[RED THREAD] ปาฏิหาริย์รักด้ายแดง
-
เขียนโดย GChiiz
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 เวลา 16.32 น.
4 ตอน
2 วิจารณ์
8,534 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 16.41 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) คุณเชื่อเรื่องพหรมลิขิตหรือเปล่าครับ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ“ นี่หยก วันนี้รถไฟฟ้าข่าวเค้าออกว่าใช้งานไม่ได้นะลูก “ เสียงที่คุ้นเคยของคุณแม่หน้าหมวยของผมบอกกับผมในขณะที่ผมกำลังเตรียมตัวออกจากบ้านเพื่อไปเรียนหนังสือตามปกติ บ้านของผมนั้นเป็นบ้านไม้ธรรมดา ๆ ที่อยู่ในตรอกไม่เล็กไม่ใหญ่แห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ บ้านไม้ของผมนั้นเป็นบ้านสองชั้น ด้านล่างเป็นร้านขายข้าวสารที่เปิดกิจการมาตั้งแต่รุ่นอากงที่นั่งเรือสำเภามาจากเมืองจีน โดยที่พ่อผมรับช่วงต่อกิจการต่อจากอากง โดยมีแม่หรือมาม้าของผมเป็นทั้งเลขาและเป็นทั้งนายธนาคาร เงินทุกบาททุกสตางค์ต้องผ่านมือของมาม้าผม ไม่เช่นนั้นมีเรื่อง ส่วนพ่อหรือป๊าของผมนั้นเป็นคนไทยแท้ บ้านเดิมนั้นอยู่อยุธยาแต่มาพบรักกับม้าที่เมืองปากน้ำ จนอยู่กินด้วยกันและมารับช่วงต่อกิจการของอากงซึ่งเป็นป๊าของม้า
“ ครับม้า งั้นเดี๋ยวปั่นจักรยานไปแล้วกัน “ ผมตอบมาม้ากลับไป ก่อนจะเดินไปด้านหลังร้านเปิดผ้าคลุมสีเทาที่มีฝุ่นเกาะอยู่นิดหน่อยออก จากนั้นสะบัด ๆ มันซักนิดเพื่อให้ฝุ่นเหล่านั้นกระจายไปตามอากาศ เบื้องหน้าผมก็เป็นจักรยานเสือหมอบวินเทจ ยี่ห้อ อรายา สีน้ำตาล ที่ผมพึ่งได้เป็นของขวัญตรุจีนจากญาติ ๆ ของมาม้าผม ผมตั้งชื่อมันว่าน้องชมพู่ เพราะยี่ห้อ อรายา ดันไปคล้ายกับชื่อดาราคนนึง ผมไม่รอช้าเพราะตอนนี้เวลาก็ใกล้จะเจ็ดโมงครึ่งแล้ว โรงเรียนผมนั้นห่างจากบ้านไปประมาณ 10 กิโลเมตร ปกตินั่งรถไฟฟ้าที่พึ่งสร้างเสร็จใหม่ ๆ ไปก็แค่ 10 นาทีก็ถึงที่หมาย แต่การที่รถไฟฟ้ามาเสียในวันแบบนี้นั้นก็ทำให้ผมต้องรีบทำเวลากว่าวันปกติ เพราะไม่อยากจะไปเรียนสายตั้งแต่วันแรก
“ เดี๋ยวหยก เอาผ้าเช็ดตัวไปด้วย เผื่อเหงื่อออกเยอะแล้วต้องอาบน้ำ “ มาม้าพูดเสร็จก็โยนผ้าเข็ดตัวสีน้ำตาลอ่อน ๆ มาให้ผมทันที ผมก็ได้แต่หันไปยิ้มให้ก่อนจะรีบควบน้องชมพู่ออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว การจราจรช่วงเช้าแถวบ้านของผมนั้นเรียกได้ว่านรกเลยทีเดียว ทั้งรถเล็กรถใหญ่ทั้งสิบล้อสิบหกล้อเต็มไปหมด ด้วยว่าเป็นเมืองอุตสาหกรรม แต่ผมนั้นไม่เคยหวั่นปั่นน้องชมพู่ซิกแซกไปเรื่อย ๆ จนมาถึงหน้าโรงเรียนในเวลาเฉียดฉิวพร้อมกับเหยื่อที่ชุ่มหลังไปหมด ผมมองเวลาในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเก่า ๆ ของผม 08.14 อืม ... ยังมีเวลาอีกตั้งสิบห้านาทีกว่าจะโฮมรูม ไปอาบน้ำซักหน่อยดีกว่า
อ่อ ... พูดถึงโรงเรียนของผมนั้นเป็นโรงเรียนพาณิชยการ ชื่อเทพปราการพาณิชยการ ตั้งอยู่แถว ๆ อำเภอปากน้ำ สมุทรปราการ เป็นโรงเรียนที่มีหลักสูตรเกี่ยวกับพาณิชยการมากมาย ทั้งบริการ คอม โรงแรม ท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งตัวผมนั้นได้เรียนอยู่ในสาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ตอนนี้อยู่ชั้นปีที่ 3 ครับเป็นปีสุดท้ายที่ผมจะได้ใช้ชีวิตอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ เพราะที่นี่ไม่มีหลักสูตร ปวส. ครับ การแต่งกายของที่นี่ถือว่าเป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่ง เพราะเป็นชุดที่นักเรียนในจังหวัดหรือจังหวัดใกล้เคียงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน่าใส่ที่สุดครับ
ชุดของผู้ชายแบบผมนั้นจะมีเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวอยู่ด้านใน มีสูทสีน้ำตาลอ่อน ๆ ทับด้านนอก กางเกงเป็นกางเกงสแล็กสีดำ รองเท้านั้นเป็นรองเท้าผ้าใบตามใจชอบครับสีอะไรก็ได้ แบบไหนก็ได้ ผูกไทค์ตามสีชั้นปีครับ ปีหนึ่งสีแดง ปีสองสีน้ำฟ้า ส่วนผมปีสามพึ่งซื้อมาสด ๆ ร้อน ๆ สีดำครับ ส่วนของผู้หญิงนั้นจะต่างออกไปแค่ที่กระโปรงยาวประมาณเข่า จีบบานนิด ๆ สีน้ำตาลเข้ากับชุดสูท ส่วนไทค์นั้นจะเป็นแบบคล้าย ๆ ริบบิ้นปล่อยยาวลงมาไม่เหมือนกับไทค์ผู้ชายครับ นอกนั้นเหมือนกันหมด
“ เฮ้ย !!! ไอหยก “ ระหว่างที่ผมกำลังเข็นจักรยานไปจอดยังที่ที่จอดจักรยานนั้น ก็มีเสียงที่ผมแสนจะคุ้นเคยตะโกนเรียกมาจากด้านหลังพร้อมกับเสียงลากจักรยานมาด้วย ไม่ได้มีเฉพาะจักรยานเท่านั้นยังลากบรรดาสาว ๆ น้อยใหญ่มาอีกด้วย
“ อ้าว .. ไอน้ำ มาสายเหมือนกันนะเนี่ย แล้วนั้นไปทำอะไรกับหัวมา มีคิวงานอีกแล้วล่ะสิ “ ผมหันไปหาต้นเสียง ซึ่งก็คือไอน้ำ นายวารี จันทร์เพ็ญ เพื่อนซี้ของผมเองครับ ไอน้ำ หรือ น้ำ เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี ป็อปปูล่าสุด ๆ ในโรงเรียนครับ รูปร่างสูงยาว เข่าดี ระดับนายแบบ เปิดเทอมมาใหม่เหมือนจะมีงานเข้าก็เลยมีหัวสีแดงเด่นมาแต่ไกล มันชอบออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะการปั่นจักรยานซึ่งจักรยานที่มันกำลังเข็นอยู่ก็คือจักรยานคู่ใจของมันเองยี่ห้อ Trek รุ่นอะไรซักรุ่นเป็นเสือหมอบสำหรับแข่งโดยเฉพาะ มันบอกว่าซื้อมาก็แสนกว่า ๆ เอง ..
“ เออ พอดีว่าไปแคสงานแล้วได้งานโฆษณาใหม่ เลยหัวแดงแบบนี้แหละ คุยกับ ผอ. แล้วท่านก็อนุญาต “ น้ำตอบก่อนจะค่อย ๆ เข็นจักรยานเข้ากับที่จอดแล้วล็อคด้วยตัวล็อคทันที ซึ่งผมได้ทำเสร็จไปก่อนหน้ามันเรียบร้อยแล้ว
“ ว่าแต่ เองกินข้าวมายัง เดี๋ยวข้าว่าจะไปกินข้าวก่อน “ น้ำถาม พรางหันไปโบกมือทักทายกับบรรดาสาว ๆ ที่เดินตามมันมาตั้งแต่แรก
“ ไม่ล่ะข้ากินมาแล้ว เดี๋ยวว่าจะไปอาบน้ำหน่อย ปั่นจักรยานมาแล้วเหงื่อมันเยอะ เข้าห้องเรียนไปแล้วเดี๋ยวทำคนอื่นเหม็นเหงื่อหมด “
“ โอเค ๆ งั้นเจอกันที่ห้อง ถ้าเองไปถึงก่อนฝากจองที่ให้ด้วย เปิดเทอมใหม่เดี๋ยวโดนแย่งที่ ไม่ได้นั่งกับเองแล้วเซ็งแย่ หลังห้องเหมือนเดิมนะเว้ย “
“ คิดอะไรกับข้าป่ะเนี่ย อี๋ ... “ ผมแกล้งแซวไอน้ำไป เพราะมีหลายคนที่เข้าใจว่าผมกับไอน้ำนั้นเป็นคู่เกย์กัน แต่จริง ๆ แล้วเราก็แค่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถมถึงมัธยมต้น ทำให้สนิทกันมากกว่าคนอื่น ๆ แต่ก็ไม่พ้นจะเป็นคู่จิ้นภายในโรงเรียนนี้ซักที น้ำหันมาจะเอาหมวกกันน็อคจักรยานตีหัวผม มีหรือที่ผมจะรอให้มันตี รีบชิ่งก่อนสิครับ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดกร๊าดของสาว ๆ
หลังจากพ้นจากไอน้ำมาได้ ผมก็รีบเดินตรงดิ่งไปที่สระว่ายน้ำทันที เพราะเป็นที่ที่เดียวที่สามารถเข้ามาใช้บริการอาบน้ำเมื่อไหร่ก็ได้ สระว่ายน้ำของโรงเรียนนั้นเป็นสระขนาดมาตรฐาน 50x50 เมตรที่นักเรียนหรือบุคคลภายนอกสามารถเข้ามาใช้บริการได้ แต่ผมไม่ได้อยู่ชมรมว่ายน้ำหรอกนะครับ รู้แค่ว่าถ้าอยากอาบน้ำต้องมาอาบที่สระว่ายน้ำก็แค่นั้น เมื่อเสร็จสิ้นธุระส่วนตัว อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยผมก็รีบแต่งตัวและเดินดุ่ย ๆ ในยังห้องเรียนที่ตึกคอมทันที
กล่าวถึงสภาพแวดล้อมในโรงเรียนหน่อยนะครับ โรงเรียนมีทั้งหมด 5 สาขา บริหาร คอมพิวเตอร์ การโรงแรม การท่องเที่ยว และการบัญชี แต่ล่ะสาขาก็จะมีตึกแยกออกไปเป็นของตนเอง ตึกสาขาบริหารจะอยู่ด้านทิศเหนือเป็นตึกสามชั้น ตึกการโรงแรมจะอยู่ทิศตะวันตกเป็นตึกสามชั้น ตึกการท่องเที่ยวจะอยู่ทิศใต้หรือก็คือเดินเข้ามาหน้าโรงเรียนก็เจอเลยเป็นตึกสามชั้น ตึกการบัญชีอยู่ด้านทิศตะวันออกเป็นตึกสามชั้น และตึกของสาขาคอมพิวเตอร์จะอยู่ตรงกลางระหว่างสี่ตึกเป็นตึกห้าชั้น เป็นสาขาที่คนเรียนเยอะที่สุดและตึกเรียนใหญ่ที่สุด โดยที่โรงยิม สนามกีฬา และสระว่ายน้ำจะอยู่หลังตึกสาขาบริหารหรือก็คืออยู่ทางทิศเหนือ มีศูนย์การเรียนรู้และห้องสมุดจะอยู่ในตึกคอมพิวเตอร์ครับ
เปิดเทอมใหม่ แน่นอนว่าห้องเรียนก็ต้องห้องใหม่ ปกติแล้ว ปีหนึ่งจะเรียนอยู่ที่ชั้นสาม ปีสองจะเรียนชั้นสี่ แน่นอนครับว่าปีสามต้องเรียนชั้นห้าซึ่งอยู่สูงสุด แต่ให้ตายเถอะ ... จะให้ไปรอลิฟท์ซึ่งมีแค่สองตัวก็กลัวจะไปสายเพราะคนรอกันพรึ่บ ต้องเดินขึ้นไปอีกห้าชั้นเหนื่อยอีกแล้ว ชั้นแรกนั้นจะเป็นโรงอาหารครับ ซึ่งเป็นโรงอาหารหลักที่ทุก ๆ สาขาจะต้องมานั่งกินกัน ชั้นสองเป็นห้องสมุดและศูนย์การเรียนรู้ครับ
เดินขึ้นมาไม่นานก็ถึงซักทีชั้นห้าชั้นสูงสุดของโรงเรียนนี้ ระหว่างเดินก็กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ แต่แล้วก็ ..
“ อุกกก “ อยู่ดี ๆ เหมือนโดนอะไรซักอย่างพุ่งเข้าใส่หน้าท้องอย่างจัง แน่นอนครับว่า โคตรจุก ... รู้ตัวอีกทีก็รู้ว่าเป็นเพราะเจ้าเก้าอี้พับเหล็กที่เธอกำลังแบกออกมาจากห้อง
“ อ่ะ ... วะ ... ว้ายย ... “ เสียงผู้หญิง ??
“ ขอโทษค่ะ ขอโทษ ...” ผมมองไปที่ต้นเสียงก็ปรากฏภาพของสาวน้อยในชุดนักเรียนคอมปีสาม ผมดำยาวประบ่า ดวงตากลมโต นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน ๆ ใบหน้ารูปไข่ ผิวพรรณขาวอมชมพูสะอาดสะอ้าน .. ซึ่งผมไม่ค่อยคุ้นหน้าเธอเท่าไหร่นัก จะเป็นนักเรียนใหม่อย่างงั้นหรอ ไม่น่า ... สวย ๆ แบบนี้ทำไมผมจะจำไม่ได้“ หยกเป็นอะไรหรือเปล่า .. “ เอ๊ะ ?? ทำไมเธอถึงรู้จักผมทั้ง ๆ ที่ผมจำเธอไม่ได้หรือไม่รู้จักเธอ
“ …….. “ ผมไม่ได้ตอบเธอไปได้แต่จ้องหน้าเธอด้วยความจุกและความงุนงง
“ หืม .. ทำไมจ้องหน้าเค้าแบบนั้นล่ะ “ เธอถาม ก่อนจะค่อย ๆ ก้มตัวลงเก็บเก้าอี้เหล็กเจ้ากรรมที่ทิ่มท้องผม
“ ทำไมรู้จักผมล่ะครับ “
“ เอ๋ ..... เออ ... คือ ... “ อยู่ดี ๆ เธอก็หน้าแดงหลังจากผมถามไปเธอก็ไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่หันมาก้มหัวขอโทษก่อนจะค่อย ๆ แบกเก้าอี้เหล็กเดินไปยังท้ายตึก ทำเอาผมงงกว่าเดิมว่าเธอคือใครแล้วทำไมถึงรู้จักผม
หลังจากอาการจุกเริ่มดีขึ้นผมก็ค่อย ๆ เดินไปยังห้อง 3-3 ของผมทันที แต่คราวนี้อย่างแม้แต่จะคิดว่าผมจะเดินเฉียดประตูของห้องอื่น กลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยมาก ๆ ไม่นานจากจุดเกิดเหตุก็มาถึงห้องของผมซักที เมื่อผมเปิดประตูบานนี้เข้าไปนั้นจะพบกับอีกโลกหนึ่งซึ่งผมชอบมากที่สุด สถานที่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความร่าเริงสนุกสนาน ท่ามกลางการเรียนรู้ ผู้คนมากมายที่เราเรียกว่าเพื่อน ไม่รอช้าผมเปิดประตูเข้าไปทัน
“ อ้าวหยก ... ปีนี้เองไม่ได้อยู่ห้อง 1 หรอ “ เอ๊ะ ?? อะไรนะ
“ ไอหยก !! มั่วห้องแล้วเฮ้ย ปีนี้เองอยู่ห้อง 1 ไป ๆ ไม่ได้ดูบอร์ดประกาศรายชื่อหรือไง “ เฮ้ยไม่จริงน่า ..
“ ยังไงก็แวะมาคุยกันได้นะเว้ย ห่างกันแค่นี้อย่าเหงาล่ะเอง “ เอาจริงดิ ??
“ เค้าไม่อยากให้หยกไปเลย น้ำก็ไปอยู่ห้อง 1 คนนึงแล้ว หยกไปอีกคนพวกเค้าก็เหงาแย่เลยล่ะสิ “ สรุปนี่ผมต้องไปห้อง 1 จริง ๆ ใช่มะ ไม่นะเพื่อน ๆ ที่อยู่กันมาสองปี ไอคุณ ไอสัน ไอชาติ นุช บัว ....
“ เฮ้ยไอหยก ห้องนี้ ๆ ข้าจองที่ไว้ให้แล้ว “ เสียงไอน้ำตะโกนมาจากทางห้อง 1 ที่อยู่ห่างออกไป ผมได้แต่ทำหน้าเศร้าก่อนทำท่าโบกมือบ๊ายบาย บรรดาเพื่อน ๆ ที่อยู่กันมาสองปีถ้วน แต่ก็ยังดีที่ยังมีคนหลงไปอยู่ห้อง 1 แบบไอน้ำอีกคนที่พอเป็นเพื่อนได้ แต่เอ๋ ... งั้นมันก็ห้องเมื่อกี้ที่เจอเธอคนนั้นนี่น่า ...
“ ทางนี้ ๆ หลังห้องเหมือนเดิมไม่มีใครแย่ง ฮี่ ๆ “ น้ำที่ไปนั่งรออยู่หลังห้องอยู่แล้วโบกมือเรียกผมที่กำลังกวาดสายตามองดูว่าที่เพื่อนใหม่ของผมไปทีละคน ๆ แน่นอนว่าผมใช้ความสามารถมองเห็นด้ายแดงไปด้วย เผื่อฟลุ๊คที่จะเจอเนื้อคู่ของผมในห้องนี้ ... ก็ได้แต่ฝันไปล่ะนะ ..
“ ว่าแต่ทำไมถึงโดนย้ายห้องล่ะเนี่ย “ หลังจากเดินไปนั่งเสร็จเรียบร้อยผมก็เริ่มบทสนทนากับเพื่อนรักทันที
“ ผลการเรียนไง ปีที่แล้วเราสองคนได้คะแนนดีสุดในห้องก็เลยโดนถีบมาอยู่ห้องท็อปไง “
“ หรอ ... น่าเบื่ออ่ะ ไม่อยากมาตั้งใจเรียนแข่งกับคนอื่น ๆ อย่างเรียนไปฮาไปกับพวกกลุ่มเดิมมากกว่า “ ผมตอบแบบสีหน้าเซง ๆ ก่อนจะฟุบลงกับโต๊ะทันที
“ อย่าคิดมากน่า พักกลางวันก็ค่อยไปอยู่กับพวกนั้นก็ได้ เรียนก็ส่วนเรียนสิ ใช่มะตัวเธอ “ หืม ? ตัวเธอ ไอน้ำเองพูดถึงใครฟ่ะ
“ เอ๋... อะ ..... ค ... ค่ะ “
หญิงสาวคนนั้น อยู่ห้องนี้ด้วยงั้นหรอ แถมนั่งใกล้ ๆ กันอีก .... ยิ่งมองก็ยิ่งสวยคนอะไรก็ไม่รู้ แต่ก็ยังไม่ได้ถามซักทีว่าทำไมถึงรู้จักเราได้ เธอนั่งอยู่ติดกับน้ำที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ผมอีกทีนึง
“ เอ๋ !! ไม่จริงน่า หยกกับน้ำอยู่ห้องนี่ด้วยหรอ คิดว่าฉันจะต้องมาแบบโดดเดี่ยวซะแล้วนะเนี่ย “ เสียงผู้หญิงคนนึงที่ผมคุ้นเคยอีกเหมือนกัน เธอคนนี้ก็เป็นเพื่อนรักของผมเช่นกัน ชื่อของเธอคือ ขวัญ ขวัญใจ เฟื่องฟ้า นักกีฬาว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติที่ดังสุด ๆ เพราะหน้าตาที่สวย รูปร่างที่ดีระดับนางแบบ ผมดำสั้นเลยปลายติ่งหู ด้านหน้าไว้หน้าม้า นัยน์ตาสีฟ้าอ่อน ๆ ถ้าไม่ใช่เพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ นี่เห็นแว็บแรกมีต้องใจเต้นแน่นอน
“ เออน่า อย่าพูดมากอายคนอื่นเค้า มานั่งนี่มา “ ผมเรียกขวัญมานั่งด้านหน้าของผมซึ่งว่างอยู่
“ ฮี่ ... คิดถึงจังเลยน๊า ไม่เจอกันตั้งสามเดือน เดี๋ยววันนี้เลิกเรียนฉันเลี้ยงไอติมเอาป่ะ “ ขวัญพูดขึ้นพรางหยิบหนังสือร้านอาหารขึ้นมากางให้ผมกับน้ำดู
“ เนี่ย ๆ ร้านเนี่ยเค้าว่าอร่อยสุด ๆ น้ำกับหยกไปด้วยกันนะ “
“ ไปก็ไปสิ ของฟรีชอบอยู่แล้วว่าแต่ขวัญไม่มีซ้อมหรอ วันแรกนะ แถมเป็นกัปตันแล้วด้วย “ ผมถามยัยขวัญเพราะเป็นวันแรกที่เปิดเทอม แถมขวัญยังได้รับหน้าที่เป็นกัปตันชมรมแล้วด้วย
“ ไม่มีปัญหา ชมรมว่ายน้ำเริ่มซ้อมอาทิตย์หน้าย่ะ “ ขวัญตอมพรางยิ้มกริ่ม
“ งั้นฉันไปด้วยล่ะกัน ขวัญเลี้ยงแน่นะ “ ไอน้ำถามขวัญ ขวัญก็หันไปยิ้มให้ก่อนพยักหน้าหงึก ๆ
“ เอ๋ ..... ร้านนั้นมัน .. “
“ หืมมมมมมม “ ขวัญกับผมและน้ำหันไปทางเธอพร้อมกัน
“ ม ... ไม่มีอะไรค่ะ “ เธอพูดก่อนก้มหน้า
“ ว่าแต่เธอชื่ออะไรล่ะ ผมน้ำ คนนั้นหยก ส่วนยัยนั่นขวัญ ยังไงเดี๋ยวเราก็ต้องเป็นเพื่อนกันตลอดหนึ่งปีแล้ว มาทำความรู้จักกันไว้เถอะ “ น้ำหันไปถามเธอคนนั้น เธอก็เงยหน้าขึ้นมาตอบเสียงเบา ๆ
“ ชื่อ... กิ่ง... ค่ะ “ คำตอบของเธอแผ่วเบามากแบบถ้าไม่ตั้งใจฟังก็คงไม่ได้ยิน แต่ผมก็ดันได้ยินซะงั้น
“ งั้นวันนี้หลังเลิกเรียนไปด้วยกันนะ “ ขวัญบอกกับกิ่ง กิ่งได้แต่ยิ้มอาย ๆ แต่ก็พยักหน้าตอบรับคำเชิญไปเรียบร้อย
กิ่งงั้นหรอ ชื่อนี้ผมว่าผมเคยได้ยิน แต่ผมจำไม่ได้ว่าเธอคือใคร แต่ทำไมเธอถึงรู้จักผมและจำผมได้ ....
การเรียนการสอนก็เริ่มขึ้น เวลาผ่านไปไม่นานนักก็ถึงเวลาเลิกเรียนซึ่งผมและเพื่อน ๆ จะไปกินไอติมร้านใหม่ที่พึ่งเปิดตัวได้ไม่นานในตัวอำเภอ แน่นอนว่าผมกับไอน้ำนั้นจะปั่นจักรยานไป ส่วนกิ่งกับขวัญนั้นจะนั่งรถไปรอที่ร้าน ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังเดินออกจากโรงเรียนนั้นทำเอาเหล่าผู้ชายหลาย ๆ คนถึงกับมองตาค้าง กิ่งก็สวยขวัญก็สวย ทำเอาได้เสียงซุบซิบดังระงมไปทั่ว
กิ่งกับขวัญก็ได้ขึ้นรถเมล์ไปล่วงหน้าแล้ว ผมก็น้ำจึงค่อย ๆ ปั่นจักรยานตามหลังไปเรื่อย ๆ จนมาถึงตัวอำเภอปากน้ำซึ่งเป็นอำเภอเก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศ ไม่ว่าจะกี่ปีกี่ปี ก็ไม่เปลี่ยนแปลงเลยซักนิดเดียว ร้านไอติมใหม่ที่ว่านั้นอยู่ตรงวงเวียนหอนาฬิกาหลัก ร้านเปิดอยู่ก่อนจะถึงวงเวียนนิดหน่อย เป็นลักษณะตึกแถวสามชั้น ด้านหน้าร้านมีป้ายสีขาวตัวหนังสือสีดำเขียนไว้ชัดเจนว่า “ GG Café “ ซึ่งไม่ได้มีขายแค่ไอศกรีมอย่างเดียว ยังมีเค้ก กาแฟ และของหวานอีกด้วย ด้านในนั้นเป็นร้านไม่ใหญ่นัก มีเค้าเตอร์อยู่ด้านหน้าร้านชิดมุมขวา ร้านตกแต่งด้วยแสงไฟสีขาวอ่อน ๆ มีสัญลักษณ์ร้านคือตัวเพนกวินสีเหลือง ดูน่ารักน่าชังดีทีเดียว
“ รอนานมั้ยขวัญ กิ่ง “ น้ำถามก่อนค่อย ๆ ลงจากจักรยานเสือหมอบคู่ใจ โดยที่มีผมตามมาติด ๆ
“ อะ ... ไม่นานหรอก ป่ะ .. เข้าไปข้างในกันเถอะ ข้างนอกร้อน “ ขวัญตอบ ก่อนจะจูงมือกิ่งเข้าไปในร้านทันที ผมกับน้ำหลังจากล็อคจักรยานเสร็จเรียบร้อยก็ตามเข้าไปทันที
“ GG Café ยินดีต้อนรับค่า “ เสียงต้อนรับของพนักงานดังออกมาทันทีที่พวกเราก้าวผ่านประตูร้าน พนักงานเป็นหญิงวัยกลางคนที่ยังดูไม่แก่มากเท่าใดนักในชุดพนักงานของร้านสีขาวมีเอี้ยมสีดำลายขาว
“ อ้าว ... กิ่งจะพาเพื่อนมาทำไมไม่บอกก่อนล่ะลูก “ หญิงพนักงานพูดขึ้น พวกผมหันควับไปทางกิ่งทันที กิ่งก็ได้แต่ยิ้มแหยง ๆ
“ พอดีเป็นร้านของฉันเองแหละ ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกก่อน “ กิ่งบอกกับพวกเรา ก่อนจะขอตัวเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดพนักงานร้านทันที เพราะจะต้องช่วยงานแม่ของเธอ
“ แหม ๆ ไปเรียนวันแรกก็ได้เพื่อนใหม่มาตั้งสามคน ขอโทษที่กิ่งไปรบกวนพวกเธอนะจ๊ะ “ คุณแม่ของกิ่งพูดขึ้น ก่อนจะบอกให้พวกผมเข้าไปนั่งรออยู่โต๊ะด้านในก่อน ระหว่างรอนั้นกิ่งก็เดินมาพร้อมกับชุดพนักงานร้าน ดูน่ารักขึ้นไปอีกหลายเท่า ทำเอาผมเกือบหยุดหายใจเมื่อได้เห็นแว๊บแรก
“ อ๊ายย ... กิ่งน่ารักอ่ะ นี่ถ้าไม่ติดว่าอยู่ชมรมว่ายน้ำจะขอมาทำงานร้านนี้ด้วยแล้วนะเนี่ย “ ขวัญเพ้อ
“ ม ... ไม่ขนาดนั้นหรอก “ กิ่งหน้าแดงขึ้นมาทันที ผมกับไอน้ำหันมามองหน้ากันก่อนตกลงใจพร้อมกันว่า
“ กิ่งน่ารักว่ะ “ .........
“ ว่าแต่จะทานอะไรกันดีล่ะ เอานี่จะ เมนู “ กิ่งยื่นเมนูให้พวกเรา
“ มาการอง 2 ที่ โกโก้ปั่น 1 ช็อคโก้บานาน่า 1 ล่ะกัน “ ขวัญสั่งคนแรก
“ ลาเต้เย็นกับชีสเค้กครับ “ น้ำสั่งต่อ
“ อ่า ... แล้วแต่กิ่งล่ะกันผมไม่ค่อยถนัดของแบบนี้ “ ผมสั่งออกไปแบบไม่ทันคิดอะไร กะว่าจะหยอกกิ่งเล่น ๆ กิ่งก็หันมามองผมก่อนยิ้มแบบเขิน ๆ ซึ่งทำให้ผมเขินไปด้วย ก่อนที่ผมจะได้น้ำสตอเบอร์รี่ปั่น กับ เครปเค้กราดช็อคโกแลตมาอย่างล่ะที่ ซึ่งรสชาติอร่อยมาก
หลังจากกินเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาแยกย้าย วันนั้นคุณแม่ของกิ่งไม่คิดเงินพวกเราซักกะบาทเดียว ทำเอาพวกเราเกรงใจสุด ๆ ให้ยังไงคุณแม่ก็ไม่เอา บอกว่าถือว่าเลี้ยงฉลองเพื่อนใหม่ของกิ่ง มาครั้งหน้าค่อยคิดตัง จึงทำการลาไหว้คุณแม่กิ่ง และแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยที่น้ำนั้นไปอีกทาง ขวัญก็ไปอีกทาง ผมก็ไปอีกทาง ระหว่างที่กำลังจะเดินออกไปที่จักรยานนั้น
“ หยก ... คือ ... ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ย “ กิ่งเดินมาเรียกผมที่กำลังจะก้มลงไขกุญแกที่ล็อคจักรยานอยู่
“ หืม ... มีอะไรงั้นหรอ “
“ หยกมองเห็นไอนี่มั้ย “ กิ่งพูดเสร็จก็ชูนิ้วก้อยข้างซ้ายขึ้นมา ทำเอาผมเกือบหยุดหายใจไปอีกครั้ง เมื่ออยู่ดี ๆ ผมก็มองเห็นเส้นด้ายสีแดงของเธอพุ่งมาที่ตัวผม ทำให้ผมต้องรีบมองไปที่นิ้วก้อยด้านขวาของผมทันที แต่ว่ามันก็ไม่มีด้ายแดงของผม
“ หยกมองไม่เห็นของตัวเองใช่มั้ย แต่กิ่งมองเห็นของหยก พุ่งมาที่กิ่งนะ ... “
“ แต่กิ่งมองไม่เห็นของตัวเองหรอก แต่เค้าว่ากันว่าด้ายแดงของผู้หญิงจะอยู่ที่นิ้วก้อยข้างซ้าย ของผู้ชายจะอยู่ที่นิ้วก้อยด้านขวา หยกมองเห็นใช่มั้ย “ กิ่งพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ผมได้แต่ยืนตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
ผมคิดมาตลอดว่าผมสามารถมองเห็นด้ายแดงได้คนเดียว ผมสามารถรู้ได้ว่าใครเป็นคู่แท้ของใคร แต่ไม่สามารถมองหาคู่ของตัวเองได้ หรือเห็นด้ายแดงของตัวเองได้ ...
“ เราสองคนเหมือนกันสินะ เห็นของคนอื่นแต่ไม่เห็นของตัวเอง “ กิ่งเดินเข้ามาหาผมช้า ๆ ผมทำตัวไม่ถูก ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำอะไรไม่ถูก ตัวสั่นไปหมด .....
“ ตอบหน่อยสิหยก เห็นด้ายแดงของกิ่งมั้ยแล้วมันพุ่งไปที่หยกหรือเปล่า “
“ อืม .... ใช่ .. “ ผมตอบไปสั้น ๆ ก่อนที่จะรีบปลดล็อคกุญแจจักรยานออกทันที
“ ผมเห็นว่าด้ายแดงของกิ่งพุ่งมาที่ผม แต่ผมก็ไม่เห็นของผมอยู่ดี ผมใช้ชีวิตโดยที่มองเห็นด้ายแดงมาตั้งแต่เกิด ไม่นึกว่าจะมีคนอื่นที่เห็นด้ายแดงเหมือนกัน “
“ งั้นเราเป็นคู่แท้กันหรือเปล่า..... “ กิ่งถามด้วยสีหน้าเขินอายสุด ๆ หน้าแดงเป็นสีชมพูอ่อน ๆ อย่างเห็นได้ชัด
ผมได้แต่ยืนคล่อมจักรยานพร้อมกับมองหน้าเธอ ก่อนจะยิ้มให้เธอ .. ท่ามกลางเสียงรถยนต์ที่ผ่านไปผ่านมาดังแทรกเข้ามาเป็นระยะ
“ ไม่รู้สิ .... เราพึ่งรู้จักกันเองนะ “ ผมตอบก่อนจะค่อย ๆ ปั่นจักรยานออกไปทันที ไม่แม้แต่จะหันหลังกลับไปมองกิ่งที่ยืนอยู่หน้าร้าน ....
ในหัวของผมตอนนี้เบลอไปหมด กิ่งคือคู่แท้ของผมอย่างงั้นหรือ แล้วทำไมเธอถึงมองเห็นด้ายแดงเหมือนกับผม ทั้ง ๆ ที่มันน่าจะเป็นความสามารถที่มีแค่ผมคนเดียว ผมเห็นของเธอพุ่งมาที่ผม เธอเห็นของผมพุ่งไปที่เธอ เธอคือคู่แท้ของผมจริง ๆ ใช่หรือไม่ .... แล้วเธอรู้จักผมก่อนทั้ง ๆ ที่ผมไม่รู้จักเธอได้ยังไง .....
“ ครับม้า งั้นเดี๋ยวปั่นจักรยานไปแล้วกัน “ ผมตอบมาม้ากลับไป ก่อนจะเดินไปด้านหลังร้านเปิดผ้าคลุมสีเทาที่มีฝุ่นเกาะอยู่นิดหน่อยออก จากนั้นสะบัด ๆ มันซักนิดเพื่อให้ฝุ่นเหล่านั้นกระจายไปตามอากาศ เบื้องหน้าผมก็เป็นจักรยานเสือหมอบวินเทจ ยี่ห้อ อรายา สีน้ำตาล ที่ผมพึ่งได้เป็นของขวัญตรุจีนจากญาติ ๆ ของมาม้าผม ผมตั้งชื่อมันว่าน้องชมพู่ เพราะยี่ห้อ อรายา ดันไปคล้ายกับชื่อดาราคนนึง ผมไม่รอช้าเพราะตอนนี้เวลาก็ใกล้จะเจ็ดโมงครึ่งแล้ว โรงเรียนผมนั้นห่างจากบ้านไปประมาณ 10 กิโลเมตร ปกตินั่งรถไฟฟ้าที่พึ่งสร้างเสร็จใหม่ ๆ ไปก็แค่ 10 นาทีก็ถึงที่หมาย แต่การที่รถไฟฟ้ามาเสียในวันแบบนี้นั้นก็ทำให้ผมต้องรีบทำเวลากว่าวันปกติ เพราะไม่อยากจะไปเรียนสายตั้งแต่วันแรก
“ เดี๋ยวหยก เอาผ้าเช็ดตัวไปด้วย เผื่อเหงื่อออกเยอะแล้วต้องอาบน้ำ “ มาม้าพูดเสร็จก็โยนผ้าเข็ดตัวสีน้ำตาลอ่อน ๆ มาให้ผมทันที ผมก็ได้แต่หันไปยิ้มให้ก่อนจะรีบควบน้องชมพู่ออกจากบ้านไปอย่างรวดเร็ว การจราจรช่วงเช้าแถวบ้านของผมนั้นเรียกได้ว่านรกเลยทีเดียว ทั้งรถเล็กรถใหญ่ทั้งสิบล้อสิบหกล้อเต็มไปหมด ด้วยว่าเป็นเมืองอุตสาหกรรม แต่ผมนั้นไม่เคยหวั่นปั่นน้องชมพู่ซิกแซกไปเรื่อย ๆ จนมาถึงหน้าโรงเรียนในเวลาเฉียดฉิวพร้อมกับเหยื่อที่ชุ่มหลังไปหมด ผมมองเวลาในโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเก่า ๆ ของผม 08.14 อืม ... ยังมีเวลาอีกตั้งสิบห้านาทีกว่าจะโฮมรูม ไปอาบน้ำซักหน่อยดีกว่า
อ่อ ... พูดถึงโรงเรียนของผมนั้นเป็นโรงเรียนพาณิชยการ ชื่อเทพปราการพาณิชยการ ตั้งอยู่แถว ๆ อำเภอปากน้ำ สมุทรปราการ เป็นโรงเรียนที่มีหลักสูตรเกี่ยวกับพาณิชยการมากมาย ทั้งบริการ คอม โรงแรม ท่องเที่ยว เป็นต้น ซึ่งตัวผมนั้นได้เรียนอยู่ในสาขาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ตอนนี้อยู่ชั้นปีที่ 3 ครับเป็นปีสุดท้ายที่ผมจะได้ใช้ชีวิตอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ เพราะที่นี่ไม่มีหลักสูตร ปวส. ครับ การแต่งกายของที่นี่ถือว่าเป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่ง เพราะเป็นชุดที่นักเรียนในจังหวัดหรือจังหวัดใกล้เคียงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน่าใส่ที่สุดครับ
ชุดของผู้ชายแบบผมนั้นจะมีเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวอยู่ด้านใน มีสูทสีน้ำตาลอ่อน ๆ ทับด้านนอก กางเกงเป็นกางเกงสแล็กสีดำ รองเท้านั้นเป็นรองเท้าผ้าใบตามใจชอบครับสีอะไรก็ได้ แบบไหนก็ได้ ผูกไทค์ตามสีชั้นปีครับ ปีหนึ่งสีแดง ปีสองสีน้ำฟ้า ส่วนผมปีสามพึ่งซื้อมาสด ๆ ร้อน ๆ สีดำครับ ส่วนของผู้หญิงนั้นจะต่างออกไปแค่ที่กระโปรงยาวประมาณเข่า จีบบานนิด ๆ สีน้ำตาลเข้ากับชุดสูท ส่วนไทค์นั้นจะเป็นแบบคล้าย ๆ ริบบิ้นปล่อยยาวลงมาไม่เหมือนกับไทค์ผู้ชายครับ นอกนั้นเหมือนกันหมด
“ เฮ้ย !!! ไอหยก “ ระหว่างที่ผมกำลังเข็นจักรยานไปจอดยังที่ที่จอดจักรยานนั้น ก็มีเสียงที่ผมแสนจะคุ้นเคยตะโกนเรียกมาจากด้านหลังพร้อมกับเสียงลากจักรยานมาด้วย ไม่ได้มีเฉพาะจักรยานเท่านั้นยังลากบรรดาสาว ๆ น้อยใหญ่มาอีกด้วย
“ อ้าว .. ไอน้ำ มาสายเหมือนกันนะเนี่ย แล้วนั้นไปทำอะไรกับหัวมา มีคิวงานอีกแล้วล่ะสิ “ ผมหันไปหาต้นเสียง ซึ่งก็คือไอน้ำ นายวารี จันทร์เพ็ญ เพื่อนซี้ของผมเองครับ ไอน้ำ หรือ น้ำ เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี ป็อปปูล่าสุด ๆ ในโรงเรียนครับ รูปร่างสูงยาว เข่าดี ระดับนายแบบ เปิดเทอมมาใหม่เหมือนจะมีงานเข้าก็เลยมีหัวสีแดงเด่นมาแต่ไกล มันชอบออกกำลังกายเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะการปั่นจักรยานซึ่งจักรยานที่มันกำลังเข็นอยู่ก็คือจักรยานคู่ใจของมันเองยี่ห้อ Trek รุ่นอะไรซักรุ่นเป็นเสือหมอบสำหรับแข่งโดยเฉพาะ มันบอกว่าซื้อมาก็แสนกว่า ๆ เอง ..
“ เออ พอดีว่าไปแคสงานแล้วได้งานโฆษณาใหม่ เลยหัวแดงแบบนี้แหละ คุยกับ ผอ. แล้วท่านก็อนุญาต “ น้ำตอบก่อนจะค่อย ๆ เข็นจักรยานเข้ากับที่จอดแล้วล็อคด้วยตัวล็อคทันที ซึ่งผมได้ทำเสร็จไปก่อนหน้ามันเรียบร้อยแล้ว
“ ว่าแต่ เองกินข้าวมายัง เดี๋ยวข้าว่าจะไปกินข้าวก่อน “ น้ำถาม พรางหันไปโบกมือทักทายกับบรรดาสาว ๆ ที่เดินตามมันมาตั้งแต่แรก
“ ไม่ล่ะข้ากินมาแล้ว เดี๋ยวว่าจะไปอาบน้ำหน่อย ปั่นจักรยานมาแล้วเหงื่อมันเยอะ เข้าห้องเรียนไปแล้วเดี๋ยวทำคนอื่นเหม็นเหงื่อหมด “
“ โอเค ๆ งั้นเจอกันที่ห้อง ถ้าเองไปถึงก่อนฝากจองที่ให้ด้วย เปิดเทอมใหม่เดี๋ยวโดนแย่งที่ ไม่ได้นั่งกับเองแล้วเซ็งแย่ หลังห้องเหมือนเดิมนะเว้ย “
“ คิดอะไรกับข้าป่ะเนี่ย อี๋ ... “ ผมแกล้งแซวไอน้ำไป เพราะมีหลายคนที่เข้าใจว่าผมกับไอน้ำนั้นเป็นคู่เกย์กัน แต่จริง ๆ แล้วเราก็แค่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถมถึงมัธยมต้น ทำให้สนิทกันมากกว่าคนอื่น ๆ แต่ก็ไม่พ้นจะเป็นคู่จิ้นภายในโรงเรียนนี้ซักที น้ำหันมาจะเอาหมวกกันน็อคจักรยานตีหัวผม มีหรือที่ผมจะรอให้มันตี รีบชิ่งก่อนสิครับ ท่ามกลางเสียงกรี๊ดกร๊าดของสาว ๆ
หลังจากพ้นจากไอน้ำมาได้ ผมก็รีบเดินตรงดิ่งไปที่สระว่ายน้ำทันที เพราะเป็นที่ที่เดียวที่สามารถเข้ามาใช้บริการอาบน้ำเมื่อไหร่ก็ได้ สระว่ายน้ำของโรงเรียนนั้นเป็นสระขนาดมาตรฐาน 50x50 เมตรที่นักเรียนหรือบุคคลภายนอกสามารถเข้ามาใช้บริการได้ แต่ผมไม่ได้อยู่ชมรมว่ายน้ำหรอกนะครับ รู้แค่ว่าถ้าอยากอาบน้ำต้องมาอาบที่สระว่ายน้ำก็แค่นั้น เมื่อเสร็จสิ้นธุระส่วนตัว อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยผมก็รีบแต่งตัวและเดินดุ่ย ๆ ในยังห้องเรียนที่ตึกคอมทันที
กล่าวถึงสภาพแวดล้อมในโรงเรียนหน่อยนะครับ โรงเรียนมีทั้งหมด 5 สาขา บริหาร คอมพิวเตอร์ การโรงแรม การท่องเที่ยว และการบัญชี แต่ล่ะสาขาก็จะมีตึกแยกออกไปเป็นของตนเอง ตึกสาขาบริหารจะอยู่ด้านทิศเหนือเป็นตึกสามชั้น ตึกการโรงแรมจะอยู่ทิศตะวันตกเป็นตึกสามชั้น ตึกการท่องเที่ยวจะอยู่ทิศใต้หรือก็คือเดินเข้ามาหน้าโรงเรียนก็เจอเลยเป็นตึกสามชั้น ตึกการบัญชีอยู่ด้านทิศตะวันออกเป็นตึกสามชั้น และตึกของสาขาคอมพิวเตอร์จะอยู่ตรงกลางระหว่างสี่ตึกเป็นตึกห้าชั้น เป็นสาขาที่คนเรียนเยอะที่สุดและตึกเรียนใหญ่ที่สุด โดยที่โรงยิม สนามกีฬา และสระว่ายน้ำจะอยู่หลังตึกสาขาบริหารหรือก็คืออยู่ทางทิศเหนือ มีศูนย์การเรียนรู้และห้องสมุดจะอยู่ในตึกคอมพิวเตอร์ครับ
เปิดเทอมใหม่ แน่นอนว่าห้องเรียนก็ต้องห้องใหม่ ปกติแล้ว ปีหนึ่งจะเรียนอยู่ที่ชั้นสาม ปีสองจะเรียนชั้นสี่ แน่นอนครับว่าปีสามต้องเรียนชั้นห้าซึ่งอยู่สูงสุด แต่ให้ตายเถอะ ... จะให้ไปรอลิฟท์ซึ่งมีแค่สองตัวก็กลัวจะไปสายเพราะคนรอกันพรึ่บ ต้องเดินขึ้นไปอีกห้าชั้นเหนื่อยอีกแล้ว ชั้นแรกนั้นจะเป็นโรงอาหารครับ ซึ่งเป็นโรงอาหารหลักที่ทุก ๆ สาขาจะต้องมานั่งกินกัน ชั้นสองเป็นห้องสมุดและศูนย์การเรียนรู้ครับ
เดินขึ้นมาไม่นานก็ถึงซักทีชั้นห้าชั้นสูงสุดของโรงเรียนนี้ ระหว่างเดินก็กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ แต่แล้วก็ ..
“ อุกกก “ อยู่ดี ๆ เหมือนโดนอะไรซักอย่างพุ่งเข้าใส่หน้าท้องอย่างจัง แน่นอนครับว่า โคตรจุก ... รู้ตัวอีกทีก็รู้ว่าเป็นเพราะเจ้าเก้าอี้พับเหล็กที่เธอกำลังแบกออกมาจากห้อง
“ อ่ะ ... วะ ... ว้ายย ... “ เสียงผู้หญิง ??
“ ขอโทษค่ะ ขอโทษ ...” ผมมองไปที่ต้นเสียงก็ปรากฏภาพของสาวน้อยในชุดนักเรียนคอมปีสาม ผมดำยาวประบ่า ดวงตากลมโต นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อน ๆ ใบหน้ารูปไข่ ผิวพรรณขาวอมชมพูสะอาดสะอ้าน .. ซึ่งผมไม่ค่อยคุ้นหน้าเธอเท่าไหร่นัก จะเป็นนักเรียนใหม่อย่างงั้นหรอ ไม่น่า ... สวย ๆ แบบนี้ทำไมผมจะจำไม่ได้“ หยกเป็นอะไรหรือเปล่า .. “ เอ๊ะ ?? ทำไมเธอถึงรู้จักผมทั้ง ๆ ที่ผมจำเธอไม่ได้หรือไม่รู้จักเธอ
“ …….. “ ผมไม่ได้ตอบเธอไปได้แต่จ้องหน้าเธอด้วยความจุกและความงุนงง
“ หืม .. ทำไมจ้องหน้าเค้าแบบนั้นล่ะ “ เธอถาม ก่อนจะค่อย ๆ ก้มตัวลงเก็บเก้าอี้เหล็กเจ้ากรรมที่ทิ่มท้องผม
“ ทำไมรู้จักผมล่ะครับ “
“ เอ๋ ..... เออ ... คือ ... “ อยู่ดี ๆ เธอก็หน้าแดงหลังจากผมถามไปเธอก็ไม่ได้ตอบอะไร เพียงแต่หันมาก้มหัวขอโทษก่อนจะค่อย ๆ แบกเก้าอี้เหล็กเดินไปยังท้ายตึก ทำเอาผมงงกว่าเดิมว่าเธอคือใครแล้วทำไมถึงรู้จักผม
หลังจากอาการจุกเริ่มดีขึ้นผมก็ค่อย ๆ เดินไปยังห้อง 3-3 ของผมทันที แต่คราวนี้อย่างแม้แต่จะคิดว่าผมจะเดินเฉียดประตูของห้องอื่น กลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยมาก ๆ ไม่นานจากจุดเกิดเหตุก็มาถึงห้องของผมซักที เมื่อผมเปิดประตูบานนี้เข้าไปนั้นจะพบกับอีกโลกหนึ่งซึ่งผมชอบมากที่สุด สถานที่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความร่าเริงสนุกสนาน ท่ามกลางการเรียนรู้ ผู้คนมากมายที่เราเรียกว่าเพื่อน ไม่รอช้าผมเปิดประตูเข้าไปทัน
“ อ้าวหยก ... ปีนี้เองไม่ได้อยู่ห้อง 1 หรอ “ เอ๊ะ ?? อะไรนะ
“ ไอหยก !! มั่วห้องแล้วเฮ้ย ปีนี้เองอยู่ห้อง 1 ไป ๆ ไม่ได้ดูบอร์ดประกาศรายชื่อหรือไง “ เฮ้ยไม่จริงน่า ..
“ ยังไงก็แวะมาคุยกันได้นะเว้ย ห่างกันแค่นี้อย่าเหงาล่ะเอง “ เอาจริงดิ ??
“ เค้าไม่อยากให้หยกไปเลย น้ำก็ไปอยู่ห้อง 1 คนนึงแล้ว หยกไปอีกคนพวกเค้าก็เหงาแย่เลยล่ะสิ “ สรุปนี่ผมต้องไปห้อง 1 จริง ๆ ใช่มะ ไม่นะเพื่อน ๆ ที่อยู่กันมาสองปี ไอคุณ ไอสัน ไอชาติ นุช บัว ....
“ เฮ้ยไอหยก ห้องนี้ ๆ ข้าจองที่ไว้ให้แล้ว “ เสียงไอน้ำตะโกนมาจากทางห้อง 1 ที่อยู่ห่างออกไป ผมได้แต่ทำหน้าเศร้าก่อนทำท่าโบกมือบ๊ายบาย บรรดาเพื่อน ๆ ที่อยู่กันมาสองปีถ้วน แต่ก็ยังดีที่ยังมีคนหลงไปอยู่ห้อง 1 แบบไอน้ำอีกคนที่พอเป็นเพื่อนได้ แต่เอ๋ ... งั้นมันก็ห้องเมื่อกี้ที่เจอเธอคนนั้นนี่น่า ...
“ ทางนี้ ๆ หลังห้องเหมือนเดิมไม่มีใครแย่ง ฮี่ ๆ “ น้ำที่ไปนั่งรออยู่หลังห้องอยู่แล้วโบกมือเรียกผมที่กำลังกวาดสายตามองดูว่าที่เพื่อนใหม่ของผมไปทีละคน ๆ แน่นอนว่าผมใช้ความสามารถมองเห็นด้ายแดงไปด้วย เผื่อฟลุ๊คที่จะเจอเนื้อคู่ของผมในห้องนี้ ... ก็ได้แต่ฝันไปล่ะนะ ..
“ ว่าแต่ทำไมถึงโดนย้ายห้องล่ะเนี่ย “ หลังจากเดินไปนั่งเสร็จเรียบร้อยผมก็เริ่มบทสนทนากับเพื่อนรักทันที
“ ผลการเรียนไง ปีที่แล้วเราสองคนได้คะแนนดีสุดในห้องก็เลยโดนถีบมาอยู่ห้องท็อปไง “
“ หรอ ... น่าเบื่ออ่ะ ไม่อยากมาตั้งใจเรียนแข่งกับคนอื่น ๆ อย่างเรียนไปฮาไปกับพวกกลุ่มเดิมมากกว่า “ ผมตอบแบบสีหน้าเซง ๆ ก่อนจะฟุบลงกับโต๊ะทันที
“ อย่าคิดมากน่า พักกลางวันก็ค่อยไปอยู่กับพวกนั้นก็ได้ เรียนก็ส่วนเรียนสิ ใช่มะตัวเธอ “ หืม ? ตัวเธอ ไอน้ำเองพูดถึงใครฟ่ะ
“ เอ๋... อะ ..... ค ... ค่ะ “
หญิงสาวคนนั้น อยู่ห้องนี้ด้วยงั้นหรอ แถมนั่งใกล้ ๆ กันอีก .... ยิ่งมองก็ยิ่งสวยคนอะไรก็ไม่รู้ แต่ก็ยังไม่ได้ถามซักทีว่าทำไมถึงรู้จักเราได้ เธอนั่งอยู่ติดกับน้ำที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ผมอีกทีนึง
“ เอ๋ !! ไม่จริงน่า หยกกับน้ำอยู่ห้องนี่ด้วยหรอ คิดว่าฉันจะต้องมาแบบโดดเดี่ยวซะแล้วนะเนี่ย “ เสียงผู้หญิงคนนึงที่ผมคุ้นเคยอีกเหมือนกัน เธอคนนี้ก็เป็นเพื่อนรักของผมเช่นกัน ชื่อของเธอคือ ขวัญ ขวัญใจ เฟื่องฟ้า นักกีฬาว่ายน้ำเยาวชนทีมชาติที่ดังสุด ๆ เพราะหน้าตาที่สวย รูปร่างที่ดีระดับนางแบบ ผมดำสั้นเลยปลายติ่งหู ด้านหน้าไว้หน้าม้า นัยน์ตาสีฟ้าอ่อน ๆ ถ้าไม่ใช่เพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ นี่เห็นแว็บแรกมีต้องใจเต้นแน่นอน
“ เออน่า อย่าพูดมากอายคนอื่นเค้า มานั่งนี่มา “ ผมเรียกขวัญมานั่งด้านหน้าของผมซึ่งว่างอยู่
“ ฮี่ ... คิดถึงจังเลยน๊า ไม่เจอกันตั้งสามเดือน เดี๋ยววันนี้เลิกเรียนฉันเลี้ยงไอติมเอาป่ะ “ ขวัญพูดขึ้นพรางหยิบหนังสือร้านอาหารขึ้นมากางให้ผมกับน้ำดู
“ เนี่ย ๆ ร้านเนี่ยเค้าว่าอร่อยสุด ๆ น้ำกับหยกไปด้วยกันนะ “
“ ไปก็ไปสิ ของฟรีชอบอยู่แล้วว่าแต่ขวัญไม่มีซ้อมหรอ วันแรกนะ แถมเป็นกัปตันแล้วด้วย “ ผมถามยัยขวัญเพราะเป็นวันแรกที่เปิดเทอม แถมขวัญยังได้รับหน้าที่เป็นกัปตันชมรมแล้วด้วย
“ ไม่มีปัญหา ชมรมว่ายน้ำเริ่มซ้อมอาทิตย์หน้าย่ะ “ ขวัญตอมพรางยิ้มกริ่ม
“ งั้นฉันไปด้วยล่ะกัน ขวัญเลี้ยงแน่นะ “ ไอน้ำถามขวัญ ขวัญก็หันไปยิ้มให้ก่อนพยักหน้าหงึก ๆ
“ เอ๋ ..... ร้านนั้นมัน .. “
“ หืมมมมมมม “ ขวัญกับผมและน้ำหันไปทางเธอพร้อมกัน
“ ม ... ไม่มีอะไรค่ะ “ เธอพูดก่อนก้มหน้า
“ ว่าแต่เธอชื่ออะไรล่ะ ผมน้ำ คนนั้นหยก ส่วนยัยนั่นขวัญ ยังไงเดี๋ยวเราก็ต้องเป็นเพื่อนกันตลอดหนึ่งปีแล้ว มาทำความรู้จักกันไว้เถอะ “ น้ำหันไปถามเธอคนนั้น เธอก็เงยหน้าขึ้นมาตอบเสียงเบา ๆ
“ ชื่อ... กิ่ง... ค่ะ “ คำตอบของเธอแผ่วเบามากแบบถ้าไม่ตั้งใจฟังก็คงไม่ได้ยิน แต่ผมก็ดันได้ยินซะงั้น
“ งั้นวันนี้หลังเลิกเรียนไปด้วยกันนะ “ ขวัญบอกกับกิ่ง กิ่งได้แต่ยิ้มอาย ๆ แต่ก็พยักหน้าตอบรับคำเชิญไปเรียบร้อย
กิ่งงั้นหรอ ชื่อนี้ผมว่าผมเคยได้ยิน แต่ผมจำไม่ได้ว่าเธอคือใคร แต่ทำไมเธอถึงรู้จักผมและจำผมได้ ....
การเรียนการสอนก็เริ่มขึ้น เวลาผ่านไปไม่นานนักก็ถึงเวลาเลิกเรียนซึ่งผมและเพื่อน ๆ จะไปกินไอติมร้านใหม่ที่พึ่งเปิดตัวได้ไม่นานในตัวอำเภอ แน่นอนว่าผมกับไอน้ำนั้นจะปั่นจักรยานไป ส่วนกิ่งกับขวัญนั้นจะนั่งรถไปรอที่ร้าน ระหว่างที่ทั้งสองคนกำลังเดินออกจากโรงเรียนนั้นทำเอาเหล่าผู้ชายหลาย ๆ คนถึงกับมองตาค้าง กิ่งก็สวยขวัญก็สวย ทำเอาได้เสียงซุบซิบดังระงมไปทั่ว
กิ่งกับขวัญก็ได้ขึ้นรถเมล์ไปล่วงหน้าแล้ว ผมก็น้ำจึงค่อย ๆ ปั่นจักรยานตามหลังไปเรื่อย ๆ จนมาถึงตัวอำเภอปากน้ำซึ่งเป็นอำเภอเก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศ ไม่ว่าจะกี่ปีกี่ปี ก็ไม่เปลี่ยนแปลงเลยซักนิดเดียว ร้านไอติมใหม่ที่ว่านั้นอยู่ตรงวงเวียนหอนาฬิกาหลัก ร้านเปิดอยู่ก่อนจะถึงวงเวียนนิดหน่อย เป็นลักษณะตึกแถวสามชั้น ด้านหน้าร้านมีป้ายสีขาวตัวหนังสือสีดำเขียนไว้ชัดเจนว่า “ GG Café “ ซึ่งไม่ได้มีขายแค่ไอศกรีมอย่างเดียว ยังมีเค้ก กาแฟ และของหวานอีกด้วย ด้านในนั้นเป็นร้านไม่ใหญ่นัก มีเค้าเตอร์อยู่ด้านหน้าร้านชิดมุมขวา ร้านตกแต่งด้วยแสงไฟสีขาวอ่อน ๆ มีสัญลักษณ์ร้านคือตัวเพนกวินสีเหลือง ดูน่ารักน่าชังดีทีเดียว
“ รอนานมั้ยขวัญ กิ่ง “ น้ำถามก่อนค่อย ๆ ลงจากจักรยานเสือหมอบคู่ใจ โดยที่มีผมตามมาติด ๆ
“ อะ ... ไม่นานหรอก ป่ะ .. เข้าไปข้างในกันเถอะ ข้างนอกร้อน “ ขวัญตอบ ก่อนจะจูงมือกิ่งเข้าไปในร้านทันที ผมกับน้ำหลังจากล็อคจักรยานเสร็จเรียบร้อยก็ตามเข้าไปทันที
“ GG Café ยินดีต้อนรับค่า “ เสียงต้อนรับของพนักงานดังออกมาทันทีที่พวกเราก้าวผ่านประตูร้าน พนักงานเป็นหญิงวัยกลางคนที่ยังดูไม่แก่มากเท่าใดนักในชุดพนักงานของร้านสีขาวมีเอี้ยมสีดำลายขาว
“ อ้าว ... กิ่งจะพาเพื่อนมาทำไมไม่บอกก่อนล่ะลูก “ หญิงพนักงานพูดขึ้น พวกผมหันควับไปทางกิ่งทันที กิ่งก็ได้แต่ยิ้มแหยง ๆ
“ พอดีเป็นร้านของฉันเองแหละ ขอโทษนะที่ไม่ได้บอกก่อน “ กิ่งบอกกับพวกเรา ก่อนจะขอตัวเข้าไปเปลี่ยนเป็นชุดพนักงานร้านทันที เพราะจะต้องช่วยงานแม่ของเธอ
“ แหม ๆ ไปเรียนวันแรกก็ได้เพื่อนใหม่มาตั้งสามคน ขอโทษที่กิ่งไปรบกวนพวกเธอนะจ๊ะ “ คุณแม่ของกิ่งพูดขึ้น ก่อนจะบอกให้พวกผมเข้าไปนั่งรออยู่โต๊ะด้านในก่อน ระหว่างรอนั้นกิ่งก็เดินมาพร้อมกับชุดพนักงานร้าน ดูน่ารักขึ้นไปอีกหลายเท่า ทำเอาผมเกือบหยุดหายใจเมื่อได้เห็นแว๊บแรก
“ อ๊ายย ... กิ่งน่ารักอ่ะ นี่ถ้าไม่ติดว่าอยู่ชมรมว่ายน้ำจะขอมาทำงานร้านนี้ด้วยแล้วนะเนี่ย “ ขวัญเพ้อ
“ ม ... ไม่ขนาดนั้นหรอก “ กิ่งหน้าแดงขึ้นมาทันที ผมกับไอน้ำหันมามองหน้ากันก่อนตกลงใจพร้อมกันว่า
“ กิ่งน่ารักว่ะ “ .........
“ ว่าแต่จะทานอะไรกันดีล่ะ เอานี่จะ เมนู “ กิ่งยื่นเมนูให้พวกเรา
“ มาการอง 2 ที่ โกโก้ปั่น 1 ช็อคโก้บานาน่า 1 ล่ะกัน “ ขวัญสั่งคนแรก
“ ลาเต้เย็นกับชีสเค้กครับ “ น้ำสั่งต่อ
“ อ่า ... แล้วแต่กิ่งล่ะกันผมไม่ค่อยถนัดของแบบนี้ “ ผมสั่งออกไปแบบไม่ทันคิดอะไร กะว่าจะหยอกกิ่งเล่น ๆ กิ่งก็หันมามองผมก่อนยิ้มแบบเขิน ๆ ซึ่งทำให้ผมเขินไปด้วย ก่อนที่ผมจะได้น้ำสตอเบอร์รี่ปั่น กับ เครปเค้กราดช็อคโกแลตมาอย่างล่ะที่ ซึ่งรสชาติอร่อยมาก
หลังจากกินเสร็จเรียบร้อย ก็ได้เวลาแยกย้าย วันนั้นคุณแม่ของกิ่งไม่คิดเงินพวกเราซักกะบาทเดียว ทำเอาพวกเราเกรงใจสุด ๆ ให้ยังไงคุณแม่ก็ไม่เอา บอกว่าถือว่าเลี้ยงฉลองเพื่อนใหม่ของกิ่ง มาครั้งหน้าค่อยคิดตัง จึงทำการลาไหว้คุณแม่กิ่ง และแยกย้ายกันกลับบ้าน โดยที่น้ำนั้นไปอีกทาง ขวัญก็ไปอีกทาง ผมก็ไปอีกทาง ระหว่างที่กำลังจะเดินออกไปที่จักรยานนั้น
“ หยก ... คือ ... ขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ย “ กิ่งเดินมาเรียกผมที่กำลังจะก้มลงไขกุญแกที่ล็อคจักรยานอยู่
“ หืม ... มีอะไรงั้นหรอ “
“ หยกมองเห็นไอนี่มั้ย “ กิ่งพูดเสร็จก็ชูนิ้วก้อยข้างซ้ายขึ้นมา ทำเอาผมเกือบหยุดหายใจไปอีกครั้ง เมื่ออยู่ดี ๆ ผมก็มองเห็นเส้นด้ายสีแดงของเธอพุ่งมาที่ตัวผม ทำให้ผมต้องรีบมองไปที่นิ้วก้อยด้านขวาของผมทันที แต่ว่ามันก็ไม่มีด้ายแดงของผม
“ หยกมองไม่เห็นของตัวเองใช่มั้ย แต่กิ่งมองเห็นของหยก พุ่งมาที่กิ่งนะ ... “
“ แต่กิ่งมองไม่เห็นของตัวเองหรอก แต่เค้าว่ากันว่าด้ายแดงของผู้หญิงจะอยู่ที่นิ้วก้อยข้างซ้าย ของผู้ชายจะอยู่ที่นิ้วก้อยด้านขวา หยกมองเห็นใช่มั้ย “ กิ่งพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ผมได้แต่ยืนตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
ผมคิดมาตลอดว่าผมสามารถมองเห็นด้ายแดงได้คนเดียว ผมสามารถรู้ได้ว่าใครเป็นคู่แท้ของใคร แต่ไม่สามารถมองหาคู่ของตัวเองได้ หรือเห็นด้ายแดงของตัวเองได้ ...
“ เราสองคนเหมือนกันสินะ เห็นของคนอื่นแต่ไม่เห็นของตัวเอง “ กิ่งเดินเข้ามาหาผมช้า ๆ ผมทำตัวไม่ถูก ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำอะไรไม่ถูก ตัวสั่นไปหมด .....
“ ตอบหน่อยสิหยก เห็นด้ายแดงของกิ่งมั้ยแล้วมันพุ่งไปที่หยกหรือเปล่า “
“ อืม .... ใช่ .. “ ผมตอบไปสั้น ๆ ก่อนที่จะรีบปลดล็อคกุญแจจักรยานออกทันที
“ ผมเห็นว่าด้ายแดงของกิ่งพุ่งมาที่ผม แต่ผมก็ไม่เห็นของผมอยู่ดี ผมใช้ชีวิตโดยที่มองเห็นด้ายแดงมาตั้งแต่เกิด ไม่นึกว่าจะมีคนอื่นที่เห็นด้ายแดงเหมือนกัน “
“ งั้นเราเป็นคู่แท้กันหรือเปล่า..... “ กิ่งถามด้วยสีหน้าเขินอายสุด ๆ หน้าแดงเป็นสีชมพูอ่อน ๆ อย่างเห็นได้ชัด
ผมได้แต่ยืนคล่อมจักรยานพร้อมกับมองหน้าเธอ ก่อนจะยิ้มให้เธอ .. ท่ามกลางเสียงรถยนต์ที่ผ่านไปผ่านมาดังแทรกเข้ามาเป็นระยะ
“ ไม่รู้สิ .... เราพึ่งรู้จักกันเองนะ “ ผมตอบก่อนจะค่อย ๆ ปั่นจักรยานออกไปทันที ไม่แม้แต่จะหันหลังกลับไปมองกิ่งที่ยืนอยู่หน้าร้าน ....
ในหัวของผมตอนนี้เบลอไปหมด กิ่งคือคู่แท้ของผมอย่างงั้นหรือ แล้วทำไมเธอถึงมองเห็นด้ายแดงเหมือนกับผม ทั้ง ๆ ที่มันน่าจะเป็นความสามารถที่มีแค่ผมคนเดียว ผมเห็นของเธอพุ่งมาที่ผม เธอเห็นของผมพุ่งไปที่เธอ เธอคือคู่แท้ของผมจริง ๆ ใช่หรือไม่ .... แล้วเธอรู้จักผมก่อนทั้ง ๆ ที่ผมไม่รู้จักเธอได้ยังไง .....
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ