ดาวหลงทราย

10.0

เขียนโดย boae

วันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 09.59 น.

  2 ตอน
  0 วิจารณ์
  5,100 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 มกราคม พ.ศ. 2557 20.03 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ช่วยชีวิต part 2

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ในกระโจม ท่านหญิงดิ้นรนให้พ้นจากมือของอุสมาน มือที่ตัดเชือกออกด้วยตัวเองกำแน่นปากส่งเสียงร้องห้ามโจรหนุ่มด้วยท่าทางอ่อนแอ โจรหนุ่มย่ามใจตรงเข้าหาร่างบางของหญิงสาวด้วยไม่ทันระวังตัวคิดว่าหญิงสาวอ่อนแอจะทำอะไรตนเองได้นอกจากแหกปากร้อง แต่ผิดคาดเมื่อก้าวเข้าใกล้หญิงสาว มือหนาหยาบกร้านจับไหล่มนกระชากร่างบางขึ้นประชิดตัว

อุสมานต้องเบิกตากว้างด้วยความเจ็บปวดเมื่อเข่าเล็กกระแทกเข้าตรงกลางกล่องดวงใจ ใบหน้าเขียวขึ้นมาทันตา มือหยาบปล่อยมือจากร่างบางสองมือยกขึ้นกุมอุสมานน้อยทันที หญิงสาวยิ้มเยาะเย้ยขาเรียวยกขึ้นหมายเตะซ้ำเข้าใบหน้าของโจรร้าย แต่มือหนาของโจรก็ยกขึ้นมารับเอาไว้ได้ทัน

อุสมานกระชากขาเรียวอย่างแรงจนหญิงสาวล้มลงกับพื้นอย่างแรง ศีรษะฟาดพื้นอย่างแรงตรงที่มีหินโผล่ขึ้นมาเล็กน้อยแทบหมดสติในทันที ใบหน้าแสดงอาการเจ็บปวดอย่างเห็นได้ชัด สายตาเริ่มพร่ามัว เลือดสดๆ ไหลออกจากแผล

อุสมานขยับกายขึ้นทาบทับหมายขืนใจหญิงสาวที่อ่อนแรงลงเต็มที ถ้าลูกน้องจะไม่ตะโกนเข้ามาเสียก่อนอุสมานหยุดรุกรานร่างบาง หญิงสาวปรือตามองอุสมานด้วยแรงอันน้อยนิดเพราะเลือดที่ออกจากศีรษะและความอ่อนเพลียก่อนหน้า อุสมานทอดสายตาแสนเสียดายคนสวยที่ยังไม่ทันได้ชิมก็มีคนมาขัดจังหวะ

“หัวหน้าเราโดนจู่โจมตอนนี้เราเหลือกันแค่ไม่กี่คนแล้วหัวหน้า” อุสมานพ่นถ้อยคำหยาบออกมาอย่างขัดใจโจรร้ายมองร่างบางที่สลบก่อนหันไปด้านหน้ากระโจม

“ไอ้...ใครมันกล้ามาขัดจังหวะข้าแบบนี้” หญิงสาวปรือตาขึ้นมองอุสมานอีกครั้งก่อนหมดสติไปจริงๆ ทิ้งศีรษะฟุบกับพื้นเลือดไหลนองพื้นทรายแดงฉาน อุสมานจึงทิ้งให้นอนอยู่บนพื้นกระโจมไม่สนใจตรงออกไปจัดการกับคนที่กล้ามาบุกรุกทันที

...........................................

อุสมานออกมาจากกระโจมสายตามองเห็นความตายอยู่ตรงหน้า ลูกน้องนับสิบชีวิตล้มตายลงไปต่อหน้า ความโกรธพุ่งขึ้นก้าวเท้าเข้าหาศัตรูที่บังอาจฆ่าลูกน้องของตน การิมรออยู่แล้วทั้งสองเข้าปะทะกันอย่างดุเดือดอาวุธเพียงกริชที่พกติดตัวแต่ก็ไม่ด้อยไปกว่าโจรร้าย

“เจ้าเป็นใครช่างกล้านักที่มาแหย่กองโจรของข้า” อุสมานร้องถามเสียงเหี้ยมขณะที่ต่อสู้ปะชิดตัวกับชายหนุ่มรูปร่างพอกันและฝีมือก็ไม่ด้อยไปกว่ากันหรืออาจจะเหนือชั้นกว่าด้วยซ้ำ

“ข้าเป็นใครไม่สำคัญส่งผู้หญิงคนนั้นมาให้ข้าก็พอ” การิมไม่สนใจคำขู่ของศัตรูเขาต้องการมาช่วยหญิงสาวที่ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือและถือเป็นการกำจัดอุสมานไปในตัว

“ผู้หญิง เจ้ามาช่วยผู้หญิงอย่างนั้นรึ หึ หึ หึ เจ้าอยากได้ของเหลือเดนจากข้าอย่างนั้นล่ะสิ หึ หึ หึ” คำของอุสมานไม่มีผลต่อชายหนุ่มเพราะตอนนี้ที่เขาต้องทำคือจัดการกับโจรชั่วให้สิ้นชื่อไปซะ

“จะอย่างไรก็ชั่งแต่ข้าจะช่วยนางให้ได้” การิมร้องบอกพร้อมกับเตะเข้าที่กลางลำตัวของหัวหน้ากองโจร

 อุสมานกระเด็นออกไปหนึ่งช่วงแขน ลูกน้องที่เหลือเพียงไม่กี่คนเข้ามาพยุงก่อนจะชักชวนกันหนี อุสมานมองไปรอบๆ ตัวเพื่อดูลูกน้องของตนเอง ตอนนี้เหลือเพียงสองคนร่วมตนเองด้วยก็แค่สามยังไงก็ไม่อาจสู้คนสี่คนที่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ สักนิดเดียวได้

“หัวหน้าพวกเราเหลือไม่กี่คนแล้วหนีก่อนดีกว่า” อุสมานสะบัดแขนลูกน้องออกก้าวเดินเข้าไปต่อสู้เพื่อไม่ให้ศักดิ์ศรีของตนเองถูกหยามด้วยการหนีทั้งที่ยังสู้ไม่ถึงที่สุด

การิมถีบยอดอกโจรร้ายจนลงไปนอนจุกกับพื้นทราย อุสมานก็กำทรายในมือสาดใส่ใบหน้าของการิมที่เดินเข้าหาพลิกกายหนีฝ่าเท้าของการิมที่ยกขึ้นหมายกระทืบซ้ำทั้งที่ถูกทรายปาใส่หน้า ลูกสมุนของโจรร้ายเข้ามาประคองลูกพี่ของตนเองก่อนจะพากันหลบหนีอุสมานยังฝากแค้นทิ้งเอาไว้

“ฝากไว้ก่อนเถอะข้าต้องมาเอาคืนกับเจ้าแน่” การิมปัดทรายออกจากใบหน้าก่อนจะหันไปหาคนสนิททั้งสาม สายตาสำรวจร่างกายของคนสนิทเมื่อพบว่าไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ร่างสูงตรงเข้าไปในกระโจมทันที

หญิงสาวหมดสติเลือดออกที่ศีรษะชุ่มพื้นทำให้ชายหนุ่มตกใจไม่น้อยเข้าไปประคองร่างบางทันที  การิมฉีกชายเสื้อคลุมออกเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าสองชิ้นเพื่อใช้ในการห้ามเลือดของหญิงสาว ก่อนจะพันไปรอบศีรษะของหญิงสาว หลังจากห้ามเลือดให้หญิงสาวเป็นที่เรียบร้อยหัวหน้ากองคาราวานอุ้มหญิงสาวกลับไปที่อูฐของตนเอง

การิมอุ้มร่างบางที่หมดสติขึ้นบนหลังอูฐก่อนตามขึ้นไปอยู่บนหลังควบมันกลับกองคาราวานทันที  สามคนสนิทมองตามชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าด้วยความไม่เข้าใจเหตุใดต้องช่วยหญิงสาวเพียงคนเดียวทั้งที่ไม่ใช่ญาติหรือคนรัก

“เจ้าคิดว่าไงฮายะห์” หนึ่งในสามเอ่ยถามเพื่อนข้างกาย

“เจ้าให้ข้าว่ายังไงล่ะอัลซา” ฮายะห์หันกลับมามองคนที่ถามตนเอง ก่อนที่ใครอีกคนจะเป็นคนอาสาตอบคำถามของอัลซา                                                      

“ข้าตอบเจ้าสองคนเอง” รามิลตบไหล่เพื่อนรักสายตามองตาอูฐของหัวหนากองคาราวานที่จากไปก่อนหน้า

“เจ้านะรึรามิลงั้นว่ามาเลย” อัลซาไม่เชื่อว่ารามิลจะรู้ว่าเพราะเหตุใดที่หัวหน้าของพวกตนจึงเสี่ยงชีวิตช่วยผู้หญิงที่ไม่รู้จัก

“พวกเจ้ารู้นิสัยท่านการิมดีหรือเปล่าล่ะ นั่นคือเหตุผลที่ท่านการิมช่วยผู้หญิงคนนั้นอย่างไรล่ะเรื่องง่ายๆ แค่นี้เอง” คำตอบของรามิลเป็นเหตุผลที่ดีด้วยนิสัยของการิมนั้น อ่อนโยน เมตตาชอบช่วยเหลือคนอื่น แต่ก็โหดเหี้ยม เด็ดขาดหากมีคนมาทำร้ายคนที่ตนเองรัก

“แต่ข้าคิดว่าการได้พบกันครั้งนี้อาจจะมีอะไรที่เปลี่ยนไปก็ได้” ฮายะห์กลับมองไปอีกมุมหนึ่งดูจากสายตาของชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าห่วงใยหญิงสาวที่เพิ่งพบเป็นพิเศษ รามิลพยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของฮายะห์

“อะไรจะเปลี่ยนไปก็ตาม พวกเราได้แต่เฝ้าดูล่ะ แต่ตอนนี้เรารีบไปเถอะท่านการิมคงไปถึงที่พักแล้ว” อัลซายักคิ้วให้กับเพื่อนสนิททั้งสองคนก่อนจะขึ้นอูฐของตนเองควบตามทั้งสองคนกลับกองคาราวาน

.......................................................

กระโจมที่พักของการิม ร่างบางของหญิงสาวที่ถูกช่วยเหลือเอาไว้นั้นนอนอยู่บนฟูกของเจ้าของกระโจม ลมหายใจรวยรินเต็มทีจนคนพามากังวลใจร้อนรนอย่างบอกไม่ถูก หมอประจำกองคาราวานเข้ามาตรวจดูอาการทำแผลที่ศีรษะให้พร้อมกับให้ยาเอาไว้ทาน

“ท่านการิม นี่คือยาข้าช่วยนางสุดความสามารถแล้วขึ้นอยู่กับตัวนางเองว่าจะอดทนได้ถึงแค่ไหนหากข้ามคืนนี้ไปได้นางก็คงรอด ข้าเองก็หวังให้นางรอดชีวิต” ชายสูงวัยหมอประจำกองคาราวานเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าหนักใจกับอาการของหญิงสาวที่หัวหน้าเผ่าช่วยมา

“ขอบใจมากท่านหมออูลู ข้าเองก็หวังเช่นนั้นเหมือนกัน” ชายหนุ่มมีสีหน้าไม่ต่างจากหมออูลูเท่าไหร่นัก

เขาได้แต่ภาวนาว่าหญิงสาวคงจะผ่านคืนนี้ไปได้เช่นกัน สายตาการิมจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าซีดเซียวของหญิงสาวที่เขาช่วยเหลือเธอจากโจรอุสมาน หมออูลูเดินจากไปทิ้งคนป่วยเอาไว้ให้หัวหน้ากองคาราวานดูแล

.................................................

กลางดึก ร่างบางขยับกายไปมาอย่างกระสับกระส่ายจนคนที่นั่งหลับอยู่ใกล้ๆ ต้องลุกขึ้นมาดูใบหน้านวลเต็มไปด้วยเหงื่อ มือหนายกมือขึ้นแตะหน้าผากมนเพื่อวัดไข้ของหญิงสาวเบามือ ก่อนจะชักออกด้วยสัมผัสกับร่างกายร้อนผ่าวราวกับถูกอังด้วยไฟร้อนๆ ของหญิงสาว

ชายหนุ่มรีบลุกออกไปหาน้ำมาเช็ดตัวให้หญิงสาว ยามดึกแบบนี้เขาไม่อยากเรียกใช้ใครเพราะทุกคนคงหลับหมดแล้วนอกจากเวรยามที่คอยรักษาความปลอดภัย ร่างสูงเปิดกระโจมเรียกหาคนสนิทที่เข้าเวรดึกเบาๆ

“ฮายะห์ ฮายะห์ มาหาข้าหน่อยสิ” ชายหนุ่มนามฮายะห์วิ่งเข้ามา พร้อมกับคำถามด้วยความเป็นห่วงนายหนุ่มของตนเอง สีหน้าของหัวหน้าเผ่าดูร้อนรนหนักใจอะไรบางอย่าง

“ครับท่านการิม มีอะไรอย่างนั้นหรือครับ” ฮายะห์ รีบไปจัดการตามคำสั่งทันที

“ไปเอาน้ำมาให้เราที พอดีน้ำในกระโจมเราหมดนะ” ลับร่างของคนสนิทการิมกลับเข้ามาในกระโจมอีกครั้ง ม่านหนาถูกคลี่ออกปิดบังสายตาจากคนนอก การิมไม่อยากให้ใครเห็นร่างบางของหญิงสาวก่อนจะเดินออกไปรับน้ำจากฮายะห์

“ท่านการิมน้ำได้แล้วครับ” ฮายะห์กลับมาพร้อมน้ำตามคำสั่งยื่นให้หัวหน้ากองคาราวานแล้วยืนรออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถอยไปอยู่เวรยามเช่นเดิม การิมปิดกระโจมลงทันทีเมื่อได้รับน้ำมาเต็มเหยือก

“ขอบใจมากไปเถอะข้าไม่มีธุระอะไรจะเรียกใช้เจ้าแล้วล่ะ” ร่างสูงค่อยๆ เทน้ำลงบนผ้าสะอาดจนชุ่มบิดพอหมาด มือหนาค่อยๆ บรรจงเช็ดไปตามใบหน้าของหญิงสาว ชุดสวยถูกปลดออกเพื่อจะได้เช็ดตัวให้หญิงสาวได้ถนัดมือ

ความงดงามตรงหน้าทำให้คนใจแข็งถึงกับนิ่งตะลึง ก่อนจะหลับตาลงระงับความร้อนรุ่มที่พุ่งขึ้นมาอย่างไม่เคยเป็นกับหญิงใดมาก่อน เช็ดตัวให้หญิงสาวทั้งที่หลับตาไม่อยากเห็นสัดส่วนของหญิงสาวมากไปกว่านี้กลัวว่าตนเองจะระงับใจไม่ไหวจนทำอะไรลงไปเฉกเช่นโจรร้าย เช่นนั้นคงไม่ต่างจากโจรอุสมานนัก

การิมสวมเสื้อผ้าของตนเองให้กับหญิงสาว พร้อมกับป้อนยาให้กินแต่หญิงสาวก็ไม่มีแรงแม้กระทั่งจะกลืนยาลงคอ ไม่ว่าการิมจะทำยังไงยาก็ไหลออกจากปากอิ่มทุกครั้งในที่สุด การิมตัดสินใจป้อนยาให้หญิงสาวผ่านทางริมฝีปากของตนเอง

“ขอโทษนะ ข้าจำเป็นต้องทำเพราะไม่อย่างนั้นเจ้าอาจไม่รอด ข้าไม่อยากให้คนสวยๆ อย่างเจ้ามาตายต่อหน้าของข้า” การิมเอ่ยของอนุญาตหญิงสาวเบาๆ

การิมส่งเม็ดยาเข้าปากตัวเองพร้อมน้ำ ประคองร่างบางให้แหงนหน้าขึ้นก่อนจะก้มลงแนบริมฝีปากของตนเองกับริมฝีปากของหญิงสาว ใช้ลิ้นดุนดันเม็ดยาเข้าไปในปากพร้อมกับน้ำให้หญิงสาวกลืนยาลงคอ แต่กว่าเม็ดยาจะกลืนลงคอปากหนาของการิมก็ได้ลิ้มรสความหอมหวานปนขมของคนป่วยแบบไม่ตั้งใจเสียเนินนาน

ยาแม้ว่าจะขมแต่ก็สู้รสหวานจากปากอิ่มของคนป่วยไม่ได้ การิมอมน้ำป้อนให้คนป่วยอีกครั้งลิ้นร้อนก็ควานหาความหวานอีกนิดหน่อย รสชาติของปากอิ่มปนกับยามันหวานๆ ขมๆ แต่ก็เรียกรอยยิ้มจากปากของการิมได้ดี

ร่างบางถูกประคองให้นอนลงอีกครั้ง คราวนี้ไม่มีอาการกระสับกระส่ายนอกจากลมหายใจรวยระริน การิมมองหน้าหญิงสาวเนินนานเพิ่งคิดได้ว่าตนเองรังแกคนป่วยเสียมากมายก็ตอนที่เห็นกลีบปากของหญิงสาวบวมเจ่อจากรสจูบของตนเอง

การิมไม่เคยลืมตัวหลงไปกับความงามของหญิงคนใด นอกจากหญิงคนเดียวที่อยู่ในใจมาตั้งแต่เด็ก น้องสาวของเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันเกือบ 8 ปี เค้าโครงใบหน้าของหญิงสาวเหมือนเด็กหญิงตัวน้อย ช่างเจรจา ปากนิด จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากอิ่มยั่วยวน เขาเฝ้ามองเด็กสาวอยู่และตัดสินใจทำบางอย่างเพราะคิดว่าเด็กสาวเองก็มีใจให้กับเขาเช่นเดียวกันแต่ทุกอย่างมันไม่ใช่

ผู้ชายธรรมดาอย่างเขาถึงจะไขว่คว้าสุดมือแค่ไหนก็ไม่อาจจะคว้าดาวมาแนบกายได้ ถ้าดาวไม่ตกจากฟ้ามาหา ถึงจะเป็นเพื่อนสนิทของของชีคชารีฟและครั้งหนึ่งเคยเป็นถึงหัวหน้าองครักษ์ของชีคผู้ครองแคว้นก็ตามที การิมเฝ้าดูอาการของหญิงสาวที่ตนเองช่วยเหลือเอาไว้ตลอดคืนจนฟ้าสาง

การิมยกมือใหญ่สัมผัสหน้าผากของหญิงสาวแล้วตัวไม่ร้อนแสดงว่าอาการไข้ลดลง ดวงตาของการิมจึงหลับลงได้ด้วยความสบายใจมากขึ้น ร่างบางเริ่มรู้สึกตัวเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสแผ่วเบาดวงตาค่อยๆ ปรือขึ้นก่อนจะหลับลงอีกครั้งจนสายของวัน

.......................................

สายของวันใหม่ ร่างสูงขยับกายบิดไปมาลุกขึ้นจัดการกับตัวเอง ก่อนจะกลับมาดูหญิงสาวที่ยังคงหลับสนิทด้วยรอยยิ้ม การิมออกจากกระโจมเมื่อแสงแดดทอประกายร้อนแรง นมร้อนๆ จากอูฐตัวโปรดถูกส่งมาให้ตรงหน้าพร้อมรอยยิ้มหวานๆ ของสาวน้อยประจำคาราวาน

“นมร้อนๆ ค่ะท่านพี่” การิมรับถ้วยที่บรรจุน้ำนมอูฐร้อนๆ จากมือน้องสาวขึ้นมาดื่มก่อนจะส่งคืนพร้อมกับแกล้งถามหาสิ่งอื่น ดาเนียลน้องสาววัย 18  ปีของการิม ซุกซนช่างเจรจาไม่ต่างจากเด็กสาวที่อยู่ในใจของการิมนัก

“หือ เช้านี้เจ้ามีแค่น้ำนมของเจ้าอินยะห์มาให้พี่เองหรอกรึดาเนียลน้องรัก” มือหนาขยี้ลงบนศีรษะของน้องสาวเบาๆ สาวน้อยช่างอ้อนประจบพี่ชายด้วยอาหารสำหรับคนป่วยที่พี่ชายพามาเมื่อวาน

“ข้ามีอาหารอ่อนๆ สำหรับคนป่วยด้วยค่ะ” เสียงใสของดาเนียลเรียกรอยยิ้มของคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลรอยยิ้มที่ตรึงใจของตนเองมานาน การิมเอ่ยปากชมน้องสาวผู้น่ารักอย่างเอาใจ

“เจ้าเป็นน้องสาวที่น่ารักมากรู้ตัวไหมดาเนียล” ดาเนียลกอดแขนพี่ชายอย่างประจบเอาใจบอกรักพี่ชายตนเองแต่สายตาส่งไปให้ใครอีกคนที่ยืนหน้านิ่งอยู่ไม่ไกล

“ดาเนียลรู้ค่ะก็พี่การิมรักดาเนียล ดาเนียลก็รักพี่การิมนี่ค่ะก็เรามีแค่สองคนพี่น้องตั้งแต่ท่านพ่อกับท่านแม่เสียไป” การิมลูบศีรษะน้องสาวอย่างรู้ทันดูเหมือนน้องสาวจะอยากได้อะไรบางอย่าง

“ประจบพี่แต่เช้าอยากได้อะไรอย่างนั้นรึ” คำถามตรงประเด็นเล่นเอาสาวน้องหน้าแดง แต่ด้วยความเป็นคนช่างพูด กล้าคิด กล้าทำไม่ต่างจากพี่ชายจึงเอ่ยปากบอกสิ่งที่อยากได้

“อยากได้รามิล พี่การิมให้น้องสิคะ” การิมอุทานออกมาด้วยความตกใจ คาดไม่ถึงว่าน้องสาวจะขอคนสนิทของตนเอง คนถูกเอ่ยชื่อที่ยืนอยู่ไม่ไกลถึงกลับสะดุ้งมองหน้าสาวน้อยคาดโทษอยู่ในใจ

“อะไรนะ รามิล ดาเนียลเจ้าเป็นผู้หญิงนะพูดออกมาได้ยังไง” เสียงดุของพี่ชายทำให้สาวน้อยแค่เพียงหน้าสลดแต่ไม่ลดความตั้งใจเดิมของตนเอง

“ก็นั่นสิค่ะ ดาเนียลเป็นผู้หญิงแถมเป็นน้องสาวของหัวหน้าเผ่า สวยด้วยสิ แต่ทำไมรามิลไม่ชอบดาเนียลล่ะคะ” ถ้อยคำของน้องสาวทำให้คนดุเปลี่ยนเป็นหัวเราะชอบใจกับความเจ้าคิดของน้องสาวที่เปรียบเทียบตัวเองกับคนสนิทของเขา

“อ๋อ รามิลไม่สนใจเจ้าว่างั้นเถอะ ก็เลยมาขอรามิลจากพี่ ฮ่า ฮ่า” เสียงหัวเราะขบขันของพี่ชายทำให้คนช่างเจรจาหน้าบึ้ง ดาเนียลส่งสายตาเขียวปัดมายังพี่ชายแถมเลยไปถึงอีกคนที่ก้มหน้าลงมองพื้นทรายแทบไม่ทัน

“ท่านพี่ดาเนียลจะโกรธท่านพี่จริงๆ นะ” การิมกลั้นหัวเราะเอ่ยปากตกลงยกคนสนิทให้น้องสาวง่ายๆ ไม่ถามเจ้าตัวคนถูกยกจะรู้สึกอย่างไร การิมไม่สนหรอกว่ารามิลจะรู้สึกอย่างไรขอแค่ให้น้องสาวมีความสุขก็พอ

การิมยิ้มกว้างก็จะไม่มีความสุขได้ยังไง รามิลแอบมองน้องสาวเขามาตั้งแต่ยังไม่เป็นสาวเต็มตัวเสียด้วยซ้ำ คำตอบของพี่ชายทำให้สาวน้องกระโดดกอดร่างสูงของพี่ชายเต็มแรงจนคนที่ไม่ทันตั้งตัวผงะถอยหลังไปหนึ่งก้าว การิมผลักร่างของน้องสาวออกห่างเอ่ยปากทวงอาหารของคนป่วยด้วยรอยยิ้ม

“เอ้าพี่ยกรามิลให้ แต่เจ้าต้องหาวิธีเอาเองนะให้เขามาสนใจเจ้านะ ไหนอาหารคนป่วยของพี่” ดาเนียลย้ำคำของพี่ชายอีกครั้งก่อนจะหยิบอาหารของคนป่วยจากพี่เลี้ยงส่งให้พี่ชายพร้อมกับยาที่หมอจัดให้

“จริงนะคะ นี่ค่ะอาหารคนป่วยพร้อมกับยาจากหมออูลู งั้นดาเนียลไปก่อนนะคะ” ลับร่างของสาวน้อยประจำคาราวาน การิมหันไปมองหน้ารามินยักคิ้วเปิดทางให้กับคนสนิทตามน้องสาวตนเองไป รามิลส่ายหน้าไปมากับความเอาแต่ใจตัวเองของสองพี่น้องที่ไม่เคยถามความคิดเห็นเขาสักครั้ง ก่อนจะเดินตามร่างบางของดาเนียลไป

.......................................................

ในกระโจม ร่างบางที่ยังคงหลับไม่ตื่นด้วยพิษไข้ตลอดทั้งคนแม้ว่าไข้จะลดลงแล้วแต่ความอ่อนเพลียก็ทำให้หญิงสาวอยากนอนอย่างเดียวเท่านั้น การิมมองดูหญิงสาวด้วยความสงสารรู้สึกแปลกใจตัวเองตั้งแต่ตอนที่ได้เห็นหน้าของหญิงสาวครั้งแรก

กระทั่งเมื่อคืนที่เอาเปรียบหญิงสาวด้วยการป้อนยาด้วยปาก เช้านี้หากหญิงสาวยังไม่ฟื้นเขาคงได้ป้อนข้าวให้เธอด้วยปากอีกแน่ๆ การิมหยุดความคิดของตนเองลงทันที เมื่อได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวจากร่างบางที่นอนอยู่บนฟูก

หญิงสาวค่อยๆ ขยับกายทีละน้อย ดวงตาหลับสนิทค่อยๆ ปรือขึ้นอย่างยากลำบาก มือบางยกขึ้นกุมศีรษะที่ปวดตุบๆ ราวกับจะระเบิดออกมา การิมทรุดร่างลงไปประคองหญิงสาวให้ลุกขึ้นนั่งปลอบโยนเสียงอบอุ่น

“ค่อยๆ ลุกนะเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” หญิงสาวสะบัดศีรษะไปมาบรรเทาอาการปวดที่กำลังเล่นงานตนเองอยู่แต่ก็ไม่ช่วยให้ดีขึ้นนอกจากปวดมากกว่าเดิม

“ข้าปวดหัว ปวดเหมือนจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ” เสียงทุ้มปลอบโยนหญิงสาวประคองให้ลุกนั่ง มือบางปล่อยลงข้างตัวมองหน้าชายหนุ่มด้วยความสงสัย

“ใจเย็นๆ นะกินข้าวก่อนจะได้กินยาแล้วพักซะ” การิมเองก็จ้องหญิงสาวอย่างห่วงใยยิ่งเห็นใบหน้านวลซีด มีเลือดซึมตรงบริเวณแผลที่ทำไว้ก็ยิ่งห่วง

“ท่านเป็นใคร ที่นี่ที่ไหน” การิมตอบคำถามของหญิงสาวด้วยรอยยิ้มของความเป็นมิตร

“ข้าชื่อการิมเป็นหัวหน้าเบดูอิน ที่นี่ก็ทะเลทรายคาร์ซี” มือบางยกขึ้นกุมศีรษะตนเองอีกครั้งเมื่อพยายามนึกว่าตนเองคือใคร

“แล้วข้าเป็นใคร ข้าทำไมจำอะไรไม่ได้เลย โอ๊ยปวดหัว” อาการของหญิงสาวทำให้การิมตกใจไม่น้อยดูท่าเธอจะจำอะไรไม่ได้ยิ่งเสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก็ยิ่งสงสาร การิมพยายามปลอบใจหญิงสาวด้วยการชักชวนให้กินข้าวทอดเสียงทุ้มเอื้ออาทรห่วงใย

“ใจเย็นๆ จำไม่ได้ก็อย่าไปจำมันนะ กินข้าวก่อนเถอะ ข้าป้อนให้มาสิ” หญิงสาวจ้องหน้าของชายหนุ่มนิ่ง อ้าปากรับอาหารที่ชายหนุ่มป้อนให้ หลังกลืนข้าวคำแรกลงคอหญิงสาวก็เอ่ยขอร้องชายหนุ่มตรงหน้าแววตาหวาดหวั่น

“ท่านจะอยู่ใกล้ๆ ข้าได้ไหม ข้ารู้สึกไม่ปลอดภัย ข้าหวาดกลัวอะไรบางอย่างแต่ข้าจำไม่ได้” การิมยิ้มให้กับหญิงสาวไม่ต้องขอร้องเขาก็บอกกับตัวเองว่าจะดูแลหญิงสาวอย่างดี บางทีฟ้าอาจส่งเธอมาให้เขาแทนดวงดาวที่ไม่อาจเอื้อมถึงก็ได้ใครจะไปรู้

“ข้าจะอยู่ข้างๆ เจ้าเอาอย่างนี้นะในเมื่อเจ้าจำชื่อตัวเองไม่ได้ก็อย่าไปจำมันเลย เรามาสร้างความทรงจำใหม่ๆ แก่กันจะดีกว่าเจ้าเห็นด้วยไหม” การิมเสนอความคิดของตนเองขึ้นให้หญิงสาวได้รับรู้ยอมรับว่ามันเป็นสิ่งเดียวที่พอจะทำให้หญิงสาวสบายใจขึ้นและไม่ต้องปวดหัว

“งั้นเริ่มจากตั้งชื่อให้เจ้าใหม่ก่อน ชื่ออะไรดีนะ” การิมครุ่นคิดชื่อใหม่ให้กับหญิงสาวมือก็ป้อนข้าวใส่ปากให้หญิงสาวได้อิ่มท้องไปด้วย เสียงใสของน้องสาวตัวดีดังขึ้นแทรกเข้ามาในความคิดของการิม

“ฟามินาดีไหมท่านพี่” ชายหนุ่มเอ่ยรับอย่างเห็นด้วยก่อนจะอุทานออกมาด้วยความตกใจกับการปรากฏตัวของน้องสาวไม่รู้ว่าจะเห็นเขาทำอะไรลงไปบ้าง

“ฟามินาก็ดีนะ เฮ้ยดาเนียลเจ้าเด็กไร้มารยาทเข้ามาในกระโจมพี่ไม่ส่งเสียเลยไร้มารยาทจริงๆ” น้องสาวไม่ได้สนใจพี่ชายสักนิด นอกจากหญิงสาวที่ดูอายุมากกว่าตนเองไม่กี่ปี ดาเนียลชมหญิงสาวจากใจจริงคนฟังคำชมหน้าแดงเพราะเขินอาย

“ว้าว สวยจังเลย ดาเนียลอยากมีพี่สาวมานานแล้ว” การิมเห็นด้วยกับคำชมของน้องสาวแต่ทำเป็นดุเดี๋ยวจะได้ใจไปมากกว่านี้

“ออกไปได้แล้วฟามินาจะได้ทานข้าวกินยาจะได้พัก” ดาเนียลยังคงไม่ไปตามคำไล่ของพี่ชายยืนนิ่งไม่รู้ไม่ชี้แนะนำตัวเองกับหญิงสาวตรงหน้าที่ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ส่งมาให้

“ข้าชื่อดาเนียลเป็นน้องสาวของพี่การิม มีอะไรให้ดาเนียลช่วยก็บอกนะ” การิมทำตาดุใส่น้องสาวเรียกคนที่พอจะจัดการน้องสาวตัวดีของตนเองได้

“รามิลเจ้าเข้ามาพาดาเนียลไปจัดการทีสิจุ้นจ้านจริงๆ” รามิลจับแขนของดาเนียลพาออกจากกระโจมบ่นหญิงสาวเบาๆ

“ก็บอกแล้วไงว่าอย่าเข้ามา เจ้าไม่ฟังข้าพูดเลยนะดาเนียล” ดาเนียลอ่อนไหวง่ายเพียงแค่คำพูดคล้ายดุของรามิลก็น้อยใจ หญิงสาวออกปากห้ามรามิลดุเธออีกแถมคำขู่ออกไปด้วยหวังว่าคนที่ใจตรงกันจะเข้าใจเธอแต่ไม่เป็นอย่างที่คิด

“รามิล ถ้าดุข้าอีกครั้งเดียวข้าจะไม่พูดกับเจ้าตลอดชีวิต” รามิลไม่สนใจคำขู่ของหญิงสาวเพราะเขารู้นิสัยแบบเด็กๆ ของหญิงสาวดีไม่ถึงห้านาทีก็มาพูดกับเขาทุกที

“ช่างเจ้าสิไม่พูดก็อย่ามาพูดข้าไม่ง้อหรอกนะ” รามิลอาจจะคิดผิดในครั้งนี้ดาเนียลเอาจริง เมื่อเห็นว่าเขาไม่สนใจหรือใส่ใจความรู้สึกของเธอ

“ก็ได้ เจ้าพูดเองนะงั้นต่อนี้ไปก็ไม่ต้องมาพูดกับข้าอีก” การิมส่ายหน้าไปมากับการทะเลาะกันแบบเด็กๆ ของทั้งสองคนจนต้องไล่ให้ออกไปข้างนอกเพื่อให้คนป่วยได้พักผ่อน

“เจ้าสองคนออกไปทะเลาะกันข้างนอกได้ไหมฟามินาจะได้พักผ่อน” ดาเนียลหันมาหาพี่ชายหวังให้เป็นที่พึ่ง ดาเนียลยกเอาเรื่องการแต่งงานขึ้นมาเพื่อลองใจรามิลเป็นครั้งสุดท้ายและการิมก็ดูเหมือนจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี สองพี่น้องส่งซิกกันทางสายตาไม่มีทางที่รามิลจะสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติใดๆ

“ท่านพี่เป็นพยานนะ ข้าตกลงจะแต่งงานกับคนที่ท่านพี่เลือกให้ เรื่องที่พูดกับท่านพี่เมื่อเช้าข้าขอยกเลิกทั้งหมด”

“ตามใจเจ้าเถอะดาเนียล พี่จะส่งข่าวให้ทางโน้นเขารู้อีกทีก็แล้วกัน” เมื่อพี่ชายยอมร่วมมือด้วยดาเนียลก็สะบัดมือให้หลุดจากมือหนาของรามิล ร่างบางก้าวเดินออกจากกระโจมของพี่ชายโดยไม่หันกลับมามองรามิลแม้แต่น้อย คนที่ยืนอึ้งคิดไม่ถึงว่าตัวเองจะทำให้หญิงสาวตัดสินใจแต่งงานกับคนที่พี่ชายเลือกให้ รามิลเดินคอตกตามหญิงสาวออกไปช้าๆ รู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกร่างกายหมดเรี่ยวแรงอย่างบอกไม่ถูก

.........................................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา