ขอได้ไหมที่เธอก็พอ
9.7
เขียนโดย erioru
วันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2557 เวลา 01.40 น.
4 Single
3 วิจารณ์
7,415 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 21 มีนาคม พ.ศ. 2559 01.22 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) Teaser 2
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ “สวัสดีครับ วันนี้เรามีโอกาสพิเศษที่มาจัดคอนเสิร์ตที่นี้เตรียมพบกับความมันกับพวกเราได้เลย” เสียงพิธีกรวัย 20ปีพูดขึ้นตามด้วยเสียงกรี๊ดของบรรดาสาวๆภายในฮอลล์ตอนนี้มืดสนิทจากนั้นก็ได้ยินเสียงกลองและคีย์บอดดังขึ้นและสปอร์ตไลต์ได้ฉายไปยังร่างสองร่างที่อยู่บนเวที
“กรี๊ดดด ฮโยอน ซอฮยอน” ฮโยยอนหนุ่มผมสั้นที่มีฝีมือกลองขั้นเทพ และซอฮยอนมักเน่ที่แสนน่ารักมือคียบอร์ดจากนั้นก็เป็นเสียงเป็ด เฮ้ย! เบสดังขึ้นมาแสงจากสปอตร์ไลฟ์ฉายไปยังหนุ่มหน้าหวานหัวหน้าวงกำลังโชว์ความสามารถของตัวเองขึ้นมาบ้าง
“ซูยอน อ๊ายยยยย”เสียงเบสที่หนักและทุ้มนุ่มลื่นไปตามจังหวะที่เร่าร้อนแต่เยือกเย็นเสียงเบสได้เล่นเข้าคีย์หลักจากนั้นเสียงกีต้าร์สองตัวก็ได้โซโลขึ้นมา เสียงสองเสียงที่แข่งกันไปมาเหมือนไม่ยอมใครทั้งนั้นยิ่งเพิ่มความมันให้กับจังหวะดนตรี
“กรี๊ด....ยุนอา มิยอง” แล้วสปอร์ตไลฟ์ก็ฉายแสงไปยังคนทั้งคู่ที่ยืนอยู่ใกล้กันจนมาถึงจังหวะส่งฟานี่ได้หยุดแล้วเล่นคอร์ดตามปกติยุนอาได้เร่งควาวมเร็วขึ้นจนมาหยุดโน๊ตตัวสุดท้ายเสียงที่ลากยาวพร้อมเสียงรั้วกลองของฮโยยอนและรั้วคีย์ของซอฮยอนจากเบาและช้าเป็นหนักแล้วเร็วเสียงพลุ่งดังขึ้นมาพร้อมการปรากฏตัวของนักร้องของวงบรรดาเสียงกรี๊ดของสาวๆและเสียงโฮร้องอย่างชอบใจของหนุ่มๆ
“ซันนี่ กรี๊ดดดดด” เสียงนุ่มแต่สูงเปล่งออกมา จนการดำเนินไปของมินิคอนเสิร์ตก็ได้จบลงเสียงกรี๊ดและเสียงโฮร้องชอบใจของบรรดาแฟนคลับ
“ขอฝากอัลบั้มใหม่ไว้ด้วยนะครับ จากพวกเราโซชิบอยนะครับ” ซันนี่พูดจบไฟเวทีก็ปิดลงไฟฮอลล์ก็เปิดขึ้นผู้คนเดินทางกลับ หลังจากได้สนุกกับวงดนตรีที่มีชื่อเสียงและตนเองชื่นชอบขณะนี้ร่างทั้งหกที่ได้มาอยู่ห้องพักนักร้องใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อของแต่ละคน
“ยุนอาและซอด้วยเล่นเร็วไปไหม....” หัวหน้าวงซูยอนถามทันที
“ใครว่าละพี่ยุนต่างหากที่เล่นเร็ว” ซอฮยอนเอ่ยขึ้น
“นายต่างหากละซอ” เสียงยุนอาที่พูดกลับ
“พี่ยุน”
“ซอ” ทั้งคู่เถียงกันไปมาว่าใครผิด
“ซันนี่” ซูยอนพูดขึ้นพร้อมเช็ดเหงื่อ “วันนี่ร้องเพี้ยนนะสองที่” ร่างเล็กยิ้มแหย่ๆ
“โทษทีsaveลมหายใจไม่ทันนะก็เลยเพี้ยน” แต่เหมือนคนตรงหน้าจะสาธยายต่อซันนี่จึงหาวิธีหยุดคนตรงหน้า
“จริงด้วยดูดิตอนทำแอฟเฟ็คมันมาโดนมือด้วยเลือดไหล ดู!” ซันนี่ยืนมืออกมา
“ม่ายยยย!ไม่กลัวๆๆๆ” ซูยองนั่งลงพร้อมพึมพำกับตัวเองๆไปมาโดยที่ไม่ดูว่าซันนั้นพูดจริงหรือโกหกแต่สำหรับผู้ที่มีใบหน้าตายคนนี้นั้นกลัวสิ่งที่เป็นน่ากลัวทุกชนิด
“ดูดิๆๆ”ซันนี่ยังคงยืนมือไปให้ซูยอนต่อถึงแม้มือนั้นจะไม่มีรอยอะไรเลยส่วนคนกลัวก็หลบหน้าหนีลูกเดียวโดยไม่สนใจว่าที่เพื่อนตัวเล็กพูดจะเป็นจริงหรือโกหกแต่มีช่วงหนึ่งที่เป็นเงาสะท้อนจากกระจกทำให้เห็นมือของซันนี่เต็มๆซึ่งร่างเล็กที่ยังไม่รู้ว่าคนที่กลัวได้รู้ความจริงแล้ว บรรยากาศภายในห้องนั้นเย็นฉับพลันซอฮยอนเดินไปดูแอร์ซึ้งยังคงเป็น 25 องศาซึ่งไม่นาจะหนาวมากเท่านี้
“ไอ้ซันนี่” ซูยอนค่อยๆหันหน้ามาซันนี่ที่เห็นใบหน้าคนตรงหน้าพร้อมกลืนน้ำลายลงคอที่แสนยากลำบาก พร้อมกับร่างกายที่รู้สึกเล็กลงและคนตรงหน้าก็โตขึ้น “แกโกหกฉันใช่ไหมห๊ะ...ตายซะ” ซูยอนจับหัวซันนี่
“กลัวแล้วคร๊าบบบบบบบ” ก่อนที่ซันนี่จะกลายเป็นกระรอกแช่แข็ง
“พี่ซูยอนครับ” ซอฮยอนสะกิดหลังซูยอน
“อะไร”น้ำเสียงขุ่นเคืองและใบหน้าทะมึนทึงประมาณจะฆ่าใครได้ทุกเมื่อแต่ซอฮยอนก็ยังคงยิ้มไม่รู้สึกอะไร
“ทานเค้กไหมครับ”ซอฮยอนยืนจานเค้กมาให้ใบหน้านั้นจ้องที่เค้กอย่างเคือดแค้น
“กินซิครับ”ซูยอนยิ้มตอบกลับบางๆ ซอฮยอนแจกเค้กให้คนในวงยกเว้นมิยองที่ไม่กินของหวานแต่เนื่องจากว่าซอฮยอนลืมชาไว้ที่ห้องตอนรีบออกมาจึงทำให้ไม่มีน้ำแก้ขัด แต่ยังไงสต๊าฟก็คงเอาน้ำมาเสริฟอยู่ดี
“นี่ซูยอนทำไมไม่ลองถามคนที่นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ละ” มิยองเดินมาสะกิดเพื่อนซี้ที่กำลังกินเค้กอย่างอารมณ์ดีก่อนชี้ไปยังฮโยยอนที่นั่งกินเค้กอีกฝากหนึ่งของห้อง
“คิมฮโยยอนเป็นฝีมือนายใช่ไหม” ฮโยยอนค่อยๆหันมาพร้อมยิ้มแหย่ๆ
“แค่แรงนิดหน่อยเอง” มือบางๆตบไปทีหัวของฮโยยอนเต็มแรง
“ถึงจะนิดหน่อยมันก็เร็วก็แล้วกัน”
“อะไรอะก็เล่นเร็วไม่เร็ว ไอ้ซันมันก็ร้องเพี้ยนเหมือนเดิม น่าจะรู้นิสัยมันนิว่ามันชอบร้องเพี้ยน” ฮโยยอนพูด
“อะไรๆใครว่าฉันร้องเพี้ยนห๊ะ ไอ้ฮโย” พูดจบซันนี่ก็ล็อคคอฮโยยอน
“ไอ้บ้ามันจริงไหมละ” ฮโยยอนยังพูดขณะโดนล็อคคอแต่มือก็ยังพยายามแกะแขนซันนี่ออกทุกคนหันมามองการกระทำของทั้งคู่ที่โต้ตอบกันไปมา
“ยุนอาช่วยด้วย” ฮโยยอนเรียกน้องรองของกลุ่ม
“ไม่เอาอะพี่ฮโยทำฉันโดนว่าเพราะงั้นฉันร่วมมือด้วยพี่ซันๆ” จากนั้นยุนอาวิ่งไปจับขาฮโยยอนก่อนจับรุ่นพี่มือกลองนอนลงโซฟา
“ทำไรดียุนอา” ซันนี่ถามยุนอาทั้งทียังจับฮโยยอนกดลงเพราะตอนนี้ร่างที่นอนอยู่ยังดิ้นไปมา
“ถอดเลยดีกว่า”ยุนอาเสนอขึ้นมา
“เฮ้ยๆๆปล่อยนะโว้ย” ฮโยยอนยังคงดิ้นต่อไปเพื่อที่จะหลุดจากพันธะนาการจากสองตัวแสบนี้การกระทำทั้งสามทำให้ทุกคนสามคนได้หัวเราะขึ้นมา
เสียงเคาะที่ดังขึ้นฟานี่ที่อยู่ใกล้จึงเปิดประตูร่างหนุ่มที่ซึ่งน่าจะรุ่นราวคราวเดียวแบกกระติกน้ำขนาดใหญ่
“ผะ..ผมเอาน้ำมาให้ครับ” ร่างนั้นเดินเข้ามาแล้วไปวางไว้ที่โต๊ะก่อนเปิดฝาออกมีเครื่องดื่มหลากหลายประเภทบรรจุอยู่ภายใน
“พอดีเลยกำลังหิวน้ำ” เสียงซันนี่ดังขึ้นพร้อมเดินตรงมายังถังน้ำมือเล็กที่หยิบเอาโคล่าขึ้นมาดื่มอย่างอารมณ์ดีก่อนไปช่วยยุนอาจี้เอวฮโยยอน
“คิมแทยอน!” เสียงสต๊าฟดังขึ้นชายที่ถือถังน้ำจึงหันไปตามเสียงเรียก
“ครับพี่ชินดง”
“มั่วมาอู่อะไรตรงนี้ไปช่วยคนอื่นเก็บของ เร็วๆเข้า” น้ำเสียงที่ไม่พอใจสั่งรุ่นน้องมาใหม่
“ครับ” แทยอนได้แต่รับด้วยน้ำเสียงเนื่องๆและเดินออกไปกับรุ่นพี่ที่ทำงานซึ่งมีสายตาคู่หนึ่งที่มองตามไปมองร่างนั้นเดินออกไปก็มีร่างสูงแต่งตัวตามสมัยนิยมเดินเข้ามาทำให้ทุกคนหันไปมองผู้มาใหม่
“หวัดดีซูอง/สวัสดีครับพี่ซูยอง” มิยอง ซูยอนและซอฮยอนทักผู้มาใหม่
“สวัสดีครับพี่มิยอง พี่ซูยอน หวัดดีซอ” ซูยองพูดแล้วมองไปยังสามคนที่เล่นกันอีกมุมของห้อง
“โย่ซูยอง” ยุนอายกมือขึ้นเหมือนฮิตเลอร์
“อ่อ”
“หวัดดีซูยอง” ซันนี่และฮโยยอนพูดขึ้นพร้อมกัน
“สวัสดีครับพี่ฮโยยอน หวัดดีซันนี่”น้ำเสียงห้วนของประโยคหลังพูดขึ้น
“นี่ฉันเป็นพี่นายนะทำไมไม่มีคำว่าพี่เลยละ” ซันนี่เดินมาพร้อมกับเก้าอี้เล็กๆ
“ก็นายทำตัวให้มันน่าเคารพไหมละ” น้ำเสียงเรียบพูดออกมาแบบไม่แย่แส่คนตรงหน้าซันนี่วางเก้าอี้เล็กลงแล้วก็ขึ้นเหยียบทำให้ส่วนสูงทั้งคู่เท่ากัน
“นายว่าไงนะ” ซันนี่จับแก้มซูยองยืดออกทั้งสองข้างซูยอง
“อันเอ็บอะ(มันเจ็บนะ)”ใบหน้าที่ขมวดกันซูยองจึงเดินถอยหลังสองสามก้าวทำให้ซันนี่ที่ยืนบนเก้าอี้จึงล้มลงกับพื้นเต็มที่
“โอ้ยๆเจ็บชะมัด” ซันนี่อวดครวน
“ได้เวลาที่ต้องกลับแล้วนะครับ พี่ซูยอนครับพรุ่งนี้เช้าท่านประธานเรียกพบนะครับ” ซูยองพูดจบก็เดินออกไปจากห้อง
“ไปตายที่ไหนก็ไปซะ ไอ้ผู้จัดการบ้า ไอ้ซูยอง” ซันนี่ตะโกนไล่หลังพร้อมจับจมูกตัวเอง
“ถ้างั้นเก็บของกลับกันเถอะ” ซูยอนพูดพร้อมสะพายเบสไว้คนอื่นๆก็เก็บของตามทั้งหมดเดินไปยังประตูหลังซึ่งมีรถตู้มาจอดไว้ทุกคนจึงเดินเข้าไปข้างในจนเหลือแค่ซันนี่ที่ยังไม่เข้าไป
“ซันนี่ไม่กลับเหรอ” ซูยอนถามนักร้องของวงที่ยังไม่เห็นขึ้นรถแถมมองหาอะไรซักอย่าง
“เปล่าก็ยังไม่เห็นไอ้ซูยองเลย”
“คุณซูยองต้องเข้าประชุมที่บริษัทนะครับ” คนขับรถอธิบายว่าผู้จัดการวงนั้นหายไปไหนซันนี่จึงเดินขึ้นรถไปประตูรถก็เลื่อนปิด
“เฮ้ย!ไอ้แทยอนเร็วดิวะยกของช้าชะมัด” เสียงของสต๊าฟคนหนึ่งดังเล็ดลอดเข้ามาในรถทำให้บุคคลที่นั่งติดกับหน้าต่างหันไปมองจึงเห็นชายร่างเล็กที่ถือของที่คนหนึ่งคนไม่น่าถือได้เดินตามหลังรุ่นพี่คนหนึ่งก่อนที่เสียงสตาร์ทรถดังขึ้นและเคลื่อนออกจากตรงนั้นเข้าสู่ถนนใหญ่
“กรี๊ดดด ฮโยอน ซอฮยอน” ฮโยยอนหนุ่มผมสั้นที่มีฝีมือกลองขั้นเทพ และซอฮยอนมักเน่ที่แสนน่ารักมือคียบอร์ดจากนั้นก็เป็นเสียงเป็ด เฮ้ย! เบสดังขึ้นมาแสงจากสปอตร์ไลฟ์ฉายไปยังหนุ่มหน้าหวานหัวหน้าวงกำลังโชว์ความสามารถของตัวเองขึ้นมาบ้าง
“ซูยอน อ๊ายยยยย”เสียงเบสที่หนักและทุ้มนุ่มลื่นไปตามจังหวะที่เร่าร้อนแต่เยือกเย็นเสียงเบสได้เล่นเข้าคีย์หลักจากนั้นเสียงกีต้าร์สองตัวก็ได้โซโลขึ้นมา เสียงสองเสียงที่แข่งกันไปมาเหมือนไม่ยอมใครทั้งนั้นยิ่งเพิ่มความมันให้กับจังหวะดนตรี
“กรี๊ด....ยุนอา มิยอง” แล้วสปอร์ตไลฟ์ก็ฉายแสงไปยังคนทั้งคู่ที่ยืนอยู่ใกล้กันจนมาถึงจังหวะส่งฟานี่ได้หยุดแล้วเล่นคอร์ดตามปกติยุนอาได้เร่งควาวมเร็วขึ้นจนมาหยุดโน๊ตตัวสุดท้ายเสียงที่ลากยาวพร้อมเสียงรั้วกลองของฮโยยอนและรั้วคีย์ของซอฮยอนจากเบาและช้าเป็นหนักแล้วเร็วเสียงพลุ่งดังขึ้นมาพร้อมการปรากฏตัวของนักร้องของวงบรรดาเสียงกรี๊ดของสาวๆและเสียงโฮร้องอย่างชอบใจของหนุ่มๆ
“ซันนี่ กรี๊ดดดดด” เสียงนุ่มแต่สูงเปล่งออกมา จนการดำเนินไปของมินิคอนเสิร์ตก็ได้จบลงเสียงกรี๊ดและเสียงโฮร้องชอบใจของบรรดาแฟนคลับ
“ขอฝากอัลบั้มใหม่ไว้ด้วยนะครับ จากพวกเราโซชิบอยนะครับ” ซันนี่พูดจบไฟเวทีก็ปิดลงไฟฮอลล์ก็เปิดขึ้นผู้คนเดินทางกลับ หลังจากได้สนุกกับวงดนตรีที่มีชื่อเสียงและตนเองชื่นชอบขณะนี้ร่างทั้งหกที่ได้มาอยู่ห้องพักนักร้องใบหน้าที่เต็มไปด้วยเหงื่อของแต่ละคน
“ยุนอาและซอด้วยเล่นเร็วไปไหม....” หัวหน้าวงซูยอนถามทันที
“ใครว่าละพี่ยุนต่างหากที่เล่นเร็ว” ซอฮยอนเอ่ยขึ้น
“นายต่างหากละซอ” เสียงยุนอาที่พูดกลับ
“พี่ยุน”
“ซอ” ทั้งคู่เถียงกันไปมาว่าใครผิด
“ซันนี่” ซูยอนพูดขึ้นพร้อมเช็ดเหงื่อ “วันนี่ร้องเพี้ยนนะสองที่” ร่างเล็กยิ้มแหย่ๆ
“โทษทีsaveลมหายใจไม่ทันนะก็เลยเพี้ยน” แต่เหมือนคนตรงหน้าจะสาธยายต่อซันนี่จึงหาวิธีหยุดคนตรงหน้า
“จริงด้วยดูดิตอนทำแอฟเฟ็คมันมาโดนมือด้วยเลือดไหล ดู!” ซันนี่ยืนมืออกมา
“ม่ายยยย!ไม่กลัวๆๆๆ” ซูยองนั่งลงพร้อมพึมพำกับตัวเองๆไปมาโดยที่ไม่ดูว่าซันนั้นพูดจริงหรือโกหกแต่สำหรับผู้ที่มีใบหน้าตายคนนี้นั้นกลัวสิ่งที่เป็นน่ากลัวทุกชนิด
“ดูดิๆๆ”ซันนี่ยังคงยืนมือไปให้ซูยอนต่อถึงแม้มือนั้นจะไม่มีรอยอะไรเลยส่วนคนกลัวก็หลบหน้าหนีลูกเดียวโดยไม่สนใจว่าที่เพื่อนตัวเล็กพูดจะเป็นจริงหรือโกหกแต่มีช่วงหนึ่งที่เป็นเงาสะท้อนจากกระจกทำให้เห็นมือของซันนี่เต็มๆซึ่งร่างเล็กที่ยังไม่รู้ว่าคนที่กลัวได้รู้ความจริงแล้ว บรรยากาศภายในห้องนั้นเย็นฉับพลันซอฮยอนเดินไปดูแอร์ซึ้งยังคงเป็น 25 องศาซึ่งไม่นาจะหนาวมากเท่านี้
“ไอ้ซันนี่” ซูยอนค่อยๆหันหน้ามาซันนี่ที่เห็นใบหน้าคนตรงหน้าพร้อมกลืนน้ำลายลงคอที่แสนยากลำบาก พร้อมกับร่างกายที่รู้สึกเล็กลงและคนตรงหน้าก็โตขึ้น “แกโกหกฉันใช่ไหมห๊ะ...ตายซะ” ซูยอนจับหัวซันนี่
“กลัวแล้วคร๊าบบบบบบบ” ก่อนที่ซันนี่จะกลายเป็นกระรอกแช่แข็ง
“พี่ซูยอนครับ” ซอฮยอนสะกิดหลังซูยอน
“อะไร”น้ำเสียงขุ่นเคืองและใบหน้าทะมึนทึงประมาณจะฆ่าใครได้ทุกเมื่อแต่ซอฮยอนก็ยังคงยิ้มไม่รู้สึกอะไร
“ทานเค้กไหมครับ”ซอฮยอนยืนจานเค้กมาให้ใบหน้านั้นจ้องที่เค้กอย่างเคือดแค้น
“กินซิครับ”ซูยอนยิ้มตอบกลับบางๆ ซอฮยอนแจกเค้กให้คนในวงยกเว้นมิยองที่ไม่กินของหวานแต่เนื่องจากว่าซอฮยอนลืมชาไว้ที่ห้องตอนรีบออกมาจึงทำให้ไม่มีน้ำแก้ขัด แต่ยังไงสต๊าฟก็คงเอาน้ำมาเสริฟอยู่ดี
“นี่ซูยอนทำไมไม่ลองถามคนที่นั่งทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ละ” มิยองเดินมาสะกิดเพื่อนซี้ที่กำลังกินเค้กอย่างอารมณ์ดีก่อนชี้ไปยังฮโยยอนที่นั่งกินเค้กอีกฝากหนึ่งของห้อง
“คิมฮโยยอนเป็นฝีมือนายใช่ไหม” ฮโยยอนค่อยๆหันมาพร้อมยิ้มแหย่ๆ
“แค่แรงนิดหน่อยเอง” มือบางๆตบไปทีหัวของฮโยยอนเต็มแรง
“ถึงจะนิดหน่อยมันก็เร็วก็แล้วกัน”
“อะไรอะก็เล่นเร็วไม่เร็ว ไอ้ซันมันก็ร้องเพี้ยนเหมือนเดิม น่าจะรู้นิสัยมันนิว่ามันชอบร้องเพี้ยน” ฮโยยอนพูด
“อะไรๆใครว่าฉันร้องเพี้ยนห๊ะ ไอ้ฮโย” พูดจบซันนี่ก็ล็อคคอฮโยยอน
“ไอ้บ้ามันจริงไหมละ” ฮโยยอนยังพูดขณะโดนล็อคคอแต่มือก็ยังพยายามแกะแขนซันนี่ออกทุกคนหันมามองการกระทำของทั้งคู่ที่โต้ตอบกันไปมา
“ยุนอาช่วยด้วย” ฮโยยอนเรียกน้องรองของกลุ่ม
“ไม่เอาอะพี่ฮโยทำฉันโดนว่าเพราะงั้นฉันร่วมมือด้วยพี่ซันๆ” จากนั้นยุนอาวิ่งไปจับขาฮโยยอนก่อนจับรุ่นพี่มือกลองนอนลงโซฟา
“ทำไรดียุนอา” ซันนี่ถามยุนอาทั้งทียังจับฮโยยอนกดลงเพราะตอนนี้ร่างที่นอนอยู่ยังดิ้นไปมา
“ถอดเลยดีกว่า”ยุนอาเสนอขึ้นมา
“เฮ้ยๆๆปล่อยนะโว้ย” ฮโยยอนยังคงดิ้นต่อไปเพื่อที่จะหลุดจากพันธะนาการจากสองตัวแสบนี้การกระทำทั้งสามทำให้ทุกคนสามคนได้หัวเราะขึ้นมา
เสียงเคาะที่ดังขึ้นฟานี่ที่อยู่ใกล้จึงเปิดประตูร่างหนุ่มที่ซึ่งน่าจะรุ่นราวคราวเดียวแบกกระติกน้ำขนาดใหญ่
“ผะ..ผมเอาน้ำมาให้ครับ” ร่างนั้นเดินเข้ามาแล้วไปวางไว้ที่โต๊ะก่อนเปิดฝาออกมีเครื่องดื่มหลากหลายประเภทบรรจุอยู่ภายใน
“พอดีเลยกำลังหิวน้ำ” เสียงซันนี่ดังขึ้นพร้อมเดินตรงมายังถังน้ำมือเล็กที่หยิบเอาโคล่าขึ้นมาดื่มอย่างอารมณ์ดีก่อนไปช่วยยุนอาจี้เอวฮโยยอน
“คิมแทยอน!” เสียงสต๊าฟดังขึ้นชายที่ถือถังน้ำจึงหันไปตามเสียงเรียก
“ครับพี่ชินดง”
“มั่วมาอู่อะไรตรงนี้ไปช่วยคนอื่นเก็บของ เร็วๆเข้า” น้ำเสียงที่ไม่พอใจสั่งรุ่นน้องมาใหม่
“ครับ” แทยอนได้แต่รับด้วยน้ำเสียงเนื่องๆและเดินออกไปกับรุ่นพี่ที่ทำงานซึ่งมีสายตาคู่หนึ่งที่มองตามไปมองร่างนั้นเดินออกไปก็มีร่างสูงแต่งตัวตามสมัยนิยมเดินเข้ามาทำให้ทุกคนหันไปมองผู้มาใหม่
“หวัดดีซูอง/สวัสดีครับพี่ซูยอง” มิยอง ซูยอนและซอฮยอนทักผู้มาใหม่
“สวัสดีครับพี่มิยอง พี่ซูยอน หวัดดีซอ” ซูยองพูดแล้วมองไปยังสามคนที่เล่นกันอีกมุมของห้อง
“โย่ซูยอง” ยุนอายกมือขึ้นเหมือนฮิตเลอร์
“อ่อ”
“หวัดดีซูยอง” ซันนี่และฮโยยอนพูดขึ้นพร้อมกัน
“สวัสดีครับพี่ฮโยยอน หวัดดีซันนี่”น้ำเสียงห้วนของประโยคหลังพูดขึ้น
“นี่ฉันเป็นพี่นายนะทำไมไม่มีคำว่าพี่เลยละ” ซันนี่เดินมาพร้อมกับเก้าอี้เล็กๆ
“ก็นายทำตัวให้มันน่าเคารพไหมละ” น้ำเสียงเรียบพูดออกมาแบบไม่แย่แส่คนตรงหน้าซันนี่วางเก้าอี้เล็กลงแล้วก็ขึ้นเหยียบทำให้ส่วนสูงทั้งคู่เท่ากัน
“นายว่าไงนะ” ซันนี่จับแก้มซูยองยืดออกทั้งสองข้างซูยอง
“อันเอ็บอะ(มันเจ็บนะ)”ใบหน้าที่ขมวดกันซูยองจึงเดินถอยหลังสองสามก้าวทำให้ซันนี่ที่ยืนบนเก้าอี้จึงล้มลงกับพื้นเต็มที่
“โอ้ยๆเจ็บชะมัด” ซันนี่อวดครวน
“ได้เวลาที่ต้องกลับแล้วนะครับ พี่ซูยอนครับพรุ่งนี้เช้าท่านประธานเรียกพบนะครับ” ซูยองพูดจบก็เดินออกไปจากห้อง
“ไปตายที่ไหนก็ไปซะ ไอ้ผู้จัดการบ้า ไอ้ซูยอง” ซันนี่ตะโกนไล่หลังพร้อมจับจมูกตัวเอง
“ถ้างั้นเก็บของกลับกันเถอะ” ซูยอนพูดพร้อมสะพายเบสไว้คนอื่นๆก็เก็บของตามทั้งหมดเดินไปยังประตูหลังซึ่งมีรถตู้มาจอดไว้ทุกคนจึงเดินเข้าไปข้างในจนเหลือแค่ซันนี่ที่ยังไม่เข้าไป
“ซันนี่ไม่กลับเหรอ” ซูยอนถามนักร้องของวงที่ยังไม่เห็นขึ้นรถแถมมองหาอะไรซักอย่าง
“เปล่าก็ยังไม่เห็นไอ้ซูยองเลย”
“คุณซูยองต้องเข้าประชุมที่บริษัทนะครับ” คนขับรถอธิบายว่าผู้จัดการวงนั้นหายไปไหนซันนี่จึงเดินขึ้นรถไปประตูรถก็เลื่อนปิด
“เฮ้ย!ไอ้แทยอนเร็วดิวะยกของช้าชะมัด” เสียงของสต๊าฟคนหนึ่งดังเล็ดลอดเข้ามาในรถทำให้บุคคลที่นั่งติดกับหน้าต่างหันไปมองจึงเห็นชายร่างเล็กที่ถือของที่คนหนึ่งคนไม่น่าถือได้เดินตามหลังรุ่นพี่คนหนึ่งก่อนที่เสียงสตาร์ทรถดังขึ้นและเคลื่อนออกจากตรงนั้นเข้าสู่ถนนใหญ่
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ