RabbiT เหยื่อ.รัก.ร้าย
เขียนโดย nooonaa
วันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 18.01 น.
แก้ไขเมื่อ 11 มกราคม พ.ศ. 2557 18.12 น. โดย เจ้าของนิยาย
16) Little rabbiT 15 : ต้องได้เหยื่อ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความby nooonaa
Little rabbiT 15 : ต้องได้เหยื่อ
+Little rabbiT+
สุนัขจิ้งจอกตัวนี้...มันหมอบให้กระต่ายตัวน้อยของมันแล้วต่างหาก และเมื่อมันหมอบ...มันก็เชื่องมากๆเลยนะ'
สุนัขจิ้งจอกที่คอยจะเอาเปรียบคนอื่น คอยจ้องจะหาหนทางให้ตัวเองได้ประโยชน์สูงสุด ยิ่งสัญชาตญาณของมันก็บ่งแน่ชัดแล้วว่า...มันเชื่อใจไม่ได้ แล้วแบบนี้ สุนัขจิ้งจอกพันธุ์งามที่ใครๆต่างก็หวังที่จะได้เขามาอยู่ข้างตนตัวนี้ มันจะเชื่องตามที่มันพูดได้จริงๆอย่างนั้นน่ะหรอ
'อย่าทำให้มันโหยหาเหยื่อของมัน จนใจจะขาดแบบนี้อีกเลยนะ'
ยิ่งเหยื่อที่โดนมันทรมานจนแทบขาดใจตัวนี้ก็โดนมันทำร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันยังคงเชื่อได้อีกครั้งหรือป่าว
ถึงยังไงก็เจ็บ ไม่ช้าก็เร็วมันก็ต้องเจ็บ ถ้าอย่างนั่น...ผมเองก็อยากมีความสุขบ้าง
"ทำไมยังไม่นอนอีก" ร่างสูงที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องน้ำก็ถามผม ก่อนที่พี่เขาจะเดินมาหาพลางเช็ดหัวที่เพิ่งสระไปด้วย
"ผมนอนไม่หลับ" ผมเบี่ยงหน้าหนีไปอีกทาง เมื่ออีกคนเดินอวดกล้ามหน้าท้องสวยอย่างไม่รู้สึกเขินอาย แต่ผมนี่สิกลับอายแทบมุดเตียงหนีแทน ก็ดูสิ...มันมีเสน่ห์ขนาดนั้น แล้วผมจะอดใจไหวหรอ
เห้อ...ท่าจะเป็นมาก
"ไม่สบายรึป่าว" พี่มันคงเห็นท่าทีเคอะเขินของผม เลยเดินเข้ามาถามพลางเอื้อมมือมาจับแก้มผมเบาๆ ผมเลยรีบถอยหน้าออกเพราะกลัวอีกคนจะรู้ถึงความรู้สึกที่มันไม่ปกติ แต่พอผมทำแบบนั้น ร่างสูงก็ทรุดตัวลงนั่งตรงหน้าระหว่างขาผมทันที
"อย่าเมินกูสิมึง" มือใหญ่เท้าเข้าที่หน้าขาผมที่นั่งอยู่ก่อนจะเกี่ยวคางให้หันมาหา ผมเลยต้องจำใจมองใบหน้าหล่อตรงหน้า แต่พอเราได้สบตากันเพียงแค่เสี้ยววินาที หัวใจผมก็เริ่มทำงานหนักทันที
"ซาร์ มึงเป็นอะไรรึป่าว"
อะไรล่ะ คนอย่างผมนี่จะสามารถเป็นอะไรได้อย่างนั้นหรอ นอกจากเขินพี่น่ะ
"ป่าวครับ เออ...เรา นอนกันเถอะ" ผมเลยตัดปัญหาที่จะต้องมานั่งตอบคำถาม พี่มันก็ไม่ได้ว่าอะไร ยังยอมเปล่าผมให้ไปนอนง่ายๆอีกต่างหาก ผมเลยขึ้นไปนอนเตียงดีๆในขณะที่พี่ฟินย์เองก็เดินกลับไปแต่งตัว แต่พอแต่งตัวเสร็จ ร่างสูงก็เดินขึ้นมานอนกอดผมจากด้านหลังทันที
ตึกตักๆ
"........"
ณ ตอนนั้นทุกอย่างรอบตัวมันทั้งมืดและเงียบสนิท ทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้หลับตาลงด้วยซ้ำ ยิ่งอัอมแขนแกร่งดึงผมเข้าหาแผ่นอกอุ่นด้านหลังให้แน่นขึ้นอีกก็ยิ่งทำให้หัวใจผมสั่นอย่างรุนแรง ผมเลยต้องระงับอาการด้วยการกลั้นหายใจเหมือนกัน
"มึงกลัวกูมากขนาดนี้เลยหรอ มึงเกลียดกูมากขนาดนี้เลยรึไง"
อยู่ๆเสียงที่เคยเย็นก็เอ่ยขึ้นอย่างน้อยใจ ผมรู้สึกได้ว่าอีกคนเครียดมากขนาดไหน แต่ก็ยังคงระงับอารมณ์ของตัวเองให้เย็นที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่มีปัญหาเคืองใจกับผมอีก
"ป่าวสักหน่อย" ผมตอบอู้อี้เมื่อเริ่มหายใจไม่ค่อยออก อีกฝ่ายเองก็นิ่งเงียบไปเลย ผมก็ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง เลยตัดสินใจพูดอะไรบางอย่างที่ผมคิดว่ามันน่าจะช่วยทำให้ร่างสูงรู้สึกสบายใจมากขึ้น
"พรุ่งนี้...พี่อยากกินอะไรมั้ยครับ"
"อะไรนะ!" เสียงเย็นดูตกใจปนตื่นเต้นขึ้นมาถนัด จนผมเองก็ต้องอมยิ้มตาม ก่อนที่จมูกโด่งจะก้มลงหอมที่หลังคอผมซ้ำๆจนรู้สึกจั้กจี้
"ฮ่าๆ ผมจั้กจี้นะ" ผมหัวเราะไปพยายามดันใบหน้าหล่อให้ออกห่าง แต่พี่เขากลับพลิกผมให้หันมาก่อนจะขึ้นคร่อมทับผมทันที
"มึงกำลังแกล้งกูอยู่ใช่มั้ย"
แกล้ง?
"ป่าวนะครับ" ใครจะกล้าแกล้งพี่ได้ล่ะ แกล้งไปก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำสำเร็จแถมดีไม่ดีอาจจะโดนพี่ด่าเข้าให้อีก
ผมไม่โหล่คิดจะทำแบบนั้นแน่
"ซาร์ นี่กูกำลังจะบ้าขึ้นมาจริงๆแล้วนะ"
หืม?
"ผมไปทำอะไรให้" ผมยังคงตีหน้าซื่อใส่ ทั้งๆที่ใจมันก็รู้ว่าสิ่งที่พี่เขาพูดมันคืออะไร แต่ผมไม่ได้คิดจะแกล้งหรืออะไรนะ แค่ยังไม่อยากยอมง่ายๆเท่านั้นเอง
"ไหนมึงตอบตกลงที่จะดูแลกูแล้วไง แล้วทำไมถึงทำให้กูรู้สึกเหมือนมันไม่ใช่ความจริงแบบนี้"
"ก็มันจะได้เหมือนที่พี่เคยพูดกับผมไง"
มันจะได้เท่าเทียมกัน ถึงแม้ว่าผมจะเจ็บมากกว่าก็เถอะ
"โถ่ ไม่ทำงี้ดิ กูจะไม่ไหวแล้วนะ กูอยากได้ยินเสียงหวานๆน่ารักๆ แบบที่มึงเคยอ้อนกูน่ะ ไม่ใช่แข็งทื่อแบบนี้"
"พี่จะเรียกร้องมากเกินไปมั้ย ผมกับพี่...เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย"
มันคงเป็นประโยคเจ็บจี๊ดสำหรับอีกฝ่ายมาก เพราะทันทีที่ผมพูด ดวงตาคมก็เบิกกว้างเหมือนอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน ผมก็เห็นใจนะ แต่บทเรียนในอดีตมันมีมากกว่า
"อย่ามาทำเหมือนกับว่าผมทำร้ายพี่สิ"
"นี่มึงกำลังเอาคืนกูงั้นสิ" พี่มันลากเสียงสูงเหมือนกับถามเพื่อหาเรื่อง แต่ผมก็ยังคงทำเพียงยักไหล่เล็กน้อยแล้วหันหน้าหนี แบบที่เรียกว่า...ไม่สนใจ หรือ ก็แล้วแต่จะคิด
"เห้อ...ก็ได้ๆ จะเอาอย่างนั้นก็ได้"
มันผิดคาดจริงๆนะ ที่คนโมโหแรงแบบพี่เขาจะยอมลงง่ายๆ พอร่างสูงถอนหายใจออกยาวเหมือนจะปลงกับผม เขาก็ทิ้งตัวลงนอนหงายข้างๆผมทันที มันดูเหมือนอ่อนแรงจนน่าสงสาร สงสารขนาดที่ว่า...ผมกำลังจะยอมอีกแล้ว
มือผมเอื้อมไปกุมมือใหญ่โดยที่สมองไม่ทันสั่ง เหมือนกับมันทำลงไปเพราะหัวใจสั่งล้วนๆ มือใหญ่ก็ไม่มีท่าทีอะไรตอบกลับ คงจะกลัวว่าผมจะตีตัวออกห่างอีก
"ที่จริงแล้ว..มันเป็นเวลาของผมนะ พี่ก็ต้องยอมผมบ้างสิ ถึงพี่จะไม่ได้รักผมก็เถอะ"
"ก็ยอมอยู่นี่ไง แต่อย่าให้ถึงทีกูนะ จะเอาคืนให้สาสมเลยมึง"
ฮ่าๆ เอาจริงหรอเนี่ย
ผมตลกพี่เขาจริงๆนะ เหมือนใจก็อยากจะแกล้งผมให้หายหมั่นเขี้ยวตัวเอง แต่อีกใจก็กลัวผมโกรธ ถ้าเกิดตัวเองทำผมขึ้นมาจริงๆ
"เอาน่าๆ ผมทนได้ พี่ก็ต้องทนได้สิ"
"โห มึงอึดกับทุกเรื่องนี่หว่า แต่กูไม่อึดแบบมึงนะ โดยเฉพาะเรื่องเซ็กเนี่ย"
เซ็ก!
"พี่ฟินย์!"
พูดอะไรเนี่ย!
แต่ยังไม่ทันที่ผมจะได้ว่าอะไรอีก พี่มันก็ดึงผมเข้าไปกอดทันที
"อยาก"
สั้นๆคำเดียว แต่เข้าใจความหมายได้อย่างลึกซึ้งและดีเยี่ยม
"......"
ผมเลยไม่ตอบอะไร ปล่อยให้ความเครียดเข้าครอบงำทุกอย่าง แล้วไม่นานผมก็รู้สึกถึงลมหายใจที่เป่ารดหน้าผากผมเริ่มอ่อนแรง และนิ่งสม่ำเสมอ ผมเลยค่อยๆเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นตาคมนั้นหลับพริ้มอย่างอย่างมีความสุข พี่เขาคงจะเหนื่อยมาทั้งวัน ทั้งขึ้นรถเมล์ เดินกลางถนนท่ามกลางแดดร้อนจัด ยิ่งต้องมาเจอการจัดสินใจครั้งสำคัญอีก ก็คงจะเหนื่อยสุดๆเลยมั้ง
ผมเลยเอื้อมมือเข้ากอดเอวสอบใหญ่ก่อนจะกดจูบลงบนแผ่นอกกว้างเปลื่อยเปล่านั้นหนักๆ
"ทนหน่อยนะครับ ผมแข็งได้ไม่นานหรอก"
ผมแค่อยากจะบอก แต่เหมือนอีกคนจะรับรู้ในสิ่งที่ผมพูด เพราะพี่มันกระชับกอดผมเหมือนตอบรับพร้อมกับซุกใบหน้าหล่อของตัวเองให้ชิดกับตัวผมมากที่สุด
แค่รับรู้ว่ายังมีกัน....มันก็เพียงพอแล้วจริงๆ
ยังไงก็รักนะครับ
สุนัขจิ้งจอกแสนเจ้าเล่ห์ของผม
พี่ฟินย์
+Big foX+
ให้ตายเถอะ! พวกมึงเห็นกูเป็นตัวอะไรกันวะ!
เหี้.ย!
"ซาร์ๆ ข้อนี้ทำยังไงอะ อธิบายอีกทีได้มั้ย"
แล้วมึงทำเองไม่เป็นรึไงไอ้เหี้.ย! แค่บวกเลข! นี่มึงอยู่มหาลัยหรืออนุบาลวะ!
"ได้สิๆ ตรงไหนหรอ"
นี่ก็ใจดีจริง มึงดูไม่ออกรึไง ว่ามันแค่อยากอยู่ใกล้มึง มันถึงแกล้งโง่น่ะ
โอ๊ย! อยากฆ่าคนตายเว้ย!
แม่ง! อยากตีก้นกระต่ายตัวน้อยด้วย โทษฐานที่ซื่อเกินไป!
อื่ย!
มึงต้องซื่อกับกูคนเดียวสิวะ!
ผมนั่งมองไอ้สองสามหน่อที่พยายามยื่นนั่นถามนี่กับน้องมัน คำถามนี่เหมือนใฝ่รู้นะ แต่สายตานี่ไม่มองสิ่งที่น้องมันอธิบายเลยสักนิด ผมเลยยิ่งรู้สึกโมโหมากกว่าเดิม แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะน้องมันบอกให้ผมนั่งรอเฉยๆ
'ผมต้องช่วยเพื่อนติวหนังสือนะครับ ถ้าพี่เบื่อก็กลับได้เลยนะ'
'เดี๋ยวกูนั่งรอมึงอยู่นี่แหละ'
'ถ้าอย่างนั้น...ได้โปรด อย่า รบ กวน ผม นะครับ'
ดูมันดิ มันบอกผมแบบเน้นที่ละคำ 'อย่า รบ กวน ผม' แต่สีหน้าไม่ได้บึ้งตึง มันเลยทำให้ผมไม่กล้าแม้แต่จะคิดที่จะเข้าไปหามันเลยสักนิด
ก็ผมไม่อยากทำให้น้องมันเศร้าอีกนี่น่า
เห้ย! ผมไม่ได้หงอนะเว้ย แค่อยากเป็นคนดีแบบคนอื่นบ้าง
เท่านั้นเอง
อะไรเล่า!
สัด! เชื่อดิวะ!
+Little rabbiT+
พี่เขาเบื่อหรอ...ถึงทำหน้าเครียดแบบนั้น
ผมเหลือบมองใบหน้าหล่อที่ดูบึ้งตึงมาก มากจนผมรู้สึกอึดอัด แถมยังนั่งกระดิกเท้าเคาะนิ้วเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่นั่นอีก มันคงไม่ใช่ว่า...พี่เขากำลังคิดจะทำอะไรอยู่หรอกนะ
ถ้าใช่...มันต้องมีคนเดือดร้อนแน่ๆ
ที่จริงพี่เขาเป็นคนที่เย็นชามาก แทบจะจับความรู้สึกและความคิดไม่ได้ แต่ช่วงสองสามวันมานี้ ตั้งแต่ผมยอมพี่เขา พี่ฟินย์ก็ดูโมโหร้ายมากกว่าเดิม ถึงจะไม่ได้บังคับและรุนแรงกับผมแบบเดิมก็เถอะ แต่มันทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจมากจริงๆ
ยิ่งวันนี้พี่ฟินย์มารอรับที่หน้าคณะ ผมเองก็กลัวจะปะทะกับพี่จีนจะตาย แต่ยังดีที่พี่จีนตามอาจารย์ไปสัมมานาของคณะที่พัทยา ผมเลยเบาใจหน่อย นึกว่าตัวเองจะต้องหาคำแก้ตัวที่ยอมพี่ฟินย์อีกครั้ง
ก็...มันทำใจแข็งได้เท่านี้นี่ เห็นใจผมด้วยเถอะ
"ซาร์ๆ เย็นนี้ว่างมั้ย" อยู่ๆเพื่อนก็สะกิดที่ไหล่ผมยิกๆ ผมก็หันหน้าไปเพื่อจะฟัง แต่พอผมหัน ก็ดันเจอหน้าเพื่อนที่ยื่นมาหาก่อนอยู่แล้ว ทำให้ปลายจมูกมันโดนแก้มผมเต็มๆ ผมเลยเด้งตัวออกก่อนจะกุมหน้าตัวเองแน่น พร้อมกับเสียงเก้าอี้ที่ขูดกับพื้นก็ดังสวนกลับมาทันที
ครืด!
ตึง!
เสียงเก้าอี้ล้มลงพื้นอย่างดังจนทั่วทั้งบริเวณสะดุ้งตกใจ ผมเองก็หันไปมองทางต้นเสียงทันที ก่อนจะพบว่าร่างสูงที่คอยนั่งมองผมนั้นเองที่เป็นคนทำเสียงนั่น ก่อนที่พี่เขาจะมองหน้าผมเล็กน้อยและเดินออกจากห้องสมุดไปทันที
พะ พี่ฟินย์
ตอนนั้นผมนิ่งทำอะไรไม่ถูก เพราะสมองมันยังประมวลผลให้ไม่เสร็จ แต่พอคนข้างๆเอ่ยถามขึ้นมา ผมก็เริ่มเข้าใจ
"เขาโกรธใครกันวะ ถึงรุนแรงขนาดนั้น"
โกรธ? พี่โกรธผมงั้นหรอ
"นี่ นายไม่..."
"เออ ขอตัวก่อนนะ!" พอคิดได้ ผมก็ตัดบทเพื่อนที่จะถาม ก่อนจะรีบวิ่งตามร่างสูงไปในทันที แต่ผมก็คลาดกับพี่เขาจนได้ เพราะเมื่อผมวิ่งออกมา...ผมก็ไม่เห็นพี่ฟินย์แม้แต่เงา
อะไร นี่พี่โกรธจนทิ้งกันเลยหรอ ก็ผมไม่ได้ตั้งใจจะให้จมูกเขามาโดนแก้มนะ
เพล้ง!
เพล้ง!
แต่แล้วก็มีเสียงเหมือนกระจกแตกดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเสียงสัญญาณเตือนของรถเหมือนกับรถคันนั้นกำลังถูกคุกคาม เสียงมันดังมากจนคนนั้นวิ่งกู่เข้าไปดู แต่พอผมหันไปมองตาม กลับพบผู้ชายคนหนึ่งกำลังถือไม่กอล์ฟหัวใหญ่อยู่ในมือ เขากระหน่ำฟาดกระจกรถเก๋งทุกด้านจนมันแตกละเอียด พร้อมกับฟาดตัวรถจนมันบุบทั้งคัน ผมเห็นท่าทางแบบนั้นก็ต้องอึ้ง เพราะมันเหมือนกับว่า อีกคนกำลังระบายอารมณ์ที่กำลังคุกรุ่นกับเจ้าของรถคันนั้น โดยที่เจ้าของรถคันนั้นคือเพื่อนผมที่มาติวหนังสือกันวันนี้ และคนก่อเหตุคือ...พี่ฟินย์
"พี่ฟินย์!" ร่างสูงยังคงระบายอารมณ์และไม่ฟังคำใคร ผมเลยรีบวิ่งไปจับแขนพี่มันแน่นไม่ให้อีกคนฟาดต่อ แต่พอผมห้าม พี่เขากลับตวัดสายตาดุกลับมาจนผมเริ่มกลัว และยอมปล่อยแขนแกร่งนั้นออก
"หยะ หยุดเถอะครับ" ผมบอกอ้อมๆแอ้มๆอย่างกล้าๆกลัวๆ แต่อีกคนก็เอาแต่ค้อนผมตาเขียว เหมือนกำลังไม่ถูกใจผมมาก ผมเลยต้องหลบตาดุพลางนิ่งเงียบกริบ
น่ากลัว
"มึงคิดจะช่วยมันรึไง" เสียงเขียวเน้นย้ำทุกคำจนผมเริ่มมั่นใจว่าอารมณ์ของพี่เขาถึงขีดสุดแล้ว
"เปล่านะครับ แต่พี่ทำแบบนี้มันไม่ถูกนะ" ผมเป็นคนตรง จะให้มาโกหกว่ามันไม่ใช่มันก็กระดากใจ แต่พอผมพูดแบบนั้น ร่างสูงก็ยกไม้เหนือหัวทันที พร้อมกับลงแรงฟาดใส่รถคันนั้นอีกครั้ง
"พี่ฟินย์!"
ตึง!
แย่แล้ว
เมื่อร่างสูงฟาดเสร็จ พี่มันเขาก็ทิ้งไม้นั้นอย่างไม่ใยดี พร้อมกับเดินเข้ามาลากผมให้เดินไปพร้อมกับตัวเองในทันที
"พี่ฟินย์ ผมเจ็บ" ผมพยายามขืนมือตัวเองออกจนพี่เขายอมปล่อยเมื่อพาผมขึ้นรถได้ ก่อนที่พี่ฟินย์จะขับพาผมกลับคอนโด
ตลอดทางเราสองคนก็เงียบไม่ยอมพูดอะไร แต่พอเข้าห้องได้ พี่เขาก็เดินไปหยิบเบียร์กระดกรวดเดียวจนหมดพร้อมกับจุดบุหรี่แล้วอัดเข้าเต็มปอดอยู่นอกระเบียงห้อง ผมเองก็ยืนมองภาพนั้นอย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมพี่ฟินย์ดูอารมณ์เสียขนาดนั้น แต่พอร่างสูงหันกลับมา ตาคมก็มองกราดจนเราสบตากัน ก่อนที่มันจะเชหันไปมองอย่างอื่นแทน
โดนโกรธมากๆอีกแล้วหรอ
เชื่อมั้ย ว่าพี่เขาอยู่ตรงระเบียงแบบนั้นตั้งแต่เย็นจนถึงสองทุ่มกว่าๆ เขาไม่ยอมแม้จะเดินกลับเข้ามาสักนิด เอาแต่นั่งนิ่งบนเก้าอี้อยู่อย่างนั้นไม่ไปไหน ผมก็เริ่มยิ่งไม่สบายใจที่เป็นแบบนี้ แต่ผมก็ไม่กล้าจะเข้าไปง้อหรืออะไร
ผมเลยตัดสินใจเดินเข้าครัวไปทำอาหารง่ายๆสำหรับสองคนเพื่อจะเอาไปง้ออีกคน พอทำเสร็จ...ผมก็ยกออกไปตรงที่ร่างสูงทอดกายนอนอยู่ ก่อนจะเอ่ยเรียกเบาๆจนตาคมค่อยๆเปิดออกและหันมามองผม
"พี่ฟินย์...หิวรึยังครับ"
อ่า...ผมทำแบบนี้ มันดีแล้วใช่มั้ย
"กูไม่หิว" แต่แล้วใบหน้าหล่อก็หันกลับพร้อมกับพูดตัดน้ำใจผมเสียงเย็น
บอกเลยว่าตอนนั้นน้ำตามันทำท่าจะไหลซึมออกมา แต่ผมก็กลั้นไว้ได้ทัน ก่อนจะผมเดินกลับเข้าไปที่ครัวเหมือนเดิม
นี่ผมทำอะไรผิดอีกเนี่ย
งั้นลองแบบนี้ละกัน
พอคิดว่าอีกคนบอกว่าไม่หิว ก็เลยหยิบเบียร์และขนมคุกกี้เดินกลับไปแทน
"เอาเบียร์เพิ่มมั้ยครับ" ผมยืนมันไปจนสุดแขน แต่พี่เขากลับเบี่ยงหน้าหลบไปอีกทางทั้งๆที่ตายังคงหลับสนิทอยู่
ใจร้าย คิดจะทำร้ายกันอีกแล้วรึไง
ผมรู้สึกน้อยใจมาก...ขอพูดตรงๆเลย มันเลยทำให้ผมคิดสั่นที่จะประชด ผมเลยเอากระป๋องเบียร์กลับมาพร้อมกับเปิดกระป๋องออกและกระดกรวดเดียวแบบที่เห็นพี่มันทำ
"พี่ไม่กิน ผมกินเองก็ได้"
อึกๆ
"ซาร์!"
จี๊ด!
"อ่า!"
ขมอ่า
มันขมจนหน้าผมแหย พี่เขาก็ร้องตกใจดังลั่นก่อนจะคว้ากระป๋องเบียร์ให้ออกจากมือผม แต่ตอนนั้นผมไม่รับรู้อะไรอีกแล้วครับ เพราะผมเองก็อยากจะเคว้งมันให้ไปไกลสุดแขนเหมือนกัน
"เป็นไงบ้างวะ โอเคมั้ยมึง"
"พี่ฟินย์ มันขมอะ" ผมแบะปากใส่พร้อมกับน้ำตาซึมเล็กน้อย พี่เขาก็อมยิ้มเหมือนขำก่อนจะปาดน้ำตาออกให้ช้าๆ
อบอุ่นจัง
"หึๆ แล้วคิดยังไงถึงดื่มมันเล่า"
"ก็พี่ไม่สนใจผมนี่" ชอบทำให้คิดมากอยู่เรื่อย
"นี่เรียกร้องความสนใจรึไง"
อ่า คงงั้นมั้ง
"แล้วพี่โกรธอะไรผมเนี่ย"
"ก็...นะ"
แค่นี้เนี่ยนะ อะไรของพี่กันแน่เนี่ย
ผมมองร่างสูงอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่มือใหญ่จะเบี่ยงหน้าผมให้เองพร้อมกับก้มลงมาหอมแก้มหนักๆไปหนึ่งที
ฟอด
"อีกแล้ว ชอบถึงเนื้อถึงตัวอยู่เลย"
ถึงปากจะบ่น แต่ก็ยอมให้อีกคนไล่หอมอยู่นั่น จนตอนนี้...มือใหญ่ลวงเลยเข้าไปในเสื้อ ส่วนอีกข้างก็ล้วงหายเข้าไปขยำเนื้อบั้นท้ายจนแทบจะหลุดติดมือ ขอบอกเลยว่าตอนนี้...ใจผมหวิวๆยังไงก็ไม่รู้ มันเหมือนกับว่าผม...กำลังเลใจ
ระหว่าง...ยอมหรือไม่ยอม
"พี่ฟินย์..."
"อย่า! ยังไงกูก็ไม่ยอม วันนี้กูต้องได้มึง!"
พี่ฟินย์!
อ๊ะ!
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
140325
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ