Fic B2ST Big Mama [JunSeung ft.Lee Joon] [Rate 20]
10.0
เขียนโดย เช้าตรู่
วันที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2557 เวลา 10.44 น.
20 chapter
5 วิจารณ์
39.61K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 8 มกราคม พ.ศ. 2557 11.03 น. โดย เจ้าของนิยาย
10) Big Mama Chapter 9
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความChapter 9
“นายจะออกไปบ่อนเหรอครับ แต่วันนี้ไม่มีอะไรต้องเคลียร์นะครับ ผมให้เด็กดูแลแทนแล้ว” แทคยอนที่ยืนอยู่ที่เชิงบันไดถามขึ้นเมื่อเห็นนายใหญ่ของพรรคเดินหน้ามุ่ยลงมาจากชั้นบน ทั้งที่บอกเอาไว้ว่าจะเคลียร์เอกสารการเงินและกำชับให้ตนดูแลนายแม่แทน
“กูจะออกไปดื่มที่บาร์”
“แต่นายแม่อยู่บ้านคนเดียวนะครับ”
“กูให้มึงเป็นคนดูแล มึงก็ทำหน้าที่ของมึงไปสิ!”
“ครับนาย” แทคยอนรับคำหนักแน่น โค้งให้เจ้านายจนเป็นมุมฉาก รอจนกระทั่งเจ้านายเดินออกไปแล้วถึงได้เงยหน้าขึ้นเหมือนเดิม
“หงุดหงิดเรื่องอะไรอีกล่ะเนี่ย” เผลอถอนหายใจออกมาเบาๆ มองตามเจ้านายที่ขับรถออกไปเองด้วยความเร็วสูง รู้ตัวอีกทีก็เมื่อสัมผัสนั่มที่สันไหล่นั่นแหละ แทคยอนหันไปตามสัมผัสนุ่มก่อนจะรีบถอยห่างออกมา
“นายแม่! ไหนบอกผมว่าจะแช่น้ำแร่ซักครึ่งชั่วโมงไงล่ะครับ นี่ยังไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเลยนะครับ”
“พี่จุน...เอ๊ย! หมอนั่นออกไปข้างนอกเหรอ” ไม่ตอบคำถามของแทคยอน แต่เปลี่ยนเป็นฝ่ายถามคำถามเสียเอง
“นายบอกจะออกไปดื่มที่บาร์น่ะครับ คงเครียดกับงาน”
“งั้นเหรอ...” รับคำสั้นๆ เผลอเม้มปากพลางใช้ความคิด
“งั้นพาชั้นไปที่นั่นที”
“ไม่ได้นะครับ นายสั่งเอาไว้ว่า....” ยังพูดไม่จบ ร่างระหงก็เดินผ่านตัวแทคยอนไปก่อน บ่งบอกเจตนาของตนชัดเจนว่าต้องการจะไปที่นั่น ไม่ว่าอีกคนจะสั่งเอาไว้ยังไงก็ไม่สน
“เชื่อแล้วล่ะที่นายบอกว่านายแม่น่ะดื้อ” บ่นกับตัวเองเบาๆ แล้วก็รีบตามเจ้านายอีกคนไป กระโดดขึ้นรถฝั่งคนขับ เลี่ยงที่จะใช้คนขับรถโดยการเป็นคนขับเสียเอง
แทคยอนมองกระจกมองหลังเพื่อดูอารมณ์ของร่างบางที่นั่งไขว่ห้าง ทำหน้านิ่งอยู่ที่เบาะหลัง สองแขนเรียวยกขึ้นกอดอกนิ่งเหมือนกัน
วันนี้แปลกตาที่ไปเล็กน้อย ตรงที่นายแม่เลือกที่จะแต่งตัวด้วยเสื้อผ้า แทนที่จะเป็นยูกาตะ กางเกงหนังสีดำสนิทกับเสื้อแขนยาวสีขาวเนื้อหนา ไหล่กว้างจนไหลลงที่ลาดไหล่ข้างหนึ่งอย่างเป็นธรรมชาติ โชว์ไหล่สวยน่าสัมผัส
ดวงหน้าสวยที่แม้ไม่แต่งแต้มอะไรเลย แต่ก็สวยงามจนแทบละสายตาไม่ได้
“จะจ้องชั้นอีกนานมั้ยแทคยอน อยากตาบอด...อย่างนั้นใช่มั้ย....” ปากบางเอ่ยขึ้น พร้อมทั้งจับจ้องดวงตาเรียวไปที่กระจกมองหลังเพื่อสบตากับแทคยอนผ่านกระจก
แทคยอนรีบหลบตาแล้วสนใจกับถนนเบื้องหน้าเหมือนเดิม ก่อนที่ตัวเองอาจจะตาบอดจริงๆ อย่างที่นายแม่พูดเมื่อครู่
“จุนเครียดเรื่องอะไร นายรู้มั้ยแทคยอน” ปากบางเอ่ยถามขึ้นอีกครั้ง ทั้งที่ดวงตาจดจ้องอยู่ที่วิวข้างถนนที่ประดับประดาไปด้วยหลอดไฟหลายพันหลอดเป็นซุ้มยาวไปหลายสิบเมตรตามถนน
“ผมไม่ทราบครับ นายไม่เคยบอกหรือเล่าอะไรให้ฟังเลย”
“เครียดเรื่องงานรึเปล่านะ”
“ถ้าเรื่องงานไม่มีอะไรให้เครียดหรอกครับ”
“ถ้าไม่มีเรื่องอะไรให้เครียดทำไมต้องออกไปดื่มตั้งแต่หัววันแบบนี้ด้วยนะ” ร่างบางพึมพำกับตัวเองเบาๆ คิดหนักจนเผลอกัดริมฝีปากล่างตัวเองแน่น
“หรือเค้าจะเครียดเรื่องชั้น”
“ไม่มีทางหรอกครับ นายดีใจที่นายแม่ยอมมาอยู่ที่นี่กับนาย สั่งให้เด็กที่บ้านเตรียมบ้านนานเป็นเดือนเพื่อต้อนรับนายแม่เลยนะครับ รวมทั้งสวนกุหลาบคริสเตียนดิออร์หลังบ้านนั่นด้วย”
“_____งั้นเหรอ”
แทคยอนลอบมองดวงหน้าหวานผ่านกระจกมองหลังอีกครั้ง ก็ปรากฏว่า ดวงหน้าหวานแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างน่ามอง
“ครับ ผมยังไม่เคยเห็นนายลงมาจัดการเรื่องบ้านด้วยตัวเองเลยนะครับ แต่พอนายแม่จะมาเท่านั้นแหละ ก็ลงมาจัดการด้วยตัวเองทั้งที่ยุ่งกับงานจนแทบไม่มีเวลาพักเลย” แทคยอนพูดต่อทั้งที่ไม่ได้มองใบหน้าหวานผ่านกระจกมองหลังแล้ว
ร่างบางไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับมา ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอยิ้มออกไปรึเปล่า ไม่รู้ว่าดีใจขนาดนี้ สีหน้าจะออกมาแบบไหน เริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าตัวเองยังทำหน้านิ่งเหมือนเดิมอยู่มั้ย เลยหันหน้าเข้ากระจกรถอีกครั้ง มองผ่านเงาที่เห็นเพียงเลือนรางในกระจกใสเพื่อดูว่าตัวเองยังปกติดีอยู่ใช่มั้ย
เพียงไม่นาน รถก็จอดที่ด้านหน้าบาร์ที่ดูหรูหราย่านท่องเที่ยวยามค่ำคืนของนักเที่ยว แทคยอนรีบลงจากรถแล้วมาเปิดประตูให้ร่างบางที่นั่งอยู่ที่เบาะหลัง ก่อนจะเดินเข้าไปคุยกับคนเฝ้าหน้าประตูซักพักแล้วกลับมาหาร่างบางที่กำลังจุดบุหรี่ขึ้นสูบ
“ว่าไง...แต่จริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปเคลียร์ก่อนนี่นะ ยังไงชั้นก็เข้าไปได้อยู่แล้ว” อัดควันบุหรี่เข้าปอดอีกครั้ง ก่อนจะเดินเข้าไปภายในบาร์ ไม่ได้มาเพื่อตามใครคนนั้นกลับบ้านหรอกนะ อย่าเข้าใจผิด ก็แค่อยากออกมาเปิดหูเปิดตาบ้างก็เท่านั้นเอง
แทคยอนรีบตามไปทันทีที่หยิบเสื้อโค้ทติดมือมาแล้ว เผื่อว่านายจะไม่ชอบเสื้อที่นายแม่สวมมาแล้วเราจะได้เอาโค้ทคลุมให้นายแม่ทัน ก่อนที่นายจะโมโหที่เห็นว่านายแม่สวมเสื้อโชว์ไหล่แบบนั้น
ร่างบางพยายามมองหน้าเป้าหมายของวันนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็มาเฟียหนุ่มยง จุนฮยองนั่นล่ะ กล้าหนีออกมาเที่ยว ทั้งที่ควรจะอยู่เป็นเพื่อนกันอย่างนั้นเหรอ มันจะมากเกินไปแล้วนะ ถึงไม่อยากจะเห็นหน้า แต่ก็ไม่ชอบที่หนีออกมาเที่ยวหรอกนะ ไม่ร้จักเกรงใจคนมาอยู่ใหม่เลยซักนิด
มองหาอยู่ซักพัก ก็เจอเป้าหมายจนได้ เมื่ออีกคนกำลังนั่งดื่มด้วยสีหน้าเคร่งเครียดอยู่ที่มุมอับของบาร์ ร่างบางรีบก้าวเท้าเข้าไปหาทันที พอไปถึงก็ทิ้งตัวลงนั่งตรงข้ามกับร่างหนา จ้องมองคนที่ยังคงกระดกเหล้าเข้าปากอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่ตรงหน้า
แทคยอนก้าวเข้ามายืนประกบหลังให้ ก่อนจะคลี่เสื้อโค้ทคลุมไหล่ให้ร่างบาง หากแต่ร่างบางกลับยกมันออกจากไหล่ของตนด้วยท่าทางน่ามองเสียอย่างนั้น
“ไม่ต้องหรอกแทคยอน ชั้นร้อนน่ะ กำลังว่าจะออกไปแด๊นซ์พอดีเลย ถ้าคลุมเสื้อโค้ทตัวขนาดนี้ออกไปแดนซ์ มีหลังร้อนตายกันพอดี” ว่าแล้วก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะก้าวออกไปยังฟลอร์เต้นที่มีนักเต้นมากหน้าหลายตาวาดลวดลายอยู่ตรงนั้น
“นายครับ...ปล่อยให้ออกไปเต้นแบบนั้นจะดีเหรอครับ” แทคยอนถามขึ้น เมื่อเห็นว่าเจ้านายของตนทำเพียงแค่ปรายสายตามองคนร่างบางเท่านั้น นอกนั้นก็แทบจะไม่สนใจอะไรเลยนอกจากเหล้าตรงหน้า
“ปล่อยเค้าไปก่อนเถอะ แมวดื้อตัวนั้นน่ะ ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ”
“แต่มันอันตรายนะครับนาย”
“ที่นี่มันถิ่นกู ไม่มีอันตรายที่ไหนหรอกน่า มึงก็คอยจับตาดูเอาไว้ก็แล้วกัน อย่าให้ใครหน้าไหนแตะเนื้อตัวรันเป็นพอ” สั่งลูกน้องแล้วก็กระดกเหล้าเข้าปากต่อ แต่เพียงไม่กี่นาทีก็เงยหน้าขึ้นมาหาแทคยอน
“ดอลล์กลับบ้านรึยัง เห็นหายออกไปตั้งแต่เมื่อหลายวันก่อน นี่กูยังไม่เห็นน้องกูกลับบ้านเลยนะ”
“ผมยังไม่เห็นนายน้อยเข้าบ้านเลยครับนาย”
“มันไปป่วนไอ้ดูจุนถึงไหนของมัน เหลวไหลใหญ่แล้วนะ...”
“แต่คงไม่มีอะไรน่าห่วงหรอกครับ นายน้อยฝีมือเยี่ยมยุทธ์ขนาดนั้น แต่ที่น่าห่วงตอนนี้ก็คือ...ผู้ชายคนนี้กอดนายแม่เอาไว้นั่นต่างหากล่ะครับ” แทคยอนพูดได้แค่นั้นก็รีบพุ่งตัวเข้าไปเพื่อจะดึงร่างบางออกจากชายร่างสูงใหญ่ที่กอดเอวบางนั่นเอาไว้ แถมจมูกโด่งๆ นั่นก็ยังคลอเคลียร์อยู่ที่แก้มใสไม่ห่างอีกด้วย หากแต่ก็ช้ากว่าร่างหนาที่ฟังยังไม่ทันจะจบประโยคก็เข้าไปดึงเอาตัวร่างบางออกมาเสียก่อนแล้ว
“ทำบ้าอะไรน่ะรัน!”
“ก็แด๊นซ์ไงล่ะ มึงเห็นกูทำอะไร!” ร่างบางตวาดใส่หน้าร่างหนา ก่อนจะดึงเอาตัวผู้ชายร่างสูงใหญ่คนนั้นเข้ามาหาตัวเองอีกครั้ง
“อย่าไปสนเค้าเลยแอนดรูว์ เราเต้นกันต่อดีกว่า”
เมื่อได้ยินร่างบางเรียกชื่อชายหนุ่มคนนั้น ทั้งแทคยอนและนายใหญ่ของแทคยอนก็เหมือนถูกยิงด้วยกระสุนจนหมดแม็กซ์ และเป็นจุนฮยองที่ตั้งสติได้ก่อน รีบดึงเอาร่างบางออกมาจากชายคนนั้นทันที
“กลับบ้านเดี๋ยวนี้รัน!”
“กูไม่กลับ! กูจะเต้นต่อ!”
“อย่าดื้อ!” ร่างหนาพูดแค่นั้นก็รีบแบกร่างบอบบางนั้นขึ้นบ่าแล้วรีบหุนหันออกจากบาร์ที่เป็นอีกหนึ่งในกิจการของตนแต่ก็ไม่ลืมหันกลับไปสั่งแทคยอนก่อนจะกลับไปจริงๆ
“คืนนี้กูฝากด้วย ส่วนแมวดื้อวันนี้กูจะดูแลเอง!”
“ครับนาย”
มันกลับมาแล้วงั้นเหรอ มันกลับมาแล้วจริงๆ จะให้มันเข้าใกล้ฮยอนซึงเป็นครั้งที่สองไม่ได้ ไม่ว่ายังไงฮยอนซึงก็ห้ามรู้จักกับไอ้สารเลวนั่นมากไปกว่านี้
เจ้าของชื่อแอนดรูว์มองตามไปพร้อมทั้งยกยิ้มตามไปด้วย
“ยูจะขังแมวดื้อของยูได้ซักกี่น้ำกันเชียวมิสเตอร์ยง อ่า...กลับมาคราวนี้ มีแต่เรื่องน่าสนุกให้ทำทั้งนั้นเลยนะ...ว่ามั้ยมาคัส” หันไปพูดกับคนสนิทพร้อมรอยยิ้ม
“ครับนาย...ว่าแต่นายจะเอาไงต่อครับ จะดื่มต่อหรือว่านายจะกลับเลย”
“ไอจะกลับโรงแรมเลย วันนี้แค่นี้ก็พอแล้ว” พูดจบก็เดินออกไปพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้ม หากแต่เป็นยิ้มที่ไว้ใจไม่ได้เลยซักนิดเดียว
“อารมณ์ไม่ดีรึไง ถึงเอาแต่ดื่มน่ะ” อีจุนถามเพื่อนรักขึ้น วันนี้แพ็คคู่ออกมาคุมงานด้วยกันที่ผับ แต่ว่า ตั้งแต่ออกมาแล้ว ที่เพื่อนรักเอาแต่หน้าบึ้งแล้วก็กระดกเหล้าเข้าปากอย่างไม่พูดไม่จา
“กูเปล่า” ดูจุนปฏิเสธออกไปคำโต ว่าตัวเองไม่ได้อารมณ์เสียอย่างที่เพื่อนกล่าวหา แต่ว่าพอมาอยู่ที่นี่แล้วมันไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเหมือนคุมงานคนเดียวที่จีน
“ไม่ก็...มึงกำลังเบื่อ ใช่มั้ย อยากกลับไปจีนล่ะสิท่า”
“ก็ไม่เชิงหรอก อยู่ที่นี่มันไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเลยนี่หว่า”
“นี่...คอยหลบลูกปืนรุ่นแปดกับรุ่นเก้าของตระกูลยงน่ะ ยังไม่ตื่นเต้นอีกเหรอ มึงน่ะจะตายวันตายพรุ่งก็ยังไม่รู้เลย ยังมีหน้ามาบ่นว่าเบื่ออีก”
“ก็แล้วใครจะเหมือนมึงล่ะ ไอ้องครักษ์ตกงาน!”
อีจุนเบ้ปากเล็กน้อย ก่อนจะผลักหัวเพื่อนแรงๆ นี่มึงบังอาจมาตอกย้ำปมด้อยของกูงั้นเหรอ ไอ้เพื่อนชั่ว
“กูไม่ได้ตกงาน แค่พักงานชั่วคราวแค่นั้นล่ะ รอให้นายแม่กลับมา กูก็ต้องทำหน้าที่เดิมของกูแล้ว อีกอย่าง...มึงเป็นคนบอกกูเองไม่ใช่รึไง ว่าให้เชื่อใจรุ่นแปด กูก็กำลังทำอยู่ แต่พอกูทำใจเชื่อได้แล้ว มึงก็กลับมาพูดให้กูเขว”
“ก็เปล่าซักหน่อย” พูดจบดูจุนก็กระดกเหล้าลงคออีกครั้ง อีจุนมองด้วยสายตาที่เอือมระอาเต็มที่อีกครั้ง ก่อนจะมองไปรอบๆ ผับเพื่อดูความเรียบร้อย พลันสายตาก็ไปกระทบเข้ากับร่างเล็กๆ ที่เดินเข้ามาภายในผับ แล้วรับเอาแก้วเครื่องดื่มสำหรับแขกที่เดินผ่านประตูเข้ามา จะเป็นเครื่องดื่มที่เตรียมไว้สำหรับต้อนรับลูกค้าทุกคนที่เข้ามาเที่ยวที่นี่ หลังจากนั้นทุกคนจะมีตราประทับของผับที่เพิ่งจะเปลี่ยนใหม่ไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ตามความต้องการของผู้จัดการคนใหม่ ซึ่งผู้จัดการคนใหม่คนนั้นก็คือดูจุนนั่นเอง ตราประทับจึงเปลี่ยนเป็นรูปแฟรงค์เคนสไตน์แทนที่จะเป็นรูปแวมไพร์เหมือนเมื่อก่อน
อีจุนรีบสะกิดเพื่อนที่ยังคงกระดกเหล้าลงคออยู่เช่นเดิมให้มองตามตัวเอง
“กูว่ามึงมีอะไรน่าตื่นเต้นทำแล้วล่ะ...คนของมึงมาโน่นแล้ว”
ดูจุนวางแก้วบรั่นดีสีอำพันลงแล้วมองตามอีจุนไป แล้วก็เห็นเป็นจริงดังนั้น เมื่อเห็นว่าคนสวยมาที่นี่เพียงลำพัง แล้วก็กำลังหย่อยก้นสวยลงที่เก้าอี้ทรงสูงที่ผับด้วยท่าทางที่เป็นธรรมชาติ มือเรียวสวยนั้นยกแก้วเครื่องดื่มจิบแล้วกลืนมันลงคอช้าๆ
“วันนี้มึงดูแลผับไปคนเดียวนะจุน กูต้องไปดูแลตุ๊กตาของกูก่อน” ว่าแล้วก็เลิกสนใจเหล้าทันที เมื่อสิ่งที่น่าสนใจกว่ามาโน่นแล้ว
“ไปดูแลคนที่ตั้งใจจะมาฆ่ามึงเนี่ยนะ ปกติดีมั้ยเนี่ยคุณเดวิล”
“ยังไงกูก็ต้องตายอยู่แล้ว หาอะไรทำสนุกๆ ก่อนตายจะดีกว่ามานั่งกลัวมันนะ ไปล่ะ!” ตบไหล่อีจุนสองสามครั้ง แล้วก็รีบรุดไปหาคนสวยที่ตอนนี้สั่งเตกีล่ามาดื่มแทนเครื่องดื่มแก้วนั้นไปแล้ว
“ไม่นึกว่าวันนี้จะเจอดอลล์ที่นี่นะเนี่ย” เสียงนุ่มดังขึ้นที่ข้างหูของคนสวย ใบหน้าสวยหันไปตามเสียงนั้น ก่อนจะเอนตัวออกเล็กน้อย เพื่อรักษาระยะห่างเอาไว้พอสมควร ยกยิ้มให้เจ้าของเสียงเช่นกัน
“วันนี้เบื่อๆ ก็เลยหาเรื่องออกมานั่งดื่มซักหน่อยน่ะ...ว่าแต่เดวิลเถอะ มาทำอะไรที่นี่” ช้อนตาขึ้นมอง แถมยังขยับเข้าไปใกล้ใบหน้าหล่อให้มากขึ้นด้วย เจ้าของฉายาเดวิลยกยิ้มที่มุมปากให้ มือใหญ่จับคางมนไว้เบาๆ โน้มลงพูดจนริมฝีปากแทบจะติดเป็นเนื้อเดียวกับปากอิ่มของคนสวย
“ปกติก็ทำงานทุกวัน แต่วันนี้ดอลล์อุตส่าห์ให้เกียรติมาถึงที่นี่ ก็ตั้งใจว่าจะหนีงานซักหน่อย”
“หนีงานมันไม่ดีไม่ใช่รึไง...ดอลล์ไม่หนีไปไหนหรอกน่า เดวิลทำงานให้เสร็จก่อนเถอะ ถ้าจะไปต่อ...เราไปหลังผับปิดก็ได้” นิ้วเรียวลากผ่านแผงอกแกร่งที่ปราศจากเนื้อผ้าปิดกั้น เพราะร่างสูงตั้งใจปลดกระดุมออกเสียหลายเม็ด
“........................”
“______ไม่ต้องรีบหรอกน่า เพราะยังไงนายก็ได้ตายสมใจนายอยู่แล้วเดวิล” ร่างเล็กกระซิบที่ข้างหูให้เบาที่สุดแข่งกับเสียงเพลงที่เปิดจนดังเกินไปภายในผับหรูนั้น
ร่างสูงยกยิ้มที่ร่างเล็กไม่มีวันจะได้เห็น ก่อนที่ปากหยักจะเอ่ยขึ้นเหมือนกัน
“แล้วเรามาดูกันว่า ใครกันแน่ที่จะเป็นฝ่ายฆ่าใคร...ดอลล์” พูดจบร่างสูงก็ยืดตัวขึ้นจนเต็มความสูง
“ถ้าอย่างนั้น ขอไปเคลียร์บัญชีก่อน แล้วจะรีบลงมาหานะครับ...แม่ยอดยาหยี” ก่อนไปร่างสูงบดเบียดกลีบปากหยักลงกับกลีบปากอิ่มหนักๆ แล้วเดินขึ้นชั้นบนไป
ร่างเล็กหมุนตัวมองตามร่างสูงที่ขึ้นชั้นบนไปแล้ว มือเรียวลูบปากอิ่มของตนเบาๆ
“ชั้นจะผิดกฎที่ชั้นตั้งขึ้นมาเองไม่ได้ ไม่ว่ายังไงชั้นก็ห้ามกลับไปรักนายอีก เดวิล...”
“ผับปิดแล้วยังไม่กลับอีกเหรอเนี่ย” ดูจุนกลับลงมาอีกครั้ง หลังจากที่เคลียร์บัญชีเสร็จแล้ว และก็ยังเห็นว่าร่างเล็กนั่งอยู่ที่เดิม แถมบาร์เทนเดอร์ก็ยังไม่กลับ ยังคงทำหน้าที่ผสมเครื่องดื่มให้ร่างเล็กดื่มอยู่เช่นเดิม
“กลับได้แล้วล่ะเซย์อิ” ดูจุนปัดมือไล่บาร์เทนเดอร์ที่คาดว่าคงถูกข่มขู่ไม่ให้กลับบ้านเป็นแน่ พอได้ยินเจ้านายคนใหม่สั่งเค้าก็รีบเก็บของกลับบ้านทันที
“ทีนี้ก็เหลือกันสองคนแล้วนะ ทำไมยังไม่กลับอีก...หรือว่าดอลล์รอชั้นงั้นเหรอ ...รู้สึกดีใจจัง” จับเก้าอี้ร่างเล็กให้หันมาหาตน ก้มลงพูดกับคนที่ช้อนตาขึ้นมองตนเหมือนกัน
“ก็บอกว่าจะรอ ก็ต้องรอไม่ใช่รึไง”
“กำลังพยายามทำให้ชั้นคาดหวังอยู่รึไง” พูดจบร่างสูงก็ยกร่างเล็กขึ้นนั่งบนบาร์หินอ่อน แล้วขังร่างบอบบางไว้ด้วยกรงแขนทั้งสองข้าง ขยับตัวให้อยู่ในระดับเดียวกับใบหน้าเล็กที่แดงก่ำเพราะผลจากแอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปมากพอสมควร
ร่างเล็กยกยิ้มหวานให้ สองมือเรียวเล็กยกขึ้นแตะที่ผิวแก้มกร้านของร่างสูง
“อยากคาดหวังก็ไม่เคยว่าอะไรนะ เพราะชั้นกำลังทำแบบนั้นอยู่...อื้อ” ไม่รู้ว่าประโยคต่อไปจะเป็นยังไง แต่ตอนนี้ดูจุนไม่อยากฟังมันแล้ว คิดถึงร่างเล็กนี่จนทนแทบไม่ไหว ทนไม่ได้ถ้าหากจะไม่แตะต้องร่างกายนี้เลย
ปากหยักกดปิดประโยคต่อจากนั้นให้สนิท ลิ้นอุ่นล่วงล้ำเข้าไปภายในโพรงปากนุ่ม รสจูบที่เจือกลิ่นแอลกอฮอล์ยิ่งทำให้อารมณ์พัดโหมกระหน่ำมากขึ้น
มือใหญ่กระชับสะโพกเล็กแน่นแล้วดึงเข้ามาหาตัวเอง สอดมือเข้าไปภายในกางเกงตัวสวยที่คนตัวเล็กสวมอยู่ บีบเคล้นสะโพกมนจากแผ่วเบาเป็นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ลิ้นชื้นยังคงโลมเลียไปจนทั่วปากอิ่มเช่นเดิม ก่อนจะละปากหยักออกจากปากอิ่มหอมหวาน ดอมดมจนทั่วซอกคอขาวของร่างเล็กโดยไร้ซึ่งการขัดขืน
“อา...เดวิล....” เสียงเรียกชื่อหลุดจากปากอิ่มสีระเรื่อแผ่วเบา เจือมากับเสียงลมหายที่หอบหนักขึ้นเรื่อยๆ กลางลำตัวเริ่มร้อนผ่าวทั้งที่ถูกสัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
มือเล็กที่บีบต้นแขนแกร่งไว้เมื่อครู่ เปลี่ยนมาดึงเสื้อเชิ้ตสีดำสนิทที่ร่างสูงสวมอยู่จนกระดุมขาดออกจาแทบจะหมดทุกเม็ด ถอดมันออกจากตัวของร่างสูงจนเหลือแค่ท่อนบนที่เปลือยเปล่า
ร่างสูงถอดเสื้อตัวบางเนื้อนิ่มออกจากร่างกายขาวเนียนนั่นเช่นกัน ก่อนจะดันร่างเล็กๆ นั่นนอนราบลงไปกับเคาท์เตอร์ ดึงกางเกงที่ร่างบางสวมอยู่ออกจนไม่เหลือสิ่งใดห่อหุ้มร่างกายเลยแม้ซักชิ้นเดียว
“ถอดหมดแบบนี้...ชั้นหนาวนะเดวิล...อื่อ..อื้ม...” ร้องประท้วงขึ้นด้วยท่าทางแสนยั่วยวน ร่างสูงยิ้มยั่ว ก่อนจะโน้มลงไปใกล้ร่างขาวเนียนที่ทำเป็นเหนียมอายตรงหน้า กดจูบลงบนปากอิ่มแผ่วเบา
“เดี๋ยวก็ร้อนแล้ว...จะทำให้ร้อนจนแทบระเบิดเลย...คอยดู...” พูดจบมือใหญ่ทั้งสองก็ดันหน้าขาเรียวทั้งสองข้างให้แยกกว้าง และยังคงจับเอาไว้เช่นนั้น กดร่างกายเข้ากับร่างบอบบางแสนเย้ายวน จงใจถูไถกล้ามเนื้อหน้าท้องเข้ากับแก่นกายของร่างเล็ก หวังจะเรียกเสียงหวานๆ จากปากอิ่มนั้นให้ดังมากขึ้น แล้วมันก็ได้ผลยิ่งกว่าได้ผล เมื่อปากอิ่มเปล่งเสียงออกมาแข่งกับลมหายใจหอบหนักจากการถูกโลมเลียอย่างหนักหน่วงที่ปลายยอดอกเล็กสีระเรื่อ
“เดวิล...กว่านี้สิ...กัดเลยก็ได้...อ๊ะ..อ้า...” ฟันบนกัดริมฝีปากล่างของตนจนเป็นรอย เอ่ยเรียกร้องความต้องการของตน ไร้ซึ่งยางอายใดๆ ทั้งสิ้น กดศีรษะของร่างสูงเข้ากับอกของตนมากขึ้น
ร่างสูงดุนดันลิ้นลงกับยอดอกหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ บดขยี้มันด้วยริมฝีปากของตนเป็นบางครั้ง ร่างเล็กจุดติดง่ายกว่าที่คิดเอาไว้เสียอีก ถูกสัมผัสเพียงแค่นี้อารมณ์ของคนใต้ร่างก็แทบกระเจิดกระเจิงไปไกล
มือใหญ่ปล่อยขาเรียวเล็กที่เริ่มสั่นระริกให้เป็นอิสระ เท้าเล็กจิกขอบเคาท์เตอร์ไว้แน่น ปลายเท้ายิ่งเกร็งแน่นเมื่อแก่นกายที่เปียกชื้นไปด้วยเมือกลื่นถูกมือหยาบสัมผัส แม้จะแค่แผ่วเบา แต่มันก็ทำให้ร่างกายแทบจะหลอมละลายลงเสียให้ได้
ปลายมนสีระเรื่อถูกนิ้วหัวแม่มือสัมผัสแผ่วเบาก่อนจะเพิ่มแรงกดแรงขึ้นเรื่อยๆ ปลายเล็บกดลงที่รอยแยกที่ส่วนปลาย ขยับปลายนิ้วทั้งเร็วและรุนแรงจนแผ่นหลังของร่างสูงกลายเป็นที่รองรับอารมณ์ของร่างเล็กไปโดยปริยาย
“อ๊า...เดวิล...อย่างนั้นล่ะ...แรงอีก...เร็วกว่านี้ด้วย...” ร่างบางเร่าร้อนหากแต่ก็น่ารัก น่ารักจนดูจุนอยากจะกลั่นแกล้งให้มากกว่านี้ สำหรับดอลล์น่ะ แค่นี้รู้สึกมันจะน้อยเกินไปเสียด้วยซ้ำ ร่างกายที่ห่างหายจากสัมผัสของตนไปนาน ยิ่งจะต้องทำให้ร่างกายนี้ลืมสัมนี้ไม่ได้ ทำให้ร่างทั้งร่างนี้จำแค่สัมผัสของเดวิล จนไม่สามารถไปทำเรื่องแบบนี้กับใครได้อีก
ยิ่งคิดว่าร่างกายนี้อาจจะเป็นของคนอื่นด้วย ตลอดเวลาที่เลิกรากันไป ร่างสูงก็ยิ่งสัมผัสเรือนร่างนี้รุนแรงยิ่งขึ้น และแล้วก็ยอมปล่อยขาอีกข้างของร่างเล็กให้เป็นอิสระด้วยการกดนิ้วจมเข้าไปภายในร่างกายอุ่นร้อนที่ปากทางเข้าขมิบรัวต้อนรับเป็นอย่างดี
“คะ...แค่นิ้วเองเหรอ...เดวิล...” ร่างเล็กดันร่างกำยำออกห่างเล็กน้อย มองหน้าหล่อด้วยแววตาหวานเชื่อม ดวงตารื่นไปด้วยน้ำตาที่ไม่รู้ว่าไหลออกมาด้วยความรู้สึกแบบไหน
“ไม่กลัวจะเจ็บรึไง ถ้าชั้นเข้าไปเลยน่ะ...หื้ม...” ร่างสูงก้มลงจูบซับน้ำตาที่ข้างแก้มแผ่วเบา ก่อนจะเริ่มเคลื่อนไหวนิ้วเรียวเข้าออกเป็นจังหวะเชื่องช้า เพื่อให้ร่างกายของร่างบางคุ้นชินกับสัมผัสที่กำลังจะได้รับ
“เดวิลก็รู้ว่าชั้นคลั่งไคล้ความเจ็บปวด”
“อยากให้เข้าไปแล้ว...อย่างนั้นสินะ” ร่างสูงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยเป็นเครื่องหมายของการถาม
ร่างบางพยักหน้าเล็กน้อยเป็นคำตอบ และเพียงพริบตาเดียวเท่านั้นร่างเล็กๆ นั้นก็ถูกดึงลงมาจากเคาท์เตอร์ ร่างเล็กรู้หน้าที่ของตนดี รีบหันโก่งโค้งให้ร่างสูงโดยที่ไม่ต้องออกคำสั่งใดๆ ทั้งสิ้น
ส่ายสะโพกยั่วเย้าร่างสูงแถมยังกระดิกนิ้วชี้เชิญชวนให้อีกคนรีบๆเข้ามาภายในร่างกายของตนให้เร็วที่สุด
“เข้ามาได้แล้ว ชั้นจะทนไม่ไหวแล้วเดวิล...”
“ถ้ารู้ว่าใกล้จะตายแล้วนักฆ่ายอมพลีกายให้ขนาดนี้ ชั้นยอมตายไปนานแล้ว”
“พูดมากน่า รีบๆ เข้ามาได้แล้ว...คุณเหยื่อที่รัก”
ร่างสูงยกยิ้มอีกครั้ง ก่อนจะกดแก่นกายใหญ่ของตนเข้าไปทีเดียวจนสุด
“อ่ะ...อ๊า...ขยับเลยเดวิล...”
“ร้อนจนแทบละลายอยู่แล้วดอลล์...อย่าเพิ่งสิ”
“ไม่เอา...อยากให้ขยับตอนนี้เลย...” ไม่รอให้ร่างสูงนั้นขยับร่างกายอย่างที่พูด แต่เจ้าตัวกลับกระแทะสะโพกเข้ากับแท่งเนื้อขนาดใหญ่นั้นเสียเอง จากเชื่องช้าเป็นเร็วขึ้นเรื่อยๆ โดยที่ร่างสูงทำเพียงแค่เล่นสนุกกับแก่นกายของร่างเล็กเท่านั้น
ทั้งกระแทกร่างกายตัวเองไปกับแท่งเนื้อใหญ่นั้นด้วยจังหวะรัวเร็ว มือที่ค้ำเคาท์เตอร์อีกข้างก็ยกขึ้นบดขยี้ยอดอกของตนเองไปด้วย
ปากอิ่มเอาแต่ส่งเสียงครวญครางเรียกชื่อร่างสูงไม่หยุด
“ขยี้แรงๆ เดวิล..อ่ะ..อ๊า..แบบนั้นล่ะ...” เอี้ยวใบหน้าหวานมาสั่งร่างสูงที่กระแทกแก่นกายสวนเข้ามาเป็นจังหวะเดียวกันกับตน
“ช่างสั่งเหลือเกินนะตุ๊กตาตัวนี้น่ะ...หื้อ...” ว่าแล้วก็กดปิดปากอิ่มช่างสั่งนั้นด้วยปากหยักของตนเสียเลย ร่างเล็กละมือจากยอดอกมากดลงที่ศีรษะของร่างสูงแทน เพื่อให้กลีบปากแนบสนิทกันมากขึ้น
ร่างเล็กหยุดกระแทกสะโพกแข่งกับแท่งเนื้อขนาดใหญ่นั้นไปโดยปริยาย ปล่อยให้ร่างสูงกระแทกกระทั้นช่องทางรักของตัวเองไปเพียงลำพัง ทำเพียงกดเน้นย้ำแลพส่ายสะโพกมนรับเท่านั้น
ปากอิ่มที่ถูกกดปิดแน่นเริ่มทำให้ร่างเล็กรู้สึกรำคาญที่ส่งเสียงร้องออกมาไม่ได้ จึงรีบถอนจูบนั้นในทันที สองมือค้ำที่เคาท์เตอร์ให้แน่นอีกครั้ง แล้วเริ่มกระแทกสะโพกของตนสวนกลับอีกครั้ง
“ดีจัง...ดีสุดๆ ไปเลยเดวิล” มือเล็กยกขึ้นเสยผมที่ลงมาปิดหน้าปิดตาด้วยท่าทางเป็นธรรมชาติ น่ามองจนไม่สามารถละสายตาไปไหนได้
ทั้งที่อารมณ์กำลังจะถึงจุดสิ้นสุด แต่ร่างเล็กกลับหยุดมันเอาไว้แค่นี้ ถอนร่างกายของตนออกแล้วหันไปหาร่างสูง ออกแรงผลักร่างกำยำนั้นลงที่เก้าอี้ ก่อนจะขึ้นไปนั่งคร่อมที่ตักนั้น จับแท่งเอ็นขนาดใหญ่ที่แข็งขืนเต็มที่จ่อไปที่ช่องทางด้านหลังของตนแล้วนั่งทับลงไปที่ตักอีกครั้ง ก่อนจะยกตัวขึ้นลงกับตักกว้างนั้นระรัว
แอ่นกายสวยเข้ากับร่างกำยำเพื่อให้แก่นกายของตนเสียดสีไปกับกล้ามเนื้อสวยที่หน้าท้องของร่างสูง
“เลียอกให้ด้วย คิดจะนั่งเฉยๆ กินแรงรึไง พ่อปีศาจสุดหล่อของชั้น” พูดจบก็กดใบหน้าหล่อเข้ากับอกของตนโดยที่ไม่ต้องรอให้ร่างสูงทำอะไรเอง
มือใหญ่กดแผ่นหลังบางเข้าไปใบหน้าตนให้แน่นขึ้น กดลิ้นขยี้หัวนมให้อย่างที่ร่างบางต้องการ
ร่างบางเร่าร้อนขนาดนี้ เค้าเองก็แทบจะทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน ยิ่งไม่ได้ปลดปล่อยออกมานานขนาดนี้ เค้าก็ยิ่งใกล้จะระเบิดเข้าไปทุกขณะ
“เดวิล..ชั้นใกล้แล้ว...อ่ะ..อื้อ..”
ร่างสูงเงยหน้าขึ้นจากอกเล็กนั้นแล้วถามขึ้น “ให้ช่วยมั้ย...”
“ไม่ต้อง...ห้ามแตะต้องมันนะ...อ๊ะ..อ๊ะ...อ๊า..อา...เดวิล...เดวิ....” ร่างบางขย่มร่างกายรัวเร็วอยู่เพียงไม่นาน ร่างระหงนั้นก็กระตุกเกร็ง แก่นกายที่เสียดสีกับหน้าท้องของร่างสูงอยู่ตลอดเวลา พร้อมๆ กับจุดกระสันภายในที่ถูกแท่งเนื้อขนาดใหญ่กดย้ำทุกครั้งที่ขย่มร่างกายลง
ร่างเล็กปลดปล่อยความหฤหรรษ์ออกมาจนหมดหยาดหยด หวีดร้องเจือมากับเสียงหอบหายใจ หกแต่ร่างเล็กๆ นั้นก็ยังขย่มอยู่ เพื่อให้ร่างกายปลดปล่อยออกมาให้หมดจริงๆ
ก่อนที่ร่างเล็กจะสิ้นฤทธิ์ไปจริงๆ ใบหน้าหวานก้มลงมองใบหน้าหล่อเหลานั้นพร้อมรอยยิ้ม
“ชั้นไม่ได้มองหน้าเดวิลใกล้ๆ แบบนี้นานแค่ไหนแล้วนะ...” มือเรียวลูบที่แก้มกร้านนั้นเบาๆ ดวงตาหวานละมุนจนร่างสูงแทบอ่อนยวบไปกับแววตานั้น
มือใหญ่ยกขึ้นลูบแก้มใสนั้นตอบกลับไป “ก็ตั้งแต่ที่ดอลล์หนีชั้นกลับเกาหลีนั่นล่ะ แล้วก็ไม่เคยอยู่กับที่ซักครั้ง ตามหายังไงก็ไม่เจอ”
“ไม่เจอ...หรือไม่อยากตามหา”
“นายรู้แก่ใจว่าคำตอบเป็นยังไง...โยจัง...” ชื่อที่ไม่ได้เรียกคนร่างเล็กนี่นานแล้วดังขึ้นให้ร่างเล็กต้องน้ำตาไหลลงมาอย่างห้ามไม่ได้
“พอเถอะ...ช่างมัน...” ร่างเล็กตัดความเพียงเท่านั้น ก่อนจะกดจูบร่างสูงอีกครั้ง และตามด้วยร่างเล็กๆ นั้นที่กลายเป็นเช่นตุ๊กตาให้ร่างสูงกระแทกกระทั้นช่องทางด้านหลังจนกว่าจะพอใจและเดินทางไปถึงจุดสูงสุดแห่งอารมณ์
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ