทำอะไรเนี่ย ยัยบ้าเอ๊ย” นิลหัวเราะเมื่อเห็นคิงโวยวาย

 

“ค่อยสมเป็นคิงหน่อย” นิลยิ้ม คิงลูบแก้มตัวเองพลางมองหน้านิล

 

“อย่าเที่ยวมาอ่านความคิดคนอื่นเขาตามใจชอบสิ”

 

“ก็คิงทำหน้าแบบกดดันอะไรบางอย่าง เห็นแล้วหดหู่ชะมัดเลย แถมเธอยังลืมเรื่องสำคัญด้วย” นิลชกที่แขนคิงเบาๆ เป็นเชิงต่อว่า คิงขมวดคิ้ว .....เรื่องสำคัญเหรอ อ๋อ ....เขาคลี่ยิ้มออกมา

 

“ขอโทษนะ อาหารวันนี้อร่อยมาก กลับบ้านไปได้แล้ว เจ้าหนูพรุ่งนี้เจอกัน” เขาหันไปลูบหัวเด็กชาย นิลยิ้มโบกมือลา คิงเดินเข้าบ้านเขาชะงักเท้า เมื่อเห็นบลูยืนมองเขาอยู่ คิงส่งยิ้มให้อีกฝ่าย

 

“ผู้หญิงคนนั้นสนิทกับคิงจังเลยนะ”

 

“ไม่มีอะไรหรอกบลู ก็แค่เพื่อนร่วมห้อง” คิงเบี่ยงตัวจะเดินเข้าห้องนั่งเล่น บลูจับมือคิงไว้สายตาหวาดหวั่นที่เอส่งมาทำให้เขาโน้มตัวเธอเข้าไปกอด ร่างนั้นสะอื้นเบาๆ

 

“ไม่มีอะไรจริงๆบลู เรารักษาสัญญากับบลูอย่ากังวลไปเลยนะ”

 

“เรารู้ดี ว่าคิงจะรักษาสัญญา”บลูเอ่ยตอบคิง แต่ในใจของบลูเธอไม่ได้ต้องการให้คิงรักษาสัญญากับเอเท่านั้น แต่เธอต้องการให้คิงรักเธอด้วย มันจะเป็นไปได้หรือเปล่ากันนะ

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา