นางบำเรอชีคซาตาน

4.0

เขียนโดย boae

วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 11.18 น.

  3 ตอน
  1 วิจารณ์
  15.50K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 มกราคม พ.ศ. 2557 20.15 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) ตอนที่ 2 คนที่ค้นหา

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่ 2 คนที่ค้นหา

วังฟารีจาห์ ห้องทำงานของชีคฟารัส ชีคหนุ่มก้มหน้าก้มตาทำงานไม่สนใจสิ่งใดมากไปกว่างานตรงหน้าหรือหญิงสาวมากมายในฮาเร็ม ชีคฟารัสคิดเพียงว่าตนเองมีหน้าที่รับหญิงสาวเหล่านั้นมาดูแลแทนบิดามารดาของพวกเธอ

ในเวลาสายของวันเป็นเหมือนกิจวัตประจำวันที่ชีคหนุ่มต้องทำ องครักษ์เข้ามารายงานการขอพบจากหัวหน้าเผ่า ชีคหนุ่มคิดที่จะปฏิเสธถ้าหัวหน้าเผ่าที่มาขอพบจะไม่ใช่ชนเผ่าที่อยู่ห่างไกลถึงสุดขอบทะเลทรายอีกฝากหนึ่งของแคว้น

“ขออนุญาตครับท่านชีค ท่านหัวหน้าเผ่าอาลี อุเซน ซาลาลาห์จากเผ่าซาลาลาห์มาขอเข้าพบครับ” ชีคหนุ่มยังคงก้มหน้าทำงาน แม้จะได้ยินสิ่งที่องครักษ์รายงาน องครักษ์นิ่งรอคำสั่งให้เขาพบหรือไม่จากเจ้าชีวิต

“ซาลาลาห์อย่างนั้นรึ มาจากสุดขอบทะเลทรายเลยรึนี่ หวังว่าคงไม่เอาลูกสาวมายกให้เราอีกคนหรอกนะ” เสียงบ่นเบาๆ ของชีคหนุ่มทำให้องครักษ์คนสนิทยิ้ม ด้วยรู้ดีว่าท่านชีคของตนเองเบื่อหน่ายกับการถวายตัวของบุตรสาวชนเผ่าต่างๆ แค่ไหน

“เออ...เห็นว่าจะเป็นเช่นนั้นครับท่าน” คำขององครักษ์ถึงกับทำให้ชีคหนุ่มถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายบ่นไม่จริงจังนัก

“เฮ้อ...อะไรกันนักกันหนา ทำไมถึงชอบพาลูกสาวมาให้เราเลี้ยงกันเสียเหลือเกินนะ” คำบ่นของชีคหนุ่ม ทำให้องครักษ์คนสนิทแอบยิ้ม ก่อนจะเอ่ยถามจุดประสงค์ของตนเอง

“ท่านชีคจะให้พบหรือไม่ครับ” ชีคฟารัสละมือจากงานเซ็นเอกสาร ลุกขึ้นเดินไปนั่งตรงโซฟารับแขกเมื่อคิดว่าคนที่เดินทางมาไกล คงมีเรื่องสำคัญยิ่งกว่าการนำลูกสาวมาให้เขาเลี้ยงเป็นแน่จึงอนุญาต

“ให้เข้ามาได้ อุตส่าห์เดินทางมาไกล หากไม่ให้พบคงจะเคืองข้าน่าดูเชียว” องครักษ์ออกไปเชิญชีคอาลีกับบุตรสาวเข้าพบท่านชีคหนุ่มที่รออยู่แล้ว

ชีคอาลีเดินเข้ามาใบหน้ายิ้มแย้ม ตามด้วยร่างบางของบุตรสาวที่อยู่ในชุดอะบายาสีฟ้าสดใสปิดบังใบหน้ารูปร่างแท้จริงไว้มิดชิด เหลือเพียงดวงตาคมที่ทอดประกายหวานปนเศร้าออกมาให้เห็น ชีคฟารัสต้อนรับชีคอาลีเช่นด้วยกับผู้เฒ่าสภาชนเผ่า ชีคอาลีทำความเคารพชีคหนุ่มในฐานะที่สูงกว่า ด้วยการยกมือขวาแนบอกเช่นเดียวกับหญิงสาวที่ยืนอยู่ด้านหลังบิดา

“เชิญนั่งก่อนท่านหัวหน้าเผ่าซาลาลาห์ ดีใจจริงๆ ที่ได้พบท่าน” ชีคฟารัสเอ่ยขึ้นส่งสายตาสำรวจไปที่แขกผู้มาเยือนทั้งสองอย่างพิจารณาอยู่ในใจ มาตั้งใกล้คงมีเรื่องสำคัญมาก ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหลังคงเป็นบุตรสาวสินะ เฮ้อ คิดแล้วก็น่าปวดหัว ใบหน้าและน้ำเสียงของชีคหนุ่มนิ่งจนคนฟังไม่สามารถจับความรู้สึกได้หากไม่พิจารณาดีๆ

เมื่อนั่งเรียบร้อยตามคำเชิญ ชีคอาลีเอ่ยขอในสิ่งที่ตนต้องการไม่มีการอ้อมค้อมให้ไกล นาดาก้มหน้ามองพื้นห้องโดยตนเองยืนห่างจากเก้าอี้ที่บิดานั่งไม่ไกลนัก พอได้ยินการสนทนาของทั้งสองคนชัดเจน ชีคฟารัสมองหน้าชีคเฒ่านิ่งประเมินสถานการณ์อยู่ในใจ

“ยินดีที่ได้พบท่านชีค ข้าชีคอาลีหัวหน้าเผ่าซาลาลาห์ ชนเผ่าที่แห้งแล้งขาดอาหารข้าอยากของความช่วยเหลือจากท่านชีค" ดวงตาสีน้ำทะเลเหลือบมองร่างบางในชุดอะบายาสีฟ้าสดใสเพียงแวบเดียว

“ท่านอยากให้ข้าช่วยสิ่งใดอย่างนั้นรึ” ชีคอาลีสบตาชีคหนุ่มนิ่งๆ ประเมินความเป็นไปได้เช่นกันก่อนจะเอ่ยปากขอพันธุ์สัตว์ที่ต้องการ

“ข้าอยากขอพ่อพันธุ์แม่พันธุ์อูฐ แพะ แกะ จากท่านอย่างละสิบคู่จะได้หรือไม่” คิ้วเข้มยกขึ้นอย่างแปลกใจเอ่ยถามกลับไปตรงๆ เช่นกัน

“สิบคู่อย่างนั้นรึท่านจะเอาไปทำอะไรตั้งมากมาย” ชีคอาลีเอ่ยถึงชนเผ่าของตนเอง ที่ต้องการอาหารมาเลี้ยงดูคนในเผ่าไม่เพียงพอต่อความต้องการจึงเดินทางมาพบชีคหนุ่ม

“ข้าบอกท่านตามตรง ชนเผ่าของข้าแห้งแล้งปลูกพืชแทบไม่ได้เลย การจะมีชีวิตรอดเพียงอย่างเดียวคือต้องเพาะพันธุ์สัตว์เหล่านี้เพื่อเป็นอาหาร แต่พ่อแม่พันธุ์ที่มีอยู่ด้อยคุณภาพลง ไม่สามารถออกลูกได้ตามจำนวนที่เราต้องการ ข้าจึงเดินทางมาขอให้ท่านช่วย” เมื่อได้ฟังเหตุผลของหัวหน้าเผ่าที่ห่างไกล ชีคหนุ่มตดสินใจให้ตามที่ขอทันที แต่อยากรู้ว่าชีคอาลีคิดจะตอบแทนสิ่งที่ขอด้วยสิ่งใด

“อย่างนั้นเอง ท่านมีสิ่งใดมาแลกเปลี่ยนกับสัตว์พวกนั้นรึ” ชีคอาลีราวกับตัดพ้อกับความแล้งแค้นของชนเผ่าจนถึงกับเอาลูกสาวมาแลกกับพันธุ์สัตว์

“ข้าไม่มีเงินทองมากพอที่จะมาแลกกับสัตว์พวกนั้น นอกจากลูกสาวเพียงคนเดียวที่ข้าคิดว่าน่าจะพอทดแทนกันได้” ชีคฟารัสตอกกลับทันควัน ด้วยคิดเอาไว้แล้วว่าสิ่งตอบแทน คงไม่พ้นร่างบางที่ยืนก้มหน้าอยู่ไม่ไกล

“ข้าไม่อยากได้ลูกสาวท่านหรอกนะ ท่านพานางกลับไปเถอะที่ฮาเร็มข้ามีเยอะแล้ว” เมื่อโดนชีคหนุ่มปฏิเสธตรงๆ คนที่ยืนฟังถึงกลับแทบกระโดดด้วยความดีใจ ที่ชีคหนุ่มไม่ต้องการเธอแต่ชีคอาลีคิดว่านั่นเป็นการดูถูกตนเอง

“ท่านชีคการปฏิเสธน้ำใจจากข้า มันทำให้ข้าและลูกสาวเสียใจอย่างยิ่ง ท่านรับนางไว้เถอะหากนางกลับไปกับข้า มันจะทำให้ข้าเสียหน้าเป็นอย่างมากที่ลูกสาวข้าไม่เป็นที่ต้องการของท่าน” ชีคฟารัสลอบถอนหายใจ ทำไมคนพวกนี้ถึงชอบยกเหตุผลนี้มาอ้างนัก มันทำให้เขาพูดไม่ออกนอกจากต้องรับหญิงสาวเอาไว้เหมือนคนอื่นๆ

“ก็ได้ ข้าจะรับนางไว้ในการดูแล ลูกสาวท่านนางชื่ออะไรรึ อายุเท่าไหร่กัน” ชีคอาลีเหลือบมองลูกสาวที่แม้จะยืนนิ่ง แต่แววตาที่ไหวระริกทอประกายเศร้าออกมาทันทีที่ชีคหนุ่มรับปาก ชีคเฒ่าตอบคำถามของชีคหนุ่มครบแถมรายละเอียดอีกเล็กน้อย

“นางชื่อนาดาปีนี่ก็อายุ 18 ปีพอดี อายุนางสมควรจะมีครอบครัวไปตั้งนานแล้ว แต่ข้ายังมองไม่เห็นใครเหมาะสมกับนาง นางน่ารักอ่อนหวาน เรียบร้อย ข้าจึงพานางมาเพื่อรับใช้ท่านชีค” ชีคฟารัสเออออไปอย่างนั้นเองบอกกับชีคอาลีจะให้ตามที่ขอ แต่ไม่ลืมที่จะถามหาสิ่งที่คนอื่นอยากได้

“อย่างนั้นเองข้าจะให้คนจัดการตามที่ท่านขอ ท่านยังต้องการสิ่งใดอีกหรือไม่” ชีคอาลีปฏิเสธโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา เขาต้องการเพียงพันธุ์สัตว์และอยากให้ลูกสบาย แม้จะไม่แสดงออกว่ารักแต่ใจจริงแล้วไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่รักลูก ขึ้นอยู่กับการแสดงออกของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน เช่นเดียวกับชีคอาลีที่คิดว่านาดาจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับชีคฟารัสนั่นเอง

“สิ่งที่ข้าต้องการคือสิ่งที่ข้าขอจากท่าน ข้าฝากลูกสาวไว้ในการดูแลของท่านด้วยก็แล้วกัน” ชีคฟารัสแปลกใจจริงๆ หัวหน้าเผ่าสุดเขตแคว้นช่างแตกต่างจากหัวเหน้าเผ่าคนอื่นๆ ที่หวังว่าการส่งลูกสาวเข้ามาจะทำให้ตนมีอำนาจวาสนามากขึ้น

ชีคอาลีทำให้ชีคหนุ่มรู้จักอีกแง่มุมหนึ่งของคนที่รู้จักใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ชีคหนุ่มเรียกหาองครักษ์คนสนิทเพื่อสั่งการตามที่ได้ตกลงกับชีคเฒ่า กำชับองครักษ์อีกครั้งให้พาหญิงสาวที่ยืนนิ่งราวกับหุ่นพานางไปหาแม่นมของตนเองที่ดูแลฮาเร็มของบิดาที่ตึกเขียวหลังตึกใหญ่ที่พักของตนเอง

“ข้ารับปากว่าจะดูแลนางให้อยู่ดี กินดี นาซิมเข้ามาสิไปจัดอูฐพันธุ์ดี แพะ แกะพันธุ์ดีอย่างละสิบคู่ให้ท่านอาลี แล้วก็พาบุตรสาวของท่านอาลีไปส่งให้แม่นมข้าเหมือนกับคนอื่นๆ” องครักษ์เชิญชีคอาลีหญิงสาวเพื่อไปยังคำสั่งของชีคหนุ่มทันที

“ครับท่านชีค เชิญท่านชีคอาลีทางนี่ครับคุณหนูด้วยครับ” ชีคอาลีทำความเคารพชีคหนุ่มก่อนออกจากห้องพร้อมกับบุตรสาว

.................................................................

ฟาร์มเพาะพันธุ์สัตว์ องครักษ์นาซิมพาชีคอาลีไปยังศูนย์เพาะพันธุ์สัตว์ประจำแคว้นตามคำสั่งของชีคหนุ่มโดยมีนาดาและราเซียตามไปด้วย ชีคอาลีคัดเลือกอูฐพันธุ์ดีสิบคู่ตามที่ต้องการ แพะ แกะตามจำนวนที่ขอกับชีคฟารัส เมื่อได้สิ่งที่ต้องการเป็นที่เรียบร้อยชีคอาลีก็เรียกคนของตนเองมานำสัตว์ทั้งหมดไปกองคาราวานที่รออยู่นอกเมือง

“นาบี เจ้านำอูฐ แพะ แกะกลับไปที่กองคาราวานก่อนเดี๋ยวข้าตามไป” ชีคอาลีสั่งความคนสนิทที่เรียกคนอื่นๆ มาช่วยกันจูงสัตว์กลับกองคาราวานของตนเอง

นาดายืนมองบิดาสายตาเศร้าสร้อย บิดาที่ผลักไส้เธอให้มาอยู่แดนไกลกับคนที่ไม่คุ้นเคย ไม่รู้จักชีวิตของเธอจะเป็นอย่างไรต่อไปในวันพรุ่งนี้ ชีคอาลีมองสอบตาลูกสาวเพียงคนเดียว สายตาที่เต็มไปด้วยความรัก ความห่วงใย ที่เขาควรจะมอบมันให้กับเธอ ตั้งแต่มารดาเสียไม่ใช้ทอดทิ้งให้หญิงสาวอยู่กับความโดดเดียวมาตลอด

“นาดาลูกรัก สิ่งที่พ่อทำในวันนี้ เพราะพ่อหวังดีหวังให้เจ้ามีอนาคตที่ดีในวันข้างหน้า” คำของชีคอาลีไม่ได้ทำให้บาดแผลในใจของหญิงสาวลดลงได้เลย มันกลับบาดลึกหนักกว่าเดิมด้วยความไม่เข้าใจในตัวบิดาของนาดา

“ท่านพ่อพาลูกมาอยู่ในกรงทองไร้ซึ่งอิสรภาพ ท่านพ่อกักขังข้าเอาไว้กับเขาคนที่ข้าไม่รู้จัก” ชีคอาลีไม่มีอะไรจะเอ่ยได้ดีไปกว่าคำขอโทษบุตรสาวที่ยืนนิ่งฟัง

“ท่านชีคเป็นคนดี ท่านจะดูแลลูกอย่างดี พ่อขอโทษที่ทอดทิ้งเจ้าเอาไว้กับความเหงาเดียวดาย” นาดากลั้นน้ำตาที่มันจะไหลริมให้มันกลับไปยังจุดที่มันมา เธอจะไม่อ่อนแอจะไม่ร้องไห้ให้ใครได้เห็นอีกต่อไป

“ท่านพ่ออย่าได้พูดถึงมันจะดีกว่า ในเมื่อท่านผลักข้าให้มาไกลถึงเพียงนี้ ข้าขอให้ท่านเดินทางปลอดภัย อย่าได้มาใส่ใจว่าข้าจะเป็นอย่างไรต่อจากนี้ไป” เสียงหวานสั่นเครือเอ่ยวาจาประชดประชันบิดา

ชีคอาลีหันหลังกลับทันที เมื่อได้ฟังประโยคตัดพ้ออวดดีจากปากของบุตรสาว นาดามองตาหลังบิดาไปจนลับสายตา ก่อนจะเดินตามหลังองครักษ์นาซิมไปยังตึกเขียวที่พักของนางฮาเร็มเช่นเธอ

.................................................................

ตึกเขียวหรือก็คือ ที่พำนักในส่วนของหญิงสาว ที่ถูกนำมาถวายตัวให้กับชีคฟารัส เป็นส่วนด้านหลังตึกใหญ่ที่พักของชีคผู้ครองแคว้นถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ตึกเดิมอยู่ด้านซ้ายของตึกใหญ่ ชีคหนุ่มยกให้มารดาและภรรยาคนอื่นๆ ของบิดากับบรรดาน้องสาวอยู่เพื่อที่จะได้ไม่วุ่นวาย

ตึกสีขาวด้านขวามือมีขนาดเล็กกว่าตึกใหญ่เล็กน้อย เป็นที่พักของบรรดาน้องชายต่างมารดาของชีคฟารัสบริเวณรอบๆ ตึกใหญ่มีสวนดอกไม้หลายสายพันธุ์ ต้นไม้ใหญ่ที่ให้ความร่มรื่น ซุ้มต้นไม้ที่ใช้เป็นทางเชื่อมระหว่างตึกแต่ละหลังให้ความรู้สึกที่แปลกตา

นาดามองดูความสวยงามของสวนดอกไม้อย่างตกตะลึง ที่นี่ช่างแตกต่างจากชนเผ่าของเธอหลายร้อยเท่านัก องครักษ์พาหญิงสาวมาส่งให้กับแม่นมของชีคหนุ่มผู้ดูแลตึกเขียว แม่นมมองหญิงสาวที่มาใหม่อย่างพิจารณา ก่อนจะพาเธอไปยังที่พักจากนั้นจึงพาราเซียไปยังที่พักคนรับใช้ที่อยู่ไม่ไกลกันนัก

นาดาใช้ชีวิตในวังฟารีจาห์อย่างหวาดระแวง ว่าตนเองจะถูกเรียกหาจากชีคหนุ่ม ในช่วงอาทิตย์แรกแต่ทุกอย่างเงียบเชียบ และได้รับรู้ว่าชีคหนุ่มไม่ประสงค์จะเรียกหาหญิงใดไปรับใช้ในยามค่ำคืน หลังจากนั้นนาดาก็ใช้ชีวิตที่ไม่มีแม่เลี้ยงมาค่อยรังแกอย่างมีความสุข ผูกมิตรกับทุกคนแม้จะมีบางคนไม่ชอบตนเองสักเท่าไหร่ อย่างลิย่าห์ที่ค่อยพูดจาดูถูกแขวะเธอทุกครั้งที่มีโอกาส

“โธ่ น่าสงสารพวกเจ้าดูเด็กน้อยทำเข้า ทำราวกับชนเผ่าของตนเองไม่มีดอกไม้”  ลิย่าห์กับหญิงสาวอีกสองคน พูดจาแขวะหญิงสาวที่นั่งมองดอกไม้หลากสีสัน ในสวนด้านหน้าตึกอย่างหลงใหล นาดาจับแขนราเซียไว้มั่น พร้อมกับห้ามปรามไม่ให้มีเรื่องมีราว ราเซียหมั่นไส้หญิงสาวผิวสีน้ำผึ้ง ที่กล้ามาดูหมิ่นชนเผ่าของเธอ

“ไม่เอาราเซีย อย่าให้มีเรื่องเลยไปกันเถอะ” นาดาดึงร่างของราเซียเดินหนีไปอีกทาง เลี่ยงได้เธอก็เลี่ยงไม่อยากมีเรื่อง ลิย่าห์มองตามอย่างสะใจ

..............................................

มุมหนึ่งของสวนมีซุ้มต้นไม้ทางเชื่อมระหว่างตึก เป็นมุมฉากช่วยบดบังสายทำให้คนที่เดินผ่านไปมา ไม่อาจมองเห็นนอกจากจะมองมาจากด้านบน ซึ่งเห็นในทุกมุมของสวนหน้าตึกเขียว นาดาจูงราเซียมานั่งอยู่ในมุมประจำของตนเองที่สงบมีดอกไม้ ผีเสื้อบินไปมา

“คุณหนูไม่น่าห้ามราเซียเลย ปากดีแบบนั้นมันน่านัก” นาดายิ้มหวานให้กับพี่เลี้ยงของตนเองเอ่ยในสิ่งที่หญิงตรงหน้าเป็นคนสอนเธอมาเองกับมือ

“ราเซียเองไม่ใช่รึที่สอนให้เราใจเย็นอย่าไปมีเรื่องกับใคร” ราเซียที่อยากมีเรื่องเต็มที่ถึงกับพูดอะไรไม่ออกพอกับที่แดดเริ่มแรงขึ้นพี่เลี้ยงใจร้อนจึงชวนนายสาวกลับเข้าที่พัก

“โธ่...คุณหนูก็...ก็ได้ค่ะไปค่ะแดดแรงมากแล้วกลับเข้าห้องเถอะค่ะ” นาดากับราเซียเดินจากไปได้ไม่นานคนที่อยู่ด้านบนก็ลุกขึ้นมายืนมองคนด้านล่าง ผ่อนคลายความเมื่อยล้าจากการนั่งทำงานนาน สายตาเห็นหญิงสาวมากมายก็ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายใจ

...............................................................

วังฟารีจาห์ หลังจากผ่านไปหนึ่งปีกับหนึ่งเดือน ปัญหาเดิมๆ กลับเข้ามาให้ชีคหนุ่มผู้ปกครองแคว้นต้องวุ่นวายใจ เมื่อหนึ่งปีของเงื่อนไขหมดลงไปอย่างรวดเร็วราวกับนาฬิกาวิ่งได้ สภาชนเผ่าขอเข้าพบพร้อมกับทวงถามในคำสัญญาของชีคหนุ่ม องครักษ์พ่วงตำแหน่งเลขาเตือนชีคหนุ่มเรื่องการประชุมสภาชมเผ่าอีกครั้ง

“ท่านชีคครับ วันนี้มีประชุมสภาชนเผ่าตอนสิบโมงนะครับ” ชีคฟารัสกุมขมับไม่รู้ว่าตนเองจะทำอย่างไรดีกับปัญหาเดิมที่เขาเป็นคนเลื่อนมันมาได้หนึ่งปี ในที่สุดก็ต้องหาชีคคาเพื่อสืบทอดทายาทอีกจนได้

“ข้ารู้แล้วนาซิมไม่ต้องเตือนหรอก ข้ารู้ด้วยว่าพวกตาเฒ่านะอยากให้ข้าทำอะไร ทำไมหนึ่งปีมันผ่านไปเร็วอย่างนี้นะนาซิม” เสียงบ่นของชีคหนุ่มที่องครักษ์คนสนิทไม่สามารถช่วยอะไรได้

“มันเป็นหน้าที่ครับท่านชีคเพื่อความมั่นคงของแคว้น” ชีคหนุ่มมองหน้าองครักษ์แล้วถอนหายใจออกมาอีกครั้ง

“เรายังสนุกกับการทำงานอยู่เลยนะไม่อยากเอาใครมาทำให้เราวุ่นวายใจ” นาซิมยิ้มขำๆ กับคำของชีคหนุ่ม ชายอื่นต้องการมีหญิงสาวมากมายแต่เจ้านายของเขารึกลับไม่อยากวุ่นวายกับหญิงใด นาซิม ลองแกล้งเสนอความคิดของตนเองให้ชีคหนุ่ม

“ท่านชีคก็ยังไม่ต้องตั้งใครขึ้นเป็นชีคคาก็ได้นี่ครับ แค่เพียงหญิงคนนั้นมีทายาทให้ท่านชีคก็พอ” ชีคฟารัสแม้จะเห็นด้วยกับความคิดขององครักษ์ แต่ก็ไม่อยากทำร้ายเพศแม่มากไปกว่านี้ด้วยการให้ความหวังกับพวกเธอ

“นาซิมผู้หญิงเขาก็มีจิตใจเหมือนกันนะ เราเองก็ไม่อยากยุ่งกับคนที่เราไม่ถูกใจจริงๆ หรอก” องครักษ์หนุ่มไม่เห็นด้วยกับเจ้านายสักเท่าไหร่จึงเปรียบเทียบหญิงสาวของชีคหนุ่มนั้นงดงามราวกับดอกไม้แรกแย้ม

“ท่านชีคมัวแต่ทำงานก็เลยมองไม่เห็นความงามของหญิงสาวที่กำลังบานสะพรั่งราวกับดอกไม้แรกแย้มในสวนรอบวัง” ถ้อยคำขององครักษ์ทำให้ชีคหนุ่มนึกอยากเห็นหน้าบรรดาสาวๆ ของตนเองขึ้นมาหลังจากที่พยายามมาตลอดที่จะไม่ยุ่งเกี่ยวแต่ก็ไม่สามารถจะเลี่ยงได้อีกต่อไป

“นั้นสินะ หลังจากประชุมเสร็จเราคงต้องมองหาดอกไม้แรกแย้มสักดอกแล้วสิอย่างนั้น” ถ้อยคำของชีคหนุ่มทำให้คนที่ออกแรงเชียร์สมหวัง อย่างน้อยชีคหนุ่มก็ทำใจให้ยอมรับกับการมีความสัมพันธ์กับหญิงสาวในฮาเร็มได้สักที

“ครับเป็นสิ่งที่ท่านควรจะทำอย่างยิ่ง” ชีคหนุ่มเดินนำหน้าองครักษ์ออกจากห้องทำงานตรงไปยังที่ประชุมสภาที่บรรดาหัวหน้าเผ่าต่างมารอเข้าประชุมในครั้งนี้

“ไปเราไปประชุมกับพวกตาเฒ่ากันดีกว่านาซิม” องครักษ์หนุ่มอดที่ขำคำเรียกขานของเจ้านายที่ใช้เรียกบรรดาสภาชนเผ่าไม่ได้ ร่างสูงสง่าเดินนำตามด้วยองครักษ์เพื่อเข้าห้องประชุมที่อยู่ไม่ไกลกันนัก

............................................................

ตอนบ่ายของวัน หลังจากการประชุมสภาอันเคร่งเครียดผ่านไปได้หลายชั่วโมง ชีคหนุ่มกลุ้มใจกับการเลือกหญิงสาวที่จะมาทำหน้าที่ผลิตทายาทให้ตนเองด้วยความลำบากใจ ใจของตนเองอยากเลือกคนที่ตนเองพอใจเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่บรรดาสภาชนเผ่าก็บีบให้เขาเลือกหญิงสาวนามลิย่าห์ด้วยมีฐานะเป็นบุตรสาวของหนึ่งในหัวหน้าของสภา

ชีคหนุ่มไม่ต้องการพบใครอยากคิดอะไรคนเดียวเงียบๆ จึงสั่งองครักษ์ห้ามใครเข้าพบก่อนจะพาตัวเองมายืนอยู่ในห้องสมุด มุมหนึ่งที่สามารถมองเห็นหญิงสาวในฮาเร็มของตนเองได้ชัดเจนในมุมสูง องครักษ์นาซิมรับคำสั่งมองตามหลังท่านชีคที่หายลับไปกับประตูเชื่อมห้องทำงานไปสู่ห้องสมุดใหญ่

“นาซิมบ่ายนี้เราไม่อยากพบใคร แม้แต่ท่านแม่หรือบรรดาน้องๆ ของเรา” องครักษ์นาซิมเดินไปกดล็อกประตูหน้าห้องทำงานปิดกั้นการเข้าพบท่านชีคของตนเองตามที่สั่ง

ชีคฟารัสยืนมองบรรดาหญิงสาวมากหน้าหลายตา บางคนก็สวยสะดุดตาแต่ไม่โดนใจ หญิงสาวมากมายพักผ่อนอยู่ในสวนหน้าตึกเขียว ในฮาเร็มเป็นส่วนของผู้หญิงไม่มีชายใดล่วงล้ำเข้ามาได้นอกจากชีคฟารัสเพียงคนเดียว

หญิงสาวในฮาเร็มต่างพักผ่อนอยู่ในส่วนของตนเอง บางคนนั่งเล่น บางคนเดินชมดอกไม้ พูดคุยสนุกสนาม ชีคหนุ่มหันหลังกลับบังเอิญสายตาเหลือบไปเห็นหญิงสาว ที่วิ่งไล่จับผีเสื้อที่มาเกาะดอกไม้เหมือนเด็กตัวเล็กๆ สายตาคมหันกลับมามองให้เห็นเต็มตา

หญิงสาวผิวขาวราวกับน้ำนม กิริยาที่แสดงออกเป็นธรรมชาติไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ รอยยิ้มหวานที่ทำให้โลกทั้งใบสดใสขึ้นมาทันตา ใบหน้างดงามยิ่งกว่าหญิงสาวคนใดในสถานที่นั้น ชีคหนุ่มตกตะลึงไปกับความงดงามของหญิงสาว รอยยิ้มผุดขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวหัวเราะ ร่าเริง ออกวิ่งไล่จับผีเสื้อตัวน้อยดูเธอมีความสุขมากมาย

ชีคหนุ่มขมวดคิ้วเข้มเข้าหากันอย่างสงสัย เขาใช้ความคิดอย่างหนัก หญิงสาวที่เห็นเป็นใครมาจากไหน ทำไมเขาถึงจำไม่ได้ว่ามีรับเธอคนนั้นเข้ามาในฮาเร็มตอนไหนกัน เมื่อไม่อาจหาคำตอบให้กับตนเองได้สมองสั่งการ ขายาวก็พาร่างสูงสง่ามุ่งตรงไปหาเป้าหมายในสายตาทันที บอกกับตัวเองว่าเขาพบแล้วคนที่ต้องตาและถูกใจที่สุด

....................................................

สวนหน้าตึกเขียว นาดาวิ่งไล่จับผีเสื้อกับราเซียอย่างสนุกสนาน เธอมีความสุขที่ได้อยู่ที่นี่ หนึ่งปีที่ผ่านมาถึงเธอจะคิดถึงบิดาแค่ไหนก็ไม่อาจทำให้บิดามาสนใจในตัวเธอได้ นอกจากทำใจให้ยอมรับในสิ่งที่บิดาเลือกให้เธอแล้ว

หนึ่งปีที่ผ่านมาชีคฟารัสผู้เป็นเจ้าชีวิตของเธอ ไม่เคยเรียกเธอเข้าไปรับใช้สักครั้ง นั่นทำให้เธอรู้สึกโล่งใจในช่วงแรกๆ แต่นั่นทำให้ตัวเองต้องเก็บมาคิดมาก เธอคงไม่เป็นที่ต้องการของใคร แม้แต่ตอนนี้ที่ยิ้มหัวเราะสนุกสนานลึกๆ แล้วหัวใจก็ยังโหยหาความรักจากใครสักคนที่จะมาทดแทนความรักที่บิดาไม่เคยมอบให้เธอ

ร่างสูงหยุดอยู่มุมหนึ่งไม่ไกลกันจากที่นาดาและราเซียววิ่งเล่นอยู่ มุมนี่ถ้าไม่สังเกตแทบจะมองไม่เห็นจากสายตาของคนภายนอก ชีคหนุ่มค่อยๆ ก้าวเข้าไปใกล้หญิงสาวที่ละก้าว สายตาจับจ้องหญิงสาวที่เคลื่อนไหวร่างกายไปมา เพียงแค่มองก็ทำให้ร่างกายร้อนวูบวาบอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับหญิงใดมาก่อน

ราเซียที่หัวเราะไปกับหญิงสาวหยุดชะงักลงเมื่อเห็นมาผู้ใดเดินเข้ามา นาดายังคงมีความสุขกับการวิ่งไล่จับผีเสื้อสีสวยที่ดอมดมดอกไม้หลากสีสัน ราเซียหลบไปยืนอยู่ไม่ไกลเมื่อชีคหนุ่มทำสัญญาณไม่ให้ส่งเสียงดังพร้อมกับโบกมือไล่พี่เลี้ยงสาวให้ออกไป

ร่างบางแต่ว่าอวบอิ่มไปทั้งตัว ตั้งหน้าตั้งตาจับผีเสื้อแล้วก็จับได้ตัวหนึ่ง เสียงหวานเรียกหาพี่เลี้ยงเพื่ออวดผลงาน สายตาก้มมองสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในมือไม่ได้สนใจทางข้างหน้าว่าจะชนใคร เพราะคิดว่ามีเพียงเธอกับพี่เลี้ยงเพียงสองคน

“จับได้แล้ว ราเซีย ดูสินาดาจับผีเสื้อได้แล้วราเซีย อุ๊ย” ร่างบางชนเข้ากับแผ่นอกกว้างเต็มแรงจนเกือบหงายหลังดีที่มือหนาคว้าร่างของเธอเอาไว้ทัน มือที่จับผีเสื้อไว้เผลอปล่อยมือออกทำให้ผีเสื้อในมือบินหนีไปอย่างรวดเร็ว นาดาเงยหน้าขึ้นมองคนที่เธอชน สายตาคมสีน้ำทะเลจ้องมองเธออยู่ราวกับสะกดเธอให้หยุดนิ่ง

ใบหน้าหวานแววตาปนความเศร้าผิวขาวเนียน ทำให้ชีคหนุ่มตกตะลึงในความงามของหญิงสาวมือที่คิดจะคลายออกกับดึงร่างบางให้แนบชิดมากยิ่งขึ้น ชีคหนุ่มก้มใบหน้าลงใกล้ก่อนจะฉกฉวยชิมรสหวานจากริมฝีปากอิ่มที่เผยอขึ้น นาดาเบิกตากว้างตกใจอย่างที่สุด ไม่เคยมีชายใดบังอาจมาทำเยี่ยงนี้กับเธอแล้วชายผู้นี้คือใครกันที่กล้าเข้ามาในที่ส่วนตัวของชีคฟารัสและยังกล้ามาทำแบบนี้กับเธอ

ชีคหนุ่มลิ้มลองความหอมหวานจากปากอิ่มราวกับต้องมนตร์ ลิ้นสากสอดเข้าไปในโพรงปากควานหาความหวาน ลิ้นเล็กๆ ที่หลบหลีกไม่ยอมเกี่ยวพันแต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับคนมากประสบการณ์ จูบแรกจากชายแปลกหน้าช่างหวานซาบซ่านจนร่างกายอ่อนระทวย

นาดาหลับตาพริ้มไปกับรสซาบซ่านของจุมพิตที่ได้รับ ก่อนจะถูกผลักออกเบาๆ สติที่หลุดลอยไปกลับคืนสู่ร่างกาย นาดาตวัดมือบางลงไปเต็มแก้มของชีคหนุ่ม ก่อนที่เจ้าตัวจะวิ่งหนีไปด้วยความหวาดกลัว  ชีคฟารัสยกมือขึ้นลูบแก้มที่ถูกหญิงสาวฝากรอยรกเอาไว้ยิ้มอย่างหมายมั่น

“อย่าคิดว่าเจ้าจะหนีข้าพ้นนะสาวน้อย คนที่ทำร้ายข้าไม่มีทางรอดไปได้หรอก” ชีคหนุ่มมองหาหญิงสูงวัยที่คิดว่าน่าจะเป็นพี่เลี้ยงของหญิงสาว หางตาเหลือบไปทันได้เห็นราเซียกำลังจะเดินตามเจ้านายของตนเองเสียงเรียกของชีคหนุ่มทำให้หญิงสูงวัยเดินย้อนกลับมา

“เจ้านะออกมานี่สิอย่าคิดหนีไปแบบเจ้านายของเจ้า” ราเซียมีสีหน้าวิตกกังวลใจไม่น้อยที่เห็นเจ้านายน้อยของตนตบหน้าของชีคหนุ่ม เอ่ยขอร้องแก้ตัวแทนหญิงสาวด้วยความห่วงใย

“ท่าน...ท่านชีคอย่าลงโทษคุณหนูนาดาเลยนะคะ เธอยังเด็ก เธอคงจำท่านชีคไม่ได้จริงๆ” ชีคหนุ่มมองหญิงสูงวัยก้มหน้าร้องขอแทนนายสาว น้ำเสียงเข้มถามความเป็นมาของหญิงสาวที่ตนเองเพิ่งได้พบด้วยความสนใจ

“ไม่ต้องแก้ตัวให้กันหรอก เจ้านายเจ้าชื่ออะไร ทำไมข้าถึงจำไม่ได้ว่าเธออยู่ที่นี่” ราเซียบอกชื่อหญิงสาวการเข้ามาอยู่ในฮาเร็มแห่งนี้และบิดาของเธอ

“คุณหนูนาดาเจ้าค่ะ ท่านชีคอาลีพามาถวายตัวให้ท่านชีคเมื่อปีก่อนเจ้าค่ะ ท่านชีคอาลีคือบิดาของคุณหนูหัวหน้าเผ่าซาลาลาห์เจ้าค่ะ” ชีคฟารัสยิ้มอย่างพอใจ อย่างน้อยหญิงสาวก็เป็นถึงลูกสาวหัวหน้าเผ่า ฐานะไม่ได้ต่ำต้อยไปกว่าลิย่าห์เลยสักนิด

“อ๋ออย่างนั้นเอง เจ้ากลับไปเตรียมตัวเจ้านายเจ้าให้ดี คืนนี้ข้าจะเรียกเจ้านายมาลงโทษที่บังอาจตบหน้าข้า” ราเซียไม่รู้ว่าจะดีใจหรือเสียใจแทนหญิงสาวดี การที่ท่านชีคเรียกตัวเข้าพบอาจทำให้อะไรๆ เปลี่ยนไปหลายอย่าง หรือไม่ท่านชีคอาจแค่ลงโทษเจ้านายของเธอที่บังอาจทำร้ายร่างกายของท่านชีคก็ได้

“เจ้าค่ะราเซียจะทำตามที่ท่านสั่ง” เมื่อสั่งความเสร็จชีคหนุ่มก็เดินกลับห้องพักของตนเองอย่างสบายใจมากขึ้น ความกังวลใจลดน้อยลงเหลือเพียงทำอย่างไรให้หญิงสาวยินยอมพร้อมใจไปกับเขา แต่มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรอยู่แล้วสำหรับชีคอย่างเขา

....................................................................

ยามค่ำคืนในห้องนอนของนาดา ราเซียจัดการเตรียมความพร้อมให้เจ้านายของตน หญิงสาวอยู่ในชุดนอนสีขาวบางเบาเห็นทุกสัดส่วนส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกาย นาดาอยากจะขัดขว้างในสิ่งที่ราเซียทำให้แต่ด้วยสำนึกได้ว่า เธอมาอยู่ที่นี่ก็เพื่อทำสิ่งนี้เป็นนางบำเรอให้กับชีคผู้ครองแคว้น ใบหน้าหวานแววตาปนเศร้าเหมือนครั้งที่ถูกบิดาพามาที่นี่ เสียงหวานเอ่ยถามพี่เลี้ยงคนสนิทน้ำเสียงเศร้าสร้อยไร้ความสุขเช่นทุกวัน

“ราเซีย ทำไมท่านชีคถึงได้เลือกเราทั้งที่ก็ผ่านมาตั้งหนึ่งปีแล้ว” ราเซียได้แต่ปลอบใจเรื่องแบบนี้มันควรจะเกิดขึ้นมานานแล้ว เมื่อคุณหนูของเธอก็งดงามไม่แพ้หญิงใดในฮาเร็มแห่งนี้

“คุณหนูอย่าคิดมากไปเลยนะคะ คิดเสียว่าเราทำไปตามหน้าที่ของภรรยา” เสียงหวานเอ่ยถามด้วยความหวาดหวั่นใจ หนึ่งปีก่อนเธอพบความเฉยชาจากชีคหนุ่ม หนึ่งปีต่อมาเขากลับเรียกหาเธอไม่รู้เพราะเหตุใดกัน

“ราเซียท่านชีคดุไหมนาดากลัว” พี่เลี้ยงยิ้มน้อยๆ จับมือนายสาวขึ้นมาบีบเบาๆ ให้กำลังใจ

“อย่ากลัวไปเลยค่ะ ท่านชีคเป็นคนมีเหตุผลค่ะ” คำปลอบโยนของพี่เลี้ยงไม่ทำให้นาดาคลายความกังวลลงได้ ซ้ำยังร้องขอในสิ่งที่พี่เลี้ยงไม่อาจทำได้

“ราเซียอยู่เป็นเพื่อนนาดาด้วยนะ” ราเซียปฏิเสธเสียงหวาน จับจูงร่างบางออกเดินจากห้องนอนไปยังหน้าตึกที่มีคนมารอรับหญิงสาวเพื่อพาไปหาชีคหนุ่ม นาดาไม่อาจปล่อยมือจากราเซียได้ด้วยความหวาดหวั่นอยู่ในใจ

“ราเซียคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอกค่ะ” พี่เลี้ยงสาวพยายามแกะมือบางที่จับมือนางเอาไว้ไม่ยอมปล่อย แต่หญิงสาวไม่ยอมส่ายหน้าไปมาแววตาหวาดกลัว หญิงสาวตัวสั่นราวกับลูกนกจนราเซียใจอ่อนยอมเอ่ยปากไปส่งหญิงสาว

“ปล่อยเถอะค่ะ ราเซียจะไปส่งคุณหนูที่หน้าห้องท่านชีคพร้อมกับนางพวกนี้เอง” เพียงแค่นั่นร่างบางที่ขาดความมั่นใจในตัวเองก็เดินกุมมือพี่เลี้ยงไปที่ตึกใหญ่ ท่ามกลางหมู่ดาวที่ออกมาล้อเล่นกับแสงจันทร์ข้างแรม

..................................................................................

ห้องสำหรับกิจกรรมเฉพาะกิจของชีคหนุ่มกับนางในฮาเร็ม อยู่ติดกับห้องนอนใหญ่ของชีคหนุ่มที่มีประตูเชื่อมติดกัน นาดานั่งก้มหน้าอยู่กับพื้นรอคอยการมาของชีคผู้ครองแคว้น ร่างสูงในชุดนอนตัวยาวสีขาวเปิดประตูก้าวเข้ามาในห้องที่ไม่เคยได้ใช้ ร่างบางของหญิงสาวผู้มีริมฝีปากอิ่มรสหวานที่เขาได้ลองชิมเมื่อบ่ายยังคงให้ความรู้สึกหวานอยู่ที่ริมฝีปาก

“เงยหน้าขึ้นสิ บอกมาสิเจ้าชื่ออะไร ปีนี้เจ้าอายุเท่าไหร่กัน” เสียงทุ้มนุ่มทำให้คนที่ก้มหน้าจำต้องเงยหน้าขึ้นสบตาตา ดวงตาหญิงสาวเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น ยิ่งได้เห็นใบหน้าของชายที่ได้จูบแรกจากเธอไปก็ยิ่งหวาดหวั่นเมื่อเธอตบหน้าเขาไปเต็มแรง

“นาดาเจ้าค่ะ ปีนี้อายุสิบเก้าปีย่างยี่สิบปีเจ้าค่ะ” เสียงหวานสั่นไหวด้วยความหวาดกลัวบทลงโทษที่ตนเองบังอาจไปตบหน้าเจ้าชีวิตเข้าโดยไม่รู้ตัว ชีคหนุ่มพากายตนเองไปทรุดนั่งบนเตียงนอนกว้างเอ่ยปากเรียกหญิงสาวให้ลุกขึ้นมานั่งด้วยกัน

“ลุกขึ้นสิ มานั่งตรงนี้ข้างๆ ข้านาดา” หญิงสาวขยับกายลุกขึ้นเดินไปทรุดกายลงนั่งข้างๆ ชีคหนุ่มก้มหน้ามองมือตัวเองด้วยความเขินอาย บวกกับความผิดติดตัวอยู่ทำให้ไม่กล้าสบตาคมที่มองเธอนิ่งราวกับค้นหาอะไรบางอย่างจากตัวเธอ

ชีคฟารัสเชยคางมนให้เงยหน้าขึ้น เพื่อสบตาของตนเองสายตาที่ดึงดูดกันและกันทำให้ใจของหญิงสาวเต้นแรงเร็วรัวยิ่งกว่าตีกลองเสียอีก ชีคหนุ่มก้มหน้าลงหมายที่จะลิ้มลองรสหวานที่ติดใจจากปากอิ่มอีกสักครั้ง แต่หญิงสาวกับพูดบางสิ่งที่ทำให้ชีคหนุ่มชะงักงั้น

“ข้ายังไม่พร้อมข้าขอเวลาทำใจสักหน่อยได้ไหมเจ้าคะ” ชีคหนุ่มปล่อยมือออกจากร่างบางจ้องหน้าหวานนิ่ง ก่อนจะเอ่ยถามเสียงเข้มใบหน้าหล่อคมสันหนวดเคราเขียวแววตาหวานดุดันขึ้นมา

“ทำไมเจ้าต้องขอเวลาทำใจ เจ้ารู้ไหมมีผู้หญิงอีกมากมายที่อยากเข้ามาอยู่ในห้องนี้ อยู่ในอ้อมกอดของข้า” นาดาตัวสั่นด้วยความกลัว แต่ปากก็ยังกล้าที่จะต่อรองแม้จะดูไร้หนทาง

“ข้ามิได้ปรารถนาจะอยู่ในอ้อมกอดของท่านชีคแม้แต่น้อย” วาจาของนาดาทำให้ชีคหนุ่มรู้สึกเหมือนถูกหยามเขาไม่มีทางปล่อยให้เธอหลุดมือไปอย่างแน่นอน แต่ด้วยเป็นคนมีเหตุผลมากกว่าใช้อารมณ์จึงข่มความโกรธไว้ใต้ใบหน้านิ่งเรียบเอ่ยถามหญิงสาว

“เพราะเหตุใดกันบอกข้ามาสิว่าเพราะอะไร” นาดาไม่รู้จะหาสิ่งใดมาเป็นเหตุผล นอกจากเธอมีคนรักอยู่แล้ว โดยไม่รู้ว่าตัวเองได้โยนน้ำมันเข้ากองไฟที่กำลังก่อตัวขึ้นให้ลุกโหมแรงกว่าเดิมหลายเท่า

“เพราะข้ามีคนรักอยู่ที่ชนเผ่า ข้าไม่อาจทรยศจากคนรักของข้าได้” ใบหน้าหล่อบึงตึงหงุดหงิดมากกว่าเดิม ถ้าหญิงสาวมีคนรักอยู่แล้วเหตุใดถึงยอมมาอยู่ในฮาเร็มของเขา แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดเขาไม่ยอมให้เธอเป็นของชายใดนอกจากเขาเพียงคนเดียว

“ดีมากเจ้าเป็นคนตรงดีมาก ข้าขอสั่งเจ้านับแต่วินาทีนี้เป็นตนไป ห้ามเจ้าคิดถึงชายใดอีกนอกจากข้าเพียงคนเดียวเท่านั้นเข้าใจไหม” นาดาตกใจหนักกว่าเดิม เมื่อมือหนาจับไหล่บางของเธอทั้งสองข้างเขย่าไปมาจนเธอมึนหัว

หญิงสาวเครียดตั้งแต่ถูกจูบและหวาดกลัวชีคหนุ่มอยู่ลึกๆ เริ่มตาลายจากแรงเขย่าของชีคหนุ่มก่อนล้มพับไป ชีคหนุ่มตกใจไม่น้อยเมื่ออยู่ๆ หญิงสาวก็เป็นลมไปเสียอย่างนั้น เสียงเรียกด้วยความห่วงใยพร้อมกับมือหนาตบแก้มนวลเบาๆ เพื่อเรียกสติให้กลับคืนแต่ไม่ได้ผล

“นาดา...นาดาอย่าสำออย ลืมตาขึ้นมานาดา ฟื้นสิ...ฟื้น” ชีคหนุ่มวางร่างบางลงอย่างเบามือ ก่อนจะเดินไปเรียกหาราเซียที่รออยู่ด้านนอกให้เข้ามาดูอาการของหญิงสาว

“ราเซีย ราเซีย เข้ามาดูนายเจ้าสิ” ราเซียรีบเข้ามาดูอาการของนายสาวก็ตกใจไม่น้อย ก่อนจะจัดหาผ้าชุบน้ำหมาดเช็ดหน้าเช็ดตาให้กับหญิงสาว ระหว่างนั้นชีคหนุ่มที่ข้องใจจากคำของหญิงสาวเอ่ยถามพี่เลี้ยงที่น่าจะรู้เรื่องราวของหญิงสาวเป็นอย่างดี

“ราเซียนายเจ้ามีคนรักอยู่แล้ว ทำไมถึงได้มาถวายตัวให้ข้าอีก” ราเซียตกใจกับสิ่งที่ได้ยินท่านชีคไปเอาเรื่องไม่จริงนี้มาจากไหนกัน

“ใครบอกท่านชีคอย่างนั้นเจ้าค่ะ ไม่จริงเจ้าค่ะ ราเซียขอยืนยันคุณหนูไม่ได้มีคนรัก” ชีคหนุ่มอมยิ้มน้อยๆ ดูท่าหญิงสาวคงอยากให้เขาโกรธจะได้ปล่อยเธอไปอย่างนั้นล่ะสิไม่มีทาง

“ก็นายเจ้าบอกข้าเช่นนั้น” ราเซียมีสีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด หาข้อแก้ตัวให้กับนายสาวแทบไม่ทัน

“คุณหนูคงกลัวท่านชีคมากเจ้าค่ะ ก็เจอหน้าครั้งแรกท่านชีคทำให้คุณหนูตกใจกลัวอย่างมาก” ถ้อยคำของราเซียทำให้ชีคหนุ่มตีหน้าดุดันใส่ ทั้งที่ในใจกำลังคิดถึงปากอิ่มที่ได้ชิมรสหอมหวานเพียงครั้งเดียวก็อยากจะได้ลิ้มรสอีกครั้งชีคหนุ่มเอ่ยปากไล่พี่เลี้ยงน้ำเสียงเข้ม

“ออกไปได้แล้วราเซีย เดี๋ยวเราจัดการต่อเองไปสิ” ลับร่างของราเซียชีคหนุ่มก็ทรุดกายลงนั่งข้างร่างบางที่ยังไม่ฟื้น พร้อมกับจัดการถอดชุดนอนบางเบาออกจากกายของหญิงสาวที่ไม่รู้เรื่องราว อากาศเย็นภายนอกกระทบผิวบางจนพลิกตัวเข้าความอบอุ่นข้างกาย แผ่นหลังที่มีร่องรอยของแส้ที่บิดาลงโทษเผยต่อสายตาชีคหนุ่มใบหน้าหล่อขมวดคิ้วด้วยความสงสัย มือหนาลูบไล้ร่องรอยของแส้อย่างเบามือ

“ใครทำให้เจ้าต้องเจ็บตัวแบบนี้กันนะเด็กน้อย” ชีคหนุ่มทอดสายตามองแผ่นหลังบางแววตาสงสารปรากฏขึ้นพร้อมกันฟันกัดกรามกรอดๆ เมื่อสมบัติของตนเองมีร่องรอยของการถูกทำร้าย อุ้มร่างบางเดินกลับเข้าห้องนอนของตนเองวางร่างบางลงอย่างเบามือ ก่อนจะแทรกกายลงนอนเคียงข้าง

“ท่านพ่อ ท่านพ่ออย่าทิ้งข้า อย่าทิ้งข้าไป ท่านพ่อ...ฮื้อ...” นาดาขดตัวกลมละเมอร้องหาบิดา ชีคหนุ่มดึงร่างบางเข้าสู่อ้อมกอดด้วยความรู้สึกสงสาร เขาพอเข้าใจว่าหญิงสาวคงถูกบิดาทอดทิ้งให้เดียวดาย ร่างบางซุกเข้าหาอกกว้างต้องการหาความอบอุ่น ชีคหนุ่มกอดเธอเอาไว้แนบอกหลับตาลงอีกครั้งไม่นานก็หลับสนิท

.................................................................................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา