I never knew loving someone could hurt this bad
-
เขียนโดย SHIN
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 18.19 น.
3 chapter
0 วิจารณ์
6,068 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 22.15 น. โดย เจ้าของนิยาย
2) จุดเริ่มต้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ จุดเริ่มต้น
แดดส่องหัว!!ผมเดินสมัคงานพิเศษมาตั้งแต่เช้าจนตอนนี้
แดดส่องหัวจนร้อนไปหมด ทำไมงานมันหายากขนาดนี้น่ะ
ผมขอแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกัน ผมชื่อคิเร ในภาษาญี่ปุ่น
แปลว่าสวย แต่ผมดันเป็นผู้ชาย มันเลยทำให้ผมไม่ค่อยชอบชื่อ ตัวเองสัก เท่าไหร่ ผมเรียนวิศวะ อยู่ปี 3 ที่ผมต้องมาตะเวนหางานทำก็เพราะว่าพ่อกับ แม่ผมดันไปติดหนี้มาเฟียรายใหญ่กลุ่มหนึ่ง แล้วหนักกว่าเดิมที่ปีที่แล้วพ่อ กับแม่ผมประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต หนี้ทั้งหมดเลยมาตกอยู่ที่ผม ถ้าถามว่า ผมเสียใจไหม ผมตอบเลย ผมเสียใจมาก แต่ผมก็ต้องหาเงินเรียน หาเงิน ใช้หนี้ เพราะงั้นผมจะมามัวนั่งเศร้าไม่ได้
"ที่จริงหให้พวกเราจ้างก็ได้น่ะ เร"สองฝาแฝดนรกแตกเพื่อนสนิทของผม
คนพี่ชื่อไซกะ ส่วนน้องชื่อ เซกะ สองคนนี้ชั่งเป้นฝาแฝดที่เข้ากันดีซะ เหลือเกินน่ะนะ
"พวกเราให้นายไม่อั้นเลยน่ะ"เซกะสมทบขึ้น
"ก็ถ้าจะให้ฉันทำการบ้านให่ช้น่ะนะ ฝันไปเถอะ!!"ผมพูดขัดขึ้น
"หึหึ"ไซกะ
"รู้ทันจังน่ะ"เซกะ
"งั้นวันนี้กลับบ้านก่อนก็ได้ พรุ้งนี้ค่อยว่ากันใหม่"ไหนๆวันนี้ก็เหนื่อยมาครึ่งวันแล้ว เฮ้อ
"อืม ให้พวกเราไปส่งไหม"ไซกะถามขึ้น
"ไม่เป็นไร"ผมปฎิเสธ
"งั้น พวกเราไปน่ะ"เซกะยกมือขึ้นบายๆก่อนจะเดินไป
"บาย"ผมเดินแยกมาอีกด้านเพื่อจะเรียกแท็กซี่กลับบ้าน
บ้านหลังนี้เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ยังคงเหลืออยู่ และมันก็เป็นสมบัติชิ้นสำคัญถ้งแม้ว่าผมขายบ้านหลังนี้แล้ว ได้เงินมาใช้หนี้ แถมซื้อบ้านหลังเล็กๆได้อีกหลัง ผมก็ไม่คิดจะขายมัน เพราะมันเป็นสิ่งที่มีความทรงจำอยู่มากมาย
เมื่อถึงที่หมายผมก็ยื่นเงินให้แท็กวี่ ก่อนจะควานหากุญแจในกระเป๋าเป้มาเปิดประตูรัว
เอ๊ะ!!!
ประตูไม่ได้ล็อก เป็นไปได้ไง ก็ในเมื่อ....ผมจำได้ว่าก่อนออกไปผมล็อคประตูบ้านแล้วนี่ คิดได้ดังนั้นผมก็วิ่งเข้าไปในบ้านทันที
"หึ กลับมาแล้วหรอ หนูน้อย " ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องนั่งเล่นเสียงทุ้มก้ดังขึ้น พร้อมปรากฎร่างสูงที่ นั่งอยู่บนโซฟา
"นะ...นายเป็นใคร"ผมถามเสียงแผ่ว
"แค่นี้ทำเป็นลืมเจ้าหนี้หรอ"ร่างสูงเอ๋ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชามันทำให้ผม ผงะถอยหลังทันที แต่ถอยไปได้ไม่มากผมก็ชนเข้ากลับ บอดี้การ์ด สองคนที่มายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
"นายมีอะไรกับผมหรอ" ผมใจกล้าถามออกไป
"นี่มึงโง่หรือโง่กันแน่ มึงติดหนี้กูมึงคิดว่ากูจะมาหามึงทำไมล่ะ"ร่างสูงตะคอกกลับมา
"มาทวงหนี้....แต่...ตอนนี้ผมยังไม่มี คุณกลับไปก่อนได้ไหม ผมมีเมื่อไหร่ผมจะเอาไปให้น่ะ"ผมพยายามพูดเสียงอ่อนเพื่อให้เขากลับไปก่อน
"กูต้องเชื่อมึง? กูให้เวลามึงมานานแล้วมึงไม่คิดบ้างหรอว่ามันง่ายไปที่มึงมาพูดแบบนี้"
"แต่ตอนนี้ผมยังไม่มี"ก็ผมยังไม่มีจริงๆนี่จะให้ผมไปหาที่ไหน
"งั้นก็...ยกบ้านหลังนี้ให้กูก็จบ"ร่างสูงลุกจากโซฟาแล้วเดินมาทางผม"ว่าไง ง่ายๆแค่นี้เอง"
"ไม่...ไม่มีทาง"ถึงผมจะกลัวแต่ผมก็ไม่มีทางยกบ้านหลังนี้ให้หรอก ไม่มีทาง
"บ้านหลังนี้มันมีอะไรนักหนาว่ะ ก็แค่ยกให้กูทุกอย่างก็จบมึงอย่ามาทำให้กูโมโหน่ะ "ร่างสูงตะคอกใส่ผม ก็มันไม่มีอะไรดีแล้วเขาจะอยากได้ไปทำไมล่ะ จริงไหม
"ต่อให้ตาย ผมก็ไม่มีวันยกบ้านหลังนี้ให้ใคร"ผมพูดจริงๆน่ะ
ร่างสูงผยักหน้าให้บอร์ดี้การ์ด ข้างหลังเล็กน้อย ก่อนที่ผมจะรูกสึก จุกที่ท้อง แล้วหมดสติไป แต่ก่อนหมดสติก็มีเสียงหนึ่งเข้ามาในโสตประสาทผม
"จับมันไปไว้ที่บ้านใหญ่ จนกว่ามันจะใช้หนี้หมด"
แดดส่องหัว!!ผมเดินสมัคงานพิเศษมาตั้งแต่เช้าจนตอนนี้
แดดส่องหัวจนร้อนไปหมด ทำไมงานมันหายากขนาดนี้น่ะ
ผมขอแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกัน ผมชื่อคิเร ในภาษาญี่ปุ่น
แปลว่าสวย แต่ผมดันเป็นผู้ชาย มันเลยทำให้ผมไม่ค่อยชอบชื่อ ตัวเองสัก เท่าไหร่ ผมเรียนวิศวะ อยู่ปี 3 ที่ผมต้องมาตะเวนหางานทำก็เพราะว่าพ่อกับ แม่ผมดันไปติดหนี้มาเฟียรายใหญ่กลุ่มหนึ่ง แล้วหนักกว่าเดิมที่ปีที่แล้วพ่อ กับแม่ผมประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต หนี้ทั้งหมดเลยมาตกอยู่ที่ผม ถ้าถามว่า ผมเสียใจไหม ผมตอบเลย ผมเสียใจมาก แต่ผมก็ต้องหาเงินเรียน หาเงิน ใช้หนี้ เพราะงั้นผมจะมามัวนั่งเศร้าไม่ได้
"ที่จริงหให้พวกเราจ้างก็ได้น่ะ เร"สองฝาแฝดนรกแตกเพื่อนสนิทของผม
คนพี่ชื่อไซกะ ส่วนน้องชื่อ เซกะ สองคนนี้ชั่งเป้นฝาแฝดที่เข้ากันดีซะ เหลือเกินน่ะนะ
"พวกเราให้นายไม่อั้นเลยน่ะ"เซกะสมทบขึ้น
"ก็ถ้าจะให้ฉันทำการบ้านให่ช้น่ะนะ ฝันไปเถอะ!!"ผมพูดขัดขึ้น
"หึหึ"ไซกะ
"รู้ทันจังน่ะ"เซกะ
"งั้นวันนี้กลับบ้านก่อนก็ได้ พรุ้งนี้ค่อยว่ากันใหม่"ไหนๆวันนี้ก็เหนื่อยมาครึ่งวันแล้ว เฮ้อ
"อืม ให้พวกเราไปส่งไหม"ไซกะถามขึ้น
"ไม่เป็นไร"ผมปฎิเสธ
"งั้น พวกเราไปน่ะ"เซกะยกมือขึ้นบายๆก่อนจะเดินไป
"บาย"ผมเดินแยกมาอีกด้านเพื่อจะเรียกแท็กซี่กลับบ้าน
บ้านหลังนี้เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่ยังคงเหลืออยู่ และมันก็เป็นสมบัติชิ้นสำคัญถ้งแม้ว่าผมขายบ้านหลังนี้แล้ว ได้เงินมาใช้หนี้ แถมซื้อบ้านหลังเล็กๆได้อีกหลัง ผมก็ไม่คิดจะขายมัน เพราะมันเป็นสิ่งที่มีความทรงจำอยู่มากมาย
เมื่อถึงที่หมายผมก็ยื่นเงินให้แท็กวี่ ก่อนจะควานหากุญแจในกระเป๋าเป้มาเปิดประตูรัว
เอ๊ะ!!!
ประตูไม่ได้ล็อก เป็นไปได้ไง ก็ในเมื่อ....ผมจำได้ว่าก่อนออกไปผมล็อคประตูบ้านแล้วนี่ คิดได้ดังนั้นผมก็วิ่งเข้าไปในบ้านทันที
"หึ กลับมาแล้วหรอ หนูน้อย " ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องนั่งเล่นเสียงทุ้มก้ดังขึ้น พร้อมปรากฎร่างสูงที่ นั่งอยู่บนโซฟา
"นะ...นายเป็นใคร"ผมถามเสียงแผ่ว
"แค่นี้ทำเป็นลืมเจ้าหนี้หรอ"ร่างสูงเอ๋ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชามันทำให้ผม ผงะถอยหลังทันที แต่ถอยไปได้ไม่มากผมก็ชนเข้ากลับ บอดี้การ์ด สองคนที่มายืนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
"นายมีอะไรกับผมหรอ" ผมใจกล้าถามออกไป
"นี่มึงโง่หรือโง่กันแน่ มึงติดหนี้กูมึงคิดว่ากูจะมาหามึงทำไมล่ะ"ร่างสูงตะคอกกลับมา
"มาทวงหนี้....แต่...ตอนนี้ผมยังไม่มี คุณกลับไปก่อนได้ไหม ผมมีเมื่อไหร่ผมจะเอาไปให้น่ะ"ผมพยายามพูดเสียงอ่อนเพื่อให้เขากลับไปก่อน
"กูต้องเชื่อมึง? กูให้เวลามึงมานานแล้วมึงไม่คิดบ้างหรอว่ามันง่ายไปที่มึงมาพูดแบบนี้"
"แต่ตอนนี้ผมยังไม่มี"ก็ผมยังไม่มีจริงๆนี่จะให้ผมไปหาที่ไหน
"งั้นก็...ยกบ้านหลังนี้ให้กูก็จบ"ร่างสูงลุกจากโซฟาแล้วเดินมาทางผม"ว่าไง ง่ายๆแค่นี้เอง"
"ไม่...ไม่มีทาง"ถึงผมจะกลัวแต่ผมก็ไม่มีทางยกบ้านหลังนี้ให้หรอก ไม่มีทาง
"บ้านหลังนี้มันมีอะไรนักหนาว่ะ ก็แค่ยกให้กูทุกอย่างก็จบมึงอย่ามาทำให้กูโมโหน่ะ "ร่างสูงตะคอกใส่ผม ก็มันไม่มีอะไรดีแล้วเขาจะอยากได้ไปทำไมล่ะ จริงไหม
"ต่อให้ตาย ผมก็ไม่มีวันยกบ้านหลังนี้ให้ใคร"ผมพูดจริงๆน่ะ
ร่างสูงผยักหน้าให้บอร์ดี้การ์ด ข้างหลังเล็กน้อย ก่อนที่ผมจะรูกสึก จุกที่ท้อง แล้วหมดสติไป แต่ก่อนหมดสติก็มีเสียงหนึ่งเข้ามาในโสตประสาทผม
"จับมันไปไว้ที่บ้านใหญ่ จนกว่ามันจะใช้หนี้หมด"
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ