ศาสตราวุธ มหาสงครามพลิกสวรรค์
9.3
เขียนโดย guyver
วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556 เวลา 14.19 น.
2 ตอนที่ 1
7 วิจารณ์
6,600 อ่าน
แก้ไขเมื่อ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2556 20.13 น. โดย เจ้าของนิยาย
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความศาสตราวุธ มหาสงครามพลิกสวรรค์
บทนำ
ณ อดีตกาลหลายพันปีที่ล่วงผ่านมา มนุษย์ สัตว์และเทพเทวดา สามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างเปิดเผยผ่าน"ประตูสวรรค์"ซึ่งเชื่อมโลกมนุษย์และสวรรค์ชั้นต่างๆ และยังเป็นประตูเข้าออกของ วิญญาณ สรรพสัตว์ และพระอรหันต์ ที่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาทั่วไปสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ดั่งอดีตกาลที่มีเรื่องเล่าในการเปิดประตูสวรรค์รับศาสดาของศาสนาต่างๆ ที่เข้าออกประตูสวรรค์ ไม่ว่าจะเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ศาสดาของศาสนาพุทธ หรือองค์เยซู องค์ศาสดาของศาสนาคริสต์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเทพหรือบุตรแห่งเทพเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งที่มา “จุติ” บนโลกมนุษย์เพื่อทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ดังมีเรื่องเล่าและตำนานอยู่ทั่วทุกมุมโลก ทั้งมนุษย์กึ่งเทพที่เทพได้สมสู่กับมนุษย์ หรือเทพอวตารที่มาจุติในครรถ์ของมนุษย์ แต่แล้วก็ได้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่ทำให้เทพเทวดาทั้งหลายต้องทำการปิดกั้นประตูสู่สวรรค์ทั้งหมด สงครามระหว่างเทวดาและจอมซาตาน สงครามอันก่อให้เกิดความเสียหายไปทุกๆภพทั้งสวรรค์ ภพวิญญาณ ภพมนุษย์ ฯลฯ ถึงแม้ว่าเทพเทวดาจะสามารถขับไล่ และมีชัยชนะเหนือหมู่มารทั้งหลายได้ก็ตาม แต่ด้วยความสูญเสียที่มิอาจประเมินได้จากสงครามครั้งนั้น องค์มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่จึงมีคำสั่งให้ปิดประตูสวรรค์ห้ามใครเข้าออกชั่วนิจนิรันดร์
.................................................................
แต่เหล่ามนุษย์ทั้งหลายเอย เจ้าหารู้ไม่ว่าประตูสวรรค์มิได้ถูกปิดกั้นทั้งหมด หากแต่เทพเทวดาได้ซ่อนเร้นประตูเหล่านั้นเอาไว้ให้รอดพ้นจากการมองเห็นได้ง่ายดายด้วยมนต์บังตา และได้ใช้เป็นเส้นทางในการเข้าออกของเทพทุกๆองค์ ทั้งจุติ อวตาร หรือโดนขับ จากสรวงสวรรค์เมื่อได้ก่อความผิดจนไม่สามารถให้อยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้าได้ และเป็นที่พักพิงของ ยาม เฝ้าประตู หรือที่รู้จักในนาม "เทวทูต" ซึ่ง เทวทูต เหล่านี้ก็คือกลุ่มคนที่คอยดูแลและเฝ้าประตูสวรรค์เอาไว้มิให้หมู่มาร ซาตาน หรืออสูรกายต่างๆ สามารถที่จะบุกรุกเข้าไปได้ กลุ่มเทวทูตก็มีทั้ง มนุษย์กึ่งเทพ เทพที่ทำผิดกฎสวรรค์จนต้องมาใช้ความผิดบนโลกมนุษย์ หรือแม้แต่เทพที่อวตารเพื่อลงมาช่วยเหลือมนุษย์ก็ตาม ซึ่งในการลงมา จุติ ณ สถานที่แห่งนี้ ในแต่ละครั้งนั้น เหล่าเทวทูตจะได้รับ อาวุธวิเศษ ติดตัวมาด้วยอย่างน้อย 1 ชนิด เพื่อใช้เป็นสิ่งป้องกันตนเองและต่อสู่กับซาตาน มารร้ายที่จะบุกรุกสวรรค์ ซึ่งล้วนแล้วแต่แตกต่างกันไป บ้างเป็นดาบ บ้างเป็นธนู ค้อน หอก กริช จักร เคียว ฯลฯ ซึ่งอาวุธแต่ละอย่างไม่สามารถใช้ร่วมกันได้เพื่อป้องกันการนำไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง หรือการขโมยอาวุธทั้งจากเหล่าผู้ แปรพักตร์ เหล่ามาร หรือแม้แต่มนุษย์เองก็ตาม แม้เหตุการณ์จะล่วงมาหลายพันปีแล้วก็ตามเหล่าเทพเทวดาก็หาได้ชะล่าใจไม่ ยังคงให้เหล่าเทวทูตได้คอยระแวดระวังอย่างเข้มงวด เพราะคิดว่าเหล่าหมู่มารที่อยู่ในความมืดทั้งหลาย ยังคงเฝ้าคอย วันเวลา ที่จะกลับมาเพื่อยึดครอง ภพสวรรค์ เพื่อกำจัดเหล่าเทพเทวดา และยึดครองโลกมนุษย์ ที่ซึ่งเป็นภพสำคัญในการเชื่อมต่อกับโลกสวรรค์นั่นเอง แล้วเมื่อวันนั้นมาถึง ชัยชนะจะตกอยู่ในมือของฝ่ายใด โลกมนุษย์จะอยู่เช่นใด ใครคือผู้กุมชะตานี้เอาไว้กันแน่.............
บทนำ
ณ อดีตกาลหลายพันปีที่ล่วงผ่านมา มนุษย์ สัตว์และเทพเทวดา สามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างเปิดเผยผ่าน"ประตูสวรรค์"ซึ่งเชื่อมโลกมนุษย์และสวรรค์ชั้นต่างๆ และยังเป็นประตูเข้าออกของ วิญญาณ สรรพสัตว์ และพระอรหันต์ ที่มนุษย์ปุถุชนธรรมดาทั่วไปสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ดั่งอดีตกาลที่มีเรื่องเล่าในการเปิดประตูสวรรค์รับศาสดาของศาสนาต่างๆ ที่เข้าออกประตูสวรรค์ ไม่ว่าจะเป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์ศาสดาของศาสนาพุทธ หรือองค์เยซู องค์ศาสดาของศาสนาคริสต์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเทพหรือบุตรแห่งเทพเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งที่มา “จุติ” บนโลกมนุษย์เพื่อทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ดังมีเรื่องเล่าและตำนานอยู่ทั่วทุกมุมโลก ทั้งมนุษย์กึ่งเทพที่เทพได้สมสู่กับมนุษย์ หรือเทพอวตารที่มาจุติในครรถ์ของมนุษย์ แต่แล้วก็ได้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่ทำให้เทพเทวดาทั้งหลายต้องทำการปิดกั้นประตูสู่สวรรค์ทั้งหมด สงครามระหว่างเทวดาและจอมซาตาน สงครามอันก่อให้เกิดความเสียหายไปทุกๆภพทั้งสวรรค์ ภพวิญญาณ ภพมนุษย์ ฯลฯ ถึงแม้ว่าเทพเทวดาจะสามารถขับไล่ และมีชัยชนะเหนือหมู่มารทั้งหลายได้ก็ตาม แต่ด้วยความสูญเสียที่มิอาจประเมินได้จากสงครามครั้งนั้น องค์มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่จึงมีคำสั่งให้ปิดประตูสวรรค์ห้ามใครเข้าออกชั่วนิจนิรันดร์
.................................................................
แต่เหล่ามนุษย์ทั้งหลายเอย เจ้าหารู้ไม่ว่าประตูสวรรค์มิได้ถูกปิดกั้นทั้งหมด หากแต่เทพเทวดาได้ซ่อนเร้นประตูเหล่านั้นเอาไว้ให้รอดพ้นจากการมองเห็นได้ง่ายดายด้วยมนต์บังตา และได้ใช้เป็นเส้นทางในการเข้าออกของเทพทุกๆองค์ ทั้งจุติ อวตาร หรือโดนขับ จากสรวงสวรรค์เมื่อได้ก่อความผิดจนไม่สามารถให้อยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้าได้ และเป็นที่พักพิงของ ยาม เฝ้าประตู หรือที่รู้จักในนาม "เทวทูต" ซึ่ง เทวทูต เหล่านี้ก็คือกลุ่มคนที่คอยดูแลและเฝ้าประตูสวรรค์เอาไว้มิให้หมู่มาร ซาตาน หรืออสูรกายต่างๆ สามารถที่จะบุกรุกเข้าไปได้ กลุ่มเทวทูตก็มีทั้ง มนุษย์กึ่งเทพ เทพที่ทำผิดกฎสวรรค์จนต้องมาใช้ความผิดบนโลกมนุษย์ หรือแม้แต่เทพที่อวตารเพื่อลงมาช่วยเหลือมนุษย์ก็ตาม ซึ่งในการลงมา จุติ ณ สถานที่แห่งนี้ ในแต่ละครั้งนั้น เหล่าเทวทูตจะได้รับ อาวุธวิเศษ ติดตัวมาด้วยอย่างน้อย 1 ชนิด เพื่อใช้เป็นสิ่งป้องกันตนเองและต่อสู่กับซาตาน มารร้ายที่จะบุกรุกสวรรค์ ซึ่งล้วนแล้วแต่แตกต่างกันไป บ้างเป็นดาบ บ้างเป็นธนู ค้อน หอก กริช จักร เคียว ฯลฯ ซึ่งอาวุธแต่ละอย่างไม่สามารถใช้ร่วมกันได้เพื่อป้องกันการนำไปใช้อย่างไม่ถูกต้อง หรือการขโมยอาวุธทั้งจากเหล่าผู้ แปรพักตร์ เหล่ามาร หรือแม้แต่มนุษย์เองก็ตาม แม้เหตุการณ์จะล่วงมาหลายพันปีแล้วก็ตามเหล่าเทพเทวดาก็หาได้ชะล่าใจไม่ ยังคงให้เหล่าเทวทูตได้คอยระแวดระวังอย่างเข้มงวด เพราะคิดว่าเหล่าหมู่มารที่อยู่ในความมืดทั้งหลาย ยังคงเฝ้าคอย วันเวลา ที่จะกลับมาเพื่อยึดครอง ภพสวรรค์ เพื่อกำจัดเหล่าเทพเทวดา และยึดครองโลกมนุษย์ ที่ซึ่งเป็นภพสำคัญในการเชื่อมต่อกับโลกสวรรค์นั่นเอง แล้วเมื่อวันนั้นมาถึง ชัยชนะจะตกอยู่ในมือของฝ่ายใด โลกมนุษย์จะอยู่เช่นใด ใครคือผู้กุมชะตานี้เอาไว้กันแน่.............
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ