คุณหนูหน้าร้ายกับสาวใช้หน้าปลวก(yuri)
-
เขียนโดย rinjung
วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13.10 น.
8 chapter
0 วิจารณ์
18.46K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556 22.04 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) เกินห้ามใจ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ"ถ้าแกไม่ชอบเขา ฉันจะจีบเขา โอเคนะ"รินลดาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงนุ่ม คิดทบทวนประโยคนี้ทีไรก็ยิ่งเจ็บใจ มีอย่างที่ไหนไปจีบสาวใช้หน้าตาน่าเกลียด เพื่อนเธอนี่คิดอะไรอยู่กันแน่สายตาคู่สวยจ้องมองเพดานอย่างครุ่นคิด คิดแล้วก็หงุดหงิดถอนหายใจฮึดฮัด คว้ารีโมทมาเปิดทีวีแต่กลับไม่ได้ที่จะมองดูมัน เอากลับนั่งถอนหายใจอยู่ซ้ำๆ จมตัวเองอยู่กับเรื่องราวของสาวใช้หน้าตาอัปลักษณ์ "ทำไมฉันต้องคิดถึงเรื่องของเธอด้วย ยัยหน้าปลวก"รินลดากำหมัดลงบนหมอนคิ้วสองแทบจะผูกกันได้อยู่แล้ว Rrrr Rrrrrเสียงโทรศัพท์ของใครคนหนึ่งดังขึ้นทำให้รินลดาหัวเสียเล็กน้อย รีบหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาดูยิ่งทำหน้าบูดเมื่อเพื่อนตัวดีของเธอโทรเข้ามา (มีอะไรก็ว่ามา)รินลดากรอกเสียงแข็งใส่(แหม ทำเสียงห่างเหินไปได้ เป็นอะไรคะที่รัก) สายป่านยิ้มกรอกเสียงหวานไปตามสาย(เหอะ ที่รักบ้าที่รักบอ วันนี้แกยังแอบทรยศฉันไปอยู่ข้างยัยนั่น แล้วยังจะมาทำเป็นพูดดี)(.เขาน่ารักออกนะ พูดจาก็เพราะ ทำอาหารก็เก่ง ทำคุกกี้ของโปรดของแกก็เก่ง ไม่ให้ฉันชอบเค้าได้ยังไง จริงปะ) สายป่านแกล้งแหย่เล่น แต่ดวงตาคนปลายสายโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ รีบตัดสายทิ้งแล้วปิดโทรศัพท์ คว้ารีโมทปิดทีวี ปิดไฟ ปิดทุกอย่าง แต่หัวใจเธอยังคงเปิดอยู่อย่างนั้น เพราะมีใครบ้างคนกำลังแง้มเข้ามานั่งเล่นในหัวใจของเธอ“คุณหนูตื่นเถอะค่ะ เดี๋ยวจะไปเรียนสายนะคะ”รินลดากำลังหลับสบายถอนหายใจพรืดอย่างรำคาญถอนหายใจพรืดเพราะเสียงรบกวน
“อย่ามายุ่งกับฉัน ไปให้พ้น ไม่อย่างนั้นฉันจะหักคอเธอ”รินลดานอนตะแคงแล้วดึงผ้าห่มคลุมหัวจนมิด เสียงกวนใจที่น่ารำคาญเงียบหายไปได้ยินเพียงเสียงปิดประตูออกไป
รินลดาดึงผ้าที่คลุมหัวออกถอนหายใจอย่างโล่ง ออกไปได้สักทีไม่อย่างนั้นเธอคงจะลุกขึ้นและส่งเสียงกรี๊ดใส่จนกว่าจะพอใจ
“ตื่น ตื่นได้แล้วจ้า ตื่นเร็วเข้า คุณหนูขา”บุษบาพรวดพราดเข้ามาตามมาด้วยหม้อกับตะหลิวกระทบกันจนแสบแก้วหู
“โธ่เอ๊ย ฉันกำลังนอนอยู่ จะมาปลุกทำบ้าอะไร ห๊ะ”รินลดากระเด้งตัวออกจากที่นอนอย่างหมดความอดทน
“นี่มันไม่ใช่วันหยุดนะคะ คุณหนูพิมพ์ขา ตื่นอาบน้ำ แก้วจะไปรอที่โต๊ะอาหาร โอเคนะคะ”
“ฝากไว้ก่อนเถอะยัยบ้า”รินลดาว๊ากใส่ด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด
“ก็จนกว่าคุณหนูจะลุกจากเตียง แล้วเดินไปอาบน้ำ ลงไปทานข้าว แล้วไปเรียนค่ะ”
“ไอ้จอมจุ้นจ้าน กล้ามาทำให้ฉันโมโห มานี่เลย”รินลดาโกรธตัวสั่นงันงกจัดการบุษบาโดยใช้สองมือเล็กบิดหูบุษบาอย่างแรงด้วยความโมโห
“โอ๊ย โอย คุณหนู แก้วเจ็บนะคะ ถ้าขืนยังทำแบบนี้แก้วจะปล้ำคุณหนูจริงๆ ด้วย”บุษบารู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งหู รินลดาได้ยินคำขู่ก็หยุดดึงทันที มือของเธอคลำหูของตัวเองตอนนี้ก็คงจะแดงเถือก
“ฉันจะทำให้เธอไม่มีที่แม้แต่จะยืน จำเอาไว้”
“กลัวจังเลย อุ้ย กลัวจนตัวสั่น”บุษบาพูดเสียงสูง ทำหน้าเป็นลิงน้อย
รินลดาถูสบู่ขัดตัวไปมา เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง แปรงฟัน ล้างหน้า ล้างตา สมองไม่หยุดคิดแผนการที่จะกำจัดยัยหน้าปลวกออกไปให้พ้นทาง คิดไปเดินไปเช็ดตัวไป หยิบเสื้อคลุมห่อร่างไว้ก่อนออกจากห้องน้ำ เริ่มด้วยการเป่าผมและแต่งตัว แต่งหน้าและทาลิปสติกตบท้าย คว้ากระเป๋าใบหรูเดินออกไปพร้อมกับฮัมเพลงเบาๆ
“ไม่ทานข้าวก่อนเหรอยัยพิมพ์”เดือนหยาดทักขึ้นเมื่อเห็นรินลดาเดินเลยโต๊ะอาหารไป
“ไม่ละคะ ไม่ค่อยหิว”รินลดาพูดยิ้มๆ แล้วเดินไปพลางล้วงกระเป๋าหากุญแจแต่กลับไม่เจอ จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าตอนเช้าใส่ไว้ในกระเป๋า
“หาไอ้นี่อยู่ใช่ไหมคะ คุณหนูพิมพ์”บุษบายืนพิงอยู่ที่ประตูรถควงกุญแจเล่นไปมา
“เอากุญแจฉันคืนมานะ”รินลดาโผเข้ามาคว้ากุญแจบุษบายกชูขึ้นสูงเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งคนขับก้าวขึ้นไปนั่งพร้อมกับสตาร์ทรถรอ
“ยัยหน้าปลวก เธอจะเอายังไงกับฉัน ห๊ะ”รินลดาชะโงกหน้าเข้ามามองทำหน้าโกรธจัด
“คุณท่านบอกว่าต่อไปนี้ให้แก้วไปส่งคุณหนูที่มหา’ลัยค่ะ”
“เธอว่ายังไงนะ…คุณแม่เนี่ยนะ ให้เธอไปส่งฉัน เหอะ อย่ามาโกหกหน่อยเลย”
“ถ้าไม่เชื่อก็ลงไปถามคุณท่านดูซิค่ะ”รินลดาเดินเข้ามาหาเดือนหยาดด้วยอารมณ์หงุดหงิด
“คุณแม่ค่ะ ทำแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ”เดือนหยาดเลิกคิ้วนิดหนึ่งก่อนจะยิ้มออกมาอย่างรู้ๆ
“ให้แก้วเขาไปส่งลูกจะได้กลับบ้านเป็นเวลา ไม่ต้องไปเถลไถลที่ไหนตอนเลิกเรียน”
“คุณแม่ ทำแบบนี้มันจะเกินไปแล้วน่ะค่ะ”รินลดาขึ้นเสียงสูงกระทืบเท้าออกไปอย่างไม่พอใจ
“สมใจเธอแล้วใช่ไหม”รินลดาทิ้งตัวลงมานั่งในรถพลางหันมาต่อว่าน้ำเสียงและแววตาเยียบเย็น
“สมใจอะไรกันคะ ไม่เข้าใจ”บุษบาแกล้งตีหน้าซื่อ
“เธอคิดจะเอาชนะฉันใช่ไหม เธออยากเห็นฉันอกแตกตาย อยากเห็นฉันโกรธใช่ไหม”รินลดาพูดเสียงระรัวใบหน้าเห่อแดงด้วยความโกรธสุดจะห้าม
“ที่แก้วทำ เพราะแก้วเป็นห่วงคุณหนู หวังดีกับคุณหนู ไม่เคยคิดจะเอาชนะ ไม่ได้คิดจะทำให้คุณหนูโกรธ”บุษบาเลิกคิ้วหน้ามุ่ย ตอนแรกจะปล่อยเลยตามเลยให้เข้าใจผิดแต่ก็อยากแสดงความรู้สึกที่ออกมาจากใจจริงๆ ให้รินลดาได้รู้
“เพื่ออะไรในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกัน เธอจะมาห่วงฉันทำไม”
“สักวันคุณหนูจะเข้าใจว่าทำไม…แต่ตอนนี้แก้วจะต้องทำให้คุณหนูเป็นผู้เป็นคนรู้จักว่าสิ่งไหนควรทำไม่ควรทำ”บุษบาเหลือบตามองสตาร์ทรถออกไปเอื่อยๆ
“ยิ่งนับวันฉันก็ยิ่งเกลียดเธอมากเข้าไปทุกที ถ้าฉันทนไม่ได้ขึ้นมา ฉันจะหนีไปไกลๆ ที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีเธอ”คนได้ฟังส่ายหัวไปมา ไม่รับน้ำใจไมตรีที่สาวใช้หยิบยื่นให้และยังทำเหมือนยังไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ว่าความหวังดีที่ให้มันคืออะไร
“อย่าหนีไปไหนเลยค่ะ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมคนที่สมควรเดินจากไปเป็นแก้ว ไม่ใช่คุณหนู”รินลดาเหมือนใจหายไปเลยทั้งใจ แค่เพียงคำว่า เดินจากไป พยายามบังคับใจไม่ให้เป็นเช่นนั้น แต่สายตามันคงสั่งให้หันไปมองและอ้อนวอน
ทำไมเธอต้องสนใจด้วยว่ายัยหน้าปลวกจะอยู่หรือจะไป แต่ทำไมหัวใจโหวงเหวงเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ ขอบตาร้อนเหมือนน้ำตาจะไหลลงมา จนต้องเพ่งสายตาคู่สวยเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อกลบกลืนความรู้สึก ก่อนจะพูดบางคำที่ไม่เคยคิดว่าจะได้พูดออกมา
“เธอจะไปจากฉันจริงๆเหรอ”อยู่ๆก็มีคำพูดที่ทำให้ใบหน้าร้อนวูบ มือไม้รู้สึกเกะกะ ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นถึงได้รู้สึกประหม่าจนทำตัวไม่ถูก ยิ่งได้มองดวงตาโตสีดำขลับฉายแววเศร้าและผิดหวัง ทำสมาธิการขับรถหมดลงจนต้องหาที่เหมาะๆ จอดรถ
“ก็คุณหนูอยากให้เป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ”บุษบาถามเสียงเศร้า
“ฉัน..ฉัน..”รินลดาอยากพูดให้มากกว่านี้แต่บางอย่างกับให้เธอสมองตีบตันคิดไม่ออกขึ้นมาดื้อๆ แล้วน้ำตาก็ซึมไหลออกมาไม่ทันได้ตั้งตัว
“คุณหนูร้องให้ ร้องให้ทำไมคะ”สิ้นคำถามรินลดาโผเข้ามากอดไว้แน่นมากจนหายใจจะไม่ออกมือเรียวที่ขยุ้มเสื้อที่อกฝ่ายตรงข้ามแน่นร้องให้โยเย
บุษบาค่อยๆเลื่อนมือขึ้นสวมกอดรินลดาไว้ เพราะความโหยหามาเนิ่นนาน เธอไม่สามารถปฏิเสธความรู้สึกตัวเองได้ว่าอยากจะยืนอยู่ข้างๆ ผู้หญิงในอ้อมกอดนี้ตลอดไป
“ฉันสายแล้ว”รินลดาพูดสั้นๆ ผละออกจากอ้อมกอด ใบหน้าหวานละมุน เต็มไปด้วยคราบมาสคาร่าที่ไหลเป็นทางตามที่น้ำตาไหลรินลงมา
“หน้าคุณหนูเลอะหมดแล้ว แก้วเช็ดให้นะคะ”บุษบารีบหยิบผ้าเช็ดให้แต่สายตายังคงประสานกับเด็กขี้แง มือเธอยังคงจับมืออีกฝ่ายไว้แน่น เธอเผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว และยังคงอ้อยอิ่งกับริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้ม อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปสัมผัสริมฝีปาก เผลอกดนิ้วขาวของตนเองนั้นลงบนริมฝีปากล่างของรินลดาหนักขึ้น แต่เธอต้องก้มหน้าลงแล้วหลับตาพยายามข่มความรู้สึกไม่ให้เตลิด และรีบผละออกพร้อมกับพูดขึ้นเสียงแหบพร่า
“แก้วจะแวะปั้มข้างหน้าให้แล้วกันนะคะ คุณหนูจะได้ล้างหน้า”
“ไม่เป็นไร ล้างที่มหา’ลัยดีกว่า”ต่างคนก็ต่างหันมามาสบตากันต่างฝ่ายต่างก็ต้องหันหน้าไปยิ้มคนละทางเพราะความเขิน
“อย่ามายุ่งกับฉัน ไปให้พ้น ไม่อย่างนั้นฉันจะหักคอเธอ”รินลดานอนตะแคงแล้วดึงผ้าห่มคลุมหัวจนมิด เสียงกวนใจที่น่ารำคาญเงียบหายไปได้ยินเพียงเสียงปิดประตูออกไป
รินลดาดึงผ้าที่คลุมหัวออกถอนหายใจอย่างโล่ง ออกไปได้สักทีไม่อย่างนั้นเธอคงจะลุกขึ้นและส่งเสียงกรี๊ดใส่จนกว่าจะพอใจ
“ตื่น ตื่นได้แล้วจ้า ตื่นเร็วเข้า คุณหนูขา”บุษบาพรวดพราดเข้ามาตามมาด้วยหม้อกับตะหลิวกระทบกันจนแสบแก้วหู
“โธ่เอ๊ย ฉันกำลังนอนอยู่ จะมาปลุกทำบ้าอะไร ห๊ะ”รินลดากระเด้งตัวออกจากที่นอนอย่างหมดความอดทน
“นี่มันไม่ใช่วันหยุดนะคะ คุณหนูพิมพ์ขา ตื่นอาบน้ำ แก้วจะไปรอที่โต๊ะอาหาร โอเคนะคะ”
“ฝากไว้ก่อนเถอะยัยบ้า”รินลดาว๊ากใส่ด้วยอารมณ์โมโหสุดขีด
“ก็จนกว่าคุณหนูจะลุกจากเตียง แล้วเดินไปอาบน้ำ ลงไปทานข้าว แล้วไปเรียนค่ะ”
“ไอ้จอมจุ้นจ้าน กล้ามาทำให้ฉันโมโห มานี่เลย”รินลดาโกรธตัวสั่นงันงกจัดการบุษบาโดยใช้สองมือเล็กบิดหูบุษบาอย่างแรงด้วยความโมโห
“โอ๊ย โอย คุณหนู แก้วเจ็บนะคะ ถ้าขืนยังทำแบบนี้แก้วจะปล้ำคุณหนูจริงๆ ด้วย”บุษบารู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งหู รินลดาได้ยินคำขู่ก็หยุดดึงทันที มือของเธอคลำหูของตัวเองตอนนี้ก็คงจะแดงเถือก
“ฉันจะทำให้เธอไม่มีที่แม้แต่จะยืน จำเอาไว้”
“กลัวจังเลย อุ้ย กลัวจนตัวสั่น”บุษบาพูดเสียงสูง ทำหน้าเป็นลิงน้อย
รินลดาถูสบู่ขัดตัวไปมา เป็นเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง แปรงฟัน ล้างหน้า ล้างตา สมองไม่หยุดคิดแผนการที่จะกำจัดยัยหน้าปลวกออกไปให้พ้นทาง คิดไปเดินไปเช็ดตัวไป หยิบเสื้อคลุมห่อร่างไว้ก่อนออกจากห้องน้ำ เริ่มด้วยการเป่าผมและแต่งตัว แต่งหน้าและทาลิปสติกตบท้าย คว้ากระเป๋าใบหรูเดินออกไปพร้อมกับฮัมเพลงเบาๆ
“ไม่ทานข้าวก่อนเหรอยัยพิมพ์”เดือนหยาดทักขึ้นเมื่อเห็นรินลดาเดินเลยโต๊ะอาหารไป
“ไม่ละคะ ไม่ค่อยหิว”รินลดาพูดยิ้มๆ แล้วเดินไปพลางล้วงกระเป๋าหากุญแจแต่กลับไม่เจอ จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าตอนเช้าใส่ไว้ในกระเป๋า
“หาไอ้นี่อยู่ใช่ไหมคะ คุณหนูพิมพ์”บุษบายืนพิงอยู่ที่ประตูรถควงกุญแจเล่นไปมา
“เอากุญแจฉันคืนมานะ”รินลดาโผเข้ามาคว้ากุญแจบุษบายกชูขึ้นสูงเดินอ้อมไปเปิดประตูฝั่งคนขับก้าวขึ้นไปนั่งพร้อมกับสตาร์ทรถรอ
“ยัยหน้าปลวก เธอจะเอายังไงกับฉัน ห๊ะ”รินลดาชะโงกหน้าเข้ามามองทำหน้าโกรธจัด
“คุณท่านบอกว่าต่อไปนี้ให้แก้วไปส่งคุณหนูที่มหา’ลัยค่ะ”
“เธอว่ายังไงนะ…คุณแม่เนี่ยนะ ให้เธอไปส่งฉัน เหอะ อย่ามาโกหกหน่อยเลย”
“ถ้าไม่เชื่อก็ลงไปถามคุณท่านดูซิค่ะ”รินลดาเดินเข้ามาหาเดือนหยาดด้วยอารมณ์หงุดหงิด
“คุณแม่ค่ะ ทำแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ”เดือนหยาดเลิกคิ้วนิดหนึ่งก่อนจะยิ้มออกมาอย่างรู้ๆ
“ให้แก้วเขาไปส่งลูกจะได้กลับบ้านเป็นเวลา ไม่ต้องไปเถลไถลที่ไหนตอนเลิกเรียน”
“คุณแม่ ทำแบบนี้มันจะเกินไปแล้วน่ะค่ะ”รินลดาขึ้นเสียงสูงกระทืบเท้าออกไปอย่างไม่พอใจ
“สมใจเธอแล้วใช่ไหม”รินลดาทิ้งตัวลงมานั่งในรถพลางหันมาต่อว่าน้ำเสียงและแววตาเยียบเย็น
“สมใจอะไรกันคะ ไม่เข้าใจ”บุษบาแกล้งตีหน้าซื่อ
“เธอคิดจะเอาชนะฉันใช่ไหม เธออยากเห็นฉันอกแตกตาย อยากเห็นฉันโกรธใช่ไหม”รินลดาพูดเสียงระรัวใบหน้าเห่อแดงด้วยความโกรธสุดจะห้าม
“ที่แก้วทำ เพราะแก้วเป็นห่วงคุณหนู หวังดีกับคุณหนู ไม่เคยคิดจะเอาชนะ ไม่ได้คิดจะทำให้คุณหนูโกรธ”บุษบาเลิกคิ้วหน้ามุ่ย ตอนแรกจะปล่อยเลยตามเลยให้เข้าใจผิดแต่ก็อยากแสดงความรู้สึกที่ออกมาจากใจจริงๆ ให้รินลดาได้รู้
“เพื่ออะไรในเมื่อเราไม่ได้เป็นอะไรกัน เธอจะมาห่วงฉันทำไม”
“สักวันคุณหนูจะเข้าใจว่าทำไม…แต่ตอนนี้แก้วจะต้องทำให้คุณหนูเป็นผู้เป็นคนรู้จักว่าสิ่งไหนควรทำไม่ควรทำ”บุษบาเหลือบตามองสตาร์ทรถออกไปเอื่อยๆ
“ยิ่งนับวันฉันก็ยิ่งเกลียดเธอมากเข้าไปทุกที ถ้าฉันทนไม่ได้ขึ้นมา ฉันจะหนีไปไกลๆ ที่ไหนก็ได้ที่ไม่มีเธอ”คนได้ฟังส่ายหัวไปมา ไม่รับน้ำใจไมตรีที่สาวใช้หยิบยื่นให้และยังทำเหมือนยังไม่เข้าใจว่าสิ่งที่ว่าความหวังดีที่ให้มันคืออะไร
“อย่าหนีไปไหนเลยค่ะ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมคนที่สมควรเดินจากไปเป็นแก้ว ไม่ใช่คุณหนู”รินลดาเหมือนใจหายไปเลยทั้งใจ แค่เพียงคำว่า เดินจากไป พยายามบังคับใจไม่ให้เป็นเช่นนั้น แต่สายตามันคงสั่งให้หันไปมองและอ้อนวอน
ทำไมเธอต้องสนใจด้วยว่ายัยหน้าปลวกจะอยู่หรือจะไป แต่ทำไมหัวใจโหวงเหวงเหมือนกำลังจะขาดอากาศหายใจ ขอบตาร้อนเหมือนน้ำตาจะไหลลงมา จนต้องเพ่งสายตาคู่สวยเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อกลบกลืนความรู้สึก ก่อนจะพูดบางคำที่ไม่เคยคิดว่าจะได้พูดออกมา
“เธอจะไปจากฉันจริงๆเหรอ”อยู่ๆก็มีคำพูดที่ทำให้ใบหน้าร้อนวูบ มือไม้รู้สึกเกะกะ ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นถึงได้รู้สึกประหม่าจนทำตัวไม่ถูก ยิ่งได้มองดวงตาโตสีดำขลับฉายแววเศร้าและผิดหวัง ทำสมาธิการขับรถหมดลงจนต้องหาที่เหมาะๆ จอดรถ
“ก็คุณหนูอยากให้เป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ”บุษบาถามเสียงเศร้า
“ฉัน..ฉัน..”รินลดาอยากพูดให้มากกว่านี้แต่บางอย่างกับให้เธอสมองตีบตันคิดไม่ออกขึ้นมาดื้อๆ แล้วน้ำตาก็ซึมไหลออกมาไม่ทันได้ตั้งตัว
“คุณหนูร้องให้ ร้องให้ทำไมคะ”สิ้นคำถามรินลดาโผเข้ามากอดไว้แน่นมากจนหายใจจะไม่ออกมือเรียวที่ขยุ้มเสื้อที่อกฝ่ายตรงข้ามแน่นร้องให้โยเย
บุษบาค่อยๆเลื่อนมือขึ้นสวมกอดรินลดาไว้ เพราะความโหยหามาเนิ่นนาน เธอไม่สามารถปฏิเสธความรู้สึกตัวเองได้ว่าอยากจะยืนอยู่ข้างๆ ผู้หญิงในอ้อมกอดนี้ตลอดไป
“ฉันสายแล้ว”รินลดาพูดสั้นๆ ผละออกจากอ้อมกอด ใบหน้าหวานละมุน เต็มไปด้วยคราบมาสคาร่าที่ไหลเป็นทางตามที่น้ำตาไหลรินลงมา
“หน้าคุณหนูเลอะหมดแล้ว แก้วเช็ดให้นะคะ”บุษบารีบหยิบผ้าเช็ดให้แต่สายตายังคงประสานกับเด็กขี้แง มือเธอยังคงจับมืออีกฝ่ายไว้แน่น เธอเผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว และยังคงอ้อยอิ่งกับริมฝีปากเล็กจิ้มลิ้ม อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปสัมผัสริมฝีปาก เผลอกดนิ้วขาวของตนเองนั้นลงบนริมฝีปากล่างของรินลดาหนักขึ้น แต่เธอต้องก้มหน้าลงแล้วหลับตาพยายามข่มความรู้สึกไม่ให้เตลิด และรีบผละออกพร้อมกับพูดขึ้นเสียงแหบพร่า
“แก้วจะแวะปั้มข้างหน้าให้แล้วกันนะคะ คุณหนูจะได้ล้างหน้า”
“ไม่เป็นไร ล้างที่มหา’ลัยดีกว่า”ต่างคนก็ต่างหันมามาสบตากันต่างฝ่ายต่างก็ต้องหันหน้าไปยิ้มคนละทางเพราะความเขิน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ