Vampire Bangkok แวมไพร์ แบงค็อก

8.3

เขียนโดย justin

วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 13.33 น.

  23 ตอน
  1 วิจารณ์
  29.02K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556 13.32 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

17) อัลวาเรซ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

การต่อสู้ระหว่างแวมไพร์หนุ่มกับแวมไพร์ผู้คุมกฎยังดำเนินต่อไป จนร่างของทั้งคู่กระเด็นออกจากกันไปคนละทิศ แวมไพร์หนุ่มแทรกตัวเคลื่อนลอยออกมาจากพงป่าหลังจากถูกพลักลอยลิ่วไปไกล ผู้คุมกฎล้มลง และเอนตัวขึ้นตั้งตรงเงยหน้าขึ้นดูฝ่ายตรงข้าม

“ฝีไม้ลายมือไม่เลวเลยนี่”

“ขอบคุณ ครูของผมสอนมาดี”

ชายหนุ่มแวมไพร์แสยะยิ้มมุมปาก สายตาเขายังไม่ละไปจากผู้เป็นอริที่ยืนตระหง่านอยู่ด้านหน้า

“งั้น ข้าคงต้องให้เจ้าได้ลิ้มลองชิมนี่ดู”

ผู้คุมกฎสอดมือเข้าไปด้านในเสื้อโค๊ท หยิบอาวุธแหลมทำด้วยเงินกลับปกสีแดงเข้มออกมา สายตาของแวมไพร์หนุ่มจับจ้องไปที่อาวุธนั่น แต่เขาก็ไม่ได้แสดงอาการยี่หระ เขาเก้าเท้าย่ำเข้ามาอย่างช้าๆ ก่อนจะทะยานตัวโผเข้าใส่บุรุษแปลกหน้าผู้นั้น

มือของเขาที่กระกอบไปด้วยเล็บที่ยื่นยาวออกมาตะปบข่วนไปที่ใบหน้าของผู้คุมกฎ เป็นแผลเหวอะ แต่ในพริบตามันก็จางหายไป ในขณะที่อาวุธเงินแหลมคมถูกกรีดถากยาวไปที่หน้าอกของแวมไพร์หนุ่ม

..ซู่ซซซ... แผลนั่นปรากฏเป็นรอยไหม้ฉกรรจ์

“เอ้อะ อ้า”

เสียงของความเจ็บปวดเล็ดรอดออกมาจากปากแวมไพร์หนุ่ม เขาทรุดตัวคุกเข่าลงข้างหนึง มือขวากำที่แผลนั่น

“เป็นยังไงละ คงรู้รสชาติของมันแล้วสินะ”

ผู้คุมกฎเอ่ยด้วยน้ำเสียงสาแก่ใจ ยกอาวุธที่กำไว้สำหรับกำจัดแวมไพร์ชี้ตรงไปที่ร่างนั่น

“ข้าไม่กลัวเจ้าหรอก”

แวมไพร์หนุ่มแผดเสียงใส่ผู้ที่ยื่นอยู่ตรงหน้าด้วยน้ำเสียงโกรธเกรี้ยว

“ดี ถ้างั้นก็เตรียมตัวเป็นผุยผงไปซะ”

สิ้นเสียงของผู้คุมกฎ คู่ต่อสู้ทั้งคู่กระโจนโผใส่กันอีกเป็นคำรบสาม แวมไพร์หนุ่มที่ยังบาดเจ็บ แผลยังไม่หายกลับคืนพลาดท่า มือของผู้คุมกฎคว้าบีบที่ต้นคอ ผลักร่างของแวมไพร์หนุ่มฟุบลงไปกับพื้น

บุรุษในชุดเสื้อโค้ทกระโดดตัวลอยใส่ยืนค่อมร่างนั้นไว้ เขาจ้องไปที่ดวงตาคู่นั้น ตอนนี้ดวงตาของแวมไพร์หนุ่มดูอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด

“ฮึๆ กฎมันก็ต้องเป็นกฎ”

มือที่กำอาวุธเงินแหลมคมของผู้คุมกฎเงื้อขึ้นสุดแขน เล็งเป้าหมายไปที่หัวใจของแวมไพร์หนุ่ม ก่อนที่อาวุธเงินแหลมคมของ ผู้คุมกฎจะทะลวงทิ่มแทงไปที่หัวใจนั่น

ก็ปรากฏมีมืออันทรงพลังสะบัดใส่อย่างแรงมหาศาล ทำให้ร่างผู้คุมกฎกระเด็นลอยไกลเข้าไปในพงป่า ....แอร๊กกกก.....

อาร์ทปรากฏกายยืนจังก้ามองไปทางพงป่าที่ถูกแรงครูดไปเป็นทาง เขาละตาจากที่นั่นหันหน้ามาหานัทขณะที่ร่างกึ่งนั่งกึ่งนอน

“อาร์ท เอ้อะ เอ้อ”

อาร์ทก้มลงประคองร่างของนัทขึ้นมา เขากัดไปที่ข้อมือให้เลือดไหลซึมออกมา ก่อนจะเลื่อนแขนให้เลือดไหลลงหยดไปที่บาดแผลจากคมอาวุธเงินแหลมนั้น

“อยู่เฉยๆ ก่อนนัท”

เลือดของอาร์ทไหลหยดลงไปที่บาดแผลแวบเดียวบาดแผลนั่นก็สมานติดกันจางหายไปทันที ขณะที่อาร์ทกำลังสาระวนอยู่ ผู้คุมกฎก็เคลื่อนตัวลอยมาด้านหลังโดยที่อาร์ทไม่ทันสังเกต

“อาร์ท ระวังข้างหลัง !!!”

สิ้นเสียงตะโกนเตือนของนัท ผู้คุมกฎเงื้อมือหมายเอาอาวุธเงินแหลมทิ่มแทงไปที่ร่างของอาร์ท แต่อาร์ทเร็วกว่าประคองร่างของนัทหายตัวมาอยู่อีกด้านหนึง ผู้คุมกฎบิดตัวหันหลังกลับมายืนเผชิญหน้ากับแวมไพร์ทั้งสอง ตอนนี้นัทหายเป็นปรกติทั้งสองตนก็หันหน้ามาประจันกับคู่ต่อสู้อีกครา

ก่อนทั้งสามจะบรรเลงเพลงศึกอีกครั้ง ผู้คุมกฎผุดตะโกนเสียงออกมา

“อาทิต !!!”

อาร์ทมองไปที่เสียงนั้น เหมือนความทรงจำบางอย่างจะหวนกลับมา

“อัลวาเรซ ??”

อัลวาเรซ ผู้คุมกฎแวมไพร์เชื้อสายสเปน รู้จักกับอาร์ทตั้งแต่สมัยเกิดเรื่องที่เชียงตุง ในครั้งนั้นอาร์ทได้เปลี่ยนเจ้านางฟ้อนแก้วโดยไม่ได้ขออนุญาตกับองค์กรผู้คุมกฎเช่นกัน ถึงแม้อาร์ทจะเป็นผู้ลงมือปลิดชีพเจ้านางด้วยตนเอง แต่ก็ไม่อาจพ้นผิดธรรมนูญขององค์กรไปได้ จึงต้องจับตัวไปเพื่อลงโทษ แต่เรื่องกลับพลิกผัน จากผู้ล่ากับผู้ถูกล่ากลายมาเป็นมิตรสหายกัน เรื่องราววันเก่าๆ จึงหวนกลับมาอีกครั้ง

“นี่เป็นฝีมือเจ้าอีกแล้วเหรอ”

“ข้าขออภัยที่ยังไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ให้กับท่านและองค์กร”

“นี่เจ้า........อาทิต มันไม่มีข้อยกเว้นนะ”

“ข้ารู้ดี อัลวาเรซ แต่ข้ามีเหตุผลของข้า”

“เหตุผลอะไรของเจ้าอีกละ”

“มากับข้าเถอะ แล้วข้าจะบอกเรื่องราวทุกอย่างแก่ท่านเอง”

“เจ้าจะให้ข้าไปที่ไหน”

“ที่บ้านของข้า”

อาร์ทเบือนหน้าไปมองที่นัทพยักหน้าให้เหมือนบอกให้อุ่นใจ เรื่องที่เกิดขึ้นจะไม่เลวร้ายอย่างแน่นอน นัทก้มหัวโค้งคำนับแวมไพร์ทั้งคู่ ก่อนทั้งสองนั้นจะเคลื่อนตัวหายไป

...คลื่ดดดดด คลื่ดดดดด ......

เสียงโทรศัพท์มือถือที่เปิดระบบสั่นไว้ดังขึ้น นัทล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าหยิบมันออกมา เสียงเรียกเข้าปลายสายจากแอนเพื่อนที่มาทำข่าวด้วยกัน

“ฮัลโล ครับ”

“นัทเหรอค่ะ”

“ครับ แอน”

“นัท อยู่ไหนเนี๊ยะ พวกเราตามหากันจนทั่วแล้วไม่เจอตัวเลย กล้องถ่ายรูปก็ถูกทิ้งไว้ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า”

“เปล่าแอน ไม่มีอะไร พอดีผมวางกล้องไว้แล้วเดินเข้ามาในป่าหลังบ้าน แต่เดินเพลินไปหน่อยก็เลยหลง”

“อ้าว ตายแล้ว แล้วตอนนี้นัทอยู่ตรงไหนละ จะได้ให้คนเข้าไปช่วย”

“ไม่เป็นไร ผมออกไปเองได้”

สิ้นเสียงพูด นัทก็ปรากฏตัวเดินออกมาจากทางหลังบ้าน แอนมองดูตลึงไปนิดหน่อย พลางคิดว่าทำไมออกมาได้เร็วจัง แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไร

“ไม่มีอะไรแล้วครับ”

“โอ้โหนัท นี่แกเดินหายไปยังไงอ่ะ มันน่า...”

นนท์พูดด้วยน้ำเสียงยียวนพร้อมเดินไปตบหัวนัทเบาๆ

“ดีแล้วค่ะ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว เป็นห่วงกันแทบแย่ คิดว่าถ้าโทรไปแล้วไม่รับสาย ก็จะขอแรงเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยออกตามหาแล้ว”

“อ่ะ ฮ่าๆ ขอโทษจริงๆ “

“อ้าวแล้วนี่เสื้อแกไปโดนไรมาว่ะนัท ขาดเป็นแถบยาวเชียว ดูซิแอน”

นนท์พูดพร้อมชี้ไม้ชี้มือให้แอนดู

“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก โดนกิ่งไม้มันเกี่ยวเอานะ เราไม่ทันระวัง”

“จริงๆ เลยนะแกนี่”

“เอาละ ๆ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็กลับโรงแรมในเมืองกันเถอะ แล้วพรุ่งนี้ค่อยตามเรื่องคดีกับทางเจ้าหน้าที่กันต่อ”

“โอเค ครับ”

นัทพูดพร้อมกับยักคิ้วให้ทั้งสองคน เพื่อให้คลายกังวลว่าไม่ได้มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้น

จากนั้นทั้งสามคนก็เก็บข้าวของใส่หลังรถยนต์ ก่อนขับเข้าไปพักที่โรงแรมในตัวเมืองจังหวัดนครราชสีมา

................................ * ...................................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา