ครูตัวร้ายกับนายนักเรียนตัวแสบ[YAOI]

10.0

เขียนโดย MinAh

วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.19 น.

  2 ตอน
  5 วิจารณ์
  8,949 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556 00.25 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ระเบียบข้อที่ 2 : ครูถามก็ต้องตอบ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ระเบียบข้อที่ 2: ครูถามก็ต้องตอบ

 

 

อาชีพครูเป็นอาชีพที่ผมใฝ่ฝันมาตลอด ครอบครัวของผมส่วนใหญ่ทำอาชีพครู ยกเว้นก็แต่พี่ชายของผมที่รักอิสระมาก จึงเลือกที่จะทำงานเป็นช่างภาพอิสระ

 

ตอนที่ผมยังเรียนอยู่ ผมไม่เคยคิดเลยว่าครูจะเหนื่อยมากแค่ไหน เวลาที่ต้องรับมือกับนักเรียนทั้งห้อง หรือบางทีก็ทั้งสายชั้น ผมจำได้ว่าผมคึกคะนองมาก เคยแกล้งครูบ้าง ตามประสาวัยรุ่น โดยไม่คิดว่าครูจะรู้สึกอย่างไร แต่ตอนนี้...ผมรู้แล้ว

 

ภาพตรงหน้าของผมคือนักเรียนชั้นม.5/1 ที่ซนอย่างกับลิง วิ่งไปรอบห้องอย่างคนอยู่ไม่สุข มันคงจะไม่เป็นแบบนี้ ถ้าเธนส์อยู่ในห้องด้วย และเพราะเธนส์ต้องไปทำธุระให้กับครูคนอื่น ทำให้ไม่มีใครที่สามารถคุมเจ้าลิงพวกนี้อยู่

 

เอาล่ะ ผมให้เวลาห้าวินาที ถ้าผมนับถึงวินาทีที่ห้า แล้วพวกเขายังไม่เงียบ และนั่งที่ให้เรียบร้อยล่ะก็ ผมจะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด

 

หนึ่ง...

 

“เฮ้ย!!! ใครเอายางลบกูไป” เสียงใครบางคนตะโกนข้ามห้อง

 

สอง...

 

“ไอ้กาเซีย มึงได้เบอร์น้องนูนาแล้วเหรอวะ ไม่บอกกูบ้างเลย”

 

สาม...

 

“ทำไมกูต้องบอกมึงด้วยวะ ของดีต้องเก็บเงียบไว้ดิ” เสียงกาเซียตอบ

 

สี่...

 

“คอยดูนะ กูจะเอาน้องดาของมึงมาเป็นกิ๊กกูให้ได้เลย ไอ้กาเซีย”

 

ห้า...

 

“เอาไปเลย ก็แค่กิ๊กหมายเลข 21 ตอนนี้กูมีน้องนูนากิ๊กหมายเลข 25 แล้วว่ะ” กาเซียยักไหล่อย่างไม่แคร์

 

“ไอ้!!!”

 

“โว้ย!!! พอได้ยังเนี่ย!!!” ผมตะโกนขึ้นมาอย่างหมดความอดทน ห้องทั้งห้องเงียบกริบ “จะพูดจะคุยอะไรกันนักกันหนา นี่มันก็ได้เวลาเรียนแล้วช่วยกรุณาดูนาฬิกาด้วย แทนที่จะพร้อมเรียน ครูกลับต้องมานั่งฟังพวกเธอตะโกนโหวกเหวกกันไปมาเนี่ยนะ”

 

ผมกวาดสายตามองไปทั่วห้อง เห็นนักเรียนมองผมเหมือนเห็นผีอย่างไรอย่างนั้นแหละ ผมหยิบหนังสือ และอุปกรณ์ขึ้นมา

 

“เงียบได้แล้วสินะ ยังไงก็ช่วยกรุณาตั้งใจเรียนด้วย” ผมพูดนิ่งๆ รู้สึกแปลกใจที่นักเรียนเงียบได้ง่ายผิดปกติ “ครูขอแนะนำตัวก่อนนะ ครูชื่อว่า ฮาร์ท ที่แปลว่าหัวใจ”

 

กาเซียยกมือขึ้น “ผมชื่อ กาเซีย ครับ คุณครู”

 

“ใครถามนาย?” กาเซียต้องคิดอะไรแปลกๆแน่

 

“ผมบอกไว้ก่อน เผื่อครูจะได้ครางชื่อผมถูกไงล่ะครับ” กาเซียยิ้มกริ่ม เรียกเสียงโห่จากนักเรียนชายได้เป็นอย่างดี

 

มาแล้วหนึ่งดอก...

 

 “ไร้สาระสิ้นดี” ผมส่ายหัว แล้วเปิดหน้าหนังสือ ทำเป็นไม่สนใจคงจะดีต่อตัวเรามากกว่า “เปิดหนังสือหน้าที่ 53 เรื่องไฟฟ้ากระแส มีใครรู้บ้างว่าไฟฟ้ากระแสคืออะไร?” ประโยคท้ายผมเงยหน้าขึ้นมาถามนักเรียน

 

“...”

 

เงียบ...ไม่มีใครคิดจะตอบกันเลยสินะ ทีอย่างนี้เงียบได้เงียบดี

 

“ที่ไม่ตอบนี่คือไม่รู้ หรือไม่กล้าตอบ” ผมถาม

 

“...”

 

“เฮ้อ เอาเถอะ” ผมถอนหายใจ “ใครเลขที่ 15 ยกมือเดี๋ยวนี้”

 

“...”

 

“ในห้องนี้ไม่มีใครเลขที่ 15 เลยงั้นเหรอ? แน่ใจนะ?” ผมเปิดดูรายชื่อนักเรียน “นายกรวิชญ์อยู่ไหน?”

 

นักเรียนชายคนหนึ่งที่อยู่หลังห้องยกมือขึ้น “ผมเอง”

 

“ทำไมคุณไม่ยกมือ” ผมตีสีหน้าเรียบเฉย เวลานี้ผมเป็นครู และผมไม่คิดที่จะหลุดมาดครูให้นักเรียนเหยียบย่ำได้ง่ายๆแน่

 

“...” กรวิชญ์ไม่ตอบก้มหน้างุด มองแต่พื้นราวกับว่าจะมีอะไรงอกออกมาจากพื้นอย่างไรอย่างนั้น

 

“ผมถามทำไมไม่ตอบ”

 

“...”

 

“ให้ตายเถอะ โรงเรียนนี้เขาสอนนักเรียนกันแบบไหนเนี่ย” ผมกุมขมับ มองหน้านักเรียนอย่างหนักใจ “นายกรวิชญ์นั่งลงได้แล้ว”

 

เมื่อกรวิชญ์นั่งลงแล้ว ผมจึงพูดต่อ “ถ้าครูถามก็ต้องตอบนะ ถ้าไม่รู้ก็ตอบมาว่าไม่รู้ ถ้ารู้ก็บอกคำตอบมา เข้าใจไหม?”

 

“...”

 

“ถามว่าเข้าใจไหม?” ผมถามย้ำอีกครั้ง

 

“เข้าใจครับ/ค่ะ” นักเรียนทั้งห้องตอบอย่างพร้อมเพรียง ผมพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

 

“งั้นมาเรียนต่อเถอะ” ผมเปิดดูหน้าหนังสือที่ค้างไว้ “ค่า t คือเวลามีหน่วยเป็นวินาที...”

 

จู่ๆ กาเซียก็ยกมือขึ้น “ครูครับ!!!”

 

“อะไร? กาเซีย” ถ้าพูดอะไรกวนประสาทนายโดนแน่

 

“สำหรับผม t คือเวลามีหน่วยคือตลอดไปนะครับ!!!” ไม่ว่าเปล่ายังพูดเสียงหนักแน่น ตาเป็นประกายเชียว

 

มาอีกหนึ่งดอก ว่าแต่...ตลอดไป พ่องงง!!!

 

“งี่เง่าจริงๆ เรามาเรียนกันต่อ อย่าสนใจเรื่องไร้สาระเลย” ผมหันไปเขียนบนกระดาน “ค่า k เป็นค่าคงที่...” แล้วผมก็ต้องชะงักอีกเมื่อนักเรียนเจ้าเก่าพูดขัดอีก

 

“ครูฮาร์ทครับ!!!”

 

“ว่ามา” มีลางสังหรณ์ว่ามันจะต้องเป็นคำพูดที่ทำให้ผมจิตตกได้แน่

 

“ถึงแม้ว่าค่า k จะเป็นค่าคงที่ แต่ความรักของผมที่มีให้ครู มันไม่คงที่นะครับ เพราะมันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆตามกาลเวลา”

 

และแล้วก็มาอีกหนึ่งดอก นายอยากตายมากสินะ กาเซีย!!! ขอบอกเลยถ้าเทอมนี้ติดศูนย์ขึ้นมาอย่าหาว่าฉันใจร้ายแล้วกัน!!!

 

“ฮิ้วววว~” เสียงโห่จากเหล่านักเรียนดังรับเป็นลูกคู่

 

นักเรียนพวกนั้นอีก แทนที่จะห้ามเพื่อน ดันรับส่งกันเป็นลูกคู่อีก ให้ตายสิ!!! พอสักทีได้ไหม!!! มาสอนหนังสือไม่ได้มาให้จีบนะเฟ้ย!!!

 

 

 

 

 

ԡ♪บ้านทรายทองมีพจมาน มีชายกลางมีหญิงเล็กหญิงใหญ่ ชายน้อยก็เดินไม่ไหว ชายน้อยก็เดินไม่ไหว แต่ที่ใจร้ายนั่นคือหม่อมแม่ หม่อมแม่ หม่อมแม่ หม่อมแม่ แฮ่!!!♫

 

ผมเดินฮัมเพลงอย่างมีความสุข หลังจากหมดคาบสอนห้องของเจ้าเด็กกาเซียแล้ว ผมก็มีสอนต่ออีกแค่ 2 คาบเท่านั้นซึ่งเป็นตอนบ่ายทั้งหมด แล้วนี่ก็เที่ยงแล้วสินะ ได้เวลากินข้าวแล้วสิ!!!

 

โรงเรียนนี้ ครูต้องกินข้าวในโรงอาหารเหมือนนักเรียน ไม่ได้มีห้องแยก ครูคนไหนรีบๆก็มักจะใช้สิทธิ์ของการเป็นครูแซงคิวนักเรียนไป แต่ผมไม่อยากทำอย่างนั้นหรอกนะ ถึงแม้ว่าผมจะหิวมากแค่ไหนก็ตาม แต่ผมก็อยากที่จะต่อแถวเพื่อซื้ออาหารเหมือนกับนักเรียน เพราะการที่เราจะเป็นครูที่สอนนักเรียน และให้นักเรียนเคารพได้ เราก็ต้องทำตัวให้เป็นแบบอย่างที่ดีก่อน เป็นไงล่ะ ผมเท่ไหมล่ะ คิ คิ

 

ผมมองข้าวกระเพราไก่ไข่เจียวตรงหน้า แล้วสูดกลิ่นอย่างสดชื่น “กินล่ะนะ” แล้วผมก็ก้มหน้าก้มตากินอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง

 

“ขอนั่งด้วยนะครับ” เสียงใครบางคนดังขึ้น

 

เขาถามผมเหรอ? ไม่ใช่มั้ง อย่าใส่ใจดีกว่า กินๆๆๆๆๆ

 

“ผมพูดกับครูอยู่นะครับ”

 

“หืม?” ผมเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับ!!!

 

เทพบุตรสุดหล่อ เป็นนักเรียน หน้าตาดีแบบสุดๆ ผมสีน้ำตาลเข้ม ตาสีน้ำตาล ดวงหน้าคมเข้ม ผิวสีออกแทน ทำไมนักเรียนโรงเรียนนี้หน้าตาดีๆกันทั้งนั้นเนี่ย!!!

 

“พูดกับฉันเหรอ” ผมชี้ตัวเอง นักเรียนคนนั้นพยักหน้า “งั้นนั่งสิ” ผมอนุญาต แล้วก็กินข้าวต่อ มีความสุขจังเลยนะ ^^

 

“ครูคือครูฮาร์ท ที่มาเป็นครูสอนวิชาฟิสิกส์ใหม่ใช่ไหมครับ?” คนตรงหน้าถามผม ผมไม่ตอบแต่เลือกที่จะพยักหน้าแทน อย่ามาขัดความสุขของผมเวลากินสิ กินคือเรื่องใหญ่ เรื่องอื่นมันก็แค่เรื่องเล็กๆ

 

“ครูมักจะเมินคนอื่นเสมอเวลาที่ครูกินข้าวเหรอครับ?” คนตรงหน้ายังถามต่อไป

 

จะถามอะไรกันกันหนาวะ!!! คนจะกินข้าวไม่เห็นหรือไง!!! ไม่ตอบดีกว่า ชิ!!! มาขัดขวางเราเวลากินข้าว

 

“ดูน่าอร่อยดีนะครับ ผมกินด้วยได้ไหม?” ประโยคนี้เท่านั้นแหละ ผมเงยหน้ามองคนพูดทันที ส่งสายตาจิกกัดไปเล็กน้อย ทำเอาคนพูดส่ายหน้าเป็นพัลวัน “ผมหมายถึงอยากลองชิมน่ะครับ ไม่ได้กินหมด”

 

ถึงจะชิมก็เถอะ นี่มันอาหารที่มีคุณค่าสูงมากเลยนะ ทั้งโภชนาการและจิตใจ คิดว่าผมจะให้ง่ายๆหรือไงกัน แหนะ ไม่ต้องทำตาอ้อนวอนสุดชีวิตอย่างนั้น ถึงแม้ว่าจะหล่อก็เถอะนะ แต่ตราบใดที่ยังหล่อสู้ผมไม่ได้เรื่องอะไรผมจะให้กันเล่า

 

ปิ๊ง ไม่มีประโยชน์ที่จะส่งสายตามาหรอกนะ

 

ปิ๊ง...ปิ๊ง บอกแล้วไงว่าไม่มีประโยชน์น่ะ ยังไงก็ไม่ให้

 

ปิ๊ง...ปิ๊ง...ปิ๊ง ให้ตายสิ!!! บอกแล้วไงว่า!!!

 

ให้ก็ได้...

 

เห็นแก่ว่าหน้าตาดูหล่อหรอกนะ ไหนจะสายตาคนรอบข้างที่มองผมเหมือนผมไปแกล้งเด็กอย่างไรอย่างนั้น ผมเป็นครู ผมก็ต้องแคร์สายตาของผู้คนเหมือนกันนะ

 

ผมตักข้าว ไก่ แล้วก็ไข่เจียวใส่ช้อน แล้วยื่นไปให้คนตรงหน้า ผมคิดว่าเขาจะหยิบช้อนไปแล้วกินนะ แต่ว่า...

 

ดันกินเลยทั้งๆที่ช้อนอยู่ในมือของผมเนี่ยสิ!!!

 

แบบนี้ก็เหมือนผมป้อนให้น่ะสิ ผมเสียหายนะ ถ้าใครมาเห็นเข้าต้องมองไม่ดีแน่ แล้วดู ยังมีหน้ามายิ้มระรื่นอีก หน้าต่อยให้หน้าหล่อๆนั่นหงายไปจริงๆ

 

ผมถอนหายใจ รวบช้อน และลุกขึ้นเพื่อที่จะไปเก็บจาน

 

“ครูจะไปแล้วเหรอครับ?”

 

ก็ใช่นะสิ!!! ผมตอบในใจ แล้วก้าวเท้าเร็วๆ ไม่สนใจคนที่ตะโกนตามหลังมา รู้เพียงแค่ว่าอยากเดินหนีจากตรงนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

ผมเดินมาที่ห้องน้ำ ล้างมือให้เรียบร้อย แน่นอนว่าคนหล่อๆและมีสุขลักษณะอนามัยที่ดีเยี่ยมอย่างผม ต้องล้างมือให้ครบทั้งเจ็ดท่าอยู่แล้ว พ่อแม่ของผมสอนมาดีใช่ป่ะ ไม่ต้องชมหรอกนะ หุ หุ หุ แล้วในขณะที่ผมก้มหน้าก้มตากับการล้างมือนั้นเอง ผมก็ได้ยินเสียงใครบางคนล็อกประตู ผมเลยหันไปมอง ก็ต้องรู้สึกเซ็งสุดขีด เมื่อต้องเจอกับ...กาเซีย!!!

 

“นายล็อกประตูทำไม?” ผมถาม มองหน้ากาเซียอย่างไม่ไว้ใจ หมอนี่มักจะมีอะไรแปลกๆเสมอ

 

“...”

 

“กาเซีย ครูถามก็ต้อง...อุ๊บ” จู่ๆกาเซียกระชากตัวผมไป แล้วจูบผม!!! ผมใช้มือดันตัวออกจากกาเซีย แต่ดันยังไงก็ไม่ได้ผล

 

ตัวหนักจังวะ!!!

 

“อื้ม...ไม่เอา” ผมเบนหน้าหนีได้สำเร็จ แต่นั่นเป็นสิ่งที่ผิดอย่างมหันต์!!! เพราะกาเซียเปลี่ยนเป้าหมายมาไซร้คอผมแทน ต้องขอบอกเลยว่า...

 

เสียวเว้ย!!! ทำไมมันเก่งจังเนี่ย ทำเอาผมถึงกับอ่อนระทวยเลยทีเดียว นี่ผมต้องศูนย์เสียเอกราชที่รักษามานานกว่า 24 ปี ให้กับนักเรียนเนี่ยนะ!!! ไม่ยอมง่ายๆหรอกนะ แต่ถึงผมจะคิดอย่างนั้นก็ตาม ผมก็ไม่เห็นโอกาสที่ตัวเองจะหลุดจากท่าทีที่ล่อแหลมอย่างนี้ได้

 

มือของกาเซยเริ่มอยู่ไม่สุข ลูบไล้เข้ามาในสาบเสื้อของผม แล้วเริ่มปลดกระดุมเสื้อ ปากก็ยังทำหน้าที่ขบเม้มตามคอได้อย่างดี ผมรู้สึกร้อนรุ่มในร่างกายอย่างบอกไม่ถูกราวกับว่าไฟราคะมันเริ่มถูกจุดให้ติดขึ้น ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เสื้อของผมได้ถูกถอดออกไป กาเซียเลื่อนริมฝีปากและขบเม้มไล่ลงไปราวกับจะสำรวจ

 

“อ๊ะ...กาเซีย...อืม...หยุด” ผมครางสลับกับร้องห้าม แต่ทำไมคำห้ามของผมมันดูอ่อนแรงชอบกล

 

“ครูอยากให้ผมหยุดจริงๆเหรอครับ” กาเซียเงยหน้าขึ้นมาถาม มือยังคงลูบไล้ตัวผมไปเรื่อย

 

“ก็ต้องอยู่แล้วน่ะสิ” ผมพูดเสียงหอบ

 

“ทั้งๆที่ของครูเริ่มตื่นตัวแล้วเนี่ยนะครับ” ไม่ว่าเปล่ายังใช้มือลูบไล้ไปที่บริเวณกางเกงของผม จุดยุทธศาสตร์ที่ตอนนี้กำลังปวดหนึบอย่างบอกไม่ถูก

 

“พอเถอะ...ขอร้องล่ะ” ผมว่า ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมกำลังต้องการมากแค่ไหนก็ตาม แต่ผมก็ไม่อยากขึ้นชื่อว่าเป็นครูที่มีอะไรกับนักเรียน หรือกระทำอนาจารในโรงเรียนหรอกนะ

 

“เสียใจครับ ผมจะหยุดเมื่อผมอยากหยุดเท่านั้น” กาเซียกระซิบข้างหู แล้วกัดใบหูเบาๆ ทำเอาผมถึงกับสะดุ้ง แล้วกาเซียก็เริ่มปฏิบัติการต่อจากเดิม กาเซียลงไปคุกเข่าตรงหน้าผม แล้วเริ่มปลดสายเข็มขัด

 

อย่าบอกนะว่า!!!

 

เมื่อผมคิดได้ว่ากาเซียจะทำอะไร ผมก็ต้องพยายามที่จะปัดมือของกาเซียออกไป แต่ก็ไม่ทันคนที่มือไวเป็นลิงอยู่ดี เพราะกาเซียได้ถอดเข็มขัดออกมาหมดแล้ว

 

“จะทำอะไรน่ะ” ผมรู้ว่ามันเป็นคำถามโง่ๆ ซึ่งผมก็รู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ผมก็หวังจะถ่วงเวลาได้บ้าง

 

“ครูรู้คำตอบอยู่แล้วนี่ครับ” แล้วกาเซียก็จัดการถอดกางเกงของผมลง เผยให้เห็นกางเกงไหนตัวเก่งของผม ไม่เข้าใจว่าทำไมวันนี้ถึงเลือกใส่กางเกงในตัวเก่งตัวนี้มา นับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้ไม่ต้องอาย แล้วนั่นมัน...

 

ใช่ประเด็นที่ไหนกันเล่า!!!

 

กาเซียไม่รอช้า ถอดชิ้นปราการสุดท้ายของผมออก แล้วใช้มือจับฮาร์ทน้อยผู้น่ารักของผม

 

“น่ารักจังเลยนะครับ” กาเซียพูดแล้วค่อยๆ ขยับมือ ทำเอาผมถึงกับต้องกัดปากแน่น เพื่อกลั้นเสียง “ครูอย่ากลั้นเสียงสิครับ”

 

ผมไม่ได้สนใจเสียงของกาเซีย เมื่อตอนนี้เจ้าตัวกำลังใช้ปากค่อยๆอมของผมอย่างไม่นึกรังเกียจ ขณะที่มืออีกข้างของกาเซียก็ลูบไล้หน้าท้องของผม ผมเสียวซ่านจนต้องบิดกายเร่าๆ วินาทีนี้ผมมองไม่เห็นถึงความถูกผิด รู้เพียงแค่ว่าไม่ว่ายังไงผมก็ต้องปลดปล่อยให้ได้เท่านั้น

 

“อ...อื้ม....กาเซีย” กาเซียขยับมือ และใช้ปากอย่างคล่องแคล่วจนผมถึงกับทนไม่ไหวหลุดเสียงครางออกมา

 

เมื่อกาเซียได้ยินเสียงครางก็เร่งมือมากขึ้น ใช้ลิ้นและริมฝีปากครอบครองส่วนที่อ่อนไหวของผมอย่างเร่าร้อน ความร้อนผ่าว และริมฝีปากที่ดูดดุนแน่นจนทำให้ผมเริ่มที่จะทนไม่ไหว

 

“กาเซีย...ม...ไม่ไหวแล้ว” ผมหอบพลางใช้มือลูบไล้ศีรษะของคนที่กำลังช่วยผมอยู่ กาเซียยังคงดูดดุนอีก และมือก็ยังขยับไม่หยุด ในขณะที่ผมยิ่งร้องครางเข้าไปใหญ่

 

“อื้ออออ...อ๊ะ...อ๊า!!!” ผมหอบหายใจหนัก เมื่อตัวเองปลดปล่อยออกมาในที่สุด กาเซียดูดกลืนน้ำของผมจนหมด แล้วลุกขึ้นมาและจูบผม

 

ผมรีบเร่งแต่งตัว โดยมีกาเซียช่วยด้วย ในขณะที่แต่งตัว มือของผมสั่นไปหมด รู้สึกทำอะไรไม่ถูก และอับอายสุดชีวิต ที่ให้นักเรียนมาช่วยตัวเองแบบนี้

 

เมื่อผมจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็มองหน้าคนที่เพิ่งทำลามกกับผม (ถึงแม้ว่าผมจะค่อนข้างรู้สึกดีก็เถอะ) กาเซียยิ้ม และจะดึงผมเข้าไปกอด แต่ผมสะบัดตัวออก

 

“ทำไมถึงทำแบบนี้” ผมพูดเสียงนิ่ง จะว่าจะโกรธกาเซียฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ เพราะกาเซียก็ผิดที่ไม่หยุด ส่วนผมก็ผิดที่ไม่ห้าม (อันที่จริงผมก็ห้ามนะ แต่มันอ่อนแรงมาก แถมยังพูดแค่ครั้งเดียวอีก) แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือ ทำไมจู่ๆ เขาถึงเข้ามาจูบผม แล้วมาปลุกอารมณ์ผมอีก

 

“ผมไม่ชอบ”

 

“ห๊ะ!? ไม่ชอบ” ผมทวนคำ ทำหน้าเหวอ “ไม่ชอบอะไร?”

 

“ที่ครูป้อนข้าวหมอนั่น” พอถึงประโยคนี้ผมถึงกับร้องอ๋อทันที อย่าบอกนะว่ามาทำแบบนั้นเพียงเพราะเข้าใจว่าผมป้อนข้าวไอ้หน้าหล่อนั่นนะ!!!

 

“นายมันงี่เง่าจริงๆ”

 

“ใช่สิ ผมมันไม่ใช่ไอ้หน้าหล่อนั่นใช่ไหมล่ะ ครูถึงได้ด่าผมว่างี่เง่าน่ะ” กาเซียพูดตัดพ้อ

 

กรรม = = มีน้อยใจด้วย แล้วทำไมบทมันสลับกันอย่างนี้เนี่ย คนที่สมควรน้อยใจ แล้วก็โกรธมันต้องเป็นผมไม่ใช่หรือไงกัน แต่พอเห็นหน้าดูนอยด์ๆของกาเซียแล้ว ผมอดรู้สึกแย่ไม่ได้ ถึงแม้ว่าผมจะไม่ผิดก็เถอะ

 

“นายเข้าใจผิดแล้วล่ะ” ผมกอดอก “ฉันไม่ได้ป้อนข้าวหมอนั่นสักหน่อย”

 

“แต่ที่ผมเห็น...”

 

“ก็ว่าอยู่แล้วว่าต้องมีคนเข้าใจผิด” ผมถอนหายใจ “หมอนั่นอยากชิมข้าวที่ฉันซื้อมาน่ะ ฉันเลยตักแล้วยื่นไปให้ คิดว่าหมอนั่นคงจะรับช้อนไป แล้วเอาไปกินเอง แต่ที่ไหนได้ดันกินเลยทั้งๆที่ช้อนยังอยู่ในมือของฉัน ฉันเองก็หงุดหงิดเหมือนกันนั่นแหละ เลยลุกออกมาเลย”

 

กาเซียไม่พูดอะไร แค่มองหน้าผมนิ่งๆเท่านั้น

 

“ถ้านี่คือเหตุผลที่ทำให้นายทำแบบนั้นล่ะก็ ฉันไม่ให้อภัยนายแน่” ผมพูดอย่างโกรธๆ ใครที่ไหนจะมาทำแบบนั้นกับคนอื่นเพียงแค่ว่าเข้าใจผิดเรื่องเล็กๆแค่นี้กัน

 

“นั่นมันก็ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมดหรอกครับ”

 

“แล้วมีเหตุผลอะไรอีก?”

 

“ผมยังหาคำตอบมาให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกัน”

 

“หา?” ผมทำหน้าเหวอเป็นรอบที่สอง หาคำตอบไม่ได้เนี่ยนะ ตัวของตัวเองแท้ๆ ยังไม่รู้อีก สงสัยกาเซียจะสมองกลับแน่ๆ

 

กาเซียยื่นหน้าเข้ามาใกล้ๆ แล้วกระซิบ “ผมรู้เพียงแค่ว่าหลังจากเห็นครูป้อนข้าวให้หมอนั่น ผมก็รู้สึกอยากกินครู อยากทำให้ครูเป็นของผม อยากตีตราให้คนอื่นรู้ว่าผมเป็นเจ้าของครูเพียงคนเดียว แบบนี้ครูพอจะทราบคำตอบไหมครับ ว่าทำไมผมถึงต้องทำแบบนั้น” แล้วกาเซียก็ไม่รอคำตอบ เพียงแค่ยิ้มที่มุมปาก แล้วเดินออกไป

 

ส่วนผมน่ะเหรอ?

 

“...” ยืนติดสตั้นท์ไปเป็นนาที

 

 

**********************************************************

เม้นท์ด้วยนะ ไม่เม้นท์ตอนต่อไปไม่มานะคะ ^^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา