รวมผลงานชุด วิวาห์ชำระแค้น
เขียนโดย ploythara
วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 12.03 น.
แก้ไขเมื่อ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556 19.16 น. โดย เจ้าของนิยาย
8) บทที่ 7
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ7
มหานรกขุมที่สาม ยามอิ๋น วันต่อมา
นายนิรบาลปลุกร่างสูงที่นอนหลับอย่างสุขสบายให้ตื่นขึ้น เตรียมตัวไปปฏิบัติภารกิจต่อในมหานรกขุมที่สี่
“จินอ๋องท่านตื่นได้แล้ว ข้าจะพาไปมหานรกขุมที่สี่” นายนิรยบาลกล่าว
“อืม อีกสักครู่” เสียงงัวเงียของร่างสูงตอบกลับไป
“นี่ยามอิ๋นแล้วนะ เป็นเวลาเริ่มงานในมหานรกขุมที่สี่หากไปช้าท่านจะถูกลงทัณฑ์ได้นะจินอ๋อง” นายนิรยบาลกล่าว
ฮ้าว! ร่างสูงลุกขึ้นจากเตียงอันแสนสุขแล้วบิดขี้เกียจ จากนั้นเจ้าของร่างก็เดินไปล้างหน้าเพื่อไล่ความงัวเงียแล้วทั้งคู่ก็ออกเดินทางไปมหานรกขุมที่สี่ ชั่วอึดใจต่อมาพวกเขาก็มายืนอยู่หน้าที่พักของนายนิรยบาลของมหานรกขุมที่สี่
“ท่านสี่ข้าพาจินอ๋องมาช่วยท่านดูแลดวงวิญญาณแล้ว ท่านออกมารับเขาด้วย” นายนิรยบาลของมหานรกขุมที่สามกล่าวด้วยเสียงดัง
“ท่านสาม จินอ๋องยินดีต้อนรับสู่มหานรกขุมที่สี่” นายนิรยบาลของมหานรกขุมที่สี่กล่าว
จากนั้นนายนิรยบาลของนรกขุมที่สี่ก็พาจินอ๋องไปปฏิบัติภารกิจต่อโดยที่มีตนคอยช่วยในบางครั้งที่จำเป็น หนึ่งเดือนกับยี่สิบสามวันผ่านไปเขาสามารถช่วยเหลือดวงวิญญาณได้อีกยี่สิบดวงจากมหานรกขุมที่สี่ ห้า แลมหานรกขุมที่หก เขาพลาดพลั้งตกลงไปในขุมนรกจนเกือบสูญเสียดวงวิญญาณของตนไปหลายครา แต่นายนิรบาลก็ช่วย
เขาขึ้นมาได้เสมอ เหลือเวลาเพียงแปดวันนรกเท่านั้นก็จะครบกำหนดวันที่เขาตกลงไว้กับเทพพญายมแล้ว ในเจ็ดวันที่เหลือนี้เขาต้องช่วยดวงวิญญาณอีกสิบดวงจากมหานรกอีกสองขุมที่เหลือ คีนนี้เขาพักอยู่กับนายนิรยบาลของมหานรกขุมที่หก เสียงเพรียกหาชายผู้เป็นที่รักลอยมาตามสายลมอีกครา
“ท่านอ๋อง ท่านอ๋อง ท่านยังอยู่ดีหรือไม่ ข้าเป็นห่วงท่านยิ่งนัก คิดถึงท่านยิ่งนัก ท่านกำลังจะมาถึงยังสถานที่ที่ข้าอยู่แล้วใช่หรือไม่”
“เสวียเสวี่ยข้ายังสบายดีอยู่ เจ้ามิต้องเป็นห่วงข้าดูแลตนเองให้ดีเถิดรอข้าอยู่ที่นั่นกับท่านยายเมิ่งที่นั่นดีดีล่ะ ข้าเป็นห่วงแลคะนึงหาเจ้ายิ่งนักชายารองของข้า อีกไม่นานเราก็จะได้พบกันแล้วรอข้านะ….รอข้า” ได้ยินตนตอบกลับเสียงนั้นอีกคราในใจเขาลิงโลดยิ่งนักในที่สุดก็จะได้พบนางแล้ว
เช้าวันรุ่งขึ้นนายนิรยบาลของมหานรกขุมที่หกก็พาเขาเดินทางไปมหานรกขุมที่เจ็ดซึ่งมีชื่อว่า มหาตาปนมหานรก อันมีความหมายว่า นรกที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนเหลือประมาณ ห่างไกลจากตาปนมหานรกไปในภายใต้ประมาณได้ ๑๕,๐๐๐ โยชน์แต่ใช้เวลาเดินเพียงไม่กี่อึดใจ มหานรกขุมนี้มีกำแพงกั้นทั้งสี่ด้านแลล้อมรอบด้วยภูเขาเหล็ก
ตั้งอยู่ตามขุมย่อยเต็มไปหมด ความร้อนมหาศาลจากทุกทิศทางรวมกันอยู่กลางขุมนรก ดวงวิญญาณในมหานรกขุมนี้ต่างก็ทุกข์ทรมานแสนสาหัสจากกรรมที่ตนเคยทำเมื่อยังอยู่ในมนุษยโลก นายนิรยบาลบอกเขาว่า
“ท่านจงระวังดวงวิญญาณในมหานรกของข้าไว้เพราะพวกเขาจะทำให้ท่านได้รับความทุกข์ทรมานไปด้วย อย่าเชื่อวาจาผู้ใดที่มิใช่ข้าหรือดวงวิญญาณที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง”
“ได้” เขาตอบรับ
เขามามหานรกขุมที่เจ็ดนี้ได้ค่อนวันแล้วเห็นความวุ่นวายมากมายแต่ไม่มีดวงวิญญาณดวงใดมาขอความช่วยเหลือจากเขาเลย เหล่าดวงวิญญาณต่างสาละวนอยู่กับการถูกทรมาณซ้ำแล้วซ้ำเล่าเขาดูเหตุการณ์ตั้งแต่เกิดจนดับ ดับแล้วเกิด แล เกิดจนดับอีกนับร้อยคราของดวงวิญญาณอย่างขนพองสยองเกล้า ครู่ใหญ่ต่อมาเสียงแหบแห้งเสียงหนึ่งดังขึ้น
“ท่านผู้มีกายทิพย์โปรดช่วยข้าให้รอดจากมหาตาปนมหานรกด้วยเถิด ข้าทุกข์ทรมานยิ่งนัก”
“ท่านชื่อเรียงเสียงใดหรือ ทำความผิดอันใดมา” เขาถาม
“เมื่อคราเป็นมนุษย์ข้าชื่อหงตงเลี่ยง เป็นบุรุษมักมากในกามแลจิตใจโหดเหี้ยมประหารคนไม่เลือกหน้า” ดวงวิญญาณหนุ่มตอบ
“ข้าต้องทำเช่นไรบ้าง” เขาถาม
“ท่านเพียงให้ข้าได้ดื่มน้ำบริสุทธิ์สักแก้วก็สามารถปลดปล่อยข้าได้แล้ว” ดวงวิญญาณหนุ่มตอบ
จากนั้นเขาก็ปลดปล่อยดวงวิญญาณของหงตงเลี่ยงได้สำเร็จ เหล่าดวงวิญญาณเมื่อเห็นดวงวิญญาณด้วยกันแตกดับไปอันเป็นการบอกว่าวิญญาณดวงนั้นหมดกรรมแล้วก็มีจิตริษยาแก่งแย่งกันขอความช่วยเหลือจากจินอ๋องผู้มีกายทิพย์ทำให้นายนิรยบาลต้องเข้าขัดขวางเป็นการใหญ่จนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาอีกสามวันนรก ในสามวันนี้เขาสามารถปลดปล่อยดวงวิญญาณได้แปดดวง คืนนี้เขานั่งชมจันทร์สีเลือดอยู่บนพื้นหญ้าหน้าที่พักนายนิรยบาลแห่งนรกขุมที่เจ็ด
แม้ดวงจันทร์สีเลือดจะงามเทียม “นาง” มิได้แต่ก็สามารถคลายความวังเวงของเขาลงได้บ้าง เขาจึงท่องบทกวีหนึ่งบท
“ยามประสบพบยากจากแสนยาก
ลมโปรยโชยอ่อนบุปผาโรย
ตัวไหมสิ้นใจจึ่งสิ้นสุดสายใย
เปลวเทียนดับมอดน้ำตาจึ่งแห้งเหือด
โฉมนางงามระทมกาลแปรผัน
ครวญคร่ำยามดึกจันทร์ริบหรี่
จากนี้คิดไปไร้ซึ่งหนทาง
วอนวิหคส่งข่าวแทนข้าที ”
บทกวี 无题唐 ของ 李商隐
“บทกวีที่ท่านท่องช่างไพเราะนัก” นายนิรยบาลของมหานรกขุมที่เจ็ดกล่าว
“ขอบคุณที่ชมข้า” เขากล่าว
เมื่อชมจันทร์ท่องกวีได้สักครู่พวกเขาทั้งสองก็แยกย้ายกันเข้านอน แม้ภายในมหานรกขุมที่เจ็ดจะร้อนเพียงใดแต่บรรยากาศรอบๆที่พักของนายนิรยบาลหาได้ร้อนอย่างในมหานรกไม่กลับเย็นสบายเพราะอยู่ริมธารโลหิตนั่นเอง
วันต่อมา
เขาสามารถช่วยเหลือดวงวิญญาณได้อีกสามดวง นายนิรยบาลตะลึงในความมานะพยายามของเขามาก เขาตนต่อความเร่าร้อนของไฟในมหานรกขุมนี้โดยมิปริปากบ่นนี่เป็นสิ่งอัศจรรย์สำหรับนายนิรยบาลเพราะแม้แต่ตนยังมิสามารถทนความเร่าร้อนของมหานรกได้เช่นเขา จากเดิมที่ไม่มีดวงวิญญาณดวงใดให้ความสนใจเขาบัดนี้ดวงวิญญาณในมหาตาปมหานรกต่างก็ต้องการให้เขาช่วยเหลือซึ่งเขาก็ช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ รวมดวงวิญญาณที่เขาช่วยจากมหานรกขุมนี้ทั้งหมดได้เก้าดวงเวลาของเขาในมหานรกขุมนี้ก็หมดลง ต้องเดินทางไปยังอเวจีมหานรกต่อทันที
อเวจีมหานรก
อเวจีมหานรกห่างจากมหาตปนมหานรกลงไปทางใต้ประมาณ ๑๕,๐๐๐ โยชน์ ความทุกข์ที่ทรมานที่ดวงวิญญาณได้รับเป็นความทุกข์ทรมานที่เสมอราบเรียบหนักหนาอยู่อย่างนั้นตลอดกาลนาน จนกระทั่งสิ้นเวลา ๑ กัลป์ ไม่มีการผ่อนปรนเป็นความเบาบาง
เป็นบางครั้งบางคราวเหมือนมหานรกขุมอื่น เพราะเหตุที่นรกขุมนี้มีเปลวไฟนรกและความทุกข์หนักปรากฏอยู่เสมอ ไม่มีขณะที่ว่าง หรือขณะที่ผ่อนปรนให้เป็นความแม้แต่นิดเดียวจึงได้นามเช่นนี้ นายนิรยบาลของอเวจีมหานรกนั้นดุดันยิ่งกว่านายนิรยบาลตนอื่นเนื่องจากดวงวิญญาณในนรกขุมนี้ดุร้ายป่าเถื่อนที่สุดในมหานรกแลนรกทั้งปวง ดวงวิญญาณดวงสุดท้ายที่เขาต้องช่วยคือดวงวิญญาณของหวงเยว่อิงซึ่งเคยก่ออันนตริยกรรมขั้นร้ายแรงที่สุดมาสามคราเมื่อยังเป็นมนุษย์ หวงเยว่อิงผู้นี้เดิมเป็นผู้มีบุญมากในกาลก่อนแต่เพราะเป็นคนหูเบาเชื่อคำคนอื่นมากกว่าคนในครอบครัวจึงลงมือฆ่าบิดามารดาผู้ให้กำเนิด ต่อจากนั้นมีครานึ่งที่เขาไปค้างแรมในวัดแล้วเกิดมีปากเสียงกับหลวงจีนรูปหนึ่ง เขารู้สึกไม่พอใจหลวงจีนรูปนั้นมากจึงลงมือฆ่าในคืนวันต่อมา ในตอนแรกเขาคิดว่าตนคงปฏิบัติภารกิจนี้ไม่สำเร็จเสียแล้วแต่ผิดคาดเพราะหวงเยว่อิงมารอขอความช่วยเหลือจากเขานานแล้วแลให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีที่สุดแล้วเขาจึงผ่านพ้นภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากเทพพญายมก่อนกำหนดสองวัน
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ