ครูตัวร้ายกับนายนักเรียนตัวแสบ[YAOI]

10.0

เขียนโดย MinAh

วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 00.19 น.

  2 ตอน
  5 วิจารณ์
  8,947 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2556 00.25 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ระเบียบข้อที่ 1 : นักเรียนต้องเชื่อฟังครู

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ระเบียบข้อที่ 1: นักเรียนต้องเชื่อฟังครู

 

                “หนังสือพร้อม เครื่องเขียนพร้อม แต่งตัวโอเคแล้ว ไม่ลืมอะไรอีกแล้วใช่ไหมเนี่ย” ผมพูดกับตัวเองพลางมองตัวเองในกระจกบานใหญ่ไปด้วย หมุนตัวซ้ายขวาเพื่อให้แน่ใจว่าแต่งตัวเรียบร้อย ก่อนที่จะคว้ากระเป๋าเป้ใบเก่ง แล้วออกจากห้อง

 

                ผมขอแนะนำตัวเองหน่อยนะครับ ผมชื่อว่า ฮาร์ท ซึ่งแปลว่าหัวใจครับ เหตุผลที่พ่อกับแม่ตั้งชื่อนี้ให้ เพราะว่าผมเปรียบเสมือนหัวใจของพ่อกับแม่ เป็นไงล่ะ ครอบครัวของผมน่ารักล่ะสิ ผมมีพี่ชายอยู่หนึ่งคน พวกเราไม่ค่อยกินเส้นกันเท่าไหร่ แต่ผมไม่ใส่ใจอยู่แล้ว     

          

ตอนนี้ผมกำลังไปโรงเรียนอยู่ครับ อย่าคิดว่าผมจะไปเรียนเชียวล่ะ เพราะผมจบจากรั้วของโรงเรียนมาได้กว่า 5 ปีแล้วล่ะ  ที่ผมจะไปโรงเรียนน่ะ ผมจะไปสอนต่างหาก ผมเป็นครูล่ะ แต่จะบอกว่าไปสอนคงยังไม่ถูก เพราะผมจะไปสัมภาษณ์ต่างหาก

 

“อ้าว!!! เชิญเข้ามาได้เลยค่ะ เพิ่งมาใหม่ใช่ไหมคะ” ตอนนี้ผมอยู่ที่หน้าห้องของผู้อำนวยการ และมีพี่ที่เป็นเลขาถามผมอยู่

 

ผมส่งยิ้มโปรยเสน่ห์ไปก่อนจะตอบ “ใช่ครับ ผมจะมาพบท่านผู้อำนวยการน่ะครับ ท่านนัดผมให้มาในวันนี้”

 

“คุณนิธิภัทรใช่ไหมคะ” เลขาถามพลางเปิดดูแฟ้มเอกสาร

 

“ใช่ครับ”

 

“งั้นเชิญเข้าไปได้เลยค่ะ ท่านผู้อำนวยการรออยู่ก่อนแล้วค่ะ”

 

ผมพยักหน้าและเปิดประตูห้องเข้าไป ก็พบกับ!!!

 

ท่านผู้อำนวยการกำลังนั่งหลับอยู่ ไม่ใช่หลับธรรมดาด้วย น้ำลายยืดเป็นสาย อ้าปากกว้างเหมือนจะบอกแมลงวันว่า ‘มาวางไข่ในปากฉันซิ’ อย่างไรอย่างนั้น

 

เอิ่ม...มาดไม่ให้เลยสักนิด

 

คุณเลขาคงจะสงสัยว่าผมตะลึงอะไร จึงได้เดินเข้ามา “ตายแล้ว!!!” เธออุทาน และหันมายิ้มให้ผมเป็นเชิงขอโทษแล้วเดินไปเขย่าตัวท่านผู้อำนวยการที่กำลังหลับอุตุอยู่

 

“ท่านคะ ท่านผู้อำนวยการคะ มีแขกมาขอพบค่ะ”

 

“หืม? มีอารายเหรอ~” ผู้อำนวยการขยี้ตาแล้วพูดเสียงยานคาง บิดขี้เกียจสองสามทีแล้วหันมามองผม แล้วก็เอียงคออย่างน่ารัก (?) สายตาเหมือนจะถาม ‘เมิงเป็นคราย’ อย่างไรอย่างนั้น

 

ผมยกมือขึ้นไหว้อย่างนอบน้อมตามแบบอย่างที่ดีที่คนหน้าตาดีมักจะทำกัน “สวัสดีครับ ผมชื่อว่า นิธิภัทรครับ ท่านเรียกผมให้มาในวันนี้เพื่อที่จะสัมภาษณ์ผมน่ะครับ”

 

ท่านผู้อำนวยการแคะขี้ตาเล็กน้อย ส่ายหัวดุ๊กดิ๊ก ก่อนที่จะทำหน้าเหมือนนึกได้ “อ๋อ ที่จะมาเป็นครูสอนวิชาฟิสิกส์ใช่ไหม?”

 

“ใช่ครับ”

 

“นั่งลงก่อนสิ”

 

“ครับ” เมื่อผมนั่งเรียบร้อยแล้ว ท่านผู้อำนวยการจึงพูดต่อ

 

“เพิ่งจบมาใช่ไหม?”

 

“จบมาได้ 1 ปีแล้วครับ”

 

“เคยมีประวัติการสอนมาก่อนหรือเปล่า?” ท่านผู้อำนวยการถามพลางดูแฟ้มประวัติของผม

 

“ไม่เคยครับ”

 

“อืม...คงยากนะถ้าหากจะรับครูที่ยังไม่มีประสบการณ์มาสอน” ท่านผู้อำนวยการพูดเหมือนเปรยๆ

 

“ครับ ผมรู้ครับ”

 

“แล้วรู้ใช่ไหมว่าโรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนระดับแนวหน้าของประเทศ”

 

“ผมรู้ครับ” ผมเริ่มใจเสียนิดๆ

 

“ผมขอปฏิเสธ” ท่านผู้อำนวยการพูดเสียงนิ่ง ผมใจหายวาบ นี่ผมโดนปฏิเสธเสียแล้วสินะ “ปฏิเสธที่จะให้คุณไปทำงานที่อื่น”

 

“เอ๋?” ผมมองท่านผู้อำนวยการอย่างงงๆ “หมายความว่า...”

 

“คุณได้ทำงานที่นี่น่ะสิ” ท่านผู้อำนวยการพูดยิ้มๆ

 

“เยสสสสส!!!!” ผมตะโกนพลางชูก้ำปั้นขึ้นเหนือหัวอย่างดีใจ “ขอบคุณครับๆๆๆๆ” ด้วยความว่าลืมตัวก็เผลอไปกอดฟัดท่านผู้อำนวยการ

 

“อ่าๆ ผมก็ดีใจนะที่คุณมีความสุข แต่ช่วยเลิกฟัดผมซะที ไม่งั้นผมจะคิดลึกแล้วนะ”

 

ผมปล่อยตัวผู้อำนวยการและส่งยิ้มให้พลางบิดตัวไปมา “แหะๆ ขอโทษทีครับ” เขินจังเลย เผลอไปกอดท่านผู้อำนวยการซะได้ ><

 

“เดี๋ยวคุณก็ไปทำงานเลยนะ”

 

“ห้ะ!?” ถึงกับเอ๋อเลยทีเดียว ให้ทำงานเลยเนี่ยนะ จริงอยู่ที่ว่าเตรียมของมาแล้วก็เถอะ แต่ก็ไม่คิดว่าจะได้ทำงานเลยนี่หว่า

 

“มีปัญหาอะไรหรือเปล่า? หรือว่าจะไม่ทำล่ะ”

 

“ไม่ใช่ครับๆ แค่แปลกใจ” ผมทั้งโบกมือ และส่ายหัวเป็นพัลวันกันเลยทีเดียว ถ้ามีปัญหามีหวังได้ปิ๋วก่อนแน่ๆ คงจะเป็นประวัติศาสตร์ที่ตลกพิลึก ถ้าต้องถูกไล่ออกหลังจากที่เพิ่งได้งานไม่ถึง 10 นาที

 

“”เดี๋ยวไปเอาตารางสอนที่เลขาหน้าห้องเลยนะ” ท่านผู้อำนวยการพูด แล้วก็...

 

หลับตามเดิม = =

 

ผมจึงเดินออกไปหน้าห้อง แล้วปิดประตูให้เรียบร้อย

 

“เป็นยังไงบ้างคะ” พี่เลขาคนสวยถาม

 

“ผมได้เป็นครูที่นี่แล้วครับ” ผมว่ายิ้มๆ “แล้วก็ขอตารางสอนด้วยนะครับ”

 

“อ๋อ ได้ค่ะ” คุณเลขาไปหาเอกสารพักหนึ่ง แล้วก็ยื่นเอกสารมาให้ “เริ่มงานวันนี้เลยสินะคะ คาบแรกจะมีในอีก 15 นาที ที่ห้องของม.5/1 ค่ะ”

 

แล้วห้องเรียนอยู่ไหนล่ะเนี่ย ผมคิด แต่คิดไปเองก็คงไม่ประโยชน์ ถามเลยง่ายกว่า “แล้วห้องอยู่ที่ไหนครับ?”

 

“ห้อง 521 อาคาร 5 ชั้น 2 ห้อง 1 ค่ะ”

 

ครับ!!! อันนั้นผมรู้ครับ ปัญหามันอยู่ที่ว่าอาคาร 5 มันอยู่ไหนน่ะสิ!!!

 

แต่ดูเหมือนว่าจะถามต่อก็ไม่ได้ เมื่อพี่เลขากลับไปทำงานต่อแล้ว สงสัยงานนี้คงต้องพึ่งตัวเองซะแล้วมั้ง

 

ผมเดินไปตามทางเรื่อยๆ สอดส่องดูอาคารต่างๆด้วยความงงงวย ทำไมอาคารมันเยอะนักเนี่ย!!! โรงเรียนก็กว้าง อาคารก็เยอะ ถ้าเข้าสอนสายมีหวังโดนเด้งแน่ และระหว่างที่ผมเคว้งคว้างอยู่บนโลกนั้น(?) พระเจ้าก็ได้ส่งเทพบุตรสุดประเสริฐ และหล่อมากมาให้ผม

 

“มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ?” เด็กนักเรียนคนหนึ่งเข้ามาถามผม เป็นนักเรียนที่หล่อมาก!!! หน้าตาดีแบบสุดๆ ผมสีดำสนิท ดวงตาคมสีน้ำตาล ริมฝีปากสวย และจมูกโด่งเป็นสัน ไหนจะส่วนสูงที่สูงกว่าผมนี่อีก

 

“คือ...ฉันตามหาห้องไม่เจอน่ะ เธอพอจะรู้ไหมว่าห้อง 521 อยู่ไหนน่ะ” ผมยื่นตารางสอนไปให้เด็กคนนั้นดู

 

“หืม?” เด็กคนนั้นเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ และยิ้มออกมา มันเป็นรอยยิ้มที่ดูกระตุกๆมากกว่า แบบว่าเป็นอาการทางประสาทของกล้ามเนื้อบนใบหน้าอะไรเงี้ย แค่กระตุกริมฝีปากแค่แป๊ปเดียวเท่านั้น “ผมรู้ดีเลยล่ะครับ”

 

“จริงเหรอ แล้วอยู่ไหนล่ะ” ผมยิ้มอย่างดีใจ ผมจะไม่ไปสอนสายแล้วใช่ไหม?

 

“เดินไปไม่ไกลหรอกครับ ผมเรียนอยู่ห้องนั้นครับ” เด็กคนนั้นยื่นตารางสอนคืนมาให้ผม “ไปพร้อมกับผมเลยดีกว่าครับ” พอว่าเสร็จก็สาวเท้าเดินไปทันที

 

ไม่รอกันเลยนะ เดินไวเป็นบ้า ผมต้องเดินตามเด็กคนนั้นให้ทัน เมื่อมาถึงห้องแล้วผมก็หันไปขอบใจเด็กคนนั้น

 

“ขอบคุณมากนะ”

 

“ไม่เป็นไรครับ ถ้าครูมีปัญหาอะไรก็บอกผมได้ครับ”

 

“เธอชื่ออะไรล่ะ?”

 

“ผมชื่อว่า เธนส์ ครับ เป็นประธานนักเรียน”

 

เป็นถึงประธานนักเรียนด้วย มิน่าล่ะ ดูเคร่งขรึมดี แลดูฉลาด อย่างน้อยก็คงฉลาดกว่าผมตอนอยู่ม.5แล้วกัน จำได้ว่าตอนผมอยู่ม.5 ผมยังนั่งเล่นไพ่ยูกิอยู่เลย สมัยนี้เล่นกันหรือเปล่านะ? จำได้ว่าผมเก็บต๋งมาได้เพียบ ทำเอาผมเปรมไปทั้งเดือน ว่าแต่...

 

ไพ่ยูกิมีเก็บต๋งหรือเปล่า?

 

ช่างไพ่ยูกิแล้วกัน กลับเข้าเรื่องๆๆ เธนส์เดินเข้าห้องนำไปก่อน แล้วผมก็ค่อยเดินตามเข้าไป มีนักเรียนนั่งอยู่เต็มห้อง เสียงดังโหวกเหวกโวยวายเต็มไปหมด บางคนก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะ บางคนก็วาดรูปบนกระดาน บางคนนั่งจับกลุ่มคุยกัน บางคนก็...เอ่อ...ปาเก้าอี้กันไปมา

 

นั่นเล่นอะไรกัน ถ้าไปโดนคนอื่นมีหวังไม่ตายก็พิการแน่ เก้าอี้หนักขนาดนั้น หวังว่าจะไม่โดนผมนะ

 

“ระวัง!!!” เสียงใครบางคนตะโกน ผมหันไปมองก็พบกับ...

 

โป๊ก!!!โครม!!!

 

อย่าสงสัย เสียงแรกคือเสียงเก้าอี้กระทบหัวผมอย่างน่ารัก และเสียงที่สองคือเสียงของผมที่ลงไปนอนกับพื้น

 

ทำไมโลกมันหมุน? แล้วทำไมมันเหมือนมีน้ำอะไรที่หัวผม?

 

“นายทำบ้าอะไรน่ะ กาเซีย” เสียงของเธนส์ดังขึ้น

 

“หืม? ขอโทษแล้วกันนะ แต่ช่างเถอะ ใครก็ตามที่โดนเก้าอี้พิชิตศีรษะมักจะสลบไปใน 5 วินาที” เสียงใครอีกคนพูดขึ้นมา

 

“ไม่ใช่ ที่ฉันจะบอกคือ...”

 

“1...2...” เสียงใครบางคนนับเลข มานับเลขอะไรตอนนี้วะเนี่ย!!! ไม่มาช่วยกันเลย

 

เอ๊ะ!!! ทำไมโลกเริ่มมืดแล้วล่ะเนี่ย? รู้สึกเปลือกตาหนักๆชอบกล

 

“คุณคนนี้น่ะเป็น...” เสียงเธนส์ยังคงพยายามขัด(ไอ้)คนที่นับเลขอยู่

 

“3...4...อะไร?” ยังอุตส่าห์ไปถามอีกนะ

 

“ครูฟิสิกส์น่ะสิ”

 

“5...อ๋อเหรอ? ว่าไงนะ!!!”

 

โครม!!! ลาก่อน เจอกันเมื่อชาติต้องการ คร่อก!!!

 

 

 

 

 

เพดานสีขาวดูสะอาดน่ามอง ฝ้าลายสวยรูปกระต่าย เอิ่ม...กับคนแคระทั้งเจ็ด นั่นใช่เรื่องเดียวกันหรือเปล่าเนี่ย วิวทิวทัศน์ที่ดูแปลกตา กลิ่นของยาฆ่าเชื้อที่มากระทบจมูก ทำเอาผมถึงกับเบ้หน้า

 

ทำไมหัวมันหนักๆอย่างนี้เนี่ย แล้วที่นี่ก็คงเป็น...

 

“ห้องพยาบาลครับ” เสียงของใครบางคนดังขึ้นราวกับรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่ เมื่อหันกลับไป ผมก็พบกับใบหน้าของคนที่คุ้นเคย เธนส์นั่นเอง

 

“ครูโดนเก้าอี้ฟาดหัวน่ะครับ” เธนส์เตือนความจำผม

 

“งั้นเหรอ” แต่เดี๋ยวก่อน ถ้าผมอยู่ที่ห้องพยาบาล แล้วใครจะสอนแทนล่ะเนี่ย!?

 

“ถ้าเรื่องวิชาในวันนี้ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ ผมให้พวกเขาอ่านหนังสือไปก่อนแล้ว และแจ้งกับท่านผู้อำนวยการแล้วว่าครูได้รับบาดเจ็บ” เธนส์พูดเหมือนรู้ทันความคิดผม(อีกแล้ว)

 

ช่างแสนดีจริงๆ จัดการให้หมดด้วย แล้ว...คนที่มันส่งเก้าอี้มากระทบหัวของผมมันอยู่ไหนล่ะเนี่ย?

 

“ถ้าครูกำลังหาคนที่ทำให้ครูบาดเจ็บล่ะก็ อีกเดี๋ยวเขาก็จะมาแล้วล่ะครับ” แล้วเธนส์ก็ดักคำถามผมอีกครั้ง

 

“คุณเป็นริวจิตสัมผัสใช่ไหม?” ต้องใช่แน่ๆ ทำไมรู้ไปซะทุกเรื่อง แถมตอบคำถามดักผมซะหมด

 

“ผมไม่ใช่คุณริวหรอกครับ คุณริวไม่ได้อ่านใจคนได้นะครับ”

 

“แล้วทำไม?”

 

“ครูควรรู้ตัวนะครับว่าเป็นคนที่แสดงออกทางสีหน้าชัดเจนมาก”

 

แสดงออกทางสีหน้าชัดเจน!!! มันยังไงกันล่ะนั่น สุดหล่องง

 

เธนส์ถอนหายใจเบาๆ “ผมหมายถึงเวลาที่ครูคิดอะไรออกมา มันจะแสดงให้เห็นทางสีหน้าเลยน่ะครับ”

 

โทษทีแล้วกันนะ ถ้าฉันจะเป็นคนที่แสดงออกมาทางสีหน้ามากเกินไป!!! โดนนักเรียนสอน เสียใจ T^T  เหมือนว่าเธนส์จะเอือมระอาอะไรบางอย่าง ถึงกับส่ายหัว แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ เสียใจอีกรอบ เอาไปเลยคูณสอง!!!TToTT x2

 

“เธนส์!!! ฉันซื้อมาแล้วล่ะ” เสียงของใครบางคนดังขึ้นพร้อมกับการเปิดประตูอย่างแรง

 

นี่มันเสียงคนที่เอาเก้าอี้ฟาดหัวหล่อๆของผมนี่หว่า???

 

“ทำไมช้า?” เธนส์ถาม คนที่เพิ่งเข้ามาใหม่

 

“พอดีร้านที่สหกรณ์หมดแล้วน่ะ เลยต้องออกไปนอกโรงเรียน”

 

“เอาความจริง” เธนส์พูดเสียงเข้ม

 

“ไปขอเบอร์สาวอยู่จ้า” ว่าด้วยน้ำเสียงอ่อน พลางเข้ามาออเซาะ(?)กับเธนส์ “แบบว่าขอโทษจริงๆอ่ะ มันอดใจไม่ไหว คนนั้นน่ารักมากเลย”

 

“ทีหลังควรจะรู้บ้างนะว่าเวลาไหนควรไม่ควร”

 

“ครับ” ทำหน้าหงอยเชียว เธนส์นี่โหดดี คุมได้อยู่หมัด น่าจะศึกษาวิธีการแล้วเอาไปปรับใช้ในห้องเรียนบ้างแล้วสิ

 

“เดี๋ยวผมเอาข้าวใส่จานให้ครูก่อนนะครับ” เธนส์หันมาพูดกับผม “ระหว่างนี้ ครูก็คุยกับกาเซียไปแล้วกันนะครับ” ว่าแล้วก็เดินไปทันที ช่างเป็นคนที่คิดเร็วทำเร็วอะไรอย่างนี้

 

พอเธนส์ออกไปความเงียบก็เข้ามาปกคลุม รู้สึกแปลกชะมัดที่ต้องมานั่งอยู่ในห้องพยาบาลกับเด็กนักเรียนที่เราต้องสอน แต่กลับเอาเก้าอี้ฟาดหัวเราจนสลบจนต้องมาอยู่ที่ห้องพยาบาลอย่างนี้

 

ไม่คิดจะพูดอะไรหน่อยหรือไงกัน!!! ผมคิดอย่างหงุดหงิด เอาเก้าอี้ฟาดหัวคนอื่นไม่พอ ยังไม่พูดขอโทษอีก ราวกับรับรู้ได้ถึงความหงุดหงิด เด็กคนที่เอาเก้าอี้ฟาดหัวผม รู้สึกว่าจะชื่อ กาเซีย สินะ ได้ยินเธนส์เรียกอย่างนั้น ก็พูดขึ้น

 

“ผมขอโทษนะครับ ผมไม่รู้จริงๆว่าคุณเป็นครู” กาเซียทำหน้าสำนึกผิด “แต่ครูก็ไม่ควรเอาหัวมารับเก้าอี้ของผมนะครับ”

 

“อ้าว?” งงเลยสิครับ

 

“เก้าอี้ก็แค่จะลอยไปดีๆแท้ๆ แต่ครูก็มาพอดี แถมแทนที่จะหลบกับยืนเซ่อให้เก้าอี้ฟาดหัวซะได้”

 

“อ้าว??”

 

“แล้วดูสิ ผมต้องพาครูมาห้องพยาบาลแถมยังโดนเธนส์บ่นจนหูชาอีก ไหนจะต้องไปซื้อข้าวให้ครูอีก เสียเวลาชะมัด!”

 

“อ้าว???” ตกลงผมผิดใช่ไหมเนี่ย จำได้ว่าผมไม่ใช่คนผิดนะ ใครที่ไหนอยากจะให้คนเอาเก้าอี้ฟาดหัวตัวเองเล่นกัน “นี่!!! เธอต่างหากที่ผิด ห้องเรียนไม่ใช่สนามเด็กเล่นนะ แล้วเวลานั้นก็ใกล้จะได้เวลาเรียนแล้ว ทำไมไม่รู้จักเตรียมตัวให้พร้อมที่จะเรียนกัน!!!” ผมพูดอย่างไม่พอใจ

 

“ผมจะเล่นมันก็เรื่องของผม อีกอย่างพวกผมก็เป็นกันอย่างนี้อยู่แล้ว” กาเซียทำหน้ายียวนกวนประสาท

 

“นักเรียนต้องเชื่อฟังครูสิ!!!” ผมตะโกน

 

“ไม่ฟัง!!!”

 

“ไอ้!!!”

 

“อ่ะ...อย่านะ เป็นครูพูดไม่เพราะได้ไง” กาเซียชี้หน้าผมอย่างน่าหมั่นไส้ ทำเหมือนผู้ใหญ่สอนเด็ก ทั้งๆที่ตัวเองนั่นแหละเด็กกว่าแท้ๆ

 

น่าหงุดหงิดชะมัด เด็กบ้า!!! คอยดูนะ ฉันจะสอนให้รู้เลยว่าใครกันแน่ที่เป็นเด็ก นักเรียนต้องเชื่อฟังครูสิ!!! ว่าแต่...เมื่อไหร่เธนส์จะมาสักที!!!หิวข้าวแล้วโว้ย!!!

 

----------------------------------------------------------------------------------

มาลงแล้วๆ เพิ่งลงที่เว็บนี้เป็นครั้งแรกเลย ไม่แน่ใจว่าจะมีคนชอบมั้ย เพิ่งแต่งอย่างเป็นจริงเป็นจังก็เรื่องนี้ ติชมได้นะคะ เจอคำผิดตรงไหนบอกด้วยนะคะ

++Min Ah++

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา