[RED THREAD] ปาฏิหาริย์รักด้ายแดง

-

เขียนโดย GChiiz

วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 16.32 น.

  4 ตอน
  2 วิจารณ์
  8,530 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 16.41 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) คำสารภาพที่เหมือนความฝัน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ขนาดตัวอักษร เล็ก กลาง ใหญ่ ใหญ่มาก
          
เช้าวันนี้ผมก็ถูกปลุกด้วยเสียงกริ๊งลากยาวของนาฬิกาปลุกเพื่อนรักของผมเช่นเดิม หากเจ้าเพื่อนรักของผมไม่ปลุกผมแล้วนั้น ผมก็อาจจะโดนมาม้ามาเขกกะโหลกแทนเป็นประจำ
 
“ อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วมากินข้าวก่อนนะ “ เสียงม้าผมตะโกนบอกจากชั้นล่างของบ้าน ผมตอบรับไปอย่างเช่นเดิม หลังจากจัดการธุรส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยก็ไม่รอช้าที่จะต้องลงไปทานข้าวทานปลาให้เรียบร้อยก่อนออกไปเรียนตามปกติ วันนี้เมนูตอนเช้าก็ธรรมดา ๆ ทั่วไปโจ๊กหมู กับปาท่องโก๋ร้อน ๆ อีกสองตัวที่วางอยู่บนโต๊ะกินข้าวในครัว ผมจึงรีบกินรีบเก็บชามใส่ที่ล้างจาน กิจวัตรตอนเช้าก็เหมือนกับคนอื่นทั่ว ๆ ไป
 
“ วันนี้กลับเย็นนะครับม้า ทำงานวันแรก “ ผมบอกกับม้าผมที่กำลังคิดบัญชีอยู่ด้านหน้าร้านในขณะที่กำลังดื่มชาจีนยี่ห้อโปรดไปด้วย
“ อ้าวไหนบอกเริ่มอาทิตย์หน้า เอาเถอะ ๆ ตั้งใจเรียนตั้งใจทำงานล่ะ “ ผมยิ้มพร้อมกับไหว้ลามาม้าของผมก่อนจะคว้ากระเป๋าสะพายใบโปรดมาสะพายบ่าทันที
 
เดินออกมาจากบ้านไม่ไกลนักก็มาถึงถนนใหญ่ที่การจราจรก็ยังคงเต็มไปด้วยความวุ่นวายเช่นเดิม จากหน้าปากซอยบ้านนั้นเดินไปอีกไม่กี่ก้าวก็ถึงสถานที่รถไฟฟ้าที่ผมต้องใช้ในการเดินทางทุกวัน ๆ เป็นประจำอยู่แล้ว วันนี้เปิดทำการปกติเมื่อวานมีเหตุขัดข้องขึ้นนิดหน่อยทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ วันนี้ผมเลยไม่ต้องขี่น้องชมพู่ไปเรียนเหมือนกับเมื่อวาน เมื่อก้าวขึ้นบันไดของสถานีรถไฟฟ้าไป จัดการเสียบบัตรที่ช่องตรวจบัตรก็ไปยืนรอรถไฟเหมือนกับคนอื่น ๆ ดีหน่อยที่ผมซื้อแบบรายเดือนในราคานักเรียนไว้ เลยทำให้ไม่ต้องไปเข้าคิวซื้อตั๋วแบบคนอื่น ๆ เค้า ยืนรอได้ไม่นานนักรถไฟฟ้าก็มาถึง
 
วันนี้คนเยอะอีกแล้ว คงเป็นปกติของช่วงเวลาเร่งด่วนทั้งคนวัยทำงาน ทั้งนักเรียน ทั้งผู้ปกครองไปส่งบุตรหลาน ต่างยืนออกันเต็มขบวนรถไปหมด ผมก็ต้องเป็นหนึ่งในประชากรเหล่านั้นที่ต้องยืนเบียดเสียดอยู่กับเค้าเหมือนกัน ทำยังไงได้ล่ะครับจะปั่นจักรยานไปเรียนทุกวันก็ไม่ค่อยจะไหว ติดอาการขี้เกียจแถมขี้เกียจไปอาบน้ำที่โรงเรียนทุกวันอีก ..
 
ระหว่างที่ขบวนรถเคลื่อนที่ไปด้วยความเร็วที่มั่นคง ความสามารถพิเศษผมก็ใช้งานขึ้นอีกครั้งแบบอัตโนมัติอีกแล้ว ครับด้ายแดงที่นิ้วก้อยจากหญิงสาวที่ยืนอยู่ไม่ไกลจากผมนัก ได้พุ่งมายังพี่ชายที่ดูอายุมากกว่าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ผม ทั้งสองคนเหมือนไม่รู้จักกัน แล้วผมก็ไม่ใช่กามเทพหรือพ่อสื่อที่จะทำให้ทั้งคู่รู้ว่าพวกเค้าเป็นคู่แท้กันหรือเป็นคู่แห่งโชคชะตา เพราะขนาดตัวผมเอง เกิดเหตุการณ์เมื่อวานขึ้นมายังไม่รู้เลยว่าจะทำตัวยังไง แล้วกิ่งคือคู่แท้ของผมจริง ๆ  หรือเปล่า เพราะต่างคนต่างไม่เห็นว่าด้ายแดงที่พุ่งมานั้นจะมาหยุดอยู่ที่เราหรือจะพุ่งไปที่คนอื่นที่เค้าเป็นคู่แท้กันจริง ๆ แต่ประเด็นก็คือ ทำไมกิ่งถึงมองเห็นด้ายแดงเหมือนกับผม ... ไม่ถึงสิบนาทีขบวนรถก็มาถึงสถานีที่ผมต้องลงเพื่อเดินไปยังโรงเรียนต่อ
 
“ อ้าวหยก มาพร้อมกันเลยวันนี้ “ ระหว่างที่ผมกำลังจะเดินลงบันไดสถานีนั้น ขวัญก็เรียกผมจากทางด้านหลัง ผมหันไปมองพร้อมยิ้มให้เล็กน้อย
 
“ สวัสดิ์ดีตอนเช้าขวัญ “
“ ดีจ้า “ ขวัญตอบรับก่อนจะเดินมาอยู่ข้าง ๆ ผม เราทั้งสองคนจึงเดินไปโรงเรียนด้วยกัน
 
“ ขนมกับไอติมร้านกิ่งอร่อยเนอะ เดี๋ยวไว้ไปกินกันอีกนะ “ ขวัญพูดขึ้นก่อนจะเข้ามาควงแขนผมไว้ แต่ผมชินแล้วล่ะเธอชอบที่จะเล่นแบบนี้เป็นประจำตั้งแต่เราเล็ก ๆ แล้วล่ะ
“ อือ ... ได้สิ “ ผมตอบกลับไปสั้น ๆ ก่อนที่จะเดินไปเรื่อย ๆ จนถึงโรงเรียน
 
“ นี่ ... หยก ขอถามอะไรหน่อยได้เปล่า “ ขวัญถามผมก่อนที่เราจะเดินเข้าประตูหน้าโรงเรียน
“ ห๊ะ ... อะไร มีอะไรอยากบอกงั้นหรอ “
“ คิดยังไงกับกิ่งอะ “
“ หา .... ถามบ้าอะไรของเธอเนี่ย “ ผมสะดุ้งกับคำถามนิดหน่อย ก่อนจะรีบเอาแขนของขวัญที่ควงผมอยู่ออกทันที อยู่ดี ๆ ก็มาถามเรื่องแบบนี้ได้ไงยัยนี่ ..
“ แปลว่าไม่ได้สังเกตเลยล่ะสิ เมื่อวานกิ่งเค้าจ้องหยกตลอดเลยนะเวลาอยู่ในห้องเรียน “ ขวัญเดินมาอยู่หน้าผมก่อนจะพูดขึ้น ทำเอาผมทำอะไรไม่ถูกอีกแล้ว ทำไมต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ตั้งแต่เช้าด้วยเนี่ย ... แต่เอ๊ะ ... กิ่งเค้าจ้องผมตลอดเลยอย่างงั้นหรอ
“ บะ ... บ้าน่า .. ไม่มีทางหรอกน่า ขวัญคิดไปเองแล้ว “ ผมตอบแบบเขิน ๆ เหมือนหน้าจะเริ่มแดงแล้วด้วยสิ ขวัญยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ก่อนจะค่อย ๆ เข้ามาควงแขนผมอีกรอบ
 
“ แหม ... ล้อเล่นแค่นี้หน้าแดงเชียวนะ ดูออกง่ายจริง ๆ ป่ะไปห้องกันเถอะ !! “ พูดจบขวัญก็ลากผมเข้าโรงเรียนเพื่อไปยังห้องประจำของเราทันที ระหว่างเดินผมก็มองหน้าขวัญเป็นระยะระยะ ทำไมดูสีหน้าเธอไม่เหมือนตอนเจอกันครั้งแรกเมื่อเช้า ดูเหมือนเธอคิดเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ ...
 
“ อะแฮ่ม .. เช้านี้ก็หนุงหนิงกันอีกแล้วนะทั้งสองคน “ น้ำเดินมาจากทางที่เก็บรถจักรยาน พอมาเห็นปุ๊บก็แซวปั๊บทันที
 
“ อิจฉาไงจ๊ะพ่อหนุ่มหล่อ แต่โสดสนิท “ ขวัญตรอกกลับไปแบบเรียบ ๆ ทำเอาไอน้ำถึงกับทรุดเลยทีเดียว
 
แต่ก็จริงดังคำที่ขวัญว่า น้ำเป็นหนุ่มหล่อ เพอร์เฟ็คสุด ๆ ในโรงเรียนแต่เหมือนดวงเรื่องความรักมันจะเป็นศูนย์ ผมเคยใช้ความสามารถในการมองด้ายแดงกับมันตั้งแต่คบกันใหม่ ๆ แล้วก็ยังเห็นด้ายแดงของมันยังคงอยู่ ไม่ได้ถูกสะบั้นหรือหายไป แต่คู่ของมันอาจจะอยู่ห่างไกลออกไปก็เป็นได้ ทำให้ตัวมันนั้นไม่เคยคิดเรื่องความรักเท่าไหร่ แม้จะมีผู้หญิงทั้งรุ่นพี่ระดับมหาลัยหรือรุ่นเดียวกันแม้กระทั่งรุ่นน้องเข้ามาพัวพันมากมาย แต่มันก็ไม่ค่อยจริงจังอะไรมากมายนัก
 
“ ใช่ซิ๊ ใครจะเหมือนเธอล่ะแม่สาวขวัญใจหนุ่ม ๆ เชอะ .. “ น้ำตรอกกลับขวัญบ้างพร้อมกับทำท่างอนกันไปงอนกันมา แต่ก็เป็นภาพที่เห็นเป็นประจำอยู่แล้วสำหรับพวกเราสามคนที่เป็นกลุ่มเพื่อนรักกันมานาน
“ วันนี้เองทำงานใช่ป่ะหยก “ น้ำถามผมระหว่างที่เราทั้งสามคนกำลังเดินไปยังห้องเรียน
“ เออใช่ ... พอดีพี่มิ้นท์เค้าโพสบอกในเฟชบุ๊คว่าน้องชาติเค้าลาไปต่างจังหวัด เลยไม่มีคนทำแทนข้าเลยต้องไปทำตั้งแต่วันนี้ไง “  
“ งั้นอาทิตย์หน้าพอน้องชาติกลับมาเองก็ว่างทั้งอาทิตย์ดิ เหมือนแลกเวรกันไง “
“ อาทิตย์หน้าหรอ ก็น่าจะเป็นอย่างงั้น แล้วมันมีอะไรพิเศษหรือไง ? “ ผมตอบน้ำไปพรางคิดไปว่าอาทิตย์หน้าก็ไม่น่าจะมีโปรแกรมหรือเหตุการณ์อะไรพิเศษ ๆ แล้วทำไมไอน้ำมันต้องสนใจอะไรขนาดนั้น
“ มีดิเฮ้ย .. อาทิตย์หน้าโรงเรียนเราหยุดยาวเพราะอาจารย์ไปสัมมนากันหมดเลย ไปมุดหัวอยู่ไหนมาถึงไม่รู้เรื่องเนี่ย “
“ ห๊ะ ... จริงดิ ขวัญรู้เรื่องนี้มั่งป่ะ “ พอได้รับคำตอบจากไอน้ำผมก็หันไปถามขวัญบ้าง
 
“ รู้สิ นี่ไงแผนการอาทิตย์หน้า !! “ พูดจบขวัญก็ควักสมุดจดเล็มเล็กขึ้นมาชูให้ผมดู
“ เอ๋ ... นี่วางแผนกันไว้แล้วหรอเนี่ย จะเร็วไปแล้วมั๊ง ... “ เหมือนขวัญจะไม่สนใจผมแล้วคราวนี้ เธอรีบเปิดไปที่หน้าที่เธอเขียนแผนการเที่ยวไว้เรียบร้อย ก่อนเอามาให้ผมดูตรงหน้าชัดๆ
 
หืม .... ไปทะเลแถวตะวันออก 3 วัน 2 คืนสมาชิกหาเอาข้างหน้า ไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลยนี่หว่ายัยนี่ ...
ไปเที่ยวเหนือ 3 วัน 2 คืน สมาชิกหาเอาข้างหน้า นี่ก็ไม่ได้วางแผนอะไรไว้เลย มีแต่เขียนที่ที่อยากจะไปเฉย ๆ
หมู่เกาะทะเลแดนใต้ 3 วัน 2 คืน สมาชิกหาเอาข้างหน้า เดี๋ยวสิเฮ้ย ไม่คิดจะวางแผนไว้บ้างเลยเรอะ แถมยังมีรูปสถานที่ต่าง ๆ มาแปะไว้อีก ...
 
“ เขียนอะไรให้มันละเอียดกว่านี้หน่อยสิขวัญ !! “ ผมตวาดใส่ขวัญไปทีนึง ยัยนี่คิดแต่อยากสนุกแต่ไม่เคยคิดที่จะวางแผนอะไรไว้เลย น้ำก็หัวเราะอยู่ข้าง ๆ เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้
“ ที่เหลือก็ปล่อยให้ไอหยกมันทำไปเหมือนทุก ๆ ทีแล้วกัน ฝากด้วยนะหัวหน้า “
“ อีกแล้วเรอะ !!! “ และแล้วหน้าที่ในการวางแผนเที่ยวสัปดาห์หน้าก็ตกมาอยู่กับผมอีกแล้ว ทุก ๆ ครั้งตั้งแต่สมัยเข้ามาเรียนที่นี่ใหม่ ๆ เป็นช่วงเวลาที่พ่อแม่ของพวกเราปล่อยให้เราไปเที่ยวได้ตามใจชอบ ก็จะมีผมที่เป็นคนวางแผนการเที่ยวทุก ๆ ครั้งว่าจะไปไหนก่อนอันไหนหลัง บางทีเราก็ไปก่อนสิบกว่าคน บางทีก็ไปกันแค่สามสี่คน แต่ก็สนุกทุกครั้ง และแผนการเที่ยวหรือกำหนดการของผมนั้นไม่เคยมีใครคัดค้านเลย ...
 
เฮ้อ ... ให้ตายสิ แต่ทำยังไงได้ถ้าไม่มีเพื่อน ๆ รอบ ๆ ตัวผมชีวิตผมก็เหมือนจะขาดสีสันแบบสุด ๆ พวกเค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ผมขาดไม่ได้ในชีวิตไปแล้ว ระหว่างคุยเรื่องไปเที่ยวนู้นเที่ยวนั้นดีกว่าเรื่อยเปื่อยไปเรื่อยเราทั้งสามคนก็เดินมาถึงห้องเรียนเสียทีแล้วก็ไม่รอช้าที่จะเดินเข้าไปนั่งที่ทันที
อ่อ .. ลืมบอกไปว่าโรงเรียนผมนั้นมีเคารพธงชาติกับสวดมนต์ตอนเช้านะครับ แต่ไม่ได้บังคับว่าใครจะมาเข้าแถวหรืออะไรยังไง ใครมาทันเวลาแปดโมงเช้าก็ยืนเคารพธงชาติสวดมนต์กันตรงที่ที่ยืนอยู่ตรงนั้นแหละครับ อยู่ในห้องก็ยืนในห้อง อยู่ในห้องน้ำก็ยืนในห้องน้ำสวดมนต์ในห้องน้ำตามเครื่องกระจายเสียงกันเลยทีเดียว
 
“ กิ่งหวัดดีจ้า “ เมื่อก้าวเท้าเข้าสู่ห้องเรียนประจำก็เจอกับเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนรวมถึงกิ่งที่นั่งอยู่ที่นั่งของตัวเองอยู่แล้วด้วย ขวัญก็ไม่รอช้ารีบเข้าไปทักทายเพื่อนสาวคนใหม่ทัน
 
“ อ่ะ ... หวัดดีจ้าขวัญ “ กิ่งทักทายกลับแบบเรียบ ๆ ก่อนที่จะหันมามองผมทันที ผมสะดุ้งเฮือกไม่กล้าที่จะมองหน้ากิ่งตรง ๆ เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเหตุการณ์เมื่อวานจากที่มองกิ่งว่าเป็นแค่สาวน่ารัก ๆ ที่มีร้านคาเฟ่เป็นของตัวเอง ทำให้ผมคิดว่าเธอเป็นอย่างอื่นไปแล้ว
 
“ หวัดดีจะ น้ำ หยก “ กิ่งส่งเสียงทักทายผมกับน้ำที่ค่อย ๆ เดินเข้าไปนั่งที่โต๊ะของตัวเอง ผมได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ ตอบรับกลับไป ไม่กล้าที่จะพูดทักทายเธอซักคำ จนเหมือนว่าน้ำจะสังเกตเห็นได้ว่าผมมีความผิดปกติอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นกับตัวผมเอง
 
“ เฮ้ย ๆ ... ทำไมอยู่ดี ๆ หน้าแดงว่ะ เกิดอะไรขึ้นเมื่อวานไง “ น้ำถามผมมา ทำเอาผมแทบอยากจะหมุดแผ่นดินหนีไปให้รู้แล้วรู้รอด จะไปเล่าให้ฟังได้ยังไงว่ามีสาวน่ารักแบบกิ่งมาถามว่าผมเป็นคู่แท้ของเธอหรือเปล่า ..
“ เออ ... อ่า .... ไม่มีไรหรอก ไป ๆ นั่งที่เดี๋ยวอาจารย์จะเข้ามาล่ะ “
 
“ หืม .... “ น้ำทำหน้าสงสัยผมอย่างเต็มที่ ผมเหมือนคุมตัวเองไม่ค่อยอยู่เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา เหลือบตาไปมอบทางขวัญก็เหมือนกับจ้องมองผมด้วยความสงสัยอีกเหมือนกัน แต่กับกิ่งแล้วผมไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองหน้าเลย ทั้ง ๆ ที่เมื่อวานผมก็แค่บอกว่าเราพึ่งรู้จักกัน .. แต่ผมก็ไม่กล้าจะสบตาเธอ ... ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอจะหาว่าผมหลบหน้าเธอหรือเปล่า ก็ใครจะคิดมาก่อนว่าคนที่ดูเรียบร้อยแบบเธอจะเป็นฝ่ายเข้ามาถามผมแบบนั้น
 
“ ดูแปลก ๆ ไปนะวันนี้ “ ขวัญหันมาถามผมในขณะที่ผมกำลังเตรียมหนังสือเรียนวิชาคณิตที่ต้องเรียนเป็นคาบแรกของวันนี้
“ ป ... เปล่านิ “
“ ไม่อะ ... ทั้งสีหน้าทั้งท่าทางมันฟ้องออกมาชัด ๆ “
“ ขวัญคิดมากน่า เตรียมหนังสือเรียนเถอะ “ ผมรีบตัดบทเพราะไม่อยากจะคุยเรื่องนี้กับคนอื่นมากนักแค่คิดอยู่คนเดียวก็จะบ้าตายอยู่แล้ว
“ แต่เหมือนหยกกำลังหลบหน้ากิ่งเลย เมื่อวานก็คุยกันปกติอยู่เลย ทำไมวันนี้เป็นแบบนี้ซะล่ะ “ ขวัญพยายามที่จะเค้นความจริงจากผมให้ได้
“ ไม่มีอะไรหรอก ไม่ใช่เรื่องของขวัญน่า เตรียมตัวเรียนเหอะ “
“ จะบ้าหรอ !! “
 
ขวัญตวาดใส่ผมเสียงดังลั่นห้อง ทำเอาเพื่อน ๆ ในห้องต่างหันมาทางผมทันที ผมเองก็ลืมคิดไปว่าขวัญเป็นเพื่อนผู้หญิงที่ผมสนิทด้วยที่สุดแล้ว ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย ๆ จนบางทีก็โดนแซวว่าเป็นแฟนกัน ผมควรที่จะแคร์จิตใจเธอมากกว่านี้ ไม่น่าจะบอกว่าไม่ใช่เรื่องของเธอเลย เธอก็แค่เป็นห่วงก็แค่นั้นเอง
 
“ ไม่เกี่ยวได้ยังไง พูดแบบนี้เรายังเป็นเพื่อนกันหรือเปล่า “ ขวัญบอกกับผม ผมเงยหน้ามองหน้าขวัญทันที สีหน้าของเธอดูไม่สบายใจไปเลย จากที่ยังยิ้มแย้มอยู่ตลอดตั้งแต่เช้า
“ ข .. ขอโทษ .. “
“ เหอะ !! “ ขวัญสะบัดหน้าหนีผมไปทันที ผมไม่รู้ว่าจะบอกกับเธอยังไงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างผมกับกิ่ง ระหว่างนั้นผมก็ชำเลืองมองไปทางกิ่ง อีกแล้ว .. กิ่งเหมือนเฝ้ามองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ตลอด จนถึงตอนนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าหญิงสาวคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่
“ ไอหยก ... เองไม่เป็นอะไรนะ มีอะไรเดี๋ยวไว้ตอนพักกลางวันค่อยคุยกัน อาจารย์เข้าแล้ว “ น้ำบอกผมด้วยน้ำเสียงห่วงใย ผมยิ้มรับมันไป ก่อนจะเริ่มทำสมาธิเพื่อที่จะตั้งใจเรียนหนังสือต่อไป ....
คาบแรกวิชาคณิต ผ่านไปได้ด้วยดีแม้ผมจะเกลียดเลขแต่ก็ต้องใจเรียนเพื่อให้มันผ่าน ๆ ไป
คาบสองวิชาวิเคราะห์ระบบ เป็นวิชาที่ผมชอบที่สุดเพราะอาชีพที่ผมอยากจะเป็นก็คือ SA(System Analysis) หรือนักออกแบบระบบ ที่จะต้องใช้ความรู้ในด้านการเขียนแบบแผนผังและการวิเคราะห์ระบบต่าง ๆ
คาบสามของช่วงเช้าก่อนพักกลางวันผมต้องเรียนเขียนโปรแกรมพื้นฐาน เป็นวิชาที่ผมไม่ชอบเลย ผมไม่ถนัดในด้านการจำโค้ดต่าง ๆ เลยด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องตั้งใจเรียนเพราะมันต้องเอาไปใช้ในการเป็น SA อาชีพที่ผมใฝ่ฝัน
 
พอหมดช่วงเวลาเรียนอันแสนหฤโหดก็ถึงช่วงเวลาพักกลางวัน ปกติแล้วผม น้ำ และขวัญ จะไปกินข้าวด้วยกันตลอด  แต่วันนี้ขวัญได้ชวนกิ่งแยกออกไป ทำให้ผมต้องไปกินข้าวกับไอน้ำสองคน ที่โรงอาหารด้านล่างของตึกคอมนั้น ช่วงนี้เหมือนกับสงครามกลางเมืองย่อย ๆ แต่ล่ะสาขานั้นจะมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง โดยที่บางทีร้านแต่ล่ะร้านก็จะมีเมนูมาขายต่างกันออกไปในแต่ล่ะวัน โดยเฉพาะสาขาบัญชีที่จะมีเมนูแสนอร่อยมากขายมากกว่าสาขาอื่น ๆ วันนี้ก็เช่นกันเมนูของสาขาบัญชีเป็นข้าวหน้าหมูทอดแบบญี่ปุ่น ทำให้นักเรียนที่ลงมาพักช่วงนี้ต่างเข้าไปยื้อแย่งเมนูพิเศษนี้กันอย่างเอาเป็นเอาตาย ส่วนผมกับน้ำนั้นขอแค่มีอาหารประทังชีวิตไปวัน ๆ ก็พอ จึงมาจบด้วยข้าวราดแกงธรรมดา ๆ ร้านป้าเจ้าประจำ
 
“ เอาล่ะ ถึงเวลาต้องคุยกันแล้ว .... เองมีเรื่องอะไรกันแน่ไอหยก “ น้ำพูดขึ้นก่อนจะค่อย ๆ จับช้อนกับส้อมขึ้นมาเตรียมกินข้าวในจาน  ผมนั่งนิ่งไม่รู้จะบอกมันว่ายังไงดี จะบอกเรื่องที่ว่าผมมองเห็นด้ายแดงก็กลัวมันจะหาว่าผมเพ้อเจ้อไปอีก
“ ก็ไม่มีอะไร ... ถึงมีอธิบายไปเองก็ไม่เชื่อหรอก “ น้ำมองหน้าผมแบบข้องใจ
“ เองมีอะไรก็ว่ามา เราคบกันมากี่ปีแล้ว เคยมีอะไรปกปิดกันด้วยหรอว่ะ “
“ บอกไปเดี๋ยวเองก็หาว่าข้าบ้า ข้าเพ้อเจ้อ “
“ เออ น่า ... บอกมาเถอะ “ น้ำไม่ยอมแพ้ที่จะรู้เรื่องที่ผมทำตัวไม่ปกติให้ได้ ผมคิดทบทวนอีกซักครู่ก่อนจะเริ่มสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ..
 
“ เฮ้อ ..... บอกก็ได้ แต่เองอย่าไปบอกใครก็แล้วกัน แต่ข้าว่าบอกไปเองก็ไม่เชื่ออยู่ดี “
“ บอกมาข้าเชื่อ “ เหมือนน้ำจะพยายามรู้ให้ได้ ผมก็ได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะเริ่มเท้าความให้มันฟัง
 
“ เองเคยได้ยินเกี่ยวกับด้ายแดงแห่งรักหรือด้ายแดงแห่งโชคชะตามั้ย “ ผมเริ่มบทสนทนา โดยที่ในมือก็ตักอาหารเข้าปากไปด้วยเพื่อลดความตรึงเครียด
“ เหมือนเคยอ่านเจอในพวกหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่นอะไรประมาณเนี้ย “
“ แล้วรู้ความหมายของมันป่ะ “
“ จากที่ผ่าน ๆ ตา ก็เหมือนกับว่าด้ายแดงเส้นนึงจะผูกติดไว้กับคนคู่หนึ่ง ซึ่งเป็นเนื้อคู่กัน อะไรประมาณนี้ป่ะ “
“ เออก็ถูก ... แล้วถ้า .... ถ้า ... “ พอถึงเวลาที่ผมจะต้องบอกว่าผมมองเห็นด้ายแดงได้ ความมั่นใจผมก็หดหายไปโดยปริยาย
“ ถ้าอะไรของเองฟ่ะ “ น้ำเริ่มหงุดหงิด แต่ก็ยังตักข้าวในชามเข้าปากไปเรื่อย ๆ
“ ถ้าข้าบอกว่าข้าสามารถเห็นด้ายแดงของทุก ๆ คนได้ล่ะ “ ผมพูดไปแล้วไอน้ำมันเป็นคนแรกที่ผมได้บอกเกี่ยวกับความสามารถที่ผมมองเห็นด้ายแดงของผม
 
“ ……. “ ไร้ซึ่งเสียงตอบรับจากไอน้ำ ผมมองหน้ามัน มันก็มองหน้าผม
 
“ เองจะบอกว่าเองเห็นด้ายแดงของทุก ๆ คน งั้นเองก็รู้สิว่าใครคู่กับใคร “ ไอน้ำถามเสียงเรียบ ไร้ซึ่งความตกใจใด ๆ แถมยังตักข้าวใส่ปากต่อไปเรื่อย ๆ
“ อ้าว ... เองไม่ตกใจเลยหรอ “ ผมถามด้วยสีหน้าตกใจแทนมันซะอย่างงั้น ..
“ ไม่นิ ... คนเราเกิดมาจะมีพลังความสามารถแปลก ๆ อะไรก็ได้เยอะแยะเต็มไปหมด ก็เหมือนพวกในทีวีนั่นแหละที่มองเห็นวิญญาณ หรือสามารถสัมผัสดวงวิญญาณได้ อะไรพวกนั้น เองบอกว่าเองมองเห็นด้ายแดงของคนอื่นได้ ก็ไม่เห็นจะแปลกอะไรเลยนี่หว่า “ เป็นคำตอบที่ไร้ซึ้งความปราณีสุด ๆ ... ความสามารถที่ผมเคยภูมิใจมาตลอดกลับกลายเป็นความสามารถธรรมดา ๆ ของมันไปซะแล้ว
“ แล้วที่เองเครียดคงไม่ใช่เรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องที่ต้องมีกิ่งมาเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน .. ไม่งั้นวันนี้ทั้งวันเองจะหลบหน้ากิ่งเค้าทำไม “ ไอน้ำเพื่อนรัก เองจะรู้ดีมากเกินไปแล้วนะ ..
 
“ เออ ... ก็ใช่ .. “
“ แล้วเรื่อง ... “ ไอน้ำทำหน้านิ่งใส่ผมอีกครั้ง คราวนี้ผมเริ่มคิดทบทวนอีกครั้งว่าจะบอกมันดีหรือเปล่า บอกไปมันจะเชื่อมั้ย แต่ด้วยความซื่อแล้วก็บื้อของผมที่คิดเอาเองว่ามันเชื่อเรื่องด้ายแดงถ้าผมบอกเรื่องนี้ไปมันก็ต้องเชื่อ ..
“ กิ่งเค้าสามารถเห็นด้ายแดงได้เหมือนกับข้าน่ะสิ “ ผมตอบเสียงเรียบพรางรีบตักข้าวแกงเข้าปากแก้เครียด
“ อ่อ ... แล้วยังไงต่อ “
“ ก็.... เมื่อวานตอนเรากินขนมกินไอติมกันเสร็จ ตอนที่เองกับขวัญกลับไปแล้ว กิ่งก็มาคุยกับข้า “
“ เองเห็นด้ายแดงของกิ่งเกี่ยวอยู่ที่เองงั้นหรอ “ ไอน้ำเพื่อนรักเองมันฉลาดเกินไป ...
“ ห๊ะ ... อ่ะ ... เออ.. ทำไมถึงรู้ว่ะ “
“ งั้นกิ่งก็ต้องเห็นด้ายแดงของเองอยู่ที่กิ่งด้วย ไม่งั้นเองคงไม่หลบหน้ากิ่งเพราะเขินแบบวันนี้หรอก ปกติเองหน้าด้านจะตายไป “ ไอน้ำ ... เองชมหรือด่าเนี่ย ผมคิดในใจก่อนที่น้ำจะพูดเสริมต่อ
“ เรื่องแค่นี้ก็พอเดาได้ งี้เองก็โชคดีแล้วล่ะ “
“ โชคดี ?? .. โชคดียังไง “
“ อย่างน้อยเองก็เจอเนื้อคู่แล้วนะ รุกเลยสิ กิ่งเค้าก็ออกจะน่ารักขนาดนั้น นิสัยก็เรียบร้อยด้วย ไม่เหมือนยัยลิงภูเขาแบบขวัญที่หน้าตาสวยแต่นิสัยยังกะผู้ชายหรอก ... ว่าแต่เองเห็นด้ายแดงของข้าป่ะ มันเกี่ยวอยู่กับใครอยากเจอเนื้อคู่บ้าง แฮะ ๆ ....  “ ไอน้ำพูดเสร็จก็เก็บรวบช้อนกับซ้อมเข้าด้วยกัน อาหารในจานหมดเกลี้ยง ก่อนมันจะคว้าแก้วน้ำอัดลมด้านข้างไปดูดทันที
 
“ ไม่ไม่ ... ยังไม่รู้หรอกว่าด้ายแดงเกี่ยวอยู่ที่ข้ากับกิ่งหรือเปล่า เพราะเราสองคนต่างมองไม่เห็นของตัวเองว่าไปเกี่ยวอยู่กับใคร บางทีมันอาจจะพุ่งไปที่คนอื่นก็ได้ .. “ ผมพยายามอธิบายเพิ่ม
“ โถ่เอ้ย ... แค่เรื่องแค่นี้ไม่เห็นต้องหลบหน้ากิ่งเค้าเลยนี่หน่า ไหน ๆ ก็ต้องอยู่ด้วยกันก่อนเรียนจบอยู่แล้ว หมดพักเที่ยงแล้วไปขอโทษเค้าด้วยล่ะ น่าสงสารออก .. เออเดี๋ยวไปซื้อน้ำแข็งใสแป๊บ “ น้ำพูดเสร็จก็หยิบจานข้าวลุกไปเก็บยังที่เก็บจานใช้แล้วก่อนจะเดินไปร้านขนมหวานทันที.. ปล่อยให้ผมนั่งกินข้าวที่เหลืออยู่คนเดียว
 
พลั่ก ....
 
“ โอ๊ย .... “ ผมอุทานทันทีเพราะเหมือนมีใครมาตบที่หัวผมอย่างจัง ไม่รอช้าผมรีบทำหน้าโมโหแล้วหันไปด้านหลังทันที
 
“ ตาบ้าหยก ... “ ขวัญ ?
“ กินเสร็จยัง มีเรื่องจะคุยด้วย ขอคุยกันสองคนนะ “ เอ๋ ... ทำไม ... แล้วหายงอนแล้วหรอ
“ เดี๋ยว ๆ ... แล้วทำไมต้องตบหัวกันด้วยเนี่ยเจ็บนะ .. “
“ ขอโทษ ... “ ขวัญพูดขอโทษก่อนที่จะทำสีหน้าเขินอาย ... หืม .. เธอทำสีหน้าแบบนี้เป็นด้วยหรอ
ขวัญยืนรอไม่นานผมก็กินข้าวเสร็จเรียบร้อย ก่อนจะพิมพ์ไลน์ไปบอกน้ำทันทีว่ามีธุระ เดี๋ยวเจอกันบนห้อง ก่อนที่จะเดินไปตามขวัญไปทางสวนหย่อมเล็ก ๆ ทางด้านหลังที่ปกติแล้วแทบไม่มีคนเดินผ่าน พอเดินมาได้ซักครู่ผมก็เริ่มเอะใจแล้วว่าทำไมขวัญถึงพาผมมาที่นี่
 
“ ฉันรู้เรื่องเกี่ยวกับเธอแล้วก็กิ่งแล้วล่ะ .. “ เอ๋ !!!! งั้นแสดงว่าที่เธอแยกไปกินข้าวกับกิ่งสองคนก็เพราะอยากรู้เรื่องเหมือนกันหรอเนี่ย
 
“ ทำไม ... “  ขวัญพูดเสียงแผ่วเบา จนผมแทบไม่ได้ยิน
“ อะไรนะขวัญ .. “
“ ทำไมต้องเป็นกิ่ง ... “ ตอนนี้ขวัญไม่ยอมเงยหน้ามามองผมเลย มือเธอไขว้หลังกัน ก้มหน้าก้มตาลูกเดียว
“ เดี๋ยวสิขวัญ ... เธอเป็นอะไรเนี่ย .. มีอะไรถ้าโกรธเรื่องเมื่อตอนเช้าชั้นขอโท... อุ๊บบ ...  “ ยังไม่ทันจะบอกขอโทษเรื่องเมื่อเช้า ขวัญก็กระชากไทค์ ดึงผมไปกอดทันที ... ผมหายใจไม่ออกไปชั่วขณะ ... แต่เดี๋ยวสิ ขวัญทำแบบนี้ทำไม ....
 
“ ตาบ้า !!! ทำไมต้องเป็นกิ่งด้วย ฉันอยู่กับเธอมาก่อน อยู่กับเธอมาตั้งนาน ฉัน .... “ ผมได้แต่ตกใจทำอะไรไม่ถูกเนื้อตัวแข็งทื่อไปหมด เหมือนกับโดนมนต์สะกด
 
“ เดี๋ยว !! ขวัญ ... อะไรของเธอ ค่อย ๆ พูดค่อย ๆ จะ ......... “
 
พระเจ้าช่วย .... แม้ผมจะนับถือพุทธแต่อุทานคำนี้คงไม่ผิดนัก ... ริมฝีปากของหญิงสาวที่แสนบางเบาและนุ่มนวลได้ประกบกับริมฝีปากของผมแบบที่ผมไม่ทันตั้งตัว .... ขวัญจูบผมแบบที่ผมไม่เคยคาดคิด ไม่เคยคิดฝัน ผมคิดกับเธอแค่เพื่อนเสมอมา เราเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่เด็ก แต่ทำไม ...... เธอถึงทำแบบนี้ .... เวลาผ่านไปไม่กี่วินาทีแต่เหมือนเวลาผ่านไปเป็นชั่วโมง นี่ผมฝันอยู่หรือเปล่า
“ ขวัญ .... “
“ ตาทึ่มเอ้ย .... ฉันชอบนาย ฉันรักนาย ฉันรักนายมานานแล้ว ทำไมไม่รู้สึกตัวซักที ... “ หลังจากที่ริมฝีปากของเรากระทบกัน ขวัญก็หน้าแดงไปทั่วใบหน้า ส่วนผมสติสตังไม่อยู่กับตัวแล้วด้วยซ้ำ ...
 
“ เอ๊ะ .... “ ผมตกใจกับภาพที่อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่ภาพของสาวน้อยน่ารักที่ยืนอยู่ข้างหน้าที่พึ่งจะพรากจูบแรกในชีวิตของผมไป แต่เป็นภาพของเส้นด้ายสีแดงที่นิ้วก้อยข้างซ้ายของเธอพุ่งตรงมาที่ผม .... ทำไม ... ในเมื่อถ้ากิ่งเป็นคู่ของผม ด้ายแดงของเธอก็พุ่งมาที่ผมเหมือนกัน ทำไมด้ายแดงของขวัญถึงพุ่งมาที่ผมด้วย ..... ไม่จริงน่า .....
 
“ คำตอบล่ะตาบ้า ... “ ขวัญจ้องหน้าผมพร้อมกับถามหาคำตอบที่ผมควรตอบ แต่ผมได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อทำอะไรไม่ถูก .........
 
 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา