กับดัก เด็กบ้านนอก
เขียนโดย Zitraphat
วันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 19.42 น.
แก้ไขเมื่อ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 17.52 น. โดย เจ้าของนิยาย
4) บทที่ ๔ คนขี้แพ้
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ ๔
คนขี้แพ้
..
มืออุ่นจับแล้วสอดกุมมือทั้งสองข้างของคุณปุ๊กไว้หลวมๆ ให้ตายเถอะน่าคนเมาตอนนี้ครางเสียงพร่าและแทบจะดิ้นพล่านเนื้อนวลเหมือนจะแอ่นตามติดริม ฝีปากหนาที่ไซ้ซุกไปเกือบทั้งแผ่นอก ซ่านเสียวและมอมเมายิ่งกว่าเหล้าโรงที่เพิ่งเทลงคอสติเลือนรางจนเผลอคิดไป เองว่า นี่มันเป็นแค่เพียงฝัน..
ฝัน..ที่มีเพียงแสงตะเกียง และอ้อมกอด..
ไอ้เปลวสะดุ้งเฮือกในตอนที่คุณปุ๊กขืนแขนแล้วสะบัดมือออก คนเมาดูเหมือนจะก้าวร้าวกว่าที่เคยในจังหวะที่ไอ้เปลวมัวแต่ชะงักนิ่งมองรอยยิ้มแปลกๆ ที่ฉาบบนใบหน้าน่าหลงใหล รู้ตัวอีกทีไอ้เปลวก็โดนคุณปุ๊กผลักแล้วกดให้อยู่ใต้ท่อนขาเนียน
นิ้วเรียวเหมือนแท่งเทียนสอดเข้าริมฝีปากหนาของไอ้เปลวสายตาที่เห็นรำไรใต้ แสงเทียนเหมือนสั่งให้มันเลียปลายนิ้วนั่นเหมือนเลียของหวานปลายนิ้วเย็น ชุ่มน้ำลายมันน่าสนใจไม่น้อยไปกว่า สีหน้าพึงพอใจของคนข้างบนที่ ตอนนี้ทั้งอมทั้งรูดปลายนิ้วของไอ้เปลวเหมือนทำให้มันดูเป็นตัวอย่าง สะโพกมนกดลงมาและคลึงวนช้าแต่แนบแน่นทุกการกระทำแฝงไว้แต่ความต้องการ..
จนปลายนิ้วไอ้เปลวเป็นอิสระ นิ้วชุ่มน้ำลายของมันถึงได้คลำแล้วจับไล้ตั้งแต่ลำคอของคนข้างบนไล้ลากจนมา ถึงปลายยอดอกที่ชูชันสะกิดและบีบบี้คลึงเคล้าแล้วกดแน่น สมองไอ้เปลวมีแต่เสียงดังวิ้งๆ ท้ายทอยปวดหนึบและบีบตัว ความรู้สึกมันมหาศาลมากกว่าการช่วยตัวเองด้วยแม่นางทั้งห้าเสียอีก ..
ไม่รู้ว่ามากมายแค่ไหนไม่รู้ว่าจากคำว่าถูกชะตามันเปลี่ยนเป็นหลงใหลเสียตั้งแต่เมื่อไหร่ ในตอนนี้ไอ้เปลวรู้แค่ว่าคนข้างบนที่นั่งทับตัวมันอยู่ดูน่าฟัดน่าจับขยี้เสียยิ่งกว่าสาวงามหมู่บ้านไหน น่ารักและเอาแต่ใจในท่าที ริมฝีปากเย็นที่ไล้ดูดไล้เลียปลายนิ้วไอ้เปลวมันน่าจับมาขยี้ที่สุด ..
“อืมส์..”
เล่นเอาเสียววูบจนหลุดครางเมื่อปลายนิ้วเย็นของคนขี้เล่นมันลูบวนแล้วขยี้ยอดอกให้ไอ้เปลวสะท้านเล่น สะโพกแน่นกดลงมาบดเบียดแบบไม่ให้ทันตั้งตัว ไอ้เปลวน้อยแข็งขืนจนปวดหนึบ แล้วก็ยิ่งปวดเมื่อเทวดาของไอ้เปลวก้มลงมาจูบแผ่วแล้วสอดปลายลิ้นเข้าริม ฝีปาก..
“อืมส์.....”
เสียงครางแผ่วหลุดแว่วจากลำคอ กลิ่นเหล้ายังหอมรัญจวน กลิ่นตัวของเทวดาไอ้เปลวก็เหมือนกัน จูบบางแผ่วเบาแต่เว้าวอน เชื่องช้าหากแฝงไว้ด้วยแรงปรารถนาที่กองสุมไอ้เปลวได้แต่มองด้วยความหลงใหล เกลี่ยปลายนิ้วไล่หยดเหงื่อพราวที่กรอบหน้าคม ก่อนจะพรมจูบบนหน้าผากมน..
เสียงฝนยังคงกระทบหลังคาอากาศในตอนฝนสาดเทกระหน่ำที่ไอ้เปลวเคยบ่นว่าหนาวกลายเป็นอุ่นสบายเมื่อมีใครสักคนให้กอด ไอ้เปลวยิ้มหวานให้เจ้านายหัวใจ คุณปุ๊กที่นั่งทับอยู่ก็ยิ้มหวานๆ เพ้อๆ ส่งมาให้คนที่คิดว่าอยู่ในความฝัน
..
“นาย..ปุ๊กง่วงแล้ว..”
เสียงงัวเงียของคนที่นั่งโงนเงนบ่นออกมาพร้อมหลังมือที่ยกขึ้นขยี้ตาไอ้เปลว ค่อยๆ ผุดรุกแล้วโอบแผ่นหลังประครองร่างที่เคยอยู่เหนือตนนั้นให้นอนราบบนเตียงผ้า ร่างอ่อนพอหลังถึงเตียงก็นอนขดเสียจนเกือบกลมไอ้เปลวยิ้มบางพลางก้มตัวลงมาพรมจูบข้างแก้มนิ่มๆ ก่อนจะขยับตัวนอนข้างๆ ดึงร่างคุณปุ๊กที่ขดเสียจนตัวกลมมากอดไว้หลวมๆ แล้วคลี่ผ้าห่มผืนบางคลุมทั้งคุณปุ๊กทั้งตัวเอง
นอนยิ้มกว้างมองคนข้างๆ เสียจนเกือบสองยามกว่าไอ้เปลวจะหลับตามคุณปุ๊กไปอีกคน..สายฝนยังคงตกต่อไปยันเช้า..
..
“ชื่อเปลว..ฉันชื่อเปลว..”
คุณปุ๊กเพิ่งตื่นนอนแล้วก็มานั่งงงๆ อยู่บนเตียงแคร่ในบ้านไม้หลังน้อยที่มีแต่เด็กหนุ่มตัวใหญ่เบื้องหน้าพร้อมน้ำสีนมขุ่นๆ ที่กำลังอุ่นจนขึ้นไอในชามตราไก่ใบเล็กคนชื่อเปลวประคองชามตราไก่มาจรดริม ฝีปากคุณปุ๊กแล้วใช้สายตาอ้อนๆ ที่ไม่เหมาะกับหน้าคมๆ พรมไรหนวดเคราที่ขึ้นเขียว..
“ดื่มนะจ๊ะคนเก่ง..”
คุณปุ๊กมองไอ้เปลวอย่างงงๆ แต่ก็นั่นล่ะไอ้นิสัยปฏิเสธใครไม่เป็นมันทำให้คุณปุ๊กยอมดื่ม ดวงตากลมโตยิ่งเลิกโตขึ้นอีกเมื่อรสชาติ หวานละมุนสัมผัสปลายลิ้นกลิ่นน้ำขาวขุ่นหอมเหมือนข้าวหุงใหม่ แล้วยังจะมีแผ่นใยบางๆ เคลือบฉาบไว้บนผิวน้ำอุ่นนั่นอีก
“น้ำข้าว..ใส่น้ำตาล..แล้วเดาะเกลือฉันวิ่งไปเอามาจากบ้านแม่ใหญ่..คุณชอบไหม?”
รสชาติดีกว่าที่คาดคุณปุ๊กพยักหน้าอย่างลืมตัว ดวงตากลมเงยมองไอ้เปลวเหมือนลูกหมาออดอ้อนขอน้ำข้าวทั้งๆ ที่คราบขาวยังคงติดริมฝีปากอิ่ม น่ารักน่าหลงเสียจนอันตรายทำเอาไอ้เปลวเผลอตะปบมือกุมหัวใจที่เต้นรัวเสียจนกลัวว่ามันจะหลุดมานอกออก
จนตอนนี้ไอ้เปลวชักสับสนไม่รู้ว่าพระท่านส่งเทวดามาโปรด หรือองค์ยมราชจะหาเรื่องให้ไอ้เปลวตายเพราะใจมันเต้นแรงไม่ไหวๆ ไอ้เปลวหมุนตัวหันหลังเตรียมจะเดินออกไป แต่มือของใครบางคนที่ทำให้หัวใจไอ้เปลวเต้นแรงกลับดึงรั้งชายเสื้อมันเอาไว้
“นาย..นายเปลวจะไปไหน?”
โอ้ยย..อกไอ้เปลวจะระเบิด ในใจไอ้เปลวได้แต่กราบกราน คุกเข่าขอร้องกระมั้งเลยก็ว่าได้ ไอ้สีหน้าลูกหมาขี้อ้อนนี่ ชาตินี้คงทำให้ไอ้เปลวคงหลงใครหน้าไหนไม่ได้อีกแล้ว..
“ปะ..ไป..ฉันจะไปเอาแปรงสีฟันให้คุณ เมื่อเช้าฉันแวะไปเอาของที่ร้านเจ๊กเฮงมาให้..ล้างหน้าแปรงฟันนะ..เดี๋ยวฉันทำกับข้าวให้กิน”
แดด..คงเพราะแดดยามเช้ามันแรงนั่นล่ะ ถึงได้ทำให้ไอ้เปลวมันหน้าร้อนฉ่า เสียจนเกือบไหม้..
พอคุณปุ๊กยอมปล่อยชายเสื้อ ไอ้เปลวก็แทบจะถลาออกไป กึ่งเดินกึ่งวิ่งไปหยิบแปรงสีฟันและยาสีฟันที่บรรจงบีบคว้าขันอลูมิเนียมตัก น้ำฝนในตุ่มจุ่มจ้วงแล้วเดินลอยไปให้คนรอ หน้าร้อนได้อีกในตอนที่ไอ้เปลวเผลอคิดไปว่า การกระทำยามเช้าแบบนี้มันเหมือนพวก
‘ข้าวใหม่ปลามัน’
เหมือนจนความจริงนั้นแทงกระดองใจไอ้เปลว แทงคำว่า
‘คนที่แปรงฟันอยู่ตรงหน้าไม่ได้เป็นอะไรกับมันสักหน่อย’
เมื่อคืนก็แค่กอด.. จูบ.. ลูบ.. คลำ.. ไม่มีอะไรที่จะเกินไปกว่านั้นจริงๆ
..
“ปลาตะเพียนทอด”
ไอ้เปลวบอกตอนคุณปุ๊กลังเลจะตักปลาตัวโตที่ มีไข่สีเหลืองเต็มพุง ปลาตัวโตทอดเหลืองกรอบแต่รอบตัวกับซอยบั้งไว้เสียจนถี่ยิบคู่กับน้ำจิ้มซี อิ้วใส่พริกป่นบีบมะนาว
“ที่บั้งถี่เพราะก้างปลามันเยอะ ..”
ไอ้เปลวอธิบายเมื่อเห็นแววตาขี้สงสัยมองกลับมา แถมยังไม่อธิบายเปล่า มือใหญ่ๆ จ้วงตักที่ไข่ปลาวางใส่ข้างจานสังกะสีของคุณปุ๊กแล้วตักน้ำซีอิ้วราดลงน้อยๆ พอยิ้มกว้างได้มากอีกหน่อยก็ตอนที่คุณปุ๊กตักไข่ปลาพร้อมข้าวเข้าปากแล้วทำตาโต
“อร่อยไหม?”
“อร่อย..”
ไอ้เปลวหัวใจกระตุกเฮือกปานป่วยไข้ ตอนคุณปุ๊กยิ้มเสียจนตาเหลือเท่าเม็ดกวยจี๊ กินข้าวไปกินข้าวมาจนใกล้จะขึ้นจานที่สามไอ้เปลวก็ชะงักเมื่อคุณปุ๊กอยู่ๆก็หยุดกินเอาดื้อๆ แล้วมามองจ้องหน้าไอ้เปลว ไอ้เปลวเองแทบจะลืมหายใจในตอนที่มีมือเรียวๆ เอื้อมมาหยิบเม็ดข้าวที่ติดแก้มไอ้เปลวแล้วใส่เข้าปากตัวเอง เสียง
‘ปุ๊!’
มันระเบิดดังในหัวเมื่อหน้าไอ้เปลวมันร้อนฉ่าเสียจนเกินกว่าเจ้าของใบหน้าจะรับได้ เลือดกำเดาหยดลงมาแล้วไหลเป็นทาง..
พาลทำให้คุณปุ๊กยิ่งนิ่งมองแล้วทรุดลงไปกองกับพื้น..
เพราะแพ้เลือดอย่างไม่อาจห้ามตัวเอง..
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ