[SHAM] รักนี้ไม่มีลวง
เขียนโดย หมาน้อยพิทักษ์ดวงดาว
วันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 08.17 น.
แก้ไขเมื่อ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556 08.25 น. โดย เจ้าของนิยาย
6) [SHAM] รักนี้ไม่มีลวง #06
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
[6]
“กรี๊ด!!”
“เกิดอะไรขึ้นครับ!?” โจลันถลันเข้ามาในห้อง มองเด็กสาวที่ตัวสั่นอยู่บนเตียงด้วยความตกใจ
เซน่าพรวดพลาดเข้ากอดเอวชายหนุ่มด้วยความตื่นกลัว “ผีหลอก..!!” เธอบอกเสียงเครือ สายตามอง
หวาดๆ ไปที่ตู้เสื้อผ้าซึ่งตอนนี้กลับเป็นปกติดีแล้ว
“ใจเย็นๆ ครับ ไม่มีอะไรซักหน่อย” โจลันลูบหัวคนในอ้อมแขนอย่างปลอบใจ
“มีสิ ในตู้นั้นไง” เซน่าบอกดุและรีบย้ายไปเกาะหลังโจลันแทน เพราะชายหนุ่มกำลังเดินตรงไปเปิดโคม
ไฟที่หัวเตียง
“เซน่า?” เอวีน่าตามเข้ามา “เกิดอะไรขึ้นจ้ะ”
เซน่าถลาไปหาพี่สาวและกอดเธอไว้แน่น ไม่ได้บอกอะไรแต่เริ่มต้นลากพี่สาวออกจากห้องนั้นทันที
“ต้องขอโทษคุณโจลันด้วยนะคะที่เซน่าถือวิสาสะเข้าไปในห้องนอนของคุณ” คนเป็นพี่ต้องขอโทษ
ขอโพยแทนน้องสาวที่นั่งหน้าหงิกเบียดชายสูงวัยอยู่ที่โซฟา
เบนลูบหัวลูกสาวปลอบขวัญ “ขอโทษสิลูก”
เซน่าทำหน้าบูดเป็นตูดเป็ดให้เจ้าของห้องแทนคำขอโทษ “เรากลับกันเถอะค่ะ หนูไม่อยากอยู่ในห้องผีสิง
แบบนี้แล้ว”
“ต้องขอโทษแทนเซน่าอีกครั้งนะคะ” เอวีน่าบอกเบาอย่างรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรครับ ถ้างั้นผมไปส่งเลยดีมั้ยครับ”
“เดี๋ยว แล้วไลออนล่ะ” เซน่ามองรอบตัว “หรือว่าจะติดอยู่ในห้องผีสิงของนาย” เธอเต้นเร่าอยู่ไม่สุข
“เอ่อ งั้นเดี๋ยวผมไปพาเจ้าเหมียวมาให้เองครับ” โจลันอาสา
“มันก็ต้องแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ ใครจะกล้าเข้าห้องนั้นอีก...”
โจลันถลึงตาใส่เด็กสาวแล้วรีบกลบเกลื่อนด้วยรอยยิ้มก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องนอน เปิดประตู ทุกอย่างดู
เป็นปกติดี ยกเว้นเจ้าตัวอ้วนขนฟูที่ยังเดินเวียนอยู่ที่หน้าตู้เสื้อผ้า
“เฮ้ย คอลล์...” โจลันย่อตัวลงใกล้ไลออน
ประตูตู้เสื้อผ้าเปิดออกช้าๆ “แฮ่..” คอลล์ที่อยู่ใต้ผ้าห่มทำเสียงขู่
“นี่ใช่มั้ยสาเหตุที่ยัยตัวแสบนั่นกรี๊ดซะลั่นบ้าน” แฝดพี่หัวเราะออมเสียงกลัวคนด้านนอกจะได้ยิน
คอลล์โผล่หน้าออกมาจากผ้าห่มและยิ้มพอใจ “ก็ยัยนั้นอยากสอดรู้สอดเห็นเองนี่ ฉันก็เลยจัดให้...อ้าวแล้ว
เจ้านี่ใครน่ะ?”
ไลออนกระโดดแผล็วเข้าไปนัวเนียคนในตู้เสื้อผ้าที่เกาหลังหูให้มัน
“แมวของเซน่าเขาน่ะ ดูมันจะพิศวาสแกมากนะเนี่ย” โจลันจับหมับเข้าที่พุงกลมๆ ของเจ้าขนปุย พยายาม
จะดึงมันออกจากกองผ้าห่มบนตัวน้องสาว แต่ไลออนใช้เล็บข่วนเขาอย่างเมามันส์ “โอ๊ยๆ เดี๋ยวพ่อก็จับทำ
ลูกชิ้นซะนี่”
“เฮ้ย เบาๆ หน่อยดิ แมวนะไม่ใช่ควาย ใช่วัวถึงต้องออกแรงขนาดนั้น” คอลล์ช่วยลูบหัวปลอบใจไลออนที่
ร้องเมี้ยวอย่างเสียขวัญ
“ฉันว่าเจ้านี้เป็นตุ๊กแกมากกว่าว่ะ ดูสิมือกาวอย่างกับอะไร นี่ถ้าผ้าห่มฉันขาดเป็นรู แกไม่ได้อยู่อย่างสงบ
แน่” ประโยคหลังโจลันหันไปขู่เจ้าแมวขาวซึ่งรีบตวัดกรงเล็บข่วนปลายจมูกคนที่ยื่นหน้าเข้าไปใกล้มัน
ทันที
คอลล์ช่วยอุ้มไลออนขึ้นมา ก่อนจะส่งต่อให้พี่ชายที่พยายามล็อคมือแมวไม่ให้มันข่วน
“บ๊าย บาย เจ้าเหมียว” คอลล์โบกมือลาเจ้าแมวอ้วนที่ดิ้นพราดๆ อยู่ในมือโจลัน
โจลันจับขาทั้งสี่ของไลออนรวบไว้ด้วยกันได้แล้ว แต่ไม่วายโดนกัดอีก กว่าจะพาเจ้าตัวร้ายมาคืนเจ้าของ
ได้ทำเอาเหงื่อตกไปหลายกะละมัง
“ว้าย ทำไมเป็นอย่างนั้นล่ะ” เซน่าที่ดูจะตกใจมากรีบเข้ามาอุ้มเจ้าไลออนไปปลอบ เรียกขวัญมันกลับมา
ไม่สนใจสภาพคนที่ไปหิ้วเจ้าตัวร้ายมา
“ไม่เป็นไรนะคะ” เอวีน่าใช้กระดาษทิชชูซับเลือดที่มือของโจลันอย่างห่วงใย
“เหอะ แค่นี้ไม่ตายหรอก ว่าแต่นายเอาเชื้อโรคอะไรมาติดไลออนรึเปล่าเนี่ย”
โจลันไม่รู้จะตอบโต้กลับไปอย่างไรจึงได้แต่ทำท่าขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียว เหอะ เขาไม่สนหรอกว่า
ยัยเด็กแก่นจะพูดอะไร เพราะอย่างน้อยเอวีน่าก็เป็นห่วงเขาจากใจจริง
“ยิ้มบ้าอะไรอยู่คนเดียว”
“เปล่าครับ...” โจลันยิ้มสมทบไปอีกหนึ่งดอก “ไปกันเถอะครับ ผมไปส่ง” เขาหันไปยิ้มหวานให้เอวีน่า ที่
ยิ้มตอบเขากลับมาด้วยรอยยิ้มหวาน นี่..มันต้องแบบนี้!
.....
กริ่งก๊อง...
คอลล์ละสายตาจากหน้าจอโทรทัศน์และมองไปที่ประตูห้อง กำลังสงสัยว่าใครกันมากดกริ่งแต่เช้า ถ้าจะ
เป็นพี่ชายของเธอ เขาก็คงแอบงัดเอากุญแจสำรองมาไขแล้วเข้ามาแบบไม่ขออนุญาตไปแล้ว...
กริ่งก๊อง...
เสียงกระดิ่งดังขึ้นอีกครั้ง คอลล์วางแก้วกาแฟลงและลุกขึ้นไปที่หน้าประตู ลังเลอยู่อึดใจว่าควรจะเปิดออก
ไปดีหรือไม่... เนี่ยละนะ เวลาจะซื้อคอนโดก็ช่วยดูเรื่องช่องตาแมวบ้างนะคุณพี่ ว่ามันมีรึเปล่า...
คอลล์ตัดสินใจกลับไปที่ห้องนอนและแต่งตัวให้มิดชิดกว่านี้ และเปิดประตูห้องให้แขกที่มาเยือนแต่เช้า ดี
นะเนี่ยที่เธอรอบคอบ เพราะคนที่ยืนหน้าหงิกอยู่ที่หน้าประตูนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน
“มาทำไม?...”
คนที่อยู่ในชุดนักเรียนม.ปลาย แต่ไม่วายแต่งหน้าเข้มทำพ่นลมออกจมูก
“ว่าแล้วเชียว พออยู่ลับหลังพี่ นายก็แสดงนิสัยเถื่อนๆ ออกมา ใช่มั้ยไลออน” เด็กสาวก้มลงไปคุยกับแมว
อ้วนกลมตัวขาวสะอาดที่วันนี้มีริบบิ้นสีฟ้าสว่างผูกอยู่ที่คอ
คอลล์ทำเสียงในคอ และยิ้มมุมปาก “ฉันจะใช้นิสัยเถื่อนๆ นี้กับเด็กนิสัยเสียอย่างเธอเท่านั้นล่ะ”
เซน่าหน้าแดงไม่ใช่เพราะเขิน แต่เพราะโกรธจนควันแทบออกหูต่างหาก ซึ่งนั้นทำให้คนตัวสูงพอใจ
เป็นพิเศษ
“ฉันนิสัยเสียตรงไหนไม่ทราบ”
“นี่ยังไม่รู้ตัวอีกรึไง” คอลล์กอดอกและพิงขอบประตู “อ้อ ก็มีแต่คนโอ๋เธอนี่นะ ก็เลยไม่รู้ว่าตัวเองน่ะร้าย
ขนาดไหน”
“ไอปากเสีย ไอปากหมา ไอบ้าโรคจิต...”
คอลล์ดีดหน้าผากเซน่าไปทีหนึ่ง ฝ่ายนั้นจึงเงียบลงได้ แต่สายตาส่อแววจะกินเลือดกินเนื้อคอลล์แน่ถ้ามี
โอกาส
“ฝากไว้ก่อนเถอะ...”
“ไม่รับฝาก”
“โอ๊ย” เซน่าฮึดฮัดเหมือนเด็กไม่ได้ดั่งใจ
“โอ๊ยๆ” ส่วนฝ่ายนี้แค่เลียนแบบด้วยหน้าตาเยาะเย้ย
ถ้าติดไฟได้ร่างกายของเด็กสาวคงไฟลุกพรึบด้วยความโมโห แค่เห็นคนตัวสูงตรงหน้าทำลอยหน้าลอยตา
เธอก็อยากจะบีบคอเขาแล้ว เซน่าสูดอากาศเข้าเต็มปอดก่อนจะค่อยๆ สงบไฟแค้นที่โหมกระหน่ำลงไปได้
เล็กน้อย
“แล้วนี่ใจคอจะไม่ต้อนรับแขกเลยรึไง” เปลี่ยนเรื่องซะงั้น
คอลล์หลบจากประตูอย่างเสียไม่ได้และยอมให้เด็กสาวเดินเข้ามาในห้อง เซน่านั่งลงที่โซฟาและปล่อย
ไลออนให้นอนข้างๆ ตัวเอง
“จะดื่มนมหน่อยมั้ยยัยเตี้ย” คอลล์แกล้งหยอกเด็กสาวที่ทำเสียงฮึดฮัดขึ้นอีกครั้ง
“ฉันไม่ใช่เด็กนะ”
“หรอจ้ะแม่เด็กมอปลาย” คนหยอกหัวเราะร่าที่เห็นสีหน้าโกรธขึงของอีกฝ่าย
คอลล์วางแก้วนมร้อนให้เซน่าพร้อมด้วยคุกกี้ข้าวโอ๊ตที่ซื้อติดมาด้วยเมื่อวานข้างๆ กัน ก่อนจะนั่งลงที่
เก้าอี้โซฟาอีกตัว ยิ้มขำให้เด็กสาวที่ยอมดื่มนมอุ่นนั่นจนได้ เจ้าเหมียวอ้วนกระโดดผล็อยไปบนตักของ
คอลล์และขดตัวเป็นก้อนกลมก่อนจะหลับตาพริ้มเมื่อคอลล์เกาหัวให้มัน
เซน่าวางคุกกี้ลงและมองแมวตัวเองอย่างสงสัย
“ดูท่าไลออนจะชอบนายนะ” เธอหยั่งเชิง
คอลล์แค่ยิ้มบางให้ตัวที่ขดเป็นก้อนกลมบนตักตัวเอง
“...ไม่เห็นเหมือนเมื่อคืน...”
ไม่รู้ว่าคอลล์จะตกใจจนออกนอกหน้าเกินไปรึเปล่า แต่เธอรีบกลบเกลื่อนด้วยเสียงหัวเราะแห้งๆ “สงสัย
เมื่อคืนมันยังไม่คุ้นกับฉันล่ะมั่ง ใช่มั้ยเจ้าเหมียว”
“เมี้ยว” ไลออนครางอย่างเป็นสุข
แต่เซน่ายังเอาแต่จ้องจับผิดต่อ คอลล์จึงทำเป็นรำคาญนิดๆ ที่ไลออนมานอนบนตักและเลิกเกาหัวให้มันแล้ว
“ว่าแต่ เธอมานี่ทำไม” คอลล์ส่งคำถามให้เด็กสาวที่กำลังอร่อยกับคุกกี้
เซน่าเช็ดปากและกระแอมเบาก่อนพูด “ป๊ะป๋าบอกให้ฉันมาขอโทษนายที่เข้าไปในห้องนอนของนายโดย
พลการ” เธอบอกเร็วเหมือนไม่อยากจะพูดให้เสียแรงปาก
คอลล์หัวเราะ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
“ขำอะไร” เซน่าหน้าแดงแล้วแก้เขินด้วยการขว้างหมอนอิงใส่คอลล์แต่อีกฝ่ายรับไว้ได้และหัวเราะต่อ
“ก็ขำเธอไง ร้องซะลั่นเลย น่าอายชะมัด อย่างว่าล่ะนะ ก็ยังเป็นเด็กนี่”
เซน่าคว้าหมอนอิงอีกใบไว้ในมือและลุกขึ้นไปตีคอลล์รัวเท่าที่จะเร็วได้ “ฉันไม่ใช่เด็กนะ ไอบ้า”
คอลล์ดึงหมอนอิงออกจากมือเซน่าไปอย่างง่ายดาย ก่อนจะล็อคมือเล็กทั้งสองไว้ด้วยกัน ดึงร่างกายเล็กนั้น
ให้นั่งลงบนตักแทนที่ไลออนที่วิ่งหนีไปแล้วตั้งแต่หมอนอิงใบแรกถูกโยนมา
“เป็นเด็กเป็นเล็ก พูดจากับผู้ใหญ่ให้มันดีหน่อย เข้าใจมั้ย ไม่งั้นโดนตีก้นอีกนะ” คอลล์ยิ้มเหี้ยม
ใจเต้น... ใช่ใจกำลังเต้นแรงอย่างที่ไม่ควรเป็น
เซน่ากระทืบเท้าของคอลล์และดิ้นหลุดจากมือใหญ่นั้นได้ เธอกลับไปตั้งหลักที่หลังโซฟาฝั่งตรงข้าม ใบ
หน้าร้อนผะผ่าวอย่างที่ตัวเองไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองต้องรู้สึกวาบไหวไปกับความอบอุ่นชั่วเสี้ยวนาทีนั้นด้วย
“เจ็บนะเนี่ย” คอลล์โวยและลูบหลังเท้าตัวเอง “ถ้าขาหักขึ้นมาเธอต้องรับผิดชอบนะ”
“บะ..บ้ารึเปล่า” เซน่าปัดผมยาวของตัวเองแก้เก้อ “ถึกอย่างนายไม่หักง่ายๆ หรอก”
คอลล์อมยิ้มกับท่าทางเก้อเขินของเด็กสาวที่เดินเหนียมๆ กลับมานั่งที่เดิม
“ฉันจะฟ้องพี่”
“หืม แค่นี้ต้องร้องไห้แงๆ กลับไปฟ้องพี่เลยหรอ”
“ไม่ใช่เรื่องนี้สักหน่อย ฉันหมายถึงเรื่องเมื่อคืน...นายตั้งใจวางแผนแกล้งฉันใช่มั้ย” เซน่าถามคาดคั้นแต่
อีกฝ่ายทำเฉยไม่ตอบ “เงียบแบบนี้ แปลว่าไม่ปฏิเสธใช่มั้ย คอยดูนะฉันจะเอาเรื่องนี้ไปบอกพี่ พี่จะได้
เกลียดนาย”
โธ่ เด็กน้อย.. คิดได้ไงเนี่ย
“เอาสิ เชิญบอกคุณเอวีน่าได้เลย” คอลล์ยิ้มหวานที่ดูโหดๆ ให้เซน่า “...หลักฐานสักชิ้นก็ไม่มี เธอคิดหรอ
ว่าคุณเอวีน่าจะเชื่อเด็กกะโปโลอย่างเธอมากกว่าฉัน”
“เชื่อสิ ก็ฉันเป็นน้องนี่”
“หรอ” คอลล์ลากเสียงยาวกวนประสาทเด็กสาวเล่นๆ
“เจ้าบ้า...ฮึก ฮึก” เซน่าปล่อยโฮขึ้นมาดื้อๆ
พอเห็นน้ำตาทำเอาคอลล์ไปไม่ถูกเลย “เป็นอะไรไปยัยตัวแสบ?”
เซน่าทำงอนและสะบัดหน้าบูดๆ หนี
“อย่างอนนะ เด็กดี...เดี๋ยวฉันจะซื้อตุ๊กตาให้เล่น” คอลล์ขยับเข้าไปตั้งใจจะปลอบเด็กสาว
จังหวะเดียวกับที่เซน่าแตะเข้าที่น่องของคอลล์ เธอเงยหน้าที่ไร้น้ำตาแล้วขึ้นมามองคนที่ร้องเจ็บๆ อย่างอาฆาต
“ครั้งนี้ฉันยอมแพ้นายก็ได้ แต่คราวหน้าฉันต้องเปิดโปงความชั่วร้ายของนายให้ได้” เซน่าดีดหน้าผาก
คอลล์คืนและเดินปึงปังไปอุ้มไลออนขึ้นมาจากพื้นพรม
คอลล์ได้แต่หัวเราะงงๆ
“ฉันไปเรียนก่อนล่ะ” เด็กสาวหันกลับมาบอกก่อนจะเดินออกจากห้อง
“จ้า เดินดีๆ ล่ะ”
“ไม่ต้องมายิ้มเลย”
“หือ?”
เซน่าแลบลิ้นให้คอลล์เป็นการส่งท้ายและปิดประตูดังปัง ทิ้งให้เจ้าของห้องมองประตูงงๆ และได้แต่ยืนยิ้ม
อยู่คนเดียว... หือ ยิ้มงั้นหรอ คอลล์จับแก้มตัวเอง รู้สึกแปลกใจที่ตัวเองยิ้มได้กว้างขนาดนี้ และรู้สึกแปลก
ใจขึ้นไปอีกที่รอยยิ้มนี้เป็นเพราะยัยตัวแสบคนนั้น...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ