Thank For Your Smile...น้ำตา...ความฝัน...ความหวัง
เขียนโดย MightySoul
วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 19.50 น.
แก้ไขเมื่อ 18 เมษายน พ.ศ. 2557 11.57 น. โดย เจ้าของนิยาย
25) บทที่ 24 ความสามารถเฉพาะตัว
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่ 24
ความสามารถเฉพาะตัว
หลังจากที่รายการวิทยุจบลง เรื่องราวต่างๆในห้องของฉันก็ยังคงดำเนินต่อไป จนเวลาล่วงเลยไปกว่าชั่วโมง เข็มสั้นของนาฬิกาโบราณลวดลายวิจิตรงดงามได้เดินผ่านเลข 12 มาแล้วถึง 1 ชั่วโมง หรือจะกล่าวว่าตอนนี้ได้ก้าวเข้าสู่วันใหม่มาแล้วกว่าชั่วโมงก็คงจะไม่ผิดนัก
เด็กสาวทั้งสองแสดงอาการง่วงออกมาอย่างชัดเจน อากิหน้าตาดูงัวเงีย ตาทั้งสองหรี่ลงจนคล้ายจะปิดลงได้ทุกเมื่อ ส่วนพลอยก็มีท่าทางที่ไม่ต่างจากอากิสักเท่าไหร่นัก แต่เป็นเพราะนิสัยของพลอยที่เป็นคนขี้เกรงใจ ทำให้เธอไม่กล้าที่จะแสดงความง่วงออกมาแบบอากิ พลอยพยายามฝืนความง่วงไว้จนถึงที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท
“พลอย ป่านนี้ฟีลคงทำธุระเสร็จแล้วล่ะมั้ง”
พลอยสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนที่เงยหน้าให้เห็นถึงสายตาที่เต็มไปด้วยความงัวเงียที่ไม่ว่าใครเห็นแล้วก็คงจะอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “งะ...งั้นหนูขอตัวก่อนดีกว่าค่ะ”
พลอยรีบลุกจากโซฟาเดินไปที่หน้าประตู ส่วนอากิบัดนี้ก็ได้เข้าสู่ห้วงนิทราเป็นที่เรียบร้อยจนฉันต้องสะกิดเบาๆเพื่อเรียกให้อากิกลับห้องของตัวเอง
“พะ...พลอย รอด้วย” อากิขยี้ตาสองสามครั้ง และรีบเดินตามพลอยไป
“ไว้พรุ่งนี้เจอกันนะ” ฉันโบกมือลาเด็กสาวทั้งสอง
“ค่ะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะ” พลอยกล่าวอย่างมีมารยาทด้วยรอยยิ้มที่น่ารักสดใส ผิดกับอากิที่กำลังหาวอย่างไม่สนใจโลก แต่ก็ไม่แน่ว่า...สิ่งนี้อาจจะเป็นสเน่ห์ของเด็กสาวที่ชื่อว่า...อากิก็เป็นได้
เสียงปิดประตูดังขึ้นต่อจากนั้น ความเงียบกลับมาปกคลุมสู่ห้องของฉันอีกครั้ง แสงจากหลอดไฟสีเหลืองนวลดูหมองลงเมื่อไม่มีเด็กสาวทั้งสองอยู่ในห้องอย่างน่าประหลาดใจ
“นอนเถอะริกะ พรุ่งนี้เราต้องซ้อมอีกเยอะ” ฮานะเดินไปปิดไฟจนห้องที่เคยสว่างกลับมืดลงในพริบตา เสียงของเครื่องปรับอากาศที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ยิน บัดนี้กลับดังจนเรียกได้ว่าน่ารำคาญ
ณ ที่นี้ เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา มันยังเต็มไปด้วยความสนุกสนาน แต่บัดนี้กลับไร้ซึ่งวี่แววของสิ่งเหล่านั้น ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่ความมืดอันเนื่องมาจากการขาดแสงสว่างกลับทำให้ฉันรู้สึกเหงาเสียเหลือเกิน
ปกติแล้วฉันกับฮานะก็อยู่ด้วยกันแค่สองคนมาโดยตลอด...แต่เมื่อพลอยและอากิเข้ามาในชีวิต ฉันกลับรู้สึกได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ขาดออกไป แค่ฉันและฮานะยังไม่ใช่ส่วนประกอบที่สมบูรณ์...พลอยและอากิ เป็นจิ๊กซอร์ส่วนที่เหลือที่จะทำให้ภาพของชีวิตมีชีวิตชีวา ไม่รู้สิ แต่ฉันรุ้สึกจริงว่าๆ DualAngle ไม่ใช่วงที่จะมีแค่สองคนแล้วจะสมบูรณ์แบบอีกต่อไปแล้ว...
ฉันหลับตาลงคิดถึงสิ่งเหล่านั้นวนไปเวียนมาในหัว ยิ่งคิดเท่าไหร่มันก็ยิ่งชัดเจนขึ้นเท่านั้น...จนไม่อาจที่จะเก็บไว้คนเดียวได้อีกต่อไป
“ฮานะ...”
ฮานะขยับตัวเล็กน้อย
“ฮานะ...”
เธอยังคงนอนนิ่งราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันพูด
เมื่อเห็นว่าไม่ควรจะไปรบกวน ฉันจึงพยายามข่มตาหลับโดยที่พยายามไม่คิดเรื่องอากิและพลอย
“ว่าไง ริกะ?” แต่แล้วอยู่ดีๆ ฮานะที่ฉันคิดว่าได้หลับไปแล้ว กลับพูดทักขึ้นมา
“ยังไม่หลับเหรอ”
“อืม คิดเรื่องอะไรอยู่นิดหน่อยน่ะ โทษทีนะที่เมื่อกี้เหม่อไปหน่อย” ฮานะลืมตาขึ้นมา เผยให้เห็นถึงตาดำคมกริบ สวยจับใจจนใครเห็นก็ไม่อาจที่จะลืมลง
“เธอ...กำลังคิดเรื่องอากิและพลอยอยู่สินะ” ฮานะตื่นตกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดที่ฉันพูดออกมา
“เธอก็เหมือนกันเหรอ ริกะ”
ฉันพยักหน้าแทนคำตอบ
เราสองคนยิ้มให้กันและกัน ก่อนที่จะหัวเราะออกมาอย่างไม่ได้นัดหมาย “เธอนี่สมกับเป็นคู่หูของฉันจริงๆ” ฮานะทำเสียงเข้ม
“เช่นกัน เพื่อนรัก”
“ตึงๆๆๆ” แต่ยังไม่ทันที่ฉันและฮานะจะพูดอะไรมากกว่านั้น เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะการสนทนาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงแผนแตกเรื่องที่ฉันคือนาโอะ ฉันจึงต้องใช้บริการฮานะให้ไปเปิดประตูเหมือนเคย
ทันทีที่เพื่อนสาวเห็นว่าใครเป็นคนเคาะประตู เธอก็ไม่รีรอที่จะเปิดประตูออกไปคุย
“ว่าไง พลอย มีอะไรเหรอ” ฉันลุกขึ้นจากเตียง ก่อนที่จะเดินไปที่หน้าประตู
สีหน้าของพลอยกำลังตื่นตกใจ โดยที่ในมือกำกระดาษแผ่นหนึ่งเอาไว้แน่น น้ำตาที่สวยงามดั่งแก้วเจียระไรค่อยๆไหลผ่านใบหน้าที่ขาวราวหิมะนั้น
“พะ...พี่ฟีล หายไปแล้ว...”
“ฟีลหายไป?”
พลอยพยักหน้า ก่อนที่จะยื่นกระดาษในมือมาให้ฉัน
ฉันรีบคลี่กระดาษแผ่นนั้นออกนั้นออกมาอ่านเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา
“ริกะ ในกระดาษเขียนว่าอะไร” ฮานะรบเร้า จนมือของฉันสั่นเทา
“ใจเย็นๆสิยัยบ้าฮานะ เธอรบเร้าแบบนี้ฉันไม่มีสมาธิหรอก” เมื่อได้ยินดังนั้น ฮานะจึงยิ้มแห้งๆ แล้วเดินไปอยู่ข้างๆพลอย
“พลอย พี่ขอตัวไปทำธุระนิดนึงนะ เดี๋ยวเช้าๆจะกลับมา...ฟีล” ฉันอ่านสิ่งที่ถูกเขียนไว้บนกระดาษเสียงดังฟังชัดราวกับกำลังกล่าวสุนทรพจน์
“พี่ฟีล...” พลอยสะอึกสะอื้นจนฉันประหลาดใจ
“พลอย ฟีลเขาแค่ออกไปทำธุระเอง ไม่ต้องกังวลขนาดนั้นก็ได้มั้ง”
พลอยหันหน้าขึ้นมามองฉัน คราบน้ำตาของเธอสร้างแรงสั่นสะเทือนขึ้นในใจ “ริกะซังแน่ใจเหรอคะ...พี่ก็น่าจะรู้นี่นาว่าฟีลเป็นคนยังไง...”
ฉันสะอึกกับคำพูดของพลอย เรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับฟีลไหลเข้ามาในหัวราวกับวีดีโอที่ถูกกรอกลับไปมา
“งานเข้าแน่ๆ เกิดเรื่องแน่ๆ ถ้าปล่อยให้ฟีลอยู่คนเดียว” ฮานะพูดสิ่งที่ฉันคิดในใจออกมา
ตอนนี้ฉันรุ้แล้วว่าทำไมพลอยต้องกังวลถึงขนาดนี้ ถึงแม้อาจจะดูคิดมากไปเอง แต่สำหรับฟีลแล้ว...มันเป็นความรู้สึกแปลกๆที่บอกให้รู้ว่า ต้องมีเรื่องเกิดขึ้นแน่ๆ
“พลอย ฉันขอเข้าไปในห้องเธอหน่อยนะ” ฉันไม่โอ้เอ้ฟังคำตอบ ทั้งตัวพุ่งไปเปิดห้องข้างๆที่ไม่ถูกลงกลอนเอาไว้
สภาพห้องของฟีลไม่ต่างจากห้องของฉันมากนัก ที่ต่างก็คงจะเป็นแค่โต๊ะที่เต็มไปด้วยกระดาษรกรุงรัง และที่นอนที่ยังคงไม่มีร่องรอยการถูกใช้งาน
ฉันค่อยๆเดินเข้าไปอย่างมีมารยาท โดยมีฮานะและพลอยตามหลังมาติดๆ
แอร์ยังคงเย็นฉ่ำแสดงให้เห็นถึงว่าฟีลเพิ่งออกไปจากห้องได้ไม่นาน สายตาของฉันสาดส่องไปทั่วห้อง แต่ก็ไม่เห็นสิ่งใดที่ผิดปกติ และพอจะเป็นเบาะแสได้ ที่เดียวที่พอจะมีความหวังก็คงจะเป็นกระดาษสองสามแผ่นที่ถูกวางไว้บนโต๊ะคู่กับปากกาสีสดใส
ฉันหันหน้าไปมองพลอยเป็นเชิงขออนุญาต ก่อนที่จะเดินเข้าไปหยิบกระดาษบนโต๊ะขึ้นมาดู
แผ่นแรกเป็นแผ่นเนื้อเพลงที่ยังแต่งไม่เสร็จ ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฟีลจะมีความสามารถในการแต่งเพลง เนื้อเพลงที่เขาแต่งดูอบอุ่น จนฉันอดไม่ได้ที่อยากจะให้เพลงเพลงนี้เสร็จสมบูรณ์โดยเร็ว
กระดาษแผ่นแรกถูกวางลง ขณะที่สายตาสาดส่องไปที่กระดาษแผ่นที่สองข้างๆ ก่อนที่จะข้ามไปที่กระดาษแผ่นที่สามทันที เพราะกระดาษแผ่นที่สองเป็นแค่กระดาษเปล่า
กระดาษแผ่นที่สามถูกหยิบขึ้นมาอ่านอย่างใจจดใจจ่อ เพราะขนาดของตัวอักษรที่เล็กจนต้องเพ่งสายตาเพื่อที่จะอ่าน ตอนแรกที่ฉันเห็นกระดาษแผ่นนี้ฉันคิดจริงๆว่ามันต้องเป็นอะไรที่บอกได้ว่าฟีลออกไปไหน ...แต่ฉันคิดผิดอย่างมหันต์ มันไม่ได้เขียนหรือกล่าวถึงสถานที่ที่ฟีลจะไปเอาไว้เลย
ฉันรีบพับกระดาษแผ่นนั้นลงกระเป๋ากางเกงขาสั้นตัวโปรด ใบหน้าที่เคยปกติบัดนี้กลับแดงก่ำ จนฮานะสงสัย
“มีอะไรเหรอ ริกะ กระดาษแผ่นนั้น” ฮานะทำท่าจะเดินเข้ามาขอดู
“มะ...ไม่มีอะไรหรอก ฮานะ แต่กระดาษวาดเล่นน่ะ” ฉันพูดกลบเกลื่อนทั้งๆที่รู้ว่าฮานะคงจะต้องไม่เชื่อฉันแน่ แต่คงเป็นเพราะสถานการณ์ที่รีบเร่ง ทำให้ฮานะต้องยอมปล่อยเรื่องนี้ไปก่อน
“งั้นเราลองไปออกตามหากันเถอะค่ะ” พลอยรู้สึกเป็นห่วงผู้เป็นพี่ชายจนรีบวิ่งออกไปตามหาอย่างไร้จุดหมาย แน่นอนทั้งฉันและฮานะต่างก็วิ่งตามไปติดๆ แต่ถ้าใครสังเกตดีๆล่ะก็...คงจะเห็นรอยยิ้มของฉันขณะที่ในมือกำกระดาษแผ่นนั้นเอาไว้แน่น
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ