Sotus Vampire พี่ว้ากตัวร้าย กับ นายแวมไพร์ปีหนึ่ง
เขียนโดย HardRockSweet
วันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 22.34 น.
แก้ไขเมื่อ 21 มกราคม พ.ศ. 2557 22.48 น. โดย เจ้าของนิยาย
1) Sotus Vampire 1: พี่น้องฝาแฝด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
SOTUS VAMPIRE
พี่ว้ากตัวร้าย กับ นายแวมไพร์ปีหนึ่ง [yaoi]
....
หญิงสาววิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต วิ่ง หนีอะไรสักอย่างที่เธอเองก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่ามันคืออะไร รู้เพียงแค่ว่าต้องวิ่งหนีมัน วิ่งให้ไกลที่สุด หลบซ่อนมันไม่ให้มันหาเจอ หากไม่แล้วดวงวิญญาณของเธอคงถูกมันพรากลมหายใจไปแน่ๆ
“ไม่..จริง..”
หญิงสาวเบิกตากว้างเพราะหนทางข้างหน้าที่กำลังจะวิ่งไปต่อ
เป็น ทางตัน
เธอเข่าทรุดหมดความหวังทันทีที่เห็นกำแพงก่อจากอิฐ แดงเบื้องหน้า เพียงแค่นี้ก็รู้แล้วว่าต่อให้ดิ้นรนแค่ไหนก็ไม่สามารถหนีสิ่งนั้นได้ กำแพงมันสูงเสียจนผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างเธอไม่สามารถปีนข้ามไปได้ ความกลัวเกาะกุมจิตใจ น้ำตาไหลเอ่อ เธอไม่คิดกล้าที่หันไปมองด้านหลัง
เงาทะมึนมหึมาสีดำฉายบนกำแพงอิฐ
ดูจากรูปร่างของเงาก็ไม่อาจนิยามได้เลยว่ามันน่ากลัวแค่ไหน
“คิกคิกคิกคิก”
เสียงหัวเราะเล็กแหลมชวนขนพองสยองเกล้าดังก้องในโสตประสาทสัมผัส หญิงสาวปิดเปลือกตาแน่น สั่นหนักเป็นเจ้าเข้าเมื่อมือหยาบสัมผัสลำคอเรียวระหงของเธอ ลมหายใจเหม็นเน่ารินรดอยู่ใกล้ๆ
“คิกคิกคิกคิก หนีไปไหนไม่ได้แล้วสินะ”
“อ..อย่า..ได้..โปร..ด!!!”
.......................................................
สำหรับนักศึกษาทุกคนถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาสามัญประจำบ้านมากๆถ้าเห็นรถหรูเข้ามาวิ่งในIUA (international university of Asia) เพราะ เกือบครึ่งของลานจอดรถในมหาวิทยาลัยนี้ก็เต็มไปด้วยรถหรูของเหล่านักศึกษา ที่ฐานะทางบ้านพอมีอันจะกินไปจนถึงโคตรรวยและรวยโคตรๆ แต่สิ่งที่ไม่ธรรมดาจนทำให้บรรดานักศึกษาหลายคนถึงกับต้องหยุดชะงักเรียงแถว ก็เห็นจะเป็นบุคคลที่ก้าวลงมาจากรถ
ผมของเขาเป็นสีน้ำเงินเข้มเหลือบดำสวย...
ราวกับสีของมหาสมุทรในยามกลางคืน เส้นผมอ่อนนุ่มพลิ้วไสวไปตามแรงลมยาวระต้นคอ นัยน์ตาคมสีอ่อนม่วงลาเวนเดอร์จนยากที่จะเชื่อว่าเป็นชาวเอเชียแท้ดูลึกลับอ่านยาก ดวงหน้าของเขางดงามสมบูรณ์แบบไร้ที่ติราวกับรูปสลักเทพเจ้า ยิ่งกว่าดาราบนปกนิตยสาร
รอยยิ้มอ่อนโยนประดับอยู่บนใบ หน้าตลอดเวลา จึงไม่แปลกที่ใครๆก็มักจะหลงใหลกับรอยยิ้มดุจเจ้าชายขี่ม้าขาวของเขา แต่ในขณะเดียวกันที่ใครๆก็มักจะเกรงใจและอ่อนน้อมต่อดวงตาสีลาเวนเดอร์คู่ นั้น ชายหนุ่มสวมชุดไพรเวทสีขาวฟ้าดูสบายๆ แต่นั้นยิ่งทำให้เขาเหมือนเทวดาเจ้าชายมากกว่าเดิม
“โอ้ แกๆ เขาเดินมาทางนี้แล้ว” นักศึกษาสาวตัวประกอบสะกิดไหล่เพื่อนที่ยืนอยู่ข้างๆ เพราะเทวดาเจ้าชายผู้มีประกายเจิดจรัตกำลังเดินมาทางนี้ ยิ่ง เดินเข้ามาใกล้มากเท่าไหร่ แสงออร่าก็ยิ่งวิ๊งวับ นี่ถ้าเขามีปีกงอกออกมาจากหลังด้วย นักศึกษาสาวคงคิดว่าตัวเองได้เจอเทวดาเจ้าชายก่อนตายแน่ๆ
“ขอโทษนะครับ^___^” เขาเรียก แต่ดูเหมือนนักศึกษาสาวตัวประกอบกำลังอึ้ง
คนหล่อเข้ามาทัก ใครไม่อึ้งบ้างล่ะ!
พ่อเจ้าประคุณ เกิดมายังไม่เคยเห็นใครหล่อเท่านี้มาก่อน!
“อ..เอ่อ..คะ!=//////=”
“ห้องท่านอธิการบดีบดินทร์ภัทรไปทางไหนครับ^______^”
“ท..ทางนั้นค่ะ=//////=” นางรีบชี้
“ขอบคุณครับ^_____^” เทวดาเจ้าชายบอกก่อนจะหมุนตัวเดินไปทิศที่นางบอก
“เดี๋ยวก่อนค่ะ!!”
“ครับ^^?”
“ค...คือว่าพี่ชื่ออะไรเหรอคะ..จ..จะขอLineพี่หน่อยได้มั้ยT^T”
นางยื่นสมุดโน้ตสีชมพูให้
“ผมชื่ออัลเทล^^ ส่วนไลน์..” อัลเทลมองสมุดโน้ตสีชมพูแหววลายคิตตี้ ก่อนจะหยิบผ้าเช็ดหน้าสีขาวออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วคลุมสมุดโน้ต ยื่นไปตรงหน้านักศึกษาสาวแล้ว
พรึ่บ!
สะบัดผ้าเช็ดอย่างรวดเร็ว! สมุดโน้ตถูกแทนที่ด้วยดอกกุหลาบสีชมพู
มายากล! ฮือออฮา
อัลเทลเอาดอกกุหลาบทัดหูให้กับ นักศึกษาหญิงคนนั้น แล้วจึงโน้มตัวลงมาจุมพิตที่ดอกกุหลาบ ทำเอาเจ้าหล่อนหัวใจเต้นตึกตัก หน้าแดงยิ่งกว่าลูกมะเขือเทศสุก! ชะนีนอนตาย
“ดอกกุหลาบ สำหรับคุณผู้หญิง^^”
“ท่านอธิการครับ นี่คือแฟ้มข้อมูลเกี่ยวกับคดีนักศึกษาของเราที่หายตัวไปใช่มั้ยครับ”
เก้าอี้หมุนกลับมาด้านหน้า พร้อมกับเผยให้เห็นเป็นชายวัยกลางคนผู้มีศีรษะเกือบล้าน(ก็ล้านนั้นแหละ)ใน ชุดสูทเรียบร้อยสมตำแหน่งอธิการบดีแห่งIUAอันทรงเกียรติ มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งแห่งเอเชียที่ตั้งอยู่บนเกาะทางใต้ มีชื่อว่าIUA ตั้งตามชื่อของมหาวิทยาลัย หรือจะกล่าวให้เข้าใจง่ายๆเลยก็คือ ทั้งหมดของเกาะนี้ก็คือมหาวิทลัยIUAนั้นเอง
นักศึกษาของIUAส่วนมากมักเป็นพวกลูกท่าน หลานมาเฟีย ไปจนถึงเชื้อพระวงศ์ เกาะIUAจึงถูกทำให้หายออกจากแผนที่โลก หาให้ตายก็ไม่มีวันเจอ ผู้ที่จะเข้ามายังเกาะIUAนั้นจะต้องผ่านด่านการตรวจหลายขั้นตอน พอๆกับตั๋วเครื่องบินที่หายากโคตร ถ้าหากไม่ใช่นักศึกษาของIUAก็ไม่มีสิทธิ์ได้รับตั๋วเด็ดขาด เพื่อป้องกันการลอบทำร้ายจากนักก่อการร้ายผู้ไม่หวังดีต่างๆนาๆ
ขนาดป้องกันดีขนาดนี้...
อธิการบดีบดินทร์ภัทรถอนหายใจปลงตก ก่อนมหาวิทยาลัยจะเปิดทำการเรียนการสอนสำหรับภาคการศึกษาใหม่ นักศึกษาของIUAจะ ต้องทยอยมาอาศัยที่หอพักรับรองเพื่อเตรียมตัวเข้าศึกษาต่อเมื่อมหาวิทยาลัย เปิด แต่เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวนักศึกษาหายตัวไปทีละคนสองคน
อาจเป็นโชคดีที่นักศึกษาที่หาย ตัวไปเป็นเด็กทุนไม่ใช่พวกลูกท่าน หลานมาเฟีย แต่ในฐานะอธิการบดีคนหนึ่ง มันคือความรับผิดชอบใหญ่หลวงที่เขายอมไม่ได้ที่จะมีเด็กหายไปอีก
เพราะฉะนั้น ถึงได้เชิญคนพวกนั้นมายังไงล่ะ...
“ท่านครับ ท่านแน่ใจหรือว่าคนเหล่านี้จะตามหานักศึกษาที่หายตัวไปได้จริงๆ”
พ่อบ้านผู้ควบตำแหน่งเลขาคนสนิท ของอธิการบดินทร์ภัทร ดูยังไม่ค่อยมั่นใจในฝีมือของเด็กหน้าละอ่อนที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่ง มาให้ “จากข้อมูลประวัติของพวกเขาในแฟ้ม แต่ละคนอายุยังไม่ถึงยี่สิบ ยังไม่บรรลุนิติภาวะกันทั้งนั้นเลยนะครับ คิดดีแล้วเหรอครับท่านอธิการ”
“น้อยคนที่จะรู้จักพวกเขา” อธิการบดีบดินทร์ภัทรเอ่ย จาก ที่ได้ฟังคำบอกเล่าจากเพื่อนสนิทที่เป็นตำรวจ เขาเองก็ไม่อยากจะเชื่อเหมือนกันว่าเด็กเหล่านี้คือผู้ไขคดีดังๆที่ไม่มีใคร ทำได้สำเร็จมาหลายคดีแล้ว
“หมายความว่ายังไงครับ?”
“คดีที่พวกเขาทำ ส่วนใหญ่เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับ ghost ยังไงล่ะ”
“โกสต์..ภูติผี นี่ท่านจะจะบอกผมว่า!?”
“ถูกต้อง เด็กพวกนั้นไม่ใช่คนธรรมดา”
เอาจริงหรือนี่!!
“อย่าหาว่าฉันงมงายเลยพิรัล แต่นี่เป็นความหวังสุดท้ายแล้วจริงๆ”
“ครับ...”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“สงสัยเขาจะมาแล้ว พิรัลไปเปิดประตูทีสิ” อธิการบดีสั่ง
“ครับ” พ่อบ้านพิรัลเดินไปที่ประตูแล้วหมุนลูกบิน จากนั้นจึงค่อยๆผลักบานประตู
“บ้านเรือนไทยตั้งอยู่ท่ามกลางตึกสไตล์โมเดิร์น สวยจังเลยนะครับ^_____^” รอยยิ้มประดับบนใบหน้าตลอดเวลาของอัลเทล เขาเอ่ยกับพ่อบ้านพิรัลทันทีที่บานประตูค่อยๆเปิดออก
“สวัสดีครับ คุณคงจะเป็นคนที่ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่งมาใช่มั้ยครับ แล้ว...อีกสองคนล่ะครับ ในข้อมูลที่ถูกส่งมาบอกว่ามีทั้งหมดสามคน คู่แฝดไปไหน?” อดแปลกใจเล็กน้อยที่มาคนเดียว
“พวกเขากำลังมาน่ะครับ พอดีแฝดคนพี่หลงทางอยู่ในตลาดIUA^________^”
หลงทางเนี่ยนะ!
คราวนี้ใครอีกล่ะ!?
เด็กหนุ่มร่างสูงเพรียวก้าวออกจากปีกนกของรถPagani Huayra สีบรอนซ์เงินที่จอดรันเวย์ข้างรถหรูสีขาวของอัลเทล ก่อนจะหรี่ตาลงเล็กน้อยพลางยกมือขึ้นบังแสงแดดที่สาดส่องลงมา ทำเอานักศึกษาที่กำลังจะสลายตัวต้องกลับมาเป็นIUAมุงกันอีกครั้ง ว่าไปนั้น ทำไมวันนี้คนหน้าตาดีมาIUAเยอะจัง
เส้นผมสีม่วงเข้มยาวถึงกลางหลังมัดรวบขึ้นเหนือศีรษะทรงหางม้า มีปอยผมระแก้มแกมดูน่ารำคาญแต่เจ้าตัวไม่ยักสนใจ ดวงตาคมกริบดุจเหยี่ยวสีฟ้าน้ำทะเลเย็นชาแข็งกร้าวดูขัดกับใบหน้างดงามสมบูรณ์แบบจนชักไม่แน่ใจว่าตกลงเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่
ผิวขาวซีดราวกระดาษตัดกับชุดสีดำทะมัดทะแมงคู่มากับรองเท้าคอมแบทโรเสิร์ท ต่างหูกางเขนคริสตัลที่ติ่งหูซ้ายคือเครื่องประดับชิ้นเดียวของเขา เด็กหนุ่มทำสีหน้าเบื่อหน่าย กวาดสายตามองเหล่านักศึกษามุุง ไหนจะเสียงกรี๊ดน่ารำคาญที่แทรกเข้าหูอีก
“แกๆ คนนี้ก็เท๊เท่ ไม่รู้ว่าเป็นผู้หญิงรึผู้ชายเนอะ!>O<”
“หน้าเค้าสวยมากเลยนะแก”
“อยากรู้จังว่าเขาชื่ออะไร ใครก็ได้เข้าไปถามหน่อยซิ”
“อาจจะเป็นคนรู้จักกับคนเมื่อกี้ก็ได้นะแก”
น่าเบื่อ..
เดรฟาถอนหายใจ ก่อนที่ใครอีกคนที่อมจูป๊าจุ๊บไว้ที่แก้มจะก้าวออกจากปีกรถอีกฝั่ง
และมันทำให้เสียงฮือฮามากกว่าเดิม
เจ้าของดวงหน้าผู้มีใบหน้า เหมือนเดรฟาราวกับพิมพ์เดียวกันร้อยเปอร์เซ็นต์ หากแต่สีผมของอาคันตุกะผู้ก้าวลงจากรถไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เป็นสีเขียวกรี นแซฟไฟร์(ถ้าไม่หน้าตาดีจริง ทำไม่ได้นะเออ)ด้านบนซอยสั้นเปิดหู ด้านหลังซอยยาวรากไทรเกือบถึงเอว
ดวงตากลมโตสีฟ้าน้ำทะเลสดใสแพรวพราวขัดกับคนน้องแลดูเย็นชา รอย ยิ้มน่ารักเจิดจ้ายิ่งกว่าดอกทานตะวันบ่งบอกว่าเจ้าตัวเป็นคนเฟรนลี่ล๊าล่า ลาเข้าขั้นผิดกฎหมาย น่าเข้าใกล้ น่าเข้าไปรู้จัก น่าเข้าไปทักทายและขอแต่งงาน(เฮ้ย)มากกว่าแฝดอีกคน ต่างหูคริสตัลใสที่ติ่งหูขวา เจ้าตัวจะประโคมแอสแซสซอรี่เต็ม ตัวประหนึ่งเป็นร้านกิ๊ฟช็อปเคลื่อนที่ และเเต่งตัวราวกับจะไปเดินแฟชั่นโชว์ แว่นตากันแดดสีชมพูบานเย็นอันเท่าฝาโอ่ง รองเท้าผ้าใบขาดๆปอนๆจนชักไม่แน่ใจว่ามันเป็นเทรนหรือขี้เกียจซักกันแน่
“ว้ายยย คู่แฝดละแก”
“กรี๊ดดดดดดด เกิดมาเพิ่งเคยเจอคู่แฝดน่ารักขนาดนี้!!”
ฟาเรย์ทำท่าทางเคอะเขินพอถูกชมเข้าให้ว่าน่ารัก พวงแก้มใสๆขึ้นสีแดง
“ข..ขอบคุณฮะ=/////=”
“อร๊ายยย แฝดชายหรอกเหรอเนี่ย สวยกว่าชะนีอีกT^T”
“มาเป็นเมียกูเถอะ!!” //เสียงเหล่าชาย
พวกผู้หญิงพากันกรี๊ดปรอดแตก ในขณะที่พวกผู้ชายก็ไม่ต่างกัน(??)
และทันใดนั้นเอง..
“น้องๆครับ! ไม่มีเรียนกันหรือไง!!!!”
เฮือกก!
ซวยแล้ว พ่อมาQ[ ]Q!
พวกนักศึกษาพากันสลายตัวประดุจวิ่งหนีแก๊สน้ำตาล ทันทีที่เสียงว้ากดุจพญามารราวกับผู้ขุมขังสั่งประหารนักโทษในคุก สองแฝดมองความวุ่นวายอลม่านก่อนที่จะไม่เหลือใคร ยกเว้น...
กลุ่มนักศึกษาชายประมาณสิบห้าคน ยืนกอดอกเรียงแถวทำหน้าทะมึนประหนึ่งบอยแบนด์แดนกิมจิอย่างวงซูเปอร์ จูเจี๊ยกอยู่บนบันไดขั้นสูงสุด ตามด้วยเอฟเฟคออร่าสีดำแผ่กระจาย หล่อซะไม่มี
“เขาเขม่นใส่เราอยู่แหละ เดรเด๊” ฟาเรย์ทำตัวไร้กระดูก เดินเข้ามากอดคอน้องชายฝาแฝดที่ยังคงยืนนิ่งตามประสาคนพูดน้อย..น้อยจนคน เป็นพี่อดคิดไม่ได้ว่า มันคงกลัวพิกุลร่วงออกจากปาก
“ตรงนี้ไม่ใช่ที่จอดรถ ถ้าจะมาติดต่อธุระควรจอดรถทางนั้นครับ” หนึ่งในสิบสามเฮดว้ากแห่งIUAเอ่ยเสียงเรียบ ล้วงกระเป๋าเดินลงมาจากบันไดชั้นบนอย่างมาดมั่น สง่างามดุจพญาไก่ ก่อนจะ..
โครม!!!
ลื่นพรืดตกบันได! =_=;
“ไอ้เชี่ยอี้ฟานนนน!!” เฮดว้ากตะโกนพร้อมกันอย่างตกใจ
O_O!
ก็กำลังหล่อเลยไม่ใช่เหรอ..เมื่อกี้น่ะ ฟาเรย์ มองเฮดว้ากอี้ฟานที่ถูกเพื่อนเฮดว้ากอีกสองสามคนหามเข้าหลังฉากลิเก เอ่ย..ไม่ช่าย ห่ามไปส่งโรงปูนให้ช่างเอาปูนโบกหน้าแตกหมอไม่รับเย็บ
“ฮุฮิ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า>O<” ฟาเรย์ขำก๊าก
“มีอะไรหน้าขำครับ!” เสียงว้ากทำเอาฟาเรย์สำลัก ทำไมคนIUAชอบว้ากจัง
“ก็ขำอี้ฟานไง ฮ่าฮ่าๆ คนบ้าไรวะเดินตกบันได้ ฮ่าๆ”
นี่ก็ตอบเอาซื่อๆ ไม่ดงไม่ดูอารมณ์ชาวบ้านชาวช่องเขาสักนิด!
“................”
“พี่..” หมับ!
แขนเรียวเข้ามาล็อคคอจนฟาเรย์สำลักน้ำลาย จัดการหุบปากไอ้พี่ตัวดี
“อึ๊อ อือ อุบอ๊าย”
“ตึกวิศวกรรมศาสตร์อยู่ไหน..."เดรฟาถาม
“น้องครับจะพูดกับคนอื่..น อึก!!” เฮดว้ากสะอึกเกือบกัดลิ้นตัวเอง ทันทีที่เดรฟาปรายหางตามองมาอย่างเย็นชา หนาวเยือกไปถึงกระดูกไขสันหลัง
“อยู่ไหน..”
น่ากลัว..ยิ่งกว่าหนูตัวจ้อย มากกว่าอสุรกายที่ไม่สามารถหาคำนิยายได้
ไม่มีใครกล้าเอ่ย..ไม่มีใครกล้าขยับตัว
“เดินเลี้ยวซ้าย ตรงไปจนสุด ผ่านคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์แล้วเดี๋ยวก็เห็นเองครับ” น้ำเสียงทุ้มพร้อมกับมือวางบนไหล่ของเฮดว้ากเพื่อเรียกสติเพื่อนต่างคณะที่ เกือบตัวสั่นด้วยความกลัว
“พ..เพลิงตะวัน”
ไม่ใช่ใครที่ไหนที่เข้ามาทำลายบรรยากาศอันตราย
เพลิงตะวัน แอนเดอร์ซัน
นักศึกษาปีสามของคณะวิศวกรรม ศาสตร์ เอกการบิน ได้ยินจากชื่อและนามสกุลก็รู้แล้วว่าไม่ใช่คนไทยแท้ ไม่สิ แค่ดูจากใบหน้าหล่อเหลาโดดเด่นกว่าคนอื่นก็รู้แล้วว่าเป็นลูกครึ่งหลายเชื้อ ชาติ หุ่นดีตรงตามมาตรฐานนายแบบ จมูกโด่งสันรับกับริมฝีปากบางเฉียบ เส้นผมสีบลอนด์ทองสว่าง นัยน์ตาสีอำพันมองมายังเด็กหนุ่มที่ตัวสูงน้อยกว่าเขาเกือบห้าถึงหกเซ็น
“หรือจะให้ผมช่วยนำทางให้”
..ไม่ชอบ..
เดรฟาขมวดคิ้วมุ่ยไม่สบอารมณ์
สายตาของเพลิงตะวันที่มองเขาราว กับถูกประเมินความสามารถ..ราวกับถูกอีกฝ่ายล้วงความลับทุกอย่างที่เก็บซ่อน เอาไว้อย่างมิดชิดผ่านดวงตาสีอำพันคู่นั่น จนต้องเป็นเขาเองที่หลบหลีกด้วยการสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง ความรู้สึกมันบอกว่าเพลิงตะวัน..ไม่ใช่ผู้ชายที่ควรเข้าไปยุ่งด้วยสักเท่าไหร่ เพราะเดี๋ยวจะมีแต่เรื่องหน้าเบื่อตามมา...
“ได้เหรอฮะ” ฟาเรย์แกะมือที่ปิดปากเขาออกสำเร็จ โพล่งพูดออกไป
แสไม่เข้าเรื่อง...
พี่ชายของเขา ฟาเรย์สมควรถูกทำโทษจริงๆ
“ไม่ต้อง..” เดรฟาบอกปัด ปรายหางตามองเพลิงตะวันอย่างท้าทาย เด็กหนุ่มหมุนตัวกลับไปด้านหลังเพื่อเดินกลับไปยังรถ หากกลับต้องชะงักเส้นผมของเขาถูกเพลิงตะวันดึงเอาไว้ แล้วกระตุก!
!!!!!!!
ร่างเพรียวเซถลาจนเกือบล้ม โชคดี(หรือโชคร้าย)ที่เพลิงตะวันคว้าตัวเข้ามาไว้ในอ้อมกอดทัน แขนแกร่งข้างหนึ่งโอบรัดเอวบาง ในขณะที่มืออีกข้างเชิดปลายคางมนสวยขึ้น ก่อนจะโน้มริมฝีปากลงบนกลีบปากบางแผ่วเบาอย่างบรรจง
“น้องโผ๊มมม!! O[ ]O” ฟาเรย์อ้าปากค้าง
“แม่เจ้า/ไอ้เพลิง/เชี่ยยย!” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นเสียงของเฮดว้ากคนอื่นๆ
เพลิงตะวันยิ้มเล็กๆ หยุดริมฝีปากไม่ให้จูบทั้งๆที่ปากของทั้งคู่ห่างกันไม่ถึงมิล มันยังน่าสนใจน้อยกว่าดวงตาจอมพยศสีน้ำทะเลที่ก่อนหน้านี้ยังหยิ่งยโส แต่ตอนนี้...กลับเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น
“น่าสนุกดีนี่” เขากระซิบบอก
“สนุกคนเดียวเถอะ ไปตายซะ!!” เดรฟาตะคอกพร้อมกับโขกศีรษะใส่อีกฝ่ายดังปึก!! เพลิงตะวันไม่ทันได้ตั้งตัวถึงกลับเซ แต่เซไม่ถึงสิบวินาทีก็โดนหมัดหนักๆของร่างเพรียวจนลงไปนอนจับฝุ่นคลุกดิน
“ใจเย็นไอ้น้องชายT^T” ฟาเรย์รีบเข้ามาเกาะเอวน้องชายไม่ให้มันฆาตกรรมคนบริสุทธิ์ (?) ส่วนไอ้พวกเฮดว้ากก็ยืนอึ้งเป็นหมีกินผึ้ง (ขอโทษครับ มันรวดเร็วมากจนพวกผมตั้งหลักไม่ทัน)
“ปล่อยผมนะ ผมจะฆ่ามันให้ตาย!!”
“อัลเทลก็บอกแล้วว่าห้ามมีเรื่อง จำไม่ได้รึไง!”ฟาเรย์ร้องเตือน
เดรฟากำหมัดแน่น จ้องเพลิงตะวันที่พยุงตัวขึ้นนั่ง
”คราวหน้า ผมจะขย้ำคุณให้ตาย จำเอาไว้!!” เด็กหนุ่มประกาศเสียงแข็งก่อนจะถูกพี่ชายลากกลับไปขึ้นรถ เดรฟาโวยวายไม่เลิก “ปล่อยผมสิพี่ ขอต่อยหน้ามันอีกสักรอบไม่ได้รึไง!!”
อีกสักรอบของมัน หมายถึงหามส่งโรงพยาบาลเลยต่างหาก=___=;;
เพลิงตะวันมองเด็กหนุ่มจอมพยศ ถูกเด็กแฝดผมสีเขียวลากขึ้นรถไปอย่างฉุนเฉียว มือเรียวยกขึ้นปาดเลือดตรงมุมปาก ยอมรับเลยว่าหมัดเมื่อกี้มันหนักโคตร ทำเอาเขาเจ็บไม่น้อย ไม่คิดว่าตัวเล็กๆเหมือนเด็กผู้หญิงจะมีแรงเยอะขนาดนี้ ดวงตาคู่อำพันทอประกาย
เพลิงตะวันยิ้มแล้วเอ่ย “คนที่จะถูกขย้ำ ใครกันแน่”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ