หยาดฝนบนพื้นทราย
เขียนโดย boae
วันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 11.10 น.
แก้ไขเมื่อ 25 มกราคม พ.ศ. 2557 11.15 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) ตอนที่ 2 จูบแรก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่ 2 จูบแรก
โอเอซิสเศาะบาฮฺ(รุ่งอรุณ) ได้ต้อนรับชีครามินยาเจ้าผู้ครองแคว้นฮาบาในรอบหลายปี เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มจากไกลๆ เข้ามาใกล้ทำให้อัสมาที่เล่นอยู่กับเด็กๆ ต้องเดินมาดู อดแปลกใจไม่ได้เมื่อพบกลุ่มคนที่ดูเป็นคนสำคัญขนาดชีคฟาซิต้องออกมาต้อนรับเอง พลันสายตาก็ถูกตรึงอยู่กับที่เมื่อพบกับชายร่างสูงนัยน์ตาดุดันปนหวานแฝงไปด้วยความร้อนแรงเพียงแค่สบตา ร่างกายเหมือนหลอมละลายลงไปกองกับพื้นทราย
“ยินดีต้อนรับเจ้าผู้ครองแคว้นฮาบาท่านรามินยา” เสียงฟาซิยาเอ่ยต้อนรับบุคคลที่มาใหม่ ก้าวเดินไปใกล้พร้อมทำความเคารพเช่นที่ยูซูปทำกับตนเองเสมอ ชีครามินยาก็ทำความเคารพชายสูงวัยกลับ ในฐานะลุงของตนเองเช่นกัน
“ยินดีที่ได้พบท่านชีคผู้ยิ่งใหญ่แห่งโอเอซิส” คำหยอกล้อของชีครามินยาเรียกเสียงหัวเราะจากชีคฟาซิผู้เป็นลุงได้ดีทีเดียว
ทั้งสองคนเดินคุยกันเข้าไปภายในกระโจม สายตาคมสอดส่องมองหาคนตัวเล็กเด็กหนุ่มนัยน์ตาสีมรกตโดยไม่รู้ตัว ชีคฟาซินั่งลงประจำที่ของตนเองในกระโจมใหญ่ ด้านขวาคือที่นั่งของแขกผู้มาเยือนอย่างชีครามินยา ชาชั้นดีหอมกรุ่นถูกยกเข้ามาต้อนรับแขกพร้อมขนม thamariya เค้กกรอบหน้าช็อกโกแลต สอดไส้อินทผาลัม ชั้นล่างสุดโรยงาจัดเรียงอย่างสวยงาม
“ลมอะไร หอบหลานรักมาหาลุงถึงที่นี่” ชีคสูงวัยเอ่ยถามหลายชายอย่างหยอกล้อด้วยความสนิทสนมกันดีก่อนหลานชายจะขึ้นรับตำแหน่งแทนบิดาที่จากโลกนี้ไป ชีครามินยายิ้มกว้างกับคำหยอกของผู้เป็นลุงตอบกลับด้วยความจริง เพราะความคิดถึงญาติผู้น้องตัวเล็กช่างเจรจาให้ได้ปวดหัวกับความช่างสงสัย
“ไม่มีลมหอบมาหรอกครับ หลานคิดถึงเจ้านูร์อยากจะมาขออนุญาตท่านลุง พาเจ้านูร์ไปอยู่ด้วยสักอาทิตย์” ชีคฟาซิหัวเราะชอบใจกับคำของหลานชายที่ดูจะชอบอกชอบใจลูกชายคนเล็กของตนเองนัก ไม่ใช่ญาติกันแท้ๆ แต่สนิทยิ่งกว่าญาติ
“ฮ่า ฮ่า เอาไปให้ปวดหัวกับความช่างสงสัยของน้องเจ้านะสิรามิน” ชีคฟาซิยิ้มให้กับชีครามินยาใบหน้าที่ยิ้มแย้มมีร่องรอยของความเหน็ดเหนื่อยแสดงให้เห็นในดวงตาคมของชีครามินยา
“ค้างกับลุงที่นี่ก่อนสักสองสามวันสิรามิน ไหนๆ ก็มาแล้ว ทำงานหนักมากมาทั้งปีพักสักวันสองวันจะได้มีแรงกลับไปทำงานต่อ” ชีครามินยาเองก็ตั้งใจเอาไว้แบบนั้นเหมือนกันจึงไม่ปฏิเสธคำชวนของชีคฟาซิ
“หลานก็ตั้งใจไว้แบบนั้นคืนนี้ของนอนคุยกับเจ้านูร์สักคืน” ชีคฟาซิรีบขัดหลานชายทันทีด้วยความเป็นห่วงหญิงสาวที่เพิ่งได้รู้ว่าคือลูกสาว
“นอนที่กระโจมใกล้กับน้องไม่ดีกว่ารึ พอดีลุงมีแขกมาพักกับเจ้านูร์มันนะ” ชีครามินยาแปลกใจอยู่บ้างกับคำของญาติผู้ใหญ่ ที่ขัดใจเขาแบบจังคล้ายเป็นห่วงใครบางคน แต่ก็ไม่พูดได้แต่เก็บความสงสัยนั้นเอาไว้
“ก็ได้ครับ” ชีคหนุ่มรับปากไปอย่างนั้นแต่ใจกำลังคิดหาเหตุผลที่ชีคฟาซิขัดขว้างตนเอง
“พี่รามินมาหานูร์หรือครับคิดถึงจังเลย” กระโจมใหญ่ถูกเปิดออกพร้อมร่างของเด็กชายตัวน้อย ที่จูงมือใครอีกคนเข้ามาในกระโจมด้วย ชีครามินมองร่างที่บอบบางคล้ายผู้หญิงของคนตัวเล็กนัยน์ตาสีเขียวอย่างพิจารณาสงสัยแต่ไม่พูด วัสสวดีสบตาคมนิ่งก่อนจะเบือนหน้าหนีสายตาที่สำรวจร่างเธออย่างพิจารณา อาการหันหน้าหนีของคนตัวเล็กเท่ากับเป็นการท้าทายไปในตัว ชีครามินยาไม่ชอบให้ใครหันหน้าหนีเขาแบบนี้
“พี่จะมาพาเราไปเที่ยวสักอาทิตย์แต่เปลี่ยนใจแล้ว พี่ว่าคนที่นูร์พามาด้วยน่าจะไปกับพี่มากกว่านะจริงไหมครับท่านลุง” น้ำเสียงรื่นเริงแกมบังคับกลายๆ ของชีครามินยาทำให้ชีคฟาซิยุ่งยากใจพอสมควรก่อนจะเห็นดีด้วยอย่างน้อย วังของชีครามินยาก็น่าจะปลอดภัยกว่าทะเลทรายแบบนี้
“นั่นสินะแต่ขอลุงคุยกับอัสมาก่อนแล้วกัน นูร์พาพี่รามินกับพี่อัสมาไปพักสิ” ชีคฟาซิยอมตอบรับแต่ขอคุยกับวัสสวดีก่อน จึงตอบเลี่ยงไปอีกทางหันไปสั่งลูกชายคนเล็กด้วยรอยยิ้ม เด็กชายนูร์ตรงเข้าไปสวมกอดบิดาก่อนจะเดินจากมา วัสสวดีมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกอิจฉา อ้อมกอดของบิดาที่เธอไม่เคยได้รับตลอดเวลาเกือบยี่สิบห้าปี
วัสสวดียิ้มเย้ยหยันให้กับตัวเองด้วยความขมขื่นพร้อมกับหันหลังออกจากกระโจมโดยไม่รอน้องชายคนเล็กกับผู้ชายตัวโต ชีครามินยาจับอาการของเด็กหนุ่มที่เดินนำหน้าไปอย่างแปลกใจ ดูเหมือนมีอะไรที่ทำให้เจ้าหนุ่มน้อยขุ่นเคืองใจช่างน่าสงสัยจริงๆ ชีครามินยาเก็บความคิดเอาไว้ในใจก้าวเท้าเดินตามเด็กหนุ่มไปช้าๆ
********************************************
ร่างบางเดินเร็วขึ้นตรงไปยังโอเอซิสที่เงียบสงบ หันหน้าออกไปทางทะเลทรายเหม่อมอง อยู่อย่างนั้นไม่รับรู้ถึงการมาของใครบางคนที่เดินตามห่างๆ ชีครามินยาส่งน้องชายเข้ากระโจมไปก่อน จากนั้นจึงเดินหาร่างของคนตัวเล็กที่เห็นหลังไวๆ มาแอบยืนคิดอะไรคนเดียวเงียบๆ ที่โอเอซิส
“ไงอิจฉาความรักของพ่อลูกเขาหรือไง” เงียบไร้การโต้ตอบจากคนตัวเล็กเบื้องหน้า แต่ร่างบางหันกลับมาสบตาสีเข้มนิ่งสะบัดหน้าหนี อย่างไม่สนใจคำพูดของชีครามินยาสักนิดเดียว ไม่ชอบเลยจริงๆ ที่มีคนมาสะบัดหน้าใส่ไม่เคยมีใครกล้าทำกับชีครามินยาแบบนี้โดยเฉพาะผู้ชายด้วยกัน
“เดี๋ยวก่อนเป็นใบ้หรือไง ถึงพูดด้วยแล้วไม่ตอบนะ” น้ำเสียงดุดันทรงอำนาจไม่ได้ทำให้วัสสวดีรู้สึกอะไรมากไปกว่าความเบื่อหน่ายโต้กลับเป็นสุภาษิตไทย
“เปล่าท่านแม่เคยสอนเอาไว้ว่าอย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ” ชีครามินยาทำหน้างงกับคำภาษิตไทยพิมเสนแลกเกลือ หมายความว่ายังไงนะคำถามเกิดขึ้นในใจก่อนจะเอ่ยออกไปอย่างสงสัย
“หมายความว่ายังไงฉันไม่เข้าใจ” วัสสวดียิ้มเยาะคนตัวโตกว่าก่อนจะแปลความหมายให้ชีครามินยาได้เข้าใจโดยไม่เกรงกลัวสายตาพิฆาตที่ถูกส่งออกมาจากดวงตาคู่นั้นเลยสักนิดเดียว
“ก็หมายความว่าไม่ควรลดค่าของตัวเองลงไปทำในสิ่งที่ไม่คู่ควรยังไงล่ะ” มือหนาคว้าแขนเรียวไว้มั่นบีบลงไปเต็มแรงด้วยอารมณ์โกรธที่ถูกหลอกด่า จากเด็กหนุ่มแปลกหน้านัยน์ตาชวนหลงใหลเค้นเสียงลอดไรฟัน
“นี่นายกล้าบังอาจเอาตัวเองมาเปรียบเทียบกันฉันแบบนี้ หรือว่าไม่รู้ว่าพูดอยู่กับใคร” ผ้าที่ปกปิดใบหน้าถูกลมที่พัดมาจากทางไหนไม่รู้พัดปลิวไปไกลเผยใบหน้าที่หวานหยดให้ชีครามินยาได้เห็นชัดๆ
“ปล่อยนะท่านชีค” เสียงหวานใสผิดจากเด็กหนุ่มทั่วไปทำให้ชีคหนุ่มชะงักพร้อมกับที่อัสมาสะบัดข้อมือออกจากมือหนาของชีครามินยาได้
ร่างบางยกมือขึ้นหมายจะตบหน้าชีคหนุ่มแต่ไม่เป็นอย่างที่ตั้งใจเมื่อชีคหนุ่มคว้าข้อมือไว้ทันมือหนาบิดข้อมือบางไว้ด้านหลังมืออีกข้างโอบรอบร่างบางทำให้แขนแกร่งสัมผัสกับความนุ่มหยุ่นภายใต้ชุดแต่งกายของชายฮาบาเพียงเสี้ยววินาทีก่อนจะกดร่างบางให้คุกเข่าลงกับพื้นทราย
“นายมันกล้าเกินไปแล้วนะ” วัสสวดีใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปากร้องให้คนตัวโตกว่าปล่อย มืออีกข้างของอัสมาเท้ากับพื้นทรายพยายามดิ้นรนให้หลุดจากพันธนาการอีกครั้งแต่ไม่เป็นผล
หญิงสาวจึงเปลี่ยนวิธีการ จากมือที่เท้าบนพื้นทรายขยับขึ้นจับขาแกร่งพร้อมกับหยิกเต็มแรงจนชีคหนุ่มสะดุ้งด้วยความเจ็บจนเผลอปล่อยมือ อัสมาขยับกายลุกขึ้นหันหลังหนีแต่ช้ากว่าชีคหนุ่มที่คว้าร่างบางเข้ามาในอ้อมกอดอย่างแรงความนุ่มหยุ่นปะทะกับอกแกร่งอีกครั้ง ครั้งนี้ชีคหนุ่มมั่นใจเต็มร้อยว่าคนในวงแขนเป็นผู้หญิงการลงโทษจากความอวดดีจึงเปลี่ยนไป
“ปล่อยผมนะ อุ๊บส์...อือ” ปากร้อนแนบลงมาบดคลึงปากอิ่มสีซีดอย่างลงโทษมือหนาที่จับแขนเรียวเปลี่ยนเป็นโอบกอดลิ้นสาก ใช้ความชำนาญให้อีกฝ่ายเผลอไผลเผยอปากรับจูบรุนแรงในคราแรกเปลี่ยนเป็นอ่อนหวานเรียกร้องการตอบสนอง ลิ้นเล็กเริ่มโต้ตอบกลับอย่างติดๆ ขัดเพราะไม่เคยเลยสักครั้งที่จะมีชายใดได้สัมผัสเธอลึกซึ้งขนาดนี้
กว่าชีครามินยาจะถอนจูบออกก็เล่นเอาสติของวัสสวดีแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง ลมหายใจเหมือนจะหายไปจากตัวเองชั่วขณะ ร่างบางทรุดลงไปกองกับพื้นทันทีที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ รอยยิ้มเย้ยหยันผุดขึ้นเมื่อได้ลงโทษคนอวดดีอย่างที่ใจปรารถนา
“อย่าได้บังอาจอวดดีกับคนอย่างฉันอีกจำไว้” กล่าวจบรีบผละหนีไปทันที วัสสวดีที่นั่งหมดเรี่ยวแรงค่อยๆ ลุกขึ้น ยกมือขึ้นถูกปากอิ่มของตนเองไปมาหวังลบรอยจูบที่ชีครามินยาฝากเอาไว้ น้ำเย็นจากโอเอซิสถูกกวักขึ้นมาล้างปากครั้งแล้วครั้งเล่าจนปากอิ่มบวมเจอยิ่งกว่าเดิม ในใจก็ร้องด่าทอชีครามินยาที่กล้าทำกับตนเองแบบนี้ “ท่านชีคบ้า คนบ้า บ้าๆ”
************************************************************************************************
คืนนั้นวัสสวดีไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้กระสับกระส่ายพลิกกายไปมา ลุกขึ้นนั่งมองน้องชายที่หลับสนิทอยู่หลังม่าน ความเป็นอยู่ช่างแตกต่างกันเหลือเกินวัสสวดีอดที่จะคิดถึงมารดาไม่ได้ บนแผ่นดินแห่งนี้เหมือนไม่มีที่ให้เธอกับมารดาได้ยืนสักนิดเดียว ผู้หญิงถูกกดขี่ไม่ต่างจากทาสต่างจากผู้ชายที่ได้รับการยกย่องผู้ชายทำอะไรได้มากมายมีภรรยาได้ถึงสี่คน
แต่ผู้หญิงไม่มีสิทธิแม้แต่การแสดงความคิดเห็นในครอบครัว มารดาของเธอคงทนรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ความขัดแย้งในชีวิตคู่มีมากขึ้นจนทุกอย่างจบลง บิดาของเธอไม่ผิดมารดาของเธอเองก็ไม่ผิดเพียงแต่บิดาเลือกที่จะทำตามวัฒนธรรมเดิมมากกว่าและมารดาของเธอก็เลือกที่จะไม่รับรู้เรื่องราวแบบนี้จึงจากมาโดยไม่รู้ว่าได้ตั้งท้องเธอแล้ว
วัสสวดีคิดถึงเรื่องราวของบิดามารดา พลันใบหน้าของคนที่กล้ารังแกเธอก็ผุดขึ้นมาในมโนภาพใบหน้าหวานแดงก่ำเมื่อคิดถึงจูบของชีครามินยาที่ปล้นเอาจูบแรกไปจากเธอด้วยความรู้สึกแปลกๆ กับหัวใจตัวเองที่มันกระตุกวูบอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนกับชายคนไหนลึกๆ ในใจก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าไม่รู้สึกดีกับจูบที่ถูกชีคบ้ากามปล้นไปอย่างหน้าไม่อาย
หญิงสาวครุ่นคิดถึงการกระทำของชีคหนุ่มเมื่อตอนเย็นดูเหมือนชีครามินยาจะรู้ว่าเธอเป็นผู้หญิงหรือเขาจะดูออกว่าเธอเป็นผู้หญิงกันนะแต่ไม่น่าจะใช่ก็เธอแต่งกายด้วยเสื้อผ้าผู้ชาย ท่าทางที่แสดงออกก็เหมือนผู้ชายขนาดท่านยูซูปยังดูไม่ออกเลยนี่นายิ่งคิดยิ่งปวดหัว
วัสสวดีเอนกายนอนลงอีกครั้งพลิกร่างไปมากระสับกระส่ายกว่าจะข่มตาให้หลับลง ในสมองมีแต่ภาพของชีครามินยาวิ่งวนไปวนมาจนเผลอนับเลขที่มีชีครามินยาวิ่งข้ามรั้วผ่านไปจาก 1...2...3...4...5...เปลือกตาที่หนักอึ้งค่อยๆ หลับลงช้าและหลับสนิทในเวลาต่อมา
***************************************************
ชีครามินยานอนไม่หลับแม้จะข่มตาให้หลับสักเพียงใด เมื่อความปรารถนาที่จะได้โอบกอดคนอวดดีผุดขึ้นมาจนร้อนไปทั้งกาย หญิงสาวที่แต่งกายเป็นชายร่างนุ่มนิ่มของคนตัวเล็กที่เขาได้จูบที่แสนหวานมาแบบไม่ตั้งใจ ร่างสูงนอนพลิกร่างไปมาลุกขึ้นนั่งทำใจให้สงบแต่ก็ไม่อาจทำได้ ชีครามินยาคิดถึงสัมผัสจากคนตัวเล็กจนทนห้ามใจตัวเองไม่ไหว เท้าก้าวออกจากกระโจมของตนเองยามดึกค่อยๆ เปิดกระโจมของตนเอง มองซ้ายมองขวาอย่างกลัวใครจะมาเห็น
เท้าพาร่างกายมาหยุดหน้ากระโจมของนูร์โชคดีที่ทหารยามเปลี่ยนเวรพอดี ชีครามินยาค่อยๆ เปิดกระโจมอย่างเบามืออาศัยแสงสว่างจากกองไฟเพียงน้อยนิด คิดว่าคนที่เข้ามาหานอนอยู่ตรงมุมไหน ร่างสูงตรงดิ่งไปยังวัสสวดีที่นอนหลับอยู่บนพรมหนามุมขวาของกระโจม ก่อนจะค่อยล้มตัวลงนอนเคียงข้างอากาศยามดึกที่เย็นจัดทำให้ร่างบางซุกเข้าหาความอบอุ่นข้างกาย ความรู้สึกหนักอึ้งบริเวณเอวทำให้คนที่หลับรู้สึกรำคาญเปลือกตาค่อยๆ ลืมขึ้นทีละน้อยก่อนจะตื่นเต็มตา
ใบหน้าหวานผละออกด้วยความตกใจลุกนั่งทันที ใบหน้าของคนที่บังอาจรังแกตนเองเมื่อเย็น สมองคิดอย่างฉับไว เกิดอะไรขึ้นทำไมชีคบ้ากามถึงมานอนกอดเธออยู่ตรงนี้ มือบางยกขึ้นทุบอกกว้างเต็มแรงจนร่างสูงที่นอนเคียงข้างสะดุ้งเฮือกลุกพรวดขึ้นมาอย่างตกใจมองดูสาเหตุที่ทำให้ตื่นจากนิทรา
“อะไร ดึกแล้วนะนอนได้แล้ว” น้ำเสียงงัวเงียถามอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะดึงร่างบางลงนอนเช่นเดิม เสียงหวานแหวดใส่อย่างหงุดหงิด
“นอนบ้าอะไรกัน ท่านชีคมาทำอะไรที่นี่” วัสสวดีขืนตัวออกห่างร่างสูงของชีครามินยาที่นอนหลับตาไม่สนใจร่างบางสักนิด แต่หูสะดุดกับเสียงแหลมของอีกฝ่ายดุเสียงเข้มเบาๆ แทน
“อย่าโวยวายได้ไหม เดี๋ยวนูร์ก็ตื่นกันพอดี” วัสสวดีหันไปมองทางที่นอนของน้องชายหลังม่านหนาก่อนจะเบาเสียงตนเองลง
“กลับไปนอนกระโจมของท่านโน้นท่านชีค ไม่อย่างนั้นผมจะเป็นคนไปเอง” เสียงหวานดัดให้ห้าวทุ้มเช่นเดิมคนที่แกล้งนอนหลับตาลืมตาขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ แต่ไม่ลุกกลับนอนนิ่งมือหนาคว้าร่างบางลงนอนเคียงข้างพร้อมคำขู่
“นอนถ้าไม่อยากถูกจูบหรืออาจจะทำมากกว่านั้น” วัสสวดีนอนหลับตาลงทันทีไม่มีการขัดขืนแต่อย่างใดปล่อยให้ชีครามินยานอนกอดไออุ่นจากร่างสูงช่วยขับไร้ความหนาวเหน็บจากอากาศที่เย็นจับใจพร้อมกับความอบอุ่นซึมเข้าในหัวใจดวงน้อยให้หวั่นไหว
*************************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ