Love Devils
-
เขียนโดย รีบอร์น
วันที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 12.39 น.
5 ตอน
1 วิจารณ์
8,638 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2557 16.27 น. โดย เจ้าของนิยาย
3) เดินทาง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"พวกเราจะไปไหนกันรึ"
"ไปในที่ๆควรไป"
ฉันมองแผ่นหลังกว้างของโซลอย่างสงสัย เขาเดินนำหน้าตามด้วยฉันคนที่สามก็โชยะส่วนคนคุมท้ายคือชายหนุ่มผมทองที่ดูจะสุภาพที่สุด เขาชื่อว่า ฮิบายะเป็นนักเวทย์มนต์สายเลือดบริสุทธิ์หรือสั้นๆง่ายๆก็คือพ่อมดนั้นเอง โซลพาฉันและพวกเราอีกสามคนเดินเข้าป่ามาตั้งแต่ตีห้าด้วยข้ออ้างที่ว่า 'เพื่อไม่ให้ใครเห็นและตามมา' แต่เท่าที่จำได้เส้นทางนี้เป็นป่ารกทึบ แม้แต่หมาก็ไม่กล้าจะตามเข้ามาเลยทุกคนไม่ได้ปริปากบ่นโวยวายอะไรแม้ว่ากระเพาะจะประท้วงปางตายก็ตามและไม่มีใครที่คิดจะปริปากทำลายบรรยายกาศแสนอึดอัดนี้เลยด้วย
"อีกไกลไม"
"เธอถามฉันมาเป็นรอบที่เท่าไรแล้ว"
"ก็ มันเงียบเกินไปนิ"
ฉันก้มหน้ามองพื้นก่อนชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างของเขาอย่างจังเมื่ออยู่ๆเขาก็หยุดฝีเท้ากระทันหัน
"แล้วเธอจะให้ป่ามันมีเสียงเพลงบรรเลงออกมาหรือไง"
"..."
"โซลก็เดินต่อไปเถอะครับ...อีกไม่นานก็ถึงแล้ว"
ฮิบายะเอ่ยก่อนขยับแว่นที่เกือบหล่นอย่างเฉยชาแต่สายตาของเขาที่มองมาที่ฉันกำลังปลอบโยนฉันอยู่มือของโชยะเองก็แตะที่ไหล่ของฉันเบาๆอย่างปลอบใจ โซลมองฉันด้วยสายตาตำหนิก่อนเดาะลิ้นใส่แล้วหันกลับไปเดินนำอย่างเฉยเมย 'ทำไมฉันต้องเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ' ฉันพ้นลมหายใจอย่างน้อยใจแล้วเดินตามโซลอย่างอ่อนแรงเพราะตั้งแต่ออกเดินทางมาพวกเรายังไม่ได้พักหายใจหายคอเลยด้วยซ้ำ ฉันที่เริ่มหมดแรงเดินโซเซไปมาก่อนจะรู้สึกวูบไปชั่วขณะ หูมันอื่อไปหมด ขณะที่ใจคิดว่าคงได้ล้มลงไปนอนนิ่งซักพักที่พื้นเป็นแน่นั้น ความรู้สึกบางอย่างก็ทำให้ฉันที่เริ่มอ่อนแรงต้องพยายามปรือตามขึ้นมา ร่างของฉันไม่ได้ล้มลงไปนอนกระแทกบนพื้นอย่างที่คิดแต่กลับนั่งงอตัวบนอากาศซะมากกว่า
"ดูท่า คงต้องพักแล้วนะครับโซลเพราะคนสำคัญดูท่าจะไม่ไหวแล้ว"
"ชิ..."
แม้ว่าเขาจะไม่พอใจจนเดาะลิ้นแล้วสบถด่าลอยๆออกมาแต่เขาก็ยอมพักจนได้ ฮิบายะค่อยๆวางร่างของฉันลงที่โคนต้นไม้ใหญ่ก่อนชี้นิ้วมาที่ฉันแล้ววาดไปมากลางอากาศปากก็บ่นพึมพำไปมาเมื่อปากและนิ้วหยุดลงแสงสีขาวนวลตาที่ค่อยๆผุดออกจากตัวฉันเป็นรูปร่างคล้ายฟ้องน้ำที่ผุดขึ้นมาค่อยแตกกระจายเป็นสะเก็ตเล็กๆกลางอากาศและเลือนหายไปในไม่กี่วินาทีฉันมองอย่างสงสัยและรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งแปลกตาที่เคยทำได้เพียงจิตนาการเท่านั้น
"เวทย์รักษา จนกว่าจะได้กินอะไรเวทย์นี้จะรักษาคุณตลอดเวลาครับ"
"ขอบคุณค่ะ"
"โซลเนี่ย หน้าอีกอย่างลับหลังอีกอย่างเนอะ"
"ถ้าเขาได้ยิน ผมไม่เกียวข้องนะครับ"
ฮิบายะเอ่ยเอาตัวรอดก่อนขยับแว่นเข้าที่แล้วนั่งถอนหายใจอย่างอ่อนล้า ทุกคนก็อ่อนล้าไม่ใช่เพียงแค่ฉัน ทุกคนอยู่ก็หลับไป 'คงจะเพลียน่าดู' ฉันยิ้มก่อนค่อยๆยืนขึ้นแล้วเดินสำรวจบริเวณที่พวกเราพักอยู่ ขณะที่มองเหล่านกที่บินไปเกาะต้นนี้บ้างต้นนู้นบางอยู่นั้นเสียงของพุ่มไม้ที่เสียดสีกันไปมาจนเกิดเสียงแซ่กๆขึ้นใจหนุ่งกลัวจนขาสั่นก้าวขาไม่ไหวใจหนึ่งก็ตื่นเต้นจนวิ่งไม่ได้(ง่ายๆกลัวจนวิ่งไม่ออก)เสียงนั้นหยุดลงก่อนปรากฎร่างของเจ้าตัวกระต่ายสีขาวดูนุ่มนิ่มนั้นฉันมองอย่างโล่งใจและชอบเจ้าตัวน้อยนั้นอย่างเข้าขั้นคลั่ง อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันหาเหงาระหว่างที่คณะเดินทางยังนอนเอาแรงกันอยู่ล่ะนะ
___________
โปรดติดตามตอนต่อไป
"ไปในที่ๆควรไป"
ฉันมองแผ่นหลังกว้างของโซลอย่างสงสัย เขาเดินนำหน้าตามด้วยฉันคนที่สามก็โชยะส่วนคนคุมท้ายคือชายหนุ่มผมทองที่ดูจะสุภาพที่สุด เขาชื่อว่า ฮิบายะเป็นนักเวทย์มนต์สายเลือดบริสุทธิ์หรือสั้นๆง่ายๆก็คือพ่อมดนั้นเอง โซลพาฉันและพวกเราอีกสามคนเดินเข้าป่ามาตั้งแต่ตีห้าด้วยข้ออ้างที่ว่า 'เพื่อไม่ให้ใครเห็นและตามมา' แต่เท่าที่จำได้เส้นทางนี้เป็นป่ารกทึบ แม้แต่หมาก็ไม่กล้าจะตามเข้ามาเลยทุกคนไม่ได้ปริปากบ่นโวยวายอะไรแม้ว่ากระเพาะจะประท้วงปางตายก็ตามและไม่มีใครที่คิดจะปริปากทำลายบรรยายกาศแสนอึดอัดนี้เลยด้วย
"อีกไกลไม"
"เธอถามฉันมาเป็นรอบที่เท่าไรแล้ว"
"ก็ มันเงียบเกินไปนิ"
ฉันก้มหน้ามองพื้นก่อนชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างของเขาอย่างจังเมื่ออยู่ๆเขาก็หยุดฝีเท้ากระทันหัน
"แล้วเธอจะให้ป่ามันมีเสียงเพลงบรรเลงออกมาหรือไง"
"..."
"โซลก็เดินต่อไปเถอะครับ...อีกไม่นานก็ถึงแล้ว"
ฮิบายะเอ่ยก่อนขยับแว่นที่เกือบหล่นอย่างเฉยชาแต่สายตาของเขาที่มองมาที่ฉันกำลังปลอบโยนฉันอยู่มือของโชยะเองก็แตะที่ไหล่ของฉันเบาๆอย่างปลอบใจ โซลมองฉันด้วยสายตาตำหนิก่อนเดาะลิ้นใส่แล้วหันกลับไปเดินนำอย่างเฉยเมย 'ทำไมฉันต้องเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ' ฉันพ้นลมหายใจอย่างน้อยใจแล้วเดินตามโซลอย่างอ่อนแรงเพราะตั้งแต่ออกเดินทางมาพวกเรายังไม่ได้พักหายใจหายคอเลยด้วยซ้ำ ฉันที่เริ่มหมดแรงเดินโซเซไปมาก่อนจะรู้สึกวูบไปชั่วขณะ หูมันอื่อไปหมด ขณะที่ใจคิดว่าคงได้ล้มลงไปนอนนิ่งซักพักที่พื้นเป็นแน่นั้น ความรู้สึกบางอย่างก็ทำให้ฉันที่เริ่มอ่อนแรงต้องพยายามปรือตามขึ้นมา ร่างของฉันไม่ได้ล้มลงไปนอนกระแทกบนพื้นอย่างที่คิดแต่กลับนั่งงอตัวบนอากาศซะมากกว่า
"ดูท่า คงต้องพักแล้วนะครับโซลเพราะคนสำคัญดูท่าจะไม่ไหวแล้ว"
"ชิ..."
แม้ว่าเขาจะไม่พอใจจนเดาะลิ้นแล้วสบถด่าลอยๆออกมาแต่เขาก็ยอมพักจนได้ ฮิบายะค่อยๆวางร่างของฉันลงที่โคนต้นไม้ใหญ่ก่อนชี้นิ้วมาที่ฉันแล้ววาดไปมากลางอากาศปากก็บ่นพึมพำไปมาเมื่อปากและนิ้วหยุดลงแสงสีขาวนวลตาที่ค่อยๆผุดออกจากตัวฉันเป็นรูปร่างคล้ายฟ้องน้ำที่ผุดขึ้นมาค่อยแตกกระจายเป็นสะเก็ตเล็กๆกลางอากาศและเลือนหายไปในไม่กี่วินาทีฉันมองอย่างสงสัยและรู้สึกตื่นเต้นกับสิ่งแปลกตาที่เคยทำได้เพียงจิตนาการเท่านั้น
"เวทย์รักษา จนกว่าจะได้กินอะไรเวทย์นี้จะรักษาคุณตลอดเวลาครับ"
"ขอบคุณค่ะ"
"โซลเนี่ย หน้าอีกอย่างลับหลังอีกอย่างเนอะ"
"ถ้าเขาได้ยิน ผมไม่เกียวข้องนะครับ"
ฮิบายะเอ่ยเอาตัวรอดก่อนขยับแว่นเข้าที่แล้วนั่งถอนหายใจอย่างอ่อนล้า ทุกคนก็อ่อนล้าไม่ใช่เพียงแค่ฉัน ทุกคนอยู่ก็หลับไป 'คงจะเพลียน่าดู' ฉันยิ้มก่อนค่อยๆยืนขึ้นแล้วเดินสำรวจบริเวณที่พวกเราพักอยู่ ขณะที่มองเหล่านกที่บินไปเกาะต้นนี้บ้างต้นนู้นบางอยู่นั้นเสียงของพุ่มไม้ที่เสียดสีกันไปมาจนเกิดเสียงแซ่กๆขึ้นใจหนุ่งกลัวจนขาสั่นก้าวขาไม่ไหวใจหนึ่งก็ตื่นเต้นจนวิ่งไม่ได้(ง่ายๆกลัวจนวิ่งไม่ออก)เสียงนั้นหยุดลงก่อนปรากฎร่างของเจ้าตัวกระต่ายสีขาวดูนุ่มนิ่มนั้นฉันมองอย่างโล่งใจและชอบเจ้าตัวน้อยนั้นอย่างเข้าขั้นคลั่ง อย่างน้อยมันก็ทำให้ฉันหาเหงาระหว่างที่คณะเดินทางยังนอนเอาแรงกันอยู่ล่ะนะ
___________
โปรดติดตามตอนต่อไป
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ