RabbiT เหยื่อ.รัก.ร้าย
เขียนโดย nooonaa
วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.01 น.
แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2557 18.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
21) Little rabbiT 20 : เหยื่อขอแค่เชื่อ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความby nooonaa
Little rabbiT 20 : เหยื่อขอแค่เชื่อ
+Little rabbiT+
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันช่างเหมือนความฝัน ซึ่งมันดันเป็นความฝันที่ดูหอมหวานแต่แอบซ่อนความขมขื่นไว้ภายใน เลยเป็นเหตุทำให้ทุกอย่างดูไม่น่าเชื่อถือและผมก็ไม่อยากจะให้มันเกิดขึ้น เพราะความฝันนี้มันกำลังจะทำให้ผมมีความสุขเพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียว
เห้อ...สวรรค์นะสวรรค์ ทำไมถึงส่งคนอย่างนั้นมาให้ผมรักกันนะ
'จะถึงอีกสิบนาที'
ผมจ้องมองข้อความในนั้นด้วยความรู้สึกว่างเปล่า เพราะผมไม่รู้ว่าตัวเองสมควรจะดีใจหรืออะไรกันแน่ ยิ่งอีกคนทำให้ผมมากขึ้นมันก็ยิ่งตอกย้ำให้ผมรู้สึกว่าพี่เข้ากำลังเสแสร้ง
เสแสร้งให้ผมตายใจอีกครั้ง...เพื่อเธอ
วิค
อ่า...เอายังไงดี
ผมเหม่อมองอยู่นานจนเห็นรถคันสวยของพี่ฟินย์มาจอดเทียบหน้าคณะ ผมเลยรีบหยิบกระเป๋าของตัวเองก่อนจะวิ่งไปขึ้นรถ แต่เพียงแค่ผมเปิดประตูออก ก็พบผู้ชายร่างสูงกำลังนั่งเคาะนิ้วด้านในข้างข้างขับ
อะ! พี่กวางนี่
"อ่าว ขอโทษครับ" ผมตกใจเล็กน้อยที่เห็นพี่เขานั่งอยู่ภายใน ก่อนจะมองเลยไปหาพี่ฟินย์
"ไอ้กวาง ไปนั่งข้างหลัง" แต่แล้วพี่เขาก็ไล่อีกคนให้ไปนั่งข้างหลัวอย่างเย็นชา ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกผิดมาก เพราะผมนั้นต่างหากที่สมควรจะต้องไปนั่งข้างหลัง ผมเลยร้องบอกว่าตัวเองจะไปนั่งเอง
"ไม่เป็นไรครับ ผมไปนั่งเอง"
"ไม่ต้อง! ไอ้กวาง...ไปนั่งข้างหลัง"
อ๊ะ! พี่ฟินย์! ทำไมถึงขึ้นเสียงใส่พี่เขาแบบนั้น
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะปฏิเสธอะไรออกไป..พี่กวางก็ยอมที่จะลงมาจากรถแล้วเดินไปนั่งข้างหลัง ผมเลยขึ้นไปนั่งข้างหน้าแทนก่อนจะถูกมือหนารั้งใบหน้าให้เข้าไปรับจูบของตัวเองอย่างรวดเร็ว
พี่ฟินย์!
ผมรีบผลักอกอีกฝ่ายออกก่อนจะก้มหน้าจนคางชิดอก
"ไอ้ฟินย์ มันคืออะไรวะ" เสียงพี่กวางเองก็ดูตกใจไม่แพ้ผม แต่ผมก็ไม่รู้จะแก้ตัวยังไง เพราะตอนนี้ผมอายจนอยากจะขุดหลุมกลบตัวเองตาย พี่ฟินย์เองก็น่าจะดูผมออกเลยยิ่งแกล้งทำให้ผมอายหนักกว่าเดิม โดยไม่สนใจคำถามของอีกฝ่ายเลยสักนิด ผมเลยรีบกล่าวสวัสดีพร้อมกับหันหน้ากลับอย่างไว
"ซาร์ นี่กวางเพื่อนกู"
"เออ สวัสดีครับ"
"มึงชอบผู้ชายหรอ"
!!!
ทำไมพี่ถามแบบนั้นล่ะ มันตรงไปไหมครับพี่!
ให้ตายเถอะ พวกพี่นี่ขวานผ่าซากกันจริงๆ
ผมนิ่งอึ้งกับคำถามพี่มันไปหลายนาที แต่อีกคนที่ถูกถามกลับสวนกลับทันควัน
"แล้วที่มึงชอบคุณเธอ นี่เรียกว่าอะไรวะ"
คุณเธอ?
ห๊ะ! จริงหรอ!
คุณเธอเป็นแฟนพี่กวางหรอ แต่ทำไมถึงเปรียบเทียบกันแปลกๆ ก็ในเมื่อผมมันเป็นผู้ชาย...แต่คุณเธอเป็นผู้หญิงนะ
"ช่างมันเถอะ รีบๆพากูไปหาคุณเธอได้แล้ว" แต่แล้วพี่กวางกลับตัดบทไม่พูดอะไร เหมือนกับไม่อยากยอมรับมัน แต่พออีกฝ่ายส่งเสียงหึในลำคอออกมาเหมือนกับรู้คำตอบ ซึ่งมันก็ทำให้ผมมั่นใจเหมือนกันว่าใช่
"หึ.."
ไม่นานเราก็มาถึงร้านพี่นาย ผมกับพี่ฟินย์ก็เดินเข้าไปในร้านเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนเดิม ก็เพราะร่างสูงตรงหน้าเราเอาแต่เฝ้ามองร่างบางอยู่กระจกหน้าร้าน สีหน้าพี่เขาดูเศร้าจนผมสงสาร ก่อนที่มือใหญ่จะตัดสินใจเปิดประตูเดินเข้าร้านไป
"ซาร์...วันนี้ไม่ต้องทำงานนะ กลับไปรอในรถไป"
หืม?
"ทำไมล่ะครับ" แต่พี่เขาก็ไม่พูดอะไร กลับเดินตามอีกคนเข้าร้านไปอย่างหน้าตาเฉย ผมเลยเลือกที่จะทำตามที่อีกฝ่ายบอก แต่ก็ยังคงลอบมองเข้าไปในร้านเรื่อยๆ จนผมเริ่มรู้สึกว่าข้างในนั้นต้องมีเรื่องอะไรกันแน่
มีเรื่องอะไรกันนะ ถึงดูวุ่นวายกันจัง
เกือบครึ่งชั่วโมงผ่านไป พี่ฟินย์ก็เดินกลับมาที่รถพร้อมกับถอนหายใจออกยาวเหมือนกับเหนื่อยอะไรมา ผมเลยหันไปถามเพราะความอยากรู้จริงๆ โดยที่อีกฝ่ายก็ยังคงเงียบ
"มีเรื่องอะไรกันหรอครับ"
"......"
อ่า...ปล่อยให้ผมไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับพี่อีกแล้ว
โอเค...ไม่อยากเล่าก็จะไม่ถามอีก
ผมเลยเงียบตามแล้วก็ไม่พูดอะไรอีก
~ครืดๆ~
แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ของร่างสูงก็ดังขึ้น มันขัดความเงียบที่มีอยู่ก่อนได้ดีมาก ผมเลยหันไปมองมือถืออีกฝ่ายที่วางไปข้างตัว ก่อนจะเห็นชื่อที่ผมไม่อยากแม้จะคิด
'วิคกี้'
อีกแล้ว...ผู้หญิงคนนี้มาอีกแล้ว เมื่อไหร่เธอจะออกไปให้พ้นจากพวกเราสักที
"รับสิครับ" ผมบอกกับอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่ายเต็มทน แต่พี่เขากลับปล่อยให้มันดังอยู่อย่างนั้นจนผมเริ่มทนไม่ไหว เลยหยิบมันขึ้นมาพร้อมกับกดรับสายให้อีกคน
คุยๆไปเถอะ....ยังไงเขาก็คงไม่หยุดโทรจนกว่าพี่จะรับแน่
"ว่าไง" แล้วมือใหญ่ก็รับมันไปพูด ถึงผมจะทำใจแต่ก็ยังรับไม่ได้ เลยรีบเบนหน้าตัวเองออกไปทางหน้าต่าง พร้อมกับปิดหูปิดใจที่จะได้ยินอะไรจากทั้งสองคนนั้น
"อืม ไม่ได้ลืม....เธอก็โทรชวนพวกมันเองสิ ...แล้วแต่พวกมัน...ฉันคงไปได้เดี๋ยวเดียว" ร่างสูงพูดไปก็มองผมไป ผมเองที่ไม่รู้เรื่องอะไร...เลยทำได้แค่นั่งเงียบ แล้วพยายามไม่คิดมาก ก่อนที่เสียงเย็นจะเอ่ยประโยคสุดท้ายแล้วตัดสายทิ้งไป
"โอเคๆ เดี๋ยวฉันไป"
ไป?
"ไปไหนครับ" ผมถามอีกคนทันทีที่เขาว่างสาย ก่อนจะหันมามองหน้าพี่มันเต็มตา
ผมไม่ได้หึงนะ ผมแค่อยากจะรู้เท่านั้นเอง
"...."
เงียบ!
"พี่ฟินย์ครับ"
"คิดมากอีกแล้วล่ะสิมึง เลิกคิดซะ" พี่บอกให้ผมเลิกคิด แต่พี่กลับไม่พูดอะไรเลยนะ นี่มันอะไรกันแน่
"......." แต่ถ้าพี่ต้องการแบบนั้น...ผมก็จะทำให้
ผมเลยเงียบไปพูดอะไรอีก แถมหยุดคิดเรื่องพวกเขาด้วย แต่แล้วอีกคนกลับหักพวงมาลัยรถเข้าข้างทางก่อนจะจอดรถเทียบข้างทางไว้ แล้วเข้ามาดึงไหล่ผมให้หันไปหาตัวเองทั้งตัว
"โอเคๆ กูบอกก็ได้ แต่มึงต้องสัญญาว่าอย่าคิดมาก เข้าใจไหม"
พี่...พี่เป็นห่วงผมหรอ
ผมฟังแล้วก็ต้องอมยิ้ม ตอนแรกก็คิดว่ามีความลับเลยไม่อยากจะบอก แต่นี่กลับเงียบเพราะไม่อยากให้ผมคิดมากไปซะงั้น
พี่ฟินย์...พี่เริ่มคิดถึงผมบ้างแล้ว
"ครับ" ผมรับคำก่อนที่อีกฝ่ายจะสูดลมหายใจเข้าปอดช้าๆ
"พรุ่งนี้วันเกิดวิค"
"แล้ว?" เล่าต่อสิครับ
"แล้วเธอจะจัดงานที่หัวหิน"
หัวหิน
ทำไมไปซะไกลเลย คนรวยนี่เขาคิดอะไรกัน
"แล้วพี่จะไปไหมครับ" แต่คำถามร้อยแปดกลับเหลือแค่คำถามนี้คำถามเดียวที่ผมอยากรู้ ซึ่งผมก็ขอภาวนาว่าพี่เขาจะไม่ไป
"พี่จะอยู่กับผมใช่ไหม/แล้วถ้ากูบอกจะไปล่ะ" แต่แล้วเราสองคนก็เผลอพูดออกมาพร้อมกัน โดยที่ทุกคำของพี่เขานั้นมันชัดและตอกย้ำผมมาก
"พี่ พี่ว่าอะไรนะครับ"
ทำไมล่ะ ไหนพี่บอกว่าจะยอมผมทุกอย่าง แต่ทำไมพี่ถึงอยากไป ทำไมกัน
"กูจะไป"
อึก!
"งั้นหรอครับ" แค่นั้นก็ทำให้ผมเงียบไปเลยครับ ผมไม่สามารถจะพูดหรือแม้แต่จะหายใจต่อได้ เพราะมันเหมือนกับว่าอีกฝ่ายเห็นเขาสำคัญกว่า
พอได้แล้วล่ะมั้งซาร์...นายจะทนรับกับเรื่องแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่
"ซาร์"
"....." พี่ฟินย์คงเห็นว่าผมเงียบ เลยเรียกผมอยู่หลายครั้ง ผมเลยนิ่งไม่พูดอะไร จนมือใหญ่ประกบเข้าที่แก้มผมทั้งสองข้าง
"กูยังพูดไม่จบเลย"
หืม?
มีอะไรที่พี่ต้องพูดอีกงั้นหรอครับ....แต่ผมขอเตือน ถ้าเรื่องนั้นมันทำให้ผมเจ็บอีก ผมจะไม่ทนอีกต่อไป
"กูจะไปงานวิค...กับมึง ซาร์...ไปกับกูนะ"
อะไรนะ!
"พะ พี่พูดอะไรน่ะ"
"กูคิดแล้ว...กูอยากไปกับมึง"
ตึกตักๆ
"แล้ว แล้วจะให้ผมไปในฐานะอะไร พี่วิคเขาเกลียดผมขนาดนั้น" ขืนไปได้ตายแน่ ก็เล่นทำให้เขาโกรธซะขนาดนั้น
แต่แล้วความกังวลของผมก็หมดไป เมื่อเสียงเย็นเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยนิ้มบางๆ
"ในฐานะแฟนกูไง"
อึก!
"อย่า อย่ามาแกล้งผมนะ!" พี่จะยอมให้ผู้หญิงคนนั้นรู้เรื่องของพี่งั้นหรอ...บ้าน่า
"แกล้งอะไร กูมีแฟนแล้วก็ต้องเปิดตัวแฟนสิ"
!!!
ฝัน! ผมต้องฝันไปแน่!
"หึ...ตาจะเท่าไข่ห่านอยู่แล้ว" แล้วมือใหญ่ก็กดหัวผมให้เข้าไปใกล้ก่อนจะกดจูบลงมาบนหน้าผากผมเบาๆ
จุ๊บ
"กูบอกแล้วไง...กูจะมีแค่มึง"
!!!
แม่เจ้า!
"พี่พูดแล้วนะ" แล้วผมก็จะไม่ยอมให้พี่มาผิดคำพูดด้วย
"อืม" แล้วมือใหญ่ก็จับหัวผมกดเข้าหน้าอกตัวเองพร้อมกับลูบมันอย่างเบามือ
พี่...สัญญาแล้วจริงๆนะ
~วันรุ่งขึ้น~
ตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงเวลาของการเดินทางครับ เดินทางไปที่หัวหินเพื่อไปร่วมงานของผู้หญิงคนนั้น ตลอดทางร่างสูงก็เอาแต่เงียบ พวกเราเลยทำได้แค่นั่งฟังเพลงในรถ
ตอนแรกผมก็กะจะไม่มาหรอกครับ เพราะไม่อยากจะมีเรื่อง แต่พี่ฟินย์ก็มาในลุคเย็นชาและนิ่งเฉยจนผมเผลอเดินตามขึ้นรถ แล้วก็เอาแต่เงียบเหมือนเดิม
ผมนั้นอยากจะรู้จริงๆว่าพี่เขาถูกเลี้ยงดูมายังไง ทำไมถึงได้เย็นชาขนาดนี้ แถมยังมีความคิดแปลกๆจนผมเริ่มจะกลัว
อะไรของเขากันนะ
"คิดอะไรอยู่" อยู่ๆเสียงเย็นก็เริ่มทำลายความเงียบ ผมเลยหันไปมองเสี้ยวใบหน้าหล่อของอีกฝ่ายก่อนจะยิ้มปฏิเสธ
"เปล่าครับ"
"หึ" แล้วนั่นก็ดังขึ้นต่อท้ายคำพูดผมทันที ซึ่งมันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองนั้นไม่สามารถโกหกอีกฝ่ายได้ แต่ผมก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรอีก จนกระทั่งฝ่ามือหนาเอื้อมมากุมมือผมเบาๆ
"ไม่ต้องกลัวหรอกน่า กูพามึงมา...กูก็ต้องดูแลมึงสิ อย่าคิดมาก"
เห็นไหม...พี่เขาอ่านใจผมออกจริงๆด้วย
ผมยิ้มรับด้วยความสบายใจจากคำพูดของพี่เขา ก่อนที่เราสองคนจะเริ่มคุยกันมากขึ้น...โดยที่สองฝ่ามือเล็กใหญ่สองอันนี้ยังคงประสานกันแน่น
เมื่อเวลาผ่านไปสองชั่วโมงกว่าๆ เราสองคนก็มาถึงรีสอร์ทสวยติดชายทะเลจนได้ พี่ฟินย์เลยพาผมไปเช็คอินก่อนจะขึ้นไปเก็บของกัน แต่เพียงแค่เราเดินมาถึงห้อง ก็มีเสียงหวานเอ่ยทักทายร่างสูงอย่างดีใจ
"ฟินย์! ฟินย์มาจริงๆด้วย! วิคดีใจจัง!" ร่างบางที่แต่งชุดสายเดี่ยวสีขาวชวนมองได้วิ่งตรงดิ่งมาหาอีกคน ก่อนที่สองแขนเล็กจะโผเข้ากอดลำคอแกร่งอย่างถือวิสาสะ ผมมองภาพตรงหน้าก็รู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นส่วนเกินซะไม่มี เลยพยายามหลบภาพนั้นโดยการเดินเข้าห้องไป
"อ่าว...นี่ฟินย์พามันมาด้วยหรอ"
มัน?
ผมงั้นหรอ
สรรพนามที่ใช้เรียกผมนี่ช่างน่าจับมาเรียนภาษาไทยใหม่ ทำไมถึงได้ดูถูกคนอื่นดีนักนะ ตัวเองนั้นดีตายแหละ ตอนแรกก็กะจะไม่ยุ่ง แต่เจออย่างนี้ไป...ขอสักดอกเถอะ
"ก็ในเมื่อแฟนผมจำใจต้องมางานของพี่ ผมก็ต้องจำใจมาอยู่เป็นเพื่อนสิครับ เพราะบางที...แฟนผมอาจจะไม่ทันเล่ห์ของใครบางคนแถวนี้ก็ได้"
"ซาร์!/นี่แก!" สองเสียงประสานกันอย่างตกใจ ก่อนที่ผมจะเป็นคนดันร่างบางให้ออกห่างจากพี่ฟินย์
"ถ้าขืนพี่ยังดูถูกผม...ผมก็จะไม่ไว้หน้าพี่เหมือนกัน!" สิ้นเสียงอันแข็งกร้าวของผม ผมก็ดันอกหนาให้เข้าห้องอย่างไว พร้อมกับปิดประตูห้องใส่หน้าเธออย่างไม่เกรงกลัวอีกด้วย
ฟู่
"ซาร์! ทำไมทำตัวไม่น่ารักเลยวะ" แต่แล้วเสียงเย็นก็ดุผมทันทีที่ผมหันไปมองอีกฝ่าย ผมเองก็ตกใจไม่น้อยที่ถูกว่าอย่างนั้น เลยจ้องดวงตาคมคู่นั้นเพราะความไม่เข้าใจ
"พี่ดุผมงั้นหรอ"
ก็ใช่สิ...ก็นั่นมันคนรักของพี่นี่!
"มึงชักจะเอาใหญ่แล้วนะ" แต่พี่เขาก็ยังคงดุผมเหมือนเดิม ก่อนที่ตัวเองจะก้มลงไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าทั้งหมดไปเก็บ ส่วนตัวผมนั้นไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทำได้แค่นิ่งเงียบ เพราะใจก็รู้ว่าถ้าเถียงไปยังไงก็ต้องโดนว่าแน่
ก็ผมมันตัวแทนนี่
"อย่ามาทำหน้าอย่างนั่นนะซาร์" พออีกคนเดินกลับมาก็ยังมิวายหาเรื่องกัน ผมเลยหันหลังกลับไปที่ประตูพร้อมกับเดินออกจากห้องทันที
นี่ตกลงว่าพี่โกรธผมใช่ไหม โกรธที่ผมไปว่าคนที่พี่รักใช่ไหม!
ทุเรศที่สุด!
ผมอยากจะวิ่งหนีไปให้ไกลๆ แต่ก็ทำได้แค่เดินหนีไปที่สระว่ายน้ำแล้วเอาแต่นิ่งคิดเรื่องเมื่อกี้อยู่คนเดียว ตอนนี้มันรู้สึกว้าเหว่มาก มากจนน้ำตามันแทบไหล แต่ผมก็ต้องแข็งใจไว้ เพราะถ้าผมยอม...คนที่เจ็บก็คือตัวผมเอง
"หึ คงเห็นแล้วสินะว่าใครกันแน่ที่สำคัญสำหรับฟินย์"
จึก!
"พี่!" เสียงที่เคยหวานกำลังเยาะเย้ยผมอย่างเจ็บแสบ ผมเลยหันไปเผชิญหน้าเธอก่อนจะถอยหลังไปตั้งหลักเมื่อพบว่าเธอนั้นอยู่ห่างจากผมเพียงแค่สองก้าว
"ตกใจอะไร หึ...เอาสิ ปากดีให้เท่ากับเมื่อกี้สิ!" แต่แล้วมือเล็กก็ตรงเข้ามากระชากแขนผมอย่างแรง
"นี่! ปล่อยผมนะ!" ผมเองก็พยายามยื้อตัวเองให้ออกจากมือเธอ แต่ผมไม่รู้ว่าเธอไปเอาเรี่ยวแรงขนาดนี้มาได้อย่างไง เพราะผมนั้นไม่สามารถสะบัดตัวออกได้เลยสักนิด
"แกมันก็เหมือนพี่สาวแก คิดจะแย้งคนของฉันไป หึ...แต่อย่าฝันไปเลย เพราะฟินย์เขาไม่น่าโง่เอาคนจนๆอย่างแกแน่!"
จึก!
"พี่นั่นแหละที่พี่ฟินย์จะไม่เอา!"
ไม่จริง! ก็พี่ฟินย์ยังบอกกับผมอยู่เลยว่าจะไม่ทิ้งผมไปไหน พี่อย่ามาโกหกผมนะ!
"งั้นก็ลองมาดูกัน...ว่าฟินย์จะเลือกใคร อ้าย! ปล่อยพี่นะ! อย่า! อ้าย!" อยู่ๆเสียงแหลมก็เปลี่ยนมาวี้ดว้ายกะทันหัน พร้อมที่ร่างบางพยายามกระชากแขนผมไปมา ผมเองก็ยื้อตัวไว้สุดแรง ก่อนที่พี่เขาจะกระโดดลงสระน้ำด้านข้างพวกเราทันที
ตู้ม!
เห้ย!
"วิค!!!" ทันทีที่ร่างบางนั้นกำลังจมดิ่งสู่ก้นสระ ก็มีใครบางคนที่คุ้นตาวิ่งมาทางพวกเราก่อนจะกระโดดลงไปช่วยร่างนั้นขึ้นมาจากน้ำ ส่วนผมที่ยืนมองอยู่ก็เริ่มใจสั่นขึ้นมาเสียดื้อ
ผม...ผมไม่ได้ทำอะไรนะ!
ไม่นานพี่ฟินย์ก็ช่วยร่างบางนั้นขึ้นมาจากก้นสระได้ ผมเองก็รีบไปดูเพราะกลัวเธอจะเป็นอะไรไป พร้อมกับใครก็ไม่รู้หลายต่อหลายคนวิ่งมาช่วยดึงร่างบางขึ้นจากสระ ก่อนที่พี่ฟินย์จะตามขึ้นมาช่วยผายปอดกันใหญ่ ผมเองก็ยืนภาวนาให้พี่เขาปลอดภัย แต่เพียงแค่เธอฟื้น...ร่างบางก็ปล่อยโฮออกมาอย่างน่าสงสาร
"ฟินย์! ฟินย์ช่วยวิคด้วย มัน...มันจะฆ่าวิค!" อยู่ๆนิ้วเรียวเล็กก็ชี้มาทางผม จนทุกคนในบริเวณต่างหันมามองผมทั้งหมด ผมเองก็รีบปฏิเสธทันควันเพราะผมนั้นไม่ได้ทำอย่างที่เธอพูดเลยสักนิด
"ผม ผมไม่ได้ทำนะ!" ผมจ้องตาอีกฝ่ายที่มองหน้าผมอย่างเย็นชา ก่อนจะพยายามอ้อนวอนให้พี่เขาเชื่อ ผมขอแค่พี่ฟินย์คนเดียวเท่านั้นที่เชื่อว่าผมไม่ได้ทำ
"พี่ฟินย์...พี่ต้องเชื่อผมนะ" ผมทำท่าจะเดินเข้าไปหาอีกคนที่เอาแต่จ้องตาผมนิ่ง แต่เพียงแค่ผมทำท่าจะเดินเข้าไป ร่างสูงก็อุ้มผู้หญิงคนนั้นขึ้นมาทันที
อ๊ะ!
"ทราย เธอช่วยไปเปิดประตูห้องวิคให้หน่อยสิ" สิ้นเสียงเย็น...พี่ฟินย์ก็อุ้มผู้หญิงคนนั้นเดินจากไป โดยไม่คิดที่จะสนใจผมเลยสักนิด ปล่อยให้ผมยืนอยู่ตรงนั้นท่ามกลางคำครหาของคนอื่น
"เด็กคนนี้น่ะหรอที่อ่อยฟินย์เพราะต้องการเงินน่ะ น่าเกลียดเนอะ"
อ่อย?
นี่ผมไปทำแบบนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันน่ะ! ผมไม่เคยทำแบบนั้นเลยนะ
"ไม่ใช่แค่น่าเกลียดนะแก ต้องเลวด้วย ก็ดูสิ...เล่นจะฆ่ายัยวิคเลยนะ"
ไม่จริงนะ!
ผมทนที่จะยืนตรงนั้นไม่ไหวแล้ว!
พอตั้งสติได้ผมก็รีบวิ่งขึ้นห้องตัวเองทันที ใจมันช่างทรมานจนอยากจะบีบให้มันหยุดเจ็บ แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากร้องไห้
ฮื่อๆ
ทำไม ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ด้วย!
ผมนอนซบหน้าร้องไห้อยู่บนเตียงนั้นไม่ไปไหน เพราะตอนนี้ร่างกายมันช่างอ่อนแอเกินกว่าจะรับได้ ยิ่งหวนคิดถึงความเย็นชาที่อีกคนมอบให้ก็ยิ่งทุกข์ทรมาน จนอยากจะหายไปจากโลกนี้ให้รู้แล้วรู้รอด
ใจร้าย! พี่ฟินย์ใจร้าย
ทำไมถึงไม่เชื่อผม....ทำไมถึงไม่เข้าข้างผม ทั้งๆที่ผมถูกเขารังแกต่างหาก
"ผมเกลียดพี่ที่สุด!!!"
"เกลียดกูทำไม...กูยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ"
อ๊ะ!
อยู่ๆผมก็ถูกดึงขึ้นจากเตียง ก่อนที่อ้อมแขนหนาจะเกี่ยวเอาเอวผมให้เข้ามาหาตัวเอง
พี่ฟินย์!
"ปล่อยผมนะ! อย่ามายุ่งกับผม!" ผมผลักมือนั้นออกด้วยความโกรธ แต่พี่ฟินย์กลับคว้ามือผมไว้พร้อมกับล็อกตัวผมเข้าสู่อ้อมกอดเปียกของตัวเอง
"ซาร์...ใจเย็นหน่อยสิ"
ใจเย็น! นี่พี่คิดจะให้ผมใจเย็นงั้นหรอ ทั้งๆที่ตัวผมเองนั้นกำลังจะอกแตกตายเพราะพี่อยู่แล้วเนี่ยนะ!
ทุเรศ!
"ช่างผม! ยังไงผมมันก็ตัวร้ายของเรื่องอยู่แล้วนิ!"
"นี่มึงพูดอะไรเนี่ย" พี่ฟินย์เริ่มขึ้นเสียงเล็กน้อยเมื่อผมยังอาละวาดไม่หยุด ก่อนที่ร่างสูงจะจับผมกดลงกลางเตียง
"ซาร์!" แต่พอผมไม่ยอมหยุดนิ่ง เสียงเข้มก็ตวาดกลับมาจนผมชะงักกึก พร้อมกับที่ทุกอย่างนั้นเงียบตัวลง
"......"
พี่มาลงที่ผมงั้นหรอ
"ทำไมล่ะ ทำไมพี่ถึงไม่เคยคิดที่จะสงสารผมบ้าง"
ความน้อยใจมันเริ่มถาถมใช่จนน้ำตาเริ่มคลอ โดยที่อีกฝ่ายที่คร่อมร่างผมอยู่นั้นทำเพียงแค่จ้องมองนิ่ง ผมเลยบิดข้อมือให้หลุดพ้นจากการมือใหญ่ก่อนที่จะพลิกตัวหนีซบหน้าลงกับเตียง
ผม...ผมไม่ไหวแล้ว
ผมปล่อยโฮออกมาทั้งหมดเท่าที่มี ทำให้ตอนนี้มันรู้สึกปวดหัวจนลุกไม่ขึ้น แต่แล้วอยู่ๆเอวผมก็ถูกเกี่ยวแล้วลากให้เข้าไปใกล้กับอีกคนก่อนที่อ้อมแขนแกร่งจะกอดรัดตัวผมจนแทบจะรวมร่าง
"อย่าร้อง...."
"ฮื่อๆ...."
อย่ามายุ่งได้ไหม ไอ้คนไร้หัวใจ!
"ซาร์...มึงก็รู้ว่ากูปลอบคนไม่เก่ง แล้วมึงจะร้องให้กูเครียดเล่นทำไมวะ" ริมฝีปากบางไม่ได้ทำแค่พูด...แต่มันกลับประทับลงบนกลุ่มผมทั้งหัวจนลามมาถึงแก้ม ก่อนที่พี่ฟินย์จะจับตัวผมพลิกให้หันหน้าไปหาตัวเอง พร้อมกับใช้มือจับแก้มทั้งสองข้างของผมให้เงยขึ้นมาหา
"ฮึกๆ ปล่อยเลยนะ..." คนนิสัยไม่ดี
"หึ ร้องไห้จนตาบวมหมดแล้ว เดี๋ยวก็ได้อายคนอื่นหรอก" พี่ก็สนแต่คนอื่นแต่ไม่เคยคิดที่จะสนผมเลยสักนิด
"ผมเกลียดพี่! ฮื่อ..." ผมด่าอีกฝ่ายพร้อมกับทุบอกกว้างอย่างแรง แต่พี่มันก็จับมือผมมารวบไว้ได้ทันก่อนที่จะได้ลงหมัดเป็นครั้งที่สอง
"นี่ๆ จะมาเกลียดกูเรื่องอะไร กูยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ" ยังจะมาแก้ตัวอีก
"ก็ ก็พี่...ฮึกๆ คะ คิดว่าผม ทำเขา ฮื่อๆ" ยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บ ยิ่งคิดก็แค้น ทำไมผมถึงไม่เป็นคนที่พี่ช่วย ทำไมต้องเป็นเขาตลอดเวลา
"ใครบอกว่ากูคิดแบบนั้น"
"ก็พี่เชื่อเขา!" อย่ามาแถได้ไหมไอ้พี่ฟินย์บ้า!
"กูไม่ได้เชื่อใครทั้งนั้น" แม้แต่ผมงั้นหรอ
"ทำไมพี่พูดแบบนั้น พี่จะบอกว่าพี่ก็ไม่เชื่อว่าผมไม่ได้ทำใช่ไหม" น้ำตามันหยุดไหลกะทันหันเมื่อคำพูดนั้นมันเสียดแทงหัวใจ แค่พี่คนเดียวเท่านั้นที่ผมต้องการให้เชื่อ แต่พี่ก็ไม่
"แล้วมึงจะแคร์อะไรนักวะ มึงไม่ได้ทำก็คือไม่ได้ทำสิ" ผมฟังแล้วก็เริ่มสับสน ตกลงว่าพี่ฟินย์เชื่อผมหรือปล่า
"แต่ผมอยากให้พี่เชื่อ...แค่พี่คนเดียว" ผมยังคงอ้อนวอนให้อีกฝ่ายเข้าข้าง แต่พี่มันกลับถอนหายใจออกมายาวเหมือนกับไม่อยากจะคุยถึงเรื่องนี้อีก
"ซาร์...กูแค่พาวิคไปส่งที่ห้อง ไม่ได้หมายความว่ากูเชื่อที่วิคพูด กูรู้ว่าอะไรเป็นอะไรอยู่หรอก"
อึก!
"จะ จริงหรอ"
ผมถามพี่เขาด้วยหัวใจที่เริ่มรู้สึกดี เพียงแค่นั้นแหละที่ผมต้องการ
"จริงสิ"
แค่นั้นผมก็ผวาเข้ากอดอีกฝ่ายทันที ผมรัดร่างที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำนั้นจนเสื้อผ้าผมก็เริ่มเปียกตามไปด้วย ก่อนที่ฝ่ามือหนาจะลูบหัวผมเบาๆ
"แต่กูอยากให้มึงรู้อะไรบางอย่าง..." อยู่ๆเสียงเย็นก็เอ่ยขึ้นมาเบาๆก่อนที่ผมจะตอบรับ
"ครับ"
"ถึงมึงจะจน...แต่มึงก็มีค่าสำหรับกูนะ"
!!!
พี่ฟินย์!
พี่รู้ได้ยังไงว่าผมเครียดกับคำนี้อยู่
ใช่...เครียดมากๆกับเรื่องนี้ ก็พี่เขารวยขนาดนั้น แต่ผมนี่สิ...เทียบไม่ติดตัวเลยสักนิด
ผมเม้มปากกับคำนั้นแน่นจนอีกฝ่ายคว้าหัวผมเข้าไปหอมหนักๆก่อนจะเพิ่มความมั่นใจให้ผมอีกครั้ง
"มึงไม่ต้องไปสนคำของคนอื่น ถึงแม้ว่าคำนั้นจะมากจากปากของวิค เพราะไม่ว่าอย่างไง...คนที่มึงจะต้องอยู่ด้วยก็คือกู"
++++++++++++++++++++++++++++++++
140805
ให้มันรู้ซะมั้ง! พี่ฟินย์ช้านไม่ได้โง่นะยัยวิค!!!
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ