Vampire Bangkok แวมไพร์ แบงค็อก
8.3
เขียนโดย justin
วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13.33 น.
23 ตอน
1 วิจารณ์
29.00K อ่าน
แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556 13.32 น. โดย เจ้าของนิยาย
19) กวิน เด็กแสบจอมสืบ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความภายในห้องคอนโดหรูชั้นที่ 24 ย่านสุขุมวิท นัทได้ซื้อไว้สำหรับพักผ่อนกายในยามค่ำคืน มันเป็นห้องชุดสามห้องนอน สี่ห้องน้ำ ห้องลิฟวิ่งรูม ห้องครัว ระเบียงด้านนอกกว้างพอที่จะตั้งโต๊ะชุดสำหรับดื่มกาแฟได้ ห้องถูกตกแต่งอย่างทันสมัยสไตล์รีสอร์ท เฟอร์นิเจอร์ถูกจัดวางอย่างลงตัว
การเดินทางไปมาระหว่างที่ทำงานกับคอนโดเป็นไปทุกเมื่อเชื่อวัน มันเป็นเรื่องปรกติ นัทมักเดินเข้าจากทางด้านหน้าประตูหายตัวเข้าไปในห้อง เมื่อมองดูว่าไม่มีใครหรืออะไรบนชั้นนั้น กล้องวงจรปิดก็ถูกติดตั้งไว้เฉพาะด้านหน้าของลิฟต์เท่านั้น จึงไม่มีอะไรที่ต้องทำให้กังวล
แต่สิ่งเหล่านั้นกลับไม่พ้นสายตาคู่หนึงของหนุ่มวัย 19 ปี เพื่อนบ้านห้องตรงข้าม
กวิน ชายหนุ่มวัย 19 ปี เพิ่งเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของกรุงเทพ มีอุปนิสัยแปลกประหลาดจนเพื่อนสนิทอย่างเจตน์ที่เติบโตมาด้วยกันในสมัยเรียนมัธยมรู้สึกอึดอัด แม้แต่การเข้ามหาวิทยาลัยครั้งนี้ก็เข้าที่เดียวกัน เรียนห้องเดียวกัน แต่ความพิลึก อยากรู้อยากเห็นในเรื่องเร้นลับของกวิน ทำให้เจตน์เริ่มแยกตัวออกห่าง หรือสิ่งที่มากกว่านั้น
ที่มหาวิทยาลัย กวินทำท่าลึกลับ จะเดินเข้าไปหาเจตน์ ที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยม พึ่งมาแยกกันก็ตอนโตเพราะว่าสไตล์มันไม่เข้ากัน เขาเดินก้าวเท้ามาหาเจตน์ ในขณะที่เจตน์กำลังคุยกับเพื่อนๆ กลุ่มใหม่อยู่
"เฮ้ เจตน์ดูท่าไอ้เจ้าหมอนั่นจะมาคุยกับเราว่ะ"
เพื่อนคนหนึงในกลุ่มสะกิดเจตน์ให้ดูไปที่กวิน ซึ่งกำลังเดินเข้ามาหา เพื่อนทุกคนหันหน้าไปมองพร้อมกัน เขาเดินตรงมาและมองไปที่เจตน์
"เอ้อ ฉันขอคุยด้วยแป๊บดิ"
"ขอคุยสองต่อสองด้วยหวานแววซะไม่มีอ่ะ ดีมันจะได้สอนนายด้วย ว่าเสร่อแดกต้องทำตัวยังไงบ้าง"
เพื่อนคนเดิมของเจตน์พูดแขวะใส่กวิน ทำหน้าตายียวน
"ปากดีนักนะ วันนี้ไม่ไปกินตับสก้อยที่ไหนเหรอ"
กวินสวนกลับทันควัน ถึงแม้เขาจะเป็นที่ดูแปลกประหลาด ลึกลับ แต่ความเก๋าก็ไม่แพ้ใครเช่นกัน ทำให้เพื่อนของเจตน์ที่พยายามแขวะถึงกับอึ้งเงียบไป เขามองไปทีหน้าของเจตน์อีกครั้ง
"มีเรื่องสำคัญของคนห้องตรงข้ามฉันที่คอนโด"
เจตน์หันมามองที่หน้าเพื่อนๆ ก่อนจะพูดเสียงเรียบๆ กับกวิน
"ก็ได้"
เขาทั้งสองก้าวเท้าเดินไปอีกมุมหนึงจากกลุ่มเพื่อนๆ ที่สายตามทุกคู่กำลังจับจ้องอยู่
"แกมีอะไรวิน"
"มีเรื่องคนห้องตรงข้ามฉัน ที่เขาห้องติดกับแกอ่ะ"
"คือยังไงเหรอ คนห้องตรงข้ามแก ห้องติดกับฉัน"
เจตน์ทำหน้างุนงงกับคำพูดของกวิน ทั้งสองคนอยู่คอนโดเดียวกัน ชั้นเดียวกันกับนัท เจตน์อยู่กับพี่สาวที่กำลังเรียนปริญญาโทในสถาบันเดียวกันกับเขา ส่วนกวินอยู่กับน้าสาวและน้าเขยห้องฝั่งตรงข้ามกับนัท
"ฉันพยามติดตามดู มันมีเรื่องแปลกๆ ไม่รู้นะแกสังเกตไหม ตอนที่เขากลับห้อง ฉันไม่เคยได้ยินเสียงเปิดประตูเลยสักครั้ง"
"แล้วไง คนสันโดษเป็นเรื่องธรรมชาติ เขาคงไม่อยากสุงสิงกับใครอ่ะ นายจะให้ฉันทำไงไม่ทราบ"
"ก็หลังเลิกเรียนแล้วไปที่ห้องฉันกัน ไปพิสูจน์ว่าเขาเป็นอะไรกันไหม"
เจตน์มองดูหน้ากวินด้วยความประหลาดใจ ใช่เขาพิลึกกึกกืออยู่ก็จริง แต่ก็ไม่คิดว่าจะเลยเถิดถึงขนาดชวนเขาแอบดูเพื่อนบ้านคนห้องตรงข้าม
"โอ้ ไม่ได้หรอก โทษทีนะไม่ว่างอ่ะ"
เจตน์ตอบปฏิเสธกวินไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
"เฮ้อะ เหมือนแกยังไม่เข้าใจประเด็นที่ฉันบอก เขาไม่ใช่คนธรรมดา อยู่ๆ เขาก็เดินหายเข้าไปในห้องโดยที่ไม่ได้ยินเสียงกุญแจสักแอะ"
กวินแผดเสียงพูดดังออกไปรอบๆ จนเพื่อนๆ ของเจตน์หันกลับมามองอีกครั้ง
"นี่แกต้องมาตะโกนพูดตรงนี้ด้วยเหรอ"
"ว้าว แปลว่าฉันคุยกับแกอีกไม่ได้แล้วใช่ไหมเนี๊ยะ"
"เบาๆ ก็ได้ ไม่ต้องเยอะหรอกน่า"
"ไม่ต้องเยอะเหรอ แกไม่อยากให้ฉันเยอะเหรอ โอ้แม่เจ้า โหดร้ายเหลือใจ สิ้นโลกแล้วแท้ๆ ชีวิตการเป็นเพื่อนของเรามันจะไม่เหลือแล้วใช่ไหม"
กวินแผดเสียงดังนักกว่าเดิม จนเจตน์ต้องหันไปมองหน้าเพื่อนๆ ด้วยความอาย
"พอนะแก"
"งั้นก็มาช่วยกันหน่อยสิ"
"โอเค งั้นก็ได้ หลังเลิกเรียนที่ห้องแก"
"อย่าให้รอละ"
เจตน์มองใบหน้ากวินด้วยท่าทีลำบากใจ หลังจากรับปากอย่างไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไรนัก เขาเดินจากกวินไปอย่างอารมณ์เสีย กลุ่มเพื่อนๆ ต่างหัวเราะขบขันกันใหญ่กับท่าทีของทั้งสองคน
"นี่เจตน์ ฉันกลับมาถึงห้องแล้ว รู้สึกยังไงไม่รู้ว่ะ ที่มาถึงแล้วไม่เจอแก หวังว่าแกคงจะไม่ลืมที่เรานัดกันไว้นะ ฉันจะไปคอยแกตรงที่ลานจอดรถชั้นหกแค่นี่แหละ อื้มม"
เขาแผดเสียงลั่นผ่านเครื่องโทรศัพท์มือถือ ก่อนกดวางหลังจากที่ฝากข้อความบันทึกไว้ เขากลับมาที่ห้องนานแล้ว ใจจดใจจ่อรอเจตน์อย่างร้อนรน วันนี้ที่ห้องน้าทั้งสองคนไม่อยู่ มันเป็นโอกาสเหมาะที่จะคอยติดตามพฤติกรรมของเพื่อนบ้านห้องตรงข้าม
กวินจำได้ วันนั้นประมาณสองทุ่มกว่าๆ หลังจากเดินออกมาจากลิฟต์ ก็เดินผ่านโถงทางเดิน ตรงเข้าไปที่ห้อง ขณะเขาเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง ก็ได้ยินเสียงลิฟต์อีกตัวเปิดดังขึ้น เขาบิดประตูปิดเบาๆ และส่องตาแมวดูที่ติดอยู่ตรงกลางประตูห้อง เพื่อจะดูว่าใครกำลังเดินผ่านมา มันเป็นเรื่องปรกติ ความสอดรู้สอดเห็นของเพื่อนบ้านเป็นความสนุกที่เขาชอบทำ แต่เขาก็ไม่เคยสร้างความเดือดร้อน รำคาญ หรือรบกวนอะไรเพื่อนบ้าน
แต่วันนั้นมันแปลกประหลาดที่สุด เขาเห็นชายหนุ่มห้องตรงข้ามเดินมาหยุดที่หน้าประตูห้อง พี่นัทเขารู้จักชื่อนี้ พี่นัทที่เขารู้จักเป็นนักข่าวของนิวส์โพ้ส เคยพูดคุยกับพี่เขาสองสามครั้ง แต่ไม่สนิทมาก เขาเริ่มสงสัยและติดตามพฤติกรรมของนัทเหมือนกับเพื่อนบ้านร่วมชั้นคอนโดคนอื่นๆ แต่วันนี้มันแปลกมาก
กวินเห็นนัทเดินมาหยุดตรงประตูครู่หนึง ก่อนจะเดินหายทะลุประตูห้องเข้าไป “เฮ้ย !!!” เขาอุทานด้วยความตกใจถึงกับยืนตัวเกร็งแข็งทื่อไปพักหนึง ก่อนจะถอยหลังล่นไปนั่งบนโซฟา เขายังตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เห็นอันน่าสะพรึงกลัว
“ ผี วิญญาณ โอ้ย อะไรกันว่ะ“
ภาพนั้นยังติดตาเขาอยู่ มันเป็นภาพที่เห็นและชวนขนลุก เขานั่งอยู่ตรงนั้นเกือบชั่วโมงพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่และลุกก้าวเดินไปหยิบโน้ตบุคขึ้นมา คลิ๊กเข้าไปที่กูเกิลค้นหาสิ่งที่เขาสงสัย มันเป็นสัญชาตญาณของผู้อยากรู้อยากเห็น จากวันนั้นจนถึงทุกวันนี้
หลังจากที่เจตน์ฟังข้อความที่กวินฝากไว้ จึงรีบตรงไปหากวินที่ลานจอดรถชั้นหกทันที
"นี่แกมัวไปอยู่ไหนมา"
"ก็แกบอกหลังเลิกเรียน"
"ฉันหมายถึงหลังเลิกเรียนทันที นี่มันค่ำแล้ว เข้าใจไหม"
"ไม่อะ ไม่เข้าใจ เดี๋ยวขอเปิดพจนานุกรมศึกษาก่อนละกัน"
"เจริญละ"
เจตน์และกวินยังพูดแขวะกันไปมาตามประสาเพื่อนที่สนิทกัน กวินเดินตรงไปเคาะประตูห้องเก็บของในชั้นจอดรถที่ไฟภายในถูกเปิดทิ้งไว้อยู่ ‘ ป๊อก ๆๆๆ’
"หวัดดีคร๊าบ มีใครอยู่ไหม ...... อืม ไม่มี"
กวินตะโกนเรียกดูอีกครั้ง ก็ไม่มีใครมาเปิดประตู มันเป็นโอกาสดีเพราะเขาไม่ต้องการให้ใครรู้หรือเห็น ในสิ่งที่เขากำลังทำ
กวินเอื้อมมือคว้าแขวนเพื่อนที่ยืนอยู่ด้านหน้าห้องเก็บของลากหลบไปอีกด้านของห้อง ที่ตรงนี้เป็นมุมมืดไม่มีแสงไฟสาดส่องเข้าไปถึง
“เดี๋ยวเราแอบซุ่มกันตรงนี้แหละ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่จอดรถประจำของพี่นัท”
"นี่มันบ้าชัดๆ เลยว่ะ"
เจตน์สบถขึ้นมาเมื่อเห็นพฤติกรรมความประหลาดของกวิน
"ฉันไม่อยากเป็นคนบอกแกหรอกนะ แต่ผู้ชายตรงข้ามห้องฉัน เขาไม่ใช่คนอ่ะเพื่อน เขาเป็นแวมไพร์"
"คนห้องตรงข้ามแกเหรอ"
"ใช่"
"ห้องติดกับฉันเนี๊ยะนะ"
"ใช่"
"พี่นัทเหรอ เพิ่งเจอเมื่อเช้านี่"
"นั่นแหละ พี่นัท"
"อืมม ฉันว่ามันเป็นชื่อแวมไพร์ ที่เห่ยโคตรๆ เลย นัทเนี๊ยะนะ"
"ใช่ ฉันไม่ได้เป็นคนตั้งชื่อ แค่บอกข้อมูลความจริง "
เจตน์ยังอดไม่ได้ที่จะพูดแขวะกวินอีกครั้ง ด้วยความสงสัยอันพิสดารพันลึกของเขา กวินยังเดินเข้ามาดุ้มๆ มองๆ มือหนึงกำไม้ลิ้มแหลม อีกมือหนึงถือกระเทียมเอาไว้
"เพื่อน..... เฮ้ออออ...."
เจตน์ถอนหายใจเบาๆ เดินตามกวินไปด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายกับสิ่งที่เขาทำและท่าทีพิกล กวินเดินเข้าไปในมุมมืดสลัว มีแค่แสงไฟด้านนอกเท่านั้นที่สาดส่องทางด้านหน้า เขาก้าวเท้าย่ำเดินผ่านประตูห้องเก็บของไปอีกด้าน มีเงาตระคุ่มๆ ยืนจังก้าทางด้านซ้ายของกวิน
"เฮอะ !!! เอ้ย อ้ากกกก"
กวินเอาทั้งลิ่มแหลมทิ่มแทงเข้าไป และกระเทียมฟาดเข้าไปที่เงานั่นอย่างสุดกำลัง
"เอ้ย เอ้อ เฮ้อ ฮึ เฮอะ" เสียกงวินหอบรัวดังไปทั่ว
"บ้าเอ้ย ถ้าใครรู้เสียตายเลย แค่ป้ายกระดาษ"
"เออ เก่งว่ะ เฮ้อะ !! ไม่เห็นมีใครซะหน่อย"
กวินทำหน้าเจื่อนกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ เจตน์มองหน้าเพื่อนส่ายหัวไปมาอย่างน่ารำคาญ
"ไม่ใช่แค่สงสัยแค่นี้เท่านั้น ฟังนะ ฉันเฝ้าติดตามเวลาไป เวลาเข้าของเขาตลอด แล้วอีกอย่างที่ฉันไปค้นข่าวในยูทูบเมื่อหลายปีก่อน เรื่องอุบัติเหตุรถทัวร์คว่ำที่จังหวัดกาญจนบุรี และมีผู้ชายสองคนหายไป"
กวินค่อยๆ เดินย่องเข้าไปสังเกตการณ์ตรงด้านหน้า เพื่อมองลอดไปว่ามีรถยนต์ขับเคลื่อนขึ้นมาหรือยัง เขาค่อยๆ ย่อง โก้งโค้งตัวงอเดินมองสอดสายตาไปมา
"ทำไมแกต้องเดินอย่างนั้นด้วยละ..... เฮ้อออออ"
เจตน์ถอนหายใจยาวด้วยท่าทีพิลึกกึกกือของเพื่อนขณะนั้น
"เอาละฟังนะ ฉันทำแผนภูมิการหายตัวไปของสองคนนั่น"
กวินเอื้อมมือล้วงเข้าไปที่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง หยิบกระดาษคลี่กางออกมาส่งให้เจตน์ดู
"มันเป็นเรื่องปรกติ เขาอาจมีคนมาช่วยไปก็ได้"
"แล้วแกไม่สังเกตหรือไง ข่าวสองคนนั่นหายเงียบไปเลย"
"โธ่เอ้ย ป่านนี้เขาคงไปอยู่ที่ไหนแล้วก็ได้"
"ก็นั่นไง มันเข้าทางเขาเป๊ะๆ ไม่มีใครสงสัย หรือติดตามข่าว"
เจตน์ปรายตามองไปที่กวินอีกครั้ง เบะมุมปากเล็กน้อย
"อะไร .....พี่นัทเเนี๊ยะนะเป็นเแด็กคูล่า"
"เปล่า แด็กคูล่าก็คือหนึ่งในแวมไพร์ ฉันกำลังจะบอกแกว่า.."
"พอแล้ว ๆ ฉันเข้าใจที่แกบอกหรอก ฉันแค่แซวเล่น โอเค้..... ใช่ แบบว่า แค่กัดแก"
"ประเสริฐเลยเพื่อน"
ทั้งสองคนยังแขวะกันไปมาไม่เลิก เจตน์เบื่อช่วงเวลาที่แสนอึดอัดนี่เต็มทน
"ฉันว่าแกอ่านทไวไลท์มากไปแล้วอ่ะ"
"นั่นมันนิยาย โอเค้ แกต้องไม่ลืมนะนิยายมักจะแต่งมาจากเรื่องจริง และนี่มันก็ของจริง ปีศาจตัวจริง ไม่ใช่พวกผีซึมเศร้า ครั่งรักหรือเป็นผู้ดี แต่นี่มันเหมือนสิงโต ไล่ฆ่า ไล่เขมือบ ไม่มีหยุด จนกว่าเหยื่อแถวนั้นจะตายกันหมด......อ่อ แล้วนี่ฉันฉุนจริงๆ นะ ที่แกคิดว่าฉันอ่านทไวไลท์"
เจตน์ทำหน้างุนงงกับอาการและอารมณ์ประหลาดๆ ของเขา กวินทำให้เขาถึงกับเหว๋อกิน
"ไอ้วิน...ไม่เอาน่า"
แต่กวินยังไม่หยุดพฤติกรรมอาการแปลกๆ
"ยังไม่ได้เชิญมันเข้าห้องใช่ไหม มันเข้าบ้านหรือห้องใครไม่ได้ถ้าเจ้าของไม่เชิญ แกก็รู้นิ"
"ฉันว่าแกมืนยาแล้วละ"
"ไม่ใช่เลย เอ้อ... ใช่ฉันกินยาอยู่ แต่ขอให้เชื่อเถอะ ฉันมีข้อมูลหลักฐานทั้งหมดอยู่ที่ห้อง"
"ก็ได้ เฮอะๆ "
เจตน์ส่ายหัวไปมากับพฤติกรรมของเพื่อนที่เป็นเอามากๆ
"เอาละฟังนะ เราจะเข้าไปตอกอกมันในรถ ฉันกับแก แต่ตอนนี้มันมืดเกินไปแล้ว ต้องเป็นเวลากลางวันในเวปบอกอย่างนั้น"
"ในอินเตอร์เน็ตเนี๊ยะนะ"
"ใช่"
"ให้ตายเถอะ"
"ใช่นั่นแหละ ในเวปหลายๆ เวปบอกไว้ ฉันศึกษามาหมดแล้ว คนเขียนเขาคือปรมาจารย์ด้านศาสตร์มืด แตกฉานเรื่องตำนานแวมไพร์ ในเวปที่บอกนี่แหละตัวจริง เสียงจริง"
เจตน์ถึงกับอึ้งจนทำหน้าไม่ถูก " ว้าว " เจตน์เปรยออกมาด้วยน้ำเสียงประชดเพื่อที่จะจบบทสนทนา กวินมองหน้าเพื่อนก่อนจะพูดล้อตาม
"ว้าว.......ขอสักนาทีหนึงได้ไหม ช่วยแกล้งทำตัวเป็น..แบบว่า แกไม่ใช่พวกไม่มีสมองได้ไหม"
"นั่นมันเรื่องที่เราสนุกกันตอนที่อยู่มัธยม"
"อยู่มหาลัย แล้วจะยังไง"
"จะยังไงก็ช่าง ประเด็นคือฉันโตแล้ว แกไม่อยากโตก็ตามสบาย แบบนั้นไม่เอาแล้ว ฉันขอมีชีวิตจริงๆ บ้างกว่าเรื่องเพ้อฝัน"
"เข้าใจแล้ว แกมันเจ๋งขั้นเทพไปแล้ว เชิญไปเข้าแก๊งค์เด็กป๊อป รอแป็กได้เลย"
"เงียบไปเลย"
เจตน์พลักอกกวินกระเด็นไปอีกทาง กวินหันมองหน้าเจตน์อย่างผิดหวัง
"เราเคยซี้ย่ำปึกกันนะ"
"จริง แต่รู้ไหม ชีวิตฉันดีขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ตั้งแต่วันที่ฉันเลิกสุงสิงกับแก และที่สำคัญฉันรู้นะว่า แกเป็น...."
“เป็นอะไรพูดมาเลย”
“แก......เป็นเกย์ และสิ่งที่แกกำลังทำก็เพื่อเรียกร้องความสนใจ ฉันไม่รู้นะว่าแกคิดยังไงกับฉัน แต่ฉันไม่เอาด้วยนะ ฉันไม่ได้เป็นเกย์แบบแก โอเค ความเป็นเพื่อนเรายังมีอยู่ แต่มันคงจะไม่เหมือนเดิมแต่ก่อน”
เจตน์เอี้ยวตัวหันหลังกลับก้าวเท้าเดินจากไป ปล่อยให้กวินนั่งจ๋องอยู่ที่นั่นเพียงลำพังคนเดียว
.............................. * ...............................
การเดินทางไปมาระหว่างที่ทำงานกับคอนโดเป็นไปทุกเมื่อเชื่อวัน มันเป็นเรื่องปรกติ นัทมักเดินเข้าจากทางด้านหน้าประตูหายตัวเข้าไปในห้อง เมื่อมองดูว่าไม่มีใครหรืออะไรบนชั้นนั้น กล้องวงจรปิดก็ถูกติดตั้งไว้เฉพาะด้านหน้าของลิฟต์เท่านั้น จึงไม่มีอะไรที่ต้องทำให้กังวล
แต่สิ่งเหล่านั้นกลับไม่พ้นสายตาคู่หนึงของหนุ่มวัย 19 ปี เพื่อนบ้านห้องตรงข้าม
กวิน ชายหนุ่มวัย 19 ปี เพิ่งเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของกรุงเทพ มีอุปนิสัยแปลกประหลาดจนเพื่อนสนิทอย่างเจตน์ที่เติบโตมาด้วยกันในสมัยเรียนมัธยมรู้สึกอึดอัด แม้แต่การเข้ามหาวิทยาลัยครั้งนี้ก็เข้าที่เดียวกัน เรียนห้องเดียวกัน แต่ความพิลึก อยากรู้อยากเห็นในเรื่องเร้นลับของกวิน ทำให้เจตน์เริ่มแยกตัวออกห่าง หรือสิ่งที่มากกว่านั้น
ที่มหาวิทยาลัย กวินทำท่าลึกลับ จะเดินเข้าไปหาเจตน์ ที่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยม พึ่งมาแยกกันก็ตอนโตเพราะว่าสไตล์มันไม่เข้ากัน เขาเดินก้าวเท้ามาหาเจตน์ ในขณะที่เจตน์กำลังคุยกับเพื่อนๆ กลุ่มใหม่อยู่
"เฮ้ เจตน์ดูท่าไอ้เจ้าหมอนั่นจะมาคุยกับเราว่ะ"
เพื่อนคนหนึงในกลุ่มสะกิดเจตน์ให้ดูไปที่กวิน ซึ่งกำลังเดินเข้ามาหา เพื่อนทุกคนหันหน้าไปมองพร้อมกัน เขาเดินตรงมาและมองไปที่เจตน์
"เอ้อ ฉันขอคุยด้วยแป๊บดิ"
"ขอคุยสองต่อสองด้วยหวานแววซะไม่มีอ่ะ ดีมันจะได้สอนนายด้วย ว่าเสร่อแดกต้องทำตัวยังไงบ้าง"
เพื่อนคนเดิมของเจตน์พูดแขวะใส่กวิน ทำหน้าตายียวน
"ปากดีนักนะ วันนี้ไม่ไปกินตับสก้อยที่ไหนเหรอ"
กวินสวนกลับทันควัน ถึงแม้เขาจะเป็นที่ดูแปลกประหลาด ลึกลับ แต่ความเก๋าก็ไม่แพ้ใครเช่นกัน ทำให้เพื่อนของเจตน์ที่พยายามแขวะถึงกับอึ้งเงียบไป เขามองไปทีหน้าของเจตน์อีกครั้ง
"มีเรื่องสำคัญของคนห้องตรงข้ามฉันที่คอนโด"
เจตน์หันมามองที่หน้าเพื่อนๆ ก่อนจะพูดเสียงเรียบๆ กับกวิน
"ก็ได้"
เขาทั้งสองก้าวเท้าเดินไปอีกมุมหนึงจากกลุ่มเพื่อนๆ ที่สายตามทุกคู่กำลังจับจ้องอยู่
"แกมีอะไรวิน"
"มีเรื่องคนห้องตรงข้ามฉัน ที่เขาห้องติดกับแกอ่ะ"
"คือยังไงเหรอ คนห้องตรงข้ามแก ห้องติดกับฉัน"
เจตน์ทำหน้างุนงงกับคำพูดของกวิน ทั้งสองคนอยู่คอนโดเดียวกัน ชั้นเดียวกันกับนัท เจตน์อยู่กับพี่สาวที่กำลังเรียนปริญญาโทในสถาบันเดียวกันกับเขา ส่วนกวินอยู่กับน้าสาวและน้าเขยห้องฝั่งตรงข้ามกับนัท
"ฉันพยามติดตามดู มันมีเรื่องแปลกๆ ไม่รู้นะแกสังเกตไหม ตอนที่เขากลับห้อง ฉันไม่เคยได้ยินเสียงเปิดประตูเลยสักครั้ง"
"แล้วไง คนสันโดษเป็นเรื่องธรรมชาติ เขาคงไม่อยากสุงสิงกับใครอ่ะ นายจะให้ฉันทำไงไม่ทราบ"
"ก็หลังเลิกเรียนแล้วไปที่ห้องฉันกัน ไปพิสูจน์ว่าเขาเป็นอะไรกันไหม"
เจตน์มองดูหน้ากวินด้วยความประหลาดใจ ใช่เขาพิลึกกึกกืออยู่ก็จริง แต่ก็ไม่คิดว่าจะเลยเถิดถึงขนาดชวนเขาแอบดูเพื่อนบ้านคนห้องตรงข้าม
"โอ้ ไม่ได้หรอก โทษทีนะไม่ว่างอ่ะ"
เจตน์ตอบปฏิเสธกวินไปด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
"เฮ้อะ เหมือนแกยังไม่เข้าใจประเด็นที่ฉันบอก เขาไม่ใช่คนธรรมดา อยู่ๆ เขาก็เดินหายเข้าไปในห้องโดยที่ไม่ได้ยินเสียงกุญแจสักแอะ"
กวินแผดเสียงพูดดังออกไปรอบๆ จนเพื่อนๆ ของเจตน์หันกลับมามองอีกครั้ง
"นี่แกต้องมาตะโกนพูดตรงนี้ด้วยเหรอ"
"ว้าว แปลว่าฉันคุยกับแกอีกไม่ได้แล้วใช่ไหมเนี๊ยะ"
"เบาๆ ก็ได้ ไม่ต้องเยอะหรอกน่า"
"ไม่ต้องเยอะเหรอ แกไม่อยากให้ฉันเยอะเหรอ โอ้แม่เจ้า โหดร้ายเหลือใจ สิ้นโลกแล้วแท้ๆ ชีวิตการเป็นเพื่อนของเรามันจะไม่เหลือแล้วใช่ไหม"
กวินแผดเสียงดังนักกว่าเดิม จนเจตน์ต้องหันไปมองหน้าเพื่อนๆ ด้วยความอาย
"พอนะแก"
"งั้นก็มาช่วยกันหน่อยสิ"
"โอเค งั้นก็ได้ หลังเลิกเรียนที่ห้องแก"
"อย่าให้รอละ"
เจตน์มองใบหน้ากวินด้วยท่าทีลำบากใจ หลังจากรับปากอย่างไม่ค่อยเต็มใจสักเท่าไรนัก เขาเดินจากกวินไปอย่างอารมณ์เสีย กลุ่มเพื่อนๆ ต่างหัวเราะขบขันกันใหญ่กับท่าทีของทั้งสองคน
"นี่เจตน์ ฉันกลับมาถึงห้องแล้ว รู้สึกยังไงไม่รู้ว่ะ ที่มาถึงแล้วไม่เจอแก หวังว่าแกคงจะไม่ลืมที่เรานัดกันไว้นะ ฉันจะไปคอยแกตรงที่ลานจอดรถชั้นหกแค่นี่แหละ อื้มม"
เขาแผดเสียงลั่นผ่านเครื่องโทรศัพท์มือถือ ก่อนกดวางหลังจากที่ฝากข้อความบันทึกไว้ เขากลับมาที่ห้องนานแล้ว ใจจดใจจ่อรอเจตน์อย่างร้อนรน วันนี้ที่ห้องน้าทั้งสองคนไม่อยู่ มันเป็นโอกาสเหมาะที่จะคอยติดตามพฤติกรรมของเพื่อนบ้านห้องตรงข้าม
กวินจำได้ วันนั้นประมาณสองทุ่มกว่าๆ หลังจากเดินออกมาจากลิฟต์ ก็เดินผ่านโถงทางเดิน ตรงเข้าไปที่ห้อง ขณะเขาเปิดประตูเข้าไปภายในห้อง ก็ได้ยินเสียงลิฟต์อีกตัวเปิดดังขึ้น เขาบิดประตูปิดเบาๆ และส่องตาแมวดูที่ติดอยู่ตรงกลางประตูห้อง เพื่อจะดูว่าใครกำลังเดินผ่านมา มันเป็นเรื่องปรกติ ความสอดรู้สอดเห็นของเพื่อนบ้านเป็นความสนุกที่เขาชอบทำ แต่เขาก็ไม่เคยสร้างความเดือดร้อน รำคาญ หรือรบกวนอะไรเพื่อนบ้าน
แต่วันนั้นมันแปลกประหลาดที่สุด เขาเห็นชายหนุ่มห้องตรงข้ามเดินมาหยุดที่หน้าประตูห้อง พี่นัทเขารู้จักชื่อนี้ พี่นัทที่เขารู้จักเป็นนักข่าวของนิวส์โพ้ส เคยพูดคุยกับพี่เขาสองสามครั้ง แต่ไม่สนิทมาก เขาเริ่มสงสัยและติดตามพฤติกรรมของนัทเหมือนกับเพื่อนบ้านร่วมชั้นคอนโดคนอื่นๆ แต่วันนี้มันแปลกมาก
กวินเห็นนัทเดินมาหยุดตรงประตูครู่หนึง ก่อนจะเดินหายทะลุประตูห้องเข้าไป “เฮ้ย !!!” เขาอุทานด้วยความตกใจถึงกับยืนตัวเกร็งแข็งทื่อไปพักหนึง ก่อนจะถอยหลังล่นไปนั่งบนโซฟา เขายังตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เห็นอันน่าสะพรึงกลัว
“ ผี วิญญาณ โอ้ย อะไรกันว่ะ“
ภาพนั้นยังติดตาเขาอยู่ มันเป็นภาพที่เห็นและชวนขนลุก เขานั่งอยู่ตรงนั้นเกือบชั่วโมงพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่และลุกก้าวเดินไปหยิบโน้ตบุคขึ้นมา คลิ๊กเข้าไปที่กูเกิลค้นหาสิ่งที่เขาสงสัย มันเป็นสัญชาตญาณของผู้อยากรู้อยากเห็น จากวันนั้นจนถึงทุกวันนี้
หลังจากที่เจตน์ฟังข้อความที่กวินฝากไว้ จึงรีบตรงไปหากวินที่ลานจอดรถชั้นหกทันที
"นี่แกมัวไปอยู่ไหนมา"
"ก็แกบอกหลังเลิกเรียน"
"ฉันหมายถึงหลังเลิกเรียนทันที นี่มันค่ำแล้ว เข้าใจไหม"
"ไม่อะ ไม่เข้าใจ เดี๋ยวขอเปิดพจนานุกรมศึกษาก่อนละกัน"
"เจริญละ"
เจตน์และกวินยังพูดแขวะกันไปมาตามประสาเพื่อนที่สนิทกัน กวินเดินตรงไปเคาะประตูห้องเก็บของในชั้นจอดรถที่ไฟภายในถูกเปิดทิ้งไว้อยู่ ‘ ป๊อก ๆๆๆ’
"หวัดดีคร๊าบ มีใครอยู่ไหม ...... อืม ไม่มี"
กวินตะโกนเรียกดูอีกครั้ง ก็ไม่มีใครมาเปิดประตู มันเป็นโอกาสดีเพราะเขาไม่ต้องการให้ใครรู้หรือเห็น ในสิ่งที่เขากำลังทำ
กวินเอื้อมมือคว้าแขวนเพื่อนที่ยืนอยู่ด้านหน้าห้องเก็บของลากหลบไปอีกด้านของห้อง ที่ตรงนี้เป็นมุมมืดไม่มีแสงไฟสาดส่องเข้าไปถึง
“เดี๋ยวเราแอบซุ่มกันตรงนี้แหละ ฝั่งตรงข้ามจะเป็นที่จอดรถประจำของพี่นัท”
"นี่มันบ้าชัดๆ เลยว่ะ"
เจตน์สบถขึ้นมาเมื่อเห็นพฤติกรรมความประหลาดของกวิน
"ฉันไม่อยากเป็นคนบอกแกหรอกนะ แต่ผู้ชายตรงข้ามห้องฉัน เขาไม่ใช่คนอ่ะเพื่อน เขาเป็นแวมไพร์"
"คนห้องตรงข้ามแกเหรอ"
"ใช่"
"ห้องติดกับฉันเนี๊ยะนะ"
"ใช่"
"พี่นัทเหรอ เพิ่งเจอเมื่อเช้านี่"
"นั่นแหละ พี่นัท"
"อืมม ฉันว่ามันเป็นชื่อแวมไพร์ ที่เห่ยโคตรๆ เลย นัทเนี๊ยะนะ"
"ใช่ ฉันไม่ได้เป็นคนตั้งชื่อ แค่บอกข้อมูลความจริง "
เจตน์ยังอดไม่ได้ที่จะพูดแขวะกวินอีกครั้ง ด้วยความสงสัยอันพิสดารพันลึกของเขา กวินยังเดินเข้ามาดุ้มๆ มองๆ มือหนึงกำไม้ลิ้มแหลม อีกมือหนึงถือกระเทียมเอาไว้
"เพื่อน..... เฮ้ออออ...."
เจตน์ถอนหายใจเบาๆ เดินตามกวินไปด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายกับสิ่งที่เขาทำและท่าทีพิกล กวินเดินเข้าไปในมุมมืดสลัว มีแค่แสงไฟด้านนอกเท่านั้นที่สาดส่องทางด้านหน้า เขาก้าวเท้าย่ำเดินผ่านประตูห้องเก็บของไปอีกด้าน มีเงาตระคุ่มๆ ยืนจังก้าทางด้านซ้ายของกวิน
"เฮอะ !!! เอ้ย อ้ากกกก"
กวินเอาทั้งลิ่มแหลมทิ่มแทงเข้าไป และกระเทียมฟาดเข้าไปที่เงานั่นอย่างสุดกำลัง
"เอ้ย เอ้อ เฮ้อ ฮึ เฮอะ" เสียกงวินหอบรัวดังไปทั่ว
"บ้าเอ้ย ถ้าใครรู้เสียตายเลย แค่ป้ายกระดาษ"
"เออ เก่งว่ะ เฮ้อะ !! ไม่เห็นมีใครซะหน่อย"
กวินทำหน้าเจื่อนกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่นี้ เจตน์มองหน้าเพื่อนส่ายหัวไปมาอย่างน่ารำคาญ
"ไม่ใช่แค่สงสัยแค่นี้เท่านั้น ฟังนะ ฉันเฝ้าติดตามเวลาไป เวลาเข้าของเขาตลอด แล้วอีกอย่างที่ฉันไปค้นข่าวในยูทูบเมื่อหลายปีก่อน เรื่องอุบัติเหตุรถทัวร์คว่ำที่จังหวัดกาญจนบุรี และมีผู้ชายสองคนหายไป"
กวินค่อยๆ เดินย่องเข้าไปสังเกตการณ์ตรงด้านหน้า เพื่อมองลอดไปว่ามีรถยนต์ขับเคลื่อนขึ้นมาหรือยัง เขาค่อยๆ ย่อง โก้งโค้งตัวงอเดินมองสอดสายตาไปมา
"ทำไมแกต้องเดินอย่างนั้นด้วยละ..... เฮ้อออออ"
เจตน์ถอนหายใจยาวด้วยท่าทีพิลึกกึกกือของเพื่อนขณะนั้น
"เอาละฟังนะ ฉันทำแผนภูมิการหายตัวไปของสองคนนั่น"
กวินเอื้อมมือล้วงเข้าไปที่กระเป๋ากางเกงด้านหลัง หยิบกระดาษคลี่กางออกมาส่งให้เจตน์ดู
"มันเป็นเรื่องปรกติ เขาอาจมีคนมาช่วยไปก็ได้"
"แล้วแกไม่สังเกตหรือไง ข่าวสองคนนั่นหายเงียบไปเลย"
"โธ่เอ้ย ป่านนี้เขาคงไปอยู่ที่ไหนแล้วก็ได้"
"ก็นั่นไง มันเข้าทางเขาเป๊ะๆ ไม่มีใครสงสัย หรือติดตามข่าว"
เจตน์ปรายตามองไปที่กวินอีกครั้ง เบะมุมปากเล็กน้อย
"อะไร .....พี่นัทเเนี๊ยะนะเป็นเแด็กคูล่า"
"เปล่า แด็กคูล่าก็คือหนึ่งในแวมไพร์ ฉันกำลังจะบอกแกว่า.."
"พอแล้ว ๆ ฉันเข้าใจที่แกบอกหรอก ฉันแค่แซวเล่น โอเค้..... ใช่ แบบว่า แค่กัดแก"
"ประเสริฐเลยเพื่อน"
ทั้งสองคนยังแขวะกันไปมาไม่เลิก เจตน์เบื่อช่วงเวลาที่แสนอึดอัดนี่เต็มทน
"ฉันว่าแกอ่านทไวไลท์มากไปแล้วอ่ะ"
"นั่นมันนิยาย โอเค้ แกต้องไม่ลืมนะนิยายมักจะแต่งมาจากเรื่องจริง และนี่มันก็ของจริง ปีศาจตัวจริง ไม่ใช่พวกผีซึมเศร้า ครั่งรักหรือเป็นผู้ดี แต่นี่มันเหมือนสิงโต ไล่ฆ่า ไล่เขมือบ ไม่มีหยุด จนกว่าเหยื่อแถวนั้นจะตายกันหมด......อ่อ แล้วนี่ฉันฉุนจริงๆ นะ ที่แกคิดว่าฉันอ่านทไวไลท์"
เจตน์ทำหน้างุนงงกับอาการและอารมณ์ประหลาดๆ ของเขา กวินทำให้เขาถึงกับเหว๋อกิน
"ไอ้วิน...ไม่เอาน่า"
แต่กวินยังไม่หยุดพฤติกรรมอาการแปลกๆ
"ยังไม่ได้เชิญมันเข้าห้องใช่ไหม มันเข้าบ้านหรือห้องใครไม่ได้ถ้าเจ้าของไม่เชิญ แกก็รู้นิ"
"ฉันว่าแกมืนยาแล้วละ"
"ไม่ใช่เลย เอ้อ... ใช่ฉันกินยาอยู่ แต่ขอให้เชื่อเถอะ ฉันมีข้อมูลหลักฐานทั้งหมดอยู่ที่ห้อง"
"ก็ได้ เฮอะๆ "
เจตน์ส่ายหัวไปมากับพฤติกรรมของเพื่อนที่เป็นเอามากๆ
"เอาละฟังนะ เราจะเข้าไปตอกอกมันในรถ ฉันกับแก แต่ตอนนี้มันมืดเกินไปแล้ว ต้องเป็นเวลากลางวันในเวปบอกอย่างนั้น"
"ในอินเตอร์เน็ตเนี๊ยะนะ"
"ใช่"
"ให้ตายเถอะ"
"ใช่นั่นแหละ ในเวปหลายๆ เวปบอกไว้ ฉันศึกษามาหมดแล้ว คนเขียนเขาคือปรมาจารย์ด้านศาสตร์มืด แตกฉานเรื่องตำนานแวมไพร์ ในเวปที่บอกนี่แหละตัวจริง เสียงจริง"
เจตน์ถึงกับอึ้งจนทำหน้าไม่ถูก " ว้าว " เจตน์เปรยออกมาด้วยน้ำเสียงประชดเพื่อที่จะจบบทสนทนา กวินมองหน้าเพื่อนก่อนจะพูดล้อตาม
"ว้าว.......ขอสักนาทีหนึงได้ไหม ช่วยแกล้งทำตัวเป็น..แบบว่า แกไม่ใช่พวกไม่มีสมองได้ไหม"
"นั่นมันเรื่องที่เราสนุกกันตอนที่อยู่มัธยม"
"อยู่มหาลัย แล้วจะยังไง"
"จะยังไงก็ช่าง ประเด็นคือฉันโตแล้ว แกไม่อยากโตก็ตามสบาย แบบนั้นไม่เอาแล้ว ฉันขอมีชีวิตจริงๆ บ้างกว่าเรื่องเพ้อฝัน"
"เข้าใจแล้ว แกมันเจ๋งขั้นเทพไปแล้ว เชิญไปเข้าแก๊งค์เด็กป๊อป รอแป็กได้เลย"
"เงียบไปเลย"
เจตน์พลักอกกวินกระเด็นไปอีกทาง กวินหันมองหน้าเจตน์อย่างผิดหวัง
"เราเคยซี้ย่ำปึกกันนะ"
"จริง แต่รู้ไหม ชีวิตฉันดีขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ตั้งแต่วันที่ฉันเลิกสุงสิงกับแก และที่สำคัญฉันรู้นะว่า แกเป็น...."
“เป็นอะไรพูดมาเลย”
“แก......เป็นเกย์ และสิ่งที่แกกำลังทำก็เพื่อเรียกร้องความสนใจ ฉันไม่รู้นะว่าแกคิดยังไงกับฉัน แต่ฉันไม่เอาด้วยนะ ฉันไม่ได้เป็นเกย์แบบแก โอเค ความเป็นเพื่อนเรายังมีอยู่ แต่มันคงจะไม่เหมือนเดิมแต่ก่อน”
เจตน์เอี้ยวตัวหันหลังกลับก้าวเท้าเดินจากไป ปล่อยให้กวินนั่งจ๋องอยู่ที่นั่นเพียงลำพังคนเดียว
.............................. * ...............................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ